ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ต97 8/7 น. 19-23
  • เราแสวงหาความยุติธรรม

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • เราแสวงหาความยุติธรรม
  • ตื่นเถิด! 1997
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • ปัญหา​กับ​คริสตจักร
  • เป็น​ทหาร​และ​แต่งงาน
  • ผม​ดันทุรัง​ต่อ​ต้าน
  • ผม​พบ​ความ​ยุติธรรม​สม​ใจ
  • ใน​ที่​สุด​ก็​เข้า​ถึง​หัวใจ​ของ​ผม
  • มุ่ง​รับใช้​เต็ม​เวลา
  • เมื่อ​จะ​ประสบ​ความ​ยุติธรรม​เต็ม​ที่
  • คัมภีร์ไบเบิลเปลี่ยนชีวิตคน
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2011
  • การต่อสู้อันยาวนานอย่างทรหดเพื่อพบความเชื่อแท้
    ตื่นเถิด! 1995
  • การเข้าใกล้พระเจ้าช่วยดิฉันให้รับมือได้
    ตื่นเถิด! 1993
  • คัมภีร์ไบเบิลเปลี่ยนชีวิตคน
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2012
ตื่นเถิด! 1997
ต97 8/7 น. 19-23

เรา​แสวง​หา​ความ​ยุติธรรม

เล่า​โดย อันโตนิโอ วิลยา

ปี 1836 ชาว​เท็กซัส​ไม่​ถึง 200 คน​ที่​ปก​ป้อง​อะลาโม​ได้​ถูก​กองทัพ​เม็กซิโก​ซึ่ง​มี​กำลัง​พล​ประมาณ 4,000 นาย​สังหาร​เรียบ. หลัง​จาก​นั้น การ​ปลุกใจ​ให้​ทำ​สงคราม​ด้วย​คำ​ขวัญ “อย่า​ลืม​อะลาโม” ถูก​นำ​มา​ใช้​กระพือ​ไฟ​สงคราม​เพื่อ​อิสรภาพ ซึ่ง​ต่อ​มา​ก็​ทำ​ได้​สำเร็จ​ใน​ปี​นั้น​เอง. ใน​ปี 1845 ดินแดน​ส่วน​ซึ่ง​เคย​เป็น​ของ​เม็กซิโก​จึง​กลับ​กลาย​เป็น​ของ​สหรัฐ และ​ชาว​เม็กซิโก​พบ​ว่า​ตัว​เอง​ตก​อยู่​ใน​เขต​แดน​ของ​ฝ่าย​ปรปักษ์. ความ​แตกต่าง​กัน​ทาง​ด้าน​ชาติ​พันธุ์​ยัง​ติด​ตรึง​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ.

ผม​เกิด​ปี 1937 ไม่​ไกล​จาก​เมือง​ซาน​อันโตนิโอ รัฐ​เท็กซัส ซึ่ง​อะลาโม​ตั้ง​อยู่​ที่​นั่น. สมัย​โน้น ไม่​ว่า​ห้อง​น้ำ จุด​บริการ​น้ำ​ดื่ม และ​สาธารณูปโภค​อื่น ๆ มี​ป้าย​กำกับ​ว่า “คน​ขาว​เท่า​นั้น” หรือ “คน​ผิว​อื่น.” ผม​เรียน​รู้​ใน​เวลา​สั้น ๆ ว่า “คน​ผิว​อื่น” รวม​เอา​พวก​เรา​เชื้อ​สาย​ชาว​เม็กซิโก​เข้า​ไป​ด้วย.

เมื่อ​เข้า​ไป​ดู​ภาพยนตร์​ใน​โรง​ฉาย เขา​อนุญาต​ให้​ชาว​เม็กซิโก​และ​คน​ผิว​ดำ​นั่ง​ได้​เฉพาะ​ที่​นั่ง​ชั้น​บน​เท่า​นั้น ไม่​ให้​นั่ง​กลาง​โรง​ใน​ที่​ของ​ผู้​เข้า​ชม​ส่วน​ใหญ่. ร้าน​อาหาร​และ​ร้าน​ค้า​หลาย​แห่ง​ไม่​ต้อนรับ​ลูก​ค้า​ชาว​เม็กซิโก. ครั้ง​หนึ่ง​เวเลีย ภรรยา​ของ​ผม​กับ​น้อง​สาว​ได้​เข้า​ร้าน​เสริม​สวย เจ้าของ​ร้าน​ไร้​มารยาท​จริง ๆ แค่​จะ​พูด​ว่า “ที่​นี่​เรา​ไม่​ต้อนรับ​คน​เม็กซิโก” ก็​ไม่​มี. เขา​เพียง​แต่​หัวเราะ​ใส่​หน้า จน​กระทั่ง​เวเลีย​และ​น้อง​สาว​รู้สึก​อับอาย​จน​ต้อง​เดิน​ออก​จาก​ร้าน.

บาง​ครั้ง พวก​ผู้​ชาย​ผิว​ขาว—มัก​เป็น​ตอน​เมา—จะ​ส่าย​ตา​หา​ผู้​หญิง​เม็กซิโก​ซึ่ง​หลาย​คน​ถือ​ว่า​เป็น​พวก​ที่​ไม่​มี​ศีลธรรม​มา​แต่​กำเนิด. ผม​มา​คิด​ดู​ว่า ‘เขา​ไม่​ใช้​ห้อง​น้ำ​ร่วม หรือ​ไม่​ดื่ม​น้ำ​จาก​จุด​บริการ​แห่ง​เดียว​กับ​เรา แต่​เขา​ร่วม​เตียง​กับ​ผู้​หญิง​เม็กซิโก.’ ความ​อยุติธรรม​ที่​พบ​เห็น​ระยะ​แรก​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​ผม​ไม่​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ แล้ว​ภาย​หลัง​เกิด​ความ​รู้สึก​เป็น​ปฏิปักษ์.

ปัญหา​กับ​คริสตจักร

ความ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​ของ​ศาสนา​ทำ​ให้​ผม​รู้สึก​ขมขื่น​มาก​ยิ่ง​ขึ้น. คน​ขาว คน​ดำ คน​เม็กซิโก​ต่าง​ก็​แยก​กัน​เข้า​โบสถ์​ของ​ใคร​ของ​มัน. เมื่อ​ผม​เตรียม​ตัว​จะ​รับ​ศีล​ครั้ง​แรก​เยี่ยง​ชาว​คาทอลิก บาทหลวง​ได้​ยื่น​ซอง​กำกับ​วัน​ที่​ไว้​ล่วง​หน้า​จำนวน​หนึ่ง​ให้​ผม​เอา​ไป​ให้​พ่อ. เรา​จะ​ต้อง​คืน​สัปดาห์​ละ​ซอง​พร้อม​เงิน​บริจาค. หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน บาทหลวง​บอก​ผม​ว่า “คุณ​น่า​จะ​บอก​พ่อ​ว่า​ยัง​ไม่​มี​ซอง​คืน​มา​เลย.” คำ​พูด​ของ​พ่อ​ที่​ส่อ​ความ​เคียดแค้น​ยัง​คง​ฝัง​ใจ​ผม​ว่า “นั่น​เป็น​สิ่ง​เดียว​ที่​คน​พวก​นี้​สนใจ—เงิน!”

ถือ​ว่า​เป็น​สิ่ง​ธรรมดา​ที่​มี​เรื่อง​อื้อฉาว เมื่อ​นัก​เทศน์​นัก​บวช​พา​ผู้​หญิง​ใน​ประชาคม​ของ​ตน​หนี​ไป. ประสบการณ์​ทำนอง​นี้​ทำ​ให้​ผม​แสดง​ท่าที​อย่าง​เปิด​เผย​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก​ว่า “ศาสนา​มี​เป้าหมาย​เพียง​สอง​อย่าง—ขอ​ให้​ได้​เงิน​จาก​คุณ​หรือ​ไม่​ก็​แย่ง​เอา​ผู้​หญิง​ของ​คุณ.” ด้วย​เหตุ​นี้ เมื่อ​ใด​พยาน​พระ​ยะโฮวา​แวะ​มา​ที่​บ้าน ผม​จะ​บอก​ปัด​และ​บอก​ว่า “ถ้า​ผม​ต้องการ​ศาสนา ผม​จะ​เสาะ​หา​เอา​เอง.”

เป็น​ทหาร​และ​แต่งงาน

เมื่อ​ปี 1955 ผม​เข้า​ประจำการ​อยู่​ใน​กองทัพ​อากาศ​สหรัฐ​ที่​ซึ่ง​ผม​หวัง​ไว้​ว่า​โดย​ทำ​งาน​เก่ง​เป็น​เยี่ยม ผม​ย่อม​ได้​รับ​ความ​นับถือ​ซึ่ง​ผม​ฐานะ​เป็น​คน​เม็กซิโก​ไม่​เคย​ประสบ. ด้วย​การ​ทุ่มเท​ตัว ผม​ได้​รับ​การ​ยอม​รับ ใน​ที่​สุด​ผม​ถูก​มอบหมาย​ให้​ดู​แล​การ​ควบคุม​คุณภาพ. งาน​นี้​รวม​ไป​ถึง​การ​ประเมิน​งาน​แผนก​อื่น ๆ ของ​หน่วย​พลาธิการ.

ปี 1959 ผม​แต่งงาน​กับ​เวเลีย. เวเลีย​มี​แนว​โน้ม​ชอบ​ทาง​ศาสนา​เสมอ​มา. แต่​โบสถ์​หลาย​แห่ง​ที่​เธอ​ไป​ทำ​ให้​เธอ​รู้สึก​ผิด​หวัง. วัน​หนึ่ง​ใน​ปี 1960 เมื่อ​รู้สึก​ซึมเศร้า​มาก ๆ เธอ​ได้​ทูล​อธิษฐาน​ว่า “ข้า​แต่​พระเจ้า หาก​พระองค์​ดำรง​อยู่​จริง โปรด​สำแดง​ให้​ข้า​ฯ ทราบ. ข้า​ฯ ปรารถนา​จะ​รู้​จัก​พระองค์.” วัน​เดียว​กัน​นั้น​เอง พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​มา​ที่​บ้าน​ของ​เรา​ใน​เมือง​เปทาลูมา รัฐ​แคลิฟอร์เนีย.

แต่​จาก​นั้น​ไม่​นาน เวเลีย​ขาด​การ​ติด​ต่อ​กับ​พยาน​ฯ เนื่อง​จาก​มี​การ​เปลี่ยน​งาน​มอบหมาย​ของ​ผม​ฐานะ​ทหาร. จน​กระทั่ง​ปี 1966 ขณะ​ที่​ผม​อยู่​ใน​เวียดนาม เธอ​จึง​ได้​ติด​ต่อ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​กับ​พยาน​ฯ ใน​เมือง​เซมิโนล รัฐ​เท็กซัส. ต้น​ปี​ถัด​มา​เมื่อ​กลับ​จาก​เวียดนาม​ถึง​บ้าน ผม​ไม่​มี​ความ​สุข​ที่​รู้​ว่า​เธอ​กำลัง​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พวก​พยาน​ฯ.

ผม​ดันทุรัง​ต่อ​ต้าน

ผม​รู้สึก​ว่า​เวเลีย​คง​ถูก​หลอก​และ​จะ​ผิด​หวัง​เพราะ​ศาสนา. ดัง​นั้น ผม​จึง​เข้า​ร่วม​ศึกษา​และ​ฟัง​เพื่อ​จะ​ได้​โอกาส​แฉ​ความ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​ของ​ศาสนา​แม้​จะ​มี​น้อย​นิด. เมื่อ​สตรี​พยาน​ฯ พูด​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​กลาง​ด้าน​การ​เมือง ผม​ถาม​ขึ้น​มา​ทัน​ควัน​ว่า “สามี​ของ​คุณ​ทำ​อาชีพ​อะไร?”

“เขา​ทำ​ไร่​ฝ้าย” เธอ​ตอบ.

“อะฮ้า! ชุด​เครื่อง​แบบ​ทหาร​ทำ​ด้วย​ผ้า​ฝ้าย​นี่​นา. เช่น​นั้น​แล้ว​คุณ​กำลัง​สนับสนุน​การ​ทำ​สงคราม!” ผม​โต้​กลับ​อย่าง​ผยอง. ผม​พูด​เสียง​ดัง​และ​ไม่​มี​เหตุ​ผล.

ถึง​แม้​ใน​เดือน​มิถุนายน 1967 งาน​มอบหมาย​ใหม่​ของ​การ​เป็น​ทหาร​ทำ​ให้​เรา​ย้าย​ไป​เสีย​ไกล ถึง​เมือง​ไมนอต รัฐ​นอร์ทดาโกตา แต่​พยาน​ฯ ที่​นั่น​ได้​ติด​ต่อ​เวเลีย​และ​ได้​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​เธอ​อีก. ผม​เริ่ม​ขัด​ขวาง​อย่าง​เด็ก ๆ. ผม​จงใจ​กลับ​บ้าน​ให้​ตรง​กับ​เวลา​ที่​เขา​ศึกษา​กัน​และ​ปิด​ประตู​แรง ๆ เดิน​ย่ำ​ขึ้น​บันได โยน​รอง​เท้า​บูต​ลง​บน​พื้น​เสียง​สนั่น และ​ดึง​ชัก​โครก​หลาย ๆ ที.

เวเลีย​เป็น​คน​พูด​จา​นุ่มนวล​และ​เป็น​ภรรยา​ที่​นบนอบ เธอ​ไม่​เคย​ทำ​สิ่ง​ใด​ถ้า​ไม่​รับ​อนุญาต​จาก​ผม. แม้​ผม​ฝืน​ใจ​ยอม​ให้​เธอ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล เธอ​ก็​รู้​ดี​ว่า​ที่​จะ​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​พยาน​ฯ นั้น​คง​เป็น​ประเด็น​ใหญ่​แน่ ๆ. ครั้ง​ใด​ที่​เธอ​ถูก​กระตุ้น​ให้​ไป​ร่วม​ประชุม เธอ​จะ​ตอบ​ทุก​ครั้ง​ว่า “ไม่​ไป​ดี​กว่า. ฉัน​ไม่​อยาก​ทำ​ให้​โทนี​หัวเสีย.”

อย่าง​ไร​ก็​ดี วัน​หนึ่ง เวเลีย​อ่าน​พบ​ข้อ​คัมภีร์​ที่​ว่า “อย่า​ทำ​ให้​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า​โศก​เศร้า.” (เอเฟโซ 4:30, ล.ม.) เธอ​จึง​ถาม​ว่า “ข้อ​นี้​หมาย​ความ​อย่าง​ไร?” พยาน​ฯ ที่​นำ​การ​ศึกษา​ได้​อธิบาย​ดัง​นี้: “พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า​ได้​ดล​บันดาล​ให้​มี​การ​จารึก​คัมภีร์​ไบเบิล. ฉะนั้น ถ้า​เรา​ไม่​ปฏิบัติ​สอดคล้อง​กับ​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก เรา​ก็​กำลัง​ทำ​ให้​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า​โศก​เศร้า​นะ​ซี. ยก​ตัว​อย่าง บาง​คน​ไม่​ไป​ร่วม​ประชุม​แม้​เขา​รู้​ว่า​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​บอก​ว่า​เรา​ควร​จะ​ไป.” (เฮ็บราย 10:24, 25) เท่า​นั้น​แหละ ใจ​ถ่อม​ของ​เวเลีย​ได้​รับ​การ​กระตุ้น. นับ​แต่​นั้น​มา เธอ​เข้า​ร่วม​ประชุม​ทุก​นัด​ทั้ง ๆ ที่​ผม​พยายาม​ขัด​ขวาง.

ผม​มัก​พูด​ตัดพ้อ​ว่า “คุณ​ทิ้ง​บ้าน​ไป​ได้​อย่าง​ไร อาหาร​เย็น​คุณ​ก็​ไม่​เตรียม​ให้​ผม?” เวเลีย​ไหว​ทัน เธอ​ทำ​อาหาร​ไว้​พร้อม​และ​อุ่น​ให้​ผม​รับประทาน​ได้​เสมอ. ฉะนั้น ผม​ใช้​ข้อ​อ้าง​อื่น ๆ เช่น “คุณ​ไม่​รัก​ผม ไม่​รัก​ลูก. คุณ​ปล่อย​พวก​เรา​ไว้​แล้ว​คุณ​ก็​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​เสีย.” หรือ​เมื่อ​ผม​จะ​กล่าว​โจมตี​ความ​เชื่อ​ของ​พยาน​ฯ และ​เวเลีย​พยายาม​พูด​ปก​ป้อง​อย่าง​นุ่มนวล ผม​ใช้​วิธี​โบโคนา—“โพนทะนา”—เรียก​เธอ​ว่า​โบโคนา​ที่​ไม่​เคารพ​นบนอบ.

ถึง​กระนั้น เวเลีย​ก็​ยัง​คง​ไป​ร่วม​ประชุม บ่อย​ครั้ง​เธอ​ออก​จาก​บ้าน​ทั้ง​น้ำตา เพราะ​คำ​พูด​ของ​ผม​หัก​หาญ​ทำลายจิตใจ​เธอ. แต่​ผม​เอง​ได้​ปฏิบัติ​ตาม​หลักการ​อยู่​บ้าง. ผม​ไม่​เคย​ทุบ​ตี​ภรรยา หรือ​แม้​แต่​จะ​คิด​ทอดทิ้ง​เธอ​เนื่อง​จาก​ความ​เชื่อ​ที่​เธอ​เพิ่ง​พบ. แต่​ผม​ห่วง​กังวล​ว่า ผู้​ชาย​รูป​หล่อ​บาง​คน​ที่​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​อาจ​เกิด​สนใจ​ตัว​เธอ. ผม​ยัง​คง​คิด​ว่า​เมื่อ​เป็น​เรื่อง​ศาสนา ‘ก็​สนใจ​แต่​เงิน​หรือ​ไม่​ก็​ผู้​หญิง.’ ผม​มัก​บ่น​ว่า​เมื่อ​เวเลีย​แต่ง​ตัว​ไป​ร่วม​ประชุม: “คุณ​แต่ง​ตัว​พริ้ง​สำหรับ​คน​อื่น​เชียว​นะ แต่​คุณ​ไม่​เคย​แต่ง​ตัว​สวย ๆ สำหรับ​ผม​เลย.” ดัง​นั้น ครั้ง​แรก​ที่​ผม​ตัดสิน​ใจ​ไป​ประชุม ผม​บอก​ว่า “ผม​จะ​ไป​ด้วย แต่​ที่​ไป​ก็​เพื่อ​จะ​เฝ้า​ดู​คุณ​อย่าง​ใกล้​ชิด!”

แต่​เจตนา​จริง ๆ ของ​ผม​เพื่อ​หา​เรื่อง​ต่อ​ต้าน​พยาน​ฯ. ณ การ​ร่วม​ประชุม​ตอน​แรก ๆ คราว​หนึ่ง​นั้น คำ​บรรยาย​เป็น​เรื่อง​การ​สมรส “กับ​ผู้​ที่​เชื่อถือ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” เท่า​นั้น. (1 โกรินโธ 7:39) เมื่อ​เรา​กลับ​ถึง​บ้าน ผม​ว่า​แรง ๆ ให้​เธอ​เสีย​หน้า “เห็น​ไหม​ล่ะ! พวก​เขา​ก็​เหมือน​กับ​คน​อื่น ๆ ทุก​คน​นั่น​แหละ—มี​อคติ​ต่อ​คน​ที่​ไม่​เชื่อ​ศรัทธา​เหมือน​ตน.” เวเลีย​อธิบาย​อย่าง​อ่อนน้อม​ว่า “แต่​ไม่​ใช่​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​พูด​เอา​เอง นั่น​เป็น​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก.” ผม​ชก​ผนัง​ห้อง​เป็น​การ​โต้​ตอบ​ทัน​ควัน​และ​ตะโกน​ลั่น​ว่า “เอา​อีก​แล้ว คุณ​ทำ​ตัว​เป็น​โบโคนา​อีก​แล้ว!” ที่​จริง ผม​ข้องขัดใจ​เพราะ​ผม​รู้​ว่า​เธอ​เป็น​ฝ่าย​ถูก.

ผม​ยัง​คง​ไป​ร่วม​ประชุม​และ​อ่าน​หนังสือ​ของ​พยาน​ฯ แต่​ผม​มี​เจตนา​จะ​จับ​ผิด. ผม​ถึง​กับ​เริ่ม​ออก​ความ​คิด​เห็น ณ การ​ประชุม​ด้วย​ซ้ำ แต่​ก็​เพื่อ​ให้​คน​เขา​เห็น​ว่า​ผม​ไม่​ใช่​คน “เม็กซิโก​โง่​ทึ่ม.”

ผม​พบ​ความ​ยุติธรรม​สม​ใจ

พอ​ถึง​ปี 1971 อาชีพ​ทหาร​ของ​ผม​ทำ​ให้​เรา​ต้อง​ย้าย​ไป​อยู่​ใน​รัฐ​อาร์คันซอ. ผม​ยัง​คง​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​กับ​เวเลีย​ซึ่ง​ใน​เดือน​ธันวาคม 1969 เธอ​ได้​รับ​บัพติสมา​แสดง​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา. ผม​ไม่​ขัด​ขวาง​เธอ​อีก​ต่อ​ไป แต่​ก็​ไม่​ยอม​ให้​ใคร​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​ผม. จาก​การ​ที่​ได้​อ่าน​หนังสือ​ต่าง ๆ ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล ผม​ได้​ความ​รู้​เพิ่ม​ขึ้น​มาก​ที​เดียว. แต่​ก็​เป็น​ความ​รู้​ใน​สมอง​เท่า​นั้น—เป็น​ผล​จาก​ความ​ต้องการ​เป็น​เยี่ยม​ในทุก​สิ่ง​ที่​ผม​กระทำ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​คบหา​สมาคม​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เริ่ม​ก่อ​ผล​กระทบ​หัวใจ​ของ​ผม​ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย.

อย่าง​เช่น ผม​สังเกต​เห็น​คน​ผิว​ดำ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​สอน ณ การ​ประชุม​ประชาคม. แต่​ที​แรก​ผม​บอก​ตัว​เอง​ว่า ‘ใช่​สิ พวก​เขา​สอน​เฉพาะ​ที่​นี่ ที่​ไม่​มี​ใคร​เห็น.’ อย่าง​ไร​ก็​ตาม ครั้น​เรา​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​สนาม​แข่ง​เบส​บอล​ขนาด​ใหญ่ ผม​ตกตะลึง​เมื่อ​เห็น​คน​ผิว​ดำ​มี​ส่วน​ใน​ระเบียบ​วาระ​ที่​นั่น​ด้วย. ผม​จำ​ต้อง​ยอม​รับ​ว่า​ไม่​มี​การ​เลือก​ปฏิบัติ​ท่ามกลาง​เหล่า​พยาน​ฯ. พวก​เขา​ดำเนิน​การ​อย่าง​เที่ยงธรรม​จริง ๆ.

นอก​จาก​นั้น ผม​ได้​มา​หยั่ง​รู้​ค่า​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มี​ความ​รัก​แท้​ซึ่ง​กัน​และ​กัน. (โยฮัน 13:34, 35) และ​เมื่อ​ผม​ร่วม​งาน​กับ​พวก​เขา​ใน​การ​ก่อ​สร้าง​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร ผม​เห็น​ได้​ว่า​คน​เหล่า​นี้​เป็น​เพียง​ปุถุชน​ธรรมดา. ผม​เห็น​พวก​เขา​เหนื่อย ทำ​งาน​ผิด​พลาด และ​เมื่อ​มี​อะไร​ผิด​พลาด​ก็​มี​การ​ใช้​คำ​พูด​ไม่​ค่อย​จะ​รื่น​หู​โต้​ตอบ​กัน​บ้าง. แทน​ที่​ผม​จะ​ตี​ตัว​ออก​ห่าง​เพราะ​ข้อ​บกพร่อง​เหล่า​นี้ ผม​ยิ่ง​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ​พวก​เขา​มาก​ขึ้น. ผม​อาจ​ตระหนัก​ว่า​ยัง​มี​ความ​หวัง​สำหรับ​ผม ทั้ง ๆ ที่​ผม​มี​ข้อ​บกพร่อง​มาก​มาย.

ใน​ที่​สุด​ก็​เข้า​ถึง​หัวใจ​ของ​ผม

ผม​ตระหนัก​เป็น​ครั้ง​แรก​ว่า​ผม​กำลัง​พัฒนา​สัมพันธภาพ​กับ​พระ​ยะโฮวา เมื่อ​ปี 1973 ที่​วารสาร​หอสังเกตการณ์​ได้​อธิบาย​เรื่อง​การ​สูบ​บุหรี่ ‘ทำ​ให้​เนื้อหนัง​เป็น​มลทิน’ และ​เป็น​พื้น​ฐาน​การ​ตัด​สัมพันธ์​ผู้​กระทำ​ผิด. (2 โกรินโธ 7:1) ตอน​นั้น ผม​สูบ​บุหรี่​จัด วัน​ละ​หนึ่ง​ถึง​สอง​ซอง. ผม​เคย​พยายาม​เลิก​หลาย​ครั้ง​แล้ว แต่​ไม่​สำเร็จ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม บัด​นี้ ทุก​ครั้ง​ที่​ผม​อยาก​สูบ ผม​จะ​กล่าว​คำ​อธิษฐาน​ใน​ใจ​ขอ​พระ​ยะโฮวา​โปรด​ช่วย​ผม​ให้​เลิก​นิสัย​ที่​ก่อ​ความ​สกปรก​นี้​เสีย​ที. สิ่ง​ที่​ยัง​ความ​ประหลาด​ใจ​แก่​ทุก​คน​ก็​คือ​ผม​ไม่​สูบ​บุหรี่​อีก​เลย.

วัน​ที่ 1 กรกฎาคม 1975 เป็น​วัน​ถึง​กำหนด​ที่​ผม​ต้อง​ปลด​ประจำการ. ผม​ตระหนัก​แล้ว​ว่า​หาก​ผม​ต้องการ​ทำ​อย่าง​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน ผม​จะ​ต้อง​อุทิศ​ชีวิต​แด่​พระ​ยะโฮวา. ผม​เอง​ไม่​เคย​มี​ใคร​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​ผม ดัง​นั้น​จึง​เป็น​เรื่อง​ที่​ยัง​ความ​ตกตะลึง​ไม่​น้อย​แก่​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม เมื่อ​เดือน​มิถุนายน 1975 ผม​ได้​แจ้ง​แก่​พวก​ผู้​ปกครอง​ว่า​ผม​ต้องการ​รับ​บัพติสมา​ทันที​ที่​เลิก​อาชีพ​การ​เป็น​ทหาร. พวก​เขา​ได้​ชี้​แจง​ว่า ก่อน​อื่น​ผม​จะ​ต้อง​ทำ​ตาม​พระ​บัญชา​ของ​พระ​เยซู​ที่​จะ​มี​ส่วน​ทำ​งาน​ประกาศ​เผยแพร่. (มัดธาย 28:19, 20) ผม​ได้​ลง​มือ​ทำ​จุด​นี้​ใน​วัน​เสาร์​แรก​ของ​เดือน​กรกฎาคม. วัน​เดียว​กัน​นั้น​เอง ผม​ได้​เข้า​พบ​ผู้​ปกครอง​และ​ตอบ​คำ​ถาม​ต่าง ๆ เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​เป็น​ข้อ​เรียก​ร้อง​สำหรับ​ผู้​ประสงค์​จะ​รับ​บัพติสมา สาม​สัปดาห์​ต่อ​มา ผม​ก็​รับ​บัพติสมา.

ครั้น​ลูก ๆ เห็น​ผม​รับ​บัพติสมา ทั้ง​สาม​คน คือ​วีโต เวเนลดา และ​เวโรนิกา ต่าง​ก็​เริ่ม​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​รวด​เร็ว. ใน​ช่วง​สอง​ปี​ต่อ​มา ลูก​สอง​คน​แรก​ได้​รับ​บัพติสมา ส่วน​คน​สุด​ท้อง​ได้​รับ​บัพติสมา​หลัง​จาก​นั้น​อีก​สี่​ปี. เมื่อ​ผม​พูด​กับ​คน​ที่​รู้​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล แต่​ไม่​ได้​ทำ​อะไร​เกี่ยว​กับ​ความ​รู้ ผม​มัก​จะ​บอก​เขา​ถึง​ผล​สืบ​เนื่อง​จาก​การ​ที่​เขา​ไม่​ได้​ลง​มือ​ปฏิบัติ. ผม​บอก​เขา​ว่า​ถึง​แม้​ลูก​ของ​เขา​อาจ​ไม่​พูด​ออก​มา แต่​ลูก ๆ ก็​คง​คิด​ว่า ‘ถ้า​ความ​จริง​ไม่​สำคัญ​พอ​สำหรับ​พ่อ ความ​จริง​ก็​ไม่​สำคัญ​พอ​สำหรับ​ฉัน.’

มุ่ง​รับใช้​เต็ม​เวลา

พวก​เรา​ทั้ง​ครอบครัว​เริ่ม​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ฐานะ​ไพโอเนียร์​ใน​เมือง​มาร์แชลล์ รัฐ​อาร์คันซอ. เวเลีย​กับ​ผม​เริ่ม​เมื่อ​ปี 1979 และ​ลูก ๆ ร่วม​สมทบ​กับ​เรา​ใน​ช่วง​ปี​ต่อ ๆ มา​เมื่อ​แต่​ละ​คน​เรียน​จบ​ชั้น​มัธยม​ศึกษา​แล้ว.

ช่วง​ต้น​ทศวรรษ​ปี 1980 เรา​ได้​ยิน​รายงาน​ว่า​ผู้​คน​ในประเทศ​เอกวาดอร์ ใน​อเมริกา​ใต้​กระหาย​ความ​รู้​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล เรา​จึง​ตั้ง​เป้า​จะ​ย้าย​ไป​ที่​นั่น. ครั้น​มา​ใน​ปี 1989 ลูก​ของ​เรา​ต่าง​โต ๆ กัน​แล้ว​และ​สามารถ​ดู​แล​ตัว​เอง​ได้. ดัง​นั้น ปี​นั้น​เอง พวก​เรา​ได้​ไป​เยือน​เอกวาดอร์​ชั่ว​ระยะ​สั้น ๆ เพื่อ “สืบ​ดู​แผ่นดิน.”—เทียบ​กับ​อาฤธโม 13:1, 2.

เดือน​เมษายน 1990 พวก​เรา​ไป​ถึง​ประเทศ​เอกวาดอร์ บ้าน​แห่ง​ใหม่​ของ​เรา. เนื่อง​จาก​ฐานะ​การ​เงิน​ของ​เรา​มี​จำกัด—เพราะ​อาศัย​บำนาญ​ทหาร—เรา​จึง​ต้อง​จัด​ทำ​งบประมาณ​ของ​เรา​อย่าง​รอบคอบ. แต่​ความ​ชื่นชม​ยินดี​จาก​การ​รับใช้​เต็ม​เวลา​ใน​เขต​งาน​ซึ่ง​บังเกิด​ผล​มาก​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​นี้​มี​ค่า​เกิน​กว่า​การ​สละ​เงิน​ทอง​เป็น​ไหน ๆ. ที​แรก เรา​ทำ​งาน​ใน​มันตา เมือง​ท่า​เรือ ที่​นั่น​เรา​แต่​ละ​คน​ได้​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ประจำ​สัปดาห์​ราว ๆ 10 ถึง 12 ราย. ครั้น​แล้ว ปี 1992 ผม​เริ่ม​งาน​รับใช้​ใน​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง และ​มี​ภรรยา​ร่วม​สมทบ​ด้วย. แต่​ละ​สัปดาห์​เรา​ไป​เยี่ยม​หนึ่ง​ประชาคม.

เมื่อ​จะ​ประสบ​ความ​ยุติธรรม​เต็ม​ที่

เมื่อ​คิด​ทบทวน​ความ​เป็น​มา ผม​กับ​เวเลีย​เห็น​ได้​ว่า​ความ​อยุติธรรม​ที่​เรา​เคย​ประสบ​มา​ตลอด​ระยะ​ที่​เรา​เติบโต​ขึ้น​มา​นั้น บัด​นี้​เป็น​ประโยชน์​ใน​งาน​รับใช้​ของ​เรา. โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง เรา​สำนึก​เสมอ​ที่​จะ​ไม่​ดูถูก​ใคร ๆ ซึ่ง​อาจ​อยู่​ใน​สภาพ​ยาก​จน​กว่า​หรือ​มี​การ​ศึกษา​ที่​ด้อย​กว่า หรือ​มี​พื้นเพ​ทาง​ชาติ​พันธุ์​ต่าง​จาก​เรา. เรา​เข้าใจ​ด้วย​ว่า​คริสเตียน​ชาย​หญิง​พี่​น้อง​ของ​เรา​หลาย​คน​ประสบ​ความ​อยุติธรรม​ทาง​สังคม​ยิ่ง​กว่า​ที่​เรา​เอง​เคย​ประสบ. ถึง​กระนั้น พวก​เขา​ไม่​บ่น. เขา​จด​จ้อง​คอย​การ​มา​ถึง​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​และ​นี่​คือ​สิ่ง​ที่​เรา​เรียน​รู้​ที่​จะ​กระทำ. เรา​เลิก​ความ​พยายาม​จะ​ไขว่​คว้า​หา​ความ​ยุติธรรม​ใน​ระบบ​นี้​มา​นาน​แล้ว ทว่า​เรา​กลับ​ใช้​ชีวิต​ของ​เรา​ชี้​ให้​ผู้​คน​รู้​จัก​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​เดียว​เท่า​นั้น​จะ​แก้​ปัญหา​เกี่ยว​กับ​ความ​อยุติธรรม​ได้​จริง.—มัดธาย 24:14.

เรา​ได้​เรียน​รู้​อีก​ด้วย​ว่า​คน​เหล่า​นั้น​ใน​พวก​เรา​ที่​มี​ความ​รู้สึก​อ่อนไหว​ต่อ​ความ​อยุติธรรม​ต่าง ๆ พึง​ต้อง​ระมัดระวัง​ไม่​คาด​หมาย​ความ​ยุติธรรม​ครบ​ถ้วน​สมบูรณ์​จาก​ไพร่​พล​ของ​พระเจ้า. ทั้ง​นี้​เนื่อง​จาก​พวก​เรา​ทุก​คน​ไม่​สมบูรณ์​และ​เอนเอียง​จะ​ทำ​ชั่ว. (โรม 7:18-20) กระนั้น เรา​พูด​ได้​อย่าง​สุจริต​ใจ​ว่า​เรา​ได้​มา​พบ​สังคม​ประกอบ​ด้วย​พี่​น้อง​หลาย​ชน​ชาติ​ที่​มี​ความ​รัก ซึ่ง​บากบั่น​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​อย่าง​สุด​ความ​สามารถ​ของ​ตน. เรา​ตั้ง​ความ​หวัง​พร้อม​ด้วย​ไพร่​พล​ของ​พระเจ้า​ทุก​หน​แห่ง​ว่า​เรา​จะ​เข้า​สู่​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​ความ​ชอบธรรม​จะ​ดำรง​อยู่​ที่​นั่น.—2 เปโตร 3:13.

[จุด​เด่น​หน้า 20]

ผม​ชก​ผนัง​ห้อง​เป็น​การ​โต้​ตอบ​ทัน​ควัน

[รูป​ภาพ​หน้า 21]

กับ​เวเลีย เมื่อ​ผม​เข้า​เป็น​ทหาร​อากาศ

[รูป​ภาพ​หน้า 23]

กับ​เวเลีย เมื่อ​ปี 1996

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์