คุณจำได้ไหม?
คุณได้ให้ความเอาใจใส่กับหอสังเกตการณ์ ฉบับต่าง ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้อย่างถี่ถ้วนไหม? หากคุณได้ทำเช่นนั้น คุณจะพบว่าน่าสนใจที่จะทบทวนความจำในเรื่องต่อไปนี้:
▫ ความแตกต่างประการสำคัญระหว่างมนุษย์กับสัตว์ได้แก่อะไร?
ความแตกต่างประการสำคัญนั้นรวมจุดอยู่ที่โครงสร้าง, สมรรถนะ, และการปฏิบัติงานของสมอง. ในพวกสัตว์ การปฏิบัติงานของสมองเกือบทั้งหมดนั้นถูกกำหนดไว้ในสิ่งที่เรียกว่าสติปัญญาโดยสัญชาตญาณ. ไม่ได้เป็นเช่นนี้ในกรณีของมนุษย์. พระเจ้าได้ประทานสมรรถนะในด้านเจตจำนงเสรีให้กับมนุษย์. (สุภาษิต 30:24-28)—15/4 หน้า 5.
▫ การร้องเพลงมีส่วนสำคัญอย่างไรในการนมัสการในพระวิหารของชาวยิศราเอล?
ดนตรี โดยเฉพาะนักร้อง มีบทบาทสำคัญในการนมัสการ ไม่ใช่เพื่อจะซึมซาบในข้อบัญญัติที่ยาก ๆ แต่เพื่อทำให้เกิดน้ำใจที่ถูกต้องในการนมัสการ. ดนตรีช่วยชาวยิศราเอลให้นมัสการพระยะโฮวาอย่างมีชีวิตชีวา. (1 โครนิกา 23:4, 5; 25:7)—1/5 หน้า 10, 11.
▫ บุตรจำต้องได้รับความเอาใจใส่ชนิดใดตั้งแต่ยังเป็นทารก?
บิดามารดาต้องเอาใจใส่ทารกแรกเกิดเกือบตลอดเวลา. เปาโลเขียนว่า “ตั้งแต่เป็นทารกมา ท่านได้รู้จักคำจารึกอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอาจให้ท่านได้ปัญญาถึงที่รอดได้.” (2 ติโมเธียว 3:15, ล.ม.) ดังนั้น ความเอาใจใส่ที่ติโมเธียวได้รับจากบิดามารดา แม้ตั้งแต่วัยทารกทีเดียว ก็เป็นแบบฝ่ายวิญญาณด้วย.—15/5 หน้า 11.
▫ มีหลักฐานสี่แนวทางอะไรบ้างที่พิสูจน์ว่า คัมภีร์ไบเบิลบรรจุข่าวสารของพระเจ้าสำหรับมนุษยชาติ?
(1) หาได้ง่าย. ประชากรโลกถึง 98 เปอร์เซ็นต์หาคัมภีร์ไบเบิลได้. (2) หลักฐานทางประวัติศาสตร์. คัมภีร์ไบเบิลบรรจุข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ตำนานซึ่งไม่อาจหาหลักฐานได้. (3) ใช้ได้ผลจริง. คำสั่งและหลักการในคัมภีร์ไบเบิลกำหนดวิถีชีวิตซึ่งยังประโยชน์แก่ผู้ที่ยึดมั่นในคำสั่งและหลักการเหล่านั้น. (4) คำพยากรณ์. คัมภีร์ไบเบิลเป็นหนังสือที่บอกละเอียดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต.—1/6 หน้า 8, 9.
▫ มีความรับผิดชอบอะไรซึ่งควบคู่ไปกับการรู้จักศาสนาแท้?
ครั้นเราระบุศาสนาแท้ได้แล้ว เราต้องดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับศาสนาแท้. ศาสนาแท้เป็นวิถีชีวิต. (บทเพลงสรรเสริญ 119:105; ยะซายา 2:3)—1/6 หน้า 13.
▫ เหตุใดการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นส่วนตัวจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง?
บรรดาผู้รับใช้ของพระเจ้าจำต้องได้รับการฟื้นฟูความยินดีและกำลังทุกวันโดยการเสาะหาแง่มุมใหม่ ๆ หรือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความจริงจากพระวจนะของพระเจ้า. โดยวิธีนี้ พวกเขาจะได้รับแรงกระตุ้นฝ่ายวิญญาณอยู่เสมอ.—15/6 หน้า 8.
▫ คำว่า “บาป” ที่ใช้ในคัมภีร์ไบเบิลหมายความว่าอย่างไร?
ในรูปของกริยา คำภาษาฮีบรูและกรีกที่ใช้ทั่วไปในคัมภีร์ไบเบิลเพื่อชี้ถึง “บาป” นั้นแปลว่า “พลาด” ในความหมายที่ว่าพลาดเป้าหรือไม่บรรลุเป้าหมาย. มนุษย์คู่แรกไม่บรรลุสง่าราศีของพระเจ้า คือพลาดไปจากพระประสงค์ของพระเจ้าที่สร้างมนุษย์ตามแบบฉายาของพระองค์. หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พวกเขาทำบาป. (เยเนซิศ 2:17; 3:6)—15/6 หน้า 12.
▫ เหตุใดจึงไม่ฉลาดเป็นอย่างยิ่งที่จะอ่านหนังสือของพวกออกหาก?
หนังสือบางอย่างของพวกออกหากเสนอความเท็จโดยใช้ “คำดีคำอ่อนหวาน” และ “คำหลอกลวง.” (โรม 16:17, 18; 2 เปโตร 2:3, ล.ม.) ข้อเขียนของพวกออกหากทั้งหลายมีแต่วิพากษ์วิจารณ์และรื้อทำลาย. ไม่มีอะไรเป็นสิ่งเสริมสร้าง.—1/7 หน้า 12.
▫ กรีซเป็นแหล่งกำเนิดของประชาธิปไตยไหม?
ในกรีซโบราณ ประชาธิปไตยถือปฏิบัติกันในนครรัฐเพียงไม่กี่แห่ง และแม้แต่ในนครรัฐเหล่านี้มีเพียงผู้ชายที่มีสิทธิออกเสียงได้. นี่หมายความว่า สี่ในห้าของประชากรถูกตัดออกไป. แทบจะเรียกไม่ได้ว่านั่นเป็นอำนาจอธิปไตยปวงชนหรือประชาธิปไตย!—1/7 หน้า 16.
▫ อะไรทำให้ชีวิตสมรสของคริสเตียนเจริญรุ่งเรือง?
เมื่อสามีและภรรยานับถือทัศนะของพระเจ้าในเรื่องการสมรส และพยายามที่จะดำเนินชีวิตตามหลักการในพระวจนะของพระเจ้า. (เอเฟโซ 5:21-33)—15/7 หน้า 10.
▫ การศึกษาครอบครัวของคุณจะน่าเพลิดเพลินได้อย่างไร?
พยายามให้บุตรทุกคนมีส่วน. มีแง่คิดในแง่บวกและเสริมสร้าง โดยชมเชยบุตรอย่างอบอุ่นที่มีส่วนร่วม. อย่าเพียงแต่ครอบคลุมเนื้อหา แต่พยายามเข้าถึงหัวใจของบุตร.—15/7 หน้า 18.
▫ มีอะไรที่เป็นนัยอยู่ในคำกล่าวที่ว่า “เมื่อไรก็ตามที่พวกเขากล่าวว่า ‘สันติภาพและความปลอดภัย!’” (1 เธซะโลนิเก 5:3, ล.ม.)?
โปรดสังเกตว่า คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้กล่าวว่านานาชาติจะบรรลุ “สันติภาพและความปลอดภัย.” แต่อย่างน้อยพวกเขาจะพูด ถึงสิ่งนี้ในลักษณะที่พิเศษ โดยแสดงถึงการมองโลกในแง่ดีและความเชื่อมั่นซึ่งจนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่รู้สึกว่ามี. โอกาสที่จะบรรลุสันติภาพและความปลอดภัยจะดูเหมือนใกล้เข้ามายิ่งกว่าแต่ก่อน.—1/8 หน้า 6.
▫ จงบอกวิธีที่พระยะโฮวาทรงสำแดงถึงความมีเหตุผลมาสามประการ.
พระยะโฮวาทรงสำแดงให้เห็นว่า พระองค์พร้อมที่จะให้อภัย. (บทเพลงสรรเสริญ 86:5) พระองค์เต็มพระทัยที่จะเปลี่ยนแนวทางที่ได้มุ่งหมายไว้แล้ว เมื่อเกิดสภาพการณ์ใหม่ขึ้น. (ดูพระธรรมโยนาบท 3.) นอกจากนี้ พระยะโฮวายังทรงสำแดงพระองค์เองว่าทรงมีเหตุผลในการใช้อำนาจ. (1 กษัตริย์ 22:19-22)—1/8 หน้า 12-14.