การพิจารณา “พระนิเวศของพระเจ้า”ด้วยความหยั่งรู้ค่า
“สิ่งเดียวซึ่งข้าพเจ้าได้ขอจากพระยะโฮวา, แล้วข้าพเจ้าจะเสาะหา; สิ่งนั้นคือที่จะได้อาศัยอยู่ในพระวิหารของพระองค์ [พระนิเวศของพระเจ้า, ฉบับแปลใหม่] ตลอดชั่วชีวิตของข้าพเจ้า, เพื่อจะได้เห็นความสง่างามของพระยะโฮวา, และจะได้พินิจพิจารณาพระวิหารของพระองค์.”—บทเพลงสรรเสริญ 27:4.
กษัตริย์ดาวิดผู้หยั่งรู้ค่าได้พินิจพิจารณาพระวิหารของพระยะโฮวาด้วยความพอพระทัยหรือด้วยพระทัยยินดี. คุณล่ะมีความรู้สึกทำนองนี้ไหมเกี่ยวด้วยศูนย์การนมัสการแท้สมัยปัจจุบัน? บ้านเบเธลมากกว่า 95 แห่ง ณ สาขาสมาคมว็อชเทาเวอร์ก็นับรวมอยู่ในอาคารสถานที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับการนมัสการพระยะโฮวาในสมัยของเรา.
“เมื่อนึกย้อนไปถึงการรับใช้ของดิฉันตลอดหลายปี ณ เบเธล ทำให้ดิฉันซาบซึ้งด้วยความรู้สึกขอบคุณและความหยั่งรู้ค่ามากมาย ซึ่งมีแต่เพิ่มทวีเรื่อย ๆ ปีแล้วปีเล่า” เฮลกาซึ่งได้เริ่มทำงานปี 1948 ที่บ้านเบเธลในประเทศเยอรมนีเป็นผู้เล่า. เฮลกาเป็นหนึ่งในจำนวน 13,828 คนที่ทำงานด้วยความชื่นชมยินดี ณ บ้านเบเธลทั่วโลก ซึ่งในปีรับใช้ 1993 ‘ได้เห็นความสง่างามของพระยะโฮวา.’ จริง ๆ แล้ว ชื่อเบเธลหมายความว่าอะไร? พยานพระยะโฮวาทุกคน ไม่ว่าทำงานรับใช้พระเจ้าในหรือนอกเบเธล จะพิจารณาด้วยการหยั่งเห็นคุณค่าต่อวิธีการจัดเตรียมนี้ได้อย่างไร?
ชื่อที่เรียกร้องความศรัทธา
“เบเธล” เป็นชื่อที่เหมาะสมยิ่ง เนื่องจากคำภาษาฮีบรู เบทเอลʹ หมายความว่า “พระนิเวศของพระเจ้า.” (เยเนซิศ 28:19, ฉบับแปลโลกใหม่ที่มีข้ออ้างอิง, เชิงอรรถ) อันที่จริง เบเธลเป็นเสมือนนิเวศที่จัดระบบเป็นอย่างดี หรือ ‘ครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นด้วยสติปัญญา’ มีพระเจ้าพร้อมด้วยพระทัยประสงค์ของพระองค์เป็นศูนย์รวมความสนใจ. (สุภาษิต 24:3) เฮอร์ทากล่าวด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจว่า “เหมือนกับการอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว. พวกเรามีกิจวัตรประจำวันที่จัดระบบไว้อย่างดี.” เธอปฏิบัติงาน ณ เบเธลแห่งเดียวกันนี้กับเฮลกามานานกว่า 45 ปีแล้ว. สมาชิกทุกคนแห่งครอบครัวใหญ่นี้ต่างก็มีภาระหน้าที่และตำแหน่งของตน จึงทำให้ทุกคนมีความสุขและรู้สึกปลอดภัย. สอดคล้องกับชื่อเบเธล แต่ละแผนกมีการจัดเตรียมและจัดระบบที่ดี. ทั้งนี้ส่งเสริมสันติสุข, ทำให้การประกาศข่าวดีอย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปได้ และประชาคมต่าง ๆ มีเหตุผลอันดีจะพูดถึง “พระนิเวศของพระเจ้า” ด้วยความยกย่องนับถือ.—1 โกรินโธ 14:33, 40.
เหตุใดจึงจำเป็นต้องมีอาคารสถานดังกล่าว? เพื่อเป็นตัวอย่าง วารสารนี้ได้รับการผลิตในโรงพิมพ์แห่งเบเธล. การประกาศข่าวสารเรื่องราชอาณาจักรและการจ่ายแจกอาหารฝ่ายวิญญาณ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้พระเยซูคริสต์ทรงหยั่งเห็นล่วงหน้า ทำให้การจัดเตรียมระบบองค์การเช่นเบเธลนี้เป็นสิ่งที่จะขาดเสียไม่ได้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคนทำงานที่เต็มใจหลายคน และผู้นมัสการพระยะโฮวาทุกคนให้ความนับถือเป็นอย่างสูง.—มัดธาย 24:14, 45.
คุณอยากทราบกิจวัตรในวันทำงานของที่นี่มากขึ้นไหม? ที่เฮลกากับเฮอร์ทาอาศัยอยู่ มีเสียงสัญญาณไพเราะดังทั่วอาคารที่พักอาศัยตอน 6.30 น. แม้ว่าจากจำนวน 800 กว่าคนที่ทำงานประจำ มีหลายคนตื่นก่อนเวลานี้ด้วยซ้ำเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันนั้น. ครั้นได้เวลา 7.00 น. ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ ครอบครัวเบเธลจะชุมนุมกันในห้องรับประทานอาหารเพื่อพิจารณาข้อคัมภีร์ประจำวัน หรือการนมัสการตอนเช้า. แล้วตามด้วยอาหารมื้อเช้าที่มีคุณค่าบำรุงร่างกาย. ทุกวัน การทำงานเริ่มเวลา 8.00 น. และต่อเนื่องกัน 8 ชั่วโมง โดยหยุดพักเมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน. (ปกติครอบครัวทำงานวันเสาร์ครึ่งวัน.) มีงานมากที่ต้องทำไม่ว่างานครัว, แผนกพิมพ์, แผนกซักรีด, สำนักงาน, โรงงาน, แผนกเย็บเล่ม, หรือแผนกอื่น ๆ.
ช่วงเย็นและวันสุดสัปดาห์ สมาชิกครอบครัวเบเธลสมทบกับประชาคมท้องถิ่นในการประชุมต่าง ๆ และประกาศข่าวดีแก่สาธารณชน. พี่น้องชายในเบเธลหลายคนเป็นผู้ปกครองหรือผู้รับใช้ที่รับการแต่งตั้งในประชาคมเหล่านี้. เหล่าพยานฯในท้องถิ่นหยั่งรู้คุณค่าจริง ๆ สำหรับการร่วมมือกันแบบนี้ ทั้งสองฝ่ายทำงานประสานกลมเกลียวกันเสมือนกายเดียว ด้วยความนับถือและความเข้าใจซึ่งกันและกัน. (โกโลซาย 2:19) คนทำงานที่เบเธลทุกคนรู้ว่าหน้าที่มอบหมายของตนใน “พระนิเวศของพระเจ้า” เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่ากิจกรรมอื่นใดทั้งสิ้น. อย่างไรก็ตาม ความกระตือรือร้นในการประกาศและการใฝ่ใจอย่างจริงจังต่อประชาคม ผนวกเข้ากับทัศนะที่สมดุลย่อมสร้างเสริมสภาพฝ่ายวิญญาณของคนทำงานในเบเธลให้เข้มแข็ง เพิ่มพูนความยินดีของเขา และช่วยเขาให้เป็นสมาชิกครอบครัวที่บังเกิดผลมากขึ้น. คุณสมบัติเหล่านี้สำคัญเพียงไรเมื่อทำงานใน “พระนิเวศ” ซึ่งชื่อเชื่อมโยงกับความศรัทธาแรงกล้าอย่างสุดจิตวิญญาณ!
การทำให้งานรับใช้ที่เบเธลประสบผลสำเร็จ
อะไรได้ช่วยพยานพระยะโฮวาหลายคนประสบผลสำเร็จในการรับใช้ ณ เบเธล? สมาชิกในครอบครัวเบเธลประเทศฝรั่งเศสที่มีประสบการณ์อยู่นานหลายปี ได้ให้ความคิดเห็นดังนี้: “ความรักต่อพระยะโฮวา. การมีความตั้งใจแน่วแน่จะพากเพียรต่อไปไม่ว่าพระองค์ให้เราทำอะไร; ความถ่อมใจ, การยอมอยู่ในอำนาจ, และเชื่อฟังการชี้นำของสมาคม.” (เดนิส์) “ผมได้สังเกตว่าเป็นสิ่งสำคัญเพียงไรที่จะเคารพต่อหลักการซึ่งเปาโลกล่าวไว้ที่ โรม 12:10 ว่า ‘ในการให้เกียรติแก่กันนั้น จงนำหน้า.’ ข้อคัมภีร์นี้ชี้ความสำคัญในการคำนึงถึงความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ใช่ยืนกรานจะให้ผู้อื่นยอมรับความคิดเห็นของเราฝ่ายเดียว. หรืออีกนัยหนึ่ง ไม่พยายามทำตนเด่นดัง.” (ชาง-จัค) “ความนับถือที่เรามีต่องานรับใช้ที่เบเธลอาจพังทลายได้ถ้าเรามองสิ่งต่าง ๆ จากแง่คิดทางเนื้อหนัง ตามแง่คิดของมนุษย์” เป็นคำบอกเล่าของบาร์บารา “เพราะการมองด้วยแง่คิดดังกล่าวอาจทำให้เราลืมข้อเท็จจริงที่ว่า พระยะโฮวากำลังนำองค์การของพระองค์อยู่. ความนับถือเช่นนั้นอาจสูญหายไปหากเราสะดุดความไม่สมบูรณ์ของผู้อื่น.”
ทุกคนที่เบเธลเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์ ดังนั้น การคบหาจึงต้องใคร่ครวญให้รอบคอบ. คนหนุ่มคนสาวหรือคนที่เพิ่งเข้าไปใหม่ ๆ จึงไม่ควรจำกัดการสมาคมของตนกับคนวัยเดียวกันเสมอไป. คนเหล่านั้นที่แสดงแนวโน้มจะโอดครวญหรือคิดในเชิงลบย่อมไม่ใช่เพื่อนที่จะเสริมสร้างกันขึ้นในเบเธลหรือในประชาคม. แต่การเลียนแบบ “สติปัญญาจากเบื้องบน” ดังพรรณนาไว้ที่ยาโกโบ 3:17 (ล.ม.) นั้นจะได้พระพร. สติปัญญานั้น “ประการแรกบริสุทธิ์, แล้วก่อให้เกิดสันติสุข, มีเหตุผล, พร้อมที่จะเชื่อฟัง, เต็มไปด้วยความเมตตาและผลอันดี, ไม่เลือกหน้าผู้ใด ไม่หน้าซื่อใจคด.” คุณสมบัติต่าง ๆ ดังกล่าว ควบกับความอดกลั้นและความกรุณาจึงมองเห็นได้ชัดใน “พระนิเวศของพระเจ้า” ทำให้ผู้อยู่อาศัยในเบเธลมีความยินดีและเบิกบานใจ. แม้แต่ผู้มาเยี่ยมชมซึ่งไม่เป็นพยานฯก็มักจะกล่าวชมการประพฤติที่ดี, การแสดงอัธยาศัยไมตรี, และการมีใจร่าเริงยินดีของคนทำงานที่นี่.
อันนี ซึ่งมีอายุ 70 กว่าปีและเป็นสมาชิกครอบครัวเบเธลในเยอรมนีตั้งแต่ปี 1956 เธอสาธยายวิธีที่เธอรักษาความพร้อมอยู่เสมอเพื่อจะรับใช้ดังนี้ “เพื่อสวัสดิภาพที่ดีฝ่ายวิญญาณของดิฉัน ดิฉันใช้ความพยายามมากเพื่อก้าวทันกับสรรพหนังสือของสมาคม, เข้าร่วมการประชุมต่าง ๆ เป็นประจำ, และมีส่วนร่วมในงานประกาศสม่ำเสมอ. นอกจากนั้น ดิฉันพยายามดูแลตัวเองให้มีสุขภาพแข็งแรง โดยการออกกำลังกายทุกเช้า, โดยพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์เป็นส่วนใหญ่, และโดยเดินมากเท่าที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะเมื่อออกไปประกาศ.”
หลายคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตในเบเธลย่อมเห็นด้วยกับอันนี. พวกเขาไม่เคยเลิกเรียน ไม่เคยหยุดทำงาน. การมีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ดีต้องมีการนอนหลับพักผ่อนพอเพียง, ออกกำลังกายบ้าง, และรู้จักประมาณตนในการกินการดื่ม. สิ่งสำคัญยิ่งคือ เขาไม่ละเลยการอธิษฐานและการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นส่วนตัว.
การเคารพนับถืออย่างสูงส่งต่องานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ที่เบเธล
“คุณทำงานแผนกไหน?” ตามปกติสมาชิกที่เบเธลมักจะได้ยินคำถามนี้. การมอบหมายหน้าที่การงานมีหลายลักษณะต่างกัน แต่ทุกคนถือว่างานมอบหมายแต่ละอย่างมีคุณค่าอย่างยิ่ง. เพราะเหตุใด? เพราะการทำงานแต่ละหน้าที่—ไม่ว่าทำงานกับเครื่องพิมพ์ผลิตอาหารฝ่ายวิญญาณ, ซักรีด, ทำอาหารและทำความสะอาดสำหรับครอบครัว, หรือทำงานในสำนักงาน—ล้วนเป็นงานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น. ดังที่ได้กล่าวข้างต้น คริสเตียนไม่มีการแบ่งแยกเลือกที่รักมักที่ชัง. พึงระลึกว่าหน้าที่สำคัญต่าง ๆ ทุกอย่างที่ได้ดำเนินไปโดยพวกปุโรหิตและชาวเลวี ณ พระวิหาร ที่ลานรอบพระวิหารและที่ห้องโถงในพระวิหาร ล้วนเป็นงานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์แด่พระยะโฮวา. ทั้งนี้รวมเอาการฆ่าและการเตรียมสัตว์เพื่อการถวายบูชา, การเติมน้ำมันตะเกียง, กระทั่งการเก็บกวาดภายหลังปุโรหิตเสร็จงานแล้ว และการปฏิบัติหน้าที่เป็นยาม. ทำนองเดียวกัน หน้าที่ทุกอย่าง ณ เบเธลเป็นกิจกรรมที่ยังความอิ่มใจและมีคุณค่า “ในงานของพระผู้เป็นเจ้า” ฉะนั้น จึงเป็นสิทธิพิเศษอันล้ำเลิศ.—1 โกรินโธ 15:58.
ขอพิจารณาสั้น ๆ ถึงอุปนิสัยอย่างหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคมิให้เรามองดู “พระนิเวศของพระเจ้า” อย่างที่หยั่งรู้ค่า. คริสเตียนทั้งในเบเธลและนอกเบเธลพึงต้องระวังในเรื่องการอิจฉาริษยาซึ่งเป็น “ความเปื่อยเน่าของกระดูก.” (สุภาษิต 14:30) ไม่มีเหตุผลที่ใคร ๆ จะอิจฉาบุคคลผู้รับสิทธิพิเศษได้รับใช้ที่เบเธล. ยิ่งกว่านั้น ไม่มีที่ในครอบครัวเบเธลสำหรับการอิจฉาริษยากันซึ่งเป็นการของเนื้อหนังอย่างหนึ่ง. จงคอยด้วยความถ่อม—นั้นคือคำแนะนำที่มีเหตุผลสำหรับคนที่อาจดูเหมือนถูกมองข้าม ขณะที่คนอื่นได้รับสิทธิพิเศษมากกว่า. นอกจากนั้น คนที่อยู่อาศัยร่วมกันในเบเธลมีภูมิหลังทางการเงินต่างกันมาก. หากคนเรามองสภาพของตัวเอง “โดยเปรียบเทียบกับคนอื่น” นั้นคงเกิดความข้องขัดใจมากเพียงไร! การเป็นคนอิ่มใจพอใจเมื่อมี “เครื่องอุปโภคบริโภค” ได้ช่วยหลายคนยังคงอยู่ในงานรับใช้อย่างซื่อสัตย์นานหลายสิบปีใน “พระนิเวศของพระเจ้า.”—ฆะลาเตีย 5:20, 26; 6:4, ล.ม.; 1 ติโมเธียว 6:8.
เหล่าพยานพระยะโฮวาและคนอื่นอีกหลายล้านได้รับผลประโยชน์จากการทำงานที่เบเธลโดยไม่ได้รับค่าจ้าง—การงานซึ่งกระทำเนื่องด้วยความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์อย่างไม่เห็นแก่ตัว. สำนักเบเธลและโรงพิมพ์ของสมาคมว็อชเทาเวอร์ก็เหมือนกันกับอาคารสถานที่แห่งอื่น ๆ ในระบอบของพระเจ้าได้รับเงินอุดหนุนจากการบริจาคด้วยความสมัครใจ. (2 โกรินโธ 9:7) เช่นเดียวกันกับกษัตริย์ดาวิดและพวกเจ้านายพร้อมด้วยหัวหน้าแห่งเชื้อวงศ์ของชาวยิศราเอล พวกเราสามารถแสดงความเลื่อมใสศรัทธาและความหยั่งรู้ค่าต่อ “พระนิเวศของพระเจ้า” โดยให้การสนับสนุนทั้งด้านกำลังใจและการเงินแก่สมาคม. (1 โครนิกา 29:3-7) ตอนนี้ให้เราดูซิว่าจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะ “ได้เห็นความสง่างามของพระยะโฮวา” ที่เบเธล.
พระพรมากมายใน “พระนิเวศของพระเจ้า”
เมื่อคุณเข้าร่วมการประชุมใหญ่ คุณรู้สึกอิ่มใจอย่างลึกซึ้งไหมขณะคุณถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มผู้นมัสการพระยะโฮวาที่มีความสุข? คิดดูซิ คนทำงานที่เบเธลมีสิทธิพิเศษได้รับใช้พระยะโฮวาทุก ๆ วันท่ามกลางหมู่พี่น้อง! (บทเพลงสรรเสริญ 26:12) ช่างเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมอะไรเช่นนั้นที่จะได้เติบโตฝ่ายวิญญาณ! พี่น้องชายคนหนึ่งบอกว่า ภายในหนึ่งปี เขาได้เรียนรู้ซึ่งช่วยเขาดัดแปลงบุคลิกภาพได้มากยิ่งกว่าที่เรียนจากที่อื่นสามปี. เพราะเหตุใด? เนื่องจากไม่มีที่อื่นใดที่เขาจะมีโอกาสสังเกตและเลียนแบบความเชื่อของคริสเตียนผู้อาวุโสมากมายหลายคนเช่นที่นี่.—สุภาษิต 13:20.
โดยนัยแล้ว ณ เบเธลนี้แหละ คนเราถูกแวดล้อมด้วยผู้ให้คำปรึกษาที่เชี่ยวชาญ. นอกจากนั้น ยังได้รับประโยชน์จากการฟังความคิดเห็นที่ได้เตรียมไว้อย่างดี ในช่วงการนมัสการตอนเช้าและ ณ การศึกษาหอสังเกตการณ์ ประจำครอบครัวเบเธล และเมื่อฟังการบรรยายคืนวันจันทร์. คนใหม่ได้รับการอบรมจากโรงเรียนสมาชิกใหม่ของครอบครัวเบเธล และถูกกำหนดให้อ่านคัมภีร์ไบเบิลจบเล่มภายใน 12 เดือนแรก.
รายงานและประสบการณ์ของคนที่มาเยี่ยมจากประเทศอื่นให้การหนุนใจอีกขั้นหนึ่ง. ยิ่งกว่านั้น ยังมีสมาชิกคณะกรรมการปกครองหรือตัวแทนแห่งกรรมการปกครองไปเยี่ยมสำนักงานสาขาต่าง ๆ. เฮลกาทวนความจำและพูดว่า “ถึงแม้พวกเขามีงานมาก พี่น้องเหล่านั้นหาเวลาพูดทักทายด้วยไมตรีจิตเสมอหรือส่งยิ้มให้.” ช่างเป็นการให้กำลังใจจริง ๆ เมื่อได้เห็นด้วยตนเองถึงกิริยาอันสดชื่นและอ่อนสุภาพของผู้ซื่อสัตย์ภักดีเหล่านั้น!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ เบเธลคนเราสังเกตอย่างใกล้ชิดถึงวิธีที่องค์การของพระเจ้าดำเนินงานและวิธีที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ปลุกเร้าหัวใจและมือที่เต็มใจทำงานเข้าสู่การกระทำ. “ที่เบเธล เรารู้สึกว่าอยู่ใกล้ ‘ศูนย์กลางแห่งกิจกรรม’” เป็นคำชี้แจงของพี่น้องชายซึ่งรับใช้ที่เบเธลในฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี 1949. เขาเล่าต่อดังนี้: “ผมกล้าพูดได้จริง ๆ ว่า สำหรับตัวเองแล้ว เบเธลเป็นรูปแบบการรับใช้เต็มเวลาซึ่งทำให้ผมสามารถสละเวลาและกำลังวังชาได้มากที่สุดให้กับพระราชกิจของพระยะโฮวาและรับใช้พี่น้องจำนวนมากที่สุดได้.” และนี้แหละเป็นเป้าหมายแท้จริงในชีวิตของพวกเรามิใช่หรือ คือจะกระทำตามพระทัยประสงค์ของพระเจ้า? ที่เบเธล เราสามารถ “อวดถึงพระเจ้าได้วันยังค่ำ.” เป็นพระพรอะไรเช่นนั้น!—บทเพลงสรรเสริญ 44:8.
ดังที่เราได้เห็นแล้ว ผู้ที่ทำงานในเบเธลย่อมมองเห็นความสง่างามของพระยะโฮวาและประสบพระพรนานาประการ. (เฮ็บราย 6:10) งานรับใช้ที่ “พระนิเวศของพระเจ้า” จะเป็นสิ่งอันทรงคุณค่าสำหรับคุณไหม? คนเหล่านั้นในท่ามกลางพยานพระยะโฮวาผู้ซึ่งอายุไม่ต่ำกว่า 19 ปี มีสุขภาพฝ่ายวิญญาณและร่างกายดี และเหมือนติโมเธียว “มีชื่อเสียงดีในท่ามกลางพวกพี่น้อง” ก็อาจจะสมัครไปรับใช้ที่เบเธลได้. (กิจการ 16:2) หลายคนได้จัดเอางานรับใช้ที่เบเธลเป็นงานประจำชีวิต เช่นเดียวกับคนเหล่านั้นที่เอ่ยข้างต้น. สำหรับพวกเขา ความใฝ่ฝันอันล้ำลึกอย่างผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญที่อยากจะ ‘อาศัยอยู่ในพระนิเวศของพระยะโฮวาตลอดชั่วชีวิตของเขา’ นั้นเป็นจริง.
พยานพระยะโฮวาให้ความนับถืออย่างสูงต่อน้ำใจเสียสละของพี่น้องชายหญิงของเขาที่เบเธล ซึ่งทำงานให้ลุล่วงตามการมอบหมายอย่างเต็มใจและด้วยความยินดี. ไม่ว่าเรารับใช้พระยะโฮวาที่เบเธล หรือ ณ ที่อื่น พวกเราแต่ละคนมีเหตุผลอันดีที่จะแสดงความรู้สึกเหมือนกษัตริย์ดาวิด คือพิจารณา ‘พระนิเวศของพระเจ้า’ ด้วยความหยั่งรู้ค่าหรือด้วยความยินดี.
[รูปภาพหน้า 31]
คริสเตียนเหล่านี้ประสบความเพลิดเพลินในงานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ ณ เบเธลที่เยอรมนี ตลอดหลายสิบปี