ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ชค บท 10 น. 102-115
  • นั่นจะเป็นการหลอกลวงแบบฉลาดได้ไหม?

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • นั่นจะเป็นการหลอกลวงแบบฉลาดได้ไหม?
  • ชีวิตมีแค่นี้ละหรือ?
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • ตอน​เริ่ม​ต้น​แห่ง​การ​หลอก​ลวง
  • ตัว​หลอก​ลวง​ที่​ไม่​ปรากฏ​แก่​ตา
  • ผู้​หลอก​ลวง​อื่น ๆ อีก​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ที่​ประจักษ์​แก่​ตา
  • จง​ระวัง​อิทธิพล​ของ​ภูตผี​ปีศาจ
  • เหล่ากายวิญญาณ—มีผลกระทบต่อเราอย่างไร?
    คัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ?
  • การติดต่อกับแดนวิญญาณ
    ความสุข—จะพบได้อย่างไร?
  • จงต่อต้านอำนาจวิญญาณชั่ว
    ความรู้ซึ่งนำไปสู่ชีวิตนิรันดร์
  • คำถามจากผู้อ่าน
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2013
ดูเพิ่มเติม
ชีวิตมีแค่นี้ละหรือ?
ชค บท 10 น. 102-115

บท 10

นั่น​จะ​เป็น​การ​หลอก​ลวง​แบบ​ฉลาด​ได้​ไหม?

มนุษย์​ได้​เห็น​สิ่ง​แปลก​ประหลาด​ที่​สุด​ต่าง ๆ เกิด​ขึ้น​เป็น​เวลา​หลาย​ร้อย​ปี​มา​แล้ว. หิน แก้ว​น้ำ​และ​อื่น ๆ อีก​ใน​ทำนอง​นั้น​ลอย​อยู่​ใน​อากาศ ประหนึ่ง​ว่า​ถูก​เคลื่อน​ย้าย​ด้วย​มือ​อัน​ไม่​ประจักษ์​แก่​ตา. มี​การ​ได้​ยิน​เสียง​พูด เสียง​เคาะ​และ​เสียง​อื่น ๆ อีก ซึ่ง​ถึง​แม้​ไม่​มี​แหล่ง​กำเนิด​หรือ​สาเหตุ​ของ​สิ่ง​เหล่า​นั้น​ปรากฏ​แก่​ตา​ก็​ตาม. มี​ร่าง​มา​ปรากฏ​ให้​เห็น​เป็น​เงา​ราง ๆ และ​ครั้น​แล้ว​ก็​หาย​วับ​ไป​เสีย​ทันที. บาง​ครั้ง​บาง​คราว​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​เช่น​นั้น​มี​พยาน​หลักฐาน​อัน​หนักแน่น​จน​ถึง​ขนาด​ที่​ไม่​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​ต้อง​สงสัย​เสีย​เลย.

คน​ส่วน​มาก​ถือ​เสีย​ว่า​ปรากฏการณ์​อย่าง​นี้​เป็น​หลักฐาน​แสดง​ว่า ความ​ตาย​หา​ได้​ทำ​ให้​ชีวิต​ความ​เป็น​อยู่​พร้อม​ด้วย​ความ​รู้สึก​สิ้น​สุด​ลง​ไม่. บาง​คน​เชื่อ​ว่า​วิญญาณ​ของ​ผู้​ที่​ล่วง​ลับ​ไป​นั้น​พยายาม​โดย​ไม่​ทาง​ใด​ก็​ทาง​หนึ่ง​ที่​จะ​ได้​รับ​การ​พิจารณา​เอา​ใจ​ใส่​จาก​ผู้​ซึ่ง​มี​ชีวิต​อยู่​และ​ที่​จะ​ได้​มี​การ​ติด​ต่อ​กับ​เขา.

แต่​บาง​คน​อาจ​ถาม​ก็​ได้​ว่า: ถ้า​พวก​เหล่า​นี้​คือ​ผู้​ซึ่ง​เป็น​ที่​รัก ที่​สิ้น​ชีวิต​ไป​นั้น​จริง ๆ ผู้​ซึ่ง​พยายาม​จะ​ทำ​การ​ติด​ต่อ​กับ​ผู้​มี​ชีวิต​อยู่​เช่น​นั้น​แล้ว เหตุ​ไฉน​ปรากฏการณ์​ต่าง ๆ ของ​เขา​โดย​ปกติ​นั้น​จึง​ทำ​ให้​ผู้​คอย​สังเกต​ดู​รู้สึก​ตกใจ​กลัว? แท้​จริง​อะไร​ที่​อยู่​เบื้อง​หลัง​สิ่ง​ต่าง ๆ เช่น​นั้น?

พระ​คัมภีร์​ไบเบิ้ล​เผย​ให้​ทราบ​อย่าง​ชัดเจน​ว่า ความ​ตาย​ทำ​ให้​ชีวิต​ความ​เป็น​อยู่​พร้อม​ด้วย​ความ​รู้สึก​ทั้ง​หมด​สิ้น​สุด​ลง. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:5) ดัง​นั้น แล้ว​ก็​คง​จำ​ต้อง​ได้​มี​อำนาจ​อื่น ๆ ซึ่ง​เป็น​ต้น​เหตุ​ของ​เรื่อง​ราว​ต่าง ๆ ที่​มัก​เชื่อ​กัน​ว่า​เป็น​การ​กระทำ​ของ​วิญญาณ​ผู้​ที่​ตาย​ไป​นั้น. อะไร​เล่า​ที่​อาจ​จะ​เป็น​อำนาจ​เหล่า​นั้น? อำนาจ​เหล่า​นั้น​จะ​มี​เชาว์​ฉลาด​ไหว​พริบ​ได้​หรือ? หาก​เป็น​เช่น​นั้น​แล้ว จะ​เป็น​ได้​หรือ​ว่า​อำนาจ​เหล่า​นั้น​มี​ความ​ผิด​ฐาน​กระทำ​การ​หลอก​ลวง​มนุษย์​ชาติ​อย่าง​ที่​ฉลาด?

แน่นอน​เรา​ไม่​ปรารถนา​ที่​จะ​ถูก​หลอก​ลวง. การ​ถูก​หลอก​ลวง​ย่อม​หมาย​ความ​ว่า​เรา​เป็น​ฝ่าย​เสียหาย​แม้​กระทั่ง​ตก​เข้า​สู่​สภาพ​อัน​เป็น​ภัย​อย่าง​มหันต์​ที​เดียว. ด้วย​เหตุ​นั้น​เรา​จึง​มี​เหตุ​ผล​ที่​ดี​ที่​จะ​พึง​พิจารณา​ดู​พยาน​หลักฐาน​เท่า​ที่​จะ​หา​ได้ แล้ว​คิด​หา​เหตุ​ผล​ใน​เรื่อง​พยาน​หลักฐาน​นั้น ๆ เพื่อ​จะ​ให้​เป็น​ที่​แน่​ใจ​ว่า​เรา​มิ​ได้​ตก​เป็น​เหยื่อ​ต่อ​การ​หลอก​ลวง​แบบ​ที่​ฉลาด​ใด ๆ. เรา​ควร​เต็ม​ใจ​ที่​จะ​ดำเนิน​ความ​ย้อน​หลัง​ไป​ไกล​เท่า​ที่​จะ​เป็น​ไป​ได้​ใน​ข้อ​ที่​ว่า​ด้วย​ประวัติศาสตร์​ของ​มนุษย์​โดย​ออก​ความ​พยายาม​ที่​จะ​ให้​ได้​มา​ซึ่ง​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นั้น.

พระ​คัมภีร์​ไบเบิ้ล​จะ​ช่วย​เรา​ให้​สามารถ​กระทำ​เช่น​นั้น​ได้. พระ​คัมภีร์​พา​เรา​ย้อน​หลัง​ไป​จน​กระทั่ง​ถึง​สมัย​เมื่อ​มนุษย์​คู่​แรก​มี​ชีวิต​เป็น​อยู่. ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​บท​สาม พระ​คัมภีร์​บอก​เล่า​ถึง​การ​สนทนา​ซึ่ง​เมื่อ​ฟัง​ดู​แล้ว หลาย​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​อาจ​จะ​รู้สึก​ว่า​ไม่​น่า​เชื่อ. กระนั้น​ก็​ดี นั่น​หา​ใช่​เรื่อง​ที่​ประดิษฐ์​ขึ้น​ไม่. การ​สนทนา​กัน ณ ที่​นี้​จัด​ร่องรอย​ให้​ไว้​ใน​เรื่อง​ที่​ว่า​ผู้​หลอก​ลวง​ที่​ฉลาด​กำลัง​ปฏิบัติ​กิจ​อยู่​ใน​ธุระ​การ​งาน​ขอ​มนุษย์​หรือ​ไม่.

ตอน​เริ่ม​ต้น​แห่ง​การ​หลอก​ลวง

วัน​หนึ่ง​ขณะ​ที่​มิ​ได้​อยู่​ด้วย​กัน​กับ​สามี​ของ​เธอ ฮาวา​ผู้​หญิง​คน​แรก​นั้น​ได้​ยิน​เสียง​พูด. โดย​อาศัย​สิ่ง​ที่​แล​เห็น​ได้​นั้น​แล้ว เสียง​พูด​นั้น ๆ เป็น​เสียง​พูด​ของงู. พระ​คัมภีร์​รายงาน​เรื่อง​การ​สนทนา​นั้น​มี​ดัง​นี้:

“ปรากฏ​ว่า​งู​เป็น​สัตว์​ที่​ฉลาด​ที่​สุด​ใน​บรรดา​สัตว์​ป่า​ทั้ง​ปวง ที่​พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​สร้าง​ไว้​นั้น. ดัง​นั้น​จึง​เริ่ม​พูด​กับ​หญิง​นั้น​ว่า: ‘จริง ๆ หรือ​ที่​พระเจ้า​ตรัส​ห้าม​มิ​ให้​กิน​ผล​จาก​ต้น​ไม้​ทุก​ต้น​ใน​สวน?’ หญิง​นั้น​จึง​ตอบ​งู​ว่า: ‘ผล​แห่ง​ต้น​ไม้​ใน​สวน​เรา​กิน​ได้ เว้น​แต่​ผล​แห่ง​ต้น​ที่​อยู่​กลาง​สวน​นั้น พระเจ้า​ทรง​ตรัส​ว่า “เจ้า​อย่า​กิน เจ้า​อย่า​ถูก​ต้อง​เลย​เพื่อ​เจ้า​จะ​ไม่​ตาย.”’ งู​จึง​บอก​หญิง​นั้น​ว่า: ‘เจ้า​จะ​ไม่​ตาย​จริง​ดอก. เพราะ​พระเจ้า​ทรง​ทราบ​ว่า เจ้า​กิน​ผลไม้​นั้น​เข้า​ไป​วัน​ใด ตา​ของ​เจ้า​จะ​สว่าง​ขึ้น​ใน​วัน​นั้น แล้ว​เจ้า​ก็​จะ​เป็น​เหมือน​พระเจ้า จะ​รู้​จัก​ความ​ดี​และ​ความ​ชั่ว.’ เนื่อง​จาก​เหตุ​นั้น หญิง​นั้น​จึง​แล​เห็น​ว่า ต้น​ไม้​นั้น​เหมาะ​สำหรับ​เป็น​อาหาร​และ​ทั้ง​เป็น​สิ่ง​ที่​น่า​ดู จริง​ที​เดียว เป็น​ต้น​ไม้​ที่​พึง​ปรารถนา.”—เยเนซิศ 3:1-6.

ข่าว​ที่​มี​ส่ง​ผ่าน​มา​โดย​งู​นั้น​เป็น​คำ​พูด​มุสา. เป็น​คำ​พูด​มุสา​แรก​ใน​ประวัติศาสตร์. ฉะนั้น​แหล่ง​กำเนิด​ของ​คำ​พูด​มุสา​จึง​จำ​ต้อง​เป็น​ผู้​ริเริ่ม​หรือ​พ่อ​ของ​คำ​พูด​มุสา. ใน​เมื่อ​คำ​พูด​มุสา​ไป​สู่​ผล​อัน​ได้​แก่​ความ​ตาย ผู้​พูด​มุสา​นั้น​ก็​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน​ด้วย​ดุจ​กัน. ปรากฏ​ชัด​ว่า​ผู้​พูด​มุสา​นี้​มิ​ใช่​งู​ตาม​ตัว​อักษร อัน​ได้​แก่​สัตว์​ซึ่ง​ไม่​มี​ความ​สามารถ​ใน​การ​พูด. หาก​แต่​จะ​ต้อง​ได้​มี​ใคร​คน​หนึ่ง​ที่​อยู่​เบื้อง​หลัง​งู​นั้น ใคร​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​เหมือน​นัก​แปลง​เสียง​ที่​ทำ​ให้​ดู​เหมือน​ว่า​งู​กำลัง​พูด​อยู่. นั่น​ก็​ไม่​น่า​จะ​ทำ​ให้​ดู​ราว​กับ​เป็น​สิ่ง​แปลก​ประหลาด​แก่​พวก​เรา​ภาย​ใน​ศตวรรษ​ที่​ยี่​สิบ​นี้​ใน​เมื่อ​เรา​สามารถ​ที่​จะ​ทำ​ให้​แผ่น​สั่น​ใน​ลำโพง เครื่อง​วิทยุ​หรือ​โทรทัศน์​สะเทือน​อย่าง​ที่​จะ​ก่อ​ให้​เกิด​ดุจ​เสียง​พูด​ของ​คน​ขึ้น. แต่​ใคร​เป็น​ผู้​พูด​ที่​อยู่​เบื้อง​หลัง​งู?

ตัว​หลอก​ลวง​ที่​ไม่​ปรากฏ​แก่​ตา

พระ​เยซู​คริสต์​ผู้​ซึ่ง​เสด็จ​มา​จาก​สวรรค์​และ​ทรง​ทราบ​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​ดำเนิน​ไป​ใน​แดน​อัน​ไม่​เป็น​ที่​ประจักษ์​แก่​ตา​นั้น​ได้​ทรง​พิสูจน์​หลักฐาน​ตัว​ผู้​นั้น. (โยฮัน 3:13; 8:58) ขณะ​ที่​พวก​ผู้​นำ​ฝ่าย​ศาสนา​บาง​คน​พยายาม​แสวง​หา​ช่อง​ที่​จะ​ฆ่า​พระองค์​นั้น พระ​เยซู​ตรัส​แก่​พวก​เขา​ดัง​นี้: “ท่าน​ทั้ง​หลาย​มา​จาก​พญา​มาร​พ่อ​ของ​ท่าน และ​ท่าน​ประสงค์​จะ​กระทำ​ตาม​ความ​ปรารถนา​แห่ง​พ่อ​ของ​ท่าน ผู้​นั้น​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน​มา​แต่​แรก​เริ่ม​เดิม​ที และ​มัน​มิ​ได้​ตั้ง​อยู่​ใน​ความ​จริง เพราะ​ความ​จริง​มิ​ได้​อยู่​ใน​มัน เมื่อ​มัน​พูด​มุสา มัน​ก็​พูด​ตาม​ความ​ประสงค์​ของ​มัน​เอง เพราะ​ว่า​มัน​เป็น​ช่าง​พูด​มุสา และ​เป็น​พ่อ​ของ​การ​มุสา​นั้น.”—โยฮัน 8:44.

การ​เป็น​ผู้​พูด​มุสา​และ​ผู้​ฆ่า​คน​ย่อม​เป็น​ที่​ประจักษ์​ว่า​พญา​มาร​นั้น​คือ​ตัว​ที่​มี​เชาว์​ฉลาด​ไหว​พริบ. ทั้ง​นี้​จึง​ได้​ก่อ​ให้​เกิด​ปัญหา​ขึ้น​ว่า พญา​มาร​มี​ขึ้น​มา​โดย​วิธี​ใด?

พระ​คัมภีร์​เผย​ให้​ทราบ​ว่า​ชน​จำพวก​กาย​วิญญาณ​ทั้ง​หลาย ซึ่ง​ไม่​เป็น​ที่​ประจักษ์​แก่​ตา​ต่าง​ก็​ได้​รับ​ความ​พอ​ใจ​เพลิดเพลิน​จาก​ชีวิต แม้​กระทั่ง​ก่อน​ที่​มี​แผ่นดิน​โลก​เสีย​ด้วย​ซ้ำ. โยบ 38:7 พูด​ถึง​ชน​จำพวก​กาย​วิญญาณ​เหล่า​นี้​ว่า: “บุตร​ทั้ง​หลาย​ของ​พระเจ้า” ขณะ​ที่ “โห่​ร้อง​ด้วย​ความ​ยินดี” เมื่อ​แผ่นดิน​โลก​ถูก​สร้าง​ขึ้น. ใน​ฐานะ​ที่​เป็น “บุตร​ทั้ง​หลาย​ของ​พระเจ้า” พวก​เขา​จึง​ได้​รับ​ชีวิต​จาก​พระองค์.—บทเพลง​สรรเสริญ 90:2.

ดัง​นี้​ผู้​ที่​หลอก​ลวง​ฮาวา​โดย​ทาง​งู​นั้น​จึง​จำ​ต้อง​ได้​เป็น​ผู้​หนึ่ง​ใน​บรรดา​บุตร​จำพวก​กาย​วิญญาณ​เหล่า​นี้​คือ​ผู้​หนึ่ง​ใน​บรรดา​ผู้​มี​เชาว์​ฉลาด​ไหว​พริบ​ทั้ง​หลาย​ของ​พระเจ้า. ใน​การ​แย้ง​คำ​เตือน​ของ​พระเจ้า​เกี่ยว​ด้วย​ต้น​ไม้เกี่ยว​กับ​ความ​รู้​ใน​เรื่อง​ความ​ดี​และ​ชั่ว​นั้น ผู้​นี้​จึง​เท่า​กับ​หมิ่น​ประมาท​พระ​ผู้​สร้าง​ของ​ตน คือ​ทำ​ให้​ดู​เหมือน​ว่า​พระเจ้า​เป็น​ผู้​ตรัส​มุสา. เพราะ​ฉะนั้น​จึง​เป็น​การ​ถูก​ต้อง​สม​ควร​แล้ว​ที่​มัน​ถูก​เรียก​เป็น “พญา​มาร” คำ​นั้น​ใน​ภาษา​กรีก ได-อาโบ-ล็อส หมาย​ความ​ว่า “ผู้​กล่าวหา​ที่​ทุจริต ผู้​กล่าว​บิดเบือน​ใส่​ร้าย ผู้​กล่าว​ถ้อย​คำ​หมิ่น​ประมาท.” โดย​แนว​ทาง​แห่ง​การ​กระทำ​ของ​มัน​นั่น​เอง มัน​ได้​ตั้ง​ตัว​ขึ้น​ต่อ​ต้าน​พระเจ้า และ​ด้วย​วิธี​นั้น​แห​ล่ะ​มัน​ทำ​ให้​ตัว​เอง​ได้​ชื่อ​ว่า ซาตาน (ฮีบรู ซาตาน กรีก ซาตานัส) ซึ่ง​หาย​ความ​ว่า “ผู้​ต่อ​ต้าน.”

ใคร ๆ จะ​ตำหนิ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ไม่​ได้ ใน​สิ่ง​ที่​ผู้​นี้​ได้​กระทำ​ลง​ไป. พระ​คัมภีร์​ไบเบิ้ล​กล่าว​ถึง​พระเจ้า​ว่า “กิจการ​ของ​พระองค์​ดี​รอบคอบ​เพราะ​ทาง​ทั้ง​ปวง​ของ​พระองค์​ยุติธรรม พระองค์​เป็น​พระเจ้า​แห่ง​ความ​สัตย์​จริง เป็น​องค์​ที่​ชอบธรรม​และ​ซื่อ​ตรง​ใน​พระองค์​นั้น​ความ​อยุติธรรม​ไม่​มี​เลย.” (พระ​บัญญัติ 32:4) พระองค์​ได้​ทรง​สร้าง​บุตร​ทั้ง​หลาย​ของ​พระองค์​ให้​มี​เชาวน์​ฉลาด​ไหว​พริบ คือ​จำพวก​กาย​วิญญาณ​และ​มนุษย์​ด้วย พร้อม​ทั้ง​ให้​มี​ความ​สามารถ​ใน​การ​ใช้​อิสรภาพ​ทาง​ใจ. พระองค์​มิ​ได้​บังคับ​ให้​เขา​ปรนนิบัติ​รับใช้​พระองค์ แต่​ทรง​ปรารถนา​ให้​เขา​กระทำ​เช่น​นั้น ด้วย​ความ​สมัคร​ใจ​อัน​เนื่อง​ด้วย​ความ​รัก. พระองค์​ทรง​จัด​ให้​เขา​มี​ความ​สามารถ​ใน​การ​พัฒนา​ความ​รัก​ต่อ​พระองค์​ให้​มาก​ยิ่ง​ขึ้น​ใน​ฐานะ​เป็น​พระเจ้า และ​พระ​บิดา​ของ​เขา.

อย่าง​ไร​ก็​ดี เจ้า​ตัว​ผู้​มี​กาย​วิญญาณ​ผู้​ที่​ทำ​ตัว​เป็น​ผู้​ต่อ​ต้าน​และ​ผู้​หมิ่น​ประมาท​พระเจ้า​นั้น หา​ได้​สมัคร​เลือก​เอา​ที่​จะ​ปรับ​ปรุง​ความ​รัก​ของ​ตน​ต่อ​พระ​ผู้​สร้าง​ให้​ดี​พร้อม​ทุก​ประการ​ไม่. เขา​ยอม​ให้​ความ​มัก​ใหญ่​ใฝ่​สูง​อัน​เห็น​แก่​ตัวงอกงาม​ขึ้น​ใน​หัวใจ​ของ​เขา. (เทียบ​ดู 1 ติโมเธียว 3:6) ความ​มัก​ใหญ่​ใฝ่​สูง​นี้​สะท้อน​ให้​เห็น​ได้​ด้วย​วิธี​การ​ปฏิบัติ​ตัว​ของ “กษัตริย์​เมือง​ตุโร” ซึ่ง​ได้​มี​การ​กล่าว​ถึง​ใน​บทเพลง​พรรณนา​ความ​โศก​เศร้า​ไว้​อาลัย​ใน​คำ​พยากรณ์​ของ​ยะเอศเคล​นั้น. เนื้อ​เพลง​โศก​นั้น​ได้​มี​กล่าว​ถึง​กษัตริย์​เมือง​ตุโร ผู้​ซึ่ง​กลับ​กลาย​เป็น​ผู้​ทรยศ​ต่อ​อาณาจักร​ยิศราเอล​ดัง​นี้:

“ท่าน​เป็น​แบบ​อย่าง​ที่​มี​ตรา​ผนึก​แล้ว บริบูรณ์​ด้วย​สติ​ปัญญา​ด้วย​ความ​งดงาม​อัน​เลอเลิศ. ท่าน​ได้​อยู่​ใน​เอเดน​ซึ่ง​เป็น​สวน​ของ​พระเจ้า. . . . ท่าน​เป็น​คะรูบ​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​ดู​แล​แผ่​คลุม และ​เรา​ได้​ตั้ง​ท่าน​ไว้. ท่าน​ได้​อยู่​บน​ภูเขา​อัน​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า. และ​ท่าน​ได้​เดิน​ไป​มา​ใน​ท่ามกลาง​เพชร​พลอย​อัน​มี​ประกาย​เหมือน​ไฟ. ท่าน​ปราศจาก​ข้อ​ตำหนิ​ใน​วิถี​ทาง​ทั้ง​หลาย​ของ​ท่าน​ตั้ง​แต่​วัน​ซึ่ง​ท่าน​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใน​ตัว​ท่าน. . . . ใจ​ของ​ท่าน​หยิ่ง​ยโส​เนื่อง​จาก​ความ​งดงาม​ของ​ท่าน. ท่าน​ทำ​ให้​สติ​ปัญญา​ของ​ท่าน​ถึง​ซึ่ง​ความ​หายนะ เพราะ​เหตุ​ความ​งดงาม​อัน​เปล่ง​ปลั่ง​สดใส​ของ​ท่าน.”—ยะเอศเคล 28:12-17.

บุตร​ฝ่าย​กาย​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​ผู้​ที่​ก่อ​การ​เป็น​กบฏ​นั้น นึก​ถึง​ตำแหน่ง​อัน​เลิศ​ลอย​ของ​ตัว​เอง​มาก​เกิน​ไป​ใน​ทำนอง​เดียว​กัน​กับ “กษัตริย์​เมือง​ตุโร” ผู้​ทรยศ​นั้น. ความ​หยิ่ง​ทะนง​ตน​เป็น​สาเหตุ​ทำ​ให้​เขา​ปรารถนา​ที่​จะ​มี​อำนาจ​ควบคุม​มนุษย์​ชาติ และ​เขา​จึง​พยายาม​ที่​จะ​ให้​วัตถุ​ประสงค์​ของ​ตน​บรรลุ​ผล​ด้วย​การ​หลอก​ลวง. จน​กระทั่ง​บัด​นี้​มนุษย์​ชาติ​ส่วน​ใหญ่​ก็​ยัง​คง​เป็น​เหยื่อ​ของ​การ​หลอก​ลวง​นั้น​อยู่. โดย​การ​ไม่​ยอม​ที่​จะ​ปฏิบัติ​ให้​เป็น​ไป​ตาม​น้ำ​พระทัย​ของ​พระเจ้า​ดัง​ที่​มี​ชี้​แจง​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์​พระ​วจนะ​ของ​พระองค์​เช่น​นั้น แท้​จริง​แล้ว เขา​ก็​จัด​เอา​ตัว​เอง​เข้า​มา​เป็น​พวก​เดียว​กัน​กับ​ซาตาน​นั้น​เอง. ในการ​กระทำ​เช่น​นั้น ก็​เท่า​กับ​เขา​ยอม​รับ​เอา​คำ​มุสา​อย่าง​เดียว​กัน​กับ​ที่​ฮาวา​ยอม​รับ​เอา​นั้น กล่าว​คือ ใน​ข้อ​ที่ว่าการ​สมัคร​ใจ​เลือก​ปฏิบัติ​ตรง​กัน​ข้าม​กับ​น้ำ​พระทัย​ของ​พระเจ้า​นั้น​จะ​นำ​มา​ซึ่ง​ผล​ประโยชน์​ที่​แท้​จริง​ได้.

ใน​เมื่อ​พระ​วจนะ​ของ​พระเจ้า​ตำหนิ​คัดค้าน​การ​ติด​ต่อ​กับ​ผู้​ตาย พวก​เหล่า​นั้น​ผู้​ซึ่ง​พยายาม​พูด​กับ​ผู้​ที่​ตาย​ไป​แล้ว จึง​เท่า​กับ​เอา​ตัว​เข้า​อยู่​ฝ่าย​ซาตาน. ขณะ​ที่​เขา​อาจ​คิด​ว่า​ตน​พูด​กับ​ผู้​ตาย​นั้น เขา​ก็​ตก​เป็น​เหยื่อ​ของ​อุบาย​หลอก​ลวง​เสีย​แล้ว. ซาตาน​ทำ​ให้​กรณี​เช่น​นั้น​ปรากฏ​แก่​ฮาวา​ว่า งู​กำลัง​พูด​อยู่​ฉัน​ใด มัน​ได้​ทำ​ให้​เห็น​อย่าง​ง่าย​ดาย​ว่า​ผู้​ตาย​ก็​กำลัง​พูด​อยู่ โดย​คน​ทรง​ผี​ฉัน​นั้น. ทั้ง​นี้​จะ​หมาย​ความ​ว่า​ซาตาน​ต้อง​รับผิดชอบ​โดย​ตรง​ใน​เรื่อง​ปรากฏการณ์​แปลก​ประหลาด​ทั้ง​หมด​ที่​มัก​มี​การ​อ้าง​ว่า​เป็น​การ​กระทำ​แห่ง​วิญญาณ​ของ​ผู้​ตาย​กระนั้น​ไหม? หรือ​ว่า​มี​ผู้​อื่น​อีก​ที่​มี​ส่วน​พัวพัน​อยู่​ด้วย?

ผู้​หลอก​ลวง​อื่น ๆ อีก​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ที่​ประจักษ์​แก่​ตา

พระ​คัมภีร์​เผย​ให้​ทราบ​ว่า​ซาตาน​หา​ใช่​เจ้า​ตัว​ผู้​มี​กาย​วิญญาณ​ผู้​เดียว​เท่า​นั้น​ไม่​ที่​ก่อ​การ​กบฏ. วิวรณ์ 12:3, 4, 9 แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ยัง​มี​ผู้​อื่น​อีก. ใน​พระ​คัมภีร์​ตอน​นี้​พรรณนา​ให้​เห็น​ภาพ​ตาม​ความ​หมาย​เป็น​นัย​ว่า พญา​มาร​ซาตาน​เป็น​เสมือน​หนึ่ง “พญา​นาค​ใหญ่​สี​แดง” ตัว​หนึ่ง​มี “หาง” ซึ่ง​หาง​นั้น “ตวัด​เอา​หนึ่ง​ส่วน​ใน​สาม​ส่วน​ของ​ดวง​ดาว​ใน​สวรรค์”ไว้. จริง​ที​เดียว ซาตาน​สามารถ​ใช้​อิทธิพล​ของ​มัน​ได้​ราว​กับ​หาง เพื่อ​ที่​จะ​ได้ “ดวง​ดาว” อื่น ๆ ทั้ง​หลาย​คือ​เหล่า​บุตร​ฝ่าย​กาย​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​ให้​มา​ร่วม​สมทบ​ใน​แนว​ทาง​เดิน​แห่ง​การ​เป็น​กบฏ​ของ​มัน​นั้น. (เทียบ​กับ​โยบ 38:7 ใน​ประการ​ที่​เหล่า​บุตร​ฝ่าย​กาย​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​ถูก​เรียก​เป็น “หมู่​ดาว​ประจำ​รุ่ง.”) เหตุการณ์​นี้​บังเกิด​ขึ้น​ก่อน​มหา​อุทกภัย​ใน​สมัย​ของ​โนฮา. ตรง​กัน​ข้าม​กับ​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า บรรดา​ทูตสวรรค์​เป็น​จำนวน​มาก​มาย “ได้​ทิ้ง​ถิ่น​ฐาน​อัน​เหมาะ​ของ​ตน​เอง “ใน​สวรรค์ แล้ว​แปลง​ตัว​มา​เป็น​มนุษย์ ดำเนิน​ชีวิต​ด้วย​การ​เป็น​สามี​สมสู่​อยู่​กับ​พวก​ผู้​หญิง​ทั้ง​หลาย และ​ให้​กำเนิด​แก่​พวก​ลูก​หลาน​จำพวก​พันธุ์​ผสม​ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ว่า​เนฟิลิม. เรา​ได้​รับ​การ​บอก​เล่า​เกี่ยว​ด้วย​เรื่อง​นี้​ว่า:

“อยู่​มา​เมื่อ​มนุษย์​เริ่ม​ทวี​มาก​ขึ้น​บน​พื้น​แผ่นดิน​และ​มี​บุตร​สาว​บังเกิด​ขึ้น ครั้น​บุตร​ชาย​ของ​พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้​เริ่ม​สังเกต​เห็น​ว่า​บุตร​สาว​ของ​มนุษย์​สวย และ​จึง​ได้​รับ​เขา​ไว้​เป็น​ภรรยา กล่าว​คือ ล้วน​แต่​ตาม​ชอบ​ใจ​ของ​ตน. . . . ใน​สมัย​นั้น​จึง​ได้​ปรากฏ​มี​ชน​จำพวก​เนฟิลิม​ขึ้น​ที่​แผ่นดิน​โลก และ​ภาย​หลัง​จาก​นั้น​เมื่อ​บุตร​ทั้ง​หลาย​ของ​พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้​มี​การ​สมสู่​กับ​บุตร​สาว​ของ​มนุษย์​ต่อ​ไป และ​จึง​ได้​ให้​กำเนิด​แก่​บุตร​ชาย​ทั้ง​หลาย เขา​เหล่า​นั้น​แหละ​เป็น​คน​มี​กำลัง​แข็งแรง​ใน​โบราณ​กาล​เป็น​คน​มี​ชื่อเสียง​เลื่อง​ลือ.”—เยเนซิศ 6:1-4.

ระหว่าง​มหา​อุทกภัย​นั้น​บุตร​เหล่า​นี้​ของ​พระเจ้า​ต้อง​สูญ​เสีย​ซึ่ง​ภรรยา​และ​ลูก ๆ ผสม​ทั้ง​หลาย​ของ​ตน. พวก​เขา​จึง​จำ​ต้อง​เปลื้อง​ร่าง​มนุษย์​ออก​เสีย. เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​แก่​พวก​เขา​ภาย​หลัง​จาก​นั้น พระ​คัมภีร์​รายงาน​ดัง​นี้: “พระเจ้า​มิ​ได้​รั้ง​รอ​ไว้​จาก​การ​ลง​โทษ​พวก​ทูตสวรรค์​ที่​ได้​กระทำ​บาป​นั้น แต่​ได้​ผลัก​เขา​เข้า​ไป​สู่​ทาร์ทารัส ขัง​เขา​ไว้​ใน​ขุม​แห่ง​ความ​มือ​ทึบ​คุม​ไว้​สำหรับ​การ​พิพากษา.” (2 เปโตร 2:4) และ​ใน​พระ​ธรรม​ยูดา 6 กล่าว​ต่อ​ไป​อีก​ดัง​นี้: “พวก​ทูตสวรรค์​ที่​มิ​ได้​รักษา​สภาพ​เดิม​ของ​ตน แต่​ได้​ทิ้ง​สถาน​ที่​อยู่​อาศัย​อัน​เหมาะ​ของ​ตน​เอง​เสีย​นั้น พระองค์​ได้​ทรง​กัน​ด้วย​เครื่อง​พันธนาการอัน​ไม่​รู้​จัก​สลาย​ภาย​ใต้​ความ​มืด​ทึบ​สำหรับ​การ​ทรง​พิพากษา​แห่ง​วัน​ใหญ่​นั้น.”

ตาม​ที่​ถ้อย​คำ​พรรณนา​เหล่า​นี้​กล่าว​ถึง​พวก​กาย​วิญญาณ​ทั้ง​หลาย​นั้น​ปรากฏ​ว่า “ขุม​แห่ง​ความ​มืด​ทึบ” และ “เครื่อง​พันธนาการ​อัน​ไม่​รู้​จัก​สลาย” นั้น​หา​ใช่​เป็น​ไป​ตาม​ตัว​อักษร​ไม่. ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​แสดง​ให้​เรา​เห็น​เพียง​แต่​ภาพ​ของ​การ​กัก​ตัว และ​ภาวะ​แห่ง​การ​ลด​ฐานะ​โดย​ที่​ต้อง​ถูก​แยก​ออก​ไว้​ต่าง​หาก​จาก​บรรดา​คำ​สั่ง​แนะ​นำ​ทั้ง​หมด​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เท่า​นั้น​เอง.

ไม่​มี​หลักฐาน​ตรง​กับ​พระ​คัมภีร์​เลย​ใน​การ​ที่​ลง​ความ​เห็น​ว่า พวก​ทูตสวรรค์​ซึ่ง​ไม่​เชื่อ​ฟัง​เหล่า​นี้​อยู่​ใน​สถาน​ที่​คล้าย​กับ​ทาร์ทารัส ใน​เทพนิยาย​อิเลียด ​ของ​โฮเม่อร์ กล่าว​คือ​อยู่​ใน​ที่​คุม​ขัง​อัน​ต่ำ​ที่​สุด​ซึ่ง​เป็น​แหล่ง​ที่​มี​กล่าว​กัน​ว่า ค​รอ​นัส​และ​วิญญาณ​แห่ง​พวก​นิทาน​อื่น ๆ ถูก​คุม​ขัง​ไว้​นั้น. อัครสาวก​เปโตร​หา​ได้​เชื่อถือ​เกี่ยว​กับ​บรรดา​พระ​ต่าง ๆ ใน​เทพนิยาย​ใด ๆ เช่น​นั้น​ไม่. ดัง​นั้น จึง​ไม่​มี​เหตุ​ผล​เสีย​เลย​ที่​จะ​ลง​ความ​เห็น​ว่า​การ​ที่​ท่าน​ใช้​สำนวน​ภาษา​กรีก​ที่​ว่า ‘ผลัก​เข้า​ไป​สู่​ทาร์ทารัส’ นั้น​เท่า​กับ​เป็น​การ​พูด​แน่ะ​ว่า​สถาน​ที่​ใน​เทพนิยาย​ที่​โฮ​เม่อร์​อ้างอิง​ถึง​เมื่อ​ราว ๆ เก้า​ร้อย​ปี​ก่อน​นั้น​มี​จริง. อัน​ที่​จริง ถ้อย​คำ​ภาษา​กรีก​ที่​ว่า ‘ผลัก​เข้า​ไป​สู่​ทาร์ทารัส’ นั้น​เป็น​เพียง​แต่​คำ​เดียว คือ​คำ​กริยา​ทาร์ทารอโอ. คำ​นั้น​ยัง​ใช้​หมาย​ถึง​การ​ลด​ฐานะ​ลง​สู่​ระดับ​ต่ำ​สุด​ด้วย.

เพื่อ​แสดง​เป็น​ตัว​อย่าง คำ​ภาษา​ไทย “ลด​ฐานะ​ลง” มา​จาก​คำ​นาม “ฐาน.” กระนั้น​ก็​ดี การ​ที่​เรา​เอา​คำ​นั้น​มา​ใช้​พัวพัน​กับ​การ​ทำ​ให้​ต่ำ​ลง​เช่น​นั้น​หา​ได้​หมาย​ถึง​ฐาน​อัน​เป็น​ที่​ตั้ง​ตาม​ตัว​อักษร​เกี่ยว​กับ​ภูมิศาสตร์​ไม่. เช่น​เดียว​กับ​คำ​กริยา​ภาษา​กรีก​ที่​เอา​มา​แปล​ว่า ‘ผลัก​เข้า​สู่​ทาร์ทารัส’ นั้น​จึง​ไม่​จำเป็น​ต้อง​มอง​ดู​ใน​ฐานะ​ที่​ชวน​ให้​นึก​ถึง​แหล่ง​ซึ่ง​มี​อยู่​จริง ๆ หาก​แต่​เป็น​เชิง​แนะ​นำ​ถึง​สภาพ​เท่า​นั้น​เอง.

ใน 1 เปโตร 3:19, 20 มี​การ​กล่าว​อ้างอิง​ถึง​บรรดา​กาย​วิญญาณ​ที่​ถูก​ทำ​ให้​ลด​ฐานะ​ลง​นั้น​ว่า​เป็น “บรรดา​วิญญาณ​ที่​ติด​คุก​อยู่ ผู้​ซึ่ง​ครั้ง​หนึ่ง​มิ​ได้​เชื่อ​ฟัง คราว​เมื่อ​พระเจ้า​ทรง​อด​กลั้น​พระทัย​รอ​เอา​ไว้​ใน​สมัย​ของ​โนฮา​ระหว่าง​ที่​มี​การ​ก่อ​สร้าง​นาวา.” ดัง​นั้น​พระ​คัมภีร์​จึง​ทำ​ให้​เป็น​ที่​กระจ่าง​แจ้ง​ว่า​ภาย​หลัง​มหา​อุทกภัย​นั้น “บรรดา​ทูตสวรรค์​ที่​ได้​กระทำ​บาป”ก็​ตก​เข้า​อยู่​ภาย​ใต้​การ​กัก​ตัว. พระ​คัมภีร์​มิ​ได้​แสดง​ให้​ทราบ​เลย​ว่า พวก​ทูตสวรรค์​เหล่า​นั้น​สามารถ​แปลง​กาย​และ​เริ่ม​กิจกรรม​อย่าง​ที่​เห็น​ประจักษ์​แก่​ตา​บน​แผ่นดิน​โลก​นี้​ได้​อีก​ภาย​หลัง​มหา​อุทกภัย. ดัง​นั้น​จึง​ทำ​ให้​เป็น​ที่​เข้าใจ​ได้​ตาม​เหตุ​ผล​ว่า การ​ที่​พวก​เขา​ตก​เข้า​สู่​ภาย​ใต้​การ​กัก​ตัว​เช่น​นั้น​ย่อม​ทำ​ให้​ไม่​มี​ทาง​เป็น​ไป​ได้​ที่​เขา​จะ​รับ​เอา​ลักษณะ​เนื้อ​หนัง​อย่าง​มนุษย์​ได้​อีก.

จง​ระวัง​อิทธิพล​ของ​ภูตผี​ปีศาจ

อย่าง​ไร​ก็​ดี ควร​เอา​ใจ​ใส่​จด​จำ​ไว้​ว่า​พวก​ทูต​สวรรค์​ที่​ไม่​เชื่อ​ฟัง ทั้ง​หลาย​ผู้​ซึ่ง​บัด​นี้​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ว่า​ภูตผี​ปีศาจ​นั้น เคย​มี​ความ​ปรารถนา​อย่าง​แรง​กล้า​ที่​จะ​มี​ความ​สัมพันธ์​อัน​ใกล้​ชิด​กับ​มนุษย์. พวก​เหล่า​นั้น​เคย​สมัคร​ใจ​ยินดี​ที่​จะ​ละ​ทิ้ง​เทวสภาพ​ของ​ตน​เสีย​เพื่อ​ความ​สนุก​เพลิดเพลิน​ใน​การ​สมสู่​อยู่​กิน​กับ​พวก​ผู้​หญิง​ใน​ฐานะ​เป็น​สามี. ถึง​แม้​ว่า​ถูก​กัก​ตัว​ไว้​จาก​การ​ติด​ต่อ​เกี่ยว​พัน​กัน​ทาง​กาย​อยู่​เวลา​นี้​ก็​ตาม พยาน​หลักฐาน​อัน​มี​หลัก​มา​จาก​พระ​คัมภีร์​เผย​ให้​ทราบ​ว่า​พวก​เหล่า​นั้น​ก็​หา​ได้​เปลี่ยน​แปลง​ความ​ปรารถนา​ของ​ตน​เสีย​ไม่. มัน​พยายาม​ทุก ๆ วิถี​ทาง​ที่​เปิด​โอกาส​ให้​มัน​ได้​ทำ​การ​ติด​ต่อ​กับ​มนุษย์​และ​แม้​กระทั่ง​ควบคุม​บังคับ​บัญชา​มนุษย์​เสีย​ด้วย​ซ้ำ. พระ​เยซู​คริสต์​ได้​ตรัส​พาด​พิง​ถึง​ข้อ​นี้​โดย​กล่าว​เป็น​เชิง​ใช้​ภาพพจน์​ดัง​ต่อ​ไป​นี้:

“ครั้น​ผี​โสโครก​ออก​มา​จาก​คน​ใด มัน​ก็​เที่ยว​ไป​ทั่ว​บรรดา​ที่​กันดารแสวง​หา​ที่​หยุด​พัก​และ​หา​ไม่​พบ. แล้ว​มัน​ก็​จะ​ว่า ‘ข้า​จะ​กลับ​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ข้า​ที่​ได้​ออก​มา​นั้น’ และ​เมื่อ​มา​ถึง​ก็​เห็น​เรือน​นั้น​ว่าง​กวาด​และ​ตกแต่ง​ไว้​แล้ว. ดัง​นั้น​มัน​จึง​ไป​รับ​เอา​ผี​อื่น​อีก​เจ็ด​ผี​ซึ่ง​ร้าย​ยิ่ง​กว่า​ตัว​มัน​เอง แล้ว​เข้า​ไป​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น และ​สภาพ​เบื้อง​ปลาย​ของ​คน​นั้น​ก็​เลว​ร้าย​ยิ่ง​เสีย​กว่า​เบื้อง​ต้น.”—มัดธาย 12:43-45.

เพราะ​ฉะนั้น​จึง​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​ที่​สุด​ที่​คน​เรา​จะ​พึง​ระวัง​ระไว ด้วย​เกรง​ว่า​ตน​อาจ​จะ​ยอม​จำนน​ต่อ​อิทธิพล​ของ​ผี​ปีศาจ​ก็​ได้. เขา​อาจ​จะ​ไม่​แน่​ใจ​ใน​เรื่อง​ตัว​เอง​และ​อนาคต​ของ​ตน​จริง ๆ ก็​ได้. เขา​อาจ​ปรารถนา​เหลือ​เกิน​ที่​จะ​ได้​รับ​คำ​รับรอง​บาง​อย่าง​ว่า​สิ่ง​ต่าง ๆ จะ​ดำเนิน​ไป​เป็น​อย่าง​ดี​สำหรับ​ตน​ก็​ได้. หรือ​มิ​ฉะนั้น​เขา​อาจ​รู้สึก​หลง​ไหล​ตรึง​ใจ​ใน​ปรากฏการณ์​อัน​น่า​ขน​ลุก​และ​น่า​ตกใจ​บาง​อย่าง​เกี่ยว​กับ​วิธี​ปฏิบัติ​ต่าง ๆ ทาง​เวท​มนต์​คาถา​ก็​ได้. เขา​อาจ​ได้​ยิน​ได้​ฟัง​ข่าว​ลือ​เกี่ยว​กับ​ใคร​สัก​คน​หนึ่ง​ผู้​ซึ่ง​สามารถ​ทำนาย เรื่อง​อนาคต​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง​แม่นยำ​ก็​ได้ หรือ​ไม่​ก็​เขา​อาจ​เรียน​รู้​เกี่ยว​ด้วย​วิธี​การ​ทำนาย​แบบ​ต่าง ๆ ที​มี​การ​ใช้​กัน—แผ่น​กระดาน​ผี อี​เอส​พี (การ​สำเหนียก​ได้​นอก​เหนือ​สัมผัส​ทั้ง​ห้า) ลวด​ลาย​ที่​ใบ​ชา​ลอย​อยู่​ใน​ถ้วย รูป​สัณฐาน​ของ​น้ำมัน​ที่​อยู่​บน​น้ำ แขนง​ไม้​วิเศษ​หรือ​มหัศจรรย์​นอก​เหนือ​ธรรมชาติ​สำหรับ​หา​น้ำ​หรือ​แร่​ใต้​ดิน ลูก​ตุ้ม​นาฬิกา ตำแหน่ง​และ​การ​เคลื่อน​ไหว​ของ​ดวง​ดาว​และ​ดาว​เคราะห์​ต่าง ๆ (โหราศาสตร์) เสียง​หอน​ของ​สุนัข การ​บิน​ของ​นก อาการ​เคลื่อน​ไหว​ของ​งู การ​ทำนาย​โชค​ชะตา โดย​มอง​ดู​ลูก​แก้ว​และ​อื่น ๆ อีก​ใน​ทำนอง​นั้น. สภาพการณ์​ของ​เขา​อาจ​จะ​ดู​เหมือน​ว่า​หมด​หวัง​สิ้น​ประตู​หรือ​มิ​ฉะนั้น​ก็​ความ​ตรึง​ใจ​หลง​ไหล​ของ​เขา​นั้น​ใหญ่​โต​จริง ๆ ถึง​กับ​อาจ​ทำ​ให้​เขา​ตก​ลง​ปลง​ใจ​ไป​ปรึกษา​ขอ​ความ​เห็น​จาก​หมอดู หรือ​คน​ทรง​ผีหรือ​หัน​ไป​พึ่ง​วิธี​การ​เสี่ยง​ทาย​ชนิด​ใด​ชนิด​หนึ่ง​ก็​ได้. เขา​อาจ​ยินดี​เต็ม​ใจ​ที่​จะ​ทดลอง​ดู​อะไร ๆ ก็​ได้​เพียง​ครั้ง​เดียว​เท่า​นั้น​เอง.

นั่น​จะ​เป็น​การ​ฉลาด​ไหม? ไม่​เลย​ที​เดียว. ความ​อยาก​รู้​อยาก​เห็น​ของ​เขา​สามารถ​นำ​เขา​ให้​ตก​เข้า​อยู่​ภาย​ใต้​อำนาจ​ควบคุม​ของ​ภูตผี​ปีศาจ​ได้. แทน​ที่​วิถี​ทาง​เช่น​นั้น​จะ​นำ​เอา​ความ​โล่ง​ใจ​และ​ความ​สุข​สบาย​ใจ​มา​สู่​ตัว​เขา​ฐานะ​ของ​เขา​คง​จะ​มี​แต่​เลว​ร้าย​ลง​เท่า​นั้น​เอง. ความ​กระทบ​กระทั่ง​ต่าง ๆ ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ผิด​ปกติ​อาจ​รบกวน​การ​หลับ​นอน​ของ​เขา​ก็​ได้ และ​แม้​แต่​ใน​เวลา​กลางวัน​ก็​ทำ​ให้​รู้สึก​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​หวั่น​กลัว​เสีย​ด้วย​ซ้ำ. เขา​อาจ​เริ่ม​ได้​ยิน​เสียง​พูด​แปลก ๆ อัน​เป็น​เชิง​แนะ​นำ​ถึง​กับ​ให้​ฆ่า​ตัว​เอง​หรือ​ฆ่า​ใคร​คน​ใด​คน​หนึ่ง​ก็​ได้.

เพราะ​ฉะนั้น​จึง​ไม่​เป็น​การ​ฉลาด​หรอก​หรือ​ที่​จะ​พึง​หลีก​เลี่ยง​เสีย​ซึ่ง​วิธี​การ​เสี่ยง​ภัย​เช่น​นั้น​และ​หลบ​หลีก​วิธี​การ​เกี่ยว​กับ​การ​ทำนาย​เหตุ​การณ์​อนาคต​แบบ​ที่​น่า​อัศจรรย์​ทุก​อย่าง​นั้น? พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​หา​ได้​มอง​ดู​เรื่อง​เช่น​นี้​ใน​ทำนอง​เล่น ๆ ซึ่ง​ไม่​สลัก​สำคัญ​เช่น​นั้น​ไม่​เลย. เพื่อ​ป้องกัน​ชน​ยิศราเอล​ไว้​จาก​การ​ถูก​ล่อ​ลวง​และ​จาก​อันตราย​โดย​พวก​วิญญาณ​ชั่ว​ทั้ง​หลาย​นั้น พระองค์​จึง​ทรง​จัด​เอา​กิจ​ปฏิบัติ​เกี่ยว​กับ​การ​เสี่ยง​ทาย​นั้น​ว่า เป็น​ความ​ผิด​ฐาน​มี​โทษ​ถึง​ตาย โดย​ทรง​ระบุ​ไว้​ใน​พระ​บัญญัติ​ดัง​นี้: “ใน​ส่วน​ผู้​ชาย​ก็​ดี​หรือ​ผู้​หญิง​ก็​ดี​ที่​ปรากฏ​ความ​จริง​ว่า​เป็น​คน​ทรง​ผี​หรือ​เป็น​พ่อมด​แม่มด เขา​ควร​จะ​ต้อง​ถูก​ประหาร​ชีวิต​เสีย​ให้​จง​ได้.”—เลวีติโก 20:27.

ทัศนะ​ของ​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​คน​ทรง​ผี พ่อมด​แม่มด และ​การ​เสี่ยง​ทาย​นั้น​หา​ได้​เปลี่ยน​แปลง​ไป​ไม่. พระ​ราชกฤษฎีกา​ของ​พระเจ้า​ยัง​คง​ยืนหยัด​ต่อ​ต้าน​บรรดา​ผู้​กระทำ​กิจ​เกี่ยว​กับ​ลัทธิ​การ​ติด​ต่อ​กับ​ภูตผี​ปีศาจ​นั้น​อยู่.—วิวรณ์ 21:8.

ด้วย​เหตุ​นั้น​ท่าน​จง​พยายาม​ต่อ​ต้าน​การ​ถูก​หลอก​ลวง​โดย​พวก​กาย​วิญญาณ​ชั่ว​ทั้ง​หลาย​ที​เดียว. หาก​ท่าน​ได้​ยิน​เสียง​พูด​แปลก ๆ บาง​ที​อาจ​ชวน​ให้​ท่าน​นึก​ไป​ก็​ได้​ว่า​นั่น​เป็น​เสียง​พูด​ของ​เพื่อน​หรือ​ญาติ​ที่​ตาย​ไป อย่า​คอย​เอา​ใจ​ใส่​ฟัง​เสีย​เลย. จง​ร้อง​ออก​พระ​นาม​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้ ขอ​พระองค์​ทรง​ช่วยเหลือ​ท่าน​มิ​ให้​ตก​เข้า​อยู่​ภาย​ใต้​อิทธิพล​ของ​ภูตผี​ปีศาจ. จง​ทูล​อธิษฐาน​ขอ​ตาม​ที่​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า​เอง​ทรง​แนะ​นำ​ไว้​ดัง​นี้: ‘ขอ​ทรง​ช่วย​ข้าพเจ้า​ให้​พ้น​จาก​ตัว​ชั่ว​ร้าย​นั้น.’ (มัดธาย 6:13) ใน​เรื่อง​สิ่ง​ของ​เครื่อง​ใช้​ต่าง ๆ ซึ่ง​เกี่ยว​เนื่อง​กับ​การ​ติด​ต่อ​กับ​พวก​วิญญาณ​ชั่ว​นั้น จง​เลียน​แบบ​คน​เหล่า​นั้น​ผู้​ซึ่ง​รับรอง​เอา​การ​นมัสการ​แท้​ที่​จังหวัด​เอเฟโซ​โบราณ. “มี​หลาย​คน​ใน​บรรดา​คน​เหล่า​นั้น​ผู้​ที่​ใช้​เวท​มนต์​คาถา [ที่​นั่น] ได้​เอา​ตำรา​ของ​ตน​มา​เผา​เสีย​ต่อ​หน้า​ทุก​คน.” สิ่ง​เหล่า​นี้​แม้​จะ​มี​มูลค่า​แพง​ก็​ตาม เขา​ก็​หา​ได้​รั้ง​รอ​ไว้​จาก​การ​ทำลาย​เสีย​ไม่.—กิจการ 19:19.

เมื่อ​พิจารณา​ถึง​ตัว​อย่าง​นี้​แล้ว ท่าน​คิด​หรือ​ว่า​การ​ที่​เจตนา​คบหา​สมาคม​กับ​พวก​เหล่า​นั้น​ผู้​ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​กัน​ว่า​ทำ​เป็น​เล่น ๆ กับ​การ​ใช้​เวท​มนต์​คาถา และ​การ​ยอม​รับ​เอา​ของ​ขวัญ​จาก​เขา​เช่น​นั้น​จะ​เป็น​การ​ถูก​ต้อง? การ​กระทำ​เช่น​นั้น​อาจ​กลาย​เป็น​สื่อ​พา​เอา​ตัว​ท่าน​เข้า​อยู่​ภาย​ใต้​อิทธิพล​ของ​ภูตผี​ปีศาจ​มิ​ใช่​หรอก​หรือ?

การ​ที่​เรา​สำนึก​ว่า​พวก​กาย​วิญญาณ​ชั่ว​ทั้ง​หลาย​มัก​เป็น​ต้น​เหตุ ทำ​ให้​คน​เรา​แล​เห็น​หรือ​ได้​ยิน​เสียง​ประหลาด​อัน​ทำ​ให้​เกิด​อาการ​ขน​ลุก และ​ปรากฏการณ์​ต่าง ๆ อัน​น่า​ตกใจ​กลัว​เช่น—เสียง​พูด เสียง​เคาะ และ​ร่าง​ที่​มา​ปรากฏ​ให้​เห็น​เป็น​เงา​ราง ๆ ซึ่ง​ก็​ไม่​มี​อะไร​เลย​เป็น​สาเหตุ ที่​ประจักษ์​แจ้งเหล่า​นี้​นั้น​นับ​ว่า​เป็น​ปัจจัย​สำคัญ​ใน​การ​ป้องกัน​เรา​ไว้​จาก​การ​ถูก​หลอก​ลวง. ความ​รู้​เช่น​นี้​จะ​ทำ​ให้​เรา​เป็น​อิสระ​พ้น​จาก​การ​กลัว​ผู้​ที่​ตาย​ไป​แล้ว และ​พ้น​จาก​การ​เข้า​ส่วน​ใน​เรื่อง​พิธีรีตอง​ต่าง ๆ อัน​ไม่​มี​ประโยชน์​สำหรับ​ผู้​ตาย. ความ​รู้​นั้น​ยัง​จะ​ช่วย​ป้องกัน​เรา​ไว้​จาก​การ​ตก​ไป​เป็น​เหยื่อ​ของ​พวก​กาย​วิญญาณ​ชั่ว​ทั้ง​หลาย​อีก​ด้วย.

แต่​ถ้า​เรา​ต้องการ​จะ​ได้​รับ​การ​อารักขา​ไว้​จาก​การ​หลอก​ลวง​ทุก​แง่ ทุก​ด้าน​ที่​ซาตาน​และ​ผี​ปีศาจ​พรรค​พวก​ของ​มัน​ได้​กระทำ​เอา​ไว้​เกี่ยว​เนื่อง​กับ​ผู้​ที่​ตาย​ไป​นั้น เรา​ก็​จำ​ต้อง​เชื่อถือ​และ​ปฏิบัติ​ให้​สอดคล้อง​ลง​รอย​กับ​พระ​คัมภีร์​ไบเบิ้ล​ตลอด​ทั้ง​หมด​ที​เดียว. ทั้ง​นี้​เนื่อง​จาก​พระ​คัมภีร์​ทุก​ตอน คือ​พระ​วจนะ​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ดล​บันดาล​ของ​พระเจ้า.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์