คุณจำได้ไหม?
คุณได้ประสบไหมว่าหอสังเกตการณ์ ฉบับต่าง ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้มีประโยชน์ต่อคุณในภาคปฏิบัติ? ถ้าเช่นนั้น คุณน่าจะทดสอบความจำของคุณด้วยคำถามต่อไปนี้:
▫ บทเรียนอะไรที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากความล่มจมของชาติอัมโมน? (ซะฟันยา 2:9, 10)
พระยะโฮวาไม่ทรงเมินเฉยต่อการตอบแทนความกรุณาของพระองค์ด้วยความเป็นปรปักษ์ และพระองค์จะลงมือปฏิบัติการในเวลากำหนดของพระองค์ เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงกระทำในกาลโบราณ. (เทียบกับบทเพลงสรรเสริญ 2:6-12.)—15/12 หน้า 10.
▫ คริสเตียนมีสันติสุขในทางใดบ้าง?
ประการแรก เขามี “สันติสุขกับพระเจ้าโดยทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า [ของพวกเขา].” (โรม 5:1, ล.ม.) ประการที่สอง พวกเขามีสันติสุขระหว่างพวกเขาเองโดยปลูกฝัง “สติปัญญาจากเบื้องบน” ซึ่ง “ประการแรกบริสุทธิ์ แล้วก่อให้เกิดสันติสุข.” (ยาโกโบ 3:17, ล.ม.)—1/1 หน้า 11.
▫ พระคำของพระเจ้าถูกเปรียบเป็นสิ่งต่าง ๆ อะไรบ้าง และการเปรียบเช่นนี้เป็นประโยชน์ต่อเราอย่างไร?
พระคำของพระเจ้าถูกเปรียบเป็นน้ำนมที่บำรุงเลี้ยง, อาหารแข็ง, น้ำที่ทำให้สดชื่นและชำระล้าง, กระจก, และดาบที่แหลมคม. การเข้าใจความหมายของถ้อยคำเหล่านี้ช่วยผู้รับใช้ให้ใช้คัมภีร์ไบเบิลอย่างช่ำชอง.—1/1 หน้า 29.
▫ การศึกษาที่สมดุลฝ่ายโลกควรช่วยเราในด้านใดบ้าง?
ช่วยให้อ่านได้ดี, เขียนชัดเจน, พัฒนาด้านจิตใจและศีลธรรม, และได้รับการฝึกอบรมภาคปฏิบัติตามที่จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันและงานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ที่บังเกิดผล.—1/2 หน้า 10.
▫ บทเรียนอันทรงคุณค่าอะไรเกี่ยวกับความรู้ที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากพระเยซู?
ควรใช้ความรู้ไม่ใช่เพื่อทำให้ตัวเราได้รับเกียรติ แต่เพื่อนำคำสรรเสริญมาสู่พระเจ้ายะโฮวา พระบรมครูองค์ใหญ่ยิ่ง. (โยฮัน 7:18, ล.ม.)—1/2 หน้า 10.
▫ ราชอาณาจักรของพระเจ้าคืออะไร?
ราชอาณาจักรคือรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นในสวรรค์ ซึ่งทำให้พระทัยประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จ เพื่อขจัดผลเสียต่าง ๆ อันสืบเนื่องจากบาปและความตาย และฟื้นฟูสภาพการณ์ต่าง ๆ ที่ชอบธรรมบนแผ่นดิน. (ดานิเอล 2:44; วิวรณ์ 11:15; 12:10)—1/2 หน้า 16.
▫ คัมภีร์ไบเบิลจัดให้มีการสั่งสอนเช่นไรซึ่งจำเป็นต่อการยุติความรุนแรงอย่างถาวร?
โดยทางคัมภีร์ไบเบิล พระคำของพระองค์ พระยะโฮวาทรงสั่งสอนประชาชนให้เป็นคนรักสันติและรักความชอบธรรม. (ยะซายา 48:17, 18) พระคำของพระเจ้ามีพลานุภาพส่งผลกระทบเข้าถึงหัวใจคนเรา เปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมของผู้นั้น. (เฮ็บราย 4:12)—15/2 หน้า 6.
▫ อาจกล่าวได้ว่าคำพยากรณ์ในยะซายาบท 35 มีความสำเร็จเป็นจริงสามครั้งในทางใดบ้าง?
คำพยากรณ์ของยะซายาได้สำเร็จเป็นจริงครั้งแรกเมื่อชาวยิวเดินทางกลับจากการเป็นเชลยที่บาบูโลนในปี 537 ก.ส.ศ. คำพยากรณ์ข้อนี้มีความสำเร็จเป็นจริงฝ่ายวิญญาณซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในทุกวันนี้ ตั้งแต่มีการปลดปล่อยยิศราเอลฝ่ายวิญญาณจากการเป็นเชลยของบาบูโลนใหญ่. และคำพยากรณ์นี้ยังจะมีความสำเร็จเป็นจริงครั้งที่สามเกี่ยวเนื่องกับคำรับรองในคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับสภาพอุทยานจริง ๆ บนแผ่นดินโลก. (บทเพลงสรรเสริญ 37:10, 11; วิวรณ์ 21:4, 5)—15/2 หน้า 17.
▫ การที่พระเจ้าใฝ่พระทัยในมนุษย์ด้วยพระองค์เองนั้นได้แสดงออกอย่างไรในการอัศจรรย์ที่พระเยซูพระบุตรของพระองค์ได้ทรงกระทำ?
เนื่องจากพระเยซู “จะทำสิ่งใดตามความริเริ่มของตนเองไม่ได้เลย เว้นแต่ที่ได้เห็นพระบิดาทรงกระทำ” ความเมตตาสงสารของพระองค์จึงเป็นตัวอย่างแสดงถึงความใฝ่พระทัยของพระยะโฮวาอย่างน่าซาบซึ้งใจต่อผู้รับใช้แต่ละคนของพระองค์. (โยฮัน 5:19, ล.ม.)—1/3 หน้า 5.
▫ คำตรัสของพระเยซูที่ว่า “อุโมงค์รำลึก” ในโยฮัน 5:28, 29 (ล.ม.) บอกเป็นนัยถึงสิ่งใด?
คำภาษากรีก มเนเมอิʹออน (อุโมงค์รำลึก) ที่ใช้ในที่นี้บอกเป็นนัยว่าพระยะโฮวาทรงระลึกถึงประวัติบันทึกของบุคคลที่ตายไป รวมทั้งอุปนิสัยที่ติดตัวมาและความทรงจำที่ครบถ้วนของเขา. เรื่องนี้ให้ข้อพิสูจน์อันหนักแน่นว่าพระเจ้าทรงใฝ่พระทัยในมนุษย์เป็นรายบุคคล!—1/3 หน้า 6.
▫ ข่าวสารอะไรที่เป็นคำเตือนในคำพยากรณ์ของซะฟันยาเป็นประโยชน์ในเชิงปฏิบัติแก่พวกเรา?
ทุกวันนี้ไม่ใช่เวลาที่จะปล่อยให้ความสงสัยหยั่งรากในหัวใจของเราและคิดว่าอีกนานกว่าวันของพระยะโฮวาจะมา. นอกจากนี้ เราพึงระมัดระวังผลกระทบของความเฉยเมยที่บั่นทอนกำลัง. (ซะฟันยา 1:12, 13; 3:8)—1/3 หน้า 17.
▫ เหตุใดความภักดีต่อพระเจ้าจึงก่อให้เกิดการท้าทาย?
เนื่องจากความภักดีขัดกันกับการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวที่เราได้รับสืบทอดมาจากบิดามารดาของเรา. (เยเนซิศ 8:21, ล.ม.; โรม 7:19) สำคัญยิ่งกว่านั้น ซาตานกับทั้งบริวารหมายมั่นจะทำให้เราไม่ภักดีต่อพระเจ้า. (เอเฟโซ 6:12, ล.ม.; 1 เปโตร 5:8, ล.ม.)—15/3 หน้า 10.
▫ ในสี่ขอบเขตอะไรบ้างที่เราต้องรับมือกับการท้าทายความภักดี และอะไรจะช่วยเราให้ทำเช่นนั้นได้?
สี่ขอบเขตนั้นคือ ความภักดีต่อพระยะโฮวา, ต่อองค์การของพระองค์, ต่อประชาคม, และต่อคู่สมรสของเรา. สิ่งหนึ่งที่ช่วยได้ในการรับมือกับข้อท้าทายเหล่านี้คือการเข้าใจว่า การท้าทายความภักดีเกี่ยวข้องกับการพิสูจน์ความถูกต้องแห่งพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวา.—15/3 หน้า 20.
▫ เราสามารถเรียนรู้บทเรียนอะไรจากประสบการณ์ของดาวิดในการพยายามนำหีบคำสัญญาไมตรีกลับไปยังยะรูซาเลม? (2 ซามูเอล 6:2-7)
ดาวิดเพิกเฉยต่อคำแนะนำที่พระยะโฮวาทรงให้ไว้เกี่ยวกับการหามหีบสัญญาไมตรี ทั้งนี้ยังผลเป็นความหายนะ. บทเรียนคือว่า เราไม่ควรตำหนิพระยะโฮวาสำหรับปัญหาต่าง ๆ อันเป็นผลมาจากการที่เราเพิกเฉยต่อคำแนะนำที่ชัดเจนของพระองค์. (สุภาษิต 19:3)—1/4 หน้า 29.