พฤษภาคม
วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม
จะเกิดการขาดแคลนอาหารทั่วโลก—กจ. 11:28
คริสเตียนยุคแรกได้รับผลกระทบการขาดแคลนอาหาร “ทั่วโลก” ด้วย คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องกังวลแน่ ๆ ว่าจะทำยังไงให้ครอบครัวมีอาหารพอกิน แล้ววัยรุ่นที่คิดจะทำงานรับใช้มากขึ้นล่ะ พวกเขารู้สึกไหมว่าต้องเลื่อนแผนนี้ออกไปก่อน? แต่ไม่ว่าคริสเตียนยุคแรกจะเจอความยากลำบากอะไร พวกเขาก็พร้อมจะปรับตัว พวกเขายังคงประกาศต่อไปเท่าที่ทำได้ และเต็มใจแบ่งสิ่งที่พวกเขามีให้เพื่อนร่วมความเชื่อในแคว้นยูเดีย (กจ. 11:29, 30) พี่น้องที่ได้รับสิ่งของบรรเทาทุกข์เห็นเลยว่าพระยะโฮวาช่วยพวกเขาจริง ๆ (มธ. 6:31-33) และพวกเขาคงต้องเห็นค่าและสนิทกับเพื่อนร่วมความเชื่อที่มาช่วยพวกเขาแน่นอน ส่วนคนที่บริจาคหรือคนที่มีส่วนร่วมในงานบรรเทาทุกข์ก็มีความสุขที่ได้ให้—กจ. 20:35 ห23.04 น. 16 ว. 12-13
วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม
เราก็รู้ว่าจะได้รับสิ่งนั้น เพราะเราได้ขอจากพระองค์—1 ยน. 5:15
บางครั้งพระยะโฮวาก็ตอบคำอธิษฐานของผู้รับใช้พระองค์โดยให้คนที่ไม่ได้นมัสการพระองค์มาช่วยเหลือพวกเขา ตัวอย่างเช่น พระองค์ให้กษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซิสยอมทำตามคำขอของเนหะมีย์ที่จะกลับไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อจะสร้างกรุงนี้ขึ้นมาใหม่ (นหม. 2:3-6) ทุกวันนี้ พระยะโฮวาก็อาจใช้คนที่ไม่ได้นมัสการพระองค์มาช่วยเหลือเราตอนที่เราต้องการปกติแล้วพระยะโฮวาไม่ได้ตอบคำอธิษฐานของเราแบบที่น่ามหัศจรรย์และน่าตื่นเต้น แต่คำตอบที่พระองค์ให้จะเป็นสิ่งที่เราจำเป็นพอดีเพื่อจะรักษาความซื่อสัตย์กับพระองค์ได้ ดังนั้น เราต้องพยายามมองหาคำตอบจากพระยะโฮวา ให้เราใช้เวลาคิดทบทวนเป็นช่วง ๆ ว่าพระยะโฮวาตอบคำอธิษฐานของเรายังไงบ้าง (สด. 66:19, 20) เราต้องแสดงความเชื่อไม่ใช่แค่โดยอธิษฐานถึงพระยะโฮวา แต่เราต้องยอมรับไม่ว่าคำตอบนั้นจะเป็นยังไง—ฮบ. 11:6 ห23.05 น. 11 ว. 13; น. 12 ว. 15-16
วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม
พระเจ้าของผม ผมมีความสุขที่ได้ทำตามความประสงค์ของพระองค์—สด. 40:8
ตอนที่เราอุทิศตัวให้พระยะโฮวา เราสัญญาว่าจะรับใช้พระองค์และทำตามสิ่งที่พระองค์ต้องการ และเราต้องทำตามคำสัญญานี้เสมอ นี่ไม่ใช่ภาระหนักและไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับเรา นั่นเป็นเพราะพระยะโฮวาสร้างเรามาให้ทำตามความต้องการของพระองค์ (วว. 4:11) นอกจากนั้น พระยะโฮวาสร้างเราตามแบบพระองค์และสร้างเราให้อยากรู้จักและรับใช้พระองค์ นี่เลยทำให้เราสามารถสนิทกับพระองค์ได้และมีความสุขที่ได้ทำตามสิ่งที่พระองค์ต้องการ ไม่ใช่แค่นั้น เมื่อเราทำตามสิ่งที่พระยะโฮวาต้องการและเลียนแบบพระเยซูลูกชายของพระองค์ เราจะ “สดชื่น” (มธ. 11:28-30) ให้รักพระยะโฮวามากขึ้นเรื่อย ๆ คิดใคร่ครวญสิ่งดี ๆ ที่พระองค์ทำเพื่อคุณ และคิดถึงพรต่าง ๆ ที่พระองค์เตรียมไว้ให้คุณในอนาคต ยิ่งคุณรักพระยะโฮวา มันก็ยิ่งง่ายขึ้นที่คุณจะเชื่อฟังพระองค์ (1 ยน. 5:3) พระเยซูทำตามสิ่งที่พระยะโฮวาต้องการได้เพราะท่านอธิษฐานขอให้พระองค์ช่วยและคิดถึงรางวัลที่รออยู่ข้างหน้า (ฮบ. 5:7; 12:2) ดังนั้น ให้ทำเหมือนพระเยซู ให้อธิษฐานขอกำลังจากพระยะโฮวาและคิดถึงความหวังเรื่องชีวิตตลอดไปเสมอ ห23.08 น. 27-28 ว. 4-5
วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม
พระเจ้ากรุณาต่อคุณมากและอยากให้คุณกลับใจ แล้วคุณจะดูหมิ่นความกรุณาและความอดทนอดกลั้นที่พระองค์มีอย่างมากมายต่อมนุษย์อย่างนั้นหรือ?—รม. 2:4
เราทุกคนชอบคนที่อดทน ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? เราชื่นชมคนที่อดทนรอโดยไม่หงุดหงิด และเราก็รู้สึกขอบคุณด้วยตอนที่คนอื่นอดทนกับเราเมื่อเราทำผิดพลาด นอกจากนั้น เรารู้สึกขอบคุณผู้นำการศึกษาที่อดทนสอนคัมภีร์ไบเบิลให้เราและอดทนตอนที่เราพยายามเอาคำแนะนำในนั้นไปใช้ ที่สำคัญที่สุดเราขอบคุณมากที่พระยะโฮวาอดทนกับเรา เราจะชอบคนที่อดทน แต่บางครั้งเรารู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราเองจะอดทน ตัวอย่างเช่น ตอนรถติดมันไม่ง่ายเลยที่จะพยายามใจเย็น ๆ โดยเฉพาะตอนที่เรารู้สึกว่าสายมากแล้ว และเมื่อมีคนมาทำให้เราหงุดหงิด เราอาจทนไม่ไหวและอยากระเบิดอารมณ์ออกมา บางครั้งเราอาจรู้สึกไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยที่จะรอให้คำสัญญาของพระยะโฮวาเรื่องโลกใหม่เป็นจริง ไม่ว่ายังไงในกรณีทั้งหมดที่พูดถึงมานี้ เราก็ต้องอดทนให้มากขึ้น ห23.08 น. 20 ว. 1-2
วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม
แล้วกิเดโอนก็ให้ทหารอิสราเอลพวกนั้นกลับบ้าน เหลือไว้ให้อยู่กับเขาแค่ 300 คน—วนฉ. 7:8
ขอให้นึกถึงตอนที่พระยะโฮวาบอกให้กิเดโอนลดจำนวนทหารลงมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ กิเดโอนอาจจะคิดว่า ‘ต้องทำถึงขนาดนี้เลยไหม? แล้วมันจะได้ผลเหรอ?’ ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขาก็เชื่อฟังพระยะโฮวา ทุกวันนี้ผู้ดูแลก็เลียนแบบกิเดโอนได้โดยเชื่อฟังแม้ตอนที่องค์การจะบอกให้พวกเขาทำบางอย่างที่ต่างไปจากเดิม (ฮบ. 13:17) กิเดโอนเชื่อฟังพระยะโฮวาแม้เขาจะกลัวและต้องเสี่ยงอันตราย (วนฉ. 9:17) หลังจากที่พระยะโฮวาทำให้กิเดโอนมั่นใจแล้ว เขาก็รู้ว่าพระองค์จะช่วยเขาแน่ ๆ ให้ปกป้องคนของพระองค์ได้ ผู้ดูแลที่อยู่ในประเทศที่งานของเราถูกสั่งห้ามก็เลียนแบบกิเดโอน พวกเขานำหน้าในการประชุมและการประกาศอย่างกล้าหาญแม้จะถูกขู่ว่าจะโดนจับ โดนสอบสวน ตกงาน หรือโดนทำร้ายร่างกาย ในช่วงความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ผู้ดูแลก็ต้องกล้าหาญมากกว่านั้นอีกเพื่อจะเชื่อฟังคำสั่งที่อาจทำให้เขาต้องเสี่ยงอันตราย ห23.06 น. 5-6 ว. 12-13
วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม
ใครให้เกียรติเรา เราจะให้เกียรติเขา—1 ซม. 2:30
พระยะโฮวาให้มีการบันทึกเรื่องของเยโฮยาดาในคัมภีร์ไบเบิลเพื่อสอนเรา (รม. 15:4) ตอนที่เยโฮยาดาตาย เขาก็ได้รับเกียรติเป็นพิเศษโดย “ถูกฝังไว้ที่เมืองของดาวิดรวมกับกษัตริย์องค์อื่น ๆ เพราะเขาทำประโยชน์ให้ชาวอิสราเอล ให้พระเจ้าเที่ยงแท้และวิหารของพระองค์” (2 พศ. 24:15, 16) เรื่องราวของเยโฮยาดาช่วยให้รู้ว่าเราจะเกรงกลัวพระยะโฮวาได้ยังไงบ้าง ผู้ดูแลเลียนแบบเยโฮยาดาได้โดยเอาใจใส่และปกป้องพี่น้องในประชาคมเสมอ (กจ. 20:28) ผู้สูงอายุก็ได้เรียนว่าถ้าพวกเขาเกรงกลัวพระยะโฮวาและซื่อสัตย์ภักดีต่อพระองค์เสมอ พระองค์จะยังคงใช้พวกเขาในงานของพระองค์เพื่อทำให้ความประสงค์สำเร็จ นอกจากนั้น พระยะโฮวาให้เกียรติเยโฮยาดา เด็ก ๆ และวัยรุ่นก็เลียนแบบพระองค์ได้โดยนับถือและให้เกียรติผู้สูงอายุโดยเฉพาะพี่น้องที่รับใช้อย่างซื่อสัตย์มานาน (สภษ. 16:31) ขอให้เราภักดีและเชื่อฟัง “คนที่นำหน้า” ในประชาคมและองค์การ—ฮบ. 13:17 ห23.06 น. 17 ว. 14-15
วันพุธที่ 7 พฤษภาคม
ปากของคนดีให้คำแนะนำคนมากมาย—สภษ. 10:21
ให้คุณคิดให้ดีว่าจะตอบบ่อยแค่ไหนในการประชุม ถ้าคุณยกมือบ่อยเกินไป ผู้นำส่วนก็อาจรู้สึกถูกกดดันว่าต้องเรียกคุณทั้ง ๆ ที่คุณก็ตอบไปแล้วและบางคนยังไม่มีโอกาสได้ตอบเลย และนี่ก็อาจทำให้พี่น้องคนอื่นรู้สึกท้อจนไม่กล้ายกมือ (ปญจ. 3:7) เมื่อมีพี่น้องหลายคนยกมือตอบในการประชุม เราอาจไม่ได้ตอบมากอย่างที่เราต้องการ และบางครั้งผู้นำส่วนก็อาจไม่ได้เรียกเราตอบเลยด้วยซ้ำซึ่งอาจจะทำให้เราผิดหวัง แต่เราไม่ควรรู้สึกว่าเขาไม่ชอบเรา (ปญจ. 7:9) ถ้าคุณไม่ได้ตอบมากอย่างที่คุณต้องการ ก็ให้คุณตั้งใจฟังคนอื่นตอบและให้ชมพวกเขาหลังจบการประชุม พี่น้องอาจได้กำลังใจที่คุณชมพวกเขาพอ ๆ กับที่พวกเขาได้กำลังใจตอนที่ฟังความเห็นของคุณ ห23.04 น. 23-24 ว. 14-16
วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม
พระเจ้าของผม ใจผมมั่นคง—สด. 57:7
ศึกษาส่วนตัวและคิดใคร่ครวญ ถ้าต้นไม้ต้นไหนมีรากลึก มันจะไม่โค่นล้มเมื่อเจอพายุ เหมือนกันถ้าเรามีความเชื่อเข้มแข็ง เราก็จะหนักแน่นมั่นคงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อต้นไม้โตขึ้น มันจะหยั่งรากลึกลงไปในดินและแผ่ขยายรากออกไป คล้ายกันเมื่อเราศึกษาส่วนตัวและคิดใคร่ครวญ ความเชื่อของเราก็จะยิ่งเข้มแข็ง และเราจะยิ่งมั่นใจว่าแนวทางของพระยะโฮวาดีที่สุด (คส. 2:6, 7) ตอนที่เราศึกษาส่วนตัว ให้พยายามคิดว่าการสอน การชี้นำ และการปกป้องจากพระยะโฮวาช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ในอดีตยังไง ตัวอย่างเช่น เอเสเคียลเห็นนิมิตเรื่องวิหาร และเขาสนใจเป็นพิเศษตอนที่ทูตสวรรค์วัดวิหารนั้น นิมิตนี้ทำให้เอเสเคียลเข้มแข็งและได้กำลังใจ และทำให้เรารู้ว่าเราต้องทำอะไรบ้างเพื่อรักษามาตรฐานของพระยะโฮวาเรื่องการนมัสการบริสุทธิ์ (อสค. 40:1-4; 43:10-12) ดังนั้น ถ้าเราใช้เวลาศึกษาส่วนตัวและคิดใคร่ครวญความรู้ที่ลึกซึ้งในคัมภีร์ไบเบิล เราก็จะได้ประโยชน์ เราจะทำให้ใจของเรามั่นคงได้ถ้าเราไว้วางใจพระยะโฮวาสุดหัวใจ ห23.07 น. 18 ว. 15-16
วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม
รักษา . . . ความสุขุมรอบคอบเอาไว้—สภษ. 3:21
ในคัมภีร์ไบเบิลมีตัวอย่างที่ดีของผู้ชายที่ซื่อสัตย์หลายคนที่พี่น้องชายวัยรุ่นจะเลียนแบบได้ พวกเขารักพระเจ้าและคอยดูแลเอาใจใส่คนของพระองค์ นอกจากนั้น ยังมีตัวอย่างที่ดีของพี่น้องชายที่มีความเป็นผู้ใหญ่ในครอบครัวและในประชาคมของคุณที่คุณสามารถเลียนแบบได้ (ฮบ. 13:7) และเรามีตัวอย่างที่ดีที่สุด คือพระเยซูคริสต์ (1 ปต. 2:21) ตอนที่คุณเรียนรู้ตัวอย่างของคนเหล่านี้ ให้สังเกตว่าพวกเขามีคุณลักษณะดี ๆ อะไรบ้าง (ฮบ. 12:1, 2) และให้คิดว่าคุณจะเลียนแบบพวกเขาได้ยังไง ผู้ชายที่มีความสุขุมรอบคอบจะไม่ทำอะไรวู่วาม แต่เขาจะคิดก่อนทำเสมอ ดังนั้น ให้คุณพยายามพัฒนาและรักษาคุณลักษณะนี้เอาไว้ ให้เรียนรู้หลักการในคัมภีร์ไบเบิลและคิดว่ามันเป็นประโยชน์ยังไง จากนั้นให้ใช้หลักการเหล่านี้ช่วยคุณในการตัดสินใจเพื่อจะทำสิ่งที่พระยะโฮวาพอใจ (สด. 119:9) นี่จะช่วยให้คุณเป็นคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่—สภษ. 2:11, 12; ฮบ. 5:14 ห23.12 น. 24-25 ว. 4-5
วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม
พร้อมเสมอที่จะอธิบายเรื่องความหวังของคุณกับคนที่สงสัยว่าทำไมพวกคุณหวังอย่างนั้น แต่ให้ทำอย่างสุภาพและด้วยความนับถือจากใจ—1 ปต. 3:15
พ่อแม่สามารถสอนลูกให้รู้วิธีตอบอย่างอ่อนโยนได้ตอนที่ถูกเพื่อนที่โรงเรียนถามหรือพูดไม่ดีเกี่ยวกับความเชื่อ (ยก. 3:13) พ่อแม่บางคนจะใช้ช่วงการนมัสการประจำครอบครัวซ้อมกับลูก ๆ ก่อนว่าจะพูดยังไง พวกเขาจะพูดถึงเรื่องที่อาจจะมีคนถามที่โรงเรียน แล้วก็จะคุยกับลูก ๆ ว่าจะตอบคำถามเหล่านั้นยังไงดี หลังจากนั้น พ่อแม่ก็จะสาธิตให้ลูกดูและสอนลูก ๆ ด้วยว่าจะพูดอย่างอ่อนโยนและน่าฟังได้ยังไงบ้าง การซ้อมด้วยกันเป็นครอบครัวจะช่วยลูก ๆ ให้มั่นใจในสิ่งที่พวกเขาเชื่อและอธิบายให้คนอื่นฟังได้ อย่างหนึ่งที่ช่วยได้ก็คือบทความชุด “หนุ่มสาวถามว่า” และส่วนที่ชื่อว่า “ฝึกความคิดสำหรับวัยรุ่น” ในเว็บไซต์ jw.org สองส่วนนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้วัยรุ่นมั่นใจในความเชื่อมากขึ้นและตอบเป็นคำพูดของตัวเองได้ ถ้าทั้งครอบครัวใช้สองส่วนนี้ในการนมัสการประจำครอบครัวด้วยกัน ทุกคนก็จะรู้วิธีที่จะอธิบายความเชื่อในแบบที่อ่อนโยนและน่าฟัง ห23.09 น. 17 ว. 10; น. 18 ว. 15-16
วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม
ขอให้เราอย่าเลิกทำดี เพราะถ้าเราไม่ท้อในการทำดี เราจะเก็บเกี่ยวผลเมื่อถึงเวลา—กท. 6:9
คุณเคยตั้งเป้าหมายของคริสเตียนแต่ยังไปไม่ถึงเป้าหมายนั้นไหม? ถ้าใช่ คุณก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นคนเดียว มีพี่น้องหลายคนที่เป็นเหมือนคุณ เช่น ฟีลิปอยากอธิษฐานให้ดีขึ้นและอธิษฐานบ่อยขึ้น แต่เขาก็รู้สึกว่าหาเวลาอธิษฐานได้ยากมาก ส่วนเอรีก้าก็อยากมาประชุมเพื่อการประกาศให้ทัน แต่ส่วนใหญ่แล้วเธอก็ยังมาไม่ทัน ถ้าคุณมีเป้าหมายแต่ยังทำไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งคิดว่าคุณเป็นคนไม่เอาไหน การทำตามเป้าหมายแม้จะเป็นแค่เป้าหมายเล็ก ๆ ก็ต้องใช้ความพยายามและใช้เวลา การที่คุณยังอยากทำตามเป้าหมายก็แสดงให้เห็นแล้วว่าคุณอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับพระยะโฮวา และคุณถือว่าการสนิทกับพระองค์เป็นเรื่องสำคัญมาก พระยะโฮวาเห็นค่าที่คุณพยายาม พระองค์ไม่คาดหมายจากคุณมากกว่าที่คุณจะทำได้ (สด. 103:14; มคา. 6:8) ดังนั้น คุณต้องตั้งเป้าหมายที่คุณสามารถทำได้จริง ห23.05 น. 26 ว. 1-2
วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม
ถ้าพระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา ใครจะต่อสู้เราได้?—รม. 8:31
คนที่กล้าหาญก็อาจกลัวได้ แต่เขาจะไม่ยอมให้ความกลัวมาทำให้เขาเลิกทำสิ่งที่ถูกต้อง ดาเนียลเป็นวัยรุ่นที่กล้าหาญมาก เขาอ่านและศึกษาข้อเขียนของผู้พยากรณ์คนอื่น ๆ รวมทั้งคำพยากรณ์ของเยเรมีย์ด้วย เขาเลยรู้ว่าอีกไม่นานชาวยิวที่เป็นเชลยในบาบิโลนหลายสิบปีจะถูกปล่อยเป็นอิสระ (ดนล. 9:2) การได้เห็นคำพยากรณ์ต่าง ๆ เป็นจริงต้องทำให้ดาเนียลไว้วางใจพระยะโฮวามากขึ้นแน่ ๆ และคนที่ไว้วางใจพระยะโฮวาสุดหัวใจจะมีความกล้าหาญเป็นพิเศษ (เทียบกับโรม 8:32, 37-39) ที่สำคัญที่สุดดาเนียลอธิษฐานถึงพระยะโฮวาบ่อยมาก (ดนล. 6:10) เขาอธิษฐานสารภาพผิดต่อพระองค์ ระบายความรู้สึกต่อพระองค์ และขอให้พระองค์ช่วยเขา (ดนล. 9:4, 5, 19) ดาเนียลก็เหมือนกับเรา เขาไม่ได้มีความกล้าหาญตั้งแต่เกิด แต่เขาพยายามมีคุณลักษณะนี้โดยการศึกษาพระคัมภีร์ อธิษฐาน และไว้วางใจพระยะโฮวา ห23.08 น. 3 ว. 4; น. 4 ว. 7
วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม
ให้คุณส่องแสงสว่างให้คนอื่นเห็นด้วยการทำดี พอเขาเห็นความดีของคุณ เขาก็จะยกย่องสรรเสริญพระเจ้าผู้เป็นพ่อของคุณในสวรรค์—มธ. 5:16
เมื่อเราเชื่อฟังคนที่มีอำนาจ เราก็ทำให้ตัวเราเองและคนอื่นได้รับประโยชน์ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? เหตุผลหนึ่งก็คือเราจะไม่ถูกลงโทษเพราะไม่เชื่อฟังกฎหมาย (รม. 13:1, 4) นอกจากนั้น การที่เราเชื่อฟังช่วยให้คนที่มีอำนาจมองพยานพระยะโฮวาในแง่ดี ตัวอย่างเช่น ที่ไนจีเรียเมื่อหลายสิบปีก่อน มีทหารหลายคนเข้ามาในหอประชุมระหว่างที่มีการประชุม พวกเขามาตามหาคนที่ประท้วงเรื่องการจ่ายภาษี แต่พอหัวหน้าทหารเห็นว่าคนกลุ่มนี้เป็นพยานฯ เขาก็บอกให้ทหารทุกคนออกไป เขาบอกว่า “พยานพระยะโฮวาไม่ใช่พวกหนีภาษี” ดังนั้น ทุกครั้งที่คุณเชื่อฟังกฎหมาย คุณก็ช่วยให้พยานพระยะโฮวามีชื่อเสียงที่ดี ซึ่งนี่อาจเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องของคุณในอนาคตได้ ห23.10 น. 9 ว. 13
วันพุธที่ 14 พฤษภาคม
พวกคุณต้องอดทนไว้ เพื่อว่าเมื่อพวกคุณทำตามความต้องการของพระเจ้าแล้ว จะได้รับสิ่งที่พระองค์สัญญา—ฮบ. 10:36
ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาหลายคนรอจุดจบของโลกชั่วมานานแล้ว บางคนรู้สึกว่าทำไมมันยังไม่เกิดขึ้นสักที พระยะโฮวารู้ว่าผู้รับใช้ของพระองค์รู้สึกยังไง ซึ่งเราเห็นได้จากคำพูดของพระองค์ที่รับรองกับผู้พยากรณ์ฮาบากุกว่า “นิมิตนี้ยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนดไว้ เวลานั้นจะมาถึงอย่างรวดเร็ว นิมิตนี้ไม่ใช่เรื่องโกหก ถึงจะนานก็ขอให้เฝ้ารอต่อไป เพราะมันจะเกิดขึ้นแน่ ๆ จะไม่ช้าเกินไป” (ฮบก. 2:3) พระยะโฮวาสัญญาเพื่อให้ฮาบากุกมั่นใจเท่านั้นไหม? หรือคำพูดนี้ของพระองค์ใช้กับเราในทุกวันนี้ได้ด้วย? คำพูดนี้ใช้กับเราในทุกวันนี้ด้วย เพราะเปาโลได้รับการดลใจให้ยกคำพูดนี้ตอนที่เขาเขียนถึงพี่น้องคริสเตียนที่กำลังรอให้โลกใหม่มาถึง (ฮบ. 10:37) เรามั่นใจว่าถึงแม้คำสัญญาที่พระยะโฮวาจะช่วยเราให้รอดดูเหมือนยังไม่เกิดขึ้นสักที แต่ “มันจะเกิดขึ้นแน่ ๆ จะไม่ช้าเกินไป” ห23.04 น. 30 ว. 16
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม
แล้วชาวอิสราเอลก็เริ่มบ่นต่อว่าโมเสส—กดว. 14:2
ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่ไม่สนใจหลักฐานต่าง ๆ ที่แสดงอย่างชัดเจนว่าโมเสสเป็นตัวแทนของพระยะโฮวา (กดว. 14:10, 11) มีหลายครั้งที่พวกเขาปฏิเสธว่าโมเสสคือคนที่พระองค์ใช้ ผลก็คือชาวอิสราเอลรุ่นนั้นเลยไม่ได้เข้าแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา (กดว. 14:30) แต่ก็มีชาวอิสราเอลบางคนทำตามการชี้นำของพระยะโฮวาด้วย เช่น พระยะโฮวาพูดถึงคาเลบว่า “เราให้เขาทำอะไร เขาก็ทำอย่างสุดหัวใจ” (กดว. 14:24) พระยะโฮวาให้รางวัลคาเลบ และถึงกับให้เขาได้เลือกว่าจะอยู่ที่ไหนในแผ่นดินคานาอัน (ยชว. 14:12-14) นอกจากนั้น ชาวอิสราเอลรุ่นหลังที่ได้เข้าแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญาก็เป็นตัวอย่างที่ดีในการทำตามการชี้นำของพระองค์ด้วย หลังจากโยชูวาขึ้นมาเป็นผู้นำชาติอิสราเอลแทนโมเสส ชาวอิสราเอลรุ่นหลังนี้ “ให้ความนับถืออย่างสูงต่อโยชูวาตลอดเวลาที่เขามีชีวิตอยู่” (ยชว. 4:14) นี่เลยทำให้พระยะโฮวาอวยพรพวกเขาโดยพาพวกเขาเข้าไปอยู่ในแผ่นดินที่พระองค์สัญญา—ยชว. 21:43, 44 ห24.02 น. 21 ว. 6-7
วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม
คนที่รักพระเจ้าก็ต้องรักพี่น้องด้วย—1 ยน. 4:21
เหมือนกับหมอที่ตรวจดูชีพจรเพื่อจะรู้ว่าหัวใจเราเป็นยังไง เราก็รู้ได้ว่าเรายังรักพระยะโฮวาเหมือนเดิมไหมโดยดูว่าเรายังรักพี่น้องเหมือนเดิมหรือเปล่า ถ้าเรารักพี่น้องน้อยลง ก็อาจเป็นไปได้ที่เรารักพระเจ้าน้อยลงด้วย แต่ถ้าเราแสดงความรักต่อพี่น้องอยู่เสมอ ก็แสดงว่าเรายังรักและสนิทกับพระยะโฮวา ถ้าเรารักพี่น้องน้อยลง เราต้องจำไว้ว่านี่เป็นปัญหาใหญ่และไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะอะไร? เพราะนี่หมายความว่าความสัมพันธ์ของเรากับพระยะโฮวากำลังแย่ลง อัครสาวกยอห์นเตือนเราอย่างหนักแน่นว่า “คนที่ไม่รักพี่น้องที่เขามองเห็นจะรักพระเจ้าที่เขามองไม่เห็นได้อย่างไร?” (1 ยน. 4:20) บทเรียนสำหรับเราคืออะไร? เราต้อง “รักกัน” พระยะโฮวาถึงจะพอใจในตัวเรา—1 ยน. 4:7-9, 11 ห23.11 น. 8 ว. 3; น. 9 ว. 5-6
วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม
พ่อแม่ของคุณจะดีใจ—สภษ. 23:25
ตอนที่กษัตริย์เยโฮอาชอายุยังน้อย เขาตัดสินใจอย่างฉลาด แต่เขาไม่มีพ่อ เขาก็เลยทำตามคำแนะนำของมหาปุโรหิตเยโฮยาดา เยโฮยาดาสอนเยโฮอาชเหมือนกับเป็นลูกชายของตัวเอง เลยทำให้เยโฮอาชเลือกที่จะรับใช้พระยะโฮวาและช่วยประชาชนให้ทำเหมือนกัน นอกจากนั้น เยโฮอาชถึงกับเตรียมให้มีการซ่อมแซมวิหารของพระยะโฮวาด้วย (2 พศ. 24:1, 2, 4, 13, 14) การที่พ่อแม่หรือคนอื่นสอนคุณให้รักพระยะโฮวาและใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระองค์ก็เหมือนกับคุณได้รับของขวัญที่มีค่ามาก ๆ (สภษ. 2:1, 10-12) พ่อแม่อาจใช้หลายวิธีเพื่อสอนคุณ เมื่อคุณเอาคำแนะนำที่มาจากคัมภีร์ไบเบิลไปใช้ คุณจะทำให้พ่อแม่มีความสุข และที่สำคัญคุณจะทำให้พระยะโฮวามีความสุข และนี่จะทำให้คุณสนิทกับพระองค์มากขึ้น (สภษ. 22:6; 23:15, 24) คุณเห็นแล้วใช่ไหมว่ามีประโยชน์หลายอย่างจริง ๆ ที่จะเลียนแบบเยโฮอาชตอนที่เขาอายุยังน้อย? ห23.09 น. 8-9 ว. 3-5
วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม
เราจะฟังพวกเจ้า—ยรม. 29:12
พระยะโฮวาสัญญาว่าจะฟังคำอธิษฐานของเรา พระยะโฮวารักผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ทุกคน ดังนั้น พระองค์จะฟังคำอธิษฐานของพวกเขาแน่นอน (สด. 10:17; 37:28) แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าพระยะโฮวาจะให้ทุกอย่างที่เราขอ บางครั้งเราอาจต้องรอจนกว่าจะถึงโลกใหม่เราถึงจะได้บางอย่างที่เราต้องการพระยะโฮวาคิดถึงความประสงค์ของพระองค์เสมอตอนที่ฟังคำอธิษฐานของเรา (อสย. 55:8, 9) ความประสงค์อย่างหนึ่งของพระองค์ก็คืออยากให้ทั้งโลกมีแต่คนที่เต็มใจอยู่ใต้การปกครองของพระองค์ แต่ซาตานอ้างว่าคนเราจะมีความสุขกว่าถ้าพวกเขาได้ปกครองตัวเอง (ปฐก. 3:1-5) และเพื่อที่จะพิสูจน์ว่าซาตานโกหก พระยะโฮวาก็เลยปล่อยให้มนุษย์ปกครองตัวเอง และเราก็ได้เห็นแล้วว่าทุกวันนี้การปกครองของมนุษย์มีแต่ความเสียหายทั้งนั้น (ปญจ. 8:9) เรารู้ว่าพระยะโฮวาจะยังไม่กำจัดปัญหาทุกอย่างของมนุษย์ให้หมดไปในตอนนี้ ห23.11 น. 21 ว. 4-5
วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม
เราได้ตั้งเจ้าให้เป็นพ่อของคนหลายชนชาติ—รม. 4:17
พระยะโฮวาสัญญาว่า “หลายชนชาติ” จะได้พรโดยผ่านทางอับราฮัม แต่ถึงอย่างนั้น ตอนที่อับราฮัมอายุ 100 ปีและซาราห์อายุ 90 ปีพวกเขาก็ยังไม่มีลูก ในความคิดของมนุษย์ คนอายุมากขนาดนั้นคงหมดหวังที่จะมีลูกแล้ว นี่คงเป็นการทดสอบความเชื่อของอับราฮัมจริง ๆ แต่ “อับราฮัมหวังและเชื่อว่าเขาจะได้เป็นพ่อของคนหลายชนชาติ” (รม. 4:18, 19) ในที่สุดความหวังของอับราฮัมก็เป็นจริง เขามีลูกชายที่ชื่ออิสอัค (รม. 4:20-22) พระยะโฮวาจะพอใจและยอมรับเราเป็นเพื่อนเหมือนที่พระองค์ยอมรับอับราฮัม เปาโลบอกว่า “ที่บอกว่า ‘พระเจ้านับว่าอับราฮัมเป็นคนที่พระองค์ยอมรับ’ นั้นไม่ได้เขียนไว้สำหรับอับราฮัมเท่านั้น แต่เขียนไว้สำหรับพวกเราด้วย พระเจ้าจะนับว่าพวกเราเป็นคนที่พระองค์ยอมรับ เพราะพวกเราเชื่อในพระองค์ผู้ที่ปลุกพระเยซูผู้เป็นนายของเราให้ฟื้นขึ้นจากตาย” (รม. 4:23, 24) ดังนั้น เราต้องมีทั้งความเชื่อและการกระทำเหมือนกับที่อับราฮัมมี ห23.12 น. 7 ว. 16-17
วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม
พระองค์เห็นความทุกข์ลำบากของผมแล้ว พระองค์รู้ว่าผมทุกข์ใจมาก—สด. 31:7
เมื่อคุณต้องเจอกับปัญหาที่ทำให้รู้สึกกลัว ขอจำไว้ว่าพระยะโฮวาเห็นว่าคุณกำลังเจอปัญหาอะไรและเข้าใจความรู้สึกของคุณด้วย ตัวอย่างเช่น ตอนที่ชาวอิสราเอลอยู่ในอียิปต์ พระยะโฮวาไม่ใช่แค่เห็นว่าพวกเขาเจอความลำบากอะไรบ้าง แต่พระองค์รู้ด้วยว่า “พวกเขาเจ็บปวดขนาดไหน” (อพย. 3:7) แต่ตอนที่เจอปัญหาหนัก คุณอาจสงสัยว่าพระยะโฮวากำลังช่วยคุณยังไง ถ้าเป็นแบบนั้น ให้คุณอธิษฐานขอพระองค์ช่วยคุณให้มองออกว่าพระองค์กำลังช่วยคุณยังไง (2 พก. 6:15-17) จากนั้นให้ถามตัวเองว่า มีความคิดเห็นของพี่น้องในการประชุมหรือมีคำบรรยายไหนไหมที่ทำให้คุณได้กำลังใจ? มีสิ่งพิมพ์ วีดีโอ หรือเพลงจากมิวสิกวีดีโอไหนไหมที่ทำให้คุณเข้มแข็งต่อไปได้? มีใครที่พูดให้กำลังใจหรือให้ข้อพระคัมภีร์ดี ๆ กับคุณไหม? ตอนที่คุณเจอปัญหาหนัก อาจเป็นเรื่องง่ายที่จะมองข้ามความรักของพี่น้องและความรู้ที่องค์การของพระยะโฮวาจัดเตรียมให้ ที่จริง สิ่งเหล่านั้นเป็นของขวัญพิเศษที่มาจากพระยะโฮวา (อสย. 65:13; มก. 10:29, 30) มันแสดงให้เห็นว่าพระองค์เป็นห่วงคุณ และทำให้คุณมั่นใจในพระองค์ได้—อสย. 49:14-16 ห24.01 น. 4-5 ว. 9-10
วันพุธที่ 21 พฤษภาคม
ขอช่วยพวกเราที่เป็นทาสของพระองค์ให้กล้าประกาศคำสอนของพระองค์ต่อไป—กจ. 4:29
ก่อนที่พระเยซูจะกลับไปสวรรค์ ท่านมอบหมายพวกสาวกให้เป็นพยานของท่าน “ในกรุงเยรูซาเล็ม และทั่วแคว้นยูเดียกับแคว้นสะมาเรีย และจนถึงสุดขอบโลก” (กจ. 1:8; ลก. 24:46-48) หลังจากนั้นไม่นาน พวกผู้นำชาวยิวก็จับเปโตรกับยอห์นและพาไปที่ศาลแซนเฮดรินและสั่งให้พวกเขาเลิกประกาศ พวกผู้นำชาวยิวถึงกับขู่สองคนนี้ด้วย (กจ. 4:18, 21) เปโตรกับยอห์นตอบพวกผู้นำศาสนาชาวยิวว่า “พระเจ้าจะมองว่าถูกต้องไหมถ้าพวกเราเชื่อฟังพวกคุณแทนที่จะเชื่อฟังพระเจ้า พวกคุณคิดดูเองก็แล้วกัน แต่พวกเราจะหยุดพูดเรื่องที่ได้เห็นและได้ยินนั้นไม่ได้” (กจ. 4:19, 20) พอเปโตรกับยอห์นถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว พวกสาวกทั้งหมดก็อธิษฐานถึงพระยะโฮวาเกี่ยวกับการทำตามความประสงค์ของพระองค์ และพระยะโฮวาก็ตอบคำอธิษฐานของพวกเขา—กจ. 4:31 ห23.05 น. 5 ว. 11-12
วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม
นี่คือลูกรักของเรา เราพอใจในตัวเขามาก—มธ. 17:5
พระยะโฮวากับพระเยซูอยู่ด้วยกันมานานเป็นพัน ๆ ล้านปี พระองค์ทั้งสองก็เลยรักและผูกพันกันมาก คำพูดของพระยะโฮวาที่ข้อคัมภีร์ประจำวันนี้ทำให้เห็นเลยว่าพระยะโฮวารักพระเยซูมากขนาดไหน ที่จริง พระยะโฮวาอาจจะแค่บอกก็ได้ว่า ‘เราพอใจคนนี้มาก’ แต่พระองค์ไม่ได้พูดแค่นั้น พระองค์อยากให้เรารู้ว่าพระองค์รักพระเยซูมากจริง ๆ ก็เลยบอกว่า “นี่คือลูกรักของเรา เราพอใจในตัวเขามาก” พระยะโฮวาภูมิใจในตัวพระเยซูที่ท่านจะยอมเสียสละชีวิตเป็นค่าไถ่ (อฟ. 1:7) และเราก็เห็นเลยว่าพระเยซูรู้ดีว่าพระยะโฮวารักท่านขนาดไหน ในคัมภีร์ไบเบิล พระเยซูบอกหลายครั้งว่า พระยะโฮวาพ่อของท่านรักท่านมาก—ยน. 3:35; 10:17; 17:24 ห24.01 น. 28 ว. 8
วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม
ควรเลือกชื่อเสียงดีมากกว่าทรัพย์สมบัติมหาศาล—สภษ. 22:1
สมมุติว่าคนที่คุณรักพูดใส่ร้ายคุณ เรื่องที่เขาพูดมันโกหกชัด ๆ แต่ก็มีคนเชื่อที่เขาพูดด้วย และที่แย่กว่านั้นคือพวกเขาเอาเรื่องนั้นไปเล่าต่อ ๆ กันและก็ยิ่งมีคนเชื่อมากขึ้นไปอีก ถ้าเป็นแบบนี้คุณจะรู้สึกยังไง? หลายครั้งการใส่ร้ายแบบนี้คงทำให้คุณรู้สึกแย่มาก ๆ นี่ทำให้เราเข้าใจว่าพระยะโฮวารู้สึกยังไงเมื่อชื่อเสียงของพระองค์ถูกใส่ร้าย ทูตสวรรค์องค์หนึ่งโกหกเอวาผู้หญิงคนแรกและเธอก็เชื่อมัน คำโกหกนั้นทำให้มนุษย์คู่แรกกบฏต่อพระยะโฮวา นี่เลยทำให้มนุษย์กลายเป็นคนบาปและต้องตาย (ปฐก. 3:1-6; รม. 5:12) การโกหกของซาตานครั้งนั้นทำให้เกิดปัญหาทุกอย่างในโลกตอนนี้ เช่น ความตาย สงคราม และความทุกข์ นี่ทำให้พระยะโฮวาเจ็บปวดไหม? แน่นอน แต่พระองค์ไม่ได้รู้สึกขมขื่นหรือเจ็บแค้นใจไม่หาย พระองค์ยังคงเป็น “พระเจ้าผู้มีความสุข”—1 ทธ. 1:11 ห24.02 น. 8 ว. 1-2
วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม
จะให้ผมทำเรื่องชั่ว ๆ อย่างนี้ได้ยังไง? มันเป็นการทำบาปต่อพระเจ้า—ปฐก. 39:9
คุณจะเลียนแบบโยเซฟได้ยังไง? คุณจะทำอย่างนั้นได้โดยคิดไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ตอนนี้ว่าจะทำยังไงเมื่อเจอการล่อใจ ฝึกที่จะปฏิเสธทันทีเมื่อเจอสิ่งที่พระยะโฮวาเกลียดและไม่คิดถึงมันเลย (สด. 97:10; 119:165) การทำแบบนี้จะทำให้คุณไม่หวั่นไหวเมื่อเจอการล่อใจ คุณอาจรู้อยู่แล้วว่าคุณได้เจอความจริงและอยากรับใช้พระยะโฮวาสุดหัวใจ แต่มีบางอย่างที่ทำให้คุณยังไม่กล้าที่จะอุทิศตัวและรับบัพติศมา ถ้าเป็นแบบนั้นคุณสามารถทำเหมือนกับกษัตริย์ดาวิดได้ โดยขอพระยะโฮวาว่า “พระเจ้า ขอตรวจดูผมอย่างละเอียดและรู้จักหัวใจผม ขอตรวจดูผมและรู้ว่าผมกังวลเรื่องอะไร ขอดูว่าในตัวผมมีอะไรที่ไม่ดีหรือไม่ ขอนำผมไปในทางชีวิตที่ไม่สิ้นสุด” (สด. 139:23, 24) พระยะโฮวาอวยพร “คนที่เสาะหาพระองค์อย่างจริงจัง” การที่คุณพยายามทำตามเป้าหมายที่จะอุทิศตัวและรับบัพติศมาแสดงให้พระองค์เห็นว่าคุณกำลังเสาะหาพระองค์—ฮบ. 11:6 ห24.03 น. 6 ว. 13-15
วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม
มหาปุโรหิตคนอื่น ๆ ถวายเครื่องบูชาทุก ๆ วัน . . . แต่พระเยซูไม่ต้องทำอย่างนั้น—ฮบ. 7:27
มหาปุโรหิตทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนเพื่อเข้าเฝ้าพระเจ้า มหาปุโรหิตคนแรกคืออาโรน เขาได้รับการแต่งตั้งจากพระยะโฮวาตอนที่มีการอุทิศเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ แต่อย่างที่อัครสาวกเปาโลอธิบายไว้ว่า “ต้องมีหลายคนทำหน้าที่ปุโรหิตสืบต่อกัน เพราะพวกเขาต้องตายและทำหน้าที่ต่อไปไม่ได้” (ฮบ. 7:23-26) นอกจากนั้น เนื่องจากมหาปุโรหิตของชาวอิสราเอลเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบ พวกเขาเลยต้องถวายเครื่องบูชาสำหรับบาปของตัวเองด้วย มหาปุโรหิตของชาวอิสราเอลต่างกันมากจริง ๆ กับพระเยซูซึ่งเป็นมหาปุโรหิตที่ยิ่งใหญ่ พระเยซูมหาปุโรหิตของเราเป็น “ผู้รับใช้ . . . ในเต็นท์เข้าเฝ้าที่แท้จริงซึ่งพระยะโฮวาตั้งไว้ ไม่ใช่มนุษย์” (ฮบ. 8:1, 2) เปาโลอธิบายว่า “พระเยซูทำหน้าที่ปุโรหิตโดยไม่ต้องมีผู้สืบทอด เพราะท่านมีชีวิตอยู่ตลอดไป” เปาโลยังบอกอีกว่า พระเยซู “บริสุทธิ์ แตกต่างกับคนบาป” ท่านไม่เหมือนกับมหาปุโรหิตของชาวอิสราเอลที่ต้อง “ถวายเครื่องบูชาทุก ๆ วัน สำหรับบาปของตัวเอง . . . แต่พระเยซูไม่ต้องทำอย่างนั้น” ห23.10 น. 26 ว. 8-9
วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม
ฟ้าสวรรค์เก่าและโลกเก่านั้นสูญสิ้นไปแล้ว—วว. 21:1
“ฟ้าสวรรค์เก่า” หมายถึงรัฐบาลต่าง ๆ ของมนุษย์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของซาตานกับพรรคพวกของมัน (มธ. 4:8, 9; 1 ยน. 5:19) ส่วนคำว่า “โลก” ในคัมภีร์ไบเบิลอาจหมายถึงคนที่อยู่ในโลกด้วย (ปฐก. 11:1; สด. 96:1) ดังนั้น “โลกเก่า” จึงหมายถึงคนชั่วในทุกวันนี้ พระยะโฮวาไม่ได้แค่ปรับปรุงหรือแก้ไข “ฟ้าสวรรค์” และ “โลก” ที่มีอยู่ แต่พระองค์จะกำจัดให้หมดสิ้นไป และพระองค์จะแทนที่ด้วย “ฟ้าสวรรค์ใหม่และโลกใหม่” ซึ่งก็คือรัฐบาลใหม่ที่จะปกครองคนดีในสายตาของพระเจ้า พระยะโฮวาจะฟื้นฟูโลกและมนุษย์ให้สมบูรณ์แบบ และอย่างที่อิสยาห์บอกไว้ล่วงหน้า ทั่วทั้งโลกจะเป็นสวนอุทยานเหมือนสวนเอเดนอีกครั้ง และพระยะโฮวาจะฟื้นฟูเราให้มีร่างกายสมบูรณ์แบบเหมือนกลายเป็นคนใหม่ พระองค์จะรักษาคนที่พิการ ตาบอด และหูหนวกให้หายดี และจะปลุกคนตายให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วย—อสย. 25:8; 35:1-7 ห23.11 น. 4 ว. 9-10
วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม
คุณเองก็ต้องเตรียมพร้อมอย่างนั้น—มธ. 24:44
“ความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่” จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่มันจะต่างจากภัยพิบัติอื่น ๆ เพราะเรารู้ว่ามันจะมาแน่ ๆ (มธ. 24:21) เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อนพระเยซูเตือนทุกคนที่ติดตามท่านว่าต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ ถ้าเราเตรียมตัวให้พร้อม มันก็ง่ายขึ้นที่เราจะอดทนได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นและจะช่วยคนอื่นให้อดทนได้เหมือนกัน (ลก. 21:36) ถ้าพี่น้องสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมด เราจะทำยังไง? เราต้องมีความเห็นอกเห็นใจเพื่อที่เราจะอยากให้ความช่วยเหลือพวกเขา (ฮบก. 3:17, 18) และถ้าเราถูกกลุ่มชาติต่าง ๆ โจมตี แล้วเราต้องอยู่ร่วมกับพี่น้องหลายคนล่ะ? เราก็ต้องรักพี่น้องให้มาก ๆ เพื่อจะผ่านช่วงที่ยากลำบากนั้นไปได้—อสค. 38:10-12 ห23.07 น. 2 ว. 2-3
วันพุธที่ 28 พฤษภาคม
คอยระวังไว้ให้ดี อย่าใช้ชีวิตเหมือนคนโง่ แต่ให้ใช้ชีวิตเหมือนคนฉลาด ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากที่สุด—อฟ. 5:15, 16
สามีภรรยาสามารถเลียนแบบอะควิลลากับปริสสิลลาได้ คริสเตียนยุคแรกรักสองคนนี้มาก (รม. 16:3, 4) พวกเขาประกาศด้วยกัน ทำงานอาชีพด้วยกัน และช่วยคนอื่นด้วยกัน (กจ. 18:2, 3, 24-26) ที่จริง เราสังเกตว่าเวลาที่คัมภีร์ไบเบิลพูดถึงอะควิลลาและปริสสิลลาก็จะเรียกชื่อทั้งสองคนด้วยกันเสมอ สามีภรรยาจะเลียนแบบพวกเขาได้ยังไง? ลองนึกดูว่ามีอะไรบ้างที่คุณสองคนต้องทำ แล้วคุณจะทำด้วยกันได้ไหมแทนที่จะทำคนเดียว? ตัวอย่างเช่น อะควิลลากับปริสสิลลาไปประกาศด้วยกัน คุณวางแผนจะทำแบบนั้นเป็นประจำไหม? นอกจากนั้น อะควิลลากับปริสสิลลาก็ยังทำงานด้วยกัน คุณกับคู่ของคุณอาจไม่ได้ทำงานอาชีพเดียวกัน แต่คุณจะทำงานบ้านด้วยกันได้ไหม? (ปญจ. 4:9) เมื่อพวกคุณช่วยกันทำงาน คุณจะรู้สึกว่าคุณสองคนเป็นทีมเดียวกันและมีโอกาสได้พูดคุยกัน ห23.05 น. 22-23 ว. 10-12
วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม
เมื่อผมกลัว ผมก็วางใจพระองค์—สด. 56:3
เป็นเรื่องธรรมดาที่เราทุกคนจะรู้สึกกลัว มีบางครั้งที่ดาวิดก็รู้สึกกลัวด้วย ตัวอย่างเช่น ตอนที่ซาอูลกำลังตามล่าดาวิด เขากลัวมากจนต้องหนีไปที่เมืองกัทในแผ่นดินฟีลิสเตีย กษัตริย์อาคีชเจ้าเมืองกัทได้มารู้ว่าดาวิดเป็นนักรบที่เก่งกล้าซึ่งฆ่าชาวฟีลิสเตีย “เป็นหมื่น ๆ” เรื่องนี้ทำให้ดาวิดกังวล “เขาเลยกลัวกษัตริย์อาคีชเจ้าเมืองกัทมาก” (1 ซม. 21:10-12) แล้วดาวิดเอาชนะความกลัวได้ยังไง? ในสดุดีบท 56 ดาวิดเล่าถึงความรู้สึกตอนที่เขาอยู่ในเมืองกัท สดุดีบทนั้นทำให้เราเห็นว่าดาวิดกลัวขนาดไหนแต่ก็ทำให้รู้ด้วยว่าเขาเอาชนะความกลัวได้ยังไง ตอนที่ดาวิดกลัว เขาวางใจในพระยะโฮวา (สด. 56:1-3, 11) และพระยะโฮวาก็ช่วยดาวิดจริง ๆ พระองค์ช่วยเขาให้สามารถคิดแผนการที่อาจจะดูแปลกแต่ก็ได้ผลดีมาก ดาวิดแกล้งทำตัวเหมือนคนบ้า นี่เลยทำให้อาคีชอยากไล่เขาไปพ้น ๆ แทนที่จะฆ่าเขา ดาวิดเลยรอดชีวิตมาได้—1 ซม. 21:13–22:1 ห24.01 น. 2 ว. 1-3
วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม
คนที่อยู่กับท่านซึ่งพระเจ้าเรียกและเลือกไว้ และเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ก็จะชนะเหมือนกัน—วว. 17:14
คนที่พูดถึงในข้อคัมภีร์ประจำวันนี้คือใคร? คือผู้ถูกเจิมนั่นเอง ดังนั้น เมื่อผู้ถูกเจิมทุกคนบนโลกถูกรับไปสวรรค์ตอนใกล้จบความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ หนึ่งในงานมอบหมายแรกของพวกเขาก็คือการต่อสู้ในสงครามอาร์มาเกดโดน หลังจากถูกรับไปสวรรค์แล้ว พวกเขาจะเข้าร่วมในกองทัพสวรรค์กับพระเยซูและทูตสวรรค์องค์อื่น ๆ และทำสงครามกับศัตรูของพระเจ้าในวันอาร์มาเกดโดน ลองคิดดูสิว่าตอนนี้คริสเตียนผู้ถูกเจิมบางคนแก่แล้วและไม่ค่อยแข็งแรง แต่พอพวกเขาขึ้นไปสวรรค์ พวกเขาจะมีร่างกายสำหรับสวรรค์ที่เป็นอมตะและมีฤทธิ์อำนาจมาก พวกเขาจะร่วมรบเคียงข้างพระเยซูกษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่ หลังสงครามอาร์มาเกดโดนพวกเขาจะทำงานกับพระเยซูในการทำให้มนุษย์ที่อยู่บนโลกกลายเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ ตอนที่พวกเขาอยู่บนสวรรค์ พวกเขาจะสามารถช่วยพี่น้องที่อยู่บนโลกได้มากกว่าตอนที่พวกเขาเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบแน่ ๆ ห24.02 น. 6-7 ว. 15-16
วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม
ให้พวกคุณใช้ชีวิตตามการชี้นำจากพลังของพระเจ้า แล้วพวกคุณจะไม่ทำตามความต้องการของร่างกายที่มีบาปเลย—กท. 5:16
บางคนที่พร้อมแล้วอาจยังไม่กล้าที่จะอุทิศตัวและรับบัพติศมาเพราะกลัวว่า ‘หลังจากที่รับบัพติศมาแล้ว ถ้าเกิดฉันทำผิดร้ายแรงและถูกตัดสัมพันธ์ล่ะ ฉันจะทำยังไง?’ ถ้าคุณกลัวแบบนั้นก็ขอให้มั่นใจว่า พระยะโฮวาจะให้ทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อจะช่วยให้คุณ “ใช้ชีวิตให้สมกับการเป็นผู้รับใช้พระยะโฮวาเพื่อจะทำให้พระองค์พอใจเสมอ” (คส. 1:10) นอกจากนั้น พระยะโฮวาจะให้กำลังกับคุณเพื่อจะช่วยคุณทำสิ่งที่ถูกต้องด้วย พระองค์เคยช่วยหลายคนให้ทำสำเร็จมาแล้ว (1 คร. 10:13) นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่มีคนถูกตัดสัมพันธ์ไม่มากเท่าไหร่ พระยะโฮวาช่วยคนของพระองค์ให้รักษาความซื่อสัตย์ได้ ทุกคนที่เป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบถูกล่อใจให้ทำผิด (ยก. 1:14) ถึงจะเป็นแบบนั้น คุณก็เลือกได้ว่าจะทำยังไงตอนที่ถูกล่อใจ คุณสามารถเรียนรู้ที่จะควบคุมความต้องการที่จะทำสิ่งไม่ดีได้แม้คนทั่วไปในโลกจะบอกว่าทำไม่ได้ ห24.03 น. 5-6 ว. 11-12