คริสต์มาสในประเทศทางตะวันออก
• ประมาณสองร้อยปีมาแล้ว ผู้คงแก่เรียนชาวเกาหลีที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งได้ไปเยือนกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน. เมื่อจ้องมองภาพสีน้ำมันบนเพดานของโบสถ์ใหญ่ เขาเห็นภาพมาเรียพร้อมด้วยพระกุมารเยซูอยู่ในอ้อมแขน. เขากล่าวถึงภาพอันชวนให้ตื่นตะลึงนี้ว่า:
“สุภาพสตรีคนหนึ่งอุ้มเด็กที่ดูท่าทางอมโรค อายุราว ๆ ห้าหรือหกขวบอยู่บนตักเธอ. ดูเหมือนว่าเธอไม่มีแรงเงยหน้าขึ้น คล้ายกับว่าเธอทนไม่ได้ที่จะจ้องมองบุตรชายด้วยความสงสาร. และไกลออกไปข้างหลังเธอกับลูก มีวิญญาณล่องลอยอยู่มากมายและทูตสวรรค์ตัวน้อย ๆ บินไปมา. ขณะที่ผมจ้องมองภาพที่อยู่ข้างบนผม ดูประหนึ่งว่าพวกนั้นจะตกลงมาบนผมเมื่อไรก็ได้. ด้วยความตกตะลึง ผมยื่นมือออกไปคว้าตัวพวกเขา.”
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนานหลังจากการปฏิรูปคริสต์ศาสนาเริ่มในยุโรป ภายหลังสมัยที่มืดมนในยุคกลางเป็นเวลานาน. แต่สำหรับชาวตะวันออกส่วนใหญ่ ศาสนาคริสเตียนไม่เป็นที่คุ้นเคยเหมือนกับภาพสีน้ำมันดังกล่าวนั่นเอง. สภาพการณ์ได้เปลี่ยนไปสักเพียงไร! ในเทศกาลคริสต์มาสทุกครั้ง มีการแสดงภาพกุมารเยซูอย่างเด่นชัด. ประเทศทางตะวันออกกลับคุ้นเคยกับภาพเหตุการณ์ดังกล่าว และถนนหลายสายมีการประดับตกแต่งคล้ายกับในยุโรป.
ในตอนเย็นวันที่ 25 พฤศจิกายน 1998 หนึ่งเดือนก่อนคริสต์มาส มีการจุดไฟสว่างไสวโดยใช้หลอดไฟฟ้ากลมมากกว่า 100,000 หลอดบนต้นไม้ 300 ต้นที่เรียงรายอยู่บน ชอง เซลีเซ ถนนสายโด่งดังในกรุงปารีส. เช่นเดียวกัน บนถนนสายหนึ่งย่านศูนย์การค้าในกรุงโซล ประเทศเกาหลี ห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งได้ตั้งต้นคริสต์มาสมหึมาไว้อย่างโดดเด่นและเริ่มทำให้ค่ำคืนในเมืองหลวงแห่งนั้นสว่างจ้า. ไม่ช้า ถนนต่าง ๆ ในเมืองก็ประดับประดาด้วยเครื่องตกแต่งสำหรับคริสต์มาส.
โทรทัศน์, วิทยุ และหนังสือพิมพ์เสนอรายการเกี่ยวกับคริสต์มาสวันแล้ววันเล่า. โดยได้รับการกระตุ้นจากบรรยากาศคริสต์มาส คนทั้งประเทศสาละวนอยู่กับการต้อนรับวันส่งท้ายปีเก่า. โบสถ์ต่าง ๆ ในกรุงโซล ซึ่งมีจำนวนที่ทำให้ผู้มาเยือนหลายคนแปลกใจ ได้ประดับตกแต่งด้วยความรีบเร่ง. ดังนั้น เกาหลีและประเทศอื่น ๆ ทางตะวันออกถูกครอบงำด้วยอารมณ์สนุกสนานของคริสต์มาสราว ๆ ช่วงเวลาที่ประเทศสหรัฐหมกมุ่นกับการฉลองวันขอบคุณพระเจ้าตอนปลายเดือนพฤศจิกายน.
ประเทศส่วนใหญ่ทางตะวันออกไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคริสต์ศาสนจักร. ยกตัวอย่างเช่น เพียง 26.3 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเกาหลีอ้างว่าเป็นคริสเตียน. ในฮ่องกงมี 7.9 เปอร์เซ็นต์, ในไต้หวัน 7.4 เปอร์เซ็นต์, และในญี่ปุ่นมีเพียง 1.2 เปอร์เซ็นต์. ปรากฏชัดว่า ชาวตะวันออกส่วนใหญ่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสเตียน แต่พวกเขาดูเหมือนไม่คัดค้านการฉลองคริสต์มาส. ที่จริง บ่อยครั้งพวกเขาดูเหมือนจะกระตือรือร้นในการฉลองนั้นมากกว่าชาวตะวันตกผู้ที่เขาลอกเลียนแบบนั้น. ตัวอย่างเช่น ฮ่องกงมีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการฉลองคริสต์มาสที่โอ่อ่าหรูหรา ถึงแม้ประชากรส่วนใหญ่ถ้าไม่นับถือศาสนาพุทธก็นับถือลัทธิเต๋า. แม้แต่ในประเทศจีน ที่มีเพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นอ้างว่าเป็นคริสเตียน คริสต์มาสก็ยังได้รับความนิยมชมชอบอย่างรวดเร็วทีเดียว.
ทำไมมีการฉลองคริสต์มาสอย่างกว้างขวางจริง ๆ ในประเทศทางตะวันออก? ทำไมผู้คนที่ไม่ได้ยอมรับพระเยซูฐานะพระมาซีฮาจึงมีส่วนร่วมในการฉลองคริสต์มาสซึ่งผู้ที่อ้างว่าเป็นคริสเตียนส่วนใหญ่ถือว่าเป็นวันประสูติของพระองค์? คริสเตียนแท้ควรเลียนแบบทัศนะของพวกเขาในเรื่องคริสต์มาสไหม? เราจะพบคำตอบขณะที่พิจารณาว่าคริสต์มาสกลายเป็นที่นิยมชมชอบในเกาหลีซึ่งเป็นประเทศเก่าแก่ทางตะวันออกได้อย่างไร.