โปแลนด์เป็นเจ้าภาพต้อนรับพยานพระยะโฮวา
ในโปแลนด์ระหว่างเดือนสิงหาคม 1989 ได้มีการแสดงออกถึงสันติสุขและความเป็นเอกภาพของนานาชาติซึ่งโดดเด่นที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง. โอกาสนั้นคือการประชุมภาค “ความเลื่อมใสในพระเจ้า” ของพยานพระยะโฮวาที่ได้จัดขึ้นในประเทศโปแลนด์ ณ เมืองโปซนันและชอร์โซว์ วันที่ 2-4 สิงหาคม และในกรุงวอร์ซอ วันที่ 11-13 สิงหาคม.
อะไรทำให้การประชุมภาคเหล่านี้โดดเด่นเป็นพิเศษ? ในสมัยปัจจุบันพยานพระยะโฮวามีการประชุมที่ใหญ่กว่า กินเวลานานกว่า และมีตัวแทนจากชาติต่าง ๆ เข้าร่วมมากกว่า. แต่ผู้คนกว่า 166,000 คนจะบอกคุณได้ว่าน้อยครั้งนักที่การประชุมใหญ่จะก่อให้เกิดความกระตือรือร้น แสดงเอกภาพแบบคริสเตียน หรือโดดเด่นเนื่องจากการแสดงความรักแบบคริสเตียนออกมาอย่างมากมายเช่นนี้โดยไม่มีใครกระตุ้น.
‘เฉพาะแต่โลกใหม่เท่านั้นที่ดีกว่า’
อย่างน้อยที่สุดมีคณะผู้แทนจาก 37 ชาติ พร้อมกับปัจเจกชนจากที่อื่น ๆ อีกหลายแห่ง. สมาชิกห้าคนแห่งคณะกรรมการปกครองของพยานพระยะโฮวามีส่วนร่วมในระเบียบวาระ. ผู้มาเยือนกว่า 12,000 คนจากยุโรปตะวันตก สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ทำให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มผู้เดินทางนานาชาติคณะใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีในโปแลนด์.
อีกหลายพันคนมาจากสหภาพโซเวียตและเชโกสโลวะเกีย เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ทางยุโรปตะวันออก. นี้เป็นการประชุมภาคครั้งแรกที่ส่วนใหญ่ของคณะผู้แทนเหล่านี้เคยเข้าร่วม ทั้ง ๆ ที่หลายคนเป็นพยานฯ มา 30 ปีหรือมากกว่านั้น. ความรู้สึกของคนเช่นนั้นผู้ซึ่งสามารถเข้าร่วมประชุมกับพี่น้องคริสเตียนเป็นครั้งแรกจะสรุปได้ดีที่สุดโดยผู้แทนคนหนึ่งจากกาซัคสถาน สหภาพโซเวียต ผู้ซึ่งกล่าวว่า:
“พวกเรารอคอยวันนี้มาหลายปีแล้ว และเดี๋ยวนี้เราอยู่ที่นี่ ณ การประชุมนานาชาตินี้. เราพบว่าเป็นการยากที่จะเข้าใจและรับเอาสิ่งทั้งหมดเหล่านี้. มันเหมือนความฝัน. ไม่อาจกล่าวออกมาเป็นคำพูดเกี่ยวกับทุก ๆ สิ่งที่เราได้เห็นและได้ยิน. เมื่อเราได้เห็นสนามกีฬารูปทรงชามขนาดมหึมาเต็มไปด้วยผู้คนและได้ยินเสียงดนตรี น้ำตาของเราก็คลอเบ้า. และการอธิษฐาน—ขณะที่พวกเราทุกคนสงบนิ่งอยู่ในเอกภาพ—ทำให้หลังของเราเย็นวูบไปหมด. เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์น่าพรั่นพรึงและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันยิ่งนัก. การประชุมนี้ในกรุงวอร์ซอเป็นเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ตระการตาเหลือเกินเฉพาะแต่โลกใหม่เท่านั้นจะดีกว่า. เราจะจดจำวันอันยอดเยี่ยมเหล่านี้ไว้เสมอ.”
เมื่อพบหน้ากันครั้งแรกกับเพื่อนพยานฯ หลายหมื่นคนที่การประชุมภาค ผู้มาเยือนเหล่านี้จำนวนมากเกิดความซาบซึ้งสะเทือนใจอย่างเห็นได้ชัด. ในกรุงวอร์ซอพวกเขาได้เริ่มปรบมือเสียงดังกึกก้องกังวานแผ่ไปทั่วสนามกีฬาเป็นเวลากว่าห้านาที. ดังที่ผู้แทนจากยุโรปตะวันตกคนหนึ่งได้กล่าวว่า “ในขณะนั้น มีน้อยคนคิดถึงเรื่องอากาศร้อนหรือที่นั่งที่แข็งหรือการกลับไปบ้านเพื่อหาเก้าอี้นุ่ม ๆ. พวกเขาต้องการคำสั่งสอนและมิตรภาพที่เปี่ยมด้วยความรักมากกว่า.”
แต่ละวันมีการให้รายงานโดยตัวแทนจากต่างประเทศ ผู้ซึ่งเล่าประสบการณ์ต่าง ๆ จากประเทศของตน. ผู้รายงานคนสุดท้ายใน 24 คนเหล่านั้นที่กรุงวอร์ซอได้จัดไว้สำหรับตัวแทนจากสหภาพโซเวียต. เขาเริ่มโดยกล่าวว่า “เรามีถ้อยคำไม่พอที่จะแสดงถึงความยินดีของเราที่สามารถมาอยู่ท่ามกลางพวกคุณ. เราหยั่งรู้ค่าอย่างยิ่งที่พวกเราจำนวนมากเช่นนี้สามารถมาที่นี่ได้และที่พวกคุณได้ต้อนรับเราอย่างมีไมตรีจิตเช่นนี้. เราปิติยินดีด้วยที่สามารถติดต่อเป็นส่วนตัวกับพี่น้องจำนวนมากเช่นนี้. พวกเราบางคนได้มาจากที่ห่างไกล เช่น วลาดิวอสต๊อกซึ่งอยู่บนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก นั่งรถไฟมาหกวัน. พวกเราบางคนมีปัญหาในการที่จะได้ตั๋วเพราะมีคนจำนวนมากต้องการเดินทางในเวลาเดียวกัน และมีที่นั่งจำกัด. แต่ด้วยการช่วยเหลือจากพระยะโฮวาเราก็มาถึงที่นี่ได้.”
อย่างเหมาะสม ในคำกล่าวสรุปเมื่อวันอาทิตย์ สมาชิกคนหนึ่งแห่งคณะกรรมการปกครองได้ขอบคุณรัฐบาลต่าง ๆ ทางยุโรปตะวันออกสำหรับการอนุญาตให้พยานพระยะโฮวาจำนวนไม่น้อยจากประเทศของเขาเข้าร่วมการประชุมภาค.
ภราดรภาพอันแน่นแฟ้น
พยานฯ คนหนึ่งได้พรรณนาถึงประสบการณ์ของเธอ ณ การประชุมภาคในโปแลนด์ว่า “เหมือนกับเมืองบาเบลในทางกลับกัน.” ในขณะที่ความยุ่งเหยิงและความแตกแยกได้บังเกิดที่หอบาเบลเนื่องจากประชาชนเริ่มพูดภาษาต่าง ๆ กัน ที่นี่เป็นการแสดงออกอย่างมหัศจรรย์ถึงเอกภาพในความคิด การประพฤติ และการกระทำ ทั้ง ๆ ที่มีปัญหาทางภาษา.—เยเนซิศ 11:1-9.
เอกภาพท่ามกลางเพื่อนร่วมความเชื่อที่มาจากชาติต่าง ๆ กันนี้ใช่ว่าคนภายนอกจะไม่สังเกตเห็น. หนังสือพิมพ์รายวันซแทนดาร์ มลอยด์ช ให้ข้อสังเกตว่า “พวกผู้โดยสารเครื่องบินพวกเดียวเท่านั้นที่มาถึงท่าอากาศยานวอร์ซอโดยไม่สับสนและไม่พลัดหลงกันคือพยานพระยะโฮวา. เพื่อนร่วมความเชื่อได้เตรียมคำประกาศในหลายภาษา โต๊ะประชาสัมพันธ์และแผ่นป้าย และได้เตรียมการขนส่งเข้าไปในเมือง.”
การร้องเพลงที่การประชุมภาคก็เป็นสิ่งน่าสังเกต ขณะที่คนหลายหมื่นร้องเพลงพร้อมเพรียงกันในยี่สิบกว่าภาษา ทุกคนแสดงความคิดอย่างเดียวกันด้วยน้ำใจแห่งความรักและเอกภาพ. อนึ่ง ในวอร์ซอบางส่วนของระเบียบวาระได้รับการแปลออกเป็น 16 ภาษา (ที่เมืองโปซนัน 13 ภาษา และที่เมืองชอร์โซว์ 15 ภาษา). ไม่เคยมีการทำเช่นนั้นมาก่อนเลยในโปแลนด์.
ล่ามแปล 16 คนได้ยืนอยู่ในสนามตรงด้านหน้ากลุ่มภาษาเฉพาะของตน. ผู้บรรยายได้พูดจากเวที และผู้แปลแต่ละคนได้แปลเป็นภาษาของผู้ฟังในส่วนนั้นของสนามกีฬา. ลำโพงได้หันตรงไปยังส่วนที่เป็นเฉพาะภาษานั้นจึงทำให้ได้ยินภาษาของตัวเองโดยไม่ถูกรบกวนจนเกินไปจากเสียงการแปลของภาษาอื่น ๆ ในบริเวณข้างเคียง.
ทั้ง ๆ ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนักในโปแลนด์ แต่พี่น้องที่นั่นได้จัดที่พักอาศัยส่วนตัวให้แก่ผู้มาเยือนหลายพันคน. 16,000 คนได้พักอยู่กับพี่น้องในโปซนัน 21,000 คนในวอร์ซอ และ 30,000 คนในชอร์โซว์. ครอบครัวหนึ่งให้ที่พักแก่ 18 คนและเลี้ยงอาหารแก่ 21 คน. และประชาคมหนึ่งที่มีพยานฯ 146 คน ให้ที่พักอาศัยแก่ 1,276 คน!
การออกข่าวเป็นไปอย่างดี
รายงานข่าวทางโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่แล้วเป็นไปตามข้อเท็จจริงและไม่ลำเอียง. ซแทนดาร์ มลอยด์ช วารสารภาษาโปแลนด์ให้ข้อสังเกตในพาดหัวข่าวที่ว่า “พยานพระยะโฮวาปฏิบัติศาสนาของเขาใน 212 ประเทศ” และได้ยกย่องพวกเขาในบทความที่นำมาลงภายใต้หัวข้อย่อยเช่น “เสมอต้นเสมอปลาย” “มีระเบียบ” “สุภาพ” และ “อุตสาหะ.” เกี่ยวกับสนามกีฬาในวอร์ซอ วารสารนั้นลงว่า “ไม่มีก้นบุหรี่หรือเศษกระดาษแม้แต่ชิ้นเดียวซึ่งเด็กที่ขาดวินัยทิ้งเอาไว้. พยานพระยะโฮวาไม่สูบบุหรี่ และเด็ก ๆ ของพวกเขาไม่เป็นคนเกกมะเหรกเกเร.”
หนังสือพิมพ์ซีย์ซี วารส์ซาวี ได้กล่าวว่าการเตรียมการประชุมภาคดำเนินมาตลอดทั้งปี และรายงานต่อว่า “นอกจากสิ่งอื่นแล้ว สนามกีฬาอันเป็นที่จัดการประชุมใหญ่ขึ้นก็ได้รับการซ่อมแซมใหม่.”
หนังสือพิมพ์เอ็กเพรส วีค์ซอร์นีย์ ได้รายงานว่า “สิ่งซึ่งประทับใจผู้สังเกตการณ์ทุกคนก็คือความมีระเบียบ ณ สนามกีฬา. ถังขยะอยู่ในที่ ๆ กำหนดไว้ ส้วมชั่วคราวแต่ก็สะอาด โต๊ะประชาสัมพันธ์มีหลายแห่ง—ทั้งหมดนี้ก่อความอัศจรรย์ใจ.” เพื่อจะทำให้สิ่งเหล่านี้สำเร็จ พยานฯ กว่า 3,500 คนได้ใช้เวลาในการตระเตรียมและตกแต่งสนามกีฬาวอร์ซอใหม่.
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ยังได้สัมภาษณ์ตัวแทนบางคนด้วย โดยถามพวกเขาว่า “การประชุมใหญ่ที่วอร์ซอมีความหมายอย่างไรสำหรับคุณ?” พยานฯ ชาวโปแลนด์คนหนึ่งได้พูดว่า “ผมได้รับการกระตุ้นเพราะสามารถพบกับพี่น้องของเราจากเชโกสโลวะเกียและสหภาพโซเวียต ประเทศซึ่งพยานพระยะโฮวาไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการฐานะสมาคมทางศาสนา.”
และได้มีการอ้างถึงคำพูดของพยานฯ คนหนึ่งจากสหภาพโซเวียตว่า “ผมคิดว่าเป็นประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต. . . . เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมสามารถพบพี่น้องมากมายเช่นนี้จากทั่วโลก. ยิ่งกว่านั้น การประชุมนี้มีการจัดระบบอย่างยอดเยี่ยม คำปราศรัยได้รับการแปลถึง 16 ภาษา พี่น้องชาวโปแลนด์เป็นเจ้าภาพของเรา—แท้จริงทุก ๆ สิ่งวิเศษมาก.”
ซีย์ซี วารส์ซาวี ให้ข้อสังเกตว่า “ตอนนี้การประชุมใหญ่ระดับโลกของพยานพระยะโฮวาในวอร์ซอสิ้นสุดลงแล้ว. . . . การจัดการประชุมใหญ่เช่นนั้นเป็นไปได้ ดังที่เราคงจำได้ หลังจากสมาคมทางศาสนาแห่งพยานพระยะโฮวาในโปแลนด์—ซึ่งปัจจุบันนี้มีสมาชิกมากกว่าแปดหมื่นคนa—ได้จดทะเบียนไม่กี่เดือนมานี้. นับตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมกลุ่มศาสนาซึ่งเมื่อก่อนไม่ถูกต้องตามกฎหมายกลับได้รับสถานภาพทางกฎหมาย.”.
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เรียกการประชุมภาคของพยานพระยะโฮวาว่า “การแสดงออกซึ่งเอกภาพ” แล้วกล่าวว่า “ทางด้านความเป็นระเบียบ ความมีสันติสุข และความสะอาด ผู้เข้าร่วมการประชุมใหญ่เป็นตัวอย่างที่พึงเลียนแบบ.”
การรับบัพติสมา
ทุก ๆ คน ไม่ว่าจะพูดภาษาโปแลนด์ได้หรือไม่ก็ตามต่างก็ตื่นตาตื่นใจเนื่องจากภาพการรับบัพติสมาอันเร้าความรู้สึก. ในวอร์ซอมีการตั้งเก้าอี้จำนวนมากบนพื้นสนามกีฬาตรงหน้าเวทีเป็นที่นั่งของผู้ประสงค์จะรับบัพติสมา. แต่ในระหว่างระเบียบวาระภาคเช้าช่างตื่นเต้นจริง ๆ ที่เห็นฝ่ายต้อนรับแขกรีบเร่งนำเก้าอี้เสริมเข้าไปในสนามขณะที่กลุ่มของผู้ประสงค์จะรับบัพติสมาเพิ่มมากขึ้น. จากนั้น เมื่อคำบรรยายสำหรับการรับบัพติสมาเริ่มขึ้น ผู้ฟังจำนวนมหาศาลก็เงียบสงัด. พวกเขากำลังจะประสบสิ่งที่เขาไม่มีวันลืมเลย. ขณะที่ผู้บรรยายกล่าวต้อนรับผู้ประสงค์จะรับบัพติสมา ทั้งสนามกีฬาก็พลันมีเสียงปรบมือขึ้น. และแล้ว ราวกับว่าได้ตกลงนัดหมายกันไว้ แต่ในความจริงแล้วเกิดขึ้นจากหัวใจที่ท่วมท้นด้วยการกระตุ้นจากพระวิญญาณของพระเจ้า ผู้ประสงค์จะรับบัพติสมาได้ตอบรับโดยการโบกมืออย่างกระตือรือร้นเป็นการทักทายผู้เข้าร่วมประชุมที่ล้นหลามรายรอบพวกเขา.
การประกาศถึงความเชื่ออย่างเปิดเผยของผู้ประสงค์จะรับบัพติสมาโดยตอบคำถามสองข้อที่ตามปกติได้ถามผู้จะรับบัพติสมา มีสำเนียงที่ชัดเจนและแน่วแน่—และแท้จริงพวกเขาหลายคนได้มาถึงขั้นแห่งการอุทิศตัวนี้โดยผ่านความยากลำบากและการทดลองมากมาย. หลังจากการอธิษฐาน ผู้จะรับบัพติสมาได้แยกออกเป็นสองกลุ่มและเดินออกจากสนามกีฬาขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมร้องเพลง “เราอุทิศตัวแด่พระเจ้า.” พี่น้องชายได้ออกจากสนามกีฬาทางประตูหนึ่งซึ่งนำไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของพวกเขา ขณะที่พี่น้องหญิงออกไปทางอีกประตูหนึ่งไปยังห้องของพวกเขาเช่นกัน. ฝ่ายต้อนรับแขกและผู้จุ่มตัวซึ่งต่างคนต่างก็สวมชุดขาว ได้เข้าประจำที่ของตน ครั้นผู้จะรับบัพติสมาซึ่งสวมชุดอาบน้ำที่สุภาพ ได้หลั่งไหลกลับเข้ามาในสนาม ซึ่งมีสระรับบัพติสมา 12 สระจัดเอาไว้แล้ว 6 สระอยู่ท้ายสนามด้านหนึ่งสำหรับพี่น้องหญิง และ 6 สระอยู่ท้ายสนามอีกด้านหนึ่งสำหรับพี่น้องชาย.
การปรบมืออย่างเร้าใจไม่เคยขาดตอนเลยในระหว่าง 45 นาทีที่ 1,905 คนรับบัพติสมาในวอร์ซอ. (สัปดาห์ก่อนมีผู้รับบัพติสมาที่โปซนัน 1,525 คน และที่ชอร์โซว์ 2,663 คน รวมยอดทั้งสิ้น 6,093 คน เป็น 3.7 เปอร์เซ็นต์ของยอดผู้เข้าร่วมประชุม.) อย่างน้อยมีพี่น้องทุพพลภาพสองคนที่ถูกยกขึ้นอย่างทะนุถนอมจากรถเข็นของเขาก่อนการรับบัพติสมา รวมทั้งคนหนึ่งซึ่งถูกนำมาด้วยเปลเพื่อฟังคำบรรยายการรับบัพติสมา.
“จุดสุดยอดอย่างแท้จริง”
คุณอาจพูดว่า ‘ฟังแล้วสะเทือนความรู้สึกอย่างลึกซึ้ง. ใช่แล้วเป็นเช่นนั้น! แต่ไม่ใช่ความรู้สึกอย่างที่คุณพบ ณ การประชุมฟื้นฟูทางศาสนาของคริสต์ศาสนจักร. ความรู้สึกทางอารมณ์ของผู้เข้าร่วมการประชุมภาคที่โปแลนด์ อาศัยความรู้ถ่องแท้เกี่ยวกับพระวจนะของพระเจ้า เพื่อบรรดาผู้ที่เข้าร่วมประชุมจะอยู่พร้อมสำหรับการรับใช้พระเจ้าที่ดีกว่าเดิมในโอกาสต่อไป. เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นโดยรู้ว่า หลังจากหลายทศวรรษแห่งการต่อต้าน ในที่สุดพยานฯ ในโปแลนด์สามารถประชุมกันอย่างเป็นอิสระพร้อมกับเพื่อนร่วมความเชื่อจากประเทศอื่น ๆ. เป็นความรู้สึกที่เกิดจากความยินดีในการรู้ว่าตัวแทนที่นั่งข้างเคียงคุณอาจไม่เคยเข้าร่วมการประชุมใหญ่มาก่อนและที่แน่ ๆ ไม่เคยร่วมการประชุมที่ใหญ่ขนาดนี้. เป็นความรู้สึกที่บังเกิดจากข้อพิสูจน์ท่วมท้น ชัดแจ้ง ว่าพยานพระยะโฮวามีภราดรภาพระหว่างนานาชาติที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งรับใช้พระเจ้าแห่งความจริงที่ทรงพระชนม์อยู่.
ตัวแทนคนหนึ่งจากยุโรปตะวันตกได้สรุปเรื่องทั้งหมดโดยกล่าวว่า “ถึงแม้ได้เข้าร่วมการประชุมใหญ่ทุก ๆ ครั้งตั้งแต่ปี 1952 ถ้าจะพูดถึงบรรยากาศ ความกระตือรือร้น ความยินดี ความรัก การหยั่งรู้ค่า และการขอบคุณแล้ว ครั้งนี้เป็นจุดสุดยอดอย่างแท้จริง.”
โดยไม่สงสัย ความรู้สึกทางอารมณ์ได้บรรลุจุดสุดยอดที่วอร์ซอในวันอาทิตย์ระหว่างคำอธิษฐานสุดท้าย. แม้ว่าคนนับเป็นพัน ๆ ไม่สามารถเข้าใจถ้อยคำนั้นได้ แต่ทุก ๆ คนได้สัมผัสรับรู้ในเรื่องน้ำใจ ความรัก การอุทิศตัว ความยินดีปรีดา การยอมรับจากหัวใจว่าพระยะโฮวาเจ้าเป็นองค์บรมมหิศร และความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะทำงานของพระยะโฮวาต่อไปดังที่ปรากฏในคำอธิษฐานนั้น. ความเงียบสงบอย่างน่าเกรงขามขณะที่คนราว ๆ 60,000 คนก้มศีรษะในการอธิษฐาน ต่อพระเจ้าของตน ถูกแทรกก็เฉพาะแต่เสียงสะอื้นแห่งความยินดีอันเกิดจากการหยั่งรู้ค่า. ขณะที่การอธิษฐานสิ้นสุดลงทุกคนพร้อมใจกันกล่าวคำว่า “อาเมน” จากก้นบึ้งแห่งหัวใจของเขา. ทันใดนั้นเสียงปรบมือก็ปะทุขึ้นโดยไม่ได้นัดหมายและดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วการประชุมอันใหญ่โตนั้นเป็นเวลานานกว่า 11 นาที.
มากกว่า 166,000 คนได้เป็นประจักษ์พยานถึงการสร้างประวัติศาสตร์เกี่ยวกับระบอบการของพระเจ้าในโปแลนด์. ก่อนระบบชั่วของซาตานพังทลายลงอย่างสิ้นเชิงจะมีการสร้างประวัติศาสตร์มากกว่านี้อีก—ประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นเต้น มหัศจรรย์ เร้าใจซึ่งจะถึงจุดสุดยอดโดยการเชิดชูพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวา. และถ้าคุณปรารถนา คุณก็จะรอดโดยเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์นั้น. คุณปรารถนาไหม?
[เชิงอรรถ]
a ตามการคาดหมายของหนังสือพิมพ์รายวันฉบับนั้น
[กรอบหน้า 25]
เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์
1928 พยานพระยะโฮวา 300 คนในโปแลนด์ จัดการประชุมขนาดย่อมขึ้นเป็นครั้งแรก.
1939 ขณะสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้น มีพยานฯ 1,100 คนทำการประกาศ หลายคนถูกจำคุก และบางคนตายในค่ายกักกันของเยอรมัน.
1945 ในตอนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง จำนวนพยานฯ ได้เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเป็น 2,500 คน.
1946 ในเดือนมิถุนายน มี 1,500 คนเข้าร่วมประชุมใกล้ ๆ เมืองลูบลิน 298 คนรับบัพติสมา. ในเดือนกันยายน 5,600 คนร่วมประชุมใหญ่ในคาโตวิเซ.
1947 การประชุมใหญ่ในคราคูพมีผู้ร่วม 7,000 คน และ 476 คนรับบัพติสมา. ผู้สำเร็จการศึกษาจากกิเลียดมาถึงเพื่อช่วยจัดระบบสำหรับงานประกาศ.
1950 บรรลุยอดของพยานฯ 18,000 คนในเดือนมีนาคม. มีผู้เข้าร่วมพิธีอนุสรณ์ 24,000 คน. ในเดือนกรกฎาคมงานถูกสั่งห้าม ทำให้จำเป็นต้องจัดการประชุมเล็ก ๆ ขึ้นในบ้านส่วนตัว.
1968 การประชุมภาควันเดียวจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในป่าหลายแห่งโดยมี 100 ถึง 200 คนเข้าร่วม ต่อมา มีผู้เข้าร่วมประชุมถึง 1,000 คน.
1980 พยานพระยะโฮวาเกือบ 2,000 คนจากโปแลนด์เดินทางไปยังเวียนนา ออสเตรีย เพื่อการประชุมภาค.
1981 การประชุมภาคที่ใหญ่กว่าการประชุมในปี 1980 ได้จัดขึ้นในเวียนนาเพื่อพี่น้องชาวโปแลนด์.
1982 รัฐบาลโปแลนด์อนุญาตพยานฯ ที่จะเช่าหอประชุมและสนามกีฬาเพื่อการประชุมใหญ่วันเดียว.
1985 การประชุมภาคสามวันมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 94,000 คนได้จัดขึ้นในโปแลนด์. มีผู้มาเยือนหลายร้อยคนจาก 16 ชาติเข้าร่วมด้วย รวมทั้งสมาชิกคณะกรรมการปกครองสี่ท่าน.
1989 การประชุมภาค “ความเลื่อมใสในพระเจ้า” ล้นหลามสนามกีฬาสามแห่ง โดยมีสมาชิกคณะกรรมการปกครองห้าท่านเข้าร่วมประชุมด้วย ยอดผู้เข้าร่วม 166,518 คน และมี 6,093 คนรับบัพติสมา. มีใบบันทึกสองอย่างได้ออกในภาษาโปแลนด์พยานพระยะโฮวาเชื่ออะไร? และทำไมเราควรไว้วางใจคัมภีร์ไบเบิล? พร้อมกับจุลสาร 32 หน้าคุณควรเชื่อตรีเอกานุภาพไหม?
[รูปภาพหน้า 27]
ผู้ประสงค์จะรับบัพติสมาที่วอร์ซอนั่งอยู่หน้าเวที และฝูงชนเฝ้าดูการรับบัพติสมาของพวกเขา.
[รูปภาพหน้า 29]
ส่วนที่ได้สงวนเอาไว้ที่ชอร์โซว์เพื่อตัวแทนจากสหภาพโซเวียต และรถโดยสารส่วนหนึ่งที่ได้นำพี่น้องชาวรัสเซียมายังโปซนัน.