การไว้วางใจในพระยะโฮวานำมาซึ่งความสุข
เล่าโดย แจ็ค แฮลลิเดย์ นาธาน
บางทีคุณคงเคยได้ยินสำนวนคำพูดที่ว่า “เกิดมาพร้อมกับคาบช้อนเงินไว้ในปาก.” เอาละ เมื่อผมเกิดมาย้อนหลังไปในปี 1897 นั่นเกือบจะเป็นจริงตามตัวอักษรในกรณีของผม.
ปีนั้นเป็นปีที่ 60 แห่งรัชกาลของพระราชินีวิคตอเรีย มีการฉลองครอบรอบหกสิบปี. เด็ก ๆ ที่เกิดในปีนั้นในอังกฤษได้รับช้อนเงินหนึ่งคันเป็นของขวัญ. จักรภพอังกฤษกำลังรุ่งเรือง ได้รับผลประโยชน์จากการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมในประเทศ และการค้าที่เจริญจากประเทศอาณานิคมที่กำลังเฟื่องฟู.
คุณปู่ของผมเป็นชาวยิว และคุณพ่อมาเป็นผู้เชี่ยวชาญภาษาฮีบรู รอบรู้เป็นอย่างดีในเรื่องพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรู. แต่คุณย่าของผมเป็นลูกสาวของสังฆราชนิกายแองกลิคัน และเนื่องจากอำนาจชักจูงของท่าน คุณพ่อจึงยอมรับพระเยซูคริสต์ฐานะพระมาซีฮา. บทประพันธ์ของชาร์ลส เทซ รัสเซลล์มีผลกระทบต่อทั้งคุณพ่อคุณแม่ของผม ดังนั้นเราไม่เคยเชื่อในคำสอนเรื่องตรีเอกานุภาพ หรือไฟนรกเลย.
ระหว่างวัยเด็กของผม ม้ายังเป็นพาหนะสำคัญของการเดินทางในอังกฤษอยู่ และมีรถที่ไม่ใช้ม้าหรือรถยนต์ไม่กี่คัน. ในปี 1913 เนื่องจากผมชอบม้า ผมจึงสมัครเข้าร่วมในหน่วยลำเลียงพลม้าของกองทัพรักษาดินแดน (กองทหารอาสาสมัคร). เมื่อสงครามโลกที่ 1 ระเบิดขึ้น ผมได้ถูกย้ายไปอยู่กองทหารประจำการ และถูกส่งไปยังแนวรบกรีก ที่ซึ่งผมเป็นไข้มาลาเรีย. ภายหลัง ผมถูกส่งไปยังแนวรบด้านตะวันตกในฝรั่งเศสในฐานะพลปืนกลและในที่สุดถูกจับเป็นเชลยในปี 1917 โดยพวกเยอรมัน.
การพบจุดมุ่งหมายในชีวิตในประเทศอินเดีย
หลังจากสงครามสิ้นสุดลงในปี 1918 ไม่มีงานที่จะหาได้ในอังกฤษ ดังนั้น ผมจึงกลับสู่กองทัพอีก แล้วเดินทางไปอินเดียในฐานะเป็นส่วนแห่งกองกำลังป้องกันในยามสงบ. ในเดือนพฤษภาคม 1920 ไข้มาลาเรียกำเริบขึ้นมาอีก และผมถูกส่งตัวเข้าไปอยู่บนเนินเขาเพื่อพักฟื้น. ณ ที่นั่น ผมอ่านหนังสือทุกเล่มเท่าที่มือจะหยิบมาได้รวมทั้งคัมภีร์ไบเบิลด้วย. การอ่านพระคัมภีร์ทำให้ผมสนใจแรงกล้ายิ่งขึ้นในการเสด็จกลับขององค์พระผู้เป็นเจ้า.
หลายเดือนต่อมา ที่เมืองคานเพอร์ทางใต้ ผมเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์เป็นกลุ่ม หวังว่าจะเรียนรู้มากขึ้นในเรื่องการเสด็จกลับขององค์พระผู้เป็นเจ้า. ที่นั่นผมได้พบเฟรดริค เจมส์ อดีตทหารอังกฤษซึ่งตอนนี้เป็นนักศึกษาพระคัมภีร์ที่ร้อนรน. เขาได้อธิบายกับผมว่าพระเยซูได้ประทับแล้วตั้งแต่ปี 1914 อย่างไม่ประจักษ์แก่มนุษย์. นี้เป็นข่าวที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา. ความมุ่งมาดปรารถนาอันเร่าร้อนทันทีของผม คืออยากออกจากกองทัพ. การนองเลือดและความตายในสงครามที่ยุโรปทำให้ผมเบื่อหน่ายชิงชัง. ผมต้องการเป็นมิชชันนารีที่รักสันติและประกาศข่าวดีนี้เรื่องการประทับของพระคริสต์.
อย่างไรก็ดี กองทัพไม่ยินยอมปล่อยตัวผม. แทนที่จะเป็นเช่นนั้น พวกเขาส่งผมไปยังอินเดียตะวันตก ปากีสถานในปัจจุบัน. ระหว่างอยู่ที่นั่น ผมอ่านหนังสือ สทัดดีส อิน เดอะ สคริพเจอร์ส โดยชาร์ลส์ เทส รัสเซลล์ และมั่นใจยิ่งกว่าที่เคยเป็นมาว่าผมควรตอบรับเสียงเรียกให้ประกาศ. ผมเริ่มฝันร้ายซึ่งทำให้รู้สึกซึมเศร้า. ด้วยความสิ้นหวังผมเขียนถึงบราเดอร์เจมส์ ผู้ซึ่งได้เชิญผมไปที่บ้านของเขาในคานเพอร์. วันที่ผมไปถึงนั้นเป็นการประชุมอนุสรณ์เกี่ยวกับการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า. วันนั้นมีผลกระทบต่อชีวิตผมมากทีเดียว—ผมตั้งใจทั้งที่จะอยู่เป็นโสดต่อไป และตั้งการรับใช้เต็มเวลาเป็นเป้าหมายของผมในชีวิต.
กลับไปอยู่ในอังกฤษ
ในปลายปี 1921 ผมถูกย้ายกลับไปยังอังกฤษ และในฤดูใบไม้ผลิของปี 1922 ผมถูกปลดประจำการจากกองทัพ. ฤดูร้อนปีนั้น เจ. เอฟ. รัทเธอร์ฟอร์ด นายกคนที่สองของสมาคมว็อชเทาเวอร์มายังอังกฤษ และผมไปพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่เพื่อฟังคำบรรยายของท่าน ณ รอยัล อัลเบิร์ต ฮอล กรุงลอนดอน. หลังจากนั้น ผมได้รับการกระตุ้นให้เสนอตัวที่จะรับใช้ ณ เบเธล อันเป็นชื่อที่เรียกสำนักงานสาขาของสมาคมว็อชเทาเวอร์ แต่ทว่าผมได้รับการสนับสนุนด้วยความกรุณาให้ทำงานคอลพอร์เจอร์ (การประกาศเต็มเวลา) ก่อน. ดังนั้นผมจึงออกจากงาน แล้วรับมอบหมายเขตทำงานในภาคใต้ของอังกฤษ. โดยไม่มีประสบการณ์ มีแต่เงิน 13 บาทอยู่ในกระเป๋า และไว้วางใจในพระยะโฮวา ผมได้เริ่มงานประจำชีวิตของผมฐานะผู้รับใช้เต็มเวลา. ราว ๆ เดือนมีนาคม 1924 ผมได้รับเชิญไปเบเธล.
แต่ปีถัดไปผมถูกขอให้ออกจากเบเธล และผมตะลึงงัน รู้สึกว่าผมได้รับการตีสอนเนื่องด้วยอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้รับผิดชอบ. ภายในระยะเวลาสั้น ๆ นั้นเบเธลกลายมาเป็นชีวิตของผม. แต่โดยการมอบปัญหาไว้กับพระยะโฮวาในคำอธิษฐานและไว้วางใจว่าพระทัยประสงค์ของพระองค์จะต้องสำเร็จ ผมจึงสามารถดำเนินงานมอบหมายไพโอเนียร์ที่ผมได้รับนั้นต่อไปด้วยความยินดีได้. ในเดือนพฤษภาคม 1926 ผมได้รับเชิญให้กลับไปยังเบเธลอีก ที่ซึ่งผมอยู่ต่อไปเป็นเวลา 11 ปีถัดมา.
บราเดอร์รัทเธอร์ฟอร์ดได้มาเยี่ยมอังกฤษอีกในปี 1936 และได้เชิญชวนผมไปแคนาดาเพื่อมีส่วนในงานราชอาณาจักรที่นั่น. อย่างไรก็ดี เนื่องจากความเข้าใจผิด ผมได้ทำให้บราเดอร์รัทเธอร์ฟอร์ดไม่พอใจ โดยการเปิดเผยข้อมูลบางอย่างที่เป็นความลับ. ผมยังจำได้ถึงคำพูดของท่าน: “แจ็ค ผมไว้ใจคุณไม่ได้. ฉีกตั๋วของคุณเสีย!” ช่างเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ตกตะลึงอะไรเช่นนั้น! แต่นั่นเป็นการตีสอนที่จำเป็นอย่างยิ่ง และหลังจากนั้น ผมได้รับมอบหมายเป็นไพโอเนียร์พร้อมกับบราเดอร์อีกคนหนึ่งเป็นเวลาแปดเดือนต่อไป. สิทธิพิเศษแห่งการรับใช้เช่นนี้ยกชูผมขึ้นจากความหมดกำลังใจ และผมได้เรียนรู้จากการตีสอน.
งานรับใช้ขยายตัวในแคนาดา
ระหว่างการเยี่ยมประเทศอังกฤษครั้งต่อไปของท่านราว ๆ หนึ่งปีต่อมา บราเดอร์รัทเธอร์ฟอร์ดยกเรื่องเกี่ยวกับแคนาดาขึ้นมาพูดอีก. ผมอยากได้รับโอกาสเช่นนั้นเหลือเกิน และยอมรับการมอบหมายที่นั่นด้วยความยินดี. หลังจากรับใช้ที่เบเธลที่แคนาดาไม่กี่เดือน ผมได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนเดินทางของสมาคมในออนแตริโอทางตะวันตกเฉียงใต้. ประชาคมส่วนใหญ่ที่นั่นเล็ก และจำเป็นต้องได้รับการหนุนกำลังใจมาก. แต่ช่วงปีต้น ๆ นั้นช่างเป็นที่น่ายินดีเสียนี่กระไร แม้จะมีความยากลำบากทางร่างกายเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและการเดินทางที่ไม่แน่นอน!
ผมจะไม่ลืมความอบอุ่นและความหยั่งรู้ค่าทางฝ่ายวิญญาณของประชาคมเล็ก ๆ ที่เป็นชาวอินเดียนพื้นเมือง ประชาคมหนึ่งใกล้แบรนท์ฟอร์ด. ตอนนั้นเป็นฤดูหนาว และหิมะก็ลึก ทำให้ยากที่รถฟอร์ดรุ่น ที ของผมจะผ่านไปได้. ไม่มีใครคาดหมายว่าผมจะมา และเมื่อผมมาถึงก็พบว่าพวกพี่น้องได้เข้าไปในป่าเพื่อหาฟืน. ดังนั้นผมจึงออกไปตามหาพวกเขา หิมะลึกถึงเอว. ในที่สุด เมื่อผมพบพวกเขา เขาประหลาดใจ กระนั้นก็มีความสุขที่เห็นผม. พวกเขาทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง กลับบ้าน แล้วจัดการประชุมในค่ำวันนั้นทีเดียว.
ณ บีมสวิลที่อยู่ใกล้เคียงนั้น พวกพี่น้องที่ซื่อสัตย์และผมได้ต่อสู้กับผู้ปกครองที่ได้รับการเลือกตั้งและพวกออกหากเป็นเวลาหลายเดือน. นับว่าเป็นสิทธิพิเศษอะไรเช่นนี้ที่เห็นวิธีที่พระวิญญาณของพระยะโฮวาดำเนินงานเพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้เรียบร้อย! การวางใจในพระยะโฮวาและความซื่อสัตย์ภักดีต่อองค์การของพระองค์ได้ยังผลด้วยพระพรหลายประการสำหรับประชาคมต่าง ๆ ระหว่างช่วงปีแรก ๆ นั้น. เด็กหลายคนจากประชาคมเหล่านั้นเติบโตขึ้นเป็นไพโอเนียร์ ไปสู่เบเธล ได้รับมอบหมายเป็นมิชชันนารี และเป็นผู้ดูแลเดินทาง. ผมไม่เคยลืมความยินดีในการพักอยู่กับครอบครัวคริสเตียนที่ภักดีเหล่านั้นซึ่งก่อให้เกิดเยาวชนที่ดีอย่างนั้น. ครอบครัวเหล่านี้กลายเป็นครอบครัวของผม และลูกหลานของพวกเขาก็มาเป็นลูกหลานของผม.
หลายปีภายใต้การสั่งห้าม
ระหว่างการคลั่งสงครามในปี 1940 งานของพยานพระยะโฮวาได้ถูกสั่งห้าม. น่าตื่นตระหนกอะไรเช่นนี้! คำประกาศทางวิทยุที่รัฐบาลอุปถัมภ์นั้นได้สั่งให้เรามอบสรรพหนังสือของเรา บันทึกต่าง ๆ ของประชาคม และกุญแจหอประชุมของเราให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ. โดยคำนึงถึงความรีบด่วน ผมไปตามประชาคมต่าง ๆ แล้วเร่งเร้าพวกเขาให้เอาสรรพหนังสือกับบันทึกของพวกเขาซ่อนเสีย. พวกพี่น้องได้รับการสนับสนุนให้ประชุมกันในบ้านส่วนตัว ที่บ้านต่าง ๆ กันในแต่ละสัปดาห์. ในที่สุดประชาคมได้ดำเนินการรับใช้ตามบ้านขึ้นใหม่ โดยใช้เพียงแต่พระคัมภีร์. เรื่องนี้ปรากฏว่าเป็นพระพร เพราะเราทุกคนเรียนรู้ในการใช้พระคัมภีร์ของเราได้ดีขึ้น.
ในตอนท้ายของปีนั้นเราได้รับหนังสือเล่มเล็กชื่อ อวสานของลัทธินาซี เป็นจำนวนมากมายจากสหรัฐ. การนำสรรพหนังสือที่ถูกสั่งห้ามนี้เข้าในแคนาดาจำเป็นต้องใช้ปฏิภาณหลักแหลมทีเดียว. พี่น้องบางคนได้รับทหารที่ขอโดยสารรถไปฟรี ผู้ซึ่งนั่งอยู่บนกล่อง กำบังหนังสือเล่มเล็กที่ถูกสั่งห้ามนั้นโดยไม่รู้ตัว. ครั้นแล้วเช้าวันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน ระหว่างสามนาฬิกาถึงหกนาฬิกา ทั้งประเทศก็ถูกจู่โจมแบบสายฟ้าแลบโดยพวกพยานฯผู้ซึ่งได้ทิ้งหนังสือเล่มเล็กนี้ไว้ที่บันไดหน้าประตูบ้านส่วนใหญ่ในแคนาดา.
ระหว่างปีเหล่านั้นของการสั่งห้าม ผมยังอยู่ในการรับใช้ประเภทไพโอเนียร์ในจังหวัดบริติช โคลัมเบียทางตะวันตกของแคนาดาอยู่ต่อไป. ก่อนการสั่งห้าม พวกพี่น้องเคยใช้เรือเมื่อไปเยี่ยมประชาชนในหมู่บ้านตามอ่าวอันเวิ้งว้างโดดเดี่ยวตั้งแต่แวนคูเวอร์ตลอดทางไปจนถึงอะแลสกา. เมื่อคำสั่งห้ามมีผลใช้บังคับนั้นสรรพหนังสือจำนวนมากอยู่บนเรือ ดังนั้น พวกพยานฯค่อย ๆ ฝากหนังสือนั้นไว้กับคนที่เป็นมิตรระหว่างทางไปยังท่าเรืออันเป็นที่ซึ่งเรือถูกยึด. ต่อมา ผมเอาเรือจับปลาเพื่อไปสืบหาสรรพหนังสือนี้ และครั้นแล้วระหว่างฤดูจับปลาแซลมอน ผมได้จัดการเพื่อพวกพี่น้องจะไปเก็บหนังสือนั้นจากชนผู้สนใจเหล่านี้. ในที่สุดสรรพหนังสือได้ถูกนำไปถึงแวนคูเวอร์เพื่อการจำหน่ายจ่ายแจกอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยพรางตาไว้ใต้ท้องเรือจับปลา.
ในช่วงท้ายของปี 1943 เราได้รับข่าวว่าคำสั่งห้ามพยานพระยะโฮวาได้ถูกยกเลิก. อย่างไรก็ดี ไม่มีการยกเลิกคำสั่งห้ามสมาคมว็อชเทาเวอร์. ดังนั้น เราจึงดำเนินงานเหมือนตอนก่อน ใช้เพียงแต่พระคัมภีร์เท่านั้นในการรับใช้ตามบ้านเรือน. แต่บัดนี้ เราสามารถแสดงตัวอย่างเปิดเผยฐานะพยานพระยะโฮวาได้. เมื่อการสั่งห้ามเริ่มต้นนั้น เรามีพยานฯราว ๆ 6,700 คน เมื่อมีการยกเลิกคำสั่งห้ามนั้น เรามีพยานฯที่เข้มแข็ง 11,000 คน!
ชีวิตในฐานะผู้ดูแลเดินทาง
ในฐานะตัวแทนเดินทางของสมาคม ผมได้เดินทางเป็นระยะที่นับไม่ถ้วนระหว่างสองสามปีถัดไป ทำงานกับประชาคมต่าง ๆ และหนุนกำลังใจพวกเขา. ในฤดูหนาว ผมตามพวกพี่น้องไปในพาหนะที่ไม่มีใดเหมือนซึ่งถูกเรียกว่าคะบูส. นี้เป็นรถเลื่อนหิมะมีประทุนใช้ม้าลาก มีเตาฟืนที่มีปล่องไฟอยู่ในนั้นเสร็จสรรพ. บ่อยครั้ง เราเริ่มออกเดินทางก่อนรุ่งอรุณ พร้อมกับมีถึงหกคนขึ้นรถ เราเดินทางฝ่าหิมะที่ลึกเป็นระยะทาง 35 กิโลเมตรหรือมากกว่านั้น ไปเยี่ยมฟาร์มที่อยู่ตามทาง. คนขับต้องระวังเพราะกองหิมะอาจทำให้รถเอียงไปข้างหนึ่ง เทกระจาดผู้โดยสารพร้อมกับถ่านร้อนที่กำลังคุอยู่นั้นออกมาจากเตา.
ในปี 1947 ผมได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลภาคแรกของประเทศ ซึ่งครอบคลุมทั้งประเทศ. ผมมีการประชุมหมวดที่ต้องรับใช้แทบทุกสัปดาห์. มีการจัดการประชุมหมวดในลานสเก๊ตน้ำแข็ง สนามฟุตบอล สนามม้า สำนักงานของสหภาพ และห้องประชุมสาธารณะ. การจัดเตรียมสำหรับการชุมนุมกันเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับความเอาใจใส่มากมายก่อนที่ระเบียบวาระจะเริ่มต้นได้. ในปี 1950 แฟรงค์ แฟรงสคี ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลภาคคนที่สองในแคนาดา และภายหลังได้มีการเพิ่มผู้ดูแลเดินทางเหล่านี้เข้ามาอีกห้าคน.
ตลอดหลายปี ผมเดินทางโดยอากาศยานขนาดเล็ก โดยเรือจับปลา โดยรถยนต์บนหิมะขนาดใหญ่ที่มีสายพาน และแคร่เลื่อนหิมะที่เรียกว่าปืนใหญ่ โดยเครื่องบินหิมะ (พาหนะที่มีใบพัดอยู่ข้างหลัง และแคร่เลื่อนอยู่ข้างหน้าเพื่อการขับขี่) และโดยพาหนะแบบธรรมดาอีกหลายอย่างเช่น รถไฟ รถประจำทาง และรถยนต์. บางครั้งในเครื่องบิน เราจะเฉียดผ่านยอดของเทือกเขาร็อกกีที่สูงตระหง่าน แล้วพุ่งพรวดเข้าสู่หุบเขาลึกที่ซ่อนอยู่เพื่อไปถึงกลุ่มพี่น้องโดดเดี่ยว.
ผมได้ไป ๆ มา ๆ ข้ามประเทศแคนาดาหลายครั้ง. ผมเคยพักในกระท่อมทำด้วยซุงซึ่งหนาวจนเราเห็นลมหายใจของเราในยามเช้าได้ และในบ้านของชาวนาที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกของสมัยปัจจุบัน. กระนั้น โดยผ่านประสบการณ์ทั้งหมดนี้ ผมมีความรู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง เพราะรู้ว่าผมกระทำการงานของพระยะโฮวา หนุนกำลังใจพลไพร่ของพระยะโฮวา.
สิทธิพิเศษแห่งการรับใช้ที่เพิ่มขึ้น
เป็นเวลา 33 ปีผ่านไป ผมได้มีสิทธิพิเศษในการเป็นสมาชิกแห่งครอบครัวเบเธลของแคนาดา อีกทั้งรับใช้ฐานะผู้บรรยาย ณ การประชุมใหญ่ในอังกฤษ, ยุโรป, แอฟริกา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, และตะวันออกไกล. ในออสเตรเลีย ผมพบลูกสาวบราเดอร์เจมส์ ผู้ซึ่งให้กำลังใจผมจริง ๆ ในอินเดีย. บราเดอร์เจมส์ไม่เคยเป็นมิชชันนารี แต่เขาได้มอบมรดกฝ่ายวิญญาณอันดีเยี่ยมแก่ครอบครัวของเขา.
ทุกวันนี้ผมถูกห้อมล้อมด้วยชายหนุ่มและหญิงสาวหลายร้อยคนในเบเธลของแคนาดา. วิธีที่พวกเขาใช้ความกระฉับกระเฉงอันเต็มด้วยพลังหนุ่มสาวของเขาในการรับใช้พระยะโฮวานั้นเป็นสิ่งที่หนุนกำลังใจและกระตุ้นใจ. ตาของผมมัว แต่คนเหล่านี้ที่หนุ่มแน่นกว่าได้อ่านให้ผมฟัง. ขาของผมไม่มีแรง แต่พวกเขาพาผมไปกับเขาในการรับใช้. บางคนถามว่าผมรับมืออย่างไรกับปัญหาด้านสุขภาพอันเนื่องมาจากอายุสูง. เอาละ ประการหนึ่ง ผมศึกษาพระวจนะของพระเจ้าทุก ๆ วัน. ทั้งนี้ทำให้จิตใจและหัวใจของผมจดจ่ออยู่กับสิ่งฝ่ายวิญญาณ.
ที่จริง นับว่าเป็นสิทธิพิเศษอันเลิศล้ำที่ได้ดำเนินและสนทนากับพระยะโฮวา พระบิดาฝ่ายสวรรค์ของผมตลอด 69 ปีแห่งชีวิตที่ได้อุทิศแล้ว ซึ่ง 67 ปีได้ใช้ไปในการรับใช้เต็มเวลา. ผมได้ประสบอยู่เสมอมาว่าพระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าองค์เปี่ยมด้วยความรัก ทรงเมตตาสงสาร อภัยให้กับจุดอ่อนแอของมนุษย์ และประทานพลังและเรี่ยวแรงให้แก่คนเหล่านั้นที่ไว้วางใจในพระองค์. ความหวังของผมคือที่จะธำรงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์มั่นคงและความภักดีต่อพระยะโฮวาและองค์การของพระองค์จนถึงที่สุด ไว้วางใจในคำสัญญาที่ว่า ในเวลาอันควร ผมจะได้ร่วมกันกับพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าที่รักของผม และร่วมกับพี่น้องชายหญิงผู้ซื่อสัตย์หลายคนในสง่าราศีทางภาคสวรรค์.—บทเพลงสรรเสริญ 84:12.
[รูปภาพหน้า 12]
เครื่องบินหิมะเดินทางข้ามประเทศด้วยความเร็วถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
[รูปภาพหน้า 13]
คะบูสซึ่งใช้ม้าลาก ใช้ในการให้คำพยานระหว่างฤดูหนาวในทุ่งหญ้าแพรรีของแคนาดา
[รูปภาพของแจ็ค แฮลลิเดย์ นาธาน หน้า 10]