วันพุธที่ 3 กันยายน
โยเซฟ . . . ก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ของพระยะโฮวาสั่งและแต่งงานกับมารีย์—มธ. 1:24
โยเซฟพร้อมจะเอาคำแนะนำของพระยะโฮวามาใช้ทันที และนั่นทำให้เขาเป็นสามีที่ดีขึ้น มีอย่างน้อย 3 ครั้งที่โยเซฟได้รับคำแนะนำจากพระยะโฮวาเกี่ยวกับครอบครัวของเขา และแต่ละครั้งเขาก็เชื่อฟังและทำตามคำสั่งทันทีแม้มันจะไม่ง่ายและทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (มธ. 1:20; 2:13-15, 19-21) เมื่อโยเซฟทำตามคำแนะนำของพระยะโฮวา มันก็ทำให้เขาสามารถปกป้องและดูแลมารีย์ภรรยาของเขาได้ สิ่งที่โยเซฟทำคงต้องทำให้มารีย์รักและนับถือเขามากขึ้นกว่าเดิม พวกคุณที่เป็นสามี คุณจะเลียนแบบโยเซฟได้ไหมโดยหาคำแนะนำจากคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว? เมื่อคุณเอาคำแนะนำนั้นมาใช้แม้มันจะทำให้คุณต้องเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แต่นั่นก็แสดงว่าคุณรักภรรยาและคุณอยากให้ชีวิตคู่ของคุณมั่นคงและมีความสุขมากขึ้น พี่น้องหญิงคนหนึ่งในวานูอาตูที่แต่งงานมามากกว่า 20 ปีแล้วบอกว่า “พอสามีฉันหาคำแนะนำของพระยะโฮวาและเอามาใช้ ฉันก็นับถือเขามากขึ้นและมั่นใจในการตัดสินใจของเขาค่ะ ฉันรู้สึกมั่นคงและอุ่นใจจริง ๆ” ห23.05 23:5
วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน
จะมีทางหลวง ที่เรียกว่าทางบริสุทธิ์—อสย. 35:8
ชาวยิวที่กลับจากบาบิโลนจะกลายเป็น “ชนชาติบริสุทธิ์” ของพระยะโฮวา (ฉธบ. 7:6) แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกแล้วเพื่อทำให้พระยะโฮวาพอใจชาวยิวส่วนใหญ่เกิดในบาบิโลน พวกเขาหลายคนก็เลยชินกับมาตรฐานการใช้ชีวิตแบบคนบาบิโลนและคิดเหมือนคนที่นั่น หลายสิบปีหลังจากที่ชาวยิวกลุ่มแรกกลับไปที่อิสราเอล ผู้ว่าราชการเนหะมีย์ก็ไปที่อิสราเอล เขาตกใจมากที่เห็นเด็กยิวที่เกิดในอิสราเอลพูดภาษาฮีบรูไม่ได้ (ฉธบ. 6:6, 7; นหม. 13:23, 24) แล้วเด็กพวกนี้จะรักพระยะโฮวาและนมัสการพระองค์ได้ยังไงถ้าไม่เข้าใจภาษาฮีบรูซึ่งเป็นภาษาหลักที่ใช้ในการเขียนคัมภีร์ไบเบิลตอนนั้น? (อสร. 10:3, 44) ดังนั้น ชาวยิวเหล่านี้ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ และมันก็ง่ายกว่าเยอะที่พวกเขาได้เปลี่ยนแปลงตัวเองตอนที่อยู่ในอิสราเอลซึ่งเป็นที่ ๆ การนมัสการบริสุทธิ์กำลังได้รับการฟื้นฟู—นหม. 8:8, 9 ห23.05 22:6-7
วันศุกร์ที่ 5 กันยายน
พระยะโฮวาประคองทุกคนที่กำลังจะล้มและดึงทุกคนที่หมอบฟุบอยู่ให้ลุกขึ้น—สด. 145:14
ไม่ว่าเราจะมีแรงกระตุ้นที่อยากจะทำตามเป้าหมายมากขนาดไหนหรือเราเป็นคนมีวินัยมากแค่ไหน อาจมีบางอย่างที่ทำให้เราทำตามเป้าหมายไม่ได้สักที เช่น “เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด” อาจทำให้ใจเราไม่จดจ่ออยู่กับเป้าหมายและไม่มีเวลาที่จะทำอย่างที่ตั้งใจไว้ (ปญจ. 9:11) หรือเราอาจเจอปัญหาที่ทำให้เรารู้สึกท้อและหมดแรง (สภษ. 24:10) หรือเพราะการที่เราเป็นคนไม่สมบูรณ์แบบ เราเลยอาจทำผิดพลาดจนทำให้เราทำตามเป้าหมายไม่ได้ (รม. 7:23) หรือเราอาจแค่รู้สึกเหนื่อย (มธ. 26:43) แล้วอะไรจะช่วยเราได้? จำไว้ว่าถึงคุณยังทำตามเป้าหมายไม่ได้สักทีก็อย่าเพิ่งเลิกล้มความตั้งใจ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าเราอาจต้องเจอปัญหาหลายอย่างและอาจล้มซ้ำแล้วซ้ำอีก ถ้าคุณยังพยายามต่อ ๆ ไปที่จะไปให้ถึงเป้าหมายแม้มันจะยากมาก คุณก็กำลังแสดงให้เห็นว่าคุณอยากทำให้พระยะโฮวามีความสุข และลองคิดดูว่าพระองค์จะภูมิใจขนาดไหนที่เห็นคุณทำอย่างนั้น ห23.05 24:14-15