จงไว้ใจว่า พระยะโฮวาจะกระทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ
“คนสัตย์ธรรมจะได้แผ่นดินโลกเป็นมรดก, และจะอาศัยอยู่ที่นั่นต่อไปเป็นนิตย์.”—บทเพลงสรรเสริญ 37:29.
1. พระประสงค์ของพระยะโฮวาเป็นเช่นไรสำหรับมนุษย์และแผ่นดินโลก?
เมื่อพระยะโฮวาได้สร้างมนุษย์คู่แรก คืออาดามและฮาวานั้น พระองค์สร้างสรรค์เขาเป็นคนสมบูรณ์พร้อม. และพระองค์สร้างเขาเพื่อเขาจะอยู่ได้ตลอดไปบนแผ่นดินโลก—หากเขาเชื่อฟังกฎหมายของพระองค์. (เยเนซิศ 1:26, 27; 2:17) ยิ่งกว่านั้น พระเจ้าทรงจัดให้เขาอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เป็นอุทยาน. (เยเนซิศ 2:8, 9) พระยะโฮวาตรัสแก่เขาว่า “จงบังเกิดทวีมากขึ้นทั่วทั้งแผ่นดิน; จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน.” (เยเนซิศ 1:28) ดังนั้น ลูกหลานของเขาจะแพร่ขยายไปทั่วแผ่นดินในที่สุด และดาวเคราะห์ดวงนี้ก็จะกลายเป็นอุทยานซึ่งเต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่สมบูรณ์, ร่าเริงแจ่มใส. ช่างเป็นการเริ่มต้นที่ดีอย่างแท้จริงสำหรับครอบครัวมนุษย์! “พระเจ้าทรงทอดพระเนตรดูสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างไว้นั้นเห็นว่าดีนัก.”—เยเนซิศ 1:31.
2. สภาพความเป็นไปของมนุษย์ทำให้มีคำถามอะไรขึ้นมา?
2 กระนั้น สภาพความเป็นไปของมนุษย์ที่ดำเนินมาตลอดหลายพันปีหาได้ใกล้เคียงกับพระประสงค์ดั้งเดิมของพระเจ้าไม่. มนุษยชาติอยู่ห่างไกลจากความสมบูรณ์และไม่มีความสุขอย่างแน่นอน. สภาพการณ์ต่าง ๆ ในโลกยุ่งยากลำบากอยู่เรื่อยมา และดังที่พยากรณ์ไว้ สมัยนี้ยิ่งเลวร้ายอย่างเห็นได้ชัด. (2 ติโมเธียว 3:1-5, 13) ดังนั้น เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า พระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับมนุษย์จะบรรลุผลเป็นความจริงในอนาคตอันใกล้นี้? สภาพการณ์ที่ก่อความทุกข์ร้อนอย่างต่อเนื่องจะมีอีกนานไหม?
อะไรทำให้สภาพการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น?
3. เพราะเหตุใดพระยะโฮวาไม่ระงับการกบฏของมนุษย์เสียทันที?
3 คนเหล่านั้นที่มีความรู้ถ่องแท้เกี่ยวด้วยพระคำที่มีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้ารู้เหตุผลที่พระยะโฮวาปล่อยให้สภาพการณ์ต่าง ๆ ที่เลวร้ายมีอยู่ในแผ่นดินโลก. พวกเขารู้ด้วยว่า พระองค์จะทรงดำเนินการอย่างไรกับสภาพเหล่านี้. จากบันทึกในคัมภีร์ไบเบิล พวกเขาเรียนรู้ว่า บิดามารดาคู่แรกของมนุษย์เราได้ใช้ของประทานที่ดีเลิศเกี่ยวกับเสรีภาพในการเลือกซึ่งพระเจ้าให้แก่มนุษย์นั้นในทางผิด. (เทียบกับ 1 เปโตร 2:16.) เขาทั้งสองได้เลือกแนวทางผิดโดยไม่หมายพึ่งพระเจ้า. (เยเนซิศ บท 2 และบท 3) การกบฏของเขาทำให้มีคำถามอันเป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่ง อาทิ: องค์บรมมหิศรแห่งเอกภพมีสิทธิปกครองมนุษย์ไหม? การปกครองของพระองค์ดีที่สุดสำหรับมนุษย์ไหม? มนุษย์ทำการปกครองได้สำเร็จไหมโดยปราศจากการดูแลของพระเจ้า? วิธีที่แน่นอนที่สุดในการพบคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้คือปล่อยให้การปกครองโดยมนุษย์ผ่านไปหลาย ๆ ศตวรรษ. ผลย่อมแสดงชัดเจนว่าเมื่อมนุษย์บอกปัดพระผู้สร้าง เขาจะบรรลุผลสำเร็จหรือไม่.
4, 5. (ก) อะไรคือผลสืบเนื่องจากการที่มนุษย์บอกปัดการปกครองของพระเจ้า? (ข) กาลเวลาที่ผ่านไปแสดงให้เห็นอะไรโดยปราศจากข้อสงสัย?
4 ครั้นอาดามและฮาวาได้ละทิ้งพระเจ้า พระองค์ไม่ได้ค้ำจุนคนทั้งสองให้คงสภาพมนุษย์สมบูรณ์อีกต่อไป. เมื่อเขาขาดการค้ำจุนจากพระองค์ เขาก็เสื่อมสภาพ. ผลที่ตามมาคือความไม่สมบูรณ์, ความแก่ชรา, และความตายในที่สุด. โดยกฎพันธุกรรม บิดามารดาคู่แรกของมนุษย์เราได้ถ่ายทอดลักษณะเฉพาะที่นำความเสียหายเหล่านั้นมาสู่บุตรหลานทั้งมวลของเขา รวมถึงพวกเราด้วย. (โรม 5:12) แล้วผลสืบเนื่องจากการปกครองของมนุษย์ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมาล่ะเป็นอย่างไร? ผลคือความหายนะ ดังคำกล่าวอันสัตย์จริงในพระธรรมท่านผู้ประกาศ 8:9 (ล.ม.) ทีเดียวที่ว่า “ที่มนุษย์มีอำนาจเหนือมนุษย์ด้วยกันเป็นผลเสียหายแก่เขา.”
5 กาลเวลาที่ล่วงเลยไปชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามนุษย์เราไม่สามารถจะชี้นำการกระทำของตนเองได้อย่างบรรลุผล หากไม่หมายพึ่งพระเจ้าผู้ได้สร้างตัวเขา. ยิระมะยาซึ่งได้เขียนคัมภีร์ไบเบิลโดยการดลใจกล่าวดังนี้: “โอ้พระยะโฮวา, ข้าพเจ้ารู้อยู่ว่าทางที่มนุษย์จะไปนั้นไม่ได้อยู่ในตัวของตัว ไม่ใช่ที่มนุษย์ซึ่งดำเนินนั้นจะได้กำหนดก้าวของตัวได้.”—ยิระมะยา 10:23; พระบัญญัติ 32:4, 5; ท่านผู้ประกาศ 7:29.
พระประสงค์ของพระเจ้าไม่ได้เปลี่ยนแปลง
6, 7. (ก) ประวัติศาสตร์นับพัน ๆ ปีได้เปลี่ยนพระประสงค์ของพระยะโฮวาไหม? (ข) อะไรนับรวมอยู่ในพระประสงค์ของพระยะโฮวา?
6 เวลาพัน ๆ ปีแห่งประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่ล่วงผ่านไป ซึ่งเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและความทุกข์ยากลำบากได้เปลี่ยนแปลงพระประสงค์ของพระเจ้าไหม? พระคำของพระองค์แถลงดังนี้: “นี่คือถ้อยคำที่พระยะโฮวา พระผู้สร้างฟ้าสวรรค์ได้ตรัส พระองค์พระเจ้าเที่ยงแท้ ผู้ปั้นแผ่นดินโลกและผู้สร้างมัน พระองค์ผู้ได้สถาปนาแผ่นดินโลกไว้ให้มั่นคง ผู้ทรงสร้างแผ่นดินโลกไว้มิใช่เพื่อให้เปล่าประโยชน์ ผู้ทรงปั้นแผ่นดินโลกเพื่อให้มีผู้คนอาศัยอยู่.” (ยะซายา 45:18, ล.ม.) ฉะนั้น พระเจ้าได้สร้างพิภพนี้เพื่อมนุษย์จะอาศัยอยู่ และนั่นยังคงเป็นพระประสงค์ของพระองค์เช่นเดิม.
7 พระยะโฮวาได้สร้างแผ่นดินโลกไม่ใช่เพียงเพื่อจะมีผู้คนอาศัยอยู่เท่านั้น แต่พระองค์ทรงมุ่งหมายให้แผ่นดินโลกเป็นอุทยานเพื่อผู้คนที่สมบูรณ์และมีความสุขจะชื่นชมยินดี. นี้คือเหตุผลที่คัมภีร์ไบเบิลแจ้งไว้ล่วงหน้าว่าจะมี “แผ่นดินโลกใหม่” หรือสังคมมนุษย์ใหม่ “ซึ่งความชอบธรรมจะดำรงอยู่ที่นั่น.” (2 เปโตร 3:13, ล.ม.) และที่วิวรณ์ 21:4, (ล.ม.) พระวจนะของพระเจ้าบอกเราว่า ในโลกใหม่นั้น “พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากตาของพวกเขา และความตายจะไม่มีอีกต่อไป ทั้งความทุกข์โศกหรือเสียงร้องหรือความเจ็บปวดจะไม่มีอีกเลย.” ด้วยเหตุผลดังกล่าว พระเยซูจึงสามารถกล่าวได้ถึงโลกใหม่ที่จะมาถึงบนแผ่นดินโลกนี้ว่าจะเป็น “อุทยาน.”—ลูกา 23:43, ล.ม.
8. เหตุใดเราจึงแน่ใจได้ว่าพระยะโฮวาจะทรงกระทำตามพระประสงค์ของพระองค์ให้สำเร็จ?
8 เนื่องจากพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าผู้สร้างเอกภพ พระองค์ทรงไว้ซึ่งฤทธานุภาพสูงสุดและพระสติปัญญาอันล้ำเลิศ ไม่มีใครสามารถขัดขวางพระประสงค์ของพระองค์ได้. “พระยะโฮวาจอมพลโยธาได้ตรัสปฏิญาณไว้ว่า ‘แท้จริงเราได้กะโครงการไว้อย่างไร ก็จะเป็นไปดังนั้น; และเราได้กำหนดกาลไว้อย่างไร ก็จะเกิดขึ้นอย่างนั้น.”’ (ยะซายา 14:24) ดังนั้น เมื่อพระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะจัดแผ่นดินโลกเป็นอุทยานซึ่งมีมนุษย์ที่สมบูรณ์อาศัยอยู่ การนั้นจะเกิดขึ้น. พระเยซูตรัสดังนี้: “ความสุขมีแก่คนอ่อนโยน เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก.” (มัดธาย 5:5, ล.ม.; เทียบกับบทเพลงสรรเสริญ 37:29.) พวกเราย่อมมั่นใจในเรื่องนี้และปฏิบัติอย่างที่สอดคล้องกับความสมจริงแห่งคำสัญญานั้น. จริง ๆ แล้ว เราอาจเอาชีวิตตัวเองมาวางเดิมพันไว้ได้เลย.
พวกเขาไว้ใจพระยะโฮวา
9. อับราฮามได้ทำอะไรอันเป็นการแสดงว่า ท่านไว้ใจพระยะโฮวา?
9 ตลอดประวัติศาสตร์ผู้คนมากมายที่เกรงกลัวพระเจ้าเคยเอาชีวิตของเขามาวางเดิมพันไว้กับพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับแผ่นดินโลกเพราะเขาเชื่อมั่นว่าพระองค์จะดำเนินการให้สำเร็จตามพระทัยประสงค์. แม้นความรู้ของเขาอาจมีจำกัด กระนั้น เขาไว้ใจพระเจ้าและสร้างชีวิตของตนด้วยการทำตามพระทัยประสงค์ของพระองค์. ตัวอย่างก็มี เช่น อับราฮาม ซึ่งมีชีวิตราว 2,000 พันปีก่อนพระเยซูเสด็จลงมายังแผ่นดินโลก นานก่อนการเริ่มจารึกคัมภีร์ไบเบิลเสียอีก. ท่านไว้ใจพระยะโฮวาที่จะทรงปฏิบัติตามคำสัญญาของพระองค์. อับราฮามคงได้เรียนรู้เรื่องพระผู้สร้างจากเซม บรรพบุรุษของท่านซึ่งเป็นคนสัตย์ซื่อ และเซมก็ได้เรียนรู้จากโนฮา. ดังนั้น เมื่อพระเจ้าสั่งอับราฮามให้ออกจากเมืองอูระแห่งชาวเคเซ็ดซึ่งเป็นเมืองที่เจริญไปยังแผ่นดินคะนาอันที่ท่านไม่คุ้นเคยและที่เต็มไปด้วยอันตราย หัวหน้าครอบครัวท่านนี้ทราบดีว่า ตนสามารถไว้ใจพระยะโฮวาได้ ดังนั้นท่านจึงออกเดินทางไป. (เฮ็บราย 11:8) ต่อมา พระยะโฮวารับสั่งแก่ท่านว่า “เราจะให้ตระกูลของเจ้าเป็นประเทศใหญ่.”—เยเนซิศ 12:2.
10, 11. เหตุใดอับราฮามเต็มใจถวายยิศฮาค บุตรชายสุดที่รักของตน?
10 เกิดอะไรขึ้นหลังจากอับราฮามมีบุตรชื่อยิศฮาค? พระยะโฮวาทรงแจ้งแก่อับราฮามว่า โดยทางยิศฮาคผู้นี้ บุตรหลานที่เกิดจากท่านจะมีมากจนกลายเป็นชนชาติใหญ่ชาติหนึ่ง. (เยเนซิศ 21:12) เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็คงดูเหมือนว่าจะขัดแย้งกันทีเดียวเมื่อพระยะโฮวาตรัสสั่งอับราฮามให้ถวายยิศฮาคบุตรชายเป็นบูชายัญ เพื่อทดลองดูความเชื่อของท่าน. (เยเนซิศ 22:2) กระนั้น ด้วยความไว้วางใจพระยะโฮวาเต็มเปี่ยม อับราฮามลงมือกระทำตาม ถึงกับเงื้อมีดหมายจะฆ่ายิศฮาคอยู่แล้ว. ณ วินาทีสุดท้ายนั้นเอง พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ให้หยุดยั้งอับราฮาม.—เยเนซิศ 22:9-14.
11 ทำไมอับราฮามเป็นคนเชื่อฟังถึงเพียงนั้น? เฮ็บราย 11:17-19, (ล.ม.) เผยว่า “โดยความเชื่อ เมื่ออับราฮามถูกลองใจ จึงเหมือนกับว่าได้ถวายยิศฮาคเป็นเครื่องบูชา และผู้นั้นซึ่งได้รับเอาคำสัญญาด้วยความยินดีก็ได้พร้อมที่จะถวายบุตรคนเดียวของตน แม้ว่าเคยมีคำกล่าวกับท่านว่า ‘ซึ่งจะเรียกว่าเป็น “พงศ์พันธุ์ของท่าน” นั้นจะผ่านมาทางยิศฮาค’ ก็ตาม. แต่ท่านถือว่าพระเจ้าสามารถจะปลุกเขาให้เป็นขึ้นจากตายได้; และจากสภาพนั้น ท่านได้รับเขาคืนมาในแบบที่เป็นตัวอย่าง.” พระธรรมโรม 4:20, 21 กล่าวทำนองคล้ายคลึงกันดังนี้: “ท่าน [อับราฮาม] มิได้หวาดหวั่นสงสัยคำสัญญาของพระเจ้า, . . . ถือมั่นคงว่า ซึ่งพระองค์ตรัสสัญญาไว้แล้ว พระองค์ทรงฤทธิ์อาจกระทำให้สำเร็จได้.”
12. เพราะความเชื่อของท่าน อับราฮามได้รับบำเหน็จอย่างไร?
12 อับราฮามได้บำเหน็จเพราะความเชื่อของท่าน ไม่เฉพาะยิศฮาคได้รับการไว้ชีวิตและท่านได้เป็นต้นตระกูลของ “ประเทศใหญ่” เท่านั้น แต่ยังมีอีกแนวหนึ่ง. พระเจ้าแถลงต่ออับราฮามดังนี้: “โดยทางพงศ์พันธุ์ของเจ้า ทุกชาติ แห่งแผ่นดินโลกจะทำให้ตนเองได้พระพรเป็นแน่ เนื่องด้วยเจ้าได้ฟังเสียงของเรา.” (เยเนซิศ 22:18, ล.ม.) จะเป็นไปอย่างไร? พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าทางภาคสวรรค์จะมาทางเชื้อสายของอับราฮาม. ราชอาณาจักรนั้นจะปราบโลกชั่วภายใต้อำนาจซาตานให้ย่อยยับโดยสิ้นเชิง. (ดานิเอล 2:44; โรม 16:20; วิวรณ์ 19:11-21) ครั้นแล้ว บนแผ่นดินโลกที่ถูกชำระแล้วภายใต้การปกครองแห่งราชอาณาจักร ทั่วทั้งโลกจะได้รับการพัฒนาเป็นอุทยาน และผู้คนจาก “ทุกชาติ” ผู้ซึ่งทำตามพระทัยประสงค์ของพระเจ้าจะมีพลานามัยสมบูรณ์และมีชีวิตอยู่ตลอดไป. (1 โยฮัน 2:15-17) และถึงแม้อับราฮามมีความรู้เกี่ยวด้วยราชอาณาจักรเพียงจำกัด แต่ท่านไว้ใจพระเจ้าและได้คอยท่าการจัดตั้งราชอาณาจักรนั้น.—เฮ็บราย 11:10.
13, 14. เพราะเหตุใดโยบจึงไว้ใจพระเจ้า?
13 หลายร้อยปีต่อมา ก็มีโยบ ซึ่งอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 17 ต่อศตวรรษที่ 16 ก่อนสากลศักราช ณ ดินแดนอาระเบียปัจจุบัน. โยบก็เช่นกัน มีชีวิตอยู่สมัยก่อนมีการจารึกคัมภีร์ไบเบิล. โยบ “เป็นคนดีรอบคอบและชอบธรรม, เป็นผู้ยำเกรงพระเจ้าและหลบหลีกจากความชั่ว.” (โยบ 1:1) เมื่อซาตานยังโรคร้ายที่เจ็บปวดและน่ารังเกียจให้เกิดแก่โยบ ชายที่ซื่อสัตย์คนนี้ “หาได้กระทำผิดด้วยริมฝีปากของท่านไม่” ตลอดเวลาที่ท่านทนรับความทุกข์ลำบากอย่างแสนสาหัส. (โยบ 2:10) โยบไว้วางใจพระเจ้า. และขณะที่ท่านไม่ทราบสาเหตุที่ต้องลำบากมากขนาดนั้นในรายละเอียด กระนั้น ท่านได้เอาชีวิตของท่านวางเป็นเดิมพันไว้กับพระเจ้าและคำสัญญาต่าง ๆ ของพระองค์.
14 โยบรู้ว่าถึงแม้ท่านตายไป แต่สักวันหนึ่งพระเจ้าจะทำให้ท่านคืนชีพโดยการปลุกขึ้นจากตายได้. ท่านได้แสดงความหวังเช่นนี้เมื่อท่านทูลพระเจ้ายะโฮวาว่า “โอ้หากว่าพระองค์จะทรงซ่อนข้าฯไว้ในหลุมฝังศพ, . . . โดยมีเวลาที่ทรงกำหนดไว้สำหรับข้าฯ, และจะระลึกถึงข้าฯอีกทีก็จะดี. ถ้ามนุษย์ตายแล้ว จะเป็นขึ้นมาอีกหรือ? . . . พระองค์จะทรงเรียก, และข้าฯจะทูลตอบ.” (โยบ 14:13-15) แม้ปวดร้าวใจ โยบได้แสดงความเชื่อในพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวา และกล่าวว่า “ข้าจะไม่ทิ้งความสัตย์จริงของข้าจนข้าตาย.”—โยบ 27:5, ฉบับแปลใหม่.
15. โดยวิธีใดดาวิดแสดงความมั่นใจในพระประสงค์ของพระยะโฮวา?
15 ราวหกศตวรรษหลังสมัยโยบ หรือประมาณหนึ่งพันปีก่อนพระเยซูเสด็จเข้ามาในโลก ดาวิดได้แสดงออกซึ่งความมั่นใจในเรื่องโลกใหม่. ท่านกล่าวไว้ที่บทเพลงสรรเสริญว่า “เหล่าคนที่คอยท่าพระยะโฮวาอยู่ เขาจะได้แผ่นดินเป็นมรดก. เพราะว่ายังอีกหน่อยหนึ่ง, คนชั่วจะไม่มี . . . แต่คนทั้งหลายที่มีใจถ่อมลงจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก, และเขาจะชื่นชมยินดีด้วยความสงบสุขอันบริบูรณ์. คนสัตย์ธรรมจะได้แผ่นดินเป็นมรดก, และจะอาศัยอยู่ที่นั่นต่อไปเป็นนิตย์.” เนื่องจากความหวังอันมั่นคงของท่าน ดาวิดจึงพูดเร้าใจดังนี้: “จงวางใจในพระยะโฮวา . . . จงยังใจให้ชื่นชมในพระยะโฮวา; และพระองค์จะทรงโปรดประทานให้ตามที่ใจปรารถนานั้น.”—บทเพลงสรรเสริญ 37:3, 4, 9-11, 29.
16. ‘พยานฝูงใหญ่’ มีความหวังอะไร?
16 ตลอดหลายศตวรรษที่ล่วงผ่านไป บรรดาชายหญิงผู้ซื่อสัตย์ต่างก็มีความหวังจะได้ชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลกดังกล่าวเช่นเดียวกัน. อันที่จริง พวกเขาประกอบกันเป็น ‘พยานฝูงใหญ่’ ซึ่งพูดตามตัวอักษรจริง ๆ แล้ว เขาวางชีวิตของตนเป็นเดิมพันไว้กับคำสัญญาต่าง ๆ ของพระยะโฮวา. พยานของพระยะโฮวาในคราวโบราณหลายคนต้องทนรับการทรมานและถูกฆ่าเนื่องด้วยเขามีความเชื่อ “เพื่อเขาจะได้รับการเป็นขึ้นมาจากตายอันประเสริฐกว่า.” อย่างไรกัน? ในโลกใหม่ พระเจ้าจะทรงให้บำเหน็จพวกเขาด้วยการปลุกให้เป็นขึ้นจากตายอันประเสริฐกว่าและมีโอกาสที่ดีจะได้รับชีวิตนิรันดร์.—โยฮัน 5:28, 29; เฮ็บราย 11:35; 12:1.
เหล่าคริสเตียนพยานฯ ไว้ใจพระเจ้า
17. โดยวิธีใดที่คริสเตียนสมัยศตวรรษแรกแสดงว่าเขาไว้ใจพระยะโฮวาเต็มที่?
17 ในศตวรรษแรกแห่งสากลศักราช พระยะโฮวาได้ทรงเผยรายละเอียดมากขึ้นแก่ประชาคมคริสเตียนที่ตั้งขึ้นใหม่เกี่ยวกับเรื่องราชอาณาจักรและการปกครองของราชอาณาจักรทั่วแผ่นดินโลก. เป็นต้นว่า พระวิญญาณของพระองค์ได้ดลใจอัครสาวกโยฮันให้เขียนจำนวนผู้ที่จะร่วมปกครองราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์กับพระคริสต์นั้นว่ามี 144,000 คน. บุคคลเหล่านี้จะเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้า ซึ่ง “ได้ถูกซื้อจากท่ามกลางมนุษยชาติ.” (วิวรณ์ 7:4; 14:1-4, ล.ม.) เขาจะปกครองแผ่นดินโลกในฐานะ “เป็นกษัตริย์” ร่วมกับพระคริสต์ในสวรรค์. (วิวรณ์ 20:4-6) เหล่าคริสเตียนในศตวรรษแรกได้ไว้ใจพระยะโฮวาเต็มที่ว่าพระองค์จะทำให้สำเร็จตามพระทัยประสงค์ของพระองค์เกี่ยวกับราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์และอาณาเขตทางแผ่นดินโลกนี้ถึงขนาดที่พวกเขาเต็มใจสละชีวิตเพื่อความเชื่อ. หลายคนในพวกเขาได้ทำเช่นนั้น.
18. พยานพระยะโฮวาสมัยปัจจุบันเลียนแบบคู่เทียบของเขาในคราวโบราณอย่างไร?
18 เวลานี้ พยานพระยะโฮวาเกือบห้าล้านคนมีความไว้วางใจในพระเจ้าเช่นเดียวกันกับบุคคลซึ่งเป็นพยานฯที่มีชีวิตอยู่เมื่อหลายศตวรรษก่อน. เหล่าพยานฯสมัยนี้ก็เอาชีวิตวางเดิมพันไว้กับคำสัญญาของพระเจ้าเช่นเดียวกัน. พวกเขาได้อุทิศชีวิตแด่พระองค์ และมีคัมภีร์ไบเบิลครบชุดเสริมความเชื่อของตนให้เข้มแข็ง. (2 ติโมเธียว 3:14-17) พยานเหล่านี้ของพระยะโฮวาสมัยปัจจุบันได้เลียนแบบเหล่าสาวกของพระเยซูในศตวรรษแรกซึ่งเคยแถลงไว้ว่า ตนจะ “เชื่อฟังพระเจ้าในฐานะเป็นผู้ครอบครองยิ่งกว่ามนุษย์.” (กิจการ 5:29, ล.ม.) ศตวรรษนี้ คริสเตียนพยานฯเหล่านี้มีหลายคนถูกข่มเหงอย่างทารุณ. บางคนถึงกับถูกฆ่าเพราะความเชื่อของเขา. คนอื่น ๆ ถึงแก่ชีวิตเพราะการเจ็บป่วย, ประสบอุปัทวเหตุ หรือเพราะแก่ชรา. อย่างไรก็ดี คนเหล่านี้ก็เช่นเดียวกันกับเหล่าพยานฯที่สัตย์ซื่อในอดีต เขาไว้ใจพระเจ้าเนื่องจากเขาทราบว่าพระองค์จะให้ชีวิตแก่เขาอีกในโลกใหม่โดยการปลุกขึ้นจากตาย.—โยฮัน 5:28, 29; กิจการ 24:15; วิวรณ์ 20:12, 13.
19, 20. พวกเรารับรู้เรื่องอะไรเกี่ยวด้วยคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับสมัยของเรา?
19 พยานพระยะโฮวาเข้าใจว่า การที่เขาจะถูกนำออกมาจากทุกชาติให้เป็นภราดรภาพทั่วโลกนั้นมีบอกไว้นานมาแล้วในคัมภีร์ไบเบิล. (ยะซายา 2:2-4; วิวรณ์ 7:4, 9-17) และพระยะโฮวาทรงประสงค์ให้เขาทำการประกาศตลอดทั่วโลก เพื่อรวบรวมคนอื่น ๆ ที่มีใจสัตย์ซื่อให้เข้ามารับความโปรดปรานและการคุ้มครองจากพระองค์. (สุภาษิต 18:10; มัดธาย 24:14; โรม 10:13) คนเหล่านี้ทุกคนมอบความไว้วางใจไว้กับพระยะโฮวา โดยรู้อยู่ว่า อีกไม่นานพระองค์จะทรงนำโลกใหม่อันเยี่ยมยอดเข้ามา.—เทียบกับ 1 โกรินโธ 15:58; เฮ็บราย 6:10.
20 คำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลแสดงให้เห็นว่า โลกของซาตานได้มาถึงยุคสุดท้ายเกือบ 80 ปีแล้วนับตั้งแต่ปีสากลศักราช 1914 ซึ่งเป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อ. โลกนี้ใกล้อวสาน. (โรม 16:20; 2 โกรินโธ 4:4; 2 ติโมเธียว 3:1-5) ด้วยเหตุนี้ พยานพระยะโฮวาตั้งใจแน่วแน่ไม่ท้อถอยเพราะพวกเขาตระหนักว่า ในไม่ช้า ราชอาณาจักรของพระเจ้าจะมีอำนาจเต็มที่เข้าควบคุมกิจการทั้งสิ้นของแผ่นดินโลกนี้. โดยการทำให้โลกปัจจุบันที่ชั่วช้าไปสู่กาลอวสาน และนำโลกใหม่อันชอบธรรมของพระองค์เข้ามาแทน พระเจ้าก็จะทรงกำจัดความเลวร้ายทุกอย่างที่มีมานานหลายศตวรรษบนแผ่นดินให้หมดไปเสียทีเดียว.—สุภาษิต 2:21, 22.
21. ทำไมพวกเราชื่นชมยินดีได้ทั้ง ๆ ที่มีความยุ่งยากลำบากในปัจจุบัน?
21 ครั้นแล้ว ตลอดนิรันดรกาล พระเจ้าจะทรงแสดงความใฝ่พระทัยอย่างล้ำลึกต่อพวกเราโดยการหลั่งพระพรนานาประการลงมาอย่างอุดมซึ่งจะชดเชยความเจ็บปวดใด ๆ ที่เราเคยประสบมาในอดีต. สิ่งดี ๆ หลายอย่างจะเกิดขึ้นกับเราในโลกใหม่ ซึ่งความเดือดร้อนลำบากแต่หนหลังจะเลือนหายไปจากความทรงจำ. ช่างเป็นการประโลมใจเสียจริง ๆ ที่รู้ว่าในตอนนั้นพระยะโฮวาจะทรง “แบพระหัตถ์, ประทานแก่สรรพสัตว์ที่มีชีวิตอยู่ให้อิ่มตามความประสงค์.”—บทเพลงสรรเสริญ 145:16; ยะซายา 65:17, 18.
22. เพราะเหตุใดเราควรมอบความไว้ใจไว้กับพระยะโฮวา?
22 ในโลกใหม่ มวลมนุษย์ผู้ซื่อสัตย์จะเห็นความสมจริงตามที่จารึกในพระธรรมโรม 8:21 (ล.ม.) ที่ว่า “สิ่งทรงสร้างนั้นจะได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นทาสความเสื่อมเสียและมีเสรีภาพอันรุ่งโรจน์แห่งบุตรทั้งหลายของพระเจ้า.” พวกเขาจะแลเห็นความเป็นจริงแห่งคำอธิษฐานที่พระเยซูสอนสาวกของพระองค์ว่า “ขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์มาเถิด. พระทัยประสงค์ของพระองค์สำเร็จแล้วในสวรรค์อย่างไร ก็ขอให้สำเร็จบนแผ่นดินโลกอย่างนั้น.” (มัดธาย 6:10, ล.ม.) ฉะนั้น จงไว้ใจพระยะโฮวาเต็มที่ เพราะคำสัญญาของพระองค์ซึ่งผิดพลาดไม่ได้คือ “คนสัตย์ธรรมจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก, และจะอาศัยอยู่ที่นั่นต่อไปเป็นนิตย์.”—บทเพลงสรรเสริญ 37:29.
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ พระประสงค์ของพระยะโฮวาเป็นเช่นไรสำหรับมนุษย์และแผ่นดินโลก?
▫ เพราะเหตุใดพระเจ้าทรงยอมให้มีสภาพเลวร้ายบนแผ่นดินโลก?
▫ คนซื่อสัตย์สมัยโบราณได้แสดงให้เห็นอย่างไรว่าเขาไว้ใจพระยะโฮวา?
▫ เพราะเหตุใดผู้รับใช้ของพระเจ้าสมัยปัจจุบันจึงไว้ใจพระยะโฮวา?
[รูปภาพหน้า 16]
พระเจ้าได้สร้างมนุษย์ให้อยู่ตลอดไปอย่างมีความสุขในแผ่นดินโลกอันเป็นอุทยาน
[รูปภาพหน้า 18]
อับราฮามไว้ใจพระปรีชาสามารถของพระยะโฮวาที่จะทรงปลุกคนตายขึ้นมาสู่ชีวิตอีก