เรามีเครื่องมือใหม่เพื่อเริ่มการศึกษา!
1 หญิงชาวอเมริกันคนหนึ่งเป็นโรมันคาทอลิกที่จริงใจ. เธอปกป้องคำสอนของโบสถ์ด้วยความซื่อสัตย์. เธอถึงกับไปแสวงบุญที่วาติกัน. และกระนั้น เมื่อพยานพระยะโฮวาคนหนึ่งไปเยี่ยมที่บ้าน เธอตอบตกลงจะศึกษาคัมภีร์ไบเบิล. เพราะเหตุใด? เพราะเธอต้องการเรียนรู้สิ่งที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิลและโบสถ์ของเธอไม่ได้เสนอการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่บ้าน. ประสบการณ์นี้สอนอะไรเรา? เราไม่รู้ว่าใครบ้างจะตอบรับการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลฟรี.—ผู้ป. 11:6.
2 คุณเคยลังเลไหมที่จะบอกผู้คนว่าเรายินดีจะศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับใครก็ตามที่สนใจ? ทุกคนในชุมชนของคุณรู้ไหมว่าเราเสนอการบริการนี้ฟรี? เราจะทำอย่างไรเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขารู้เรื่องนี้? โดยการใช้เครื่องมือใหม่! นี่คือแผ่นพับหกหน้าที่ดึงดูดใจซึ่งมีชื่อว่า คุณอยากรู้จักคัมภีร์ไบเบิลดีขึ้นไหม? ขอเรามาทำความคุ้นเคยกับแผ่นพับนี้ทีละหัวข้อ.
3 “ทำไมควรอ่านคัมภีร์ไบเบิล?” แผ่นพับนี้ให้เหตุผลที่น่าดึงดูดใจทีเดียว. แผ่นพับนี้อธิบายว่าคัมภีร์ไบเบิลมี “คำสั่งสอนซึ่งพระเจ้าทรงประทานให้ด้วยความรัก,” บอกวิธีที่จะเข้าเฝ้าพระองค์ในการอธิษฐานเพื่อขอความช่วยเหลือ, และวิธีที่จะได้รับของประทานอันได้แก่ชีวิตนิรันดร์. (1 เธ. 2:13) แผ่นพับนี้พูดถึงคัมภีร์ไบเบิลว่ามี “ความจริงซึ่งทำให้รู้แจ้ง” หลายเรื่อง เช่น เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เราตายไปและทำไมโลกจึงมีปัญหามากมายเหลือเกิน. แผ่นพับนี้พูดถึง “หลักการของพระเจ้าในคัมภีร์ไบเบิล” ที่เมื่อนำไปใช้จะเกิดผลดีต่อร่างกายและส่งเสริมให้มีความสุข, ความหวัง, และคุณลักษณะอื่น ๆ ที่น่าดึงดูดใจ. แผ่นพับนี้ยังพูดถึงอีกเหตุผลหนึ่งที่ควรอ่านคัมภีร์ไบเบิล คือคำพยากรณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับอนาคตที่เผยถึงสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าเรา.—วิ. 21:3, 4.
4 “ความช่วยเหลือให้เข้าใจคัมภีร์ไบเบิล”: แผ่นพับนี้กล่าวว่า “เราทุกคนต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อจะเข้าใจพระคำของพระเจ้า.” จากนั้น ก็อธิบายวิธีที่เราศึกษาคัมภีร์ไบเบิลดังนี้: “ตามปกติแล้วนับว่าดีที่สุดที่จะศึกษาคัมภีร์ไบเบิลทีละขั้น เริ่มจากคำสอนพื้นฐาน.” แม้แผ่นพับนี้พูดกว้าง ๆ ว่า “คัมภีร์ไบเบิลเป็นแหล่งความรู้ที่น่าเชื่อถือ” แต่ก็กล่าวเจาะจงถึงจุลสารเรียกร้อง ว่าเป็นหนังสือที่จะช่วยนักศึกษา ‘ให้เข้าใจข้อคัมภีร์เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ.’ หัวข้อถัดไปตั้งคำถามที่กระตุ้นใจ.
5 “คุณยินดีใช้เวลาแต่ละสัปดาห์เพื่อจะเข้าใจคัมภีร์ไบเบิลไหม?” แผ่นพับนี้อธิบายว่าอาจจัดการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลตามเวลาและสถานที่ที่นักศึกษาสะดวก ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านส่วนตัวหรือถึงกับศึกษาทางโทรศัพท์ก็ได้. ใครจะเข้าร่วมการศึกษานี้ได้? แผ่นพับนี้ตอบว่า “ทุกคนในครอบครัวของคุณ. เพื่อนคนใด ๆ ที่คุณเชิญมาก็ร่วมศึกษาได้. หรือถ้าคุณต้องการศึกษาเฉพาะคุณคนเดียวก็ได้เช่นกัน.” ต้องใช้เวลาศึกษานานเท่าไร? แผ่นพับนี้อธิบายดังนี้: “หลายคนจัดเวลาไว้สัปดาห์ละหนึ่งชั่วโมงสำหรับการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล. ถ้าคุณสามารถใช้เวลามากกว่านั้นหรือมีเวลาน้อยกว่านั้นในแต่ละสัปดาห์ พยานฯ ก็จะจัดเวลามาช่วยคุณ.” นี่คือจุดสำคัญ! เราเต็มใจจะปรับสภาพการณ์ให้เข้ากับนักศึกษาแต่ละคน.
6 “เชิญศึกษาได้”: ในแผ่นพับมีคูปองที่ผู้รับสามารถขอจุลสารเรียกร้อง หรือการเยี่ยมเพื่ออธิบายโครงการของเราที่ให้การศึกษาคัมภีร์ไบเบิลฟรีที่บ้าน. มีการลงหน้าปกจุลสารเรียกร้อง เป็นสี. คุณได้เห็นแล้วมิใช่หรือว่าแผ่นพับนี้จะสนับสนุนผู้ที่มีหัวใจสุจริตอีกหลายคนให้ตอบรับความช่วยเหลือของเรา? บัดนี้ เราจะใช้เครื่องมือใหม่นี้ให้เป็นประโยชน์ที่สุดได้อย่างไร?
7 คุณอาจให้แผ่นพับนี้แก่ใครได้? อาจให้แผ่นพับนี้แก่คนที่คุณพบหรือสอดไว้ในบ้านที่ไม่มีคนอยู่. อาจแจกจ่ายตามบ้านเรือน, ตามถนน, และในเขตธุรกิจ. ให้ผู้คน ไม่ว่าเขารับหรือไม่รับหนังสือของเรา. สอดไว้ในวารสารหรือหนังสืออื่นที่เสนอ. แนบไปด้วยเมื่อคุณเขียนจดหมาย. เสนอที่จะส่งทางไปรษณีย์ให้แก่คนที่คุณติดต่อทางโทรศัพท์. นำแผ่นพับนี้ติดตัวไปด้วยเสมอเพื่อคุณจะแจกจ่ายเมื่อชอปปิง, เมื่อขึ้นรถโดยสารประจำทาง, และเมื่อให้คำพยานเมื่อสบโอกาส. จงให้แผ่นพับนี้แก่ใครก็ตามที่มาเยี่ยมคุณที่บ้าน. ให้ญาติ, เพื่อนบ้าน, เพื่อนร่วมงาน, เพื่อนนักเรียน, และคนอื่น ๆ ที่รู้จัก. จงพยายามนำแผ่นพับนี้ไปถึงมือทุกคนที่คุณพบ! จากนั้น จะทำอะไรต่อไป?
8 ถ้ามีการตอบรับทันที: บางคนจะตอบรับทันทีโดยพูดว่าเขาอยากศึกษาคัมภีร์ไบเบิล. ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่ประกาศในเขตงาน จงให้แน่ใจว่าคุณมีจุลสารเรียกร้อง สองเล่มเสมอ เล่มหนึ่งสำหรับนักศึกษาและอีกเล่มหนึ่งสำหรับคุณเอง. ถ้าคนนั้นยินดี จงเริ่มศึกษาทันที. เปิดไปที่ปกในของจุลสาร และอ่าน “วิธีใช้จุลสารนี้.” จากนั้นเข้าสู่บทเรียน 1 ทันทีและสาธิตการศึกษา. นี่เป็นวิธีที่ง่ายจริง ๆ มิใช่หรือ?
9 ถ้าผู้ฟังขอเวลาคิดก่อน: ก่อนเวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน จงพยายามติดต่อเขาอีกครั้ง. เมื่อคุณกลับไปเยี่ยมเขา จงให้แน่ใจว่าคุณนำจุลสารเรียกร้อง ไปด้วย. ให้เขาดูสารบัญที่ปกใน. ให้เขาเลือกเรื่องที่เขาสนใจมากที่สุด. เปิดไปที่บทนั้น และเริ่มพิจารณาบทเรียนที่เขาเลือก.
10 ติดตามการจำหน่ายวารสาร: ถ้าคุณให้แผ่นพับนี้พร้อมกับวารสาร คุณอาจกลับเยี่ยมโดยพูดว่า “คราวก่อนที่ผมมาเยี่ยม ผมได้ให้วารสารหอสังเกตการณ์ เล่มหนึ่งแก่คุณ. คุณอาจได้สังเกตว่าชื่อเต็มของวารสารนี้คือหอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา. วันนี้ ผมอยากอธิบายว่าราชอาณาจักรนี้คืออะไรและมีความหมายเช่นไรสำหรับคุณและครอบครัว.” จากนั้นเปิดจุลสารเรียกร้อง บทเรียน 6. เริ่มกับวรรคแรก อ่านและพิจารณาเนื้อหาให้มากที่สุดเท่าที่เจ้าของบ้านมีเวลา. จากนั้น นัดว่าจะมาเยี่ยมอีกวันหนึ่งและศึกษาให้จบบทเรียนนั้น.
11 จงมีแผ่นพับให้เพียงพอ: ผู้ดูแลการรับใช้และพี่น้องที่เอาใจใส่สรรพหนังสือคงต้องการดูแลให้มีแผ่นพับรู้จักคัมภีร์ไบเบิล อย่างเพียงพอในประชาคมตลอดเวลา. คุณอาจเก็บแผ่นพับบางใบในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าถือ, ในรถ, ที่ทำงาน, ที่โรงเรียน, ใกล้ ๆ ประตูเข้าบ้านคุณ ไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่จะหยิบได้ง่าย. แน่นอน จงเอาแผ่นพับนี้ติดกระเป๋าประกาศไว้ด้วยเผื่อจะใช้เวลาคุณพบใครสักคนที่อาจสนทนาเรื่องคัมภีร์ไบเบิลได้.
12 ขอพระยะโฮวาอวยพรความพยายามของคุณ: เป้าหมายอย่างหนึ่งที่คริสเตียนทุกคนปรารถนาคือการสอนความจริงแก่คนอื่น. (มัด. 28:19, 20) คุณกำลังนำการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลตามบ้านไหม? ถ้าใช่ คุณจะหาเวลาเพื่อศึกษากับอีกคนหนึ่งได้ไหม? ถ้าคุณยังไม่มีรายศึกษาในตอนนี้ แน่นอนว่าคุณคงต้องการจะมี. จงอธิษฐานขอพระยะโฮวาอวยพรความพยายามของคุณเพื่อจะพบใครสักคนที่คุณสามารถนำการศึกษาได้. จากนั้นทำสิ่งที่สอดคล้องกับคำอธิษฐานนั้น.—1 โย. 5:14, 15.
13 เรามีเครื่องมือใหม่เพื่อเริ่มการศึกษา! จงทำความคุ้นเคยกับเครื่องมือนี้. จงแจกจ่ายออกไปอย่างกว้างขวาง. ขอคุณทุกคน “ให้ทำการดี, ให้ร่ำรวยในการงานอันดี, ให้เป็นคนใจกว้าง, พร้อมจะแบ่งปัน” สิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากพระคำของพระเจ้า.—1 ติโม. 6:18, ล.ม.
[กรอบหน้า 6]
โอกาสต่าง ๆ ที่จะแจกจ่ายแผ่นพับนี้
▪ ในการสนทนาประจำวัน
▪ เมื่อใครสักคนรับหนังสือของเรา
▪ เมื่อไม่มีคนอยู่บ้าน
▪ เมื่อเรากลับเยี่ยมเยียน
▪ เมื่อเราพบใครสักคนในการให้คำพยานตามถนน
▪ เมื่อเราให้คำพยานในย่านธุรกิจ
▪ เมื่อให้คำพยานเมื่อสบโอกาส
▪ เมื่อเขียนจดหมาย
▪ เมื่อขึ้นรถโดยสารประจำทาง
▪ เมื่อใครสักคนมาเยี่ยมเราที่บ้าน
▪ เมื่อพูดกับญาติ, เพื่อนบ้าน, เพื่อนร่วมงาน, เพื่อนนักเรียน, และคนอื่น ๆ ที่รู้จัก