ความดีอันบริบูรณ์ของพระยะโฮวา
“ความดีของพระองค์มากยิ่งเท่าใด ที่พระองค์ได้สงวนไว้สำหรับเหล่าคนที่เกรงกลัวพระองค์!”—บทเพลงสรรเสริญ 31:19, ล.ม.
1, 2. (ก) งานสำคัญอะไรที่พระยะโฮวาทรงดำเนินการเป็นเวลานานในอดีตไกลโพ้น? (ข) พระยะโฮวาทรงพรรณนาผลงานการสร้างสรรค์ของพระองค์ไว้อย่างไร?
กาลสมัยหนึ่งพระเจ้าทรงเริ่มสร้าง ‘ฟ้าสวรรค์เป็นพระที่นั่งของพระองค์และพิภพเป็นม้ารองพระบาทพระองค์.’ (ยะซายา 66:1) บันทึกที่พระเจ้าทรงบันดาลไม่ได้บอกไว้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไร เพียงแต่ระบุอย่างนี้: “เมื่อเดิมพระเจ้าได้นฤมิตสร้างฟ้าและดิน.” (เยเนซิศ 1:1) ระหว่างช่วงเวลาที่พระเจ้าทรงสร้างโลก กลุ่มดาวหรือแกแลกซีซึ่งประกอบด้วยดาวนับพัน ๆ ล้านดวงได้ถูกจัดเป็นระเบียบไว้. ทางริมนอกแกแลกซีกลุ่มหนึ่งปรากฏมีดาวสุกใสดวงหนึ่ง และมีดาวเคราะห์ดวงเล็กกว่าจำนวนหนึ่งโคจรอยู่รอบ ๆ. หนึ่งในดาวเคราะห์เหล่านี้ได้ชื่อว่าแผ่นดินโลก. เมื่อเปรียบเทียบกับดาวใหญ่ ๆ หลายดวงที่ส่องแสง แผ่นดินโลกเล็กกระจ้อยร่อย. กระนั้น พระยะโฮวาทรงประสงค์ดาวเคราะห์ดวงนี้แหละเป็นม้ารองพระบาทของพระองค์.
2 ดังนั้น พระยะโฮวาทรงมุ่งพระปรีชาสามารถเชิงสร้างสรรค์ของพระองค์มาที่แผ่นดินโลกดาวเคราะห์ดวงนี้. “พระบุตรหัวปีแห่งสรรพสิ่งทั้งปวง” ทรงอยู่เคียงข้างพระองค์ฐานะเป็นนายช่างเอกในขณะที่มวลสารขนาดเล็กและมืดนี้ถูกเปลี่ยนในช่วงหก “วัน” แห่งการสร้างสรรค์อันยาวนาน. โลกนี้กล่าวโดยอุปมาแล้วได้กลายเป็นที่พักวางเท้าของพระเจ้าอย่างเหมาะสม. (โกโลซาย 1:15, ฉบับแปลใหม่; เอ็กโซโด 20:11; สุภาษิต 8:30) ณ ที่แห่งนี้พระเจ้าทรงประสงค์จะให้ชีวิตรูปลักษณ์แบบใหม่อันประกอบด้วยเชาวน์ปัญญาได้อยู่อาศัยซึ่งก็ได้แก่มนุษยชาติ. มนุษย์คู่แรก ถูกสร้างขึ้นจากวัตถุธาตุอันเป็นส่วนประกอบของดิน ถูกจัดให้อยู่ในสภาพแวดล้อมอันเป็นอุทยานที่งดงามน่าอยู่. (เยเนซิศ 1:26, 27; 2:7, 8) ผลงานการสร้างสรรค์ที่โดดเด่นชิ้นสุดท้ายนี้ช่างงดงามและสมบูรณ์หาที่ติไม่ได้ซึ่งคัมภีร์ไบเบิลแจ้งถึงความรู้สึกของพระเจ้าในตอนเช้า—ช่วงสุดท้าย—ของวันที่หกแห่งการสร้างดังนี้: “พระเจ้าทอดพระเนตรดูสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างไว้นั้นเห็นว่าดีนัก.”—เยเนซิศ 1:31.
ความดีของพระเจ้า
3. คุณลักษณะอันโดดเด่นอะไรของพระเจ้าปรากฏออกมาอย่างชัดแจ้งในสรรพสิ่งที่ถูกสร้าง?
3 หลายพันปีต่อมา บุคคลผู้หนึ่งที่สืบเชื้อสายจากมนุษย์คู่แรกได้มองย้อนไปถึงสมัยพระเจ้าสร้างโลกและเขียนไว้ดังนี้: “คุณลักษณะต่าง ๆ ของพระองค์อันไม่ประจักษ์แก่ตาก็เห็นได้ชัด ตั้งแต่การสร้างโลกเป็นต้นมา เพราะว่าคุณลักษณะเหล่านี้เป็นที่เข้าใจได้โดยสิ่งทั้งปวงที่ถูกสร้างขึ้น กระทั่งฤทธานุภาพถาวรและความเป็นพระเจ้าของพระองค์.” (โรม 1:20, ล.ม.) ใช่แล้ว ความวิเศษเยี่ยมยอดแห่งแผ่นดินโลกและสรรพสัตว์ทั้งปวงบนแผ่นดินสะท้อนคุณลักษณะของพระเจ้าอันไม่ประจักษ์ได้อย่างน่าทึ่งจริง ๆ ซึ่งคุณลักษณะอย่างหนึ่งที่เด่นคือความดีอันบริบูรณ์ของพระเจ้า. เช่นนั้นแล้ว นับว่าเหมาะสมเพียงไรเมื่อพระเจ้าได้ตรัสว่าทุกสิ่งซึ่งพระองค์ได้สร้างขึ้นมานั้นดีนัก!—บทเพลงสรรเสริญ 31:19.
4, 5. ความดีคืออะไร?
4 ความดีเป็นแง่มุมประการที่หกแห่งผลพระวิญญาณของพระเจ้าตามที่อัครสาวกเปาโลพรรณนาในฆะลาเตีย 5:22. การศึกษาในวารสารหอสังเกตการณ์ คราวก่อน ๆ ได้พิจารณากันถึงผลห้าประการแรกของพระวิญญาณ ชี้ให้เห็นความสำคัญแห่งผลเหล่านี้ในการพัฒนาบุคลิกภาพแบบคริสเตียนให้เต็มที่ในทุกด้าน.a กระนั้น เป็นเรื่องสำคัญเพียงไรที่เราไม่มองข้ามความดี! บัดนี้ นับว่าเหมาะทีเดียวที่เราจะเอาใจใส่คุณลักษณะข้อนี้.
5 ความดีคืออะไร? ความดีคือคุณสมบัติหรือสภาพที่เป็นไปในทางดี. ความดีเป็นความเยี่ยมยอดด้านคุณธรรม คุณงามความดี. ดังนั้น ความดีเป็นคุณสมบัติในทางบวกซึ่งปรากฏออกมาด้วยการกระทำที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น. พวกเราจะแสดงคุณสมบัติอันเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นเช่นนี้โดยวิธีใด? โดยพื้นฐานแล้วก็ด้วยการเลียนแบบพระยะโฮวา. ฉะนั้น ก่อนพิจารณาไปไกลกว่านี้ว่าพวกเราแต่ละคนในฐานะคริสเตียนจะสำแดงความดีให้ปรากฏโดยวิธีใด ขอให้เราทบทวนความดีซึ่งพระยะโฮวา พระเจ้าของเราผู้ทรงมีความรักได้สำแดงให้ประจักษ์ด้วยการค้ำจุนครอบครัวมนุษย์และด้วยวิธีที่พระองค์ดำเนินการเกี่ยวข้องกับมนุษย์.
ความดีปรากฏชัดในสรรพสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา
6. อะไรกระตุ้นให้พระยะโฮวาทรงสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีเชาวน์ปัญญาชนิดอื่น ๆ ขึ้นมา?
6 อะไรเป็นแรงกระตุ้นพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ในตอนแรกให้แบ่งปันความชื่นชมของพระองค์แก่บรรดาสิ่งมีชีวิตอันประกอบด้วยเชาวน์ปัญญา? อัครสาวกโยฮันตอบคำถามข้อนี้เมื่อท่านบอกว่า “พระเจ้าเป็นความรัก.” (1 โยฮัน 4:8) ถูกแล้ว ความรักอย่างไม่เห็นแก่ตัวได้กระตุ้นผู้ใหญ่ยิ่งองค์นี้ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตให้สร้างสรรค์รูปแบบอื่น ๆ ที่มีชีวิต จัดให้บางประเภทมีสถานที่อยู่ในสวรรค์ และบางประเภทอยู่อาศัยบนแผ่นดินโลก. แน่ละ เราเองรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสวรรค์หรือบุคคลในสวรรค์ว่ามีลักษณะเช่นไร. พวกเขาเป็นวิญญาณ—ไม่ประจักษ์แก่ตาของมนุษย์—และนิวาสสถานของเขาก็คือแดนวิญญาณ. แต่จงมองไปรอบตัวคุณยังบ้านทางแผ่นดินโลกซึ่งพระยะโฮวาได้ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับบุตรที่เป็นมนุษย์. และจงพิจารณามนุษย์. แล้วคุณจะเริ่มเห็นด้วยตาของคุณเองว่ามีพยานหลักฐานอันมีพลังที่แสดงถึงความดีของพระเจ้า.
7-9. ความดีของพระเจ้าประจักษ์ชัดอย่างไรในวิธีที่พระองค์ได้สร้างแผ่นดินโลกและสร้างมนุษย์บนแผ่นดิน?
7 พระยะโฮวาทรงประสาทชีวิตแก่บิดามารดาแรกเดิมของเรา. ยิ่งกว่านั้น พระองค์ทรงจัดให้มีทางเป็นไปได้ที่ชีวิตนี้จะมีความเพลิดเพลินยินดีอย่างเต็มที่. ประการแรก พระองค์ทรงสร้างบ้านของเขาคือแผ่นดินโลกพร้อมกับการหมุนรอบตัวเอง ระดับอุณหภูมิ และภูมิอากาศพอเหมาะพอดี. พระองค์ทรงจัดวัฏจักรของน้ำ ไนโตรเจน และออกซิเจนซึ่งทำงานได้อย่างแม่นยำเพื่อประโยชน์และความสะดวกสบายของมวลมนุษย์. พระองค์ทรงปกคลุมพื้นผิวโลกด้วยพืชผักหลายชนิด บางชนิดเหมาะที่จะเป็นอาหาร บางชนิดโดยเฉพาะให้ความชื่นตาชื่นใจเมื่อเห็น. พระองค์ทรงจัดให้มวลวิหคโบยบินไปในฟ้าอากาศซึ่งสีสันงดงามและเสียงร้องอันไพเราะของมันก่อความเบิกบานใจเป็นอย่างมาก. พระองค์ทรงทำให้ทะเลเต็มไปด้วยฝูงปลาเนืองแน่น และทำให้แผ่นดินมีสัตว์มากมายหลายชนิดอยู่อาศัย มีทั้งสัตว์ป่าและสัตว์ที่เลี้ยงให้เชื่องได้. พระองค์มีพระทัยเผื่อแผ่อย่างน่ามหัศจรรย์อะไรเช่นนั้น! และเป็นหลักฐานแสดงความดีแห่งพระหฤทัยของพระเจ้าอย่างแท้จริง!—บทเพลงสรรเสริญ 104:24.
8 ทีนี้ให้เราดูวิธีที่พระเจ้าสร้างมนุษย์. แขน ขา และมือของคนเราล้วนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเขาจะสามารถทรงตัวโดยไม่เสียหลัก และขยับกายเคลื่อนไหวได้อย่างสบาย. ด้วยเหตุนี้ จากวัตถุที่มีอย่างอุดมในโลกรอบตัว เขาจึงสามารถจะหาอาหารและสิ่งจำเป็นอื่น ๆ สำหรับตัวเอง. พระยะโฮวาทรงจัดให้มีต่อมรับรู้รสชาติอาหารเพื่อว่าการกินการดื่มจะไม่เป็นเพียงกิจกรรมแบบเครื่องจักรกลทำเพื่อจะได้พลังงาน—เหมือนการเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยนี้. เปล่าเลย. การกินการดื่มได้ถูกออกแบบเพื่อยังความเพลิดเพลิน ไม่ใช่แค่กินให้เต็มกระเพาะเท่านั้น แต่กระตุ้นความรู้สึกถึงรสชาติของอาหารด้วย. พระยะโฮวาทรงประทานหูให้มนุษย์ด้วย และให้มีสรรพสำเนียงต่าง ๆ รอบข้างให้รับฟังด้วยความเบิกบาน. น่าเพลิดเพลินสักเพียงใดเมื่อฟังเสียงน้ำรินไหลในลำธาร เสียงนกเขาขันคู หรือเสียงหัวเราะของทารก! ใช่แล้ว เพราะความดีของพระเจ้านี้เอง ทั้งที่มีสิ่งเลวร้ายได้อุบัติขึ้นตั้งแต่พระองค์สร้างโลก แต่การมีชีวิตก็ยังเป็นความชื่นชมยินดีอยู่เสมอ.
9 อนึ่ง ขอให้พิจารณาประสาทสัมผัสอื่น ๆ ที่เรามี. ช่างมีสีสันสดสวยหลายหลากเพียงไรที่ยังความชื่นชมแก่ดวงตาของเรา! และกลิ่นหอมอบอวลของดอกไม้อันทำให้เราสดชื่นสบายใจเสียนี่กระไร! ไม่น่าแปลกใจที่ผู้ประพันธ์บทเพลงสรรเสริญเปล่งเสียงทูลพระยะโฮวาดังนี้: “ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ เพราะข้าพเจ้าถูกสร้างอย่างน่าพิศวงในวิธีที่น่าเกรงขาม. พระราชกิจของพระองค์เป็นที่น่าพิศวง”!—บทเพลงสรรเสริญ 139:14, ล.ม.
การผิดบาปของมนุษย์และการช่วยให้รอด
10. มนุษย์ส่วนใหญ่สนองความดีของพระเจ้าอย่างไร กระนั้น พวกเขาก็ยังได้รับประโยชน์มิได้ขาดจากความดีนั้นอย่างไร?
10 น่าเศร้า เมื่อเวลาล่วงผ่านไป บิดามารดาคู่แรกของเราได้แสดงตัวชัดแจ้งว่า เขาไม่หยั่งรู้ค่าความดีทั้งมวลที่พระเจ้าทรงกระทำต่อเขา. เขาแสดงถึงสิ่งนี้ในคราวที่เขาไม่เชื่อฟังพระบัญชาของพระยะโฮวาและละเมิดข้อกำหนดข้อเดียวซึ่งพระองค์ตั้งไว้. ผลที่ตามมาคือ บิดามารดาคู่แรกและบุตรหลานของเขาจึงประสบความเศร้าโศก ความทุกข์ทรมาน และความตาย. (เยเนซิศ 2:16, 17; 3:16-19; โรม 5:12) ตลอดหลายพันปีที่แล้วมานับตั้งแต่การไม่เชื่อฟังครั้งนั้น มนุษยชาติส่วนใหญ่แสดงความไม่แยแสหรือไม่หยั่งรู้ค่าความดีของพระเจ้า. ถึงกระนั้น คนที่ไม่สำนึกบุญคุณและไม่หยั่งรู้ค่าก็ยังได้ประโยชน์จากความดีของพระเจ้า. ในทางใด? อัครสาวกเปาโลได้ชี้แจงแก่ชาวเมืองลุศตราในตะวันออกกลางว่า “พระองค์ [พระเจ้า] ไม่ได้ขาดพยาน คือพระองค์ได้ทรงกระทำคุณให้ฝนตก และให้มีฤดูเกิดผล ท่านทั้งหลายจึงอิ่มใจยินดีด้วยอาหารนั้น.”—กิจการ 14:17.
11. ความดีของพระเจ้าแผ่กว้างไปไกลเกินกว่าเพียงการจัดเตรียมบ้านที่ยังความเพลิดเพลินเจริญใจแก่มนุษย์อีกนั้นในทางใด?
11 แต่ความดีของพระเจ้าหาได้จำกัดไว้เฉพาะการจัดเตรียมสิ่งที่ยังความเพลิดเพลินที่ค้ำจุนชีวิตซึ่งมีความอุดมบริบูรณ์บนแผ่นดินมิได้ขาดเท่านั้นไม่. พระองค์ทรงกระทำมากกว่านั้น. พระยะโฮวาทรงสำแดงให้ประจักษ์ว่าพระองค์พร้อมจะให้อภัยบาปโทษของบุตรหลานของอาดาม ทั้งจะรักษาสายสัมพันธ์กับมนุษย์ผู้สัตย์ซื่อให้คงอยู่ตลอดไป. แง่นี้แห่งความดีของพระเจ้าได้ถูกนำเข้าสู่ความสนใจของโมเซเมื่อพระยะโฮวาทรงสัญญาจะบันดาล ‘ให้คุณความดีของพระองค์ประจักษ์แจ้งต่อหน้าโมเซ.’ ครั้นแล้วโมเซได้ยินถ้อยแถลงดังนี้: “พระยะโฮวา พระยะโฮวา พระเจ้าผู้ทรงเมตตากรุณา ผู้ทรงอดพระทัยได้นาน และบริบูรณ์ด้วยความดีและความจริง. ผู้ทรงเมตตาต่อมนุษย์ถึงหลายพันชั่วอายุ ผู้ทรงโปรดยกความชั่ว การล่วงละเมิดและบาปของเขา.”—เอ็กโซโด 33:19; 34:6, 7.
12. การจัดเตรียมชนิดใดโดยพระบัญญัติของโมเซแสดงถึงความดีของพระยะโฮวา?
12 ในสมัยโมเซ พระยะโฮวาได้ทรงตั้งระบบกฎหมายขึ้นไว้สำหรับชนชาติใหม่คือยิศราเอล โดยทางกฎหมายนี้คนบาปที่ทำผิดโดยไม่เจตนาจะได้รับการอภัยได้ชั่วคราวหรือโดยนัย. โดยทางพระบัญญัติแห่งคำสัญญาไมตรีซึ่งโมเซเป็นคนกลาง ชาติยิศราเอลได้มาเป็นชาติพิเศษของพระเจ้า และได้รับการสั่งสอนให้ถวายเครื่องบูชาสัตว์ชนิดต่าง ๆ แด่พระยะโฮวาเพื่อปิดคลุมการบาปและการประพฤติอันไม่สะอาดของเขา. ฉะนั้น ทั้งที่เขาเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์ ชาวยิศราเอลที่สำนึกผิดกลับใจก็สามารถเข้ามาหาพระยะโฮวาอย่างที่พระองค์รับรองเอาได้ และรู้ด้วยว่าการนมัสการของพวกเขานั้นเป็นที่พอพระทัยพระองค์. กษัตริย์ดาวิด ซึ่งเป็นคนในชาติใต้พระบัญญัติ ก็ได้กล่าวสำแดงการที่ได้รู้จักความดีของพระเจ้าในเรื่องนี้ว่า “การบาปล่วงละเมิดที่ได้กระทำเมื่อข้าพเจ้ายังหนุ่มอยู่นั้น ขอพระองค์อย่าทรงระลึกถึงเลย. ข้าแต่พระยะโฮวา ขอทรงระลึกถึงข้าพเจ้าโดยพระเมตตา เพราะทรงเห็นแก่พระกรุณา [ความดี, ล.ม.] ของพระองค์.”—บทเพลงสรรเสริญ 25:7.
13. พระยะโฮวาทรงจัดให้มีวิธีการยกบาปอย่างที่ได้ผลมากกว่าการใช้สัตว์เป็นเครื่องบูชานั้นอย่างไร?
13 ต่อมา ความดีของพระยะโฮวาเป็นเหตุให้พระองค์จัดเตรียมวิธีการให้อภัยบาปอย่างที่ใช้ได้ผลดีกว่าและใช้ได้ถาวร. ทั้งนี้โดยการเสียสละของพระเยซูผู้เป็นเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด. (มัดธาย 1:6-16; ลูกา 3:23-31) พระเยซูไม่เคยทำบาป. ดังนั้น เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ ชีวิตของพระองค์ที่ได้สละเป็นเครื่องบูชานั้นมีค่ามหาศาล และพระเจ้าทรงรับเครื่องบูชานั้นเป็นค่าไถ่สำหรับบรรดาลูกหลานของอาดามซึ่งเป็นคนผิดบาป. อัครสาวกเปาโลเขียนไว้อย่างนี้: “คนทั้งปวงได้ทำผิดทุกคน และขาดการถวายเกียรติยศแก่พระเจ้า แต่พระเจ้าทรงพระกรุณาให้เขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่คิดค่า เพราะพระเยซูทรงไถ่เขาให้พ้นแล้ว. พระเจ้าได้ทรงตั้งพระเยซูนั้นไว้ให้ปรากฏเป็นที่ระงับพระพิโรธเพราะความเชื่อโดยพระโลหิตของพระองค์.”—โรม 3:23-26.
14. ความหวังอันดีวิเศษอะไรที่มีทางเป็นไปได้สำหรับมนุษย์โดยเครื่องบูชาไถ่บาป?
14 ความเชื่อในเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซูเป็นประโยชน์มากมายแก่ชนคริสเตียน มากยิ่งกว่าเครื่องบูชาที่ใช้สัตว์ภายใต้คำสัญญาไมตรีแห่งพระบัญญัติเป็นประโยชน์แก่ชาวยิศราเอล. เครื่องบูชาไถ่นี้ทำให้คริสเตียนจำนวนจำกัดได้รับการประกาศเป็นผู้ชอบธรรมและถูกรับเป็นบุตรของพระเจ้าโดยพระวิญญาณของพระองค์. ดังนั้น บุคคลเหล่านี้ได้กลายเป็นน้องของพระเยซูและมีความหวังจะถูกปลุกขึ้นจากตายเป็นผู้มีสภาพกายวิญญาณร่วมปกครองกับพระองค์ในราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์. (ลูกา 22:29, 30; โรม 8:14-17) คิดดูเถอะ พระเจ้าทรงเปิดช่องทางแก่มนุษย์บนโลกอันกระจ้อยร่อยนี้ให้มีความหวังฝ่ายสวรรค์! ชนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ยึดมั่นอยู่ในความหวังเช่นนี้ยังมีอยู่. แต่สำหรับคริสเตียนอีกหลายล้านคนนอกจากกลุ่มดังกล่าว การสำแดงความเชื่อในค่าไถ่เปิดโอกาสจะได้รับสิ่งที่อาดามกับฮาวาได้สูญเสียไป คือชีวิตถาวรบนแผ่นดินโลกซึ่งเป็นอุทยาน ดุจสวนธรรมชาติ. คำสัญญาไมตรีเกี่ยวกับพระบัญญัติเพียงอย่างเดียวไม่อาจทำให้ผู้ยึดถือมีความหวังสำหรับอนาคต ไม่ว่าความหวังฝ่ายสวรรค์หรือทางแผ่นดินโลก.
15. อะไรนับรวมอยู่ในข่าวดี?
15 เป็นสิ่งเหมาะสมเพียงไรที่ข่าวสารเรื่องวิธีเตรียมการใหม่ซึ่งพระเจ้าได้เริ่มดำเนินการผ่านทางพระเยซูคริสต์นั้นถูกเรียกเป็น “ข่าวดี” เพราะการจัดเตรียมนี้สะท้อนความดีของพระเจ้า. (2 ติโมเธียว 1:9, 10) บางครั้ง คัมภีร์ไบเบิลเรียกข่าวดีนั้นว่า “ข่าวดีแห่งราชอาณาจักร.” เวลานี้ข่าวดีรวมจุดอยู่ที่ความจริงที่ว่า ราชอาณาจักรได้รับการสถาปนาแล้วภายใต้อำนาจปกครองของพระเยซูผู้ได้รับการปลุกให้คืนพระชนม์. (มัดธาย 24:14; วิวรณ์ 11:15; 14:6, 7) อย่างไรก็ดี สิ่งที่รวมอยู่ในข่าวดีมีมากกว่านั้น. ดังที่ถ้อยแถลงของเปาโลต่อติโมเธียวที่พึ่งยกมาอ้างแสดงให้เห็น ข่าวดีรวมไปถึงความรู้ที่ว่า พระเยซูได้สละพระชนม์เป็นค่าไถ่สำหรับพวกเรา. หากไม่มีเครื่องบูชาแบบนี้ สัมพันธภาพของเรากับพระเจ้า ความรอดที่เราจะได้ก็คงไม่มีทางเป็นไปได้—อย่าว่าแต่ราชอาณาจักรของพระคริสต์อันประกอบด้วยปุโรหิตปกครองเยี่ยงกษัตริย์ 144,000 องค์ซึ่งถูกไถ่จากแผ่นดินโลก. ค่าไถ่ช่างเป็นการสำแดงความดีของพระเจ้าให้ปรากฏอย่างวิเศษอะไรเช่นนั้น!
ความดีของพระเจ้าสมัยปัจจุบัน
16, 17. โฮเซอา 3:5 ได้สำเร็จสมจริงอย่างไร (ก) ในปี 537 ก่อนสากลศักราช? (ข) ในปีสากลศักราช 1919?
16 เมื่อตั้งหน้ารอท่า “สมัยสุดท้าย” อัครสาวกเปาโลได้เตือนว่า “คนจะ . . . ไม่รักความดี.” (2 ติโมเธียว 3:1-3, ล.ม.) แม้แต่การแสดงความดีตามปกติ เช่นการมีน้ำใจเอื้อเฟื้อหรือการมีอัธยาศัยไมตรีต่อกันก็ยังไม่ได้รับการหยั่งรู้ค่าเสียด้วยซ้ำ. เช่นนั้นแล้ว คำพยากรณ์ในโฮเซอา 3:5 ซึ่งทำให้อบอุ่นใจนั้นเป็นสิ่งชูใจเพียงใดที่ว่า “ภายหลังพวกยิศราเอลจะกลับมาแสวงหาพระยะโฮวาพระเจ้าของเขา และดาวิดกษัตริย์ของเขา และเวลาในที่สุดปลาย เขาจะเข้าเฝ้าพระยะโฮวาและโมทนาคุณความดีของพระองค์ด้วยความยำเกรง.”
17 คำพยากรณ์ข้อนี้สำเร็จสมจริงครั้งแรกในปี 537 ก่อนสากลศักราช เมื่อชาวยิวที่พลัดถิ่นไปอยู่ในบาบูโลนได้กลับคืนสู่แผ่นดินแห่งคำสัญญา. สำหรับสมัยนี้ คำพยากรณ์ได้เริ่มสำเร็จสมจริงในปี 1919 เมื่อชนที่เหลือแห่งยิศราเอลฝ่ายวิญญาณได้ออกมาจากองค์การของซาตาน แล้วเริ่มแสวงหาพระยะโฮวาและคุณความดีของพระองค์อย่างจริงใจ. พวกเขาได้พบว่า “ดาวิดกษัตริย์ของเขา” ซึ่งได้แก่พระเยซูคริสต์ ทรงมีอำนาจปกครองอยู่ในสวรรค์แล้วตั้งแต่ปี 1914. ภายใต้การดูแลของพระองค์จากสวรรค์ พวกเขาถือเอาเป็นหน้าที่รับผิดชอบจะประกาศข่าวดีแก่ชนชาวประเทศทั้งปวงด้วยความกระตือรือร้น. ดังนั้น เขาจึงเริ่มทำหน้าที่มอบหมายตามบันทึกในมัดธาย 24:14, (ล.ม.) ให้เสร็จที่ว่า “ข่าวดีแห่งราชอาณาจักรนี้ [ที่สถาปนาขึ้นแล้ว] จะได้รับการประกาศทั่วแผ่นดินโลกที่มีผู้คนอาศัยอยู่ เพื่อให้คำพยานแก่ทุกชาติแล้วจุดอวสานจะมาถึง.”
18. ใครได้มาร่วมสมทบกับชนที่เหลือแห่งยิศราเอลฝ่ายวิญญาณในการประกาศข่าวดี?
18 ทุกวันนี้ “ชนฝูงใหญ่” ซึ่งยอมรับรองคุณความดีของพระยะโฮวาเช่นกันได้ร่วมสมทบกับชนที่เหลือผู้ถูกเจิม. (วิวรณ์ 7:9) เวลานี้มีมากกว่าสี่ล้านคนเปล่งเสียงร้องซ้ำตามเสียงทูตสวรรค์ที่อัครสาวกโยฮันเห็นในนิมิตขณะที่พวกเขาประกาศแก่ชนทุกชาติว่า “จงเกรงกลัวพระเจ้าและถวายเกียรติยศแด่พระองค์ เพราะว่าเวลาที่พระองค์จะทรงพิพากษานั้นมาถึงแล้ว และจงบูชาพระองค์ผู้ได้ทรงสร้างสวรรค์และแผ่นดินโลกและทะเลและธารน้ำทั้งหลาย.”—วิวรณ์ 14:7.
19. จงบอกถึงหนึ่งในบรรดาหลักฐานสำคัญแสดงความดีของพระเจ้า.
19 หนึ่งในบรรดาหลักฐานสำคัญซึ่งแสดงถึงความดีของพระเจ้าได้แก่การที่พระองค์ทรงยอมให้เราเป็นผู้ร่วมทำงานกับพระองค์ในกิจการอันน่าทึ่งเช่นนี้. ช่างเป็นสิทธิพิเศษอะไรเช่นนั้นที่พวกเราได้รับความไว้วางใจให้ประกาศ “กิตติคุณแห่งสง่าราศีของพระเจ้าผู้ประกอบด้วยความสุข!” (1 ติโมเธียว 1:11) โดยที่เราประกาศและสั่งสอนเรื่องนี้แก่ผู้อื่น เราเองก็กำลังแสดงผลประการสำคัญแห่งพระวิญญาณของพระเจ้าอันได้แก่ความดีในระดับสูงทีเดียว. ดังนั้น เราจึงมีเจตคติแบบดาวิดผู้รับใช้ของพระเจ้าในโบราณกาลที่กล่าวว่า “เขาทั้งหลายจะโฆษณาข่าวเลื่องลือถึงคุณความดีอันอุดมของพระองค์ออกมา และจะร้องเพลงถึงความชอบธรรมของพระองค์.”—บทเพลงสรรเสริญ 145:7, ฉบับแปลใหม่.
20. ความรู้อะไรในขั้นต่อไปอันเกี่ยวด้วยความดีจะถูกนำขึ้นมาพิจารณาในบทความถัดไป?
20 แต่การเข้าส่วนในงานประกาศข่าวดีเป็นทางเดียวเท่านั้นไหมที่จะสำแดงความดีในชีวิตของเรา? เปล่าเลย! เราได้รับการสนับสนุนให้ “ประพฤติอย่างพระเจ้า เหมือนเป็นบุตรที่รัก.” (เอเฟโซ 5:1) ความดีของพระเจ้าปรากฏให้เห็นในหลาย ๆ ทางต่างกัน. ฉะนั้น ความดีของเราก็เช่นกันน่าจะส่งผลกระทบสภาพการณ์หลายอย่างในชีวิตของเรา. จะมีการพิจารณาบางแง่มุมในบทความต่อจากนี้.
[เชิงอรรถ]
a ผลต่าง ๆ แห่งพระวิญญาณคือ ความรัก, ความยินดี, สันติสุข, ความอดกลั้นทนนาน, ความกรุณา, ความดี, ความเชื่อ, ความอ่อนสุภาพ, และการรู้จักบังคับตน.
คุณจะตอบได้ไหม?
▫ สรรพสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นสะท้อนถึงความดีของพระเจ้าในทางใด?
▫ พระยะโฮวาทรงจัดเตรียมอะไรเพื่อยกบาปของมนุษย์ที่กลับใจ?
▫ เกี่ยวกับความสำเร็จสมจริงของโฮเซอา 3:5 นั้น ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมแสวงหาพระยะโฮวาและโมทนาความดีของพระองค์เมื่อไร และการนี้นำไปถึงอะไร?
▫ หนึ่งในบรรดาหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงความดีของพระเจ้าในสมัยนี้ได้แก่อะไร?
[รูปภาพหน้า 15]
สรรพสิ่งที่ถูกสร้างให้หลักฐานแสดงความดีอันบริบูรณ์ของพระเจ้า