การเพ่งดูโลก
โลกที่บอบช้ำ
เมื่อปี 1994 เริ่มต้น โลกกำลังถูกกระหน่ำโดยสงคราม 43 แห่ง ตามรายงานจากสถาบันทางการเมือง ณ มหาวิทยาลัยแห่งฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี. ในการออกความเห็นเกี่ยวกับรายงานนั้น สำนักข่าวเอกูเมนิกัลเขียนว่า มีสงคราม 22 รายในเอเชีย, 13 รายในแอฟริกา, 5 รายในลาตินอเมริกา, และ 3 รายในยุโรป. สถาบันนั้นยังพบว่าระหว่างทศวรรษปี 1950 เฉลี่ยสงครามแต่ละปีคือ 12 ราย. ในช่วงทศวรรษปี 1960 เพิ่มขึ้นเป็น 22 รายและปัจจุบันตัวเลขนั้นเกือบจะสองเท่า.
ทรราชของโรงเรียน
เด็กชายคนหนึ่งซึ่งถูกไล่ออกจากวิทยาลัยเทคนิคระดับต้น แห่งเทศบาลเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น กำลังร้องเรียนเพื่อตนจะมีสิทธิได้รับการศึกษา. เนื่องจากสติรู้สึกผิดชอบทางศาสนาของเขาฐานะเป็นพยานพระยะโฮวาคนหนึ่ง ทำให้เขาไม่เข้าร่วมในการฝึกหัดเคนโด (ฟันดาบญี่ปุ่น) ซึ่งนำมาสอนเป็นส่วนหนึ่งของวิชาพลศึกษา. โรงเรียนไล่เขาออก ถึงแม้เขาเป็นนักเรียนที่ติดอันดับยอดเยี่ยมทั้ง ๆ ที่มีคะแนนประเมินสำหรับวิชาพลศึกษาในระดับต่ำ. “สิ่งนี้ค้านกับ ‘สามัญสำนึก’ ทุกอย่างในโรงเรียนที่จะขับไล่นักเรียนเพื่อลงโทษสำหรับการเรียนไม่ดีซึ่งไม่มีปัญหาอื่น เพียงเพราะเขาไม่บรรลุคะแนนผ่าน โดยขาดไม่กี่คะแนนในวิชาหนึ่งโดยเฉพาะเท่านั้น.” เป็นคำกล่าวของศาสตราจารย์ เท็ตซุโอะ ซิโมมูระ ประจำมหาวิทยาลัยทสึกุบะ ในหนังสือพิมพ์ โยมิอูริ ซิมบุน. เขาขอให้มีความยืดหยุ่นแล้วกล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจในกรณีนี้คือแนวโน้มแบบทรราชของโรงเรียนที่ยังฝังลึกอยู่.”
“ความล้มเหลวทางศีลธรรมใหญ่ ๆ ในประวัติศาสตร์”
“ประวัติของวาติกันที่เกี่ยวพันกับโฮโลคอสต์ (การสังหารหมู่ชาวยิว) ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในความล้มเหลวมหันต์ทางศีลธรรมในประวัติศาสตร์—เป็นความล้มเหลวซึ่งคริสตจักรคาทอลิกเองยังไม่ได้กอบกู้สถานะขึ้นมา” นักเขียนคอลัมน์ประจำ เจมส์ แครอล เขียนไว้ใน เดอะ บอสตัน โกลบ. เพื่อสนับสนุนจุดยืนของตน เขาจัดรายการข้อมูลทางประวัติศาสตร์ดังต่อไปนี้: “1929—สนธิสัญญาแลเทอรันระหว่างมุสโสลินีกับโปปไพอุสที่สิบเอ็ดให้เสรีภาพและเงินแก่วาติกันและให้เกียรติภูมิที่จำเป็นแก่มุสโสลินี. [1933]—วาติกันเซ็นสนธิสัญญากับฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นผลสำเร็จระหว่างชาติรายแรกของเขา. . . . 1935—มุสโสลินีรุกรานประเทศอบิสซีเนีย (ปัจจุบันเอธิโอเปีย). บิชอปคาทอลิกให้พรแก่กองทหารอิตาลี . . . 1939—มุสโสลินีประกาศยกเลิกสิทธิของพวกยิวในอิตาลี. โปปไม่ได้ปริปาก. . . . 1942—โปปได้รับรายงานจากคณะนักบวชประจำกองทัพอิตาลีเรื่องการสังหารพวกยิว. ในสารวันคริสต์มาสของโปป เขาคร่ำครวญถึงชะตากรรมของ ‘ผู้เคราะห์ร้าย’ ซึ่งถูกฆ่าเพราะเชื้อชาติของตน แต่เขาไม่เอ่ยถึงฮิตเลอร์, ประเทศเยอรมนีหรือค่ายมรณะ. อีกครั้งหนึ่งที่ไม่มีการใช้คำ ‘ยิว’. . . . 1943—พวกเยอรมันเริ่มจับชาวยิวในอิตาลี กระทั่งในกรุงโรมใกล้วาติกัน. โปปยังคงปิดปากเงียบ.”
คริสตจักรคาทอลิกจะกลับใจ?
ในสารที่ส่งไปยังราชาคณะคาทอลิก โปป จอห์น พอล ที่สอง ได้แนะเตือนคริสตจักรคาทอลิกให้สำนึกถึงความผิดที่ได้กระทำ “โดยตัวแทนของคริสตจักร ในนามของคริสตจักร” และให้กลับใจจากการกระทำดังกล่าว. โปปยอมรับว่า “วิธีการบีบบังคับ อันขัดต่อสิทธิมนุษยชน” ซึ่งคริสตจักรเคยใช้ “ต่อมามีการประยุกต์ใช้โดยพวกที่มีแนวคิดแบบอำนาจเบ็ดเสร็จแห่งศตวรรษที่ยี่สิบ” เป็นคำกล่าวของหนังสือพิมพ์ ลา เรปุบบลิกา แห่งโรม. แต่คริสตจักรจำต้องกลับใจจากอะไร? “มีหลายสิ่ง” เป็นการสารภาพโดยมาร์โก โปลิชี นักวิจารณ์วาติกัน. “จากการตามล่าชีวิตแม่มด, จากการนำพวกนอกรีตไปเผาบนหลัก, จากการข่มขู่นักวิทยาศาสตร์และนักคิดเสรีด้วยการทรมาน, จากการสนับสนุนระบอบฟาสซิสต์, จากการสังหารหมู่ในทวีปอเมริกาภายใต้เครื่องหมายกางเขน” ไม่ต้องเอ่ยถึง “จากการมองตนเองว่าเป็นสังคมที่สมบูรณ์แบบ ผู้ได้รับมอบอำนาจสิทธิ์ขาดเหนือสติรู้สึกผิดชอบ” และ “จากความเชื่อในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ว่าจริง ๆ แล้วโปปเป็นผู้แทนพระคริสต์—เป็นการลบหลู่ทางเทววิทยา.”
อพยพสู่ศาสนาอื่น
นิกายเชิช ออฟ อิงแลนด์ กำลังประสบกับการอพยพออกเป็นโขยงของบรรดานักเทศน์. เพราะเหตุใด? “เห็นได้ชัดว่าชนวนก็คือ การตัดสินที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งกันเรื่องการแต่งตั้งนักเทศน์หญิง” เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ เดอะ โตรอนโต สตาร์. “นักบวชแองกลิกันมากกว่า 130 คนได้แปรพักตร์ไปแล้ว. และการเฮโลออกมาของคนอื่น ๆ ดูเหมือนจวนเจียนจะเกิดขึ้น” เป็นคำอ้างของสตาร์. บิชอปแองกลิกันเจ็ดคนและนักบวชอีก 700 กว่าคนกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะเข้าร่วมคริสตจักรคาทอลิก. ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง การสนับสนุนคริสตจักรอังกฤษค่อย ๆ ลดลง ๆ. ในประเทศอังกฤษ จากจำนวน 20 ล้านคนของผู้ที่อ้างตนว่าเป็นชาวแองกลิกันที่รับบัพติสมาแล้ว มีเพียงหนึ่งล้านคนเท่านั้นเข้าโบสถ์วันอาทิตย์. สภาวะยุ่งยากรออยู่ข้างหน้า. การอพยพจากคริสตจักรก็คงจะดำเนินต่อไป.
การสูญเสียท่วมท้นจากอาชญากรรม
รายงานหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้โดยสถาบันอาชญาวิทยาแห่งออสเตรเลียเผยว่าการสูญเสียจากอาชญากรรมในออสเตรเลียทุกปีมีถึง 468,000 ล้านบาท. ทั้งนี้หมายถึงจำนวนเกือบ 23,400 บาทต่อผู้ชาย, ผู้หญิง, และเด็กทุกคนในออสเตรเลีย. โฆษกคนหนึ่งซึ่งหนังสือพิมพ์ ซันเดย์ เทเลกราฟ แห่งเมืองซิดนีย์ ยกคำพูดของเขาขึ้นมาอ้าง ได้กล่าวว่ารูปแบบอาชญากรรมที่ก่อการสูญเสียมากที่สุดคือการฉ้อโกง—ซึ่งมีจำนวนเกือบ 350,000 ล้านบาทต่อปี. การสูญเสียอื่น ๆ ที่ประมาณไว้คือ: ฆาตกรรม 6,875 ล้านบาทต่อปี; การทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพย์ติด 30,000 ล้านบาท; การงัดแงะ 22,325 ล้านบาท; และที่น่าแปลก การฉกฉวยของจากร้าน 37,500 ล้านบาท. รายงานนั้นลงท้ายด้วยความเห็นว่าการสูญเสียจากอาชญากรรมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ.
ยิ่งดูมาก—การอ่านก็ยิ่งน้อยลง
เหตุใดเด็กนักเรียนที่ดูโทรทัศน์มากจึงสูญเสียความสนใจในการอ่าน? หลังจากการศึกษาพฤติกรรมของเด็กนักเรียนชั้นประถมชาวดัตช์ 1,000 คนระหว่างสามปีที่ผ่านมานี้ นักค้นคว้า ซี. เอ็ม. โกลสตรา พบสาเหตุสองประการ. โดยดูโทรทัศน์มาก เด็ก ๆ จะสูญเสียความเพลิดเพลินในการอ่านและความสามารถในการจดจ่อจะลดน้อยลง. สำหรับผู้ดูโทรทัศน์บ่อย ๆ—ข่าวจากมหาวิทยาลัยเลเดนในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้รายงาน—การเข้าใจสิ่งที่เขาอ่านและการจดจ่ออยู่กับหน้าหนังสือที่อยู่ตรงหน้าตนจะค่อย ๆ ยากขึ้น. ไม่นานเขาจะผลักหนังสือออกไปแล้วหยิบรีโมททีวีขึ้นมา. ผู้ทำการค้นคว้าได้พบอีกด้วยว่าชนิดของรายการไม่มีผลแตกต่าง. ไม่ว่าจะเป็นการดูมาก ๆ เกี่ยวกับรายการตลก, รายการเด็ก, ละคร, หรือเรื่องที่มีสาระ ผลก็เหมือนกันคือ: “การอ่านน้อยลง.”
อาชญากรรมทางเพศเพิ่มขึ้น
อาชญากรรมทางเพศ—การข่มขืน, การร่วมประเวณีระหว่างญาติใกล้ชิด, และการทำร้ายเด็กทางเพศ—ครั้งหนึ่งเคยถือว่าเป็นปัญหาของโลกตะวันตก บัดนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังเพิ่มขึ้นในบางประเทศแถบแอฟริกา. ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ สื่อมวลชนรายงานข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเพศถี่ขึ้นเรื่อย ๆ. หนังสือพิมพ์ ไทมส์ ออฟ แซมเบีย รายงานว่าชายผู้หนึ่งวัย 37 ปี ถูกตัดสินจำคุกห้าปีและสั่งให้เฆี่ยนด้วยหวายหกทีเนื่องจากร่วมประเวณีกับลูกสาววัย 13 ปี. มีการพบว่าเขาทำร้ายลูกสาวทางเพศหลังจากภรรยาได้ทิ้งเขาไปเพราะการทะเลาะวิวาท. มีรายงานว่าเด็กหญิงคนนั้นไม่ยอมรับเขาเป็นพ่ออีกต่อไประหว่างการพิจารณาคดีในศาล.
ส่งเสริมทะเลทราย และสุขภาพที่ไม่ดี
แม้ว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของประชากรยากจนในชนบทแห่งประเทศแทนซาเนียต้องการฟืนอย่างใจจะขาดสำหรับการหุงต้ม, การทำความร้อน, และแสงสว่าง แต่ทุก ๆ ปีป่าซึ่งแทบจะไม่มีอยู่แล้วถูกตัดถึง 105,000 ไร่ เพื่อบ่มใบยาสูบของประเทศ รายงานโดยจดหมายข่าว ซีเนอร์จี จากสมาคมเพื่อสุขภาพระหว่างชาติแห่งแคนาดา. “เป็นเรื่องที่สวนทางกันอย่างแท้จริงที่ว่าเราตัดต้นไม้อันมีค่าและสร้างทะเลทรายเพื่อจะได้เงินตราต่างประเทศจากการส่งออกยาสูบ” เป็นความเห็นของศาสตราจารย์ ดับเบิลยู. แอล. กีลามา ผู้อำนวยการใหญ่ประจำสถาบันแห่งชาติแทนซาเนียเพื่อการค้นคว้าทางแพทย์. เขาเสริมว่า “เป็นเรื่องสวนทางพอ ๆ กัน ที่ประเทศกำลังพัฒนาผลิตยาสูบซึ่งส่งเสริมสุขภาพที่ไม่ดี.”
ประชากรของประเทศจีนเพิ่มขึ้น
จำนวนประชากรในประเทศจีนจะบรรลุ 1,200 ล้านคนปีนี้ ตามรายงานจากสำนักข่าวชินหัวของจีน. ทั้ง ๆ ที่ประเทศจีนมีนโยบายเข้มงวดกวดขันเรื่องการวางแผนครอบครัวโดยสนับสนุนให้มีลูกคนเดียวต่อหนึ่งครอบครัว การเพิ่มประชากรเป็น 1,200 ล้านคนเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เจ้าหน้าที่วางแผนประชากรได้คาดไว้ถึงหกปี. สำนักข่าวชี้ถึงสาเหตุสองประการสำหรับการเพิ่มพูนนี้คือ: หนึ่ง ผู้หญิงชนบทหลายคนยินดีจ่ายค่าปรับที่เรียกเก็บสำหรับการมีลูกมากกว่าหนึ่งคน. สอง คนงานอพยพที่ย้ายจากเขตชนบทเข้าไปในเมืองสามารถหลีกเลี่ยงการสอดส่องดูแลของเจ้าหน้าที่วางแผนครอบครัวซึ่งคอยควบคุมอัตราการเกิดของประชากรที่อาศัยเป็นหลักแหล่ง.