จงดำเนินในทางของพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป
“จงคอยท่าพระยะโฮวา และรักษาทางของพระองค์ไว้, แล้วพระองค์จะทรงโปรดให้ท่านเลื่อนขึ้นได้มฤดกที่แผ่นดินนั้น.”—บทเพลงสรรเสริญ 37:34.
1, 2. การดำเนินในทางของพระยะโฮวาหมายรวมถึงอะไรบ้างสำหรับกษัตริย์ดาวิด และการดำเนินในทางของพระยะโฮวาเรียกร้องอะไรจากเราในปัจจุบัน?
“ขอโปรดข้าพเจ้าให้รู้จักมรคาที่ข้าพเจ้าควรจะดำเนิน; เพราะข้าพเจ้าได้ทูลถวายจิตต์วิญญาณของข้าพเจ้าแก่พระองค์.” (บทเพลงสรรเสริญ 143:8) คริสเตียนในปัจจุบันกล่าวซ้ำคำพูดนี้ของกษัตริย์ดาวิดอย่างสุดหัวใจ. พวกเขาปรารถนาอย่างจริงใจที่จะทำให้พระยะโฮวาพอพระทัยและดำเนินในทางของพระองค์. การดำเนินในทางของพระยะโฮวาหมายรวมถึงอะไรบ้าง? สำหรับดาวิด นั่นหมายถึงการรักษาพระบัญญัติของพระเจ้า. ทั้งนี้ รวมไปถึงการไว้วางใจในพระยะโฮวาแทนที่จะวางใจในการเป็นพันธมิตรกับชาติต่าง ๆ. และนอกจากนี้ยังหมายถึงการรับใช้พระยะโฮวาอย่างภักดี ไม่ใช่รับใช้พระของชนชาติข้างเคียง. สำหรับคริสเตียน การดำเนินในทางของพระยะโฮวามีความหมายมากกว่านี้.
2 ในประการหนึ่งนั้น การดำเนินในทางของพระยะโฮวาในปัจจุบันหมายถึงการสำแดงความเชื่อในเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซูคริสต์ ยอมรับพระองค์ในฐานะ “ทางนั้น, เป็นความจริง, และเป็นชีวิต.” (โยฮัน 3:16; 14:6; เฮ็บราย 5:9) นอกจากนี้ยังหมายถึงการทำให้ “พระบัญญัติของพระคริสต์” สำเร็จด้วย ซึ่งก็รวมถึงการแสดงความรักต่อกันและกัน โดยเฉพาะต่อพี่น้องที่ได้รับการเจิมของพระเยซู. (ฆะลาเตีย 6:2; มัดธาย 25:34-40) คนเหล่านั้นที่ดำเนินในทางของพระยะโฮวารักหลักการและพระบัญชาของพระองค์. (บทเพลงสรรเสริญ 119:97; สุภาษิต 4:5, 6) พวกเขาถือว่าสิทธิพิเศษในการมีส่วนร่วมในงานรับใช้ของคริสเตียนมีค่าสูงยิ่ง. (โกโลซาย 4:17; 2 ติโมเธียว 4:5) การอธิษฐานเป็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำในชีวิตของพวกเขา. (โรม 12:12) และพวกเขา ‘ระวังอย่างเข้มงวดเพื่อวิธีที่เขาดำเนินนั้นจะไม่เหมือนคนไร้ปัญญา แต่เหมือนคนมีปัญญา.’ (เอเฟโซ 5:15, ล.ม.) พวกเขาไม่ละทิ้งความมั่งคั่งฝ่ายวิญญาณเพื่อเห็นแก่ผลประโยชน์ชั่วคราวทางวัตถุหรือความเพลิดเพลินทางเนื้อหนังที่ไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน. (มัดธาย 6:19, 20; 1 โยฮัน 2:15-17) ยิ่งกว่านั้น ความภักดีต่อพระยะโฮวาและความไว้วางใจในพระองค์เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง. (2 โกรินโธ 1:9; 10:5; เอเฟโซ 4:24) เพราะเหตุใด? เพราะสภาพการณ์ของเราคล้ายกันทีเดียวกับสภาพการณ์ในชาติยิศราเอลโบราณ.
ความจำเป็นที่ต้องมีความไว้วางใจและความภักดี
3. เหตุใดความภักดี, ความเชื่อ, และความไว้วางใจจะช่วยเราให้ดำเนินในทางของพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป?
3 ยิศราเอลเป็นชาติเล็ก ๆ ที่แวดล้อมไปด้วยชาติข้างเคียงที่ไม่เป็นมิตรซึ่งมีกิจปฏิบัติที่ไร้ศีลธรรมในการนมัสการพระที่เป็นรูปเคารพ. (1 โครนิกา 16:26) เฉพาะชาติยิศราเอลเท่านั้นที่รับใช้พระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวผู้ไม่ประจักษ์แก่ตา และพระองค์ทรงเรียกร้องให้พวกเขารักษามาตรฐานสูงทางศีลธรรม. (พระบัญญัติ 6:4) คล้ายกันกับทุกวันนี้ มีเพียงไม่กี่ล้านคนที่นมัสการพระยะโฮวา และพวกเขาอาศัยในโลกที่ผู้คนเกือบหกพันล้านคนมีมาตรฐานและทัศนะทางศาสนาต่างกันกับของพวกเขามาก. หากเราอยู่ในกลุ่มไม่กี่ล้านคนนั้น เราก็ต้องระวังตัวไม่ให้ถูกโน้มนำไปในทางผิด. โดยวิธีใด? ความภักดีต่อพระยะโฮวาพระเจ้า, ความเชื่อในพระองค์, และความวางใจอย่างมั่นคงว่าพระองค์จะทรงทำให้คำสัญญาของพระองค์สำเร็จจะช่วยเรา. (เฮ็บราย 11:6) เราจะได้รับการป้องกันไม่ให้วางใจในสิ่งต่าง ๆ ที่โลกฝากความหวังไว้.—สุภาษิต 20:22; 1 ติโมเธียว 6:17.
4. เหตุใดนานาชาติอยู่ “ในความมืดทางจิตใจ”?
4 อัครสาวกเปาโลแสดงให้เห็นว่าคริสเตียนต้องต่างจากโลกเพียงใดเมื่อท่านเขียนว่า “ด้วยเหตุนั้น ในนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจึงบอกและเป็นพยานแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านไม่ดำเนินอย่างนานาชาติอีกต่อไป ซึ่งดำเนินด้วยความคิดอันไร้ประโยชน์ ขณะที่เขาอยู่ในความมืดทางจิตใจและเหินห่างไปจากชีวิตซึ่งเป็นของพระเจ้า เนื่องด้วยความเขลาที่อยู่ในเขาทั้งหลาย เนื่องด้วยหัวใจเขาทั้งหลายไร้ความรู้สึก.” (เอเฟโซ 4:17, 18, ล.ม.) พระเยซูทรงเป็น “ความสว่างแท้.” (โยฮัน 1:9) ใครก็ตามที่ปฏิเสธพระองค์หรืออ้างว่าเชื่อในพระองค์แต่ไม่เชื่อฟัง “พระบัญญัติของพระคริสต์” ผู้นั้นอยู่ “ในความมืดทางจิตใจ.” โดยเดินห่างจากทางของพระยะโฮวา พวกเขา “เหินห่างไปจากชีวิตซึ่งเป็นของพระเจ้า.” ไม่ว่าพวกเขาจะคิดว่าเขาฉลาดเพียงไรในทางของโลกก็ตาม พวกเขามี ‘ความเขลาในตัวเขาเอง’ เกี่ยวกับความรู้เพียงอย่างเดียวที่นำไปสู่ชีวิต คือความรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวาพระเจ้าและพระเยซูคริสต์.—โยฮัน 17:3; 1 โกรินโธ 3:19.
5. แม้ว่าแสงแห่งความจริงกำลังส่องฉายในโลกนี้ เหตุใดหัวใจของคนมากมายไม่ตอบรับ?
5 ทว่า แสงแห่งความจริงกำลังส่องฉายในโลก! (บทเพลงสรรเสริญ 43:3; ฟิลิปปอย 2:15) “พระปัญญาแท้นั่นเองส่งเสียงดังอยู่ในท้องถนน.” (สุภาษิต 1:20, ล.ม.) ปีที่แล้ว พยานพระยะโฮวาใช้เวลามากกว่าหนึ่งพันล้านชั่วโมงบอกเพื่อนบ้านเกี่ยวกับพระยะโฮวาพระเจ้าและพระเยซูคริสต์. หลายแสนคนตอบรับ. แต่เราควรแปลกใจไหมที่คนอื่นอีกมากไม่ตอบรับ? ไม่เลย. เปาโลกล่าวว่า “หัวใจเขาทั้งหลายไร้ความรู้สึก.” บางคนมีหัวใจที่ไม่ตอบรับเนื่องจากความเห็นแก่ตัวหรือความรักเงินทอง. ส่วนคนอื่นนั้นถูกชักจูงโดยศาสนาเท็จหรือทัศนะของโลกที่แพร่หลายในปัจจุบัน. ประสบการณ์ชีวิตที่ลำบากได้ทำให้หลายคนหันหลังให้พระเจ้า. คนอื่น ๆ ไม่อยากทำอย่างที่สอดคล้องกับมาตรฐานสูงทางศีลธรรมของพระยะโฮวา. (โยฮัน 3:20) หัวใจของคนที่กำลังดำเนินในทางของพระยะโฮวาอาจกลายเป็นไร้ความรู้สึกในลักษณะดังกล่าวได้ไหม?
6, 7. แม้ว่าพวกเขาเป็นผู้นมัสการพระยะโฮวาพระเจ้า แต่ชาวยิศราเอลล้มพลาดในโอกาสใดบ้าง และเพราะเหตุใด?
6 เรื่องนี้เกิดขึ้นกับชาติยิศราเอลโบราณ ดังที่เปาโลได้ชี้ให้เห็น. ท่านเขียนดังนี้: “เหตุการณ์เหล่านั้นได้กลายเป็นตัวอย่างสำหรับเรา เพื่อเราไม่เป็นคนปรารถนาสิ่งที่ก่อความเสียหายเหมือนที่พวกเขาได้ปรารถนานั้น. ทั้งไม่เป็นผู้ไหว้รูปเคารพ ดังที่บางคนในพวกเขาได้กระทำ; ตามที่เขียนไว้ว่า ‘ไพร่พลนั่งลงกินและดื่ม แล้วก็ลุกขึ้นสนุกสนานกัน.’ ทั้งอย่าให้เราประพฤติผิดประเวณี ดังที่บางคนในพวกเขาได้ประพฤติผิดประเวณี แล้วก็ล้มตายในวันเดียวสองหมื่นสามพันคน.”—1 โกรินโธ 10:6-8, ล.ม.
7 ในอันดับแรก เปาโลกล่าวพาดพิงถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งที่ชาติยิศราเอลนมัสการรูปโคทองคำที่เชิงเขาซีนาย. (เอ็กโซโด 32:5, 6) นี่เป็นการไม่เชื่อฟังโดยตรงต่อพระบัญชาของพระเจ้าที่พวกเขาเพิ่งแสดงความเห็นชอบจะปฏิบัติตามเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านั้น. (เอ็กโซโด 20:4-6; 24:3) จากนั้น เปาโลกล่าวถึงคราวที่ชาติยิศราเอลกราบไหว้พระบาละด้วยกันกับบุตรสาวของชาวโมอาบ. (อาฤธโม 25:1-9) ลักษณะเด่นของการบูชารูปโคคือการทำตามใจตัวเองเต็มที่ “สนุกสนานกัน.”a สิ่งที่ควบคู่ไปกับการนมัสการบาละคือการประพฤติผิดศีลธรรมอย่างโจ่งแจ้ง. (วิวรณ์ 2:14) เหตุใดชาวยิศราเอลทำบาปเหล่านี้? เพราะพวกเขาปล่อยหัวใจเขาให้ “ปรารถนาสิ่งที่ก่อความเสียหาย” ไม่ว่าจะเป็นการบูชารูปเคารพหรือกิจปฏิบัติที่ไร้ศีลธรรมซึ่งควบคู่กัน.
8. เราอาจได้บทเรียนอะไรจากประสบการณ์ของชาติยิศราเอล?
8 เปาโลชี้ว่าเราควรได้บทเรียนจากเหตุการณ์เหล่านี้. บทเรียนอะไร? เป็นเรื่องเหลือคิดที่คริสเตียนจะกราบไหว้รูปโคทองคำหรือพระของชาวโมอาบโบราณ. แต่จะว่าอย่างไรสำหรับการประพฤติผิดศีลธรรมหรือการทำตามใจตัวเองอย่างไม่มีการเหนี่ยวรั้ง? การประพฤติตัวแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาในปัจจุบัน และหากเรายอมให้ความปรารถนาแบบนี้งอกงามขึ้นในหัวใจเรา มันก็จะเข้ามากั้นขวางเราไว้จากพระยะโฮวา. ผลก็จะเป็นราวกับว่าเราได้ทำการบูชารูปเคารพ กล่าวคือการตีตัวออกห่างจากพระเจ้า. (เทียบกับโกโลซาย 3:5; ฟิลิปปอย 3:19.) ที่จริง เปาโลกล่าวลงท้ายการพิจารณาของท่านเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้นโดยกระตุ้นเตือนเพื่อนร่วมความเชื่อว่า “จงหลีกหนีจากการไหว้รูปเคารพ.”—1 โกรินโธ 10:14, ล.ม.
ความช่วยเหลือในการดำเนินในทางของพระเจ้า
9. (ก) เรารับความช่วยเหลืออะไรเพื่อจะดำเนินในทางของพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป? (ข) วิธีหนึ่งที่เราได้ยิน ‘ถ้อยคำข้างหลังเรา’ คืออะไร?
9 หากเราตั้งใจแน่วแน่จะดำเนินในทางของพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป เราไม่ได้ถูกทิ้งให้ปราศจากความช่วยเหลือ. ยะซายาพยากรณ์ไว้ว่า “หูของเจ้าเองจะได้ยินถ้อยคำข้างหลังเจ้ากล่าวว่า ‘ทางนี้แหละ. เจ้าทั้งหลาย จงเดินในทางนี้เถิด’ ในกรณีที่เจ้าทั้งหลายจะไปทางขวาหรือในกรณีที่เจ้าทั้งหลายจะไปทางซ้าย.” (ยะซายา 30:21, ล.ม.) ‘หูของเราเอง’ ได้ยิน ‘ถ้อยคำข้างหลังเรา’ นั้นอย่างไร? ไม่มีใครในปัจจุบันได้ยินเสียงจริง ๆ หรือได้รับข่าวสารเป็นส่วนตัวจากพระเจ้า. “ถ้อยคำ” ที่ได้ยินมาถึงเราทุกคนแบบเดียวกัน. ประการแรกและสำคัญที่สุด ถ้อยคำนี้มาทางพระคัมภีร์ซึ่งมีขึ้นโดยการดลใจ คือคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งบรรจุความคิดทั้งหลายของพระเจ้าและบันทึกการติดต่อเกี่ยวข้องระหว่างพระองค์กับมนุษย์. เนื่องจากเราตกเป็นเป้าของการโฆษณาชวนเชื่อไม่เว้นแต่ละวันจากแหล่งต่าง ๆ ที่ “เหินห่างไปจากชีวิตซึ่งเป็นของพระเจ้า” เพื่อจะมีสุขภาพดีฝ่ายวิญญาณ เราจำต้องอ่านคัมภีร์ไบเบิลและนำมาคิดรำพึงเป็นประจำ. การทำเช่นนี้จะช่วยเราให้หลีกเลี่ยง “การซึ่งหาประโยชน์มิได้” และ “เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน, เตรียมพร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง.” (กิจการ 14:14, 15; 2 ติโมเธียว 3:16, 17, ล.ม.) การอ่านพระคัมภีร์และการคิดรำพึงจะเสริมกำลังให้เรา, เสริมความเข้มแข็ง, และช่วยเราให้ “บรรลุผลสำเร็จ.” (ยะโฮซูอะ 1:7, 8, ล.ม.) ฉะนั้น พระคำของพระยะโฮวากระตุ้นดังนี้: “ศิษย์ของเราเอ๋ย, เพราะฉะนั้นจงฟังเราเถิด; เพราะว่าคนทั้งหลายที่ถือรักษาทางทั้งปวงของเราก็เป็นสุข. จงฟังคำสั่งสอนและฉลาดขึ้น; อย่าขัดขืน [“เพิกเฉย,” ล.ม.] เลย.”—สุภาษิต 8:32, 33.
10. วิธีที่สองที่เราได้ยิน ‘ถ้อยคำข้างหลังเรา’ คืออะไร?
10 นอกจากนั้น ‘ถ้อยคำข้างหลังเรา’ ยังมาโดยทาง “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม” ซึ่งแจกจ่าย ‘อาหารตามเวลาที่สมควร’ ด้วย. (มัดธาย 24:45-47, ล.ม.) วิธีหนึ่งที่มีการแจกจ่ายอาหารนี้คือในรูปสิ่งพิมพ์ที่อาศัยคัมภีร์ไบเบิลเป็นหลัก และในช่วงไม่กี่ปีมานี้อาหารดังกล่าวมีอยู่อย่างอุดมบริบูรณ์. ตัวอย่างเช่น โดยทางวารสารหอสังเกตการณ์ เราได้รับความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในรายละเอียดต่าง ๆ ของคำพยากรณ์. เราได้รับการสนับสนุนจากวารสารนี้ที่จะพากเพียรในงานประกาศและงานทำให้คนเป็นสาวกแม้มีความไม่แยแสเพิ่มขึ้น, เราได้รับความช่วยเหลือให้หลีกเลี่ยงหลุมพราง, และเราได้รับการกระตุ้นให้พัฒนาคุณลักษณะที่ดีแบบคริสเตียน. เรารู้สึกหยั่งรู้ค่าอาหารตามเวลาที่สมควรเช่นนี้สักเพียงไร!
11. จงอธิบายวิธีที่สามที่เราสามารถได้ยิน ‘ถ้อยคำข้างหลังเรา.’
11 นอกจากนี้ ทาสสัตย์ซื่อและสุขุมยังจัดอาหารให้โดยทางการประชุมที่เราเข้าร่วมเป็นประจำ. การประชุมเหล่านี้ได้แก่การประชุมประจำประชาคมท้องถิ่น, การประชุมระดับหมวด 2 ครั้งในรอบปี, และการประชุมที่ใหญ่กว่าคือการประชุมภาคปีละครั้ง. มีคริสเตียนที่ซื่อสัตย์คนใดหรือที่ไม่เห็นคุณค่าของการประชุมร่วมกันเช่นนี้? การประชุมเหล่านี้ให้ความช่วยเหลือที่สำคัญในการสนับสนุนเราให้ดำเนินในทางของพระยะโฮวา. เนื่องจากหลายคนต้องใช้เวลามากในที่ทำงานหรือที่โรงเรียนอยู่ด้วยกันกับคนที่ไม่มีความเชื่อเหมือนเขา การคบหาสมาคมกับเพื่อนคริสเตียนเป็นประจำจึงนับเป็นการช่วยชีวิตตามตัวอักษร. การประชุมให้โอกาสอันดีแก่เรา ‘เพื่อเร้าใจกันและกันให้เกิดความรักและการกระทำที่ดี.’ (เฮ็บราย 10:24, ล.ม.) เรารักพี่น้องของเรา และเรารักการคบหาสมาคมกับพวกเขา.—บทเพลงสรรเสริญ 133:1.
12. พยานพระยะโฮวามีความตั้งใจแน่วแน่เช่นไร และเมื่อไม่นานมานี้พวกเขาแสดงความตั้งใจแน่วแน่นั้นอย่างไร?
12 โดยได้รับการเสริมกำลังจากอาหารฝ่ายวิญญาณเช่นนี้ ปัจจุบัน ผู้คนเกือบหกล้านคนกำลังดำเนินในทางของพระยะโฮวา และคนอื่นอีกหลายล้านคนกำลังศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเพื่อเรียนรู้ว่าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร. พวกเขาท้อแท้หรืออ่อนแรงลงไปไหมเนื่องด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขามีจำนวนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับประชากรโลกหลายพันล้านคน? ไม่เลย! พวกเขาแน่วแน่ที่จะเอาใจใส่ ‘ถ้อยคำข้างหลังพวกเขา’ อยู่เสมอ ทำตามพระทัยประสงค์ของพระยะโฮวาอย่างภักดี. เพื่อเป็นการแสดงออกอย่างเปิดเผยถึงความตั้งใจแน่วแน่นี้ ในระหว่างการประชุมภาคและการประชุมนานาชาติปี 1998/1999 “วิถีชีวิตตามแนวทางของพระเจ้า” ผู้เข้าร่วมขานรับมติซึ่งแสดงถึงจุดยืนที่ออกมาจากใจของพวกเขา. ต่อไปนี้คือเนื้อหาของมติดังกล่าว.
มติ
13, 14. พยานพระยะโฮวามีทัศนะที่ตรงความเป็นจริงเช่นไรเกี่ยวกับสภาพการณ์ของโลก?
13 “เราในฐานะพยานพระยะโฮวาที่ได้ชุมนุมกัน ณ การประชุมภาค ‘วิถีชีวิตตามแนวทางของพระเจ้า’ เห็นด้วยอย่างเต็มที่ว่าแนวทางของพระเจ้าเป็นแนวทางชีวิตที่ดีที่สุด. อย่างไรก็ตาม เรารู้ว่ามนุษยชาติส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีความเห็นที่ต่างไป. สังคมมนุษย์ได้ทดลองแนวคิด, ปรัชญา, และความคิดทางศาสนามากมายหลายอย่างเพื่อจะดูว่าอะไรเป็นวิถีชีวิตที่ดีที่สุด. การมองประวัติศาสตร์ของมนุษย์และสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันอย่างซื่อตรง ยืนยันความจริงแห่งแถลงการณ์ของพระเจ้าในยิระมะยา 10:23 ที่ว่า ‘ไม่ใช่ที่มนุษย์ซึ่งดำเนินนั้นจะได้กำหนดก้าวของตัวได้.’
14 “เราเห็นข้อพิสูจน์มากขึ้นทุก ๆ วันว่าถ้อยแถลงเหล่านี้เป็นความจริง. สังคมมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่คำนึงถึงวิถีชีวิตตามแนวทางของพระเจ้า. ผู้คนติดตามสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูก. ผลที่ออกมานั้นน่าเศร้า—ครอบครัวแตกสลาย ปล่อยเด็ก ๆ ให้ไร้การชี้นำ; การติดตามวัตถุนิยมอย่างขนานใหญ่ สิ้นสุดลงที่ความว่างเปล่าและความสิ้นหวัง; อาชญากรรมและความรุนแรงแบบโฉดเขลา มีเหยื่อนับไม่ถ้วน; การต่อสู้ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์และสงคราม ก่อความเสียหายในชีวิตมนุษย์อย่างใหญ่หลวง; การผิดศีลธรรมที่มีอยู่ดาษดื่น กระตุ้นการระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. นี่เป็นส่วนน้อยของปัญหาซับซ้อนมากมายที่ขัดขวางการมุ่งติดตามความสุข, สันติภาพ, และความปลอดภัย.
15, 16. เกี่ยวกับวิถีชีวิตตามแนวทางของพระเจ้า มีการแสดงความตั้งใจแน่วแน่เช่นไรในมติ?
15 “เมื่อคำนึงถึงสภาพอันน่าเศร้าของมนุษยชาติและการคืบใกล้เข้ามาของ ‘สงครามแห่งวันใหญ่ของพระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการ’ ที่เรียกว่าอาร์มาเก็ดดอน (วิวรณ์ 16:14, 16, ล.ม.) พวกเราในฐานะพยานพระยะโฮวามีมติว่า:
16 “ข้อที่หนึ่ง: พวกเราถือว่าตัวเราเป็นของพระยะโฮวาพระเจ้า เราแต่ละคนอุทิศตัวแด่พระองค์อย่างไม่มีเงื่อนไข และเราจะรักษาความเชื่อที่ไม่อาจสั่นคลอนได้ในการจัดเตรียมของพระยะโฮวาเรื่องค่าไถ่โดยทางพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์. พวกเราตั้งใจแน่วแน่ที่จะดำเนินในวิถีชีวิตตามแนวทางของพระเจ้า รับใช้เป็นพยานของพระองค์และอ่อนน้อมต่อพระบรมเดชานุภาพของพระองค์ที่สำแดงโดยทางการปกครองของพระเยซูคริสต์.
17, 18. พยานพระยะโฮวาจะรักษาจุดยืนเช่นไรไว้ต่อ ๆ ไปในเรื่องมาตรฐานด้านศีลธรรมและภราดรภาพแบบคริสเตียน?
17 “ข้อที่สอง: พวกเราจะยึดมั่นต่อไปในมาตรฐานสูงทางศีลธรรมและฝ่ายวิญญาณของคัมภีร์ไบเบิล. พวกเราตั้งใจแน่วแน่ที่จะเลิกดำเนินอย่างนานาชาติในความคิดอันไร้ประโยชน์ของพวกเขา. (เอเฟโซ 4:17-19) เราตั้งใจแน่วแน่ที่จะรักษาตัวสะอาดจำเพาะพระพักตร์พระยะโฮวา และพ้นจากด่างพร้อยของโลกนี้.—ยาโกโบ 1:27.
18 “ข้อที่สาม: พวกเราจะยึดมั่นกับจุดยืนตามหลักพระคัมภีร์ฐานะเป็นภราดรภาพแบบคริสเตียนทั่วโลก. พวกเราจะรักษาความเป็นกลางแบบคริสเตียนระหว่างนานาชาติ ไม่ยอมเข้าร่วมกับความเกลียดชังหรือการแบ่งแยกในเรื่องเชื้อชาติ, ประเทศชาติ, หรือกลุ่มชาติพันธุ์.
19, 20. (ก) คริสเตียนที่เป็นบิดามารดาจะทำอะไร? (ข) คริสเตียนแท้ทุกคนจะพิสูจน์ตัวเองในฐานะสาวกของพระคริสต์ต่อไปอย่างไร?
19 “ข้อที่สี่: พวกเราที่เป็นบิดามารดาจะพร่ำสอนแนวทางของพระเจ้าในลูกของเรา. พวกเราจะวางตัวอย่างในการดำเนินชีวิตแบบคริสเตียน ซึ่งมีการอ่านคัมภีร์ไบเบิลเป็นประจำ, การศึกษาประจำครอบครัว, และการเข้าร่วมกับประชาคมคริสเตียนและงานประกาศอย่างสิ้นสุดจิตวิญญาณ.
20 “ข้อที่ห้า: พวกเราทุกคนจะตั้งใจปลูกฝังคุณลักษณะแบบพระเจ้าที่พระผู้สร้างของเราทรงวางแบบอย่างไว้ และเราจะพยายามเลียนแบบบุคลิกภาพของพระองค์และแนวทางของพระองค์ เหมือนอย่างพระเยซูทรงกระทำ. (เอเฟโซ 5:1) พวกเราตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้ทุกแง่มุมในชีวิตของเราดำเนินไปด้วยความรัก โดยวิธีนี้ระบุตัวเราว่าเป็นสาวกของพระคริสต์.—โยฮัน 13:35.
21-23. พยานพระยะโฮวาจะทำอะไรต่อไป และพวกเขาเชื่อมั่นในเรื่องใด?
21 “ข้อที่หก: พวกเราจะไม่ท้อถอยในการประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าต่อ ๆ ไป, การทำให้คนเป็นสาวก, และเราจะสอนพวกเขาในวิถีชีวิตตามแนวทางของพระเจ้าและสนับสนุนพวกเขาให้รับการฝึกฝนต่อไปที่การประชุมประชาคม.—มัดธาย 24:14; 28:19, 20; เฮ็บราย 10:24, 25.
22 “ข้อที่เจ็ด: ในฐานะปัจเจกบุคคลและในฐานะองค์การศาสนา พวกเราจะให้พระทัยประสงค์ของพระเจ้าเป็นอันดับแรกในชีวิตของเราต่อไป. เราใช้คัมภีร์ไบเบิลพระคำของพระองค์เป็นเครื่องนำทางของเรา พวกเราจะไม่หันเหไปข้างซ้ายหรือข้างขวา โดยวิธีนี้จึงเป็นการยืนยันว่าแนวทางของพระเจ้าเหนือกว่าแนวทางของโลกมาก. พวกเราตั้งใจแน่วแน่ที่จะติดตามวิถีชีวิตตามแนวทางของพระเจ้า—อย่างมั่นคงและอย่างภักดี ในขณะนี้และตลอดไป!
23 “พวกเราลงมตินี้เพราะเรามั่นใจเต็มเปี่ยมในคำสัญญาด้วยความรักของพระยะโฮวาที่ว่าบุคคลผู้ทำตามพระทัยประสงค์ของพระเจ้าจะอยู่ตลอดไป. พวกเราลงมตินี้เพราะเราเชื่อมั่นว่าการดำเนินชีวิตตามหลักการ, ตามคำแนะนำ, และตามคำเตือนสติของพระคัมภีร์จะช่วยให้มีวิถีชีวิตที่ดีที่สุดในปัจจุบันและวางรากฐานอันดีไว้สำหรับอนาคต เพื่อที่เราจะยึดเอาชีวิตแท้ให้มั่น. (1 ติโมเธียว 6:19; 2 ติโมเธียว 4:7ข, 8) เหนือสิ่งอื่นใด พวกเราลงมตินี้เพราะพวกเรารักพระยะโฮวาพระเจ้าด้วยสิ้นสุดหัวใจ, สุดจิตวิญญาณ, สุดจิตใจ, และสุดกำลังของเรา!
24, 25. การตอบรับต่อมติที่มีการเสนอเป็นเช่นไร และความตั้งใจแน่วแน่ของคนเหล่านั้นที่ดำเนินในทางของพระยะโฮวาคืออะไร?
24 “ผู้เข้าร่วมทั้งหมด ณ การประชุมภาคแห่งนี้ ผู้ที่สนับสนุนการรับรองมตินี้ โปรดพูดว่า เห็นด้วย!”
25 สนามกีฬาหลายร้อยแห่งทั่วโลกดังกระหึ่มขณะที่ผู้เข้าร่วมทั้งหมดตอบด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหวว่า “เห็นด้วย!” พยานพระยะโฮวาไม่มีข้อสงสัยว่าพวกเขาจะดำเนินต่อ ๆ ไปในทางของพระยะโฮวา. พวกเขามีความไว้วางใจเต็มเปี่ยมในพระยะโฮวาและมีความเชื่อว่าพระองค์จะทำให้คำสัญญาของพระองค์สำเร็จเป็นจริง. พวกเขาคงความภักดีต่อพระองค์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น. และพวกเขาตั้งใจแน่วแน่จะทำตามพระทัยประสงค์ของพระองค์.
“พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา”
26. สภาพการณ์ที่เปี่ยมด้วยความสุขของผู้ที่ดำเนินในทางของพระยะโฮวาเป็นเช่นไร?
26 พยานพระยะโฮวาระลึกเสมอถึงคำกระตุ้นเตือนของท่านผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญที่ว่า “จงคอยท่าพระยะโฮวา. และรักษาทางของพระองค์ไว้, แล้วพระองค์จะทรงโปรดให้ท่านเลื่อนขึ้นได้มฤดกที่แผ่นดินนั้น.” (บทเพลงสรรเสริญ 37:34) พวกเขาไม่ลืมถ้อยคำที่ให้กำลังใจของเปาโลที่ว่า “หากพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ใครจะต่อต้านเรา? พระองค์ผู้มิได้ทรงสงวนแม้แต่พระบุตรของพระองค์เองไว้แต่ได้ทรงประทานพระองค์นั้นเพื่อเราทั้งปวง แล้วไฉนพระองค์จะไม่ทรงโปรดประทานสิ่งอื่นทั้งปวงแก่เราพร้อมกับพระองค์นั้นด้วยเล่า?” (โรม 8:31, 32, ล.ม.) ถูกแล้ว ถ้าเราดำเนินต่อ ๆ ไปในทางของพระยะโฮวา พระองค์จะทรงจัดเตรียม “สิ่งสารพัดแก่เราอย่างบริบูรณ์เพื่อความชื่นชมยินดีของเรา.” (1 ติโมเธียว 6:17, ล.ม.) มีที่ใดเล่าที่ดีกว่าในจุดที่เรากำลังอยู่นี้ กล่าวคือการดำเนินในทางของพระยะโฮวาเคียงข้างไปกับเหล่าพี่น้องชายหญิงที่รักของเรา. โดยมีพระยะโฮวาทรงอยู่ข้างเรา ให้เราตั้งใจแน่วแน่จะรักษาตัวอยู่ตรงนี้และอดทนจนถึงที่สุด มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าเมื่อถึงเวลาที่พระองค์ทรงกำหนด เราจะเห็นพระองค์ทำให้คำสัญญาทุก ๆ ข้อของพระองค์สำเร็จเป็นจริง.—ติโต 1:2.
[เชิงอรรถ]
a ในการอ้างถึงคำภาษากรีกซึ่งแปลในที่นี้ว่า “สนุกสนานกัน” ผู้ให้อรรถาธิบายคนหนึ่งกล่าวว่าคำนี้พาดพิงถึงการเต้นรำที่ทำกันในงานฉลองนอกรีตและกล่าวเพิ่มเติมว่า “ดังที่ทราบกันดี การเต้นรำเหล่านี้หลายครั้งมีจุดประสงค์โดยตรงที่จะปลุกเร้าตัณหาที่ไร้ศีลธรรมที่สุด.”
คุณจำได้ไหม?
▫ มีข้อเรียกร้องอะไรสำหรับคริสเตียนที่จะดำเนินในทางของพระยะโฮวา?
▫ เหตุใดเราจำต้องปลูกฝังความไว้วางใจในพระยะโฮวาและความภักดีต่อพระองค์?
▫ มีอะไรอยู่พร้อมที่จะช่วยเราขณะเราดำเนินในทางของพระยะโฮวา?
▫ จงบอกจุดเด่นบางอย่างของมติที่ได้รับการรับรอง ณ การประชุมภาค “วิถีชีวิตตามแนวทางของพระเจ้า.”
[รูปภาพหน้า 18]
มติสำคัญได้รับการรับรอง ณ การประชุมภาคและการประชุมนานาชาติ “วิถีชีวิตตามแนวทางของพระเจ้า”