จากผู้อ่านของเรา
การสนุกสนาน หนูอายุ 12 ขวบ และหนูชอบบทความนี้จริง ๆ “หนุ่มสาวถามว่า . . . ทำไมหนุ่มสาวอื่น ๆ สนุกสนานกันได้ขนาดนั้น?” (8 สิงหาคม 1996) หนูก็เคยถามคำถามเดียวกันนี้. ในโรงเรียนหนู เราสามารถลงชื่อเพื่อจะไปงานเลี้ยงสังสรรค์, เต้นรำ, และกิจกรรมอื่น ๆ ได้. หนูเคยอยากไปอยู่บ่อย ๆ. แต่บทความนี้ช่วยหนูให้เข้าใจว่า หนูต้องรับผิดชอบต่อพระยะโฮวาสำหรับสิ่งต่าง ๆ ที่หนูเลือก. ดังนั้น หนูจะคบหาแต่กับเพื่อน ๆ คริสเตียนของหนู.
เอ. เอส., สหรัฐ
เป็นครั้งคราวที่หนูเคยรู้สึกเหมือนอาซาฟ [ผู้จารึกคัมภีร์ไบเบิล] อย่างที่คุณอธิบายในบทความนี้แหละ. บทความนี้ให้กำลังที่หนูต้องมีเพิ่มขึ้นเพื่อรับมือกับเรื่องที่โรงเรียน.
เอ. เอส., ญี่ปุ่น
เป็นความจริงที่หนุ่มสาวบางคนรู้สึกว่าถูกกีดกันหรือถูกตัดสิทธิ์อะไรบางอย่างเพราะพวกเขาไม่ได้รับ “อนุญาต” ให้เข้าร่วมในงานเลี้ยงสังสรรค์ฝ่ายโลก. แต่ไม่ใช่ลูก ๆ ทุกคนของพยานพระยะโฮวารู้สึกอย่างนั้น! โดยส่วนตัวแล้ว ดิฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนกับหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงสังสรรค์ฝ่ายโลก และเพื่อน ๆ คริสเตียนของดิฉันก็รู้สึกเหมือนกัน. พวกเรา—และไม่ต้องสงสัยว่ามีคนอื่น ๆ อีกหลายคน—ไม่รู้สึกเลยว่าถูกตัดสิทธิ์!
ซี. เอช., สหรัฐ
มองดูในครรภ์ ดิฉันได้ทราบเมื่อไม่นานนี้เองว่าดิฉันตั้งครรภ์. เนื่องจากขั้นตอนทางการแพทย์ที่ผิดพลาด เกิดอันตรายถึงขนาดที่ลูกของดิฉันอาจจะเกิดมาไม่สมประกอบ. บทความของคุณ “มองดูในครรภ์” (8 สิงหาคม 1996) ช่วยให้ดิฉันตัดสินใจไม่ทำแท้งลูกของดิฉัน. ดิฉันได้รับวารสารนี้หนึ่งสัปดาห์ก่อน ที่ดิฉันทราบว่าตั้งครรภ์.
เอ็ม. ซี., สหรัฐ
ดิสเลกเซีย ขอบคุณมากสำหรับบทความของคุณ “การเอาชนะความข้องขัดใจเพราะอาการดิสเลกเซีย.” (8 สิงหาคม 1996) ตลอดชีวิต ดิฉันรู้ ว่ามีอะไรสักอย่างในตัวดิฉันผิดปกติ แต่ดิฉันไม่เคยรู้ว่าคืออะไร. ไม่นานมานี้ดิฉันได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการดิสเลกเซียโดยผู้ชำนัญพิเศษทางความผิดปกติในด้านสมาธิสั้น. เดี๋ยวนี้ดิฉันกำลังเรียนใช้นิ้วชี้ช่วยในการอ่าน.
พี. ซี., สหรัฐ.
ดิฉันเขียนมาแสดงความขอบคุณด้วยใจจริงสำหรับบทความเรื่องดิสเลกเซีย. หลังจากอ่านกรอบ “วิธีที่จะรู้ว่าเด็กเป็นดิสเลกเซียหรือไม่” ดิฉันกับสามีให้ลูกชายอายุสิบขวบของเรารับการตรวจ. เราพบว่าเขาเป็นดิสเลกเซียจริง และตอนนี้เรากำลังเริ่มขั้นตอนให้ความช่วยเหลือตามที่เขาจำเป็นต้องได้รับ ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน. คุณครูของเขาบอกเราเสมอว่า เขาเป็นเด็กที่มีความสามารถมากแต่เขามักไม่ใช้ความสามารถของตนเอง. ฉะนั้น คุณคงนึกภาพออกว่าเรารู้สึกขอบคุณสักเพียงไรที่มีการลงพิมพ์บทความนี้.
เจ. เอส., สกอตแลนด์
ในฐานะมารดาของลูกสองคนที่เป็นดิสเลกเซีย ดิฉันดีใจที่ได้อ่านบทความนี้. บทความนี้ให้ความรู้แก่คนอื่น ๆ อย่างวิเศษในเรื่องที่ว่า การไร้ความสามารถเช่นนี้เป็นเรื่องจริงแค่ไหน และเป็นเรื่องยุ่งยากสักเพียงไรสำหรับคนที่มีอาการนี้. คุณนึกภาพออกไหมถึงการอ่านป้ายชื่อถนนไม่ออก? หรือการพยายามสั่งอาหารจากเมนูในเมื่อคุณไม่สามารถอ่านได้ว่าเมนูบอกอะไร? ดิฉันแน่ใจว่าผู้ที่เป็นดิสเลกเซียจะใช้ความรู้นี้ให้เป็นประโยชน์.
เอ็ม. เค., สหรัฐ
สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ขอขอบคุณจากใจจริงสำหรับชุดบทความ “สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์—เหตุใดควรเป็นห่วง?” (8 สิงหาคม 1996) เรากำลังเสี่ยงจริง ๆ กับการสูญเสียสิ่งล้ำค่า. บทความนี้คงความปรารถนาของผมไว้เสมอที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกใหม่ที่พระเจ้าทรงสัญญา ที่ซึ่งสัตว์ทั้งหลายจะสามารถดำรงชีวิตอยู่โดยปราศจากการคุกคามให้สูญพันธุ์.
ดี. ไอ., แอลเบเนีย
วิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัย ผมเป็นผู้ลี้ภัยจากบุรุนดี และผมอยากแสดงความหยั่งรู้ค่าต่อชุดบทความ “วิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัย—จะมีวันสิ้นสุดไหม?” (8 กันยายน 1996) ผมได้รับกำลังใจมากที่ได้เรียนรู้ทัศนะของพระยะโฮวาเกี่ยวกับเรื่องนี้และวิธีที่พระองค์ทรงให้ประชาชนของพระองค์ปฏิบัติกับผู้ลี้ภัยด้วยความรักกรุณาในสมัยโบราณ. ผมขอขอบคุณสำหรับบทความเหล่านั้น ซึ่งปลอบใจผมจริง ๆ.
ดี. เอ็ม., เคนยา
ติดอ่าง ขอบคุณสำหรับบทความ “แม้ลิ้นของคนติดอ่างก็จะพูดฉะฉาน.” (8 กันยายน 1996) ประสบการณ์ของเพเทอร์ คูนทส์ ทำให้ผมเข้มแข็งขึ้นมาก. ผมก็พูดติดอ่างเหมือนกัน. ก่อนจะบรรยายเรื่องเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล ผมทูลขอพระยะโฮวาเสมอให้ช่วยผมพูดออกมาอย่างชัดเจน.
เอ็ม. เอ็ม., อิตาลี
ตอนผมอายุครบ 20 ปี ผมพบว่าตัวเองมีปัญหาการพูดกับคนอื่น ๆ และการพูดจากเวทีที่หอประชุมของพยานพระยะโฮวา. หลังการมอบหมายครั้งหนึ่ง ๆ ผมจะเหงื่อแตกพลั่กและรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงผิดปกติ. เป็นเรื่องที่ให้กำลังใจมากจริง ๆ ที่ได้อ่านประสบการณ์ของเพื่อนคริสเตียนคนหนึ่งที่รับใช้พระยะโฮวาทั้ง ๆ ที่มีปัญหานี้. บทความนี้ช่วยผมให้มีทัศนะในแง่ดีต่อเรื่องต่าง ๆ.
เอ็ม. เอส., ญี่ปุ่น