“คนเหล่านั้นที่ได้อดทนก็เป็นสุข”
1. ตั้งแต่ปี 1914 สภาพการณ์อะไรบนแผ่นดินโลกสมจริงตามที่กล่าวในมัดธาย 24:3-8 และคำอ้างอะไรของสันนิบาตชาติและสหประชาชาติไม่ได้ผลสมจริง?
ในหนังสือเดอะ เพรเซนท์ เอจ โรเบิร์ต นิสเบ็ทพูดถึง “สงครามที่ดำเนินมาได้เจ็ดสิบห้าปี แทบจะไม่มีว่างเว้นตั้งแต่ปี 1914.” ใช่ “สงครามและข่าวเล่าลือถึงการสงคราม” รวมทั้งสงครามโลก—เป็นสิ่งซึ่งพระเยซูคริสต์ทรงพยากรณ์ว่าจะเกิดขึ้นในสมัยสุดท้ายนี้. (มัดธาย 24:3-8) มีการตั้งสันนิบาตชาติขึ้นในปี 1920 “เพื่อป้องกันสงครามตลอดไป.” องค์การนี้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง! แล้วในปี 1945 ได้มีการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติขึ้น “เพื่อปกป้องผู้คนรุ่นต่อไปพ้นภัยพินาศจากสงคราม.” แต่หนังสือที่เขียนโดยแม็กซ ฮาร์เรลซันชื่อไฟได้ลุกลามไปทั่วขอบฟ้า ก็กล่าวว่า “ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองสงบลง แทบจะไม่มีแม้แต่วันเดียวที่ไม่สู้รบกันที่นั่นบ้างที่นี่บ้าง.”
2. เกี่ยวเนื่องกับสภาพการณ์ของโลก ผู้คนได้ถามอะไร แต่เราน่าจะถามปัญหาอะไร?
2 ลัทธิก่อการร้ายและความรุนแรง การฉ้อราษฏร์บังหลวงและความยากจนข้นแค้น ยาเสพย์ติดและโรคระบาด ทั้งหมดนี้เพิ่มพูนจนมองเห็นภาพอันแสนเอน็จอนาถ. บางคนอาจถามว่า ‘เผ่าพันธุ์มนุษย์จะทนอยู่ต่อไปได้อย่างไรกับสภาพการณ์ที่ยุ่งเหยิงน่าร้อนใจเช่นนี้.’ แต่สำคัญกว่านั้น เราน่าจะถามว่า ‘พระเจ้าทรงอดทนอย่างไรต่อการก่อความเสียหายแก่สรรพสิ่งที่พระองค์ได้สร้างไว้บนแผ่นดินโลก? พระองค์จะยอมให้คนชั่วทำลายแผ่นดินโลกและนำคำตำหนิมาสู่พระนามอันดีเลิศของพระองค์อีกนานเท่าไร?’
3. (ก) ผู้พยากรณ์ยะซายาตั้งคำถามอะไร และทำไม? (ข) พระยะโฮวาตรัสตอบอย่างไร และเรื่องนี้บ่งชี้ถึงอะไรสำหรับสมัยนี้?
3 ผู้พยากรณ์ยะซายาได้ยกคำถามคล้าย ๆ กันขึ้นมา. ท่านได้รับมอบหมายให้ประกาศข่าวสารที่มาจากพระยะโฮวาแก่เพื่อนร่วมชาติ. และท่านก็ได้รับการเตือนล่วงหน้าว่า คนเหล่านั้นจะไม่ฟังท่านและไม่ฟังพระเจ้า. ฉะนั้นยะซายาถามว่า “ข้าแต่พระยะโฮวา จะเป็นไปอย่างนี้นานสักเท่าใด?” หมายถึงว่า ยะซายาจะต้องประกาศแก่ชาติที่ดื้อด้านนานเท่าไร และพระยะโฮวาจะอดทนอีกนานเท่าไรกับการปฏิเสธอย่างดูถูกไม่ยอมเชื่อฟังข่าวสารของพระองค์? พระยะโฮวาตรัสตอบว่า “จนถึงบ้านเมืองจะร้างไม่มีพลเมืองอยู่ เรือนก็จะไม่มีคน แผ่นดินก็จะร้างเสียทีเดียว.” (ยะซายา 6:8-11) ทุกวันนี้ก็คล้าย ๆ กัน พระเจ้าทรงทนต่อการดูหมิ่นเหยียดหยามกระทั่งเมื่อถึงเวลากำหนดที่พระองค์จะทรงลงโทษโลกซึ่งตัวการสำคัญดูหมิ่นพระองค์ก็ได้แก่คริสต์ศาสนจักรที่ไม่ซื่อสัตย์นั้นเอง.
4. ความอดทนของโยบก่อผลอะไร และเรื่องนี้ให้คำรับรองอะไรแก่พวกเราสมัยนี้?
4 พระยะโฮวาทรงอดทนต่อการเยาะเย้ยของซาตานมานานแล้ว. ประมาณ 3,600 ปีมาแล้ว โยบผู้ซื่อสัตย์ก็อดทนเหมือนกัน ท่านพิสูจน์หักล้างคำท้าของซาตานที่กล่าวหาว่า โยบจะไม่สามารถรักษาความซื่อสัตย์ภักดีเมื่อถูกทดลอง. ความซื่อสัตย์ของโยบได้ยังความเบิกบานแก่พระหฤทัยของพระยะโฮวาเพียงไร! (โยบ 2:6-10; 27:5; สุภาษิต 27:11) ดังที่ยาโกโบน้องชายของพระเยซูแต่ต่างบิดาได้พูดในเวลาต่อมาว่า “นี่แน่ะ! เราบอกว่า คนเหล่านั้นที่ได้อดทนก็เป็นสุข. ท่านทั้งหลายเคยได้ยินถึงความอดทนของโยบ และได้เห็นผลที่พระยะโฮวาทรงประทานแล้วว่า พระยะโฮวาทรงเปี่ยมด้วยความรักใคร่อันละมุนละไมและเมตตา.” ทำนองเดียวกัน บรรดาผู้ที่อดทนร่วมกับพระยะโฮวาย่อมแน่ใจได้ว่า จะได้ความสุข.—ยาโกโบ 5:11, ล.ม.
5. พระเยซูแสดงให้เห็นอย่างไรว่า ความอดทนเป็นข้อเรียกร้องสำหรับพลไพร่ของพระเจ้าในปัจจุบัน และพวกเขาต้องอดทนขณะปฏิบัติงานอะไร?
5 พระเยซูทรงแสดงให้เห็นชัดว่า ไพร่พลของพระเจ้าในทุกวันนี้จำต้องอดทน. เมื่อทรงทำนายบอกหมายสำคัญที่ชี้ถึง “อวสานแห่งระบบของสิ่งต่าง ๆ” พระองค์ตรัสว่า “ผู้ใดทนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอด.” อดทนขณะที่ทำอะไร? คำตรัสของพระเยซูในข้อถัดไปให้คำตอบ: “กิตติศัพท์อันประเสริฐแห่งแผ่นดินนี้จะได้ประกาศไปทั่วโลกให้เป็นพยานแก่บรรดาชาติมนุษย์ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง.” (มัดธาย 24:3, 13, 14) ก่อน ‘อวสานจะมาถึง’ ต้องมีการประกาศข่าวดี.—โปรดดูที่มาระโก 13:10, 13; ลูกา 21:17-19 ด้วย.
เหตุผลที่พระยะโฮวาทรงอดทน
6. ทำไมพระยะโฮวาเป็นตัวอย่างเด่นในเรื่องความอดทน และพระองค์ได้ทรงอดทนนานถึงเพียงนั้นเนื่องด้วยเหตุผลอะไร?
6 อัครสาวกเปาโลอธิบายว่า “แล้วถ้าพระเจ้าประสงค์จะสำแดงความพิโรธของพระองค์และบันดาลให้ฤทธิ์เดชของพระองค์ปรากฏ แต่ยังได้ทรงอดกลั้นพระทัยไว้นานแก่ผู้เหล่านั้นที่เป็นเครื่องภาชนะแห่งความพิโรธซึ่งจัดเตรียมไว้สำหรับความพินาศ.” (โรม 9:22) ทำไมพระยะโฮวาทรงอดทนต่อคนชั่วคือเครื่องภาชนะแห่งความพิโรธเรื่อยมา? เหตุผลข้อหนึ่งคือ: เพื่อแสดงว่า การปกครองโดยมนุษย์ที่ไม่หมายพึ่งพระเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์นั้นย่อมประสบแต่ความล้มเหลว. (ยิระมะยา 10:23) ในไม่ช้า พระบรมเดชานุภาพของพระเจ้าจะได้รับการชันสูตรเชิดชูในคราวที่มีการพิสูจน์ว่า พระองค์แต่ผู้เดียวสามารถนำสันติสุข ความปรองดอง และความสุขมาสู่ครอบครัวมนุษย์โดยวิถีการปกครองแห่งราชอาณาจักรของพระเยซู.—บทเพลงสรรเสริญ 37:9-11; 45:1, 6, 7.
7. มีเหตุผลอื่นอะไรบ้างที่พระยะโฮวาทรงอดทนนานขนาดนั้น ทั้งนี้ยังคุณประโยชน์อะไรแก่ประชาชนนับล้านคนตั้งแต่ทศวรรษปี 1930 เป็นต้นมา?
7 นอกจากนั้น พระยะโฮวาทรงอดทน “เพื่อจะได้ทรงสำแดงสง่าราศีอันอุดมของพระองค์แก่ผู้เหล่านั้นที่เป็นเครื่องภาชนะแห่งความเมตตา.” (โรม 9:23) ภาชนะแห่งความเมตตานี้ได้แก่ชนผู้ถูกเจิมที่รักษาความซื่อสัตย์ภักดี ซึ่ง “ได้ทรงไถ่ไว้แล้วจากแผ่นดินโลก” เพื่อให้ครอบครองกับพระเยซูคริสต์ในราชอาณาจักรทางภาคสวรรค์. การประทับตราชน 144,000 คนได้ดำเนินเรื่อยมานับจากสมัยอัครสาวก. บัดนี้ก็จวนจะเสร็จสิ้น. (วิวรณ์ 7:3; 14:1, 4) และดูซิ! เนื่องด้วยพระยะโฮวาแสดงความอดกลั้นมาตลอดตั้งแต่ช่วงทศวรรษปี 1930 จึงเป็นโอกาสที่ “มหาชนหมู่ใหญ่จากทุกประเทศ” จำนวนหลายล้านได้รับการรวบรวมเข้ามา ผู้ซึ่งชื่นชมยินดีในความหวังจะได้ผ่านความทุกข์ลำบากใหญ่ยิ่งรอบสุดท้าย แล้วมีชีวิตนิรันดร์อยู่ในแผ่นดินโลกอันเป็นอุทยาน. (วิวรณ์ 7:4, 9, 10, 13–17) คุณเป็นคนหนึ่งในกลุ่มมหาชนนี้ไหม? ถ้าคุณเป็นอย่างนั้น คุณรู้สึกยินดีไหมที่พระยะโฮวาทรงอดกลั้นต่อภาชนะแห่งความพิโรธจนถึงเวลานี้? อย่างไรก็ดี คุณจะต้องอดทนต่อ ๆ ไปเหมือนพระยะโฮวาที่ได้ทรงอดทนมาช้านาน.
ความอดทนมีบำเหน็จ
8. ทำไมพวกเราทุกคนจำต้องมีความอดทน และเราควรตั้งใจพิจารณาตัวอย่างความอดทนของใคร?
8 พวกเราทุกคนจะต้องมีความอดทนถ้าเราหวังจะได้ตามคำสัญญา. หลังจากการพูดความจริงพื้นฐานเรื่องนี้ที่เฮ็บราย 10:36 อัครสาวกเปาโลพรรณนาความเชื่อแท้ และความอดทนของ “พยานหมู่ใหญ่” ในกาลโบราณไว้อย่างละเอียด. ครั้นแล้วท่านเตือนเราให้ “วิ่งแข่งกันที่กำหนดไว้ด้วยความเพียรพยายาม หมายเอาพระเยซูเป็นผู้นำและเป็นผู้ส่งเสริมความเชื่อของเราให้สำเร็จ. เพราะเห็นแก่ความยินดีที่มีอยู่ตรงหน้านั้น” พระเยซูได้ทรงอดทนในงานรับใช้อย่างเต็มพระทัย ทรงจดจ้องบำเหน็จนั้นเสมอ. ตัวอย่างของพระองค์หนุนใจเรามากเพียงไรที่จะอดทนเช่นเดียวกัน!—เฮ็บราย 12:1, 2.
9. ตัวอย่างต่าง ๆ เกี่ยวกับความอดทนในสมัยปัจจุบันบังเกิดผลในทางใด?
9 ตัวอย่างความอดทนสมัยปัจจุบันมีมากมายเหมือนกัน. บางทีคุณคงรู้จักหรือเคยรู้จักพี่น้องชายหญิงซึ่งอดทนเป็นเยี่ยม. ความซื่อสัตย์ของเขาให้กำลังใจแก่พวกเรามากเพียงไร! แต่ละปี เมื่อพยานพระยะโฮวาส่งรายงานกิจกรรมไปยังสมาคมวอชเทาเวอร์ เขาพูดถึงประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับความอดทนและความซื่อสัตย์ภักดี. แผนภูมิที่นำลงพิมพ์ในสี่หน้าก่อนหน้านี้เป็นการสรุปผลงานซึ่งกระทำกันอย่างใหญ่โตในช่วงปี 1989 ขณะที่พยานฯเหล่านี้ได้ ‘เอาความอดทนเพิ่มเข้ากับความเชื่อ.’—2 เปโตร 1:5, 6.
ปียิ่งใหญ่สำหรับพวกเรา
10. (ก) มีกี่ประเทศและหมู่เกาะที่ได้ร่วมประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรในปี 1989 และมีกี่คนเข้าส่วนในงานนี้? (ข) เดือนที่ปรากฏว่ามีไพโอเนียร์มากที่สุดนั้นมีจำนวนไพโอเนียร์เท่าไร และยอดจำนวนที่ใช้ในการประกาศกี่ชั่วโมง?
10 ดังที่เห็นในแผนภูมิก่อนหน้านี้มี 212 ประเทศและหมู่เกาะต่าง ๆ ซึ่งมีส่วนร่วมในงานประกาศเรื่องราชอาณาจักรของพระยะโฮวาที่กำลังมา. พวกคุณที่อ่านวารสารหอสังเกตการณ์ คุณเป็นคนหนึ่งไหมที่มีสิทธิพิเศษอยู่ในจำนวน 3,787,188 คนที่ได้ร่วมงานมโหฬารเช่นนี้? คุณเป็นหนึ่งใน 808,184 คนที่ได้รายงานการรับใช้ฐานะเป็นไพโอเนียร์ในเดือนที่มีไพโอเนียร์มากที่สุดไหม? ไม่ว่าคุณเข้าส่วนสนับสนุนมากน้อยแค่ไหนใน 835,426,538 ชั่วโมงที่ใช้เพื่องานประกาศทั่วโลกปี 1989 คุณมีเหตุผลจะชื่นชมยินดี.—บทเพลงสรรเสริญ 104:33, 34; ฟิลิปปอย 4:4.
11. (ก) จำนวนผู้ร่วมประชุม ณ พิธีอนุสรณ์วันที่ 22 มีนาคมปีกลายมีเท่าไรอันเป็นสาเหตุแห่งความชื่นชมยินดี และเพราะเหตุใด? (ข) มีกี่คนรับบัพติสมาระหว่างปีรับใช้ที่ผ่านมา และประเทศไหนที่ระบุในแผนภูมินับว่าเด่นในเรื่องนี้?
11 เหตุผลที่ควรชื่นชมอีกอย่างหนึ่งคือวันที่ 22 มีนาคมปีที่แล้วมียอดจำนวนผู้เข้าร่วมการฉลองพิธีอนุสรณ์ระลึกการวายพระชนม์ของพระคริสต์จากทั่วโลก 9,479,064 คน! ข้อนี้ชี้ให้เห็นศักยภาพที่จะมีผู้ประกาศราชอาณาจักรเพิ่มเข้ามาอีก 5,691,876 คน ถ้าคนสนใจมีนิสัยเยี่ยงแกะเหล่านี้จะได้รับการบำรุงเลี้ยงด้วยความรัก แล้วถูกนำเข้ามาอยู่ในคอกเพื่อจะมีส่วนรับใช้พระยะโฮวาเป็นประจำ. เราจะช่วยเขาได้ไหม? (โยฮัน 10:16; วิวรณ์ 7:9, 15) คนเป็นอันมากกำลังตอบรับอยู่แล้ว ดังที่เห็นได้จากยอดจำนวนพยานฯใหม่ที่ได้รับบัพติสมา 263,855 คนในช่วงปีการรับใช้ 1989.
12. จุดเด่นบางอย่างที่ไม่ปรากฏอยู่ในแผนภูมินั้นมีอะไรบ้าง (ก) เกี่ยวกับโรงพิมพ์ของสมาคมวอชเทาเวอร์? (ข) การจำหน่ายวารสารและการบอกรับวารสาร?
12 ยังมีบางอย่างที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ในแผนภูมิ. ความต้องการไม่หยุดหย่อนในด้านสรรพหนังสือ พระคัมภีร์ หนังสือปกแข็ง จุลสาร และวารสาร. ด้วยเหตุนี้ โรงพิมพ์วอชเทาเวอร์ในนิวยอร์กจึงได้ใช้กระดาษรวมน้ำหนักทั้งสิ้น 25,999 ตันสำหรับพิมพ์พระคัมภีร์ หนังสือปกแข็งและจุลสารจำนวน 35,811,000 เล่ม เพิ่มขึ้นถึง 101 เปอร์เซ็นต์จากปี 1988. โรงพิมพ์ใหญ่ ณ ที่อื่น ๆ ของสมาคมวอชเทาเวอร์ โดยเฉพาะในเยอรมนี อิตาลีและญี่ปุ่นถึงกับต้องจัดเวลาทำงานผลัดพิเศษ เพื่อสนับสนุน “บ่าวสัตย์ซื่อและสุขุมรอบคอบ” ในการแจกจ่าย “อาหารตามเวลา.” (มัดธาย 24:45) ระหว่างเดือนเมษายนและพฤษภาคม การจำหน่ายวารสารและจำนวนผู้บอกรับอ่านประจำเพิ่มมากเป็นพิเศษในหลายประเทศ เนื่องจากมีการเน้นหนักให้จำหน่ายหอสังเกตการณ์ ฉบับที่ลงเรื่อง “บาบูโลนใหญ่.” (วิวรณ์ 17:5) ไม่สงสัย เดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ไพโอเนียร์สมทบและพยานฯคนอื่น ๆ อีกมากมายจะออกไปทั่วเขตประกาศ ซึ่งคงจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดอีกครั้งหนึ่งสำหรับพวกเราจะให้คำพยานในปีรับใช้ 1990.—เทียบกับยะซายา 40:31; โรม 12:11, 12.
13. ประเทศไหนบ้างที่ปรากฏในแผนภูมิ ซึ่งเมื่อปีกลายไม่มี? จงอธิบาย.
13 โปรดพิจารณาแผนภูมิอีกครั้งหนึ่ง. คุณพบบางประเทศไหมซึ่งไม่ปรากฏในรายงานปีกลาย? ใช่แล้ว! . . . ฮังการี, โปแลนด์ . . . บางประเทศปรากฏชื่อเป็นครั้งแรกเป็นที่โดดเดี่ยวซึ่งความจริงแห่งราชอาณาจักรเพิ่งงอกราก. แต่ในประเทศฮังการีและโปแลนด์ งานประกาศของเราเพิ่งได้รับอนุญาตจากทางการเมื่อเร็ว ๆ นี้. พวกเรารู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลในประเทศเหล่านี้ซึ่งบัดนี้แสดงความเห็นใจพยานพระยะโฮวาถึงขนาดนั้น. ในแง่นี้เห็นได้ว่า พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของพี่น้องทั่วโลกแล้ว “เพื่อเราจะประกอบชีวิตได้อย่างสงบสุขโดยทางธรรม [ความเลื่อมใสในพระเจ้า, ล.ม. ] และโดยการประพฤติซึ่งเป็นสง่าผ่าเผย.”—1 ติโมเธียว 2:1, 2.
14. จงชี้จุดเด่นบางประการของการประชุมภาค “ความเลื่อมใสในพระเจ้า” ในประเทศโปแลนด์?
14 “ความเลื่อมใสในพระเจ้า”! การประชุมภาค “ความเลื่อมใสในพระเจ้า” สามารถจัดขึ้นได้แม้แต่ในโปแลนด์ถึงสามแห่งด้วยกันระหว่างเดือนสิงหาคม! ปรากฏว่าพี่น้องชาวโปแลนด์ 91,024 คนเป็นเจ้าภาพต้อนรับพวกเราอย่างดีเยี่ยมจริง ๆ! (เฮ็บราย 13:1, 2, 16) ประหนึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทีเดียว พี่น้องนับหมื่น ๆ คนมีทั้งชาวเชโก เยอรมัน รุสเซีย และชาติอื่นได้วีซ่าเดินทางโดยรถประจำทาง รถไฟ และเดินเท้าด้วยซ้ำ. หลายพันคนเดินทางโดยเครื่องบินจากอเมริกา ยุโรปตะวันตก บ้างมาจากหมู่เกาะห่างไกลแห่งแปซิฟิกและญี่ปุ่น. สนามกีฬาใหญ่ซึ่งพี่น้องของเราได้ทำความสะอาดจนเอี่ยมอ่องไม่มีที่ติก็แทบไม่กว้างพอบรรจุพี่น้อง 65,710 คนที่คาโตวิทเซ, 40,442 คนที่โปซนัน, และ 60,366 คนที่วอร์ซอ—ยอดผู้ร่วมประชุมทั้งสิ้น 166,518 คน! ณ การประชุมแต่ละแห่ง ภาพอันตื่นตาจากการให้รับบัพติสมาก่อความปลาบปลื้มจนน้ำตาคลอ. ที่โปซนันมีเด็กอายุ 9 ขวบและผู้ชราอายุ 90 ได้รับบัพติสมา และยอดจำนวนผู้รับบัพติสมาทั้งสามแห่ง 6,093 คน รวมเอาหนุ่มสาววัยรุ่นมากมาย หลายคนในจำนวนนี้มาจากประเทศที่เคยพูดว่า ศาสนาจะสิ้นไปเมื่อสิ้นรุ่นคนแก่. สำหรับศาสนาแท้ที่ยึดอยู่กับพระคำของพระเจ้าไม่เป็นอย่างนั้น! (เทียบบทเพลงสรรเสริญ 148:12, 13; กิจการ 2:41; 4:4.) ความอดทนของพวกพี่น้องในยุโรปตะวันออกนั้นมีบำเหน็จล้นเหลือจริง ๆ!
ซื่อสัตย์อยู่เรื่อยไปภายใต้การทดลอง
15. เหล่าพยานฯในเลบานอนได้แสดงความอดทนและความมั่นคงแน่วแน่อย่างไร และเขาได้รับผลดีเช่นไร?
15 เช่นเดียวกับอัครสาวกเปาโล พยานพระยะโฮวาต้องแสดงความอดทนภายใต้สภาพการณ์หลายอย่างต่าง ๆ กัน. (2 โกรินโธ 11:24-27) ในประเทศเลบานอนมีสงครามกลางเมือง. พี่น้องของเราที่นั่นแสดงท่าทีอย่างไร? พวกเขายืนหยัดมั่นคงและตั้งใจแน่วแน่. ปี 1989 ปรากฏว่าเมืองนี้ถูกถล่มด้วยปืนใหญ่และมีการขว้างระเบิดกันอย่างหนัก แต่ถึงแม้ในบางแห่งซึ่งโดนหนักที่สุด พี่น้องก็ยังตั้งใจไม่ย่อท้อ. ประชาคมแห่งหนึ่งในเบรุตรายงานดังนี้: “มีการจัดกลุ่มออกประกาศตอนเย็นกันทุกวันในรอบสัปดาห์. ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ไม่อำนวยให้มีความปลอดภัยก็ตาม แต่พวกพี่น้องก็ไม่ท้อใจ. เราได้ทำงานกันอย่างทั่วถึงมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก. เดือนเมษายนเราได้ยอดจำนวนไพโอเนียร์ เริ่มการศึกษาพระคัมภีร์รายใหม่หลายราย ทั้งได้จำหน่ายวารสารกับหนังสือปกแข็งออกไปเป็นจำนวนมาก.”
16. โดยการนำข่าวดีไปประกาศในเมืองต่าง ๆ ที่ไม่มีพยานฯอยู่ พวกพี่น้องในประเทศโคลัมเบียได้แสดงความอดทนโดยวิธีใด?
16 ประเทศโคลัมเบียเป็นข่าวครึกโครมในด้านการค้ายาเสพย์ติด และการก่อความรุนแรง. แต่ความอดทนอย่างซื่อสัตย์ของคริสเตียนในประเทศนั้นก็เป็นข่าวใหญ่เหมือนกัน. เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไพโอเนียร์พิเศษชั่วคราวถูกส่งออกไปทำงานใน 31 เมืองซึ่งมีประชาชนนับหมื่นขึ้นไปและไม่มีพยานฯเลย. ณ เมืองหนึ่ง ครั้นคนสนใจใหม่รู้ว่า ไพโอเนียร์จะอยู่ที่นั่นเพียงสองสามเดือนเท่านั้น จึงได้วิงวอนขอไพโอเนียร์อยู่ต่อ. อีกเมืองหนึ่ง ผู้สนใจ 18 คนลงชื่อในจดหมายแสดงความหยั่งรู้ค่าการช่วยเหลือฝ่ายวิญญาณซึ่งได้รับจากไพโอเนียร์ระหว่างสามเดือนที่เขาอยู่ที่นั่นและขอร้องการช่วยเหลือเพิ่ม. พวกเขาบอกว่า “มันเป็นเรื่องสำคัญมาก.” ไม่จำเป็นต้องกล่าวก็ได้ว่า ทั้งสองรายนี้ได้มีการจัดเตรียมเพื่อช่วยผู้สนใจต่อไป. การพัฒนาท้องที่ซึ่งอยู่ห่างไกลเช่นนั้นต้องใช้ความอดทน แต่การทำงานอย่างขันแข็งของไพโอเนียร์ก็ได้รับพระพรอุดม.
17, 18. (ก) พยานพระยะโฮวาในประเทศอิตาลีได้อดทนภายใต้สถานการณ์เช่นไร? (ข) พยานพระยะโฮวาได้ผลอย่างไรถึงแม้มีการกระจายข่าวใส่ความพวกเขา?
17 ที่อิตาลี พยานพระยะโฮวาเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากนักเทศน์นักบวช แต่ด้วยกำลังที่มาจากพระยะโฮวา พวกเขาจึงอดทน. ตามหมู่บ้านและตำบลต่าง ๆ นักเทศน์นักบวชได้แจกจ่ายสติกเกอร์ให้ชาวบ้านนำไปติดไว้ที่ประตูเรือน เตือนพยานพระยะโฮวาไม่ให้กดออดเรียก. บาทหลวงหลายคนกะเกณฑ์เด็กผู้ชายไปตามบ้านเรือนพร้อมกับนำเอาสติกเกอร์ไปติดไว้ที่ประตูบ้านทุกหลัง—กระทั่งบ้านพยานพระยะโฮวาเสียด้วยซ้ำ! อย่างไรก็ดี พยานฯก็ไม่รู้สึกหวั่นกลัว และบ่อยครั้งเขาเปิดฉากสนทนาโดยอ้างถึงสติกเกอร์. ยิ่งกว่านั้น หนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์แห่งชาติได้ออกข่าวอย่างกว้างขวาง ตำหนินักเทศน์ที่ได้ปิดกั้นเสรีภาพทางศาสนาและมีการเน้นว่า กลยุทธ์อย่างที่ทำไปเช่นนี้แท้ที่จริงก็เป็นข้อบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของคริสต์จักร. ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจมาก ๆ ที่ได้มีการติดสติกเกอร์ต่อต้านพยานฯฉะนั้นจึงได้บอกรับวารสารหอสังเกตการณ์ กับตื่นเถิด.
18 ศาสนาคาทอลิกในอิตาลีถึงกับใช้พวกออกหากออกไปแพร่ข่าวเท็จใส่ร้ายไพร่พลของพระยะโฮวา แต่การกระทำดังกล่าวไม่สำเร็จผลเช่นกัน เพราะผู้ประกาศจำนวน 172,382 คนมีชื่อเสียงดีเป็นที่รู้จักและได้รับความนับถือ. ชายผู้หนึ่งได้บอกพยานฯที่ไปเยี่ยมเขาว่า เขาเคยอ่านสิ่งไม่ดีเกี่ยวกับพวกเราจากหนังสือที่เขียนโดยอดีตพยานพระยะโฮวา. ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต่อต้านเมื่อน้องชายเข้ามาเป็นพยานพระยะโฮวา. ต่อมาภายหลัง เขาสังเกตว่าการเปลี่ยนศาสนาของน้องชายมีผลกระทบในทางที่ดีต่อเขา. เขาเริ่มตระหนักว่า ‘จะเป็นไปได้อย่างไรสำหรับสิ่งเลวร้ายจะเกิดผลอันดีงามเช่นนั้นได้?’ ดังนั้น ชายผู้นี้จึงได้ขอศึกษาพระคัมภีร์กับพยานฯที่ไปเยี่ยมเขา.—เทียบกับโกโลซาย 3:8-10.
รับมือกับความไม่แยแส
19, 20. (ก) สภาพการณ์อะไรที่ฟินแลนด์ซึ่งเรียกร้องเหล่าพยานฯให้มีความอดทน และอะไรเป็นจุดเด่นจากการสำรวจความคิดเห็นของฝ่ายคริสต์จักร? (ข) ประสบการณ์อะไรแสดงถึงความสำคัญของความอดทนในการประกาศข่าวดี?
19 ในประเทศซึ่งพยานพระยะโฮวาออกประกาศบ่อย ประชาชนมักจะแสดงความไม่แยแสต่อข่าวดี. เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ในประเทศฟินแลนด์. คริสต์จักรในประเทศนี้ได้ออกสำรวจความคิดเห็นของประชาชนแล้วก็พบว่า ร้อยละเจ็ดสิบของประชากรไม่อยากให้พยานพระยะโฮวาไปประกาศที่บ้านของตน. แต่ร้อยละสามสิบไม่คัดค้านเท่าไรนัก และจากจำนวนนี้มีร้อยละสี่บอกว่าพวกเขาเองชอบพยานพระยะโฮวาเสียด้วยซ้ำ. ตัวเลขนี้น่าสนใจ. สี่เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรของฟินแลนด์ก็คือ 200,000 คน. เทียบจำนวนนี้กับจำนวนผู้ประกาศ 17,303 คนขณะนี้ก็แล้วกัน!
20 ขณะที่ผู้ประกาศคนหนึ่งไปเยี่ยมตามบ้านประจวบกับบุคคลที่รู้เรื่องการสำรวจถามความคิดเห็นจึงถูกถามดังนี้ “คุณทราบไหมว่า พวกเรามากถึง 70 เปอร์เซ็นต์เห็นว่า พวกคุณไม่เป็นที่พึงปรารถนา? ทำไมพวกคุณมาเยี่ยมพวกเราถึงบ้านไม่หยุดหย่อน?” ผู้ประกาศตอบว่า “ใช่ แต่จากการสำรวจอย่างเดียวกันแจ้งชัดว่า อย่างพวกคุณนี้มีร้อยละสี่ชอบพวกเรา. เรากำลังหาคนเหล่านั้น. ถึงแม้เขาจะมีจำนวนเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ เราก็ยังคงไปตามบ้านเพื่อจะสืบหาเขาจนพบ.” เจ้าของบ้านตรึกตรองอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า “ข่าวสารที่คุณนำไปบอกเขาสำคัญถึงเพียงนั้นทีเดียวหรือ?” ผู้ประกาศย้อนถามดังนี้ “คุณอยากรู้ข่าวนั้นไหมล่ะ?” ต่อจากนั้นเจ้าของบ้านก็แสดงความสนใจต่อข่าวดี.
จะเกิดอะไรขึ้นในกาลภายหน้า
21. (ก) ในระบบปัจจุบันเราต้องทนรับการต่อสู้แบบไหนและทำไม? (ข) เราอาจจะต้องอดทนกับสิ่งใด และคำพยากรณ์ของฮะบาฆูคให้คำรับรองพวกเราในเรื่องใด?
21 เวลานี้พวกเราทุกคนเป็นอย่างไร? เราตั้งใจแน่วแน่จะอดทนร่วมกับพระยะโฮวาและพระเยซูคริสต์กระทั่งถึงที่สุดไหม? บางทีอาจไม่นานเท่าไร แต่เราก็ต้องอดทน! ในระบบของซาตาน เราจำต้องปล้ำสู้อย่างทรหดเพื่อความเชื่อ เนื่องจากเราอยู่ท่ามกลางโลกที่มีการประพฤติผิดศีลธรรม การทุจริตฉ้อโกง การเกลียดชังกัน. (ยูดา 3, 20, 21) เราอาจต้องอดทนการข่มเหงไม่แบบใดก็แบบหนึ่ง. แม้แต่เวลานี้ พี่น้องของเรานับพัน ๆ คนกำลังติดคุกและบางคนถูกทุบตีอย่างทารุณ. คนเหล่านี้ต่างก็ขอบคุณที่เราอธิษฐานเผื่อเขา. (2 เธซะโลนิเก 3:1, 2) ในไม่ช้า ระบบปัจจุบันจะสิ้นสุด! ดังฮะบาฆูคกล่าวว่า “ด้วยว่านิมิตนั้นยังไม่ถึงเวลากำหนด และกำลังรุดเร่งไปสู่บั้นปลาย และนิมิตนั้นจะไม่กล่าวเท็จเลย. แม้นิมิตจะดูเหมือนเนิ่นช้าก็จงคอยท่า ด้วยว่าจะสำเร็จเป็นแน่. จะไม่ล่าช้าเลย.”—ฮะบาฆูค 2:3, ล.ม.
22. เราอาจคาดหมายด้วยความมั่นใจว่าจะเห็นผลอะไรตามมา ถ้าเราอุตสาหะพากเพียรอย่างพวกผู้พยากรณ์และอดทนเหมือนโยบ?
22 สาวกยาโกโบเตือนพวกเราอย่างรักใคร่ว่า “พี่น้องทั้งหลาย ในเรื่องการทนรับความชั่วร้ายและการอดใจรอนั้น จงเอาแบบอย่างของผู้พยากรณ์ที่ได้กล่าวในนามของพระยะโฮวา.” พวกเราสมัยนี้ที่กล่าวในพระนามของพระยะโฮวาย่อมเป็นผู้รักษาความซื่อสัตย์ภักดีในช่วงการทดลองอันขมขื่น เหมือนยะซายา ยิระมะยา ดานิเอล และคนอื่น ๆ. เหมือนโยบ เราสามารถจะอดทนได้. ท่านได้รับบำเหน็จอันประเสริฐยิ่งเพียงไรเนื่องด้วยความอดทนของท่าน! ความเมตตาและความกรุณารักใคร่ของพระยะโฮวาย่อมยังบำเหน็จทำนองเดียวกันนี้แก่พวกเรา—หากเราอดทนจนถึงที่สุด. และขอให้ถ้อยคำที่ยาโกโบกล่าวไว้เป็นจริงกับพวกเราแต่ละคนที่ว่า “นี่แน่ะ! เราบอกว่าคนเหล่านั้นที่ได้อดทนก็เป็นสุข.”—ยาโกโบ 5:10, 11, ล.ม.; โยบ 42:10-13.
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ พระเยซูทรงเน้นอย่างไรว่าจำต้องมีความอดทน?
▫ พระยะโฮวาทรงอดทนด้วยเหตุผลอะไร?
▫ จุดเด่นอะไรบ้างเกี่ยวด้วยงานใหญ่ที่ได้ลุล่วงไปแล้วระหว่างปี 1989?
▫ ความอดทนของพี่น้องในโปแลนด์ได้บำเหน็จอย่างไร?
▫ เหล่าพยานฯในประเทศเลบานอน โคลัมเบีย และอิตาลีต่างก็ได้แสดงความซื่อสัตย์อย่างไรเมื่อถูกทดลอง?
[แผนภูมิ หน้า 20-23]
รายงานเกี่ยวกับปีรับใช้ 1990 ของพยานพระยะโฮวาตลอดทั่วโลก
(รายละเอียดดูจากวารสาร)