จากผู้อ่านของเรา
ถนัดมือซ้าย ในฐานะที่เป็นคนถนัดมือซ้าย และเป็นขาประจำตื่นเถิด ผมขอชมเชยวิธีอันยอดเยี่ยมที่คุณนำเสนอบทความเรื่อง “ถนัดมือซ้าย—เสียเปรียบหรือได้เปรียบ?” (8 มิถุนายน 1992) แต่คุณจะช่วยให้ผมเข้าใจได้ไหมว่าเหตุใดคัมภีร์ไบเบิลบ่อยครั้งจึงเปรียบเทียบ “ซ้าย” กับความไม่โปรดปราน?
เอส. เจ. เอ็ม., นิวซีแลนด์
“พระเจ้าไม่ทรงเลือกหน้าผู้ใด” จึงเป็นที่แน่นอนว่าพระองค์ไม่มีอคติต่อผู้ที่ถนัดมือซ้าย. (กิจการ 10:34) ที่คัมภีร์ไบเบิลระบุว่าขวาเป็นข้างที่โปรดปรานดูเหมือนเนื่องมาจากข้อเท็จจริงที่ว่าคนส่วนใหญ่ถนัดมือขวา. ดังนั้น มือขวาจึงเป็นสัญลักษณ์อันเหมาะสมที่เล็งถึงพลังหรือความโปรดปราน. ตามเหตุผลแล้ว มือซ้ายจะเล็งถึงสิ่งตรงข้าม. แต่ทั้งนี้มีความหมายเป็นนัยและไม่ประสงค์จะดูถูกคนถนัดมือซ้าย.—บ.ก.
การต่างออกไป ดิฉันต้องขอบคุณจริง ๆ สำหรับบทความเรื่อง “ฉันจะมีความกล้าเพื่อทำให้ต่างออกไปได้อย่างไร?” (8 กรกฎาคม 1992) เพื่อนนักเรียนในชั้นของดิฉันจัดงานสังสรรค์บ่อย ๆ และสนใจเรื่องแฟชั่นมาก. สังคมของพวกเขาไม่ดีสำหรับดิฉัน. ดิฉันเคยตกอยู่ภายใต้ความกดดันถึงขนาดที่ไม่กล้าพูดออกมา. บทความนี้ช่วยให้ดิฉันเอาชนะความกลัว. ด้วยความช่วยเหลือของพระยะโฮวา ในคราวถัดไปดิฉันจึงสามารถอธิบายทัศนะของตนได้. เดี๋ยวนี้ ความกดดันได้คลายลง. ขอบคุณมาก.
เอ็ม. อี., เยอรมนี
บทความนี้เป็นสิ่งที่พวกเราซึ่งอยู่ในวัยเรียนต้องการพอดี. เป็นเวลานานทีเดียวที่ดิฉันพยายามไม่ก่อเรื่อง ไม่เป็นเป้าสายตา. มีการล่อใจหลายอย่างและดิฉันไม่มีความกล้าพอที่จะให้คำพยาน. แต่ในช่วงต้นของชั้นมัธยมปีที่ 2 ดิฉันได้แนะนำตัวเองให้ทั้งชั้นรู้จัก โดยบอกว่า “ดิฉันเป็นพยานพระยะโฮวาคนหนึ่ง” งานอดิเรกของดิฉันคือการศึกษาพระคัมภีร์.” เมื่อได้พูดเช่นนั้นแล้ว ดิฉันไม่อาจพูดหรือทำอะไรซึ่งเป็นที่สงสัยได้. ยังคงเป็นการทดลองจริง ๆ สำหรับดิฉันที่จะให้คำพยานแก่เพื่อนนักเรียน และดิฉันก็เกลียดการเป็นคนที่ต่างออกไป. แต่วันหนึ่ง เด็กผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าเธออิจฉารูปแบบชีวิตและความมั่นใจของดิฉัน. สิ่งนี้ทำให้ความคิดของดิฉันเปลี่ยนไป. เดี๋ยวนี้ ดิฉันตระหนักว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ต่างออกไป—คนอื่นต่างหากที่เป็นเช่นนั้น. การรับใช้พระเจ้าเป็นสิ่งปกติ!
เอ็ม. เอ., ญี่ปุ่น
หนุ่มสาว ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ติดตามอ่านวารสารตื่นเถิด. ดิฉันมักจะชอบอ่านบทความ “หนุ่มสาวถามว่า . . . ” เพราะเป็นประโยชน์อย่างมาก และดิฉันเองอยู่ในวัยหนุ่มสาว. ดิฉันชอบและรู้สึกขอบคุณบทความของวารสารตื่นเถิด ฉบับ 8 กันยายน 1992 ซึ่งดิฉันเพิ่งอ่านเสร็จ. บทความเรื่องหนุ่มสาวถามว่า “การคุยกันนั้นผิดตรงไหน?” ในเนื้อความเขียนเกี่ยวกับการติดต่อทางการพูด, ทางจดหมาย. ในส่วนนี้ ดิฉันเองชอบเขียนจดหมายมาก และเราก็มีเพื่อนคริสเตียนมากมายหลายประเทศ. ตอนนี้ ดิฉันก็ยังติดต่อกับเขาอยู่. บทความนี้เป็นประโยชน์มากทีเดียว ช่วยให้เรารู้ถึงสิ่งที่หนุ่มสาวควรกระทำ และเป็นการป้องกันเราในวัยแห่งความเปล่งปลั่งนี้. ดิฉันหยั่งรู้คุณค่าสำหรับการค้นคว้าของคุณเพื่อผู้อ่านจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่. ขอบคุณมากค่ะสำหรับการจัดเตรียมที่ดีเช่นนี้.
ด. ท., ไทย