ใครนำหน้าประชาชนของพระเจ้าในทุกวันนี้?
“ให้คิดถึงคนที่นำหน้าในหมู่พวกคุณ”—ฮบ. 13:7
1, 2. หลังจากที่พระเยซูกลับไปสวรรค์แล้ว พวกอัครสาวกอาจสงสัยเรื่องอะไร?
อัครสาวกของพระเยซูยืนอยู่ที่ภูเขามะกอก พวกเขาเฝ้าดูพระเยซูที่เป็นทั้งนายและเพื่อนของพวกเขาถูกรับขึ้นไปบนสวรรค์และหายไปในเมฆ (กจ. 1:9, 10) ในช่วงประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา พระเยซูสอน ให้กำลังใจ และนำหน้าพวกเขา แต่ตอนนี้พระเยซูจากไปแล้ว พวกเขาจะทำอย่างไร?
2 ก่อนกลับไปสวรรค์ พระเยซูบอกพวกสาวกว่า “พวกคุณจะเป็นพยานของผมในกรุงเยรูซาเล็ม และทั่วแคว้นยูเดียกับแคว้นสะมาเรีย และจนถึงสุดขอบโลก” (กจ. 1:8) พวกสาวกจะทำงานที่กว้างไกลขนาดนั้นให้สำเร็จได้อย่างไร? พระเยซูสัญญาว่าพลังบริสุทธิ์ของพระเจ้าจะช่วยพวกเขา (กจ. 1:5) แต่ใครจะเป็นคนนำหน้าพวกเขาและจัดระเบียบงานประกาศทั่วโลก? พวกอัครสาวกรู้ดีว่าพระยะโฮวาได้ใช้พวกผู้ชายบางคนให้นำหน้าชาติอิสราเอลในอดีต ดังนั้น พวกเขาก็อาจสงสัยว่าพระยะโฮวาจะเลือกใครอีกไหมให้นำหน้าพวกเขา
3. (ก) หลังจากพระเยซูกลับไปสวรรค์ พวกอัครสาวกที่ซื่อสัตย์ต้องตัดสินใจเรื่องที่สำคัญอะไร? (ข) เราจะคุยกันเกี่ยวกับคำถามอะไรในบทความนี้?
3 หลังจากที่พระเยซูกลับไปสวรรค์ พวกสาวกหาคำแนะนำจากพระคัมภีร์ อธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า แล้วก็เลือกมัทธีอัสให้มาเป็นอัครสาวกคนที่ 12 แทนยูดาสอิสคาริโอท (กจ. 1:15-26) ทำไมการเลือกครั้งนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพวกเขาและสำหรับพระยะโฮวาด้วย? พวกสาวกรู้ว่าจำเป็นต้องมีอัครสาวกให้ครบ 12 คนa พระเยซูได้เลือกอัครสาวกและฝึกอบรมพวกเขาให้พร้อมสำหรับหน้าที่ที่สำคัญมากในหมู่ประชาชนของพระเจ้า หน้าที่นั้นคืออะไร? พระยะโฮวาและพระเยซูเตรียมพวกเขาให้พร้อมอย่างไร? มีการจัดเตรียมแบบเดียวกันในทุกวันนี้อย่างไร? และเราจะ “คิดถึงคนที่นำหน้า” ในหมู่พวกเราได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม”?—ฮบ. 13:7; มธ. 24:45
พระเยซูชี้นำคณะกรรมการปกครอง
4. อัครสาวกและพวกผู้ถูกเจิมที่เป็นผู้ดูแลในเยรูซาเล็มมีหน้าที่สำคัญอะไร?
4 พวกอัครสาวกเริ่มนำหน้าประชาคมคริสเตียนในวันเพ็นเทคอสต์ปี 33 คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “เปโตรก็ยืนขึ้นพร้อมกับอัครสาวก 11 คน” และสอนความจริงที่ช่วยชีวิตให้กับคนกลุ่มใหญ่ (กจ. 2:14, 15) มีคนมากมายในกลุ่มนั้นได้เข้ามาเป็นคริสเตียน หลังจากนั้น พี่น้องคริสเตียนใหม่เหล่านี้ “ตั้งใจเรียนสิ่งที่พวกอัครสาวกสอน” (กจ. 2:42) พวกอัครสาวกรับผิดชอบในการจัดการกับเงินในประชาคมคริสเตียน (กจ. 4:34, 35) พวกอัครสาวกสอนและอธิษฐานให้ประชาชนของพระเจ้า พวกเขาบอกว่า ‘พวกเราได้ทุ่มเทตัวในการอธิษฐานและสอนคำสอนของพระเจ้า’ (กจ. 6:4) พวกอัครสาวกยังส่งคริสเตียนที่มีประสบการณ์ให้ไปประกาศในเขตใหม่ ๆ ด้วย (กจ. 8:14, 15) ในเวลาต่อมา นอกจากพวกอัครสาวกแล้ว ก็มีผู้ถูกเจิมที่เป็นผู้ดูแลบางคนเข้ามาร่วมในการนำหน้าประชาคมด้วย พวกเขาทั้งหมดเป็นคณะกรรมการปกครองที่นำหน้าประชาคมคริสเตียน—กจ. 15:2
5, 6. (ก) คณะกรรมปกครองได้รับความช่วยเหลือจากพลังบริสุทธิ์อย่างไร? (ดูภาพแรก) (ข) คณะกรรมการปกครองได้รับความช่วยเหลือจากพวกทูตสวรรค์อย่างไร? (ค) คณะกรรมการปกครองได้รับการชี้นำจากถ้อยคำของพระเจ้าอย่างไร?
5 คริสเตียนในศตวรรษแรกรู้ว่าพระยะโฮวาชี้นำคณะกรรมการปกครองโดยทางพระเยซู พวกเขารู้ได้อย่างไร? เหตุผลแรก คณะกรรมการปกครองได้รับพลังบริสุทธิ์ (ยน. 16:13) ที่จริง คริสเตียนผู้ถูกเจิมทุกคนได้รับพลังบริสุทธิ์ แต่อัครสาวกและผู้ดูแลที่ถูกเจิมในเยรูซาเล็มได้รับพลังบริสุทธิ์เป็นพิเศษเพื่อพวกเขาจะทำหน้าที่ผู้ดูแลประชาคมคริสเตียน ตัวอย่างเช่น ในปี 49 พลังบริสุทธิ์ชี้นำคณะกรรมการปกครองให้ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องการเข้าสุหนัต ประชาคมต่าง ๆ ติดตามการชี้นำนั้นและพวกเขา “มีความเชื่อเข้มแข็งขึ้นและมีคนเข้ามาเชื่อเพิ่มขึ้นทุกวัน” (กจ. 16:4, 5) จากจดหมายที่เขียนถึงประชาคมต่าง ๆ เกี่ยวกับการเข้าสุหนัต เราเห็นได้ว่าคณะกรรมการปกครองมีพลังบริสุทธิ์จากพระเจ้าและพวกเขาแสดงคุณลักษณะต่าง ๆ ที่ดี เช่น ความรักและความเชื่อ—กจ. 15:11, 25-29; กท. 5:22, 23
6 อย่างที่สอง คณะกรรมการปกครองได้รับความช่วยเหลือจากทูตสวรรค์ ตัวอย่างเช่น ทูตสวรรค์องค์หนึ่งบอกโคร์เนลิอัสให้ไปหาอัครสาวกเปโตร หลังจากเปโตรประกาศกับโคร์เนลิอัสและญาติ ๆ ของเขา พวกเขาได้รับพลังบริสุทธิ์ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เข้าสุหนัตด้วยซ้ำ โคร์เนลิอัสเป็นคนต่างชาติที่ไม่เข้าสุหนัตคนแรกที่เข้ามาเป็นคริสเตียน ตอนที่พวกอัครสาวกและพี่น้องคนอื่น ๆ ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขายอมรับว่านี่เป็นความต้องการของพระเจ้าและยินดีต้อนรับคนต่างชาติที่ไม่ได้เข้าสุหนัตให้เป็นสมาชิกของประชาคมคริสเตียน (กจ. 11:13-18) นี่แสดงให้เห็นว่าพวกทูตสวรรค์ที่กระตือรือร้นกำลังสนับสนุนงานประกาศที่คณะกรรมการปกครองชี้นำ (กจ. 5:19, 20) อย่างที่สาม คณะกรรมการปกครองได้รับการชี้นำจากถ้อยคำของพระเจ้า พี่น้องชายเหล่านี้ใช้พระคัมภีร์เพื่อช่วยพวกเขาให้ตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับความเชื่อของคริสเตียน และเพื่อชี้นำประชาคมคริสเตียน—กจ. 1:20-22; 15:15-20
7. ทำไมเราถึงบอกได้ว่าพระเยซูนำหน้าคริสเตียนในสมัยศตวรรษแรก?
7 ถึงแม้ว่าคณะกรรมการปกครองมีอำนาจในประชาคมคริสเตียน แต่สมาชิกแต่ละคนของคณะกรรมการปกครองรู้ว่าคนที่เป็นผู้นำจริง ๆ แล้วก็คือพระเยซูคริสต์ เรารู้ได้อย่างไร? อัครสาวกเปาโลบอกว่าพระเยซูเป็นผู้แต่งตั้ง “อัครสาวก” เปาโลยังบอกอีกว่าพระเยซูเป็น “ผู้นำ” ของประชาคม (อฟ. 4:11, 15) คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “สาวกได้ชื่อว่าคริสเตียน . . . ตามการชี้นำจากพระเจ้า” พวกเขาไม่ได้ตั้งชื่อกลุ่มของพวกเขาตามชื่ออัครสาวก แต่ตั้งชื่อตามพระเยซูคริสต์ (กจ. 11:26) เปาโลรู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำตามคำสอนของพวกอัครสาวกและผู้ชายคนอื่น ๆ ที่นำหน้า พวกเขาสอนโดยอาศัยคัมภีร์ไบเบิล แต่เปาโลก็บอกว่า “ผมอยากให้พวกคุณรู้ว่า พระคริสต์เป็นผู้นำของผู้ชายทุกคน” คำว่าผู้ชายทุกคนรวมถึงสมาชิกทุกคนของคณะกรรมการปกครองด้วย จากนั้น เปาโลก็บอกอีกว่า “พระเจ้าเป็นผู้นำของพระคริสต์” (1 คร. 11:2, 3) เห็นได้ชัดว่า พระยะโฮวาแต่งตั้งพระเยซูคริสต์ลูกชายของพระองค์ให้นำหน้าประชาคมคริสเตียน
“นี่ไม่ใช่งานของมนุษย์”
8, 9. พี่น้องรัสเซลล์มีหน้าที่สำคัญอะไร?
8 ตั้งแต่ปี 1870 ชาลส์ เทซ รัสเซลล์และเพื่อน ๆ ของเขาพยายามนมัสการพระเจ้าในแบบที่ตรงกับที่คัมภีร์ไบเบิลบอก และพวกเขาอยากช่วยคนอื่น ๆ รวมทั้งคนที่พูดภาษาอื่นให้ทำแบบนั้นด้วย ดังนั้น จึงมีการตั้งสมาคมไซโอนส์ว็อชเทาเวอร์แทร็กต์อย่างถูกต้องตามกฎหมายในปี 1884 และมีพี่น้องรัสเซลล์ทำหน้าที่เป็นนายกสมาคมb พี่น้องรัสเซลล์ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลอย่างละเอียด เขาไม่กลัวที่จะบอกคนอื่นว่าคำสอนต่าง ๆ ของโบสถ์ไม่ได้ตรงตามคัมภีร์ไบเบิล เช่นคำสอนเกี่ยวกับตรีเอกานุภาพและจิตวิญญาณอมตะ เขาเข้าใจด้วยว่าการประทับของพระเยซูจะเป็นแบบมองไม่เห็น และ “ช่วงเวลาของคนต่างชาติ” จะจบลงในปี 1914 (ลก. 21:24) พี่น้องรัสเซลล์สละเวลา กำลัง และทรัพย์สินเงินทองเพื่อสอนความจริงกับคนอื่น เห็นได้ชัดว่าพระยะโฮวาและพระเยซูใช้พี่น้องรัสเซลล์ให้นำหน้าในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ในประวัติศาสตร์
9 พี่น้องรัสเซลล์ไม่อยากให้ใครมาสนใจที่ตัวเขามากเกินไป ในปี 1896 เขาเขียนว่าทั้งตัวเขาและพี่น้องคนอื่นที่นำหน้าไม่ต้องการให้ใครมายกย่อง พวกเขาไม่อยากมีตำแหน่งพิเศษ ไม่อยากให้คนกลุ่มไหนตั้งชื่อตามพวกเขา เขาพูดอีกว่า “นี่ไม่ใช่งานของมนุษย์”
10. (ก) พระเยซูแต่งตั้ง “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” เมื่อไร? (ข) มีการแยกคณะกรรมการปกครองออกจากสมาคมว็อชเทาเวอร์อย่างไร?
10 ในปี 1919 ซึ่งเป็นเวลา 3 ปีหลังจากพี่น้องรัสเซลล์ตาย พระเยซูแต่งตั้ง “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” พระเยซูแต่งตั้งพวกเขาเพื่ออะไร? ท่านต้องการให้สาวกได้รับ ‘อาหารตามเวลาที่เหมาะสม’ (มธ. 24:45) แม้แต่ในช่วงแรก ๆ นั้น พี่น้องผู้ถูกเจิมกลุ่มเล็ก ๆ ที่สำนักงานใหญ่ในบรุกลิน นิวยอร์กก็คอยเตรียมความรู้เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลให้กับสาวกของพระเยซู และตั้งแต่ปี 1940 เริ่มมีการใช้คำว่า “คณะกรรมการปกครอง” ในหนังสือของพวกเรา ในตอนนั้น คณะกรรมการปกครองคือกรรมการของสมาคมว็อชเทาเวอร์ไบเบิลแอนด์แทร็กต์ แต่ในปี 1971 มีการแยกคณะกรรมการปกครองออกจากสมาคมว็อชเทาเวอร์ สมาคมนี้ถูกใช้เพื่อดูแลเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเท่านั้น ตั้งแต่นั้นมา พี่น้องชายที่เป็นผู้ถูกเจิมซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมการปกครองก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกรรมการของสมาคมอีกต่อไป และไม่นานมานี้ พี่น้องชายที่นำหน้าและเป็นส่วนของ “แกะอื่น” ได้ทำหน้าที่เป็นกรรมการของสมาคมและกรรมการของนิติบุคคลอื่น ๆ ที่ตั้งขึ้น การทำอย่างนี้ทำให้คณะกรรมการปกครองสามารถจดจ่อกับการจัดเตรียมการสอนและการชี้นำจากคัมภีร์ไบเบิลได้ (ยน. 10:16; กจ. 6:4) ในหอสังเกตการณ์ 15 กรกฎาคม 2013 อธิบายว่า “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” คือพี่น้องชายกลุ่มเล็ก ๆ ที่รวมกันเป็นคณะกรรมการปกครอง
คณะกรรมการปกครองในทศวรรษ 1950
11. คณะกรรมการปกครองทำงานและตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ อย่างไร?
11 คณะกรรมการปกครองตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ ด้วยกันตอนที่พวกเขาประชุมกันในแต่ละสัปดาห์ การประชุมแบบนี้ช่วยให้พวกเขาได้มีโอกาสปรึกษาหารือกันและเป็นหนึ่งเดียวกัน (สภษ. 20:18) ไม่มีสมาชิกของคณะกรรมการปกครองคนไหนสำคัญกว่าคนอื่น ดังนั้น ทุกปีพวกเขาจะสลับสับเปลี่ยนกันนำการประชุม (1 ปต. 5:1) นอกจากนั้น ยังมีคณะกรรมการต่าง ๆ อีก 6 คณะ และจะมีการจัดการประชุมโดยที่สมาชิกคณะกรรมการปกครองที่ดูแลแต่ละคณะจะสลับกันนำการประชุม ไม่มีสมาชิกคณะกรรมการปกครองคนไหนคิดว่าเขาเป็นผู้นำพี่น้อง พวกเขาแต่ละคนก็เป็น “คนรับใช้” เหมือนกับพี่น้องคนอื่น ๆ พวกเขาจำเป็นต้องได้รับความรู้ที่ช่วยเสริมความเชื่อและต้องทำตามการชี้นำของทาสที่ซื่อสัตย์ด้วยเหมือนกัน
หลังจากได้รับการแต่งตั้งในปี 1919 “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” จัดเตรียมความรู้เพื่อให้ประชาชนของพระเจ้ามีความเชื่อเพิ่มขึ้น (ดูข้อ 10, 11)
“จริง ๆ แล้ว ใครเป็นทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม?”
12. เราจะคุยกันเกี่ยวกับคำถามอะไร?
12 คณะกรรมการปกครองเป็นคนไม่สมบูรณ์แบบและไม่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า พวกเขาอาจทำผิดพลาดเมื่ออธิบายความรู้จากคัมภีร์ไบเบิลและเมื่อชี้นำองค์การของพระเจ้า เราเห็นตัวอย่างเรื่องนี้ได้ในดัชนีสรรพหนังสือของว็อชเทาเวอร์ (ภาษาอังกฤษ) ในนั้นมีหัวข้อที่ชื่อว่า “ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อ”c หัวข้อนี้จะมีรายการที่บอกว่าได้มีการปรับเปลี่ยนความเข้าใจในคัมภีร์ไบเบิลอะไรบ้างตั้งแต่ปี 1870 พระเยซูไม่ได้บอกว่าทาสที่ซื่อสัตย์ของท่านจะแจกจ่ายอาหารที่สมบูรณ์แบบ ถ้าอย่างนั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่า “จริง ๆ แล้ว ใครเป็นทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม?” เหมือนกับคำพูดของพระเยซูที่มัทธิว 24:45? และอะไรเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการปกครองในทุกวันนี้เป็นทาสที่ซื่อสัตย์? ขอเรามาดู 3 สิ่งที่ช่วยพวกเขาเหมือนกับที่ช่วยคณะกรรมการปกครองในสมัยศตวรรษแรก
13. คณะกรรมการปกครองได้รับความช่วยเหลือจากพลังบริสุทธิ์อย่างไร?
13 คณะกรรมการปกครองได้รับความช่วยเหลือจากพลังบริสุทธิ์ พลังบริสุทธิ์ได้ช่วยคณะกรรมการปกครองให้เข้าใจความจริงในคัมภีร์ไบเบิลที่ก่อนหน้านั้นไม่มีใครเข้าใจ ตัวอย่างเช่น ขอคิดถึงการปรับเปลี่ยนความเข้าใจใหม่ที่พูดถึงในข้อก่อน ไม่มีทางที่จะมีใครสามารถเข้าใจและอธิบาย “สิ่งลึกซึ้งขอพระเจ้า” ด้วยตัวเอง (อ่าน 1 โครินธ์ 2:10) คณะกรรมการปกครองรู้สึกเหมือนกับอัครสาวกเปาโลที่บอกว่า “เรายังพูดถึงสิ่งเหล่านั้นด้วย เราไม่ได้พูดตามที่คนฉลาด ๆ สอน แต่พูดตามที่พลังของพระเจ้าสอน” (1 คร. 2:13) หลังจากมีการสอนเรื่องเท็จและการชี้นำที่ไม่ชัดเจนตลอดหลายร้อยปี ทำไมถึงมีความเข้าใจคัมภีร์ไบเบิลเพิ่มขึ้นมากมายขนาดนี้ตั้งแต่ปี 1919? เหตุผลเดียวที่เป็นอย่างนั้นได้ก็คือ พระเจ้าให้พลังบริสุทธิ์ช่วยคณะกรรมการปกครอง
14. จากวิวรณ์ 14:6, 7 คณะกรรมการปกครองและประชาชนของพระเจ้าในทุกวันนี้ได้รับความช่วยเหลือจากทูตสวรรค์อย่างไร?
14 คณะกรรมการปกครองได้รับความช่วยเหลือจากทูตสวรรค์ คณะกรรมการปกครองมีหน้าที่รับผิดชอบมากที่ต้องนำหน้าผู้ประกาศมากกว่า 8 ล้านคนในการประกาศทั่วโลก ทำไมงานนี้ถึงประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้? เหตุผลหนึ่งก็คือ พวกทูตสวรรค์กำลังสนับสนุนงานนี้อยู่ (อ่านวิวรณ์ 14:6, 7) ในหลายครั้ง ทูตสวรรค์ชี้นำผู้ประกาศให้ไปหาคนที่เพิ่งอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าd งานประกาศและงานสอนก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ในที่ที่มีการต่อต้านอย่างรุนแรง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้เพราะความช่วยเหลือจากทูตสวรรค์
15. คณะกรรมการปกครองแตกต่างจากพวกผู้นำศาสนาคริสต์คนอื่น ๆ อย่างไร? ขอยกตัวอย่าง
15 คณะกรรมการปกครองได้รับการชี้นำจากถ้อยคำของพระเจ้า (อ่านยอห์น 17:17) ขอดูว่าเกิดอะไรขึ้นในปี 1973 วารสารหอสังเกตการณ์ 15 มกราคม 1974 (ภาษาไทย) มีคำถามว่า “ชนเหล่านั้นผู้ที่ไม่เลิกเสียจากการใช้ยาสูบแล้วละก็เขาจะมีคุณวุฒิในการที่จะรับบัพติสมาไหม?” คำตอบซึ่งอาศัยหลักการในคัมภีร์ไบเบิลคือ ไม่ได้ หอสังเกตการณ์ เล่มนั้นยังยกข้อคัมภีร์หลายข้อและอธิบายเหตุผลว่าทำไมคนที่ไม่ยอมเลิกบุหรี่จะต้องถูกตัดสัมพันธ์ (1 คร. 5:7; 2 คร. 7:1) มีการอธิบายว่ามาตรฐานที่เข้มงวดนี้ไม่ได้มาจากมนุษย์แต่ “มาจากพระเจ้าผู้ซึ่งบอกเล่าเกี่ยวกับพระองค์โดยทางถ้อยคำที่เป็นข้อเขียน” ไม่มีองค์กรทางศาสนาไหนอีกแล้วที่เต็มใจเชื่อฟังถ้อยคำของพระเจ้าทุกอย่างแม้การทำอย่างนั้นจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับสมาชิกบางคน หนังสือเกี่ยวกับศาสนาในสหรัฐอเมริกาเล่มหนึ่งบอกว่า “พวกผู้นำของศาสนาคริสต์มักเปลี่ยนแปลงคำสอนของพวกเขาให้เข้ากับความเชื่อและความคิดของผู้คน เพื่อจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกและสังคมส่วนใหญ่” คณะกรรมการปกครองไม่ได้ถูกชี้นำจากสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ชอบ แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พวกเขาได้รับการชี้นำจากถ้อยคำของพระเจ้า และนี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าพระยะโฮวาเป็นผู้ที่นำหน้าประชาชนของพระเจ้าในทุกวันนี้จริง ๆ
“ให้คิดถึงคนที่นำหน้า”
16. วิธีหนึ่งที่เราจะคิดถึงคณะกรรมการปกครองคืออะไร?
16 อ่านฮีบรู 13:7 คัมภีร์ไบเบิลบอกให้เรา “คิดถึงคนที่นำหน้า” วิธีหนึ่งก็คือเราสามารถพูดถึงคณะกรรมการปกครองในคำอธิษฐานของเรา (อฟ. 6:18) พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความรู้ที่เสริมสร้างความเชื่อ การชี้นำงานประกาศทั่วโลก และการดูแลเรื่องเงินบริจาค ดังนั้น เราต้องอธิษฐานเพื่อพวกเขาบ่อย ๆ
17, 18. (ก) เราจะทำตามการชี้นำของคณะกรรมการปกครองได้อย่างไร? (ข) งานประกาศที่เราทำเป็นการสนับสนุนคณะกรรมการปกครองและพระเยซูอย่างไร?
17 เรายังสามารถคิดถึงคณะกรรมการปกครองได้โดยทำตามคำสอนและการชี้นำของพวกเขา คณะกรรมการปกครองให้การชี้นำโดยทางหนังสือและสื่อต่าง ๆ การประชุมประชาคม การประชุมหมวด และการประชุมภูมิภาค พวกเขาแต่งตั้งผู้ดูแลหมวด และผู้ดูแลหมวดก็แต่งตั้งผู้ดูแลในประชาคม ผู้ดูแลหมวดและผู้ดูแลในประชาคมจะแสดงว่าพวกเขาคิดถึงคณะกรรมการปกครองได้โดยทำตามการชี้นำที่พวกเขาได้รับอย่างเคร่งครัด นอกจากนั้น พวกเราทุกคนสามารถแสดงว่าเราให้เกียรติพระเยซูผู้นำของพวกเราโดยการเชื่อฟังและยอมรับอำนาจของกลุ่มคนที่ท่านใช้ให้นำหน้าในทุกวันนี้—ฮบ. 13:17
18 อีกวิธีหนึ่งที่เราจะแสดงว่าเราคิดถึงคณะกรรมการปกครองก็คือเราต้องพยายามมีส่วนร่วมในงานประกาศมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ฮีบรู 13:7 กระตุ้นคริสเตียนให้เลียนแบบความเชื่อของคนเหล่านั้นที่นำหน้า คณะกรรมการปกครองได้แสดงว่าพวกเขามีความเชื่อโดยการประกาศและสนับสนุนข่าวดีอย่างกระตือรือร้น แล้วพวกเราล่ะ? เรากำลังสนับสนุนพี่น้องเหล่านั้นโดยทำงานที่สำคัญนี้อยู่ไหม? ถ้าเราทำอย่างนั้น เราจะมีความสุขที่ได้ยินพระเยซูบอกเราว่า “ที่พวกคุณได้ทำอย่างนั้นกับพี่น้องของผมแม้แต่คนที่ดูต่ำต้อยที่สุด ก็เหมือนพวกคุณได้ทำกับผมด้วย”—มธ. 25:34-40
19. ทำไมคุณถึงตั้งใจติดตามการชี้นำของพระเยซูผู้นำของเรา?
19 ตอนที่พระเยซูกลับไปสวรรค์ ท่านไม่ได้ทิ้งสาวก (มธ. 28:20) พระเยซูรู้ว่าพลังบริสุทธิ์ ทูตสวรรค์ และถ้อยคำของพระเจ้าได้ช่วยท่านตอนที่อยู่บนโลกให้นำหน้าประชาชนของพระเจ้า ท่านให้ทาสที่ซื่อสัตย์ได้รับความช่วยเหลือแบบเดียวกันในทุกวันนี้ด้วย คณะกรรมการปกครองติดตาม “ลูกแกะของพระเจ้า” หรือพระเยซู “ไม่ว่าท่านจะไปไหน” (วว. 14:4) ดังนั้น ถ้าเราทำตามการชี้นำของคณะกรรมการปกครอง เราก็กำลังติดตามพระเยซูผู้นำของเรา พระเยซูจะนำหน้าเราเพื่อเราจะได้รับชีวิตตลอดไป (วว. 7:14-17) ไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะสัญญากับเราอย่างนี้ได้
a ดูเหมือนว่าพระยะโฮวาอยากให้มีอัครสาวก 12 คนเพื่อจะเป็น “หินฐานราก 12 ก้อน” ของเยรูซาเล็มใหม่ในอนาคต (วว. 21:14) นี่เป็นเหตุผลที่ไม่จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งอัครสาวกคนอื่นมาแทนอัครสาวกที่ซื่อสัตย์ซึ่งตายไปแล้ว
b ตั้งแต่ปี 1955 นิติบุคคลนี้มีชื่อว่าสมาคมว็อชเทาเวอร์ไบเบิลแอนด์แทร็กต์แห่งเพนซิลเวเนีย
c สำหรับภาษาไทยดูหัวข้อนี้ในหนังสือคู่มือค้นคว้าสำหรับพยานพระยะโฮวา