นี่อาจเป็นงานประจำชีพที่ดีที่สุดสำหรับคุณไหม?
หากคุณเป็นคริสเตียนที่รับบัพติสมาแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความรักต่อพระเจ้าย่อมกระตุ้นคุณให้ทำตามพระทัยประสงค์ของพระองค์. นอกจากนั้น งานรับใช้ย่อมต้องเป็นกิจกรรมที่คุณทุ่มเทให้เป็นพิเศษ. ที่จริง พระเยซูคริสต์ทรงมอบหมายสาวกทุกคนของพระองค์ให้เป็นผู้ทำให้คนเป็นสาวก. (มัดธาย 28:19, 20) ในเวลานี้ คุณอาจทำงานฝ่ายโลกเพื่อค้ำจุนตัวคุณเอง. แต่ในฐานะสาวกของพระเยซูและพยานพระยะโฮวา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณเป็นคริสเตียนผู้รับใช้—ผู้ซึ่งถือว่างานประกาศเรื่องราชอาณาจักรเป็นอันดับแรกในชีวิต.—มัดธาย 24:14.
บางที คุณอายุเกือบ ๆ ยี่สิบหรือยี่สิบเศษ. อาจเป็นได้ คุณคิดมาไม่น้อยในเรื่องแนวทางชีวิตที่คุณจะดำเนิน. ในการพิจารณาทางเลือกที่เปิดให้คุณ ความชอบส่วนตัวดูเหมือนว่าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง.
ขอให้พิจารณาคำพูดที่เยิร์นชาวเดนมาร์กกล่าวถึงสิ่งที่เขาเลือก. เยิร์นพรรณนาถึงทางที่เขาเลือกว่าเป็น “แนวทางชีวิตที่เยี่ยมยอดที่สุดซึ่งคุณสามารถจดจ่ออยู่กับงานที่สำคัญที่สุดเท่าที่มีอยู่.” เอวา สตรีอายุ 31 ปีซึ่งอยู่ที่ประเทศกรีซกล่าวว่า “เมื่อเทียบชีวิตของดิฉันกับของเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกัน ดิฉันบอกได้เลยว่าชีวิตดิฉันเปี่ยมความหมายมากกว่า, ประสบความสำเร็จมากกว่า, และน่าตื่นเต้นกว่า.” งานประจำชีพอะไรที่ให้ความอิ่มใจเช่นนั้น? คุณจะดำเนินในแนวทางชีวิตเช่นนั้นได้อย่างไร?
พระเจ้าทรงชี้ทางให้คุณไหม?
การเลือกงานประจำชีพอาจเป็นเรื่องยากทีเดียว. ที่จริง บางคนอาจปรารถนาให้พระเจ้าทรงระบุลงไปชัด ๆ เลยว่าพระองค์ทรงประสงค์ให้เขาทำอะไร.
เมื่อโมเซอยู่ในมิดยาน พระยะโฮวาทรงชี้นำให้ท่านกลับไปที่อียิปต์และนำชนชาติยิศราเอลให้หลุดพ้นจากการเป็นทาส. (เอ็กโซโด 3:1-10) ทูตสวรรค์ของพระเจ้าปรากฏแก่ฆิดโอนผู้ได้รับแต่งตั้งเพื่อช่วยชาติยิศราเอลให้รอดพ้นจากการกดขี่. (วินิจฉัย 6:11-14) ดาวิดกำลังเลี้ยงแกะอยู่เมื่อพระเจ้าทรงมีรับสั่งให้ซามูเอลเจิมท่านเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปของยิศราเอล. (1 ซามูเอล 16:1-13) เราไม่ได้รับการชี้นำแบบนั้นในทุกวันนี้. แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เราจำเป็นต้องใคร่ครวญและตัดสินใจในเรื่องวิธีที่เราจะใช้ความสามารถต่าง ๆ ที่พระเจ้าประทานแก่เรา.
พระยะโฮวาทรงเปิด “ประตูใหญ่ซึ่งนำไปสู่กิจการ” สำหรับหนุ่มสาวคริสเตียนในปัจจุบัน. (1 โกรินโธ 16:9, ล.ม.) เป็นเช่นนั้นอย่างไร? ในช่วงสิบปีที่ผ่านไป จำนวนผู้ประกาศราชอาณาจักรได้เพิ่มขึ้นกว่า 2,125,000 คน จนเวลานี้มีมากกว่า 6,000,000 คนทั่วโลก. ใครช่วยจัดเตรียมคัมภีร์ไบเบิล, หนังสือ, จุลสาร, วารสาร หลายล้านเล่ม รวมถึงแผ่นพับอีกมากมาย ซึ่งจำเป็นสำหรับการค้ำจุนฝ่ายวิญญาณและสำหรับงานประกาศข่าวดีทั่วโลก? สิทธิพิเศษอันเป็นพระพรเช่นนี้เป็นของสมาชิกครอบครัวเบเธลทั่วโลก.
ชีวิตที่อิ่มใจยินดีอย่างยิ่ง
เบเธลหมายความว่า “ราชนิเวศของพระเจ้า” และบ้านเบเธลเป็นที่พักอาศัยของคริสเตียนอาสาสมัครซึ่งรับใช้ที่สำนักงานใหญ่และที่สำนักงานสาขาของสมาคมว็อชเทาเวอร์. (เยเนซิศ 28:19, ล.ม., เชิงอรรถ) ครอบครัวเบเธลในปัจจุบันอาจเทียบได้กับ ‘ครัวเรือนที่ได้รับการเสริมสร้างจากสติปัญญา’ ซึ่งจัดระเบียบไว้อย่างดี และตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความรักต่อพระยะโฮวา.—สุภาษิต 24:3, ล.ม.
อาจกล่าวได้เช่นไรเกี่ยวกับบรรยากาศที่เป็นแบบครอบครัวที่เบเธล? สมาชิกวัย 25 ปีคนหนึ่งของครอบครัวเบเธลที่เอสโตเนียกล่าวว่า “ดิฉันชื่นชมยินดีที่ได้อยู่ในหมู่มิตรสหายของพระยะโฮวาตลอดเวลา. จุดนี้ยังคงเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับดิฉันในการรับใช้ที่เบเธล.”—บทเพลงสรรเสริญ 15:1, 2.
ทั่วโลก มีประมาณ 19,500 คนได้รับสิทธิพิเศษรับใช้ในเบเธล. (บทเพลงสรรเสริญ 110:3) ในสหรัฐ 46 เปอร์เซ็นต์ของคนที่รับใช้อยู่ในเบเธลมีอายุระหว่าง 19 ถึง 29 ปี. เช่นเดียวกับยะซายา พวกเขากล่าวว่า “ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่; ทรงใช้ข้าพเจ้าเถิด.” (ยะซายา 6:8) ยะซายา ซึ่งเป็นผู้ที่อุทิศตัวแด่พระยะโฮวาแล้ว อาสาที่จะรับสิทธิพิเศษแห่งการรับใช้เพิ่มเติม. ดูเหมือนว่าการอาสาที่จะรับใช้เช่นนั้นหมายถึงการที่ต้องเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัวบางอย่าง. ผู้ที่รับใช้ในเบเธลละจากบ้านและสภาพแวดล้อมที่คุ้นชิน รวมถึงต้องจากพ่อแม่, พี่น้อง, และเพื่อน ๆ. พวกเขาเสียสละเช่นนี้อย่างเต็มใจ “เพื่อเห็นแก่ข่าวดี.”—มาระโก 10:29, 30, ล.ม.
การเสียสละเช่นนั้นก่อให้เกิดพระพรฝ่ายวิญญาณมากมายที่เบเธล! สตรีสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกของครอบครัวเบเธลที่รัสเซียอธิบายดังนี้: “ด้วยการเสียสละตัวเอง เราสามารถเรียนรู้หลายสิ่งซึ่งจะช่วยเราที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกใหม่. ดิฉันกล่าวได้เลยว่า สำหรับตัวดิฉันเองแล้ว พระพรของพระยะโฮวามีท่วมท้นยิ่งกว่าการเสียสละของดิฉัน.”—มาลาคี 3:10.
ชีวิตที่เบเธล
ชีวิตที่เบเธลเป็นเช่นไร? สมาชิกครอบครัวเบเธลต่างเห็นพ้องว่าเป็นชีวิตที่ดี, ทำให้อิ่มใจ, กระทั่งน่าตื่นเต้น. เยนส์ ซึ่งอายุ 43 ปี ชื่นชอบการรับใช้ที่เบเธล. เพราะเหตุใด? เขากล่าวว่า “เพราะความรู้สึกที่ว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอันยิ่งใหญ่ในการทำงานสำคัญ. ผมรู้สึกได้ถึงขอบข่ายและความสำคัญแห่งการงานของพระยะโฮวา.”
จากจันทร์ถึงเสาร์ วันที่เบเธลเริ่มด้วยการนมัสการตอนเช้า. การนมัสการดังกล่าวคือการพิจารณาคัมภีร์ไบเบิล นำโดยผู้ปกครองที่มีประสบการณ์. ในเย็นวันจันทร์ มีการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นครอบครัวหนึ่งชั่วโมงโดยใช้วารสารหอสังเกตการณ์ และบางครั้งตามด้วยคำบรรยายที่อาศัยหัวเรื่องตามหลักพระคัมภีร์ที่เหมาะกับครอบครัวเบเธลโดยเฉพาะ.
มีการทำอะไรบ้างเมื่อมีคนใหม่เข้ามาอยู่ในเบเธล? เพื่อแนะนำให้สมาชิกใหม่รู้จักชีวิตในเบเธล พี่น้องชายที่อาวุโสของครอบครัวจะให้คำบรรยายเกี่ยวกับแง่มุมต่าง ๆ แห่งการรับใช้ในเบเธล. เป็นเวลาหลายสัปดาห์ในปีแรก สมาชิกใหม่ของครอบครัวเบเธลจะเข้าร่วมโรงเรียนสัปดาห์ละครั้งซึ่งจัดไว้อย่างดีเยี่ยมเพื่อขยายความเข้าใจในพระคัมภีร์ของเขาให้กว้างขึ้น. นอกจากนี้ ยังมีกำหนดการพิเศษสำหรับผู้เข้าใหม่ที่จะอ่านคัมภีร์ไบเบิล. ในช่วงปีแรกที่รับใช้ในเบเธล สมาชิกใหม่ของครอบครัวจะอ่านคัมภีร์ไบเบิลทั้งเล่มให้จบ.
ผลของการฝึกอบรมทั้งหมดนี้เป็นเช่นไร? โจชัว วัย 33 ปีซึ่งเป็นสมาชิกครอบครัวเบเธลที่ฮ่องกงตอบคำถามนี้ว่า “เบเธลได้ทำให้ผมหยั่งรู้ค่าพระยะโฮวาลึกซึ้งยิ่งขึ้นอย่างแท้จริง. ผมสามารถคบหากับพี่น้องหลาย ๆ คนที่มีประสบการณ์ซึ่งได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตรับใช้พระยะโฮวา. ผมชื่นชอบรายการต่าง ๆ ฝ่ายวิญญาณเป็นพิเศษ เช่น การนมัสการตอนเช้าและการศึกษาวารสารหอสังเกตการณ์ ของครอบครัว. นอกจากนั้น ผมยังชอบวิถีชีวิตที่เป็นระเบียบและเรียบง่าย. วิถีชีวิตแบบนี้ทำให้ผมไม่ต้องกังวลโดยไม่จำเป็น. ผมยังเรียนวิธีรับมือในเรื่องต่าง ๆ แบบคริสเตียน และปรากฏว่านั่นเป็นประโยชน์เสมอ.”
สมาชิกครอบครัวเบเธลใช้เวลาและความพยายามส่วนใหญ่ทำสิ่งที่เขาอาสาสมัครเข้ามาทำ. นั่นคือ การใช้กำลังความสามารถทั้งกายและใจเพื่อเอาใจใส่หน้าที่มอบหมายที่ได้รับ ณ เบเธลเป็นอันดับแรก. มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จำเป็นต้องทำ. บางคนทำงานที่เครื่องพิมพ์หรืองานเข้าปกหนังสือ ทำหนังสือซึ่งถูกจัดส่งไปให้ประชาคมต่าง ๆ มากมาย. บางคนรับใช้ในครัว, ห้องรับประทานอาหาร, หรือห้องซักรีด. งานมอบหมายยังรวมไปถึงการทำความสะอาด, การทำสวน, งานก่อสร้างและอื่น ๆ. บางคนมีหน้าที่รับผิดชอบในการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ ในแผนกเหล่านี้. คนอื่น ๆ ให้การดูแลด้านสุขภาพหรือทำงานในสำนักงาน. งานมอบหมายทุกอย่างในเบเธลนับเป็นข้อท้าทายที่น่ายินดีและให้ผลตอบแทนที่เยี่ยมยอด. งานซึ่งทำกันในเบเธลให้ความอิ่มใจเป็นพิเศษ เนื่องจากงานนี้ส่งเสริมผลประโยชน์ของราชอาณาจักรและทำด้วยความรักที่มีต่อพระเจ้า.
สมาชิกครอบครัวเบเธลได้รับมอบหมายให้สมทบกับประชาคมต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาได้ประสบด้วยตัวเองถึงผลประโยชน์ของการงานที่เขาทำ. พวกเขาชื่นชมยินดีที่ได้เข้าร่วมการประชุมที่ประชาคมและมีส่วนร่วมในงานประกาศ. ผลคือ สมาชิกครอบครัวเบเธลได้พัฒนาสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพี่น้องชายหญิงในประชาคมท้องถิ่น.—มาระโก 10:29, 30.
คันบิ สมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวเบเธลที่บริเตน กล่าวว่า “ดิฉันหยั่งรู้ค่าประชาคมมาก! เมื่อดิฉันอยู่ ณ การประชุมและในงานรับใช้ ดิฉันได้รับการเสริมสร้างความเชื่ออย่างมากที่เห็นพี่น้องที่รัก ซึ่งก็รวมทั้งเด็กและผู้สูงอายุ อยู่พร้อมหน้ากันที่นั่น! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาอยู่ที่นั่น. นั่นช่วยดิฉันให้กระตือรือร้นมากขึ้นในการรับใช้ที่เบเธล.”
ชีวิตที่เบเธลไม่ได้มีแต่งาน, การประชุม, การประกาศ, และการศึกษาเท่านั้น. ครอบครัวเบเธลเพลิดเพลินกับช่วงเวลาที่ผ่อนคลายด้วยเช่นกัน. เป็นครั้งคราว มีการจัดงาน “คืนของครอบครัว” ที่ให้ทั้งความบันเทิงและความสดชื่นฝ่ายวิญญาณ ซึ่งเปิดโอกาสให้ได้ชื่นชมทักษะความสามารถของหลายคนและเรียนรู้หลายสิ่งที่ให้กำลังใจเกี่ยวกับชีวิตของคนอื่น ๆ ซึ่งรับใช้ที่เบเธล. ที่น่าเพลิดเพลินด้วยได้แก่การสังสรรค์ที่ดีงามและเสริมสร้าง. อาจมีการจัดสถานที่และอุปกรณ์สำหรับนันทนาการบางอย่างให้ด้วย เช่นเดียวกับห้องสมุดสำหรับการอ่านและค้นคว้าเป็นส่วนตัว. และอีกอย่างที่ไม่ควรลืมคือการสนทนาที่น่าเพลิดเพลินรอบโต๊ะรับประทานอาหาร.
ทอม สมาชิกครอบครัวเบเธลที่เอสโตเนีย กล่าวว่า “ห่างจากเบเธลไปแค่ช่วงตึกเดียวก็เป็นทะเล และใกล้ ๆ มีป่าที่สวยงามซึ่งผมกับภรรยาชอบไปเดินเล่นกัน. บางครั้ง ผมเล่นกอล์ฟ, ฮอกกี้, และเทนนิสกับเพื่อน ๆ ในประชาคมและที่เบเธลด้วย. และเมื่อสภาพอากาศอำนวย เราก็ออกไปขี่จักรยานกัน.”
คุณสามารถทำอะไรได้เพื่อจะมีคุณวุฒิ?
แน่นอน ในอันดับแรกเลยนั้นเบเธลเป็นสถานที่ซึ่งคริสเตียนอาวุโสถวายการรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์แด่พระยะโฮวาและทำงานเพื่อประโยชน์ของเพื่อนร่วมความเชื่อตลอดทั่วโลก. คนที่เข้าเป็นสมาชิกครอบครัวเบเธลต้องมีคุณสมบัติบางอย่างตามที่กำหนดไว้. คุณสามารถทำอะไรเพื่อจะมีคุณวุฒิสำหรับการรับใช้ที่เบเธล?
เช่นเดียวกับติโมเธียวซึ่งได้รับใช้ร่วมกับอัครสาวกเปาโล ผู้ที่ได้รับการตอบรับให้รับใช้ที่เบเธลต้องมีฐานะที่ดีในประชาคม. (1 ติโมเธียว 1:1) ติโมเธียว “มีชื่อเสียงดีในท่ามกลางพวกพี่น้องที่อยู่ในเมืองลุศตราและเมืองอิโกนิอัน.” (กิจการ 16:2) แม้ว่าท่านอายุยังน้อย ติโมเธียวมีความรู้ในพระคัมภีร์และมีรากฐานมั่นคงในความจริง. (2 ติโมเธียว 3:14, 15) ในทำนองเดียวกัน การมีความรู้ในคัมภีร์ไบเบิลคือสิ่งที่คาดหมายจากผู้ที่จะได้รับการตอบรับให้ทำงานที่เบเธล.
สมาชิกครอบครัวเบเธลจำต้องมีน้ำใจเสียสละ. น้ำใจเสียสละตัวเองและความเต็มใจให้ผลประโยชน์แห่งราชอาณาจักรมาก่อนผลประโยชน์ของตนเองเห็นได้ชัดในติโมเธียวจนเปาโลกล่าวถึงท่านได้ว่า “ข้าพเจ้าไม่มีผู้ใดที่มีน้ำใจเหมือนติโมเธียวนั้น, ซึ่งจะเอาใจใส่ในการงานของท่านทั้งหลายโดยแท้, เพราะว่าเขาทั้งหลายย่อมแสวงหาสิ่งของของเขาเอง, ไม่ได้แสวงหาสิ่งของของพระเยซูคริสต์. แต่ท่านทั้งหลายทราบคำพยานกล่าวถึงเขาว่า, บุตรย่อมปรนนิบัติบิดาฉันใด, เขาได้ปรนนิบัติด้วยกันกับข้าพเจ้าในการประกาศกิตติคุณฉันนั้น.”—ฟิลิปปอย 2:20-22.
การรับใช้ที่เบเธลเรียกร้องให้ต้องเป็นมนุษย์ฝ่ายวิญญาณ. การจัดเตรียมสำหรับสมาชิกครอบครัวเบเธลทำให้เป็นไปได้ที่พวกเขาจะเติบโตฝ่ายวิญญาณโดยการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล, การเข้าร่วมประชุมคริสเตียนและการรับใช้ในเขตทำงานอย่างสม่ำเสมอ, และการคบหาสมาคมกับคริสเตียนอาวุโส. โดยวิธีนี้ ผู้ที่รับใช้ในเบเธลได้รับการช่วยเหลือให้ทำตามคำแนะนำของเปาโลที่ว่า “จงดำเนินร่วมสามัคคีกับ [พระคริสต์เยซู] ต่อ ๆ ไป หยั่งรากและถูกก่อขึ้นในพระองค์ และตั้งมั่นคงในความเชื่อ เหมือนดังที่ท่านได้รับการสอนแล้ว และเปี่ยมล้นด้วยความเชื่อในการขอบพระคุณ.”—โกโลซาย 2:6, 7, ล.ม.
เนื่องด้วยลักษณะงานที่เบเธล ผู้ที่ได้รับการตอบรับในสิทธิพิเศษแห่งการรับใช้นี้ต้องมีร่างกายแข็งแรงและสุขภาพดี. หากคุณมีคุณสมบัติตามที่เราได้กล่าวไปแล้ว, มีอายุ 19 ปีขึ้นไป, และรับบัพติสมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งปี เราขอสนับสนุนคุณให้คิดถึงการรับใช้ที่เบเธล.
เราทุกคนมีส่วนร่วม
ในฐานะคริสเตียน เป็นเรื่องแน่นอนว่าเราทุกคนปรารถนาจะจัดให้ผลประโยชน์แห่งราชอาณาจักรมาเป็นอันดับแรกในชีวิตและรับใช้พระยะโฮวาด้วยสิ้นสุดจิตวิญญาณ. (มัดธาย 6:33; โกโลซาย 3:23) เราสามารถสนับสนุนผู้ที่กำลังรับใช้ที่เบเธลให้ถวายการรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ที่นั่นต่อ ๆ ไปด้วย. และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชายที่หนุ่มแน่นซึ่งมีคุณวุฒิสำหรับการรับใช้ที่เบเธลควรได้รับการกระตุ้นให้เอื้อมแขนสำหรับสิทธิพิเศษอันเป็นพระพรนี้.
การรับใช้ที่เบเธลเป็นวิถีชีวิตที่ให้ความอิ่มใจฝ่ายวิญญาณ—อาจเป็นงานประจำชีพที่ดีที่สุดสำหรับคุณอย่างแท้จริง. เป็นเช่นนั้นสำหรับนิก ซึ่งเริ่มรับใช้ที่เบเธลเมื่ออายุ 20 ปี. หลังจากสิบปีที่ได้รับใช้ในเบเธล เขากล่าวว่า “ผมมักทูลอธิษฐานถึงพระยะโฮวาเพื่อขอบคุณพระองค์สำหรับพระกรุณาคุณอันไม่พึงได้รับของพระองค์. มีอะไรมากไปกว่านี้ล่ะที่ผมควรจะขออีก? ที่นี่ มีคริสเตียนที่ซื่อสัตย์อยู่รอบตัวผม ซึ่งกำลังทำอย่างดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้เพื่อรับใช้พระยะโฮวา.”
[กรอบหน้า 22]
ผู้ปกครองและบิดามารดาสามารถทำอะไรได้บ้าง?
ผู้ปกครองและผู้ดูแลเดินทางควรสนับสนุนคนหนุ่มเป็นพิเศษให้สมัครเข้าทำงานที่เบเธล. เมื่อไม่นานมานี้ การสอบถามอย่างไม่เป็นทางการในกลุ่มสมาชิกครอบครัวเบเธลที่อายุยังน้อยปรากฏผลว่า 34 เปอร์เซ็นต์ได้รับการกระตุ้นเป็นส่วนใหญ่จากคริสเตียนผู้ดูแลให้ตั้งเป้าที่จะรับใช้ในเบเธล. ถูกแล้ว พี่น้องในประชาคมท้องถิ่นอาจคิดถึงเขา. แต่นับว่าดีที่จะพึงจำไว้ว่า แม้เห็นได้ชัดว่าตัวอย่างของติโมเธียวก่อผลกระทบที่ดีต่อคนหนุ่มสาวในเมืองลุศตราและอิโกนิอัน ผู้ปกครองที่นั่นไม่ได้หน่วงเหนี่ยวท่านไว้จากการร่วมรับใช้กับเปาโล. พวกเขาไม่ได้ลงความเห็นว่าการปล่อยให้ติโมเธียวไปด้วยกันกับอัครสาวกเปาโลจะทำให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อประชาคมของตน.—1 ติโมเธียว 4:14.
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บิดามารดาคริสเตียนควรพยายามจะทำให้เกิดแรงชักจูงในทางบวกต่อบุตรของตนในเรื่องนี้. ในการสำรวจดังกล่าวข้างต้น 40 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ถูกสอบถามอ้างถึงบิดามารดาว่าเป็นแหล่งสนับสนุนที่สำคัญในการเข้าทำงานรับใช้ที่เบเธล. พี่น้องหญิงคนหนึ่งซึ่งได้รับใช้ที่เบเธลมาสองสามปีแล้วกล่าวว่า “แบบอย่างชีวิตของคุณพ่อคุณแม่ดิฉันในการรับใช้พระยะโฮวาเป็นพลังกระตุ้นอย่างมากที่ทำให้ดิฉันเข้าทำงานรับใช้ที่เบเธล. โดยเห็นตัวอย่างของท่านในงานรับใช้เต็มเวลา ดิฉันแน่ใจเลยว่านี่จะเป็นวิถีชีวิตที่ดีที่สุดและน่าอิ่มใจที่สุดที่จะเลือก.”
[กรอบหน้า 24]
คนเหล่านี้หยั่งรู้ค่าการรับใช้ที่เบเธล
“ดิฉันทะนุถนอมงานรับใช้ของดิฉันที่เบเธล. เป็นเรื่องที่ทำให้พึงพอใจมากที่ทราบว่าดิฉันได้รับใช้พระยะโฮวาตลอดทั้งวัน และจะทำอย่างนั้นอีกเมื่อถึงพรุ่งนี้, วันมะรืน, และวันต่อ ๆ ไป. เรื่องนี้ทำให้ดิฉันมีสติรู้สึกผิดชอบที่ดีและทำให้ดิฉันคิดในแง่บวก.”
“เบเธลเป็นสถานที่ที่คุณสามารถอุทิศเวลาและพลังทั้งหมดในการรับใช้พระยะโฮวาโดยไม่วอกแวก. เรื่องนี้ทำให้เกิดมีความยินดีภายใน. แต่นอกจากนั้นแล้ว คุณยังเห็นองค์การของพระยะโฮวาในแง่มุมที่ต่างออกไปอีกด้วย. คุณรู้สึกใกล้ชิดกับศูนย์กลางแห่งองค์การยิ่งกว่าคนอื่น ๆ มาก และนี่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก.”
“การมาอยู่ที่เบเธลเป็นเหตุการณ์ดีที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นกับดิฉัน. ที่นี่ มีการสอนอย่างที่ไม่เคยหยุด. และการสอนที่ทำกันที่นี่ไม่ใช่เพื่อความสำเร็จเป็นส่วนตัวของดิฉันเอง แต่เพื่อพระยะโฮวา. ที่นี่ งานของดิฉันจะไม่มีวันไร้ประโยชน์.”
“การใช้ความสามารถของดิฉันที่เบเธลทำให้ดิฉันรู้สึกอิ่มใจและสงบใจ เนื่องจากความสามารถนั้นถูกใช้เพื่อพระยะโฮวาและพวกพี่น้อง.”
“ผมไม่พบความอิ่มใจและความสุขแท้ในงานอาชีพเดิมที่ผมเคยทำ. ผมใฝ่ฝันมาหลายปีแล้วที่จะได้ทำงานกับพี่น้อง เพื่อพี่น้อง. นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมมาที่เบเธล. ผมรู้สึกอิ่มใจอย่างแท้จริงที่ทราบว่าความพยายามทั้งหมดของผมจะเป็นประโยชน์ฝ่ายวิญญาณสำหรับผู้อื่น และจะนำคำสรรเสริญมาสู่พระยะโฮวา.”