ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ห97 1/4 น. 27-29
  • คำถามจากผู้อ่าน

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • คำถามจากผู้อ่าน
  • หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1997
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • คุณจำได้ไหม?
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1997
  • การทุจริตต้องจ่ายด้วยราคาแพง
    ตื่นเถิด! 1990
  • การเพ่งดูโลก
    ตื่นเถิด! 1996
  • การให้ของของซีซาร์แก่ซีซาร์
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1996
ดูเพิ่มเติม
หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1997
ห97 1/4 น. 27-29

คำ​ถาม​จาก​ผู้​อ่าน

คริสเตียน​ควร​ทำ​อย่าง​ไร​เมื่อ​ถูก​เรียก​ให้​ทำ​หน้า​ที่​คณะ​ลูก​ขุน?

ระบบ​ศาล​ของ​บาง​ประเทศ​ใช้​คณะ​ลูก​ขุน​ที่​เลือก​จาก​พลเรือน. ใน​ที่​ที่​มี​การ​ใช้​ระบบ​นี้ คริสเตียน​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ตอบรับ​อย่าง​ไร​เมื่อ​มี​คำ​สั่ง​ให้​ไป​รายงาน​ตัว​เพื่อ​ทำ​หน้า​ที่​คณะ​ลูก​ขุน. คริสเตียน​หลาย​คน​ลง​ความ​เห็น​อย่าง​มี​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ดี​ว่า หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ห้าม​การ​ไป​ปรากฏ​ตัว ดัง​ที่ ซัดรัค, เมเซ็ค, และ​อะเบ็ดนะโค ยอม​ตาม​คำ​สั่ง​ของ​รัฐบาล​บาบูโลน​ที่​ให้​ไป​ปรากฏ​ตัว ณ ทุ่ง​ราบ​ดูรา และ​ดัง​ที่​โยเซฟ​กับ​มาเรีย​ไป​เบธเลเฮม​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง​ของ​เจ้าหน้าที่​โรม. (ดานิเอล 3:1-12; ลูกา 2:1-4) กระนั้น มี​ปัจจัย​หลาย​อย่าง​ที่​คริสเตียน​ผู้​จริง​ใจ​สามารถ​พิจารณา​ได้.

ไม่​ใช่​ทุก​แห่ง​ใช้​คณะ​ลูก​ขุน. ใน​บาง​ประเทศ คดี​แพ่ง​และ​คดี​อาญา​ตัดสิน​โดย​ผู้​พิพากษา​อาชีพ​หรือ​คณะ​ผู้​พิพากษา. ส่วน​ที่​อื่น ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ว่า​นิยม​ใช้​กฎหมาย​จารีต​ประเพณี คณะ​ลูก​ขุน​จะ​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ระบบ​ศาล. กระนั้น คน​ส่วน​ใหญ่​แทบ​ไม่​มี​ความ​รู้​ว่า​สมาชิก​ลูก​ขุน​ได้​รับ​การ​เลือก​อย่าง​ไร และ​พวก​เขา​ทำ​อะไร​บ้าง. ดัง​นั้น การ​มี​ภาพ​รวม​จะ​เป็น​ประโยชน์ ไม่​ว่า​คุณ​จะ​ถูก​เรียก​ให้​ทำ​หน้า​ที่​ลูก​ขุน​หรือ​ไม่.

ไพร่พล​ของ​พระเจ้า​ยอม​รับ​พระ​ยะโฮวา​ฐานะ​เป็น​ผู้​พิพากษา​สูง​สุด. (ยะซายา 33:22, ฉบับ​แปล​เก่า​ข้อ 23) ใน​ประเทศ​ยิศราเอล​โบราณ ชาย​ที่​มี​ประสบการณ์​ซึ่ง​เที่ยงธรรม​และ​ไม่​ลำเอียง​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ผู้​พิพากษา​แก้​ข้อ​พิพาท​และ​ตัดสิน​ปัญหา​ต่าง ๆ ทาง​กฎหมาย. (เอ็กโซโด 18:13-22; เลวีติโก 19:15; พระ​บัญญัติ 21:18-21) พอ​ถึง​สมัย​ที่​พระ​เยซู​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก หน้า​ที่​ตัดสิน​คดีความ​ดำเนิน​การ​โดย​ศาล​สูง​ซันเฮดริน​ของ​พวก​ยิว. (มาระโก 15:1; กิจการ 5:27-34) ไม่​มี​การ​จัด​เตรียม​เพื่อ​ให้​ชาว​ยิว​ทั่ว​ไป​เข้า​มา​เป็น​คณะ​ลูก​ขุน​พลเรือน.

ประเทศ​อื่น ๆ ใช้​คณะ​ลูก​ขุน​ที่​เลือก​จาก​พลเรือน. โสกราตีส​ถูก​พิจารณา​คดี​โดย​ลูก​ขุน 501 คน. ใน​สาธารณรัฐ​โรม​ก็​มี​การ​พิจารณา​คดี​โดย​คณะ​ลูก​ขุน​เช่น​กัน แต่​วิธีการ​นี้​ถูก​ยก​เลิก​เมื่อ​มี​การ​ปกครอง​โดย​จักรพรรดิ. ต่อ​มา กษัตริย์​เฮนรี​ที่ 3 แห่ง​อังกฤษ​ได้​จัด​ให้​มี​การ​ตัดสิน​จำเลย​โดย​เพื่อน​บ้าน​ของ​ตน. คิด​กัน​ว่า เนื่อง​จาก​พวก​เขา​รู้​จัก​จำเลย การ​พิพากษา​ตัดสิน​คง​จะ​ยุติธรรม​กว่า​วิธีการ​ที่​ให้​จำเลย​พยายาม​พิสูจน์​ความ​บริสุทธิ์​ของ​ตน​เอง​โดย​การ​ต่อสู้​หรือ​โดย​การ​รอด​ชีวิต​จาก​พิสูทธกรรม​บาง​อย่าง (วิธี​พิสูจน์​ความ​บริสุทธิ์​ใน​ยุค​มืด). เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป ระบบ​ลูก​ขุน​ได้​เปลี่ยน​สู่​การ​จัด​เตรียม​ให้​มี​ประชา​ชน​กลุ่ม​หนึ่ง​เข้า​ฟัง​การ​พิจารณา​คดี​และ​ให้​คำ​ตัดสิน​ชี้ขาด​โดย​อาศัย​หลักฐาน​ที่​ปรากฏ. ผู้​พิพากษา​อาชีพ​คน​หนึ่ง​จะ​ชี้​นำ​พวก​เขา​ให้​เห็น​จุด​ต่าง ๆ ของ​หลักฐาน.

มี​คณะ​ลูก​ขุน, จำนวน​ลูก​ขุน, และ​สิ่ง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ให้​คำ​ตัดสิน​ชี้ขาด หลาก​หลาย​รูป​แบบ. ตัว​อย่าง​เช่น ใน​สหรัฐ คณะ​ลูก​ขุน​ใหญ่​ซึ่ง​มี​จำนวน​สมาชิก​ตั้ง​แต่ 12 ถึง 23 คน จะ​ตัดสิน​ว่า​มี​พยาน​หลักฐาน​เพียง​พอ​หรือ​ไม่​ที่​จะ​ดำเนิน​คดี​บุคคล​หนึ่ง​เนื่อง​ด้วย​กระทำ​ผิด​ทาง​อาญา; ไม่​ได้​ตัดสิน​ว่า​มี​ความ​ผิด​หรือ​บริสุทธิ์. ทำนอง​คล้ายคลึง​กัน ใน​คณะ​ลูก​ขุน​ชันสูตร​ศพ (คณะ​ลูก​ขุน​ไต่สวน​คดี) ลูก​ขุน​จะ​ชั่ง​ดู​พยาน​หลักฐาน​เพื่อ​ตัดสิน​ว่า​เป็น​การ​กระทำ​ผิด​ทาง​อาญา​หรือ​ไม่.

เมื่อ​ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​คิด​ถึง​คณะ​ลูก​ขุน พวก​เขา​นึก​ถึง​บุคคล​คณะ​หนึ่ง​ประกอบ​ด้วย​พลเรือน 12 คน ณ การ​พิจารณา​คดี—ไม่​ว่า​จะ​เป็น​คดี​แพ่ง​หรือ​อาญา—นั่ง​ฟัง​คำ​ให้​การ​เพื่อ​ตัดสิน​ว่า​มี​ความ​ผิด​หรือ​บริสุทธิ์. นี่​คือ​คณะ​ลูก​ขุน​น้อย (ขนาด​เล็ก) เมื่อ​เทียบ​กับ​คณะ​ลูก​ขุน​ใหญ่. โดย​ทั่ว​ไป ศาล​จะ​ส่ง​ใบ​แจ้ง​ให้​ไป​ปรากฏ​ตัว​เพื่อ​ทำ​หน้า​ที่​ลูก​ขุน​แก่​บุคคล​ต่าง ๆ ที่​เลือก​จาก​ราย​ชื่อ​ผู้​มี​สิทธิ์​ลง​คะแนน​เสียง​เลือก​ตั้ง, คน​ขับ​รถ​ที่​มี​ใบ​อนุญาต​ขับ​ขี่, หรือ​อะไร​ทำนอง​นี้. บาง​คน​อาจ​จะ​ถูก​ตัด​สิทธิ์​โดย​อัตโนมัติ เช่น นัก​โทษ​อุก​ฉกรรจ์​ที่​ได้​รับ​การ​ตัดสิน​ลง​โทษ​แล้ว และ​ผู้​ไร้​สมรรถภาพ​ทาง​จิตใจ. คน​อื่น ๆ เช่น แพทย์, นัก​บวช, นัก​กฎหมาย, หรือ​เจ้าของ​ธุรกิจ​ขนาด​เล็ก อาจ​ขอ​การ​ยก​เว้น​ได้ ขึ้น​อยู่​กับ​กฎหมาย​ท้องถิ่น. (บาง​คน​อาจ​ได้​รับ​การ​ยก​เว้น​เนื่อง​จาก​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ส่วน​ตัว​ของ​ตน​คัดค้าน​อย่าง​แข็งแรง​ไม่​ให้​รับ​หน้า​ที่​คณะ​ลูก​ขุน.) อย่าง​ไร​ก็​ดี พวก​เจ้าหน้าที่​ตัด​ข้อ​ยก​เว้น​ออก​ไป​เรื่อย ๆ เพื่อ​ให้​ทุก​คน​มี​พันธะ​ต้อง​ไป​รายงาน​ตัว​เพื่อ​ทำ​หน้า​ที่​ลูก​ขุน บาง​ที​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก​เป็น​เวลา​หลาย​ปี.

ไม่​ใช่​ทุก​คน​ที่​ไป​รายงาน​ตัว​เพื่อ​ทำ​หน้า​ที่​คณะ​ลูก​ขุน​จะ​ต้อง​นั่ง​พิจารณา​คดี​ฐานะ​สมาชิก​ลูก​ขุน. จาก​กลุ่ม​บุคคล​ที่​เรียก​มา​สำรอง​ไว้​เพื่อ​ทำ​หน้า​ที่​ลูก​ขุน บาง​คน​จะ​ถูก​เลือก​แบบ​สุ่ม​ให้​เป็น​ผู้​อาจ​จะ​ได้​ทำ​หน้า​ที่​ลูก​ขุน​สำหรับ​คดี​ใด​คดี​หนึ่ง​โดย​เฉพาะ. แล้ว​ผู้​พิพากษา​ก็​จะ​ระบุ​คู่​กรณี​ทั้ง​โจทก์​และ​จำเลย และ​ทนาย​ความ​ของ​เขา อีก​ทั้ง​อธิบาย​ลักษณะ​เฉพาะ​ของ​คดี. ผู้​พิพากษา​และ​ทนาย​ความ​จะ​ตรวจ​สอบ​ผู้​จะ​เป็น​ลูก​ขุน​แต่​ละ​คน. ตอน​นี้​แหละ​เป็น​เวลา​ชี้​แจง​หาก​คน​หนึ่ง​คน​ใด​มี​เหตุ​ผล​ทาง​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ไม่​ขอ​รับ​หน้า​ที่​เนื่อง​จาก​ลักษณะ​ของ​คดี​นั้น.

กลุ่ม​ผู้​จะ​เป็น​ลูก​ขุน​ก็​จำเป็น​ต้อง​ลด​จำนวน​เหลือ​แค่​ผู้​จะ​นั่ง​ฟัง​จริง ๆ ตลอด​การ​พิจารณา​คดี​นั้น. คน​ใด​ที่​อาจ​จะ​มี​ปัญหา​เรื่อง​ความ​เป็น​กลาง​ซึ่ง​อาจ​เป็น​ได้​เนื่อง​จาก​ปักใจ​กับ​คดี​นั้น​เป็น​พิเศษ ผู้​พิพากษา​จะ​คัด​ออก​ไป. ทนาย​ความ​ของ​ทั้ง​สอง​ฝ่าย​ก็​มี​สิทธิ์​คัด​ลูก​ขุน​บาง​คน​ออก​เช่น​กัน. คน​ใด​ที่​ถูก​คัด​ออก​จาก​คณะ​ลูก​ขุน​นั้น​จะ​กลับ​ไป​อยู่​ใน​กลุ่ม​ลูก​ขุน​สำรอง​เพื่อ​รอ​การ​สุ่ม​เลือก​สำหรับ​คดี​อื่น. ใน​สถานการณ์​นี้ คริสเตียน​บาง​คน​ได้​ถือ​โอกาส​ให้​คำ​พยาน​อย่าง​ไม่​เป็น​ทาง​การ. หลัง​จาก​ผ่าน​ไป​ระยะ​หนึ่ง การ​ทำ​หน้า​ที่​ลูก​ขุน​ก็​เป็น​อัน​เสร็จ​สิ้น ไม่​ว่า​เขา​ได้​นั่ง​เป็น​ลูก​ขุน​จริง ๆ หรือ​ไม่​ก็​ตาม.

คริสเตียน​พยายาม​จะ “ทำ​กิจ​ธุระ​ของ​ตน​เอง” ไม่​เข้า​ไป​ยุ่ง​เกี่ยว “ธุระ​ของ​คน​อื่น.” (1 เธซะโลนิเก 4:11; 1 เปโตร 4:15) เมื่อ​ชาว​ยิว​คน​หนึ่ง​ขอ​ให้​พระ​เยซู​ตัดสิน​เรื่อง​มรดก พระองค์​ตอบ​ดัง​นี้: “บุรุษ​เอ๋ย, ใคร​ได้​ตั้ง​เรา​ให้​เป็น​ตระลาการ. และ​เป็น​ผู้​แบ่ง​มฤดก​ให้​ท่าน?” (ลูกา 12:13, 14) พระ​เยซู​เสด็จ​มา​เพื่อ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร ไม่​ใช่​มา​ตัดสิน​เรื่อง​ทาง​กฎหมาย. (ลูกา 4:18, 43) คำ​ตอบ​ของ​พระ​เยซู​อาจ​กระตุ้น​ให้​ชาย​คน​นั้น​ใช้​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​เป็น​วิธี​ยุติ​ข้อ​พิพาท. (พระ​บัญญัติ 1:16, 17) แม้​การ​ทำ​เช่น​นี้​มี​เหตุ​ผล แต่​การ​ตอบรับ​คำ​สั่ง​ให้​ไป​รายงาน​ตัว​เพื่อ​ทำ​หน้า​ที่​คณะ​ลูก​ขุน​แตกต่าง​จาก​การ​เอา​ตัว​เข้า​ไป​ยุ่ง​กับ​ธุระ​ของ​คน​อื่น. เรื่อง​นี้​คล้ายคลึง​กว่า​เมื่อ​เทียบ​กับ​สถานการณ์​ของ​สหาย​สาม​คน​ของ​ดานิเอล. รัฐบาล​บาบูโลน​มี​คำ​สั่ง​ให้​พวก​เขา​ไป​รายงาน​ตัว ณ ที่​ราบ​ดูรา และ​การ​ทำ​เช่น​นั้น​ไม่​ขัด​กับ​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า. สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ทำ​หลัง​จาก​นั้น​เป็น​คน​ละ​เรื่อง ดัง​คัมภีร์​ไบเบิล​แสดง​ให้​เห็น.—ดานิเอล 3:16-18.

หลัง​จาก​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ไม่​อยู่​ภาย​ใต้​กฎหมาย​ของ​โมเซ​อีก​ต่อ​ไป พวก​เขา​ต้อง​ติด​ต่อ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ศาล​ฝ่าย​โลก​ใน​ประเทศ​ต่าง ๆ. อัครสาวก​เปาโล​กระตุ้น​เตือน “สิทธชน” ใน​ประชาคม​โกรินโธ​ให้​จัด​การ​ปัญหา​เรื่อง​ความ​แตก​แยก​เป็น​การ​ภาย​ใน. แม้​จะ​อ้าง​ถึง​ระบบ​ศาล​ฝ่าย​โลก​ว่า​เป็น “คน​อธรรม” แต่​เปาโล​ก็​ไม่​ปฏิเสธ​ว่า​ศาล​ดัง​กล่าว​มี​หน้า​ที่​จัด​การ​กับ​กิจ​ธุระ​ฝ่าย​โลก. (1 โกรินโธ 6:1) ท่าน​แก้​คดี​ให้​ตัว​เอง​โดย​อาศัย​ระบบ​ศาล​ของ​โรม กระทั่ง​อุทธรณ์​ต่อ​กายะซา. โดย​พื้น​ฐาน​แล้ว​ศาล​ฝ่าย​โลก​ดู​จะ​ไม่​ใช่​สิ่ง​ผิด.—กิจการ 24:10; 25:10, 11.

ศาล​ฝ่าย​โลก​เป็น​ภารกิจ​หนึ่ง​ของ “อำนาจ​ที่​สูง​กว่า.” อำนาจ​นี้ “ตั้ง​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​สูง​ต่ำ​โดย​พระเจ้า” และ​พวก​เขา​ออก​กฎหมาย​ต่าง ๆ และ​บังคับ​ใช้​กฎหมาย​เหล่า​นั้น. เปาโล​เขียน​ว่า “อำนาจ​นั้น​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​ท่าน​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​ท่าน. แต่​ถ้า​ท่าน​กระทำ​การ​ชั่ว ก็​จง​กลัว: เพราะ​อำนาจ​นั้น​หา​ได้​ถือ​ดาบ​โดย​ไม่​มี​จุด​มุ่ง​หมาย​ไม่; เพราะ​อำนาจ​นั้น​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า เป็น​ผู้​แก้​แค้น​ลง​พระ​อาชญา​แก่​คน​กระทำ​ชั่ว.” คริสเตียน​ไม่ “ต่อ​ต้าน​อำนาจ​นั้น” ขณะ​ที่​อำนาจ​ดัง​กล่าว​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​ตาม​กฎหมาย เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ไม่​ต้องการ “ต่อ​ต้าน​การ​จัด​เตรียม” และ​ได้​รับ​การ​พิพากษา.—โรม 13:1-4, ล.ม.; ติโต 3:1.

คริสเตียน​ควร​พิจารณา​ด้วย​ทัศนะ​ที่​สมดุล​ว่า ตน​สามารถ​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง​อย่าง​ใด​อย่าง​หนึ่ง​ของ​กายะซา​ได้​หรือ​ไม่. เปาโล​แนะ​นำ​ว่า “จง​ให้​แก่​ทุก​คน [อำนาจ​ที่​สูง​กว่า] ตาม​ที่​เขา​ควร​ได้​รับ ผู้​ใด​เรียก​ร้อง​ภาษี จง​ให้​ภาษี; ผู้​ใด​เรียก​ร้อง​ส่วย จง​ให้​ส่วย; ผู้​ใด​เรียก​ร้อง​ความ​เกรง​กลัว จง​ให้​ความ​เกรง​กลัว.” (โรม 13:7, ล.ม.) นั่น​เป็น​การ​พูด​ตรง​ไป​ตรง​มา​เรื่อง​ภาษี​อากร. (มัดธาย 22:17-21) หาก​กายะซา​บอก​ว่า​พลเมือง​ต้อง​ให้​เวลา​และ​ความ​พยายาม​ของ​ตน​ใน​การ​ทำ​ความ​สะอาด​ถนน หรือ​ทำ​งาน​อื่น ๆ ซึ่ง​อยู่​ใน​การ​ควบคุม​ดู​แล​ของ​กายะซา คริสเตียน​แต่​ละ​คน​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ยอม​เชื่อ​ฟัง​หรือ​ไม่.—มัดธาย 5:41.

คริสเตียน​บาง​คน​มอง​ว่า การ​เป็น​ลูก​ขุน​เป็น​การ​ให้​ของ​ของ​กายะซา​แก่​กายะซา. (ลูกา 20:25) หน้า​ที่​ของ​ลูก​ขุน​คือ​รับ​ฟัง​พยาน​หลักฐาน​และ​ให้​ความ​คิด​เห็น​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​เกี่ยว​ด้วย​ประเด็น​ต่าง ๆ ของ​ข้อ​เท็จ​จริง​หรือ​กฎหมาย. ตัว​อย่าง​เช่น ใน​คณะ​ลูก​ขุน​ใหญ่ คณะ​ลูก​ขุน​ตัดสิน​ว่า​มี​พยาน​หลักฐาน​พอ​จะ​มัด​ตัว​คน​ใด ๆ สู่​การ​พิจารณา​คดี​หรือ​ไม่; พวก​เขา​ไม่​ได้​ตัดสิน​ว่า​มี​ความ​ผิด. จะ​ว่า​อย่าง​ไร​กับ​การ​พิจารณา​คดี​ร่วม? ใน​คดี​แพ่ง คณะ​ลูก​ขุน​อาจ​ตัดสิน​ให้​จ่าย​ค่า​เสียหาย​หรือ​เงิน​ชดเชย. ใน​คดี​อาญา พวก​เขา​จะ​ต้อง​ตัดสิน​ว่า​มี​หลักฐาน​พอ​จะ​ชี้ขาด​ว่า​มี​ความ​ผิด​หรือ​ไม่. บาง​ครั้ง​พวก​เขา​เสนอ​แนะ​ว่า​ควร​ใช้​บทลงโทษ​สถาน​ใด​ตาม​ที่​กฎหมาย​ระบุ​ไว้. ครั้น​แล้ว รัฐบาล​ก็​จะ​ใช้​อำนาจ​รัฐ “ลง​พระ​อาชญา​แก่​คน​กระทำ​ชั่ว” หรือ “ลง​โทษ​ผู้​ที่​กระทำ​ชั่ว.”—1 เปโตร 2:14 ล.ม.

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​ถ้า​คริสเตียน​คน​หนึ่ง​รู้สึก​ว่า สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เขา​ไม่​อนุญาต​ให้​ทำ​หน้า​ที่​ใน​คณะ​ลูก​ขุน​สำหรับ​คดี​หนึ่ง? คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​กล่าว​ถึง​หน้า​ที่​ลูก​ขุน ดัง​นั้น​เขา​ไม่​อาจ​พูด​ว่า ‘การ​ทำ​หน้า​ที่​ใน​คณะ​ลูก​ขุน​ขัด​แย้ง​กับ​ศาสนา​ของ​ผม.’ เขา​อาจ​กล่าว​ว่า การ​เป็น​ลูก​ขุน​ใน​คดี​นี้​ขัด​กับ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ส่วน​ตัว​ของ​เขา ทั้ง​นี้​ขึ้น​อยู่​กับ​คดี​นั้น ๆ. อาจ​เป็น​เช่น​นี้​ได้​หาก​คดี​ดัง​กล่าว​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ผิด​ศีลธรรม​ทาง​เพศ, การ​ทำ​แท้ง, การ​ฆ่า​คน, หรือ​ประเด็น​อื่น ซึ่ง​ความ​คิด​ของ​เขา​ถูก​นวด​ปั้น​จาก​ความ​รู้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล ไม่​ใช่​แค่​กฎหมาย​ฝ่าย​โลก​เท่า​นั้น. แต่​ใน​ความ​เป็น​จริง​แล้ว เป็น​ไป​ได้​มาก​ที​เดียว​ที่​เขา​จะ​ไม่​ถูก​คัดเลือก​ให้​ทำ​หน้า​ที่​พิจารณา​คดี​อัน​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ประเด็น​เช่น​ว่า​นี้.

คริสเตียน​ที่​อาวุโส​คง​จะ​ใคร่ครวญ​เช่น​กัน​ว่า เขา​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​รับผิดชอบ​ใด ๆ หรือ​ไม่​ใน​การ​ตัดสิน​ลง​โทษ​ที่​ดำเนิน​การ​โดย​ผู้​พิพากษา. (เทียบ​กับ​เยเนซิศ 39:17-20; 1 ติโมเธียว 5:22.) ถ้า​การ​ตัดสิน​ชี้ขาด​ว่า​มี​ความ​ผิด​นั้น​ผิด​พลาด และ​มี​การ​ลง​โทษ​ประหาร​ชีวิต คริสเตียน​ที่​เป็น​ลูก​ขุน​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​ความ​ผิด​ฐาน​ทำ​ให้​โลหิต​ตก​ไหม? (เอ็กโซโด 22:2; พระ​บัญญัติ 21:8; 22:8; ยิระมะยา 2:34; มัดธาย 23:35; กิจการ 18:6) ใน​การ​พิจารณา​คดี​ของ​พระ​เยซู ปีลาต​ต้องการ “ปราศจาก​เลือด​ของ​คน​ชอบธรรม.” พวก​ยิว​พูด​อย่าง​เต็ม​ใจ​ว่า “ให้​เลือด​ของ​เขา​ตก​อยู่​บน​เรา, ทั้ง​บุตร​ของ​เรา​ด้วย.”—มัดธาย 27:24, 25.

ถ้า​คริสเตียน​คน​ใด​รายงาน​ตัว​เพื่อ​ทำ​หน้า​ที่​คณะ​ลูก​ขุน​ตาม​คำ​สั่ง​ของ​รัฐบาล แต่​เนื่อง​จาก​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ส่วน​ตัว​เขา​ปฏิเสธ​ทำ​หน้า​ที่​ใน​คดี​ใด​คดี​หนึ่ง​ทั้ง ๆ ที่​ผู้​พิพากษา​จะ​ยืนกราน​ก็​ตาม คริสเตียน​คน​นั้น​ควร​เตรียม​พร้อม​ที่​จะ​เผชิญ​ผล​สืบ​เนื่อง—ไม่​ว่า​การ​ถูก​ปรับ​หรือ​ถูก​จำ​คุก.—1 เปโตร 2:19.

ใน​การ​วิเคราะห์​ขั้น​สุด​ท้าย คริสเตียน​แต่​ละ​คน​ซึ่ง​ถูก​เรียก​ให้​ทำ​หน้า​ที่​คณะ​ลูก​ขุน​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ดำเนิน​การ​อย่าง​ไร โดย​อาศัย​ความ​เข้าใจ​ของ​ตน​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​ตัว​เอง. คริสเตียน​บาง​คน​ได้​ไป​รายงาน​ตัว​เพื่อ​ทำ​หน้า​ที่​คณะ​ลูก​ขุน​และ​นั่ง​เป็น​ลูก​ขุน​ใน​บาง​คดี. ส่วน​คน​อื่น​รู้สึก​ว่า จะ​ต้อง​ปฏิเสธ​แม้​เผชิญ​การ​ลง​โทษ​ก็​ตาม. คริสเตียน​แต่​ละ​คน​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ด้วย​ตน​เอง​ว่า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร และ​คน​อื่น ๆ ไม่​ควร​วิจารณ์​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​เขา.—ฆะลาเตีย 6:5.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์