ส่วนผสมสู่ความตาย
“วิกฤตการณ์มหันต์” คำกล่าวของบุช ประธานาธิบดีสหรัฐ. “สภาพการณ์ที่น่าวิตกกลัว” จากหนังสือเดอะ สตาร์ แห่งแอฟริกาใต้. “โรคระบาด” รายงานจาก ยูเอสนิวส์ แอนด์ เวิลด์ รีพอร์ท. “นำความเดือดร้อนสู่สังคม” คำพูดจากพลเมืองผู้ห่วงใย.
พวกเขากำลังพูดถึงไวรัสโรคเอดส์อันน่าสะพึงกลัวไหม? เปล่า แต่พูดถึงภัยพิบัติอีกชนิดหนึ่งซึ่งประเทศส่วนใหญ่มีผู้รับเคราะห์ในปัจจุบันมากกว่าโรคเอดส์. นั่นคืออะไร? ผลของส่วนผสมสู่ความตาย ได้แก่ การดื่มสุราแล้วขับรถ.
ทั่วโลก ประมาณ 300,000 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางยานพาหนะแต่ละปี. มีผู้ได้รับบาดเจ็บนับล้าน ๆ คน หลายหมื่นคนพิการตลอดชีวิต. มูลค่าเสียหายแต่ละปีหลายหมื่นล้านบาท. อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุส่วนใหญ่.
ในช่วงสิบปีย้อนหลังจากปี 1990 ประมาณ 100,000 คน เสียชีวิตจากโรคเอดส์ในสหรัฐ. แต่ในช่วงสิบปีเดียวกัน ประมาณ 250,000 คนเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางยานพาหนะซึ่งมีแอลกอฮอล์เป็นเหตุ. โรคเอดส์มักจะมีผลกระทบโดยตรงต่อคนสำส่อนทางเพศและผู้ใช้ยาเสพย์ติดโดยฉีดเข้าทางเส้นโลหิต. แต่ผู้ขับรถที่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ย่อนสมรรถนะอาจสังหารไม่เพียงแต่ผู้ใช้แอลกอฮอล์อย่างผิด ๆ เท่านั้น แต่ทั้งผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย.
การผสมการดื่มแอลกอฮอล์กับการขับรถมักจะทำให้เกิดความตายร้ายแรงที่สุดแก่ผู้ที่ไม่ได้คาดคิด และทำให้ครอบครัวแตกสลาย, พรากบุตรจากบิดามารดา, พรากบิดามารดาจากบุตร, พรากคู่สมรส.
ความพยายามจะต้านกระแส
ความเพียรพยายามมากมายทุ่มเทลงไปเพื่อต้านกระแสคลื่นแห่งความหายนะนี้. ในสหรัฐ องค์กรเอกชนหลายแห่งได้ทำการรณรงค์เพื่อให้สาธารณชนสำนึกถึงเรื่องนี้ เช่น องค์การอาร์ไอดี (ขจัดคนขับรถเมาสุรา) และเอ็มเอดีดี (มารดาต่อต้านคนขับเมาสุรา). มีโครงการณ์หยุด—ดีดับบลิวไอ (ขับรถขณะเมาสุรา). องค์การที่คล้ายคลึงกันมีอยู่ในประเทศอื่น ๆ. องค์การเหล่านี้ช่วยผู้รับความเสียหายให้ใช้สิทธิของตนและส่งเสริมการปฏิรูปทางกฎหมาย.
เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายกำลังเพิ่มความเพียรพยายามเพื่อจับกุมผู้ขับขี่ที่หย่อนสมรรถนะ โดยใช้สิ่งต่าง ๆ เช่น จุดตรวจสติสัมปชัญญะ. มีการออกกฎหมายหลายชนิดเพื่อทำให้ผู้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกฟ้องได้. กระทั่งใช้แผ่นป้ายเพื่อเตือนผู้ขับขี่เกี่ยวกับกฎหมายที่มีอยู่.
ผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นต่อไป
ทั้ง ๆ ที่บากบั่นพยายามดังกล่าว ทั่วโลกจำนวนผู้เสียชีวิตเนื่องจากคนเมาสุราขับรถยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป. ในบราซิล ทุก ๆ 21 นาทีมีผู้เสียชีวิต—ราว ๆ 25,000 คนต่อปี—จากอุบัติเหตุเกี่ยวเนื่องกับแอลกอฮอล์. นั่นเป็นประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนรวมของผู้เสียชีวิตจากการจราจร. ในอังกฤษและเยอรมัน กล่าวกันว่าหนึ่งในห้าของผู้เสียชีวิตจากการจราจรทั้งสิ้นเนื่องมาจากแอลกอฮอล์. ในเม็กซิโก ตามข้อมูลจากหลายแหล่ง 80 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้เสียชีวิตจากการจราจร 50,000 คน เนื่องมาจาก ‘ความผิดพลาดของมนุษย์ ส่วนใหญ่เกิดจากขับรถขณะเมาสุรา’ รายงานโดยหนังสือเอล อุนิเวอร์ซาล แห่งนครเม็กซิโก.
ประมาณกันว่ากว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตจากการจราจรในแอฟริกาใต้เกี่ยวพันกับแอลกอฮอล์. ในสหรัฐ ตามปกติในหนึ่งปี อุบัติเหตุจากแอลกอฮอล์เป็นเหตุให้มีผู้รับบาดเจ็บ 650,000 คน ในจำนวนนั้นบาดเจ็บสาหัสประมาณ 40,000 คน กว่า 23,000 คนเสียชีวิต—ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตจากการจราจรทั้งสิ้น.
ด้วยความสิ้นหวังในการพยายามหยุดยั้งคนขับที่หย่อนสมรรถนะเนื่องจากแอลกอฮอล์ คณะผู้รับเคราะห์ ดีดับบลิวไอ ถูกตั้งขึ้นในรัฐวอชิงตัน สหรัฐ. การตัดสินลงโทษผู้มีความผิดที่ขับรถภายใต้อิทธิพลแห่งการเมาได้เข้ามาเป็นส่วนในกระบวนตุลาการ. วิธีการนี้ใช้กันในหลายส่วนของประเทศนั้นในปัจจุบัน. จุดประสงค์ก็เพื่อนำผู้กระทำผิดมาเผชิญกับผลอันน่าเศร้าของการดื่มอย่างปราศจากความรับผิดชอบของเขา. ผู้ที่พบว่าทำผิดถูกศาลตัดสินให้ฟังผู้รับเคราะห์และสมาชิกแห่งครอบครัวของเขา และทำให้เขาสำนึกถึงผลเสียหายอันมหันต์ที่เกิดขึ้น. ตื่นเถิด ได้รับเชิญไปดูการเผชิญหน้าที่จัดขึ้นนี้อย่างใกล้ชิด.
[ที่มาของภาพหน้า 4]
Dominic D.Massita, Sr./Accident Legal Photo Service of New York