การเพ่งดูโลก
ทำแท้งกี่ราย?
“ในโลกมีการทำแท้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย 33 ล้านรายต่อปี และหากนับรวมการทำแท้งที่ผิดกฎหมายทุกรายเข้าไปด้วยแล้ว จำนวนทั้งสิ้นจะอยู่ราว ๆ 40 ถึง 60 ล้านราย” เป็นคำกล่าวของ กลารีน หนังสือพิมพ์เช้าของบูเอโนสไอเรส. “เจ็ดสิบหกเปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกอาศัยอยู่ในประเทศที่การทำแท้งเป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมาย.” จำนวนชีวิตที่สิ้นสุดโดยการทำแท้งมีมากกว่าประชากรของอาร์เจนตินาและเทียบเท่ากับการทำลายล้างประชากรทั้งหมดของประเทศต่าง ๆ เช่นอียิปต์, ฝรั่งเศส, บริเตน, อิตาลี, แอฟริกาใต้หรือตุรกีทุกปี. เทียบเท่าผู้ตกเป็นเหยื่อตลอดหกปีของสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งประมาณกันว่ามีราว ๆ 50 ล้านคน.
เลือดที่ไม่ปลอดภัยในประเทศฟิลิปปินส์
ในประเทศฟิลิปปินส์ การถ่ายเลือด “ไม่ปลอดภัย, ขาดประสิทธิภาพและสิ้นเปลือง” เป็นผลสรุปของการศึกษาวิจัยใหม่โดยทีมแพทย์ชาวฟิลิปปินส์. การศึกษาวิจัยนั้นแสดงว่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของธนาคารเลือดของประเทศมีพนักงานที่สามารถทำการตรวจหาเอดส์, ซิฟิลิส, ตับอักเสบจากไวรัส บี, และมาลาเรีย ซึ่งจากการค้นพบนี้ ฮวน ฟลาเวีย รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของประเทศระบุว่า “น่าตกใจอย่างยิ่ง.” นอกจากนั้น การศึกษาวิจัยนี้ได้ตรวจตัวอย่างเลือด 136 ตัวอย่างจากธนาคารเลือดและพบว่าแม้แต่เลือดที่ผ่านการตรวจหาเชื้อแล้ว ประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ยังปนเปื้อนอยู่.
จงระวังเมื่อเดินทาง
เมื่อเดินทางจงใส่ใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณ. วารสาร โกลเดีย แห่งบราซิลแจ้งว่า “พวกวิ่งราวกระเป๋าและนักล้วงกระเป๋าชอบเลือกนักเดินทางใจลอยอย่างไม่อาจเลี่ยงได้.” เช่นเดียวกัน “ถ้าใครคนหนึ่งกระแทกคุณหรือทำอะไรหกบนเสื้อคุณ จงตื่นตัว. เหล่านี้เป็นลูกไม้ที่ขึ้นชื่อเพื่อเบนความสนใจ.” จงระวังเช่นกันถ้าใครสักคนมาถามทางหรือขอความช่วยเหลือ. เผลอนิดเดียว คุณอาจสูญกระเป๋า. ตามคำกล่าวของ อัดเรียโน คาเลโร ประจำท่าอากาศยานนานาชาติแห่งเซาเปาโล ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อฝากกระเป๋าตอนเช็กอินที่สนามบิน, เมื่อกรอกเอกสารที่เคาน์เตอร์รถเช่า, เมื่อเข้าพักหรือออกจากโรงแรม, เมื่อช่วยลูก ๆ นั่งแท็กซี่, เมื่อดูของตามหน้าต่างห้างร้าน, หรือเมื่อนั่งดื่มกาแฟสักถ้วยหนึ่ง. วารสารนี้เตือนให้คุณเปลี่ยนกุญแจทันทีหากลูกกุญแจถูกขโมย. ขโมยอาจบอกว่าเขาพบกระเป๋าของคุณและกระทั่งคืนทุกอย่างที่หายไปด้วยซ้ำ แต่เขาอาจทำกุญแจอีกดอกหนึ่งเพื่อจะบุกรุกบ้านของคุณภายหลัง.
มองไม่เห็นทางรักษาเอดส์
การประชุมนานาชาติครั้งที่ 10 เรื่องเอดส์ ซึ่งจัดขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ยอมรับว่าความพยายามสร้างวัคซีนป้องกันเอดส์และผลิตยารักษา ส่วนใหญ่ได้ล้มเหลว และไม่คาดว่าจะมียาเช่นนั้นเมื่อสิ้นทศวรรษนี้. “พวกเราอยู่เพียงตอนเริ่มต้นของการแพร่ระบาด H.I.V. ในโลก” เป็นคำกล่าวของนายแพทย์เจมส์ เกอร์รัน ประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย. กล่าวกันว่าประมาณ 17 ล้านคนทั่วโลกติดเชื้อนี้ มากกว่าปีก่อน 3 ล้านคน. น่าเศร้า หนึ่งล้านจากจำนวนนี้เป็นเด็ก. ถ้าอัตราเป็นเช่นนี้ต่อไป จำนวนทั้งสิ้นของผู้ที่ติดเชื้อจะมี 30 ล้านถึง 40 ล้านคนเมื่อถึงปี 2000 ตามคำกล่าวขององค์การอนามัยโลก. รายที่เป็นเอดส์เต็มขั้นเพิ่มขึ้น 60 เปอร์เซ็นต์ใน 12 เดือน ทำให้กลางปี 1994 มีจำนวนทั้งสิ้นสี่ล้านคน เลขนี้รวมคนที่เสียชีวิตแล้ว. อาจใช้เวลาถึงสิบปีตั้งแต่ติดเชื้อ HIV จนกว่าอาการเอดส์จะเริ่มต้น. เนื่องจากความก้าวหน้าอย่างเชื่องช้าในการสู้กับการระบาดที่ทวีขึ้นนี้ จึงมีการประกาศว่าการประชุมเรื่องเอดส์จะจัดขึ้นทุกสองปีแทนทุกปี การประชุมคราวหน้ากำหนดจะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม 1996 ในแวนคูเวอร์ บริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา.
น้ำผึ้งรักษาแผลในกระเพาะหรือ?
ข้อเขียนของนายแพทย์บาซิล เจ. เอส. โกรโกโน ใน เมดิคัล โพสต์ แห่งแคนาดาอ้างว่า ผึ้งที่ต่ำต้อยอาจสามารถทำอะไรได้มากกว่าเพื่อคนที่เป็นแผลในกระเพาะ เมื่อเทียบกับสิ่งที่แม้แต่พวกแพทย์สามารถทำได้ระหว่างหลายทศวรรษที่ผ่านไปเมื่อพวกเขาต้องใช้วิธีผ่าตัดใหญ่บ่อย ๆ. เขาให้ข้อสังเกตว่าผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากขึ้นเริ่มตระหนักถึงบทบาทที่เชื้อจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งชื่อ เฮลิโคบักเตอร์ ปีโลรี มีต่อแผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร. ขณะที่บางคนแนะนำให้ใช้ยาสู้จุลินทรีย์นี้ โกรโกโนให้ข้อสังเกตว่า ยาเหล่านี้มีผลข้างเคียงทำให้รู้สึกไม่สบายและจุลินทรีย์อาจเกิดดื้อยาขึ้นมา. อีกด้านหนึ่ง เขาอ้างถึงการศึกษาค้นคว้าเมื่อเร็ว ๆ นี้ซึ่งพิมพ์ใน วารสารราชสมาคมอายุรศาสตร์ การศึกษาดังกล่าวได้ทดสอบคุณสมบัติของน้ำผึ้งในการทำลายแบคทีเรีย. น้ำผึ้งชนิดหนึ่ง ได้จากผึ้งนิวซีแลนด์ซึ่งหากินอยู่ตามต้นพืชที่เรียกว่ามานูกา มีประสิทธิภาพในการต่อสู้จุลินทรีย์ที่ทำให้เป็นแผลในกระเพาะ.
ผู้สูบบุหรี่มากกว่าหนึ่งพันล้านคน
ตามตัวเลขเมื่อเร็ว ๆ นี้จาก WHO (องค์การอนามัยโลก) จำนวนผู้คนทั่วโลกที่สูบบุหรี่มีถึงหนึ่งพันหนึ่งร้อยล้านคน. หากแนวโน้มปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป WHO เตือนว่า “ประมาณ 500 ล้านคนที่มีชีวิตอยู่ในเวลานี้ จะเสียชีวิตเพราะยาสูบ และประมาณครึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น คือ 250 ล้านคน จะเสียชีวิตเมื่อถึงวัยกลางคน.” ตั้งแต่ทศวรรษปี 1980 การสูบบุหรี่ได้ลดลงบ้างในประเทศอุตสาหกรรม แต่กลับเพิ่มขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา. ด้วยเหตุนี้ การบริโภคทั่วโลกยังคงอยู่ที่ 1,650 มวนต่อผู้ใหญ่หนึ่งคนต่อปี. ฮันส์ เอ็มบลาด ผู้อำนวยการโครงการการใช้สารในทางผิดแห่ง WHO กล่าวว่า “จนถึงบัดนี้ ผลขั้นสุดท้ายของการตลาดยาสูบที่ประสบผลสำเร็จในประเทศกำลังพัฒนาก็คือการเปลี่ยนพื้นที่การใช้ยาสูบที่เพิ่มขึ้น จากประเทศที่พัฒนาแล้วไปยังประเทศกำลังพัฒนา. การระบาดของยาสูบยังไม่ได้รับการควบคุมในระดับโลก.”
ชาวนาเก่ง อีกาฉลาด
ในประเทศญี่ปุ่นมีการต่อสู้อยู่เนือง ๆ ว่าใครจะได้เก็บเกี่ยวพืชผลจากไร่. อีกาและชาวนาสู้รบตบมือกันเสมอ โดยไม่นานอีกาเจ้าเล่ห์จะไหวทันต่อกลยุทธ์ที่ชาวนาคิดขึ้นมา. แต่บัดนี้ ชาวนาที่หลักแหลมในจังหวัดนากาโนใช้สัญชาตญาณที่ร้ายที่สุดของนกเหล่านี้ดักจับมัน ตามคำกล่าวของ อาซาฮิ อีฟนิง นิวส์. พวกเขาตั้งกรงขนาดเก้าเมตรจัตุรัสและสูงสามเมตรใกล้ ๆ พืชผลของตนแล้วใส่อีกาจากถิ่นอื่นเข้าไป. อีกาท้องถิ่นที่ตะกละ เดือดดาลนกที่บุกรุกเขตของตน จึงบินโฉบเข้าไปในกรงเพื่อโจมตีอีกา “ต่างถิ่น” แล้วตัวเองก็ถูกจับ. ประสบผลในที่สุดหรือ? ชาวนาคนหนึ่งบอกว่า “จริง ๆ แล้ว อีกาส่วนใหญ่ที่ถูกหลอกโดยกรงนี้เป็นตัวที่จรมา. ตัวอีกาเจ้าถิ่นเก่งจนทำเอาพวกเราดูโง่ไปเลย และบินหนีไป.” แล้วการต่อสู้ก็ดำเนินต่อไป.
เด็กบนเกาะปลอดทีวี
เซนต์เฮเลนา เกาะเล็ก ๆ ซึ่งตั้งอยู่ประมาณหนึ่งในสามของระยะทางจากแอฟริกาตะวันตกถึงอเมริกาใต้ ภูมิใจในเด็ก ๆ ซึ่ง “อยู่ในพวกที่มีความสมดุลดีที่สุดในโลก” เป็นคำกล่าวของเดอะ ไทมส์ แห่งลอนดอน โดยอ้างจากรายงานในวารสารส่งเสริมการเรียน (ภาษาอังกฤษ) ซึ่งเป็นวารสารชั้นนำเกี่ยวกับการศึกษา. ดร. โทนี คาร์ลตัน ผู้เขียนรายงานนี้ พบว่าเพียง 3.4 เปอร์เซ็นต์ของเด็กวัย 9 ถึง 12 ขวบบนเกาะนี้มีปัญหาร้ายแรงทางพฤติกรรม. เดอะ ไทมส์ ให้ข้อสังเกตว่าอัตรานี้ “ต่ำที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมาสำหรับกลุ่มอายุกลุ่มใด ๆ ไม่ว่าที่ไหน ๆ ในโลก.” อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเหล่านี้มีความสมดุล? ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งก็คือการศึกษาที่มีคุณภาพสูงและหาได้ง่ายสำหรับเด็ก ๆ. แต่คาร์ลตันวางแผนที่จะศึกษาค้นคว้าอีกปัจจัยหนึ่งซึ่งอาจมีทางเป็นไปได้. เกาะนี้ไม่เคยมีการแพร่ภาพโทรทัศน์ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อมีการจัดตั้งการสื่อสารผ่านดาวเทียม. คาดกันว่าภายในสามปี 1,300 จาก 1,500 ครอบครัวบนเกาะจะมีทีวี. คาร์ลตันจะเริ่มการศึกษาค้นคว้าเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ตามมาในตัวเด็กบนเกาะนี้.