ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ต95 8/10 น. 24-27
  • โรงเรียนในแอฟริกาสอนอะไร?

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • โรงเรียนในแอฟริกาสอนอะไร?
  • ตื่นเถิด! 1995
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • การ​สอน​ที่​บ้าน
  • ความ​ชำนาญ​ด้าน​ต่าง ๆ ใน​ชีวิต
  • ความ​รับผิดชอบ​ใน​ชุมชน
  • การ​ศึกษา​ทาง​ศาสนา
  • การ​ศึกษา​ตาม​ประเพณี​ใน​สมัย​นี้
  • สุภาษิตอะกัน—กระจกสะท้อนบรรทัดฐานของสังคม
    ตื่นเถิด! 2003
  • ควรให้ลูกเข้าโรงเรียนไหม?
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2003
  • สารบัญ
    ตื่นเถิด! 2003
  • จากผู้อ่านของเรา
    ตื่นเถิด! 1996
ดูเพิ่มเติม
ตื่นเถิด! 1995
ต95 8/10 น. 24-27

โรงเรียนใน​แอฟริกา​สอน​อะไร?

โดย​ผู้​สื่อ​ข่าว ตื่นเถิด! ใน​กานา

โรงเรียน​ใน​แอฟริกา​หรือ? ชาว​ตะวัน​ตก​บาง​คน​อาจ​แปลก​ใจ​ที่​รู้​ว่า​มี​การ​เตรียม​การ​เช่น​นั้น​อยู่​จริง ๆ ใน​สมัย​ก่อน. แต่​น่า​เสียดาย​ที่​ภาพ​ฝังใจ​ที่​ว่า​ชาว​แอฟริกา​เป็น​คน​ป่า​เถื่อน​ดุ​ร้าย​ถือ​หอก​ซึ่ง​อุตสาหกรรม​ภาพยนตร์​ของ​ฮอลลีวูด​ได้​ให้​ไว้​นั้น​เลือน​หาย​ไป​จาก​ใจ​ผู้​คน​ได้​ช้า. หลาย​คน​นึก​ภาพ​ไม่​ออก​ว่า ชาว​แอฟริกา​ใน​อดีต​อาจ​ถือ​ได้​ว่า​เป็น​คน​มี​การ​ศึกษา​ได้​อย่าง​ไร.

เป็น​ความ​จริง​ที่​ชาว​แอฟริกา​ซึ่ง​ถูก​เลี้ยง​ดู​ใน​สังคม​แบบ​จารีต​ประเพณี​ไม่​ได้​เรียน​หนังสือ​และ​รับ​การ​ฝึก​อบรม​ใน​ชั้น​เรียน​ตาม​แบบ​แผน​ทาง​การ. แต่​เป็น​เวลา​นาน​ก่อน​มี​การ​นำ​การ​ศึกษา​อย่าง​เป็น​ทาง​การ​แบบ​ยุโรป​มา​ยัง​ทวีป​นี้ สังคม​แอฟริกา​หลาย​แห่ง​ก็​มี​ระบบ​การ​ศึกษา​ที่​มี​ประสิทธิภาพ​อยู่​แล้ว​ซึ่ง​ช่วย​เด็ก ๆ ให้​ได้​รับ​การ​เตรียม​พร้อม​อย่าง​ดี​เพื่อ​ปฏิบัติ​งาน​และ​เจริญ​เติบโต​ขึ้น​ใน​วัฒนธรรม​ท้องถิ่น​ของ​พวก​เขา. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง ขอ​พิจารณา​การ​เรียน​การสอน​ของ​ชาว​อะกัน ผู้​คน​ที่​พูด​ภาษา​ชวี​ใน​กานา.

การ​สอน​ที่​บ้าน

ท่ามกลาง​ชาว​อะกัน บ้าน​เป็น​ห้อง​เรียน​เบื้อง​ต้น. การ​ศึกษา​ของ​เด็ก​เริ่ม​ขึ้น​เมื่อ​เขา​เรียน​การ​พูด​จาก​บิดา​มารดา. ขณะ​เดียว​กัน เขา​ก็​ได้​รับ​บทเรียน​แรก​ใน​เรื่อง​มารยาท​ที่​เหมาะ​สม. ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​ผู้​มา​เยี่ยม​ที่​บ้าน​กล่าว​ทักทาย​เด็ก เด็ก​ก็​จะ​ได้​รับ​การสอน​การ​พูด​ตอบ​ที่​ถูก​ต้อง​และ​สุภาพ. จาก​นั้น เมื่อ​เด็ก​ถูก​ใช้​ไป​บอก​ข่าว จะ​มี​การ​บอก​ให้​เขา​รู้​วิธี​ถ่ายทอด​ข่าวสาร​อย่าง​สุภาพ​ไม่​ว่า​เรื่อง​ใด ๆ.

ดัง​นั้น ปรัชญา​ด้าน​การ​ศึกษา​ของ​ชาว​อะกัน​จึง​คล้าย​กับ​คำ​กล่าว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​พระ​ธรรม​สุภาษิต 22:6 ที่​ว่า “จง​ฝึก​สอน​เด็ก​ให้​ประพฤติ​ตาม​ทาง​ที่​ควร​จะ​ประพฤติ​นั้น: และ​เมื่อ​แก่​ชรา​แล้ว​เขา​จะ​ไม่​เดิน​ห่าง​จาก​ทาง​นั้น.” บิดา​มารดา โดย​เฉพาะ​บิดา​ได้​เอา​ใจ​ใส่​การ​เลี้ยง​ดู​บุตร. ภาษิต​ของ​ชาว​อะกัน​บอก​ดัง​นี้: “ถ้า​เด็ก​ไม่​เหมือน​แม่ เขา​ก็​จะ​เหมือน​พ่อ.”

ขณะ​ที่​เด็ก​โต​ขึ้น การ​ศึกษา​ของ​เขา​ก็​ยิ่ง​ละเอียด​ถี่ถ้วน​ตาม​ไป​ด้วย. บทเรียน​ใน​ชีวิต​ถูก​ถ่ายทอด ไม่​ใช่​ด้วย​หนังสือ แต่​ด้วย​เรื่อง​ที่​จินตนาการ​ขึ้น เช่น เกี่ยว​กับ​แมงมุม​ใน​เทพ​นิยาย​ชื่อ​ควากู อานันเซ. พวก​เด็ก ๆ ชอบ​นิทาน​เหล่า​นี้​จริง ๆ! ใน​สาย​ลม​ยาม​สายัณห์ หรือ​ภาย​ใต้​แสง​จันทร์​ใน​ราตรี​อัน​หนาว​เย็น พวก​เขา​จะ​นั่ง​รอบ​กอง​ไฟ​และ​เพลิดเพลิน​อย่าง​ยิ่ง​กับ​เรื่องราว​ของ​ชัย​ชนะ​และ​ความ​ล้มเหลว​เหล่า​นั้น.

เรื่อง​ที่​เลื่อง​ลือ​เรื่อง​หนึ่ง​เล่า​กัน​ว่า อานันเซ​เดิน​ทาง​ไป​ทั่ว​แผ่นดิน​โลก​เพื่อ​เอา​สติ​ปัญญา​ทั้ง​มวล​ของ​โลก​ใส่​ไว้​ใน​หม้อ​ใบ​หนึ่ง. การ​ปฏิบัติ​งาน​ของ​เขา​ดู​เหมือน​จะ​สำเร็จ เขา​จึง​ตัดสินใจ​จะ​แขวน​หม้อ​นั้น​ไว้​บน​ต้นไม้​สูง​เพื่อ​จะ​ได้​ไม่​มี​ใคร​สามารถ​เข้า​ถึง​สติ​ปัญญา​นั้น. เขา​เริ่ม​ปีน​ต้นไม้​ด้วย​ความ​ยาก​ลำบาก หม้อ​ใส่​สติ​ปัญญา​นั้น​มี​เชือก​มัด​และ​แขวน​อยู่​ตรง​หน้า​ท้อง​ของ​เขา. ขณะ​ที่​เขา​ตะเกียกตะกาย​อยู่​นั้น นติกูเม​ลูก​ชาย​คน​โต​ได้​ปรากฏ​ตัว​และ​ร้อง​เรียก​อานันเซ: “อ้าว พ่อ! ใคร​เขา​เอา​หม้อ​แขวน​พุง​ปีน​ต้นไม้​กัน​เล่า? ทำไม​ไม่​เอา​ไว้​บน​หลัง​ล่ะ​แล้ว​จะ​ได้​ปีน​ถนัด ๆ?” อานันเซ​มอง​ลง​มา​ที่​ลูก​ชาย​และ​ตะโกน​ว่า “แก​กล้า​ดี​ยัง​ไง​มา​สอน​ฉัน​ฮึ?”

แต่​ตอน​นี้​แหละ​ที่​ปรากฏ​ว่า​สติ​ปัญญา​บาง​อย่าง​ยัง​อยู่​นอก​หม้อ​ของ​เขา! ด้วย​ความ​โมโห​เมื่อ​รู้​เช่น​นี้ อานันเซ​เหวี่ยง​หม้อ​นั้น​ลง​มา ทำ​ให้​หม้อ​แตก​เป็น​ชิ้น​เล็ก​ชิ้น​น้อย​และ​สติ​ปัญญา​ก็​กระจัด​กระจาย​ไป​ทั่ว. คน​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​มา​ที่​นั่น​เป็น​พวก​แรก​ก็​กลาย​เป็น​คน​ฉลาด​ที่​สุด. บทเรียน​ก็​คือ: ไม่​มี​ใคร​ผูก​ขาด​สติ​ปัญญา. ดัง​นั้น ชาว​อะกัน​จึง​กล่าว​ดัง​นี้: “คน​เดียว​ไม่​ประกอบ​เป็น​คณะ​ที่​ปรึกษา.”—เทียบ​สุภาษิต 15:22; 24:6.

ความ​ชำนาญ​ด้าน​ต่าง ๆ ใน​ชีวิต

การ​ศึกษา​ของ​ชาว​อะกัน​ยัง​รวม​ถึง​การ​ฝึก​อบรม​ความ​ชำนาญ​ด้าน​ต่าง ๆ ใน​ชีวิต​ด้วย. เด็ก​ชาย​ส่วน​ใหญ่​ยึด​อาชีพ​ของ​บิดา—ปกติ​แล้ว​เป็น​เกษตรกรรม. แต่​ก็​มี​ความ​ชำนาญ​ด้าน​อื่น ๆ อีก​ที่​ต้อง​เรียน​รู้ เช่น การ​ล่า​สัตว์, การ​เจาะ​เอา​น้ำ​ใน​ต้น​ปาล์ม​มา​ทำ​เหล้า, และ​งาน​ฝีมือ​เช่น​การ​สาน​ตะกร้า. สำหรับ​งาน​ที่​ประณีต​กว่า เช่น​งาน​แกะ​สลัก​ไม้​หรือ​งาน​ถัก​สาน เด็ก​ชาย​รับ​การ​ฝึก​งาน​กับ​ช่าง​ฝีมือ​ที่​ชำนาญ. แล้ว​เด็ก​หญิง​ล่ะ? การ​ฝึก​เด็ก​หญิง​มุ่ง​ที่​ความ​ชำนาญ​ใน​งาน​แม่บ้าน​เป็น​สำคัญ เช่น การ​สกัด​เอา​น้ำมัน​พืช, การ​ทำ​สบู่​และ​เครื่อง​ปั้น​ดิน​เผา, การ​ปั่น​ฝ้าย, และ​งาน​อื่น ๆ ทำนอง​นั้น.

วิทยาศาสตร์​ก็​ถูก​รวม​ไว้​ด้วย​ใน “หลัก​สูตร” โรงเรียน​ตาม​ประเพณี. ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​ยา​สมุน​ไพร, การ​เตรียม​ยา​และ​การ​จ่าย​ยา มี​การ​ถ่ายทอด​จาก​บิดา​ถึง​ลูก​หรือ​จาก​ปู่​ยา​ตา​ยาย​ถึง​หลาน. นอก​จาก​นี้​เด็ก​ยัง​ได้​เรียน​รู้​การ​คำนวณ​เลข​โดย​ใช้​นิ้ว​มือ อีก​ทั้ง​ใช้​ลูก​หิน, ก้อน​กรวด, และ​เครื่องหมาย​บน​ท่อน​ไม้. เกม​อย่าง​หมากรุก​และ​หมาก​ฮอส​ช่วย​เพิ่ม​ความ​ชำนาญ​ใน​การ​นับ.

ด้วย​การ​เข้า​ร่วม​ฟัง​การ​พิจารณา​คดี เยาวชน​ชาว​อะกัน​จะ​ได้​รับ​ความ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​ใน​ระบบ​การ​เมือง​และ​การ​ตัดสิน​คดี​ด้วย. ส่วน​งาน​ศพ​อีก​ทั้ง​วาระ​เฉลิม​ฉลอง​ต่าง ๆ เป็น​โอกาส​สำหรับ​ซึม​ทราบ​ถึง​เพลง​ไว้​อาลัย, บท​ร้อย​กรอง, ประวัติศาสตร์, ดนตรี, การ​ตี​กลอง, และ​การ​เต้น​รำ​ของ​ท้องถิ่น.

ความ​รับผิดชอบ​ใน​ชุมชน

ใน​หมู่​ชาว​อะกัน พวก​เด็ก ๆ ไม่​ได้​แยก​อยู่​ต่าง​หาก. ใน​วัย​เยาว์ เขา​ถูก​สอน​ให้​ตระหนัก​ถึง​ความ​รับผิดชอบ​ที่​เขา​มี​ต่อ​ชุมชน. เขา​เรียน​รู้​บทเรียน​แรก​ของ​เขา​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​เมื่อ​เขา​ร่วม​เล่น​เกม​กับ​เพื่อน​รุ่น​ราว​คราว​เดียว​กัน. ใน​ปี​ต่อ ๆ มา​เขา​จะ​เข้า​ร่วม​กิจกรรม​ที่​ทำ​ร่วม​กัน​เช่น​งาน​สำหรับ​ชุมชน. เมื่อ​เขา​ประพฤติ​ไม่​ดี​ก็​จะ​ถูก​ลง​โทษ ไม่​เพียง​แต่​โดย​บิดา​มารดา​ของ​เขา​เท่า​นั้น แต่​โดย​สมาชิก​ที่​เป็น​ผู้​ใหญ่​ใน​ชุมชน​นั้น​ไม่​ว่า​คน​ใด. จริง ๆ แล้ว ถือ​กัน​ว่า​เป็น​พันธะ​ทาง​จรรยา​ของ​ผู้​ใหญ่​ที่​จะ​ตี​สอน​เด็ก​ที่​ประพฤติ​ไม่​ดี.

การ​ตี​สอน​เช่น​นั้น​มี​การ​ยอม​รับ​เป็น​อย่าง​ดี​เพราะ​พวก​เด็ก ๆ ได้​รับ​การสอน​ให้​มี​ความ​นับถือ​อย่าง​สูง​ต่อ​ผู้​ใหญ่. แท้​จริง ชาว​อะกัน​เคย​กล่าว​กัน​ว่า “สตรี​ชรา​ไม่​ใช่​เป็น​คุณ​ย่า​คุณ​ยาย​ของ​คน​คน​เดียว​เท่า​นั้น.” ด้วย​เหตุ​นั้น ความ​นับถือ​และ​การ​ปรนนิบัติ​ผู้​สูง​อายุ​จึง​เป็น​พันธะ​หน้า​ที่. เด็ก​คน​ใด​ก็​ตาม​ที่​ไม่​ยอม​ให้​การ​ปรนนิบัติ​ผู้​ใหญ่​โดย​ไม่​มี​ข้อ​แก้​ตัว​ที่​เหมาะ​สม​จะ​ถูก​รายงาน​ให้​บิดา​มารดา​ของ​เขา​ทราบ.

การ​ศึกษา​ทาง​ศาสนา

ชาว​อะกัน​เป็น​คน​เคร่ง​ศาสนา​มาก มี​เจตคติ​ที่​ยกย่อง​บูชา​ธรรมชาติ​และ​เอกภพ​ที่​ไม่​รู้​จัก. เป็น​ความ​จริง​ที่​ว่า​พวก​เขา​เป็น​ผู้​นับถือ​พระเจ้า​หลาย​องค์. แม้​กระนั้น ชาว​อะกัน​ก็​เชื่อ​ใน​ความ​เป็น​อยู่​ของ​พระ​ผู้​สูง​สุด. (โรม 1:20) คำ​ที่​ชาว​อะกัน​ใช้​สำหรับ “พระเจ้า” หรือ​พระ​ใด ๆ ก็​ตาม​คือ ออน​ยา​เม. กระนั้น สำหรับ​ชาว​อะกัน​แล้ว คำ​นี้​ดู​เหมือน​ไม่​เหมาะ​จะ​ใช้​พรรณนา​ถึง​พระ​ผู้​สร้าง. ดัง​นั้น พวก​เขา​จึง​เรียก​พระองค์​ว่า โอน​ยัน​โค​โปน ซึ่ง​หมายความ​ว่า “พระเจ้า​ผู้​ทรง​เป็น​องค์​ใหญ่​ยิ่ง​แต่​องค์​เดียว.”

พระเจ้า​อื่น ๆ ที่​ด้อย​กว่า​ได้​รับ​การ​บูชา​ด้วย​ความ​เชื่อ​ที่​ว่า​พระ​เหล่า​นั้น​เป็น​การ​จัด​เตรียม​ของ​พระเจ้า​องค์​ใหญ่​ยิ่ง​องค์​เดียว​นั้น. ใน​จิตใจ​พวก​เขา เรื่อง​นี้​ไม่​ต่าง​กัน​เท่า​ไร​นัก​จาก​วิธี​ที่​หัวหน้า​เผ่า​ได้​รับ​การ​ปรนนิบัติ​โดย​พวก​รอง​หัวหน้า. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เด็ก​ชาว​อะกัน​ทุก​คน​ได้​รับ​การสอน​ศาสนา​นี้.

การ​ศึกษา​ตาม​ประเพณี​ใน​สมัย​นี้

ไม่​กี่​ปี​มา​นี้ ชาว​แอฟริกา​หลาย​ล้าน​คน​โยกย้าย​ถิ่น​ฐาน​มา​ยัง​เมือง​ใหญ่ ๆ ซึ่ง​การสอน​ตาม​แบบ​แผน​ใน​ชั้น​เรียน​เข้า​มา​แทน​วิธีการ​เรียน​การสอน​ตาม​ประเพณี​เกือบ​ทั้ง​หมด. กระนั้น​ก็​ตาม โรงเรียน​ตาม​ประเพณี​ของ​ชาว​แอฟริกา​ก็​ยัง​เจริญ​เฟื่องฟู​ใน​บาง​ชุมชน โดย​เฉพาะ​ใน​ชนบท. ชาว​แอฟริกา​บาง​พวก​ได้​รับ​การ​ศึกษา​ทั้ง​ตาม​ประเพณี​และ ตาม​แบบ​แผน​ด้วย​ซ้ำ!

ยก​ตัว​อย่าง ขอ​พิจารณา​คริสเตียน​คน​หนึ่ง​ใน​กานา​ที่​ชื่อ อัลเฟรด. ทั้ง ๆ ที่​ได้​รับ​การ​ศึกษา​ตาม​แบบ​แผน เขา​ก็​มี​ความ​นับถือ​อย่าง​สูง​ต่อ​วิถี​ชีวิต​ตาม​ประเพณี​ใน​หลาย​ด้าน​ที​เดียว. อัลเฟรด​บอก​ว่า “ญาติ​ผู้​ชาย​ของ​ผม​ส่วน​ใหญ่​ที่​ไม่​รู้​หนังสือ ถึง​แม้​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​ตาม​ประเพณี​เท่า​นั้น ก็​เป็น​ผู้​สอน​ที่​ดี​เกี่ยว​กับ​แง่​มุม​ปฏิบัติ​ต่าง ๆ ใน​ชีวิต. การ​ทำ​งาน​กับ​เพื่อน​คริสเตียน​ท่ามกลาง​พวก​เขา​ได้​สอน​ผม​ให้​รู้​วิธี​หลาย​อย่าง​ที่​ได้​ผล​ใน​การ​เสนอ​ข่าวสาร​ของ​ผม​ใน​แบบ​เรียบ​ง่าย ไม่​อวด​ตัว. ดัง​นั้น ผม​จึง​สามารถ​พูด​กับ​ผู้​คน​ที่​มี​ภูมิหลัง​การ​ศึกษา​ตาม​ประเพณี​รวม​ทั้ง​คน​ที่​มี​การ​ศึกษา​ตาม​แบบ​แผน​ด้วย. ค่อนข้าง​บ่อย​ที่​ผม​ยก​เอา​ภาษิต​หรือ​อุปมา​ที่​ชาว​บ้าน​เหล่า​นี้​ใช้​กัน​มา​ขัด​เกลา​และ​ผสม​ใช้​ใน​คำ​บรรยาย​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล. การ​ทำ​เช่น​นี้​มัก​เรียก​เสียง​ปรบ​มือ​ด้วย​ความ​ชอบ​อก​ชอบ​ใจ​จาก​ผู้​ฟัง! แต่​ตาม​จริง​แล้ว เกียรติ​นี้​พึง​ต้อง​ให้​แก่​ชาย​หญิง​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​ตาม​ประเพณี.”

ฉะนั้น จึง​ชัด​แจ้ง​ว่า โรงเรียน​ชาว​แอฟริกา​มี​หลาย​ด้าน​ที่​ควร​ยกย่อง​และ​สม​ควร​ได้​รับ​ความ​นับถือ ไม่​ใช่​ดูถูก. โรงเรียน​นั้น​อาจ​ไม่​ได้​ผลิต​สิ่ง​อัศจรรย์​ด้าน​เทคโนโลยี แต่​ก็​ได้​ทำ​ให้​มี​โครง​สร้าง​ครอบครัว​ที่​แข็งแรง, ความ​สำนึก​ต่อ​ชุมชน, และ​ผู้​คน​ที่​มี​เชาวน์​ดี, อารมณ์​ขัน​ที่​น่า​ดึงดูด​ใจ, และ​น้ำใจ​ต้อน​รับ​แขก​อย่าง​ใจ​กว้าง. ดัง​นั้น​จึง​ไม่​น่า​แปลก​ใจ​ที่​ชาว​แอฟริกา​ที่​อยู่​ใน​เมือง​พยายาม​จะ​รักษาการ​ติด​ต่อ​กับ​ญาติ ๆ ที่​อาศัย​ใน​ชนบท​เอา​ไว้​ด้วย​การ​ไป​เยือน​เป็น​ครั้ง​คราว. ใน​โอกาส​นั้น​เป็น​เวลา​ที่​พวก​เขา​เคอะ​เขิน​จริง ๆ. ผู้​อยู่​ใน​เมือง​มัก​หัน​รี​หัน​ขวาง​เมื่อ​มา​ถึง​เรื่อง​แบบ​แผน​ตาม​ประเพณี. ตัว​อย่าง​เช่น พวก​เขา​มัก​ไม่​ทราบ​ว่า เมื่อ​คุณ​จับ​มือ​กับ​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​นั้น วิธี “ถูก​ต้อง” คือ​ให้​ทำ​จาก​ขวา​ไป​ซ้าย. แต่​ถึง​อย่าง​ไร​การ​ไป​เยือน​นั้น​ก็​สามารถ​ทำ​ให้​ทั้ง​สอง​ฝ่าย​ชื่น​อก​ชื่น​ใจ.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ต้อง​ยอม​รับ​ว่า ถึง​แม้​โรงเรียน​ตาม​ประเพณี​ของ​ชาว​แอฟริกา​สอน​ความ​เคารพ​นับถือ​และ​ความ​เลื่อมใส แต่​ก็​ไม่​ได้​ปลูกฝัง​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​เยซู​คริสต์​พระ​บุตร​ของ​พระองค์​ซึ่ง​เป็น​ความ​รู้​ที่​ให้​ชีวิต. (โยฮัน 17:3) พยาน​พระ​ยะโฮวา​มี​สิทธิ​พิเศษ​จะ​ทำ​งาน​ท่ามกลาง​ชาว​อะกัน​และ​ชน​กลุ่ม​น้อย​ชาว​แอฟริกา​กลุ่ม​อื่น ๆ เพื่อ​ให้​ความ​รู้​อัน​สำคัญ​ยิ่ง​นี้. พวก​เขา​ได้​สอน​ชาว​แอฟริกา​หลาย​พัน​คน​ซึ่ง​ไม่​ได้​เรียน​การ​อ่าน​การ​เขียน​ใน​โรงเรียน​ตาม​แบบ​แผน​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​สามารถ​ศึกษา​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ได้​โดย​ตรง. สำหรับ​คน​ที่ “​รู้​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ตน” นี่​เป็น​การ​ศึกษา​อัน​สำคัญ​ที่​สุด​ซึ่ง​คน​เรา​สามารถ​มี​ได้.—มัดธาย 5:3, ล.ม.

[รูปภาพ​หน้า 25]

ท่ามกลาง​ชาว​อะกัน เด็ก​ได้​รับ​การสอน​ให้​ตระหนัก​ถึง​ความ​รับผิดชอบ​ที่​เขา​มี​ต่อ​ชุมชน

[รูปภาพ​หน้า 26]

หอ​ประชุม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​จัด​ให้​มี​ชั้น​เรียน​การ​อ่าน​การ​เขียน

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์