จากผู้อ่านของเรา
โลวาฬ ดิฉันเพลิดเพลินกับบทความ “โลมา? หรือไม่ก็ปลาวาฬ?—ไม่ใช่มันคือโลวาฬ!” (8 มีนาคม 1994) เกี่ยวกับลูกผสมปลาโลมา/ปลาวาฬ. ตอนท้ายคุณเรียกสิ่งนี้ว่า “แวบหนึ่งของสิ่งที่ชวนให้หลงใหลตรึงใจเกี่ยวกับศักยภาพแห่งความหลากหลายที่น่าพิศวงซึ่งพระเจ้าได้จัดเข้าไว้ในสิ่งทรงสร้างของพระองค์.” ดิฉันไม่เห็นด้วยกับถ้อยคำนี้ เพราะการผสมพันธุ์จะไม่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อมปกติของสัตว์เหล่านั้น.
เค. จี., สหรัฐ
เราไม่ได้หมายความว่าการผสมพันธุ์เช่นนั้นเป็นสิ่งปกติหรือพระเจ้าเป็นต้นเหตุให้เกิดขึ้น. กระนั้น ไม่อาจยกผลประโยชน์ให้แก่มนุษย์สำหรับการดำรงอยู่ของสัตว์ที่น่าทึ่งเช่นนั้น. พันธุ์ผสมเกิดขึ้นได้ก็เฉพาะแต่ “ศักยภาพแห่งความหลากหลาย . . . ซึ่งพระเจ้าได้จัดเข้าไว้ในสิ่งทรงสร้างของพระองค์.” ดังนั้นบทความของเราจึงยกเกียรติคุณแด่พระเจ้าอย่างสมควร.—บ.ก.
เอดส์ เป็นเวลามากกว่าสามปีที่ผมรับใช้ในฐานะผู้เผยแพร่กิตติคุณเต็มเวลา. แต่ตอนนี้ผมทำไม่ได้. ผมติดเอดส์. ผมขอขอบคุณที่ได้พิจารณาเรื่องที่ยากลำบากนี้อย่างเปิดเผยในบทความของคุณชื่อ “การช่วยเหลือผู้ติดโรคเอดส์.” (8 เมษายน 1994) ผมเห็นได้ว่าคุณใส่ใจต่อผลประโยชน์ของทุกคนอย่างแท้จริง. แต่ดูเหมือนว่าหลายคนได้พลาดบางส่วนของบทความนั้นที่สนับสนุนให้มีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ป่วย และไปเพ่งเล็งเรื่องการ “ระมัดระวังตามสมควร” ที่มีการกล่าวไว้. ดูราวกับว่าบทความนั้นอนุญาตให้บางคนออกจะเย็นชาต่อผม. ผมอดที่จะคิดไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออาการของผมทรุดหนัก และมีความต้องการจริง ๆ ที่จะได้ความรักและการเกื้อหนุนจากพี่น้องของผม. บางคนจะไม่ยอมมาเยี่ยมผมไหมเพราะพวกเขากลัวจะติดเชื้อไวรัสนี้?
เอ็ม. เอ็น., สหรัฐ
เราหยั่งรู้ค่าความเห็นที่ตรงไปตรงมานี้. เจตนาของเราไม่ใช่ยับยั้งการเกื้อหนุนผู้ติดเอดส์. จริง ๆ แล้วเราได้กล่าวว่า “จากความเห็นโดยทั่วไปในปัจจุบัน การติดต่อสัมผัสแบบปกติธรรมดาไม่ทำให้ติดต่อโรคเอดส์. . . . ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลัวจนเกินไปในการอยู่ใกล้ผู้ติดเอดส์.” ข้อพึงระวังที่ได้เสนอแนะนั้นสามารถช่วยผู้อื่นให้รู้สึกว่าได้รับการป้องกันในระดับหนึ่งขณะที่เขาปฏิบัติอย่างเห็นอกเห็นใจต่อผู้ติดเอดส์.—บ.ก.
ความตาย ดิฉันอยากจะบอกคุณว่าดิฉันหยั่งรู้ค่าเพียงใดในบทความ “หนุ่มสาวถามว่า . . . ฉันจะหายโศกเศร้าจากการเสียชีวิตของคุณพ่อได้อย่างไร?” (8 กันยายน 1994) แม้ดิฉันยังมีพ่อแม่อยู่ แต่เมื่อไม่นานมานี้ดิฉันได้รับผลกระทบอย่างท่วมท้นจากการเสียชีวิตของผู้เป็นที่รักถึงสองคน. บทความนี้ประเล้าประโลมใจดิฉันอย่างมากและแสดงให้ดิฉันเห็นวิธีรับมือกับความสูญเสียดังกล่าว.
ที. เอช., ฝรั่งเศส
คุณพ่อของดิฉันเสียชีวิตที่หอประชุมหลังให้คำบรรยายเสร็จ. ตั้งแต่นั้นมาดิฉันต้องต่อสู้กับความโศกเศร้าและความโกรธ. ดิฉันหาเหตุผลว่า ไม่ยุติธรรมที่ใคร ๆ ซึ่งเป็นที่รักสุดซึ้งและอุทิศตนต่อพระยะโฮวาอย่างมากเช่นนั้นควรจะเสียชีวิตอย่างกะทันหัน. การอ่านบทความนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกว่าพระยะโฮวาทรงใฝ่พระทัยสมานหัวใจที่แหลกลาญของดิฉัน.
เอส. เอ., ไนจีเรีย
คุณพ่อเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และดิฉันลำบากมากในการพยายามรับมือกับสิ่งนั้น. น่าทึ่งที่เห็นว่าบทความนี้ตรงกันทีเดียวกับความรู้สึกของดิฉันเอง. สิ่งที่ทำให้ดิฉันปวดร้าวคือ คุณพ่อไม่มีโอกาสทราบถึงสิ่งต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตของดิฉันขณะนี้. ดิฉันเพิ่งเริ่มทำในสิ่งที่ฝันมาตลอดชีวิต คืองานประจำชีพฐานะผู้เผยแพร่กิตติคุณเต็มเวลา. ดิฉันต้องการอย่างมากที่จะให้ท่านเห็นดิฉันทำเช่นนั้น. การขาดการชี้แนะอันดีวิเศษและสติปัญญาของท่าน บางครั้งทำให้หนักใจ แต่เมื่อทราบว่ายังมีผู้อื่นซึ่งแสดงความห่วงใย นับเป็นการประเล้าประโลมใจอย่างมาก.
ซี. ที., สหรัฐ