ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • “พระองค์​รัก​เรา​ก่อน”
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • พระ​เยซู​ถูก​ประหาร​บน​เสา​ทรมาน

      บท 23

      “พระองค์​รัก​เรา​ก่อน”

      1-3. มี​อะไร​บ้าง​ที่​ทำ​ให้​การ​เสีย​ชีวิต​ของ​พระ​เยซู​ต่าง​จาก​คน​อื่น ๆ?

      วัน​หนึ่ง​เมื่อ​เกือบ 2,000 ปี​ที่​แล้ว ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ถูก​ตัดสิน​ว่า​มี​ความ​ผิด​ทั้ง ๆ ที่​ไม่​ได้​ทำ​อะไร​ผิด​เลย แล้ว​ก็​ถูก​ฆ่า​อย่าง​ทรมาน เขา​ไม่​ใช่​คน​เดียว​ที่​เจอ​เรื่อง​โหด​ร้าย​และ​ไม่​ยุติธรรม​แบบ​นี้ แต่​การ​ตาย​ของ​เขา​ก็​มี​บาง​อย่าง​ที่​ไม่​เหมือน​คน​อื่น​เลย

      2 ไม่​กี่​ชั่วโมง​ก่อน​ที่​ผู้​ชาย​คน​นี้​จะ​เสีย​ชีวิต มี​บาง​อย่าง​ที่​แปลก​ประหลาด​มาก​เกิด​ขึ้น​บน​ท้องฟ้า​ที่​ทำ​ให้​ผู้​คน​รู้​ว่า​มี​เหตุ​การณ์​ที่​สำคัญ​เกิด​ขึ้น ถึง​ตอน​นั้น​จะ​เป็น​เวลา​เที่ยง​วัน แต่​จู่ ๆ ท้องฟ้า​ก็​กลับ​มืด​เหมือน​ตอน​กลางคืน ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า “ไม่​มี​แสง​อาทิตย์” (ลูกา 23:44, 45) แล้ว​ก่อน​ที่​ผู้​ชาย​คน​นี้​จะ​ตาย เขา​ได้​พูด​คำ​หนึ่ง​ที่​น่า​สนใจ​ว่า “สำเร็จ​แล้ว” ที่​จริง การ​สละ​ชีวิต​ของ​เขา​ทำ​ให้​มี​สิ่ง​ดี ๆ เกิด​ขึ้น และ​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​เท่า​ที่​มนุษย์​เคย​ทำ​มา—ยอห์น 15:13; 19:30

      3 ผู้​ชาย​คน​นี้​คือ​พระ​เยซู​คริสต์ ผู้​คน​มาก​มาย​ทั่ว​โลก​รู้​ว่า​พระ​เยซู​ทน​ทุกข์​และ​ตาย​ใน​วัน​ที่ 14 เดือน​นิสาน​ปี ค.ศ. 33 แต่​มี​บาง​อย่าง​สำคัญ​ที่​พวก​เขา​ไม่​รู้ ถึง​พระ​เยซู​ต้อง​ทน​ทุกข์​แต่​ก็​มี​ผู้​หนึ่ง​ที่​เป็น​ทุกข์​มาก​กว่า​ท่าน​อีก ผู้​นั้น​ได้​เสีย​สละ​อย่าง​มาก​และ​แสดง​ความ​รัก​มาก​กว่า​ใคร ผู้​นั้น​ทำ​อะไร? คำ​ตอบ​ของ​คำ​ถาม​นี้​จะ​สอน​เรา​เกี่ยว​กับ​คุณลักษณะ​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​ของ​พระ​ยะโฮวา นั่น​ก็​คือ​ความ​รัก

      การ​แสดง​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด

      4. อะไร​ช่วย​ให้​ทหาร​โรมัน​เข้าใจ​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​ใช่​คน​ธรรมดา และ​เขา​บอก​อะไร?

      4 ทหาร​โรมัน​ที่​เฝ้า​ดู​พระ​เยซู​ตอน​ที่​ท่าน​จะ​เสีย​ชีวิต​รู้สึก​ตกใจ​กลัว​ที่​เห็น​ท้องฟ้า​มืด​และ​แผ่นดิน​ไหว​ที่​เกิด​ขึ้น​หลัง​จาก​นั้น เขา​บอก​ว่า “คน​นี้​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า​จริง ๆ ด้วย” (มัทธิว 27:54) เห็น​ชัด​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​ใช่​คน​ธรรมดา ทหาร​คน​นั้น​มี​ส่วน​ใน​การ​ฆ่า​ลูก​คน​เดียว​ของ​พระเจ้า​องค์​สูง​สุด แล้ว​พระเจ้า​รัก​ลูก​ของ​พระองค์​มาก​ขนาด​ไหน?

      5. ก่อน​ที่​พระ​เยซู​จะ​มา​บน​โลก​ท่าน​อยู่​กับ​พระ​ยะโฮวา​นาน​แค่​ไหน?

      5 คัมภีร์​ไบเบิล​เรียก​พระ​เยซู​ว่า “ผู้​แรก​ที่​ถูก​สร้าง​ก่อน​ทุก​สิ่ง” (โคโลสี 1:15) นี่​หมายความ​ว่า​พระ​เยซู​มี​ชีวิต​อยู่​ก่อน​ที่​จะ​มี​การ​สร้าง​เอกภพ ถ้า​อย่าง​นั้น ท่าน​อยู่​กับ​พ่อ​ของ​ท่าน​บน​สวรรค์​นาน​แค่​ไหน​ก่อน​ที่​จะ​มา​บน​โลก? นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​เชื่อ​ว่า​เอกภพ​มี​อายุ​ประมาณ 13,000 ล้าน​ปี คุณ​นึก​ออก​ไหม​ว่า​นั่น​เป็น​เวลา​ที่​นาน​ขนาด​ไหน? เพื่อ​จะ​เข้าใจ​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​อายุ​ของ​เอกภพ​ตาม​ที่​นัก​วิทยาศาสตร์​ได้​คำนวณ​ไว้ หอ​ดู​ดาว​แห่ง​หนึ่ง​ติด​แผนภูมิ​แสดง​ลำดับ​เวลา​ยาว 110 เมตร​ไว้​ที่​ผนัง​ทาง​เดิน ตอน​ที่​ผู้​มา​เยี่ยม​ชม​เดิน​ดู​แผนภูมิ​นั้น แต่​ละ​ก้าว​ที่​เขา​เดิน​ก็​เท่า​กับ​อายุ​ของ​เอกภพ​ประมาณ 75 ล้าน​ปี ใน​ส่วน​ท้าย​ของ​แผนภูมิ​นั้น มี​การ​แสดง​ให้​เห็น​ประวัติศาสตร์​ทั้ง​หมด​ของ​มนุษย์​ด้วย​รอย​ขีด​แค่​ขีด​เดียว​ซึ่ง​มี​ความ​หนา​เท่า​กับ​เส้น​ผม​หนึ่ง​เส้น ถ้า​การ​คำนวณ​นี้​ถูก​ต้อง​ก็​หมายความ​ว่า​พระ​เยซู​มี​ชีวิต​อยู่​บน​สวรรค์​กับ​พระ​ยะโฮวา​ก่อน​ที่​ท่าน​จะ​มา​บน​โลก​นาน​กว่า 13,000 ล้าน​ปี และ​ใน​ช่วง​เวลา​นั้น​ท่าน​ได้​ทำ​อะไร​บ้าง?

      6. (ก) ก่อน​ที่​จะ​มา​บน​โลก​ลูก​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทำ​อะไร​บน​สวรรค์? (ข) พระ​ยะโฮวา​และ​ลูก​ของ​พระองค์​ผูก​พัน​กัน​แค่​ไหน?

      6 พระ​เยซู​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​ทำ​งาน​เป็น “นาย​ช่าง” ให้​พ่อ​ของ​ท่าน (สุภาษิต 8:30) คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “ไม่​มี​อะไร​เลย​ที่​เกิด​ขึ้น​โดย​ที่​พระเจ้า​ไม่​ได้​ให้ [ลูก] สร้าง” (ยอห์น 1:3) ดังนั้น พระ​ยะโฮวา​และ​ลูก​ของ​พระองค์​ทำ​งาน​ร่วม​กัน​เพื่อ​สร้าง​ทุก​สิ่ง พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​เยซู​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​ได้​ทำ​งาน​ด้วย​กัน เรา​รู้​ว่า​ความ​รัก​ระหว่าง​พ่อ​กับ​ลูก​คง​จะ​แน่นแฟ้น​มาก และ​ความ​รัก “ผูก​พัน​ผู้​คน​ให้​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว​กัน​อย่าง​แท้​จริง” (โคโลสี 3:14) ความ​รัก​ระหว่าง​พระ​ยะโฮวา​และ​ลูก​ของ​พระองค์​แน่นแฟ้น​มาก​กว่า​ที่​เรา​จะ​เข้า​ใจ​ได้​เพราะ​อยู่​ด้วย​กัน​เป็น​เวลา​นาน​มาก เห็น​ชัด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​และ​ลูก​ของ​พระองค์​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน​ด้วย​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด

      7. พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ยังไง​ตอน​ที่​พระ​เยซู​รับ​บัพติศมา?

      7 ถึง​แม้​พระ​ยะโฮวา​รัก​ลูก​ของ​พระองค์​มาก​แต่​พระองค์​ก็​ส่ง​ท่าน​ให้​มา​เกิด​เป็น​มนุษย์​บน​โลก การ​ทำ​แบบ​นั้น​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​อยู่​ใกล้​ชิด​กับ​ลูก​ที่​รัก​ของ​พระองค์​เป็น​เวลา​นาน​หลาย​สิบ​ปี พระองค์​เฝ้า​ดู​จาก​สวรรค์​ตอน​ที่​พระ​เยซู​โต​ขึ้น​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์​แบบ แล้ว​ตอน​ที่​พระ​เยซู​อายุ 30 ปี​ท่าน​ก็​รับ​บัพติศมา พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ยังไง​กับ​ลูก​ของ​พระองค์? พระ​ยะโฮวา​พูด​จาก​สวรรค์​และ​บอก​ว่า “นี่​คือ​ลูก​รัก​ของ​เรา เรา​พอ​ใจ​ใน​ตัว​เขา​มาก” (มัทธิว 3:17) เมื่อ​ได้​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​ทำ​ทุก​อย่าง​ตาม​ที่​พยากรณ์​ไว้ และ​ทำ​ทุก​อย่าง​ตาม​ที่​พ่อ​ต้องการ พระ​ยะโฮวา​คง​มี​ความ​สุข​มาก​จริง ๆ—ยอห์น 5:36; 17:4

      8, 9. (ก) พระ​เยซู​ต้อง​เจอ​กับ​อะไร​บ้าง​ใน​วัน​ที่ 14 เดือน​นิสาน​ปี ค.ศ. 33 และ​พ่อ​ของ​ท่าน​รู้สึก​ยังไง? (ข) ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ยอม​ให้​ลูก​ของ​พระองค์​ถูก​ทรมาน​และ​ถูก​ฆ่า?

      8 แล้ว​พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ยังไง​ใน​วัน​ที่ 14 เดือน​นิสาน​ปี ค.ศ. 33? พระองค์​รู้สึก​ยังไง​ตอน​ที่​พระ​เยซู​ถูก​ทรยศ​และ​ถูก​จับ​ใน​ตอน​กลางคืน ตอน​ที่​เพื่อน ๆ ทิ้ง​ท่าน และ​ท่าน​ถูก​พิจารณา​คดี​อย่าง​ไม่​ยุติธรรม ตอน​ที่​ท่าน​ถูก​เยาะเย้ย ถูก​ถุย​น้ำลาย​ใส่ ถูก​ต่อย ตอน​ที่​ท่าน​ถูก​เฆี่ยน​จน​หลัง​ฉีก​และ​เลือด​ออก ตอน​ที่​ทั้ง​มือ​และ​เท้า​ของ​ท่าน​ถูก​ตอก​ติด​กับ​เสา​ไม้​และ​ปล่อย​ให้​แขวน​อยู่​อย่าง​นั้น​และ​ผู้​คน​ก็​เยาะเย้ย​ท่าน? พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ยังไง​เมื่อ​ลูก​ที่​รัก​ร้อง​เรียก​พระองค์​เสียง​ดัง​ด้วย​ความ​เจ็บ​ปวด? พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ยังไง​เมื่อ​เห็น​พระ​เยซู​หายใจ​เฮือก​สุด​ท้าย​และ​เป็น​ครั้ง​แรก​ตั้งแต่​มี​การ​สร้าง​ทุก​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ไม่​มี​ชีวิต​อยู่​อีก​แล้ว?—มัทธิว 26:14-16, 46, 47, 56, 59, 67; 27:38-44, 46; ยอห์น 19:1

      9 เรา​ไม่​สามารถ​เข้าใจ​ได้​เลย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​เจ็บ​ปวด​ขนาด​ไหน​ตอน​ที่​เห็น​ลูก​ของ​พระองค์​ถูก​ฆ่า​อย่าง​ทรมาน แต่​เรา​อาจ​เข้าใจ​ได้​ว่า​ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ถึง​ยอม​ให้​เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น ทำไม​พระองค์​ยอม​ทน​กับ​เรื่อง​นี้? พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​เรา​รู้​บาง​อย่าง​ที่​ยอด​เยี่ยม​ที่​ยอห์น 3:16 ข้อ​คัมภีร์​นี้​สำคัญ​ถึง​ขนาด​ที่​บาง​คน​บอก​ว่า​เป็น​ข้อ​ที่​สรุป​ข่าว​ดี​เรื่อง​พระ​เยซู ข้อ​นี้​บอก​ว่า “พระเจ้า​รัก​โลก​มาก จน​ถึง​กับ​ยอม​สละ​ลูก​คน​เดียว​ของ​พระองค์ เพื่อ​ทุก​คน​ที่​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​ท่าน​จะ​ไม่​ถูก​ทำลาย แต่​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป” ดังนั้น สิ่ง​ที่​กระตุ้น​ให้​พระ​ยะโฮวา​ทำ​อย่าง​นั้น​ก็​คือ​ความ​รัก ที่​พระ​ยะโฮวา​ส่ง​ลูก​ของ​พระองค์​มา​ตาย​อย่าง​ทรมาน​เพื่อ​เรา​เป็น​ของ​ขวัญ​จาก​พระองค์​และ​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​ที่​ไม่​เคย​มี​มา​ก่อน

      “พระเจ้า . . . ยอม​สละ​ลูก​คน​เดียว​ของ​พระองค์”

      ความ​รัก​คือ​อะไร?

      10. คน​เรา​ต้องการ​อะไร และ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​ความหมาย​ของ​คำ​ว่า “ความ​รัก”?

      10 คำ​ว่า “ความ​รัก” หมาย​ถึง​อะไร? หลาย​คน​บอก​ว่า​ความ​รัก​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ที่​สุด​สำหรับ​มนุษย์ ตั้งแต่​เกิด​จน​ตาย​คน​เรา​อยาก​ได้​ความ​รัก เรา​มี​ความ​สุข​เมื่อ​ได้​รับ​ความ​รัก และ​เรา​อยู่​ไม่​ได้​ถ้า​ไม่​มี​ความ​รัก ถึง​แม้​เป็น​สิ่ง​ที่​สำคัญ​แต่​ก็​ไม่​ง่าย​เลย​ที่​จะ​อธิบาย​ว่า​ความ​รัก​หมาย​ถึง​อะไร​จริง ๆ ผู้​คน​พูด​ถึง​ความ​รัก​อยู่​บ่อย ๆ มี​การ​เขียน​หนังสือ แต่ง​เพลง และ​แต่ง​กลอน​เกี่ยว​กับ​ความ​รัก แต่​ทั้ง​หมด​นี้​ก็​ไม่​ได้​ช่วย​ให้​เข้าใจ​ว่า​ความ​รัก​หมาย​ถึง​อะไร​จริง ๆ หลาย​คน​ใช้​คำ​นี้​บ่อย ๆ และ​ใช้​กับ​หลาย​อย่าง นี่​เลย​ทำ​ให้​ความหมาย​ของ​คำ​นี้​เข้าใจ​ยาก​ขึ้น

      11, 12. (ก) คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​ให้​เรา​รู้​ว่า​ความ​รัก​คือ​อะไร? (ข) ใน​ภาษา​กรีก​โบราณ มี​คำ​อะไร​บ้าง​ที่​หมาย​ถึง​ความ​รัก และ​คำ​ไหน​ใช้​บ่อย​ที่​สุด​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก? (ดู​เชิงอรรถ) (ค) ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​คำ​ว่า​อากาเพ​หมาย​ถึง​อะไร?

      11 แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​ชัดเจน​ว่า​ความ​รัก​หมาย​ถึง​อะไร พจนานุกรม​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิลเล่ม​หนึ่ง​บอก​ว่า “คน​ที่​มี​ความ​รัก​จะ​แสดง​ออก​ด้วย​การ​กระทำ” คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​เรา​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​และ​ความ​เมตตา​กับ​มนุษย์​ยังไง ลอง​คิด​ดู​สิ​ว่า พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​คือ ให้​ลูก​ชาย​ของ​พระองค์​มา​ตาย​เพื่อ​เรา เรื่อง​นี้​สอน​ให้​เรา​รู้​ชัดเจน​ว่า​ความ​รัก​คือ​อะไร ใน​บท​ต่อ ๆ ไป​เรา​จะ​เห็น​ตัวอย่าง​อีก​มาก​มาย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​ยังไง นอกจากนั้น เรา​จะ​ได้​เรียน​ด้วย​ว่า​คำ​ภาษา​เดิม​ที่​แปล​ว่า “ความ​รัก” ที่​ใช้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​หมาย​ถึง​อะไร ใน​ภาษา​กรีก​โบราณ​มี 4 คำ​ที่​แปล​ว่า “ความ​รัก”a แต่​มี​คำ​หนึ่ง​ที่​ใช้​บ่อย​ที่​สุด​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​คือ อากาเพ พจนานุกรม​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​เล่ม​หนึ่ง​บอก​ว่า​คำ​นี้ “อธิบาย​ความ​รัก​ใน​แบบ​ที่​มี​พลัง​มาก​ที่​สุด” ทำไม​ถึง​เป็น​อย่าง​นั้น?

      12 ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​คำ​ว่า​อากาเพ​หมาย​ถึง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​ที่​มี​พื้น​ฐาน​จาก​หลักการ​ของ​พระเจ้า ดังนั้น ความ​รัก​นี้​ไม่​ได้​เป็น​แค่​ความ​รู้สึก​ที่​เรา​มี​กับ​บาง​คน​ที่​น่า​รัก​หรือ​ทำ​ดี​กับ​เรา​เท่า​นั้น มี​การ​ใช้​คำ​นี้​ใน​ความหมาย​ที่​กว้าง​กว่า คือ​เป็น​ความ​รัก​ที่​เกิด​จาก​ความ​คิด​และ​ความ​ตั้งใจ​ของ​เรา​เอง ดังนั้น คริสเตียน​ควร​แสดง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​โดย​รัก​คน​อื่น​มาก​กว่า​ตัว​เอง ให้​เรา​มา​ดู​ที่​ยอห์น 3:16 อีก​ครั้ง คำ​ว่า “โลก” ที่​พระเจ้า​รัก​มาก​จน​ถึง​กับ​ยอม​สละ​ลูก​คน​เดียว​ของ​พระองค์​ใน​ข้อ​นี้​คือ​อะไร? โลก​ใน​ข้อ​นี้​หมาย​ถึง​มนุษย์​ทุก​คน​ที่​อาจ​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​ค่า​ไถ่​ของ​พระ​เยซู ซึ่ง​รวม​ถึง​ผู้​คน​มาก​มาย​ที่​ยัง​ใช้​ชีวิต​ใน​แบบ​ที่​พระเจ้า​ไม่​พอ​ใจ แล้ว​พระ​ยะโฮวา​รัก​มนุษย์​แต่​ละ​คน​เหมือน​เพื่อน​สนิท​อย่าง​ที่​พระองค์​รัก​อับราฮัม​ที่​ซื่อสัตย์​ไหม? (ยากอบ 2:23) ไม่ แต่​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​เมตตา​กับ​เรา​ทุก​คน​ถึง​แม้​พระองค์​เอง​ต้อง​เสีย​สละ​อย่าง​มาก​มาย พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​ทุก​คน​กลับ​ใจ​และ​เปลี่ยน​แปลง​ตัว​เอง (2 เปโตร 3:9) หลาย​คน​ได้​ทำ​อย่าง​นั้น และ​พระองค์​ก็​ยินดี​ให้​พวก​เขา​มา​เป็น​เพื่อน​สนิท​กับ​พระองค์

      13, 14. อะไร​แสดง​ว่า​ความ​รัก​ที่​คริสเตียน​มี​ต่อ​กัน​เป็น​ความ​รู้สึก​ที่​อบอุ่น?

      13 บาง​คน​อาจ​เข้าใจ​ผิด​ว่า​อากาเพ​ที่​ใช้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​หมาย​ถึง​ความ​รัก​ที่​เย็นชา​และ​ไร้​ความ​รู้สึก แต่​ความ​รัก​ที่​คริสเตียน​มี​ต่อ​กัน​เป็น​ความ​รู้สึก​ที่​อบอุ่น ตัวอย่าง​เช่น เมื่อ​ยอห์น​เขียน​ว่า “พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​รัก​ลูก​ของ​พระองค์” เขา​ใช้​คำ​ว่า​อากาเพ คำ​นี้​เป็น​ความ​รัก​ที่​ไม่​มี​ความ​รู้สึก​ไหม? ไม่ ขอ​ให้​สังเกต​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ใน​ยอห์น 5:20 ว่า “พระองค์​รัก​ลูก​ของ​พระองค์​มาก” คำ​ที่​ใช้​ใน​ข้อ​นี้​คือ​คำ​ว่า​ฟิเละ​โอ​ที่​หมาย​ถึง​ความ​รัก​ที่​อบอุ่น​และ​ลึกซึ้ง​ต่อ​กัน (ยอห์น 3:35; 5:20) ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​เป็น​แค่​ความ​รู้สึก​เท่า​นั้น แต่​ความ​รัก​ของ​พระองค์​มี​พื้น​ฐาน​จาก​หลักการ​ที่​ฉลาด​และ​ยุติธรรม​เสมอ

      14 เหมือน​ที่​เรา​ได้​คุย​กัน​แล้ว คุณลักษณะ​ทั้ง​หมด​ของ​พระ​ยะโฮวา​นั้น​ยอด​เยี่ยม สมบูรณ์​แบบ และ​ทำ​ให้​เรา​อยาก​เข้า​ใกล้​พระองค์ แต่​ความ​รัก​เป็น​คุณลักษณะ​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​ที่​ทำ​ให้​เรา​อยาก​เข้า​ใกล้​พระองค์ และ​ความ​รัก​ยัง​เป็น​คุณลักษณะ​ที่​เด่น​ที่​สุด​ของ​พระองค์​ด้วย เรา​รู้​เรื่อง​นี้​ได้​ยังไง?

      “พระเจ้า​เป็น​ความ​รัก”

      15. คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​ถึง​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​แบบ​ที่​แตกต่าง​จาก​คุณลักษณะ​อื่น ๆ ของ​พระองค์​ยังไง? (ดู​เชิงอรรถ)

      15 คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​ถึง​ความ​รัก​ใน​แบบ​ที่​แตกต่าง​จาก​คุณลักษณะ​อื่น ๆ ของ​พระ​ยะโฮวา คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​บอก​ว่า​พระเจ้า​เป็น​อำนาจ เป็น​ความ​ยุติธรรม หรือ​เป็น​สติ​ปัญญา พระองค์​มี​คุณลักษณะ​ทั้ง​สาม​อย่าง​นี้ คุณลักษณะ​เหล่า​นี้​มา​จาก​พระองค์ และ​ไม่​มี​ใคร​แสดง​คุณลักษณะ​ทั้ง​หมด​นี้​ได้​ดี​เท่า​พระองค์ แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​เรา​รู้​บาง​อย่าง​ที่​พิเศษ​เกี่ยว​กับ​คุณลักษณะ​ที่​สี่​ว่า “พระเจ้า​เป็น​ความ​รัก”b (1 ยอห์น 4:8) นี่​หมายความ​ว่า​ยังไง?

      16-18. (ก) ทำไม​คัมภีร์​ไบเบิล​ถึง​บอก​ว่า “พระเจ้า​เป็น​ความ​รัก”? (ข) ทำไม​ถึง​เหมาะ​สม​ที่​ใช้​มนุษย์​เป็น​สัญลักษณ์​แสดง​ถึง​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา?

      16 ที่​บอก​ว่า “พระเจ้า​เป็น​ความ​รัก” ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​ความ​รัก​และ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​เดียว​กัน เรา​พูด​ไม่​ได้​ว่า “ความ​รัก​เป็น​พระเจ้า” เพราะ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​มาก​กว่า​นั้น พระองค์​เป็น​พระเจ้า​ที่​มี​ความ​คิด ความ​รู้สึก​และ​คุณลักษณะ​หลาย​อย่าง ไม่​ได้​มี​แค่​ความ​รัก​อย่าง​เดียว แต่​ถึงอย่างนั้น​ความ​รัก​ก็​เป็น​คุณลักษณะ​เด่น​ของ​พระองค์ พจนานุกรม​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​เล่ม​หนึ่ง​บอก​เกี่ยว​กับ​ข้อ​นี้​ว่า “พระเจ้า​เป็น​ความ​รัก​และ​ทุก​สิ่ง​เกี่ยว​กับ​พระองค์​ก็​เป็น​ความ​รัก” นี่​หมายความ​ว่า​ที่​พระ​ยะโฮวา​สามารถ​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ได้​เพราะ​พระองค์​มี​อำนาจ ความ​ยุติธรรม​และ​สติ​ปัญญา​ชี้​นำ​วิธี​ที่​พระองค์​ลง​มือ​ทำ​ทุก​อย่าง แต่​ความ​รัก​เป็น​สิ่ง​ที่​กระตุ้น​ให้​พระองค์​ทำ​สิ่ง​เหล่า​นั้น ดังนั้น เมื่อ​พระองค์​แสดง​คุณลักษณะ​อื่น ๆ พระองค์​ก็​แสดง​ความ​รัก​ด้วย

      17 คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​ดี​ที่​สุด​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก ดังนั้น ถ้า​เรา​อยาก​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​รัก เรา​ก็​ต้อง​มา​รู้​จัก​พระ​ยะโฮวา และ​เรา​ทุก​คน​ก็​แสดง​คุณลักษณะ​นี้​ได้ เพราะ​อะไร? ตอน​ที่​พระ​ยะโฮวา​สร้าง​มนุษย์ พระองค์​พูด​กับ​พระ​เยซู​ว่า “ให้​เรา​สร้าง​มนุษย์​ตาม​แบบ​เรา​และ​มี​ลักษณะ​คล้าย​เรา” (ปฐมกาล 1:26) จาก​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​พระ​ยะโฮวา​สร้าง​บน​โลก มี​แค่​มนุษย์​เท่า​นั้น​ที่​เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก​ได้ อย่า​ลืม​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ใช้​สัตว์​ต่าง ๆ เพื่อ​เป็น​สัญลักษณ์​แสดง​ถึง​คุณลักษณะ​สำคัญ​ของ​พระองค์ แต่​เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​พูด​ถึง​ความ​รัก พระองค์​ใช้​มนุษย์​เป็น​สัญลักษณ์​แสดง​ถึง​คุณลักษณะ​เด่น​ที่​สุด​ของ​พระองค์—เอเสเคียล 1:10

      18 ถ้า​เรา​แสดง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​กับ​คน​อื่น เรา​ก็​กำลัง​เลียน​แบบ​คุณลักษณะ​เด่น​ที่​สุด​ของ​พระ​ยะโฮวา เหมือน​ที่​อัครสาวก​ยอห์น​เขียน​ไว้​ว่า “เรา​แสดง​ความ​รัก​ก็​เพราะ​พระองค์​รัก​เรา​ก่อน” (1 ยอห์น 4:19) แต่​พระ​ยะโฮวา​รัก​เรา​ก่อน​ยังไง?

      พระ​ยะโฮวา​รัก​เรา​ก่อน

      19. อะไร​กระตุ้น​พระ​ยะโฮวา​ให้​สร้าง​สิ่ง​มี​ชีวิต?

      19 ความ​รัก​มี​อยู่​มา​นาน​แล้ว ทำไม​เรา​ถึง​บอก​อย่าง​นั้น? ลอง​คิด​ดู​ว่า​อะไร​กระตุ้น​พระ​ยะโฮวา​ให้​สร้าง​สิ่ง​มี​ชีวิต? ไม่​ใช่​เพราะ​พระองค์​รู้สึก​เหงา​และ​ต้องการ​มี​เพื่อน พระ​ยะโฮวา​มี​ทุก​อย่าง​และ​ไม่​ขาด​อะไร​เลย เพราะ​ความ​รัก​เป็น​คุณลักษณะ​ที่​กระตุ้น​ให้​ทำ​ดี​กับ​คน​อื่น และ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ความ​รัก พระองค์​เลย​ให้​ชีวิต​กับ​ทูตสวรรค์​และ​มนุษย์​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​มี​ความ​สุข​ด้วย “ผู้​แรก​ที่​พระเจ้า​สร้าง” คือ​พระ​เยซู​ลูก​คน​เดียว​ของ​พระองค์ (วิวรณ์ 3:14) ต่อ​มา​พระ​ยะโฮวา​ใช้​พระ​เยซู​ให้​เป็น​นาย​ช่าง​และ​สร้าง​สิ่ง​อื่น ๆ ทั้ง​หมด​โดย​สร้าง​พวก​ทูตสวรรค์​ก่อน (โยบ 38:4, 7; โคโลสี 1:16) พระ​ยะโฮวา​สร้าง​พวก​เขา​ให้​มี​อิสระ​ที่​จะ​เลือก มี​สติ​ปัญญา และ​มี​ความ​รู้สึก พวก​เขา​เลย​แสดง​ความ​รัก​และ​เป็น​เพื่อน​กัน​ได้ ที่​สำคัญ​ที่​สุด​พวก​เขา​ยัง​รัก​พระ​ยะโฮวา​ได้​ด้วย (2 โครินธ์ 3:17) ดังนั้น ที่​พวก​เขา​แสดง​ความ​รัก​ได้​ก็​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​รัก​พวก​เขา​ก่อน

      20, 21. อะไร​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รัก​อาดัม​กับ​เอวา​มาก แต่​พวก​เขา​กลับ​ทำ​อะไร?

      20 เป็น​อย่าง​นั้น​กับ​มนุษย์​ด้วย พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​กับ​อาดัม​และ​เอวา​ตั้งแต่​แรก​ที่​พระองค์​สร้าง​พวก​เขา ไม่​ว่า​จะ​มอง​ไป​ที่​ไหน​ใน​สวน​เอเดน​ซึ่ง​เป็น​บ้าน​ของ​พวก​เขา พวก​เขา​ก็​เห็น​ชัด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รัก​พวก​เขา​มาก ขอ​สังเกต​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เตรียม​สวน​แห่ง​หนึ่ง​ไว้​ที่​เอเดน​ทาง​ฝั่ง​ทิศ​ตะวัน​ออก แล้ว​ให้​มนุษย์​ที่​พระองค์​สร้าง​ขึ้น​อยู่​ที่​นั่น” (ปฐมกาล 2:8) คุณ​เคย​อยู่​ใน​สวน​ที่​สวย​มาก ๆ ไหม? อะไร​ทำ​ให้​คุณ​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​สุด? เป็น​เพราะ​แสง​แดด​ที่​ส่อง​ทะลุ​ใบ​ไม้​ลง​มา​ไหม? หรือ​ว่า​จะ​เป็น​ดอกไม้​ที่​มี​สี​สัน​หลาก​หลาย​ชนิด? หรือ​ว่า​เป็น​เสียง​น้ำ​ไหล​ใน​ลำธาร เสียง​นก​ร้อง​เพลง หรือ​เสียง​แมลง? หรือ​กลิ่น​หอม​ของ​ดอกไม้ ผลไม้ และ​ต้น​ไม้​ต่าง ๆ? ใน​ทุก​วัน​นี้​ถึง​จะ​มี​สวน​ที่​สวย​มาก​แต่​ก็​เทียบ​ไม่​ได้​เลย​กับ​สวน​เอเดน ทำไม​ถึง​เป็น​อย่าง​นั้น?

      21 พระ​ยะโฮวา​สร้าง​สวน​นั้น​ด้วย​พระองค์​เอง สวน​นั้น​คง​ต้อง​สวย​มาก ๆ เพราะ​มี​ต้น​ไม้​หลาย​ชนิด​ที่​สวย​งาม​และ​ให้​ผล​ที่​อร่อย ที่​นั่น​ชุ่ม​ชื้น กว้าง​ใหญ่ และ​เต็ม​ไป​ด้วย​สัตว์​หลาย​ชนิด​ที่​ทำ​ให้​ตื่น​ตา​ตื่น​ใจ อาดัม​กับ​เอวา​มี​ทุก​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข พวก​เขา​มี​งาน​ที่​น่า​พอ​ใจ​และ​สนิท​กัน​มาก พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​กับ​พวก​เขา​ก่อน​และ​พวก​เขา​ก็​ควร​รัก​พระองค์​ด้วย แต่​พวก​เขา​ไม่​ได้​ทำ​อย่าง​นั้น แทน​ที่​จะ​เชื่อ​ฟัง​พ่อ​ใน​สวรรค์ พวก​เขา​กลับ​เห็น​แก่​ตัว​และ​กบฏ—ปฐมกาล​บท 2

      22. พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​พระองค์​มี​ความ​รัก​ที่​มั่นคง?

      22 พระ​ยะโฮวา​คง​ต้อง​รู้สึก​เสียใจ​มาก​แน่ ๆ แต่​นั่น​ทำ​ให้​พระองค์​เลิก​รัก​มนุษย์​ไหม? ไม่​เลย เพราะ “พระองค์​มี​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​ตลอด​ไป” (สดุดี 136:1) พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​กับ​ลูก​หลาน​ของ​อาดัม​กับ​เอวา​โดย​ช่วย​ทุก​คน​ที่​อยาก​มา​รู้​จัก​และ​รัก​พระองค์​ให้​รอด เรา​ได้​เรียน​ไป​แล้ว​ว่า​วิธี​หนึ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทำ​เพื่อ​ช่วย​ชีวิต​พวก​เรา​คือ​ให้​ลูก​ที่​รัก​ของ​พระองค์​มา​เป็น​ค่า​ไถ่ ถึง​แม้​พระองค์​ต้อง​เจ็บ​ปวด​มาก​ก็​ตาม—1 ยอห์น 4:10

      23. อะไร​เป็น​เหตุ​ผล​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​เป็น “พระเจ้า​ผู้​มี​ความ​สุข” และ​บท​ถัด​ไป​จะ​ตอบ​คำ​ถาม​ที่​สำคัญ​อะไร?

      23 พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​กับ​มนุษย์​ตั้งแต่​แรก เรา​เห็น​หลาย​อย่าง​ที่​แสดง​ว่า “พระองค์​รัก​เรา​ก่อน” ความ​รัก​ทำ​ให้​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน​และ​มี​ความ​สุข ดังนั้น เลย​ไม่​แปลก​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น “พระเจ้า​ผู้​มี​ความ​สุข” (1 ทิโมธี 1:11) แต่​คุณ​อาจ​สงสัย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รัก​คุณ​จริง ๆ ไหม? บท​ถัด​ไป​จะ​ตอบ​คำ​ถาม​ที่​สำคัญ​นี้

      a คำ​ว่า​ฟิเละโอ​ใช้​กับ​ความ​รัก​ระหว่าง​เพื่อน​สนิท​หรือ​พี่​น้อง มี​การ​ใช้​คำ​นี้​บ่อย ๆ ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก คำ​ว่า​สทอร์เก​ที่​เป็น​ความ​รัก​ระหว่าง​คน​ใน​ครอบครัว​ใช้​ที่ 2 ทิโมธี 3:3 เพื่อ​บอก​ว่า​ใน​สมัย​สุด​ท้าย​หลาย​คน​จะ​ไม่​รัก​ญาติ​พี่​น้อง คำ​ว่า​เอรอส​ใช้​กับ​ความ​รัก​ระหว่าง​ชาย​และ​หญิง แม้​ไม่​มี​การ​ใช้​คำ​นี้​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​พูด​ถึง​ความ​รัก​แบบ​นี้—สุภาษิต 5:15-20

      b ข้อ​อื่น ๆ ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​ใช้​คำ​ที่​คล้าย ๆ กัน​นี้ เช่น “พระเจ้า​เป็น​ความ​สว่าง” และ “พระเจ้า . . . เป็น​เหมือน​ไฟ​ที่​เผา​ผลาญ” (1 ยอห์น 1:5; ฮีบรู 12:29) แต่​นี่​เป็น​แค่​การ​เปรียบ​เทียบ​พระ​ยะโฮวา​กับ​บาง​อย่าง​เท่า​นั้น พระ​ยะโฮวา​เป็น​เหมือน​ความ​สว่าง​เพราะ​พระองค์​บริสุทธิ์​และ​ทำ​ทุก​อย่าง​ถูก​ต้อง​เสมอ พระองค์​ไม่​มี “ความ​มืด” หรือ​ความ​ไม่​สะอาด​เลย และ​อาจ​เปรียบ​พระองค์​เป็น​เหมือน​ไฟ​เพราะ​พระองค์​ใช้​พลัง​อำนาจ​ใน​การ​ทำลาย

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • สดุดี 63:1-11 เรา​ควร​มอง​ว่า​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา​มี​ค่า​มาก​แค่​ไหน และ​ความ​รัก​นั้น​ทำ​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ใน​เรื่อง​อะไร?

      • โฮเชยา 11:1-4; 14:4-8 พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​เหมือน​พ่อ​กับ​ชาว​อิสราเอล (หรือ​เอฟราอิม) ยังไง​บ้าง​ถึง​แม้​พวก​เขา​ไม่​เชื่อ​ฟัง​พระองค์?

      • มัทธิว 5:43-48 พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​เหมือน​พ่อ​กับ​มนุษย์​ทุก​คน​ยังไง?

      • ยอห์น 17:15-26 คำ​อธิษฐาน​ของ​พระ​เยซู​เพื่อ​สาวก​ของ​ท่าน​ทำ​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ใน​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา​ยังไง?

  • ไม่​มี​อะไร​จะ “ขัด​ขวาง​ความ​รัก​ที่​พระเจ้า​แสดง​ต่อ​เรา” ได้
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • ผู้​หญิง​ที่​ทุกข์​ใจ​กำลัง​ร้องไห้

      บท 24

      ไม่​มี​อะไร​จะ “ขัด​ขวาง​ความ​รัก​ที่​พระเจ้า​แสดง​ต่อ​เรา” ได้

      1. ความ​รู้สึก​ใน​แง่​ลบ​มี​ผล​กับ​หลาย​คน​และ​กับ​ผู้​รับใช้​บาง​คน​ของ​พระเจ้า​ยังไง?

      พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​รัก​คุณ​เป็น​ส่วน​ตัว​ไหม? บาง​คน​เชื่อ​ว่า​พระเจ้า​รัก​มนุษย์​ทุก​คน​เหมือน​ที่​บอก​ไว้​ใน​ยอห์น 3:16 แต่​เขา​ก็​อาจ​รู้สึก​ว่า ‘พระเจ้า​คง​ไม่​รัก​ฉัน​เป็น​ส่วน​ตัว​หรอก’ บาง​ครั้ง​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​ก็​รู้สึก​อย่าง​นั้น​ด้วย ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​ท้อ​ใจ​พูด​ว่า “ผม​รู้สึก​ว่า​เป็น​เรื่อง​ยาก​มาก​ที่​จะ​เชื่อ​ว่า​พระเจ้า​สนใจ​ใน​ตัว​ผม” คุณ​เคย​รู้สึก​แบบ​นั้น​ไหม?

      2, 3. ใคร​อยาก​ให้​เรา​เชื่อ​ว่า​เรา​ไม่​มี​ค่า​หรือ​ไม่​สม​ควร​ได้​รับ​ความ​รัก​จาก​พระ​ยะโฮวา และ​เรา​จะ​มั่น​ใจ​ได้​ยังไง​ว่า​นั่น​ไม่​ใช่​เรื่อง​จริง?

      2 ซาตาน​อยาก​ให้​เรา​เชื่อ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ไม่​รัก​เรา​และ​มอง​ว่า​เรา​ไม่​มี​ค่า อย่า​ลืม​ว่า​ซาตาน​พยายาม​ทำ​ให้​ผู้​คน​มี​ความ​คิด​ผิด ๆ (2 โครินธ์ 11:3) หลาย​ครั้ง​มัน​ทำ​อย่าง​นั้น​โดย​ทำ​ให้​พวก​เขา​คิด​ว่า​ตัว​เอง​ดี​กว่า​คน​อื่น แต่​มัน​ก็​ชอบ​ที่​จะ​ทำ​ให้​ผู้​คน​คิด​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​ค่า​ด้วย (ยอห์น 7:47-49; 8:13, 44) ซาตาน​ทำ​อย่าง​นี้​มาก​ขึ้น​ใน “สมัย​สุด​ท้าย” ที่​เป็น​ช่วง​เวลา​วิกฤติ​ที่​มี​แต่​ความ​ยุ่งยาก​ลำบาก หลาย​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​โต​ใน​ครอบครัว​ที่ “ไม่​รัก​ญาติ​พี่​น้อง” หรือ​ไม่​มี​ความ​รัก​ตาม​ธรรมชาติ บาง​คน​ต้อง​เจอ​กับ​คน​ที่​ดุ​ร้าย เห็น​แก่​ตัว และ​หัวดื้อ​เป็น​ประจำ (2 ทิโมธี 3:1-5) คน​ที่​ต้อง​เจอ​การ​กระทำ​ไม่​ดี​แบบ​นั้น​นาน​หลาย​ปี​อาจ​คิด​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​ค่า​และ​ไม่​มี​ใคร​รัก​เขา​จริง ๆ

      3 ถ้า​คุณ​รู้สึก​อย่าง​นั้น​ก็​อย่า​เพิ่ง​หมด​หวัง บาง​ครั้ง​พวก​เรา​หลาย​คน​ก็​รู้สึก​อย่าง​นั้น​กับ​ตัว​เอง อย่า​ลืม​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เขียน​ไว้​เพื่อ “แก้ไข​สิ่ง​ต่าง ๆ ให้​เรียบร้อย” และ “สามารถ​ทำลาย​สิ่ง​ที่​ฝัง​ราก​ลึก​ได้” (2 ทิโมธี 3:16; 2 โครินธ์ 10:4) คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง​บอก​อีก​ว่า “เรา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระเจ้า​รัก​เรา ไม่​ว่า​ใจ​เรา​จะ​ตำหนิ​ตัว​เอง​ขนาด​ไหน พระเจ้า​ก็​รู้​จัก​ตัว​เรา​ดี​กว่า​ที่​เรา​รู้​จัก​ตัว​เอง และ​พระองค์​รู้​ทุก​สิ่ง” (1 ยอห์น 3:19, 20) ให้​เรา​มา​ดู 4 วิธี​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​ช่วย​เรา​ให้ “มั่น​ใจ” ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รัก​เรา

      พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​คุณ​มี​ค่า

      4, 5. ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​ของ​พระ​เยซู​เรื่อง​นก​กระจอก​ช่วย​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​เรา​มี​ค่า​สำหรับ​พระ​ยะโฮวา?

      4 อย่าง​แรก คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​ว่า​พระเจ้า​เห็น​ค่า​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ทุก​คน ตัวอย่าง​เช่น พระ​เยซู​บอก​ว่า “นก​กระจอก 2 ตัว​เขา​ขาย​กัน​แค่​ไม่​กี่​บาท แต่​ไม่​มี​สัก​ตัว​จะ​ตก​ถึง​ดิน​โดย​ที่​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ของ​คุณ​ไม่​รู้ แม้​แต่​ผม​บน​หัว​ของ​คุณ พระองค์​ก็​นับ​ไว้​แล้ว​ทุก​เส้น ดังนั้น อย่า​กลัว​เลย เพราะ​คุณ​มี​ค่า​มาก​กว่า​นก​กระจอก​หลาย​ตัว​รวม​กัน​ด้วย​ซ้ำ” (มัทธิว 10:29-31) คุณ​คิด​ว่า​คน​ที่​ฟัง​พระ​เยซู​พูด​จะ​รู้สึก​ยังไง?

      นก​กระจอก​กำลัง​ให้​อาหาร​ลูก

      “คุณ​มี​ค่า​มาก​กว่า​นก​กระจอก​หลาย​ตัว​รวม​กัน​ด้วย​ซ้ำ”

      5 เรา​อาจ​สงสัย​ว่า​จะ​มี​คน​ซื้อ​นก​กระจอก​ไป​ทำไม ใน​สมัย​ของ​พระ​เยซู นก​กระจอก​เป็น​นก​ที่​ขาย​เป็น​อาหาร​และ​มี​ราคา​ถูก​ที่​สุด สังเกต​ว่า​เงิน​หนึ่ง​เหรียญ​ที่​มี​ค่า​ไม่​มาก​ก็​ซื้อ​นก​กระจอก​ได้ 2 ตัว พระ​เยซู​บอก​ด้วย​ว่า​ถ้า​มี​คน​จ่าย​เงิน​สอง​เหรียญ เขา​ก็​จะ​ได้​นก​กระจอก​ไม่​ใช่ 4 ตัว แต่ 5 ตัว นก​ตัว​ที่​แถม​ให้​ดู​เหมือน​ว่า​ไม่​มี​ค่า​เลย เรา​อาจ​มอง​ว่า​นก​พวก​นี้​ไม่​มี​ค่า แต่​พระ​ยะโฮวา​มอง​พวก​มัน​ยังไง? พระ​เยซู​บอก​ว่า “ไม่​มี​สัก​ตัว​เดียว [แม้​แต่​ตัว​ที่​แถม​ให้] ที่​พระเจ้า​จะ​ลืม” (ลูกา 12:6, 7) ตอน​นี้​เรา​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​พระ​เยซู​อยาก​จะ​สอน​บทเรียน​อะไร​กับ​เรา ถ้า​พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่านก​กระจอก​ตัว​เดียว​มี​ค่า เรา​ก็​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​เรา​มี​ค่า​มาก​กว่า​นั้น​อีก เหมือน​ที่​พระ​เยซู​บอก พระ​ยะโฮวา​รู้​ทุก​อย่าง​เกี่ยว​กับ​ตัว​เรา พระองค์​รู้​ด้วย​ซ้ำ​ว่า​เรา​มี​ผม​กี่​เส้น

      6. ทำไม​เรา​แน่​ใจ​ได้​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​ได้​พูด​เกิน​จริง​เมื่อ​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รู้​ว่า​เรา​มี​ผม​กี่​เส้น?

      6 บาง​คน​อาจ​คิด​ว่า​พระ​เยซู​พูด​เกิน​จริง​เมื่อ​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รู้​ว่า​เรา​มี​ผม​กี่​เส้น แต่​ลอง​คิด​ถึง​คำ​สัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​จะ​ปลุก​คน​ตาย​ให้​ฟื้น​ขึ้น​มา เพื่อ​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้​พระองค์​ต้อง​รู้​ทุก​อย่าง​เกี่ยว​กับ​ตัว​เรา พระองค์​มอง​ว่า​เรา​มี​ค่า​มาก​และ​พระองค์​จด​จำ​แม้​แต่​ราย​ละเอียด​เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยว​กับ​เรา ตัวอย่าง​เช่น ดีเอ็นเอ​หรือ​รหัส​พันธุกรรม ความ​ทรงจำ และ​ประสบการณ์​ทั้ง​หมด​ใน​ชีวิต​ของ​เราa เมื่อ​เทียบ​กับ​เรื่อง​นี้​แล้ว​ก็​ง่าย​มาก​ที่​พระ​ยะโฮวา​จะ​รู้​ว่า​เรา​มี​ผม​กี่​เส้น

      ทำไม​พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​เรา​มี​ค่า?

      7, 8. (ก) เมื่อ​ตรวจ​ดู​หัวใจ​ผู้​คน พระ​ยะโฮวา​เห็น​คุณลักษณะ​อะไร​บ้าง​ที่​ทำ​ให้​พระองค์​มี​ความ​สุข? (ข) งาน​อะไร​บ้าง​ที่​เรา​ทำ​ซึ่ง​พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​มี​ค่า?

      7 อย่าง​ที่​สอง คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​รู้​ว่า​ทำไม​พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​มี​ค่า พระองค์​มี​ความ​สุข​ที่​เห็น​คุณลักษณะ​ที่​ดี​และ​เห็น​ความ​พยายาม​ของ​เรา​เพื่อ​ทำ​ให้​พระองค์​พอ​ใจ กษัตริย์​ดาวิด​บอก​โซโลมอน​ลูก​ของ​เขา​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ตรวจ​ดู​หัวใจ​และ​รู้​ความ​คิด​จิตใจ​ของ​ทุก​คน” (1 พงศาวดาร 28:9) เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ตรวจ​ดู​หัวใจ​ของ​หลาย​พัน​ล้าน​คน​ใน​โลก​ที่​มี​แต่​ความ​รุนแรง​และ​ความ​เกลียด​ชัง พระองค์​คง​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​เห็น​หลาย​คน​มี​หัวใจ​ดี รัก​สันติ รัก​ความ​จริง และ​อยาก​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง แล้ว​พระองค์​ทำ​อะไร​เมื่อ​เห็น​ว่า​มี​บาง​คน​รัก​พระองค์ อยาก​มา​รู้​จัก และ​อยาก​บอก​เรื่อง​พระองค์​ให้​คน​อื่น​รู้? คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​สนใจ​คน​แบบ​นี้​เป็น​พิเศษ พระองค์​ถึง​กับ​มี “หนังสือ​ที่​บันทึก​ชื่อ​คน​ที่​พระองค์​จด​จำ” ซึ่ง​ก็​คือ “คน​ที่​เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา​และ​ระลึก​ถึง​ชื่อ​ของ​พระองค์” (มาลาคี 3:16) พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​คุณลักษณะ​เหล่า​นี้​มี​ค่า​มาก​สำหรับ​พระองค์

      8 งาน​ที่​ดี​อะไร​บ้าง​ที่​พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​มี​ค่า? เรา​แน่​ใจ​ได้​ว่า​พระองค์​เห็น​ค่า​ทุก​อย่าง​ที่​เรา​ทำ​เพื่อ​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​คริสต์​ลูก​ของ​พระองค์ (1 เปโตร 2:21) งาน​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง​ที่​พระเจ้า​มอง​ว่า​มี​ค่า​คือ​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระองค์ ที่​โรม 10:15 บอก​ว่า “เท้า​ของ​คน​ที่​ประกาศ​ข่าว​ดี​งดงาม​จริง ๆ” ปกติ​แล้ว​เรา​อาจ​ไม่​ได้​คิด​ว่า​เท้า​ของ​เรา​งดงาม แต่​ใน​ข้อ​นี้​เท้า​เป็น​สิ่ง​ที่​แสดง​ให้​เห็น​ถึง​ความ​พยายาม​ของ​ผู้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ใน​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี ซึ่ง​มี​ค่า​มาก​สำหรับ​พระ​ยะโฮวา—มัทธิว 24:14; 28:19, 20

      9, 10. (ก) ทำไม​เรา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เห็น​ค่า​ที่​เรา​อดทน​แม้​ต้อง​เจอ​ปัญหา​ต่าง ๆ? (ข) พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​ทำ​อะไร​เมื่อ​ตรวจ​ดู​หัวใจ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์?

      9 พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​ความ​อดทน​ของ​เรา​มี​ค่า​ด้วย (มัทธิว 24:13) อย่า​ลืม​ว่า​ซาตาน​อยาก​ให้​เรา​เลิก​รับใช้​พระ​ยะโฮวา ทุก​วัน​ที่​เรา​ภักดี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​เรา​ก็​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​ซาตาน​โกหก (สุภาษิต 27:11) บาง​ครั้ง​การ​อดทน​ก็​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย ปัญหา​สุขภาพ ปัญหา​เศรษฐกิจ ความ​เครียด และ​ปัญหา​อื่น ๆ อาจ​ทำ​ให้​การ​ใช้​ชีวิต​ใน​แต่​ละ​วัน​ลำบาก​มาก​ขึ้น นอกจากนั้น เรา​อาจ​รู้สึก​ท้อ​เมื่อ​สิ่ง​ที่​เรา​หวัง​ไว้​ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น​จริง (สุภาษิต 13:12) พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​การ​อดทน​กับ​ปัญหา​เหล่า​นั้น​มี​ค่า​มาก​สำหรับ​พระองค์ กษัตริย์​ดาวิด​เข้าใจ​เรื่อง​นี้ เขา​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ให้​เก็บ​น้ำตา​ของ​เขา​ไว้​ใน “ถุง​หนัง” ของ​พระองค์ และ​พูด​ด้วย​ความ​มั่น​ใจ​ว่า “พระองค์​นับ​หยด​น้ำตา​ของ​ผม​แล้ว​เขียน​ไว้​ใน​สมุด​ของ​พระองค์” (สดุดี 56:8) ดังนั้น เมื่อ​เรา​รักษา​ความ​ซื่อสัตย์​ภักดี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา พระองค์​ก็​เห็น​ค่า​ที่​เรา​อดทน​และ​ไม่​ลืม​น้ำตา​ทุก​หยด​ของ​เรา สิ่ง​เหล่า​นี้​มี​ค่า​มาก​จริง ๆ สำหรับ​พระ​ยะโฮวา

      พระ​ยะโฮวา​เห็น​ค่า​ที่​เรา​อดทน​กับ​ความ​ยาก​ลำบาก

      10 ถึง​แม้​จะ​มี​หลักฐาน​มาก​มาย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เห็น​ค่า​เรา แต่​คุณ​ก็​อาจ​ยัง​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​ค่า​และ​อาจ​คิด​ว่า ‘ยัง​มี​อีก​หลาย​คน​ที่​ดี​กว่า​ฉัน ถ้า​พระ​ยะโฮวา​เปรียบ​เทียบ​ฉัน​กับ​คน​อื่น พระองค์​คง​ต้อง​ผิด​หวัง​แน่ ๆ’ แต่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ทำ​อย่าง​นั้น​และ​ไม่​เคย​คาด​หมาย​ให้​เรา​ทำ​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ​ไม่​ได้ (กาลาเทีย 6:4) เมื่อ​พระองค์​ตรวจ​ดู​หัวใจ​เรา พระองค์​ก็​เห็น​ค่า​สิ่ง​ดี​ทุก​อย่าง​ใน​ตัว​เรา​แม้​จะ​เป็น​สิ่ง​เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่​เรา​ทำ​ได้​ก็​ตาม

      พระ​ยะโฮวา​มอง​หา​สิ่ง​ดี​ใน​ตัว​เรา

      11. เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทำ​กับ​อาบียาห์?

      11 อย่าง​ที่​สาม พระ​ยะโฮวา​มอง​หา​คุณลักษณะ​ที่​ดี​ใน​ตัว​เรา ตัวอย่าง​เช่น พระ​ยะโฮวา​บอก​ว่า​จะ​กำจัด​ผู้​ชาย​ทุก​คน​ใน​ตระกูล​ของ​กษัตริย์​เยโรโบอัม​ที่​ชั่ว​ร้าย แต่​พระองค์​สั่ง​ให้​ฝัง​ศพ​อาบียาห์​ลูก​คน​หนึ่ง​ของ​เขา ทำไม​พระองค์​ถึง​บอก​แบบ​นั้น? “พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​อิสราเอล​เห็น​ว่า​มี​ความ​ดี​อยู่​บ้าง” ใน​ตัว​เขา (1 พงศ์กษัตริย์ 14:1, 10-13) ที่​จริง พระ​ยะโฮวา​ตรวจ​ดู​หัวใจ​ของ​อาบียาห์​อย่าง​ละเอียด​แล้ว​เห็น​ว่า​เขา​มี “ความ​ดี​อยู่​บ้าง” ถึง​แม้​ความ​ดี​ที่​เขา​มี​จะ​น้อย​แค่​ไหน แต่​พระ​ยะโฮวา​ก็​ยัง​ให้​เขียน​เรื่อง​นี้​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล พระองค์​ถึง​กับ​แสดง​ความ​เมตตา​กับ​เขา​โดย​ให้​มี​การ​ฝัง​ศพ​อย่าง​มี​เกียรติ

      12, 13. (ก) ถึง​แม้​เรา​จะ​ทำ​ผิด​พลาด แต่​เรื่อง​ของ​กษัตริย์​เยโฮชาฟัท​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​มอง​หา​สิ่ง​ดี​ใน​ตัว​เรา? (ข) พระ​ยะโฮวา​มอง​คุณลักษณะ​ที่​ดี​และ​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ​เพื่อ​พระองค์​ยังไง และ​พระองค์​ไม่​มี​วัน​ที่​จะ​ทำ​อะไร?

      12 อีก​ตัวอย่าง​หนึ่ง​ก็​คือ​กษัตริย์​เยโฮชาฟัท ตอน​ที่​เขา​ทำ​ผิด​พลาด ผู้​พยากรณ์​ของ​พระ​ยะโฮวา​บอก​เขา​ว่า “เพราะ​อย่าง​นี้​พระ​ยะโฮวา​จึง​โกรธ​ท่าน​มาก” นี่​เป็น​คำ​เตือน​ที่​น่า​ตกใจ​มาก แต่​ผู้​พยากรณ์​ก็​บอก​เขา​ด้วย​ว่า “พระเจ้า​เห็น​ว่า​ท่าน​ยัง​มี​ความ​ดี​อยู่” (2 พงศาวดาร 19:1-3) ถึง​แม้​พระ​ยะโฮวา​จะ​โกรธ​เยโฮชาฟัท แต่​พระองค์​ก็​ยัง​เห็น​คุณลักษณะ​ที่​ดี​ใน​ตัว​เขา นี่​ต่าง​กัน​มาก​กับ​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​แบบ เมื่อ​เรา​โกรธ​ใคร​สัก​คน​เรา​ก็​มัก​จะ​มอง​แต่​สิ่ง​ไม่​ดี​ใน​ตัว​เขา และ​เมื่อ​ทำ​บาป​เรา​อาจ​รู้สึก​ท้อ อับอาย และ​รู้สึก​ผิด​จน​มอง​ไม่​เห็น​ข้อ​ดี​ของ​ตัว​เอง แต่​อย่า​ลืม​ว่า​ถ้า​เรา​กลับ​ใจ​และ​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​ไม่​ทำ​ผิด​ซ้ำ​อีก พระ​ยะโฮวา​ก็​จะ​ให้​อภัย​เรา

      13 เหมือน​กับ​คน​ที่​ขุด​หา​พลอย​จะ​ร่อน​เศษ​กรวด​ทิ้ง​ไป​และ​เก็บ​เฉพาะ​พลอย​ที่​มี​ค่า​ไว้ พระ​ยะโฮวา​ก็​เลือก​มอง​ข้าม​จุด​อ่อน​และ​มอง​หา​สิ่ง​ดี​ใน​ตัว​เรา พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​คุณลักษณะ​ที่​ดี​และ​สิ่ง​ดี​ที่​เรา​ทำ​เป็น​เหมือน “พลอย” และ​เหมือน​กับ​ที่​พ่อ​แม่​บาง​คน​เก็บ​ภาพ​วาด​หรือ​ของ​ขวัญ​เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่​ลูก​ให้​ไว้​นาน​หลาย​ปี พระ​ยะโฮวา​ก็​เป็น​พ่อ​ที่​รัก​ลูก ๆ ของ​พระองค์​มาก ถ้า​เรา​ซื่อสัตย์​กับ​พระองค์​เสมอ พระองค์​ก็​จะ​ไม่​มี​วัน​ลืม​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ​เพื่อ​พระองค์​และ​คุณลักษณะ​ที่​ดี​ของ​เรา ที่​จริง พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​การ​ลืม​สิ่ง​เหล่า​นั้น​เป็น​การ​ทำ​ชั่ว (ฮีบรู 6:10) นอกจากนั้น ยัง​มี​อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​มอง​หา​ข้อ​ดี​ใน​ตัว​เรา​ด้วย

      14, 15. (ก) ทำไม​พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​เรา​มี​ค่า​ทั้ง ๆ ที่​เรา​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ? ขอ​ยก​ตัวอย่าง (ข) พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำ​อะไร​กับ​คุณลักษณะ​ดี ๆ ที่​พระองค์​เห็น​ใน​ตัว​เรา และ​พระองค์​รู้สึก​ยังไง​กับ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์?

      14 เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​มอง​เรา พระองค์​ไม่​ได้​สนใจ​ข้อ​ผิด​พลาด​ของ​เรา แต่​พระองค์​มอง​ว่า​เรา​เป็น​คน​ที่​ดี​ขึ้น​ได้ ตัวอย่าง​เช่น ถ้า​มี​ภาพ​วาด​ชิ้น​หนึ่ง​เสียหาย คน​ที่​รัก​งาน​ศิลปะ​จะ​พยายาม​เต็ม​ที่​เพื่อ​ซ่อม​ภาพ​วาด​นั้น เช่น ใน​หอ​ศิลป์​แห่ง​ชาติ​ที่​ลอนดอน มี​คน​ยิง​ภาพ​วาด​ของ​เลโอนาร์โด ดา วินชี ซึ่ง​มี​มูลค่า​ประมาณ 30 ล้าน​เหรียญ​สหรัฐ ตอน​ที่​เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​ไม่​มี​ใคร​บอก​ให้​ทิ้ง​ภาพ​นี้ แต่​พวก​เขา​เริ่ม​งาน​ซ่อม​ภาพ​วาด​นี้​ทันที เพราะ​อะไร? เพราะ​ภาพ​นั้น​เป็น​สิ่ง​มี​ค่า​มาก​สำหรับ​คน​ที่​รัก​งาน​ศิลปะ ถึง​แม้​เรา​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ​และ​บาง​ครั้ง​อาจ​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​ค่า แต่​สำหรับ​พระเจ้า เรา​มี​ค่า​มาก​กว่า​ภาพ​วาด​อีก (สดุดี 72:12-14) พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ผู้​สร้าง​ตัว​เรา​จะ​ทำ​ทุก​อย่าง​เพื่อ​แก้ไข​ผล​เสียหาย​ที่​เกิด​จาก​บาป​และ​ช่วย​ทุก​คน​ที่​รัก​และ​เชื่อ​ฟัง​พระองค์​ให้​เป็น​คน​ที่​สมบูรณ์​แบบ​ได้—กิจการ 3:21; โรม 8:20-22

      15 พระ​ยะโฮวา​เห็น​สิ่ง​ดี​ใน​ตัว​เรา​ที่​เรา​อาจ​มอง​ไม่​เห็น และ​ถ้า​เรา​รับใช้​พระองค์​อย่าง​ซื่อสัตย์​ต่อ ๆ ไป พระองค์​ก็​จะ​ช่วย​เรา​ให้​เป็น​คน​ที่​ดี​ขึ้น​และ​ใน​ที่​สุด​เรา​ก็​จะ​เป็น​คน​สมบูรณ์​แบบ ถึง​แม้​โลก​ของ​ซาตาน​จะ​ทำ​เหมือน​ว่า​เรา​ไม่​มี​ค่า แต่​พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์​มี​ค่า​มาก—ฮักกัย 2:7

      พระ​ยะโฮวา​ทำ​หลาย​อย่าง​ที่​แสดง​ว่า​พระองค์​รัก​เรา

      16. อะไร​เป็น​หลักฐาน​ชัดเจน​ที่​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รัก​เรา และ​เรา​รู้​ได้​ยังไง​ว่า​พระ​เยซู​สละ​ชีวิต​เพื่อ​เรา​เป็น​ส่วน​ตัว?

      16 อย่าง​ที่​สี่ พระ​ยะโฮวา​ทำ​หลาย​อย่าง​ที่​แสดง​ว่า​พระองค์​รัก​เรา ค่า​ไถ่​ของ​พระ​เยซู​เป็น​คำ​ตอบ​ที่​ชัดเจน​ที่​สุด​สำหรับ​คำ​โกหก​ของ​ซาตาน​ที่​ว่า​เรา​ไม่​มี​ค่า​และ​ไม่​สม​ควร​ได้​รับ​ความ​รัก​จาก​พระเจ้า อย่า​ลืม​ว่า​พระ​เยซู​ต้อง​เจ็บ​ปวด​มาก​ขนาด​ไหน​ตอน​ที่​ท่าน​ถูก​ตรึง​บน​เสา​ทรมาน และ​พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​เจ็บ​ปวด​มาก​กว่า​นั้น​อีก​ตอน​ที่​เห็น​ลูก​ที่​รัก​ของ​พระองค์​ตาย ทั้ง​หมด​นี้​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​กับ​พระ​เยซู​รัก​เรา​มาก​จริง ๆ แต่​หลาย​คน​กลับ​รู้สึก​ว่า​ยาก​ที่​จะ​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​สละ​ชีวิต​เพื่อ​เขา​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​คู่​ควร ขอ​ให้​คิด​ถึง​อัครสาวก​เปาโล ถึง​แม้​เขา​เคย​ข่มเหง​สาวก​ของ​พระ​คริสต์ แต่​ภาย​หลัง​เขา​เขียน​ว่า “ลูก​ของ​พระเจ้า . . . รัก​ผม​และ​สละ​ชีวิต​เพื่อ​ผม”—กาลาเทีย 1:13; 2:20

      17. พระ​ยะโฮวา​ทำ​ยังไง​เพื่อ​ชัก​นำ​เรา​ให้​มา​หา​พระองค์​และ​ลูก​ของ​พระองค์?

      17 พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​รัก​เรา​โดย​ช่วย​เรา​แต่​ละ​คน​ให้​รับ​ประโยชน์​จาก​ค่า​ไถ่ พระ​เยซู​บอก​ว่า “ไม่​มี​ใคร​จะ​มา​หา​ผม​ได้ นอกจาก​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ที่​ใช้​ผม​มา​จะ​ชัก​นำ​เขา” (ยอห์น 6:44) พระ​ยะโฮวา​ชัก​นำ​เรา​เป็น​ส่วน​ตัว​ให้​มา​หา​ลูก​ของ​พระองค์​และ​ให้​มี​ความ​หวัง​ที่​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป พระองค์​ทำ​อย่าง​นั้น​โดย​ให้​มี​คน​มา​ประกาศ​กับ​เรา พระองค์​ใช้​พลัง​บริสุทธิ์​เพื่อ​ช่วย​เรา​ให้​เข้าใจ​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​เอา​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​ไป​ใช้​ได้​ทั้ง ๆ ที่​เรา​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ ดังนั้น พระ​ยะโฮวา​พูด​กับ​เรา​เหมือน​ที่​พระองค์​พูด​กับ​ชาว​อิสราเอล​ว่า “เรา​รัก​เจ้า​และ​จะ​รัก​ตลอด​ไป เพราะ​เรา​มี​ความ​รัก​ที่​มั่นคง เรา​จึง​ทำ​ให้​เจ้า​เข้า​มา​ใกล้​เรา”—เยเรมีย์ 31:3

      18, 19. (ก) พระ​ยะโฮวา​แสดง​ว่า​รัก​เรา​โดย​ให้​เรา​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​สนิท​กับ​พระองค์​เป็น​ส่วน​ตัว และ​อะไร​แสดง​ว่า​พระองค์​สนใจ​เรื่อง​นี้​มาก? (ข) คัมภีร์​ไบเบิล​ทำ​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ยังไง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​ฟัง​ที่​เห็น​อก​เห็น​ใจ?

      18 พระ​ยะโฮวา​รัก​เรา​มาก​และ​อยาก​ให้​เรา​อธิษฐาน​ถึง​พระองค์ การ​อธิษฐาน​จะ​ทำ​ให้​เรา​สนิท​กับ​พระองค์​เป็น​ส่วน​ตัว คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​เรา “อธิษฐาน​เป็น​ประจำ” (1 เธสะโลนิกา 5:17) พระองค์​จะ​ฟัง​แน่นอน คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระองค์​เป็น “ผู้​ฟัง​คำ​อธิษฐาน” (สดุดี 65:2) แม้​แต่​พระ​เยซู​ก็​ไม่​ได้​ทำ​หน้า​ที่​นี้​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​จะ​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​ของ​เรา​ด้วย​ตัว​เอง ลอง​คิด​ดู​สิ ผู้​สร้าง​เอกภพ​เชิญ​เรา​ให้​อธิษฐาน​และ​ระบาย​ความ​ใน​ใจ​กับ​พระองค์​ได้ แล้ว​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​ฟัง​ที่​เย็นชา ไร้​ความ​รู้สึก และ​ไม่​สนใจ​เรา​ไหม? ไม่​ใช่​อย่าง​นั้น​แน่ ๆ

      19 พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​เห็น​อก​เห็น​ใจ แต่​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​คือ​อะไร? พี่​น้อง​สูง​อายุ​ที่​ซื่อสัตย์​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า “ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​คือ​ความ​เจ็บ​ปวด​ของ​คุณ​ใน​หัวใจ​ของ​ผม” พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​อย่าง​นั้น​กับ​ความ​เจ็บ​ปวด​ของ​เรา​ด้วย​ไหม? ขอ​ให้​สังเกต​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ยังไง​ตอน​ที่​ชาว​อิสราเอล​ประชาชน​ของ​พระองค์​ลำบาก คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “ใน​ช่วง​ที่​พวก​เขา​ทน​ทุกข์ พระเจ้า​ก็​ทน​ทุกข์​ด้วย” (อิสยาห์ 63:9) พระ​ยะโฮวา​ไม่​เพียง​แค่​เห็น​ความ​ลำบาก​ของ​พวก​เขา​เท่า​นั้น แต่​พระองค์​ยัง​รู้สึก​เจ็บ​ปวด​กับ​พวก​เขา​ด้วย พระ​ยะโฮวา​แสดง​ว่า​เห็น​อก​เห็น​ใจ​พวก​เขา​มาก​โดย​บอก​ว่า “ใคร​ที่​แตะ​ต้อง​เจ้า​ก็​เท่า​กับ​แตะ​ต้อง​ดวง​ตา​ของ​เรา”b (เศคาริยาห์ 2:8) ถ้า​มี​ใคร​เอา​มือ​มา​จิ้ม​ตา​เรา เรา​คง​จะ​เจ็บ​มาก​จริง ๆ พระ​ยะโฮวา​เห็น​อก​เห็น​ใจ​เรา ดังนั้น เมื่อ​เรา​เจ็บ​ปวด พระองค์​ก็​เจ็บ​ปวด​ด้วย

      20. เพื่อ​จะ​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ที่​อยู่​ใน​โรม 12:3 เรา​ต้อง​หลีก​เลี่ยง​ความ​คิด​แบบ​ไหน?

      20 คริสเตียน​ที่​เป็น​ผู้​ใหญ่​จะ​ไม่​รู้สึก​ภูมิ​ใจ​ใน​ตัว​เอง​มาก​เกิน​ไป​หรือ​มอง​ว่า​เขา​ดี​กว่า​คน​อื่น​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​รัก​และ​มอง​ว่า​เขา​มี​ค่า อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “ผม​ได้​รับ​ความ​กรุณา​ที่​ยิ่ง​ใหญ่ ผม​จึง​ขอ​บอก​พวก​คุณ​ทุก​คน​ว่า อย่า​คิด​ถึง​ตัว​เอง​มาก​เกิน​ไป แต่​ให้​คิด​อย่าง​สม​เหตุ​สม​ผล​ตาม​ขนาด​ของ​ความ​เชื่อ​ที่​พระเจ้า​ให้​แต่​ละ​คน” (โรม 12:3) ดังนั้น ให้​เรา​มี​ความ​สุข​กับ​ความ​รัก​ที่​อบอุ่น​ของ​พ่อ​ใน​สวรรค์ และ​จำ​ไว้​เสมอ​ว่า​เรา​ไม่​ควร​คิด​ว่า​เรา​ต้อง​ได้​รับ​ความ​รัก​จาก​พระเจ้า​เป็น​การ​ตอบ​แทน—ลูกา 17:10

      21. เรา​ต้อง​ไม่​หลง​เชื่อ​คำ​โกหก​อะไร​ของ​ซาตาน แต่​เรา​ควร​เชื่อ​คำ​รับรอง​อะไร​จาก​พระ​ยะโฮวา?

      21 ขอ​ให้​เรา​ทำ​ทุก​อย่าง​ที่​ทำ​ได้​เพื่อ​จะ​ไม่​หลง​เชื่อ​คำ​โกหก​ของ​ซาตาน รวม​ทั้ง​คำ​โกหก​ที่​ว่า​เรา​ไม่​มี​ค่า​หรือ​ไม่​สม​ควร​ได้​รับ​ความ​รัก ถ้า​มี​บาง​อย่าง​ไม่​ดี​เกิด​ขึ้น​ที่​ทำ​ให้​รู้สึก​ว่า​คุณ​ไม่​ดี​พอ​ที่​พระเจ้า​จะ​รัก หรือ​คิด​ว่า​สิ่ง​ดี ๆ ที่​คุณ​ทำ​ไม่​มี​ค่า​สำหรับ​พระองค์ หรือ​คุณ​อาจ​ทำ​บาป​ร้ายแรง​และ​รู้สึก​ว่า​ค่า​ไถ่​ของ​พระ​เยซู​ไม่​สามารถ​ไถ่​ความ​ผิด​นั้น​ได้ ถ้า​คุณ​คิด​อย่าง​นั้น คุณ​ก็​กำลัง​ถูก​ซาตาน​หลอก อย่า​ไป​เชื่อ​คำ​โกหก​เหล่า​นั้น ขอ​ให้​มั่น​ใจ​ว่า​คำ​พูด​ที่​พระ​ยะโฮวา​ดล​ใจ​ให้​เปาโล​เขียน​จะ​ใช้​กับ​เรา​ได้​ด้วย เขา​เขียน​ว่า “ผม​มั่น​ใจ​ว่า ไม่​ว่า​ความ​ตาย หรือ​ชีวิต หรือ​ทูตสวรรค์ หรือ​รัฐบาล หรือ​สิ่ง​ที่​มี​อยู่​ตอน​นี้ หรือ​สิ่ง​ที่​จะ​มี​ใน​อนาคต หรือ​อำนาจ หรือ​ความ​สูง หรือ​ความ​ลึก หรือ​สิ่ง​อื่น ๆ ที่​ถูก​สร้าง​มา จะ​ไม่​มี​ทาง​ขัด​ขวาง​ความ​รัก​ที่​พระเจ้า​แสดง​ต่อ​เรา​ผ่าน​ทาง​พระ​คริสต์​เยซู​ผู้​เป็น​นาย​ของ​เรา​ได้”—โรม 8:38, 39

      a หลาย​ครั้ง​คัมภีร์​ไบเบิล​เชื่อม​โยง​ความ​หวัง​เรื่อง​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​กับ​ความ​จำ​ของ​พระ​ยะโฮวา โยบ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​พูด​กับ​พระ​ยะโฮวา​ว่า “ถ้า​พระองค์ . . . กำหนด​เวลา​ให้​ผม แล้ว​คิด​ถึง​ผม​อีก” (โยบ 14:13) พระ​เยซู​ก็​พูด​ถึง​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​ของ “ทุก​คน​ซึ่ง​อยู่​ใน​อุโมงค์​ฝัง​ศพ” หรือ “อุโมงค์​รำลึก” นี่​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จด​จำ​ทุก​คน​ที่​พระองค์​อยาก​จะ​ปลุก​ให้​ฟื้น​จาก​ตาย—ยอห์น 5:28, 29

      b คัมภีร์​ไบเบิล​บาง​ฉบับ​บอก​ว่า​ข้อ​นี้​หมาย​ถึง​คน​ที่​แตะ​ต้อง​ประชาชน​ของ​พระเจ้า​ก็​แตะ​ต้อง​ตา​ของ​ตัว​เอง​หรือ​ตา​ของ​ชาว​อิสราเอล ไม่​ใช่​ของ​พระเจ้า ความ​คิด​ที่​ผิด ๆ นี้​มา​จาก​บาง​คน​ที่​คัด​ลอก​คัมภีร์​ไบเบิล พวก​เขา​รู้สึก​ว่า​ข้อ​ความ​นี้​ไม่​แสดง​ความ​นับถือ​พระเจ้า ดังนั้น​พวก​เขา​เลย​เปลี่ยน​ข้อ​ความ​นี้ การ​ทำ​แบบ​นี้​ทำ​ให้​ภาพ​ที่​น่า​ประทับใจ​ที่​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​กับ​ประชาชน​ของ​พระองค์​หาย​ไป

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • สดุดี 139:1-24 คำ​พูด​ที่​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ของ​กษัตริย์​ดาวิด​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​สนใจ​พวก​เรา​เป็น​ส่วน​ตัว?

      • อิสยาห์ 43:3, 4, 10-13 พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ยังไง​กับ​คน​ที่​เป็น​พยาน​ของ​พระองค์ และ​พระองค์​ทำ​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​พระองค์​รู้สึก​อย่าง​นั้น?

      • โรม 5:6-8 ถึง​แม้​เรา​จะ​เป็น​คน​บาป ทำไม​เรา​แน่​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รัก​เรา?

      • ยูดา 17-25 เรา​จะ​ทำ​ยังไง​เพื่อ​ให้​พระเจ้า​รัก​เรา​เสมอ และ​ทำไม​บาง​ครั้ง​ถึง​เป็น​เรื่อง​ยาก?

  • พระเจ้า “เอ็นดู​สงสาร” เรา
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​มี​หน้า​ตา​อ่อนโยน

      บท 25

      พระเจ้า “เอ็นดู​สงสาร” เรา

      1, 2. (ก) ปกติ​แล้ว​ตอน​ที่​ลูก​ร้อง แม่​จะ​ทำ​ยังไง? (ข) ใคร​มี​ความ​เอ็นดู​สงสาร​มาก​กว่า​แม่?

      เมื่อ​ลูก​น้อย​ร้องไห้​ตอน​กลาง​ดึก แม่​ก็​ตื่น​ทันที ตั้งแต่​ลูก​เกิด​มา เธอ​นอน​หลับ​ไม่​สนิท​เหมือน​เมื่อ​ก่อน ตอน​นี้​เธอ​รู้​ว่า​ลูก​ต้องการ​อะไร​เมื่อ​ได้​ยิน​เสียง​ร้อง​ของ​เขา เช่น ลูก​อาจ​จะ​หิว​นม อยาก​ให้​อุ้ม หรือ​อยาก​ให้​แม่​สนใจ แต่​ไม่​ว่า​ลูก​จะ​ร้องไห้​เพราะ​อะไร​ก็​ตาม แม่​ก็​จะ​รีบ​ลุก​ขึ้น​มา​ดู​ทันที​เพราะ​เธอ​รัก​และ​เอ็นดู​สงสาร​ลูก

      2 ถึง​แม้​ความ​เอ็นดู​สงสาร​ที่​แม่​มี​ต่อ​ลูก​ที่​เพิ่ง​เกิด​เป็น​ความ​รู้สึก​ที่​อ่อนโยน​ที่​สุด​ที่​มนุษย์​มี แต่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​รู้สึก​เมตตา​สงสาร​เรา​มาก​กว่า​นั้น​อีก ถ้า​เรา​เข้าใจ​คุณลักษณะ​ที่​ยอด​เยี่ยม​นี้ เรา​ก็​จะ​ยิ่ง​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น ตอน​นี้​ให้​เรา​มา​ดู​ว่า​ความ​เอ็นดู​สงสาร​หมาย​ถึง​อะไร และ​พระเจ้า​แสดง​คุณลักษณะ​นี้​ยังไง

      ความ​สงสาร​หมาย​ถึง​อะไร?

      3. คำ​ภาษา​ฮีบรู​ที่​แปล​ว่า “แสดง​ความ​เมตตา” หรือ “สงสาร” หมาย​ถึง​อะไร?

      3 ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ความ​สงสาร​กับ​ความ​เมตตา​เกี่ยว​ข้อง​กัน คำ​ภาษา​ฮีบรู​และ​คำ​ภาษา​กรีก​หลาย​คำ​ถ่ายทอด​ความ​รู้สึก​เอ็นดู​สงสาร ตัวอย่าง​เช่น คำ​ภาษา​ฮีบรู ราคัม ซึ่ง​บ่อย​ครั้ง​แปล​ว่า “แสดง​ความ​เมตตา” หรือ “สงสาร” พจนานุกรม​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​เล่ม​หนึ่ง​บอก​ว่า คำ​กริยา ราคัม “หมาย​ถึง​ความ​รู้สึก​สงสาร​ที่​ลึกซึ้ง​และ​อ่อนโยน เช่น ความ​รู้สึก​ที่​เรา​มี​ตอน​ที่​เห็น​คน​ที่​เรา​รัก​ทน​ทุกข์​และ​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ” พระ​ยะโฮวา​ใช้​คำ​ฮีบรู​นี้​เพื่อ​อธิบาย​ความ​รู้สึก​ของ​พระองค์ คำ​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คำ​ว่า “ครรภ์” และ​แปล​ว่า “ความ​สงสาร​ของ​แม่” ได้​ด้วยa—อพยพ 33:19; เยเรมีย์ 33:26

      แม่​คน​หนึ่ง​อุ้ม​ลูก​ของ​เธอ

      “คน​เป็น​แม่​จะ​ลืม . . . ลูก​ที่​เธอ​คลอด​ออก​มา​หรือ?”

      4, 5. คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​ความ​รู้สึก​ที่​แม่​มี​ต่อ​ลูก​เพื่อ​สอน​เรา​เกี่ยว​กับ​ความ​เมตตา​สงสาร​ของ​พระ​ยะโฮวา​ยังไง?

      4 คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​ความ​รู้สึก​ที่​แม่​มี​ต่อ​ลูก​เพื่อ​สอน​เรา​ว่า​ความ​สงสาร​ของ​พระ​ยะโฮวา​หมาย​ถึง​อะไร อิสยาห์ 49:15 บอก​ว่า “คน​เป็น​แม่​จะ​ลืม​ลูก​ที่​ยัง​ไม่​หย่า​นม​และ​ไม่​สงสาร [ราคัม] ลูก​ที่​เธอ​คลอด​ออก​มา​หรือ? ถึง​แม้​เธอ​จะ​ลืม แต่​เรา​ไม่​มี​ทาง​ลืม​เจ้า​เลย” ข้อ​นี้​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เมตตา​สงสาร​ประชาชน​ของ​พระองค์​มาก ทำไม​ถึง​บอก​อย่าง​นั้น?

      5 เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​คิด​ว่า​แม่​จะ​ไม่​ดู​แล​และ​เอา​ใจ​ใส่​ลูก​ที่​ยัง​กิน​นม​อยู่ ที่​จริง ลูก​ยัง​ช่วย​ตัว​เอง​ไม่​ได้ และ​ต้อง​ได้​รับ​ความ​รัก​และ​การ​เอา​ใจ​ใส่​จาก​แม่​ทั้ง​วัน​ทั้ง​คืน น่า​เศร้า​ที่​แม่​บาง​คน​ทอดทิ้ง​ลูก​ของ​ตัว​เอง โดย​เฉพาะ​ใน “ช่วง​เวลา​วิกฤติ” นี้​ที่​หลาย​คน “ไม่​รัก​ญาติ​พี่​น้อง” (2 ทิโมธี 3:1, 3) แต่​พระ​ยะโฮวา​บอก​ว่า “เรา​ไม่​มี​ทาง​ลืม​เจ้า​เลย” ความ​เมตตา​สงสาร​ที่​พระ​ยะโฮวา​มี​ต่อ​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ไม่​มี​วัน​เปลี่ยน ความ​เมตตา​ที่​พระองค์​มี​นั้น​มาก​กว่า​ความ​รู้สึก​ตาม​ธรรมชาติ​ที่​แม่​มี​ต่อ​ลูก​ของ​เธอ ไม่​น่า​แปลก​ใจ​ที่​นัก​วิชาการ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​อธิบาย​เกี่ยว​กับ​อิสยาห์ 49:15 ว่า “นี่​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​อย่าง​หนึ่ง​ของ​พระเจ้า​ที่​พูด​ถึง​ใน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู”

      6. หลาย​คน​คิด​ยังไง​กับ​การ​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร แต่​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ใน​เรื่อง​อะไร?

      6 ถ้า​เรา​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​นั่น​หมายความ​ว่า​เรา​เป็น​คน​อ่อนแอ​ไหม? หลาย​คน​คิด​อย่าง​นั้น ตัวอย่าง​เช่น ตอน​ที่​พระ​เยซู​อยู่​บน​โลก​มี​นัก​ปรัชญา​ที่​มี​ชื่อเสียง​คน​หนึ่ง​สอน​ว่า “ความ​สงสาร​เป็น​ความ​อ่อนแอ” เขา​เชื่อ​ว่า​คน​เรา​จะ​มี​ชีวิต​ที่​ดี​ที่​สุด​ได้​ถ้า​ไม่​รู้สึก​เสียใจ​หรือ​ดีใจ เขา​บอก​ว่า คน​ฉลาด​อาจ​ช่วยเหลือ​คน​ที่​กำลัง​ลำบาก​ได้ แต่​เขา​ต้อง​ไม่​รู้สึก​สงสาร เพราะ​นั่น​จะ​ทำ​ให้​เขา​ไม่​มี​สันติสุข คน​แบบ​นั้น​ที่​คิด​ถึง​แต่​ตัว​เอง​จะ​ไม่​สามารถ​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​ออก​มา​ได้​เลย แต่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​พระองค์​ช่วย​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ว่า​พระองค์ “เมตตา​และ​มี​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​จริง ๆ” (ยากอบ 5:11) เรา​จะ​ได้​เห็น​ว่า​ความ​เมตตา​สงสาร​ไม่​ใช่​ความ​อ่อนแอ แต่​เป็น​คุณลักษณะ​ที่​เข้มแข็ง​และ​สำคัญ​มาก ให้​เรา​มา​ดู​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​เหมือน​พ่อ​ที่​รัก​เรา​และ​พระองค์​เมตตา​สงสาร​เรา​ยังไง

      พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​กับ​ชาติ​อิสราเอล

      7, 8. ชาว​อิสราเอล​ต้อง​เจอ​ความ​ลำบาก​อะไร​บ้าง​ใน​อียิปต์ และ​พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ยังไง​กับ​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​เจอ?

      7 ความ​เมตตา​สงสาร​ของ​พระ​ยะโฮวา​เห็น​ชัด​ใน​วิธี​ที่​พระองค์​ปฏิบัติ​กับ​ชาติ​อิสราเอล หลัง​จาก​โยเซฟ​เสีย​ชีวิต​ชาว​อิสราเอล​ที่​มี​จำนวน​หลาย​ล้าน​คน​ตก​เป็น​ทาส​ใน​อียิปต์​และ​มี​ชีวิต​ที่​ลำบาก​มาก พวก​อียิปต์ “ทำ​ให้​ชีวิต​ชาว​อิสราเอล​ขมขื่น​โดย​ใช้​ให้​ทำ​งาน​หนัก บังคับ​ให้​ทำ​อิฐ ทำ​ปูน และ​ทำ​งาน​ทุก​อย่าง” (อพยพ 1:11, 14) เมื่อ​เจอ​เรื่อง​แบบ​นี้ ชาว​อิสราเอล​ร้อง​ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ช่วย พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ยังไง และ​พระองค์​ทำ​อะไร?

      8 พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​เสียใจ​มาก​ที่​เห็น​ว่า​พวก​เขา​ต้อง​เจอ​ความ​ลำบาก พระองค์​บอก​ว่า “เรา​เห็น​แล้ว​ว่า​ประชาชน​ของ​เรา​ซึ่ง​อยู่​ใน​อียิปต์​กำลัง​เจอ​กับ​ความ​ทุกข์​ยาก​ลำบาก เรา​ได้​ยิน​เสียง​ร้อง​ของ​พวก​เขา​เพราะ​ถูก​หัวหน้า​งาน​บังคับ​ให้​ทำ​งาน​หนัก เรา​รู้​ดี​ว่า​พวก​เขา​เจ็บ​ปวด​ขนาด​ไหน” (อพยพ 3:7) เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​พระ​ยะโฮวา​จะ​เห็น​ความ​ทุกข์​และ​ได้​ยิน​เสียง​ร้อง​ของ​พวก​เขา​โดย​ไม่​รู้สึก​อะไร​เลย ใน​บท 24 เรา​ได้​เรียน​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​เห็น​อก​เห็น​ใจ ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​คือ​การ​ร่วม​ความ​รู้สึก​กับ​คน​ที่​เจ็บ​ปวด แต่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เพียง​แค่​รู้สึก​กับ​ประชาชน​ของ​พระองค์​เท่า​นั้น พระองค์​ถูก​กระตุ้น​ให้​ลง​มือ​ทำ​บาง​อย่าง​เพื่อ​ช่วย​พวก​เขา อิสยาห์ 63:9 บอก​ว่า “พระองค์​ไถ่​พวก​เขา​คืน​มา​ด้วย​ความ​รัก​และ​ความ​เมตตา​สงสาร” พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ชาว​อิสราเอล​ออก​จาก​อียิปต์​ด้วย “พลัง​อำนาจ” ของ​พระองค์ (เฉลย​ธรรม​บัญญัติ 4:34) หลัง​จาก​นั้น พระองค์​ยัง​แสดง​ความ​เมตตา​กับ​พวก​เขา​โดย​ให้​มานา​และ​พา​พวก​เขา​เข้า​ไป​ใน​แผ่นดิน​ที่​พระองค์​สัญญา

      9, 10. (ก) หลัง​จาก​ชาว​อิสราเอล​เข้า​ไป​อยู่​ใน​แผ่นดิน​ที่​พระ​ยะโฮวา​สัญญา​แล้ว ทำไม​พระองค์​ถึง​ช่วย​พวก​เขา​อยู่​เรื่อย ๆ? (ข) ใน​สมัย​ของ​เยฟธาห์ พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ชาว​อิสราเอล​จาก​การ​กดขี่​ยังไง และ​อะไร​กระตุ้น​พระองค์​ให้​ทำ​อย่าง​นั้น?

      9 หลัง​จาก​ชาว​อิสราเอล​เข้า​ไป​อยู่​ใน​แผ่นดิน​ที่​พระ​ยะโฮวา​สัญญา​แล้ว พระองค์​ยัง​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​กับ​พวก​เขา​ต่อ​ไป ถึง​แม้​พวก​เขา​ไม่​เชื่อ​ฟัง​บ่อย ๆ และ​ต้อง​เจอ​กับ​ความ​ทุกข์ แต่​พอ​พวก​เขา​กลับ​ใจ​และ​ร้อง​ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ช่วย พระองค์​ก็​ช่วย​พวก​เขา​ทุก​ครั้ง ทำไม? พระองค์​ทำ​อย่าง​นั้น ‘เพราะ​พระองค์​สงสาร​ประชาชน​ของ​พระองค์’—2 พงศาวดาร 36:15; ผู้​วินิจฉัย 2:11-16

      10 เรา​เห็น​เรื่อง​นี้​ได้​จาก​ตัวอย่าง​ของ​เยฟธาห์ เพราะ​ชาว​อิสราเอล​นมัสการ​พระ​เท็จ พระ​ยะโฮวา​เลย​ปล่อย​ให้​พวก​อัมโมน​กดขี่​พวก​เขา​นาน​ถึง 18 ปี ใน​ที่​สุด ชาว​อิสราเอล​กลับ​ใจ คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “พวก​เขา​ก็​กำจัด​พระ​ต่าง ๆ ของ​คน​ต่าง​ชาติ​และ​กลับ​มา​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา พระเจ้า​ก็​ทน​ไม่​ได้​ที่​เห็น​ชาว​อิสราเอล​เป็น​ทุกข์​เดือดร้อน” (ผู้​วินิจฉัย 10:6-16) พอ​พวก​เขา​กลับ​ใจ​จริง ๆ พระ​ยะโฮวา​ทน​ไม่​ไหว​ที่​เห็น​พวก​เขา​ต้อง​ทน​ทุกข์​อยู่ พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​กับ​พวก​เขา​โดย​ใช้​เยฟธาห์​ช่วย​ชาว​อิสราเอล​ให้​พ้น​จาก​ศัตรู—ผู้​วินิจฉัย 11:30-33

      11. เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​กับ​ชาว​อิสราเอล?

      11 เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​กับ​ชาว​อิสราเอล? เรา​ได้​เรียน​ว่า​การ​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​ไม่​ใช่​แค่​ความ​รู้สึก​เสียใจ​เมื่อ​เห็น​คน​อื่น​เจอ​ความ​ลำบาก​เท่า​นั้น ให้​เรา​นึก​ถึง​ตัวอย่าง​ของ​แม่​ที่​พูด​ถึง​ใน​ตอน​ต้น เมื่อ​ลูก​ร้อง​เธอ​ก็​เข้า​ไป​ช่วย​เพราะ​สงสาร​ลูก คล้าย​กัน เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ได้​ยิน​เสียง​ร้อง​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​ประชาชน​ของ​พระองค์ พระองค์​ก็​ช่วย​เพราะ​สงสาร​พวก​เขา เรา​ยัง​ได้​เรียน​อีก​ว่า​คน​ที่​แสดง​ความ​สงสาร​ไม่​ใช่​คน​อ่อนแอ เพราะ​พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​สงสาร​ชาว​อิสราเอล พระองค์​เลย​ต่อ​สู้​และ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​พ้น​จาก​ศัตรู แต่​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​กับ​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​เป็น​กลุ่ม​เท่า​นั้น​ไหม?

      พระ​ยะโฮวา​เมตตา​สงสาร​เรา​แต่​ละ​คน

      12. กฎหมาย​ที่​พระ​ยะโฮวา​ให้​กับ​ชาว​อิสราเอล​แสดง​ว่า​พระองค์​สงสาร​ประชาชน​ของ​พระองค์​เป็น​ราย​บุคคล​ยังไง?

      12 กฎหมาย​ที่​พระ​ยะโฮวา​ให้​กับ​ชาว​อิสราเอล​แสดง​ว่า​พระองค์​สงสาร​ประชาชน​ของ​พระองค์​เป็น​ราย​บุคคล​ด้วย ตัวอย่าง​เช่น ขอ​ให้​คิด​ดู​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ห่วง​คน​จน​มาก​ขนาด​ไหน พระ​ยะโฮวา​รู้​ว่า​อาจ​มี​เหตุ​การณ์​ที่​ไม่​คาด​คิด​เกิด​ขึ้น​ที่​ทำ​ให้​บาง​คน​กลาย​เป็น​คน​จน แล้ว​พวก​เขา​ควร​ปฏิบัติ​กับ​คน​จน​ยังไง? พระ​ยะโฮวา​สั่ง​ชาว​อิสราเอล​ว่า “อย่า​ใจ​จืด​ใจ​ดำ​ไม่​ช่วยเหลือ​เขา คุณ​ต้อง​ใจ​กว้าง​ให้​เขา​ยืม​โดย​ไม่​นึก​เสียดาย เพื่อ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​จะ​อวยพร​การ​งาน​ทุก​อย่าง​และ​ทุก​สิ่ง​ที่​คุณ​ทำ” (เฉลย​ธรรมบัญญัติ 15:7, 10) พระ​ยะโฮวา​ยัง​สั่ง​ไม่​ให้​พวก​เขา​เกี่ยว​ข้าว​ที่​ริม​คันนา​จน​หมด​หรือ​เก็บ​ส่วน​ที่​เหลือ​จาก​การ​เกี่ยว​เพื่อ​คน​จน​จะ​มี​โอกาส​เก็บ​ข้าว​ที่​ตก​ได้ (เลวีนิติ 23:22; นาง​รูธ 2:2-7) เมื่อ​ชาว​อิสราเอล​เชื่อ​ฟัง​กฎหมาย​นี้ คน​จน​ก็​จะ​ไม่​ต้อง​เป็น​ขอ​ทาน นั่น​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​สงสาร​คน​ที่​กำลัง​ลำบาก

      13, 14. (ก) คำ​พูด​ของ​ดาวิด​ทำ​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ยังไง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ห่วงใย​เรา​แต่​ละ​คน​มาก​จริง ๆ? (ข) มี​ตัวอย่าง​อะไร​ที่​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อยู่​ใกล้​คน​ที่ “หัวใจ​แตก​สลาย” หรือ “เศร้า​เสียใจ”?

      13 ใน​ทุก​วัน​นี้​พระเจ้า​ก็​ยัง​รัก​และ​สนใจ​เรา​แต่​ละ​คน​ด้วย เรา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระองค์​รู้​ว่า​เรา​ต้อง​เจอ​กับ​ปัญหา​อะไร​บ้าง ดาวิด​ผู้​เขียน​หนังสือ​สดุดี​บอก​ว่า “ตา​ของ​พระ​ยะโฮวา​เฝ้า​ดู​คน​ทำ​ดี หู​ของ​พระองค์​ก็​คอย​ฟัง​เมื่อ​พวก​เขา​ร้อง​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ พระ​ยะโฮวา​อยู่​ใกล้​คน​ที่​หัวใจ​แตก​สลาย พระองค์​คอย​ช่วย​คน​ที่​เศร้า​เสียใจ” (สดุดี 34:15, 18) นัก​วิชาการ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​อธิบาย​คำ​ว่า “หัวใจ​แตก​สลาย” และ “เศร้า​เสียใจ” หมาย​ถึง​คน​ที่​ท้อ​ใจ​เพราะ​ความ​ไม่​สมบูรณ์​แบบ​ของ​ตัว​เอง​และ​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ไร้​ค่า พวก​เขา​อาจ​รู้สึก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อยู่​ไกล​และ​คิด​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​ค่า​พอ​ที่​พระองค์​จะ​สนใจ แต่​พระองค์​ไม่​ได้​คิด​อย่าง​นั้น คำ​พูด​ของ​ดาวิด​ทำ​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ทิ้ง​คน​ที่​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​ค่า พระเจ้า​ที่​เมตตา​สงสาร​รู้​ว่า ตอน​นั้น​แหละ​เป็น​เวลา​ที่​เรา​ต้องการ​พระองค์​มาก​ที่​สุด และ​พระองค์​ก็​อยู่​ใกล้​เรา

      14 ให้​เรา​มา​ดู​ประสบการณ์​หนึ่ง​ด้วย​กัน แม่​คน​หนึ่ง​ใน​สหรัฐ​รีบ​พา​ลูก​ชาย​อายุ​สอง​ขวบ​ไป​โรง​พยาบาล​เพราะ​หายใจ​ไม่​ออก หลัง​จาก​หมอ​ตรวจ​ดู​อาการ​แล้ว เขา​บอก​ว่า​ลูก​ของ​เธอ​ต้อง​นอน​ค้าง​คืน​ที่​โรง​พยาบาล แล้ว​คุณ​คิด​ว่า​คืน​นั้น​แม่​จะ​อยู่​ที่​ไหน? แน่นอน แม่​อยู่​ข้าง​เตียง​ลูก​ชาย​ที่​โรง​พยาบาล ลูก​ของ​เธอ​ป่วย​อยู่​และ​เธอ​ก็​อยาก​อยู่​ใกล้ ๆ ลูก สิ่ง​ที่​แม่​ทำ​เป็น​การ​เลียน​แบบ​ความ​เมตตา​สงสาร​ของ​พระ​ยะโฮวา​เพราะ​เรา​ถูก​สร้าง​ตาม​แบบ​พระองค์ (ปฐมกาล 1:26) เรา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พ่อ​ใน​สวรรค์​รัก​และ​ห่วง​ใย​เรา​มาก​กว่า​นั้น​อีก คำ​พูด​ที่​น่า​ประทับใจ​ใน​สดุดี 34:18 บอก​ว่า​เมื่อ​เรา “หัวใจ​แตก​สลาย” หรือ “เศร้า​เสียใจ” พระ​ยะโฮวา​ก็ “อยู่​ใกล้” พระองค์​สงสาร​และ​พร้อม​จะ​ช่วย​เรา​เสมอ​เหมือน​พ่อ​ที่​รัก​เรา

      15. พระ​ยะโฮวา​ช่วย​เรา​แต่​ละ​คน​ยังไง​บ้าง?

      15 แล้ว​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​เรา​แต่​ละ​คน​ยังไง​บ้าง? พระองค์​ไม่​ได้​ทำ​ให้​ปัญหา​ทุก​อย่าง​ของ​เรา​หมด​ไป แต่​พระ​ยะโฮวา​เตรียม​หลาย​อย่าง​เพื่อ​ช่วย​คน​ที่​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระองค์ เช่น พระองค์​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​มี​ประโยชน์​เพื่อ​ช่วย​เรา​รับมือ​กับ​ปัญหา​ต่าง ๆ ได้ และ​พระ​องค์​ก็​ให้​มี​ผู้​ดู​แล​ใน​ประชาคม​ที่​พร้อม​จะ​ช่วยเหลือ​เรา​เพราะ​พวก​เขา​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​เลียน​แบบ​ความ​เมตตา​สงสาร​ของ​พระ​ยะโฮวา (ยากอบ 5:14, 15) พระ​ยะโฮวา​เป็น “ผู้​ฟัง​คำ​อธิษฐาน” พระองค์​ให้ “พลัง​บริสุทธิ์​กับ​คน​ที่​ขอ​พระองค์” (สดุดี 65:2; ลูกา 11:13) พลัง​บริสุทธิ์​จะ​ช่วย​เรา​ให้​มี “กำลัง​ที่​มาก​กว่า​ปกติ” เพื่อ​จะ​อดทน​รอ​จน​กว่า​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​มา​แก้ไข​ปัญหา​ทั้ง​หมด​ที่​ทำ​ให้​เรา​ทุกข์​ใจ (2 โครินธ์ 4:7) เรา​รู้สึก​ขอบคุณ​ทุก​อย่าง​ที่​พระ​ยะโฮวา​จัด​เตรียม​ให้​เรา ขอ​จำ​ไว้​ว่า​ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​เรา

      16. ตัวอย่าง​ที่​ดี​ที่​สุด​ที่​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เมตตา​สงสาร​เรา​คือ​อะไร และ​เรื่อง​นี้​มี​ผล​ยังไง​กับ​คุณ?

      16 ตัวอย่าง​ที่​ดี​ที่​สุด​ที่​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เมตตา​สงสาร​ก็​คือ​การ​ให้​ลูก​ชาย​ที่​พระองค์​รัก​ที่​สุด​มา​เป็น​ค่า​ไถ่​ให้​พวก​เรา พระ​ยะโฮวา​เสีย​สละ​ด้วย​ความ​รัก​เพื่อ​ช่วย​เรา​ให้​รอด​จาก​บาป​และ​ความ​ตาย เรา​ต้อง​ไม่​ลืม​ว่า​ค่า​ไถ่​เป็น​ของ​ขวัญ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ให้​กับ​เรา​เป็น​ส่วน​ตัว เศคาริยาห์​พ่อ​ของ​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า​ว่า​ค่า​ไถ่​นี้​ช่วย​ให้​เห็น​ชัดเจน​ว่า “พระองค์ . . . เอ็นดู​สงสาร​พวก​เขา”—ลูกา 1:78

      เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เมตตา​สงสาร

      17-19. (ก) คัมภีร์​ไบเบิล​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​ความ​สงสาร​ของ​พระ​ยะโฮวา​มี​ขีด​จำกัด? (ข) อะไร​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ไม่​สงสาร​ประชาชน​ของ​พระองค์​อีก​ต่อ​ไป?

      17 เรา​ควร​คิด​ไหม​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​แสดง​ความ​สงสาร​อย่าง​ไม่​มี​ขีด​จำกัด? ไม่ ตรง​กัน​ข้าม คัมภีร์​ไบเบิล​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​กับ​คน​ที่​จงใจ​ทำ​สิ่ง​ที่​พระองค์​ไม่​ชอบ (ฮีบรู 10:28) เพื่อ​ช่วย​เรา​ให้​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​มาก​ขึ้น ให้​เรา​มา​ดู​ตัวอย่าง​ของ​ชาว​อิสราเอล​ด้วย​กัน

      18 ถึง​แม้​พระ​ยะโฮวา​จะ​ช่วย​ชาว​อิสราเอล​จาก​ศัตรู​หลาย​ครั้ง แต่​ใน​ที่​สุด​พระองค์​ก็​ไม่​สงสาร​พวก​เขา​อีก​ต่อ​ไป เพราะ​พวก​เขา​ไม่​ยอม​เลิก​ไหว้​รูป​เคารพ​และ​ถึง​กับ​เอา​รูป​เคารพ​ที่​น่า​รังเกียจ​เข้า​มา​ใน​วิหาร​ของ​พระ​ยะโฮวา (เอเสเคียล 5:11; 8:17, 18) นอกจาก​นั้น คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง​บอก​อีก​ว่า “พวก​เขา​กลับ​เยาะเย้ย​ผู้​ส่ง​ข่าว​ของ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้ พวก​เขา​ดูถูก​คำ​เตือน​ของ​พระองค์​และ​สบประมาท​ผู้​พยากรณ์​ของ​พระองค์ พระ​ยะโฮวา​จึง​โกรธ​ประชาชน​เหล่า​นี้​จน​ไม่​มี​หวัง​ที่​พวก​เขา​จะ​ฟื้น​ตัว​ได้​อีก” (2 พงศาวดาร 36:16) ชาว​อิสราเอล​ทำ​ผิด​ถึง​ขั้น​ที่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​สามารถ​จะ​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​พวก​เขา​ได้​อีก พวก​เขา​ทำ​ให้​พระองค์​โกรธ แล้ว​ผล​เป็น​ยังไง?

      19 พระ​ยะโฮวา​ไม่​สงสาร​ประชาชน​ของ​พระองค์​อีก​ต่อ​ไป พระองค์​บอก​ว่า “เรา​จะ​ไม่​สงสาร​และ​ไม่​เสียใจ​และ​ไม่​เมตตา​เลย เรา​จะ​ทำลาย​พวก​เขา และ​ไม่​มี​อะไร​หยุด​เรา​ได้” (เยเรมีย์ 13:14) ดังนั้น กรุง​เยรูซาเล็ม​และ​วิหาร​จึง​ถูก​ทำลาย และ​ชาว​อิสราเอล​ก็​ถูก​จับ​ไป​เป็น​เชลย​ที่​บาบิโลน เป็น​เรื่อง​น่า​เศร้า​จริง ๆ ที่​มนุษย์​ไม่​ยอม​เชื่อ​ฟัง​จน​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เมตตา​สงสาร​พวก​เขา​อีก​ต่อ​ไป—เพลง​คร่ำครวญ 2:21

      20, 21. (ก) จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​อีก​ต่อ​ไป? (ข) บท​ถัด​ไป​เรา​จะ​ดู​เรื่อง​อะไร​ที่​เกี่ยว​กับ​ความ​เมตตา​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระ​ยะโฮวา?

      20 แล้ว​ทุก​วัน​นี้​ล่ะ​พระ​ยะโฮวา​ยัง​รู้สึก​แบบ​นั้น​ไหม? พระ​ยะโฮวา​ไม่​เปลี่ยน​แปลง เพราะ​พระองค์​สงสาร​ผู้​คน พระองค์​เลย​ให้​มี​การ​ประกาศ “ข่าว​ดี​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า” ไป​ทั่ว​โลก (มัทธิว 24:14) เมื่อ​คน​ที่​มี​หัวใจ​ที่​ดี​อยาก​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​พระองค์ พระองค์​ก็​ช่วย​เขา​ให้​เข้าใจ​ความ​จริง (กิจการ 16:14) แต่​งาน​ประกาศ​จะ​ไม่​ได้​ทำ​ไป​ตลอด ถ้า​พระ​ยะโฮวา​ยัง​ปล่อย​ให้​คน​ชั่ว​สร้าง​ปัญหา​และ​ทำ​ให้​คน​อื่น​ลำบาก​ต่อ​ไป ก็​เท่ากับ​ว่า​พระองค์​ไม่​แสดง​ความ​เมตตา เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ตัดสิน​ว่า​จะ​ไม่​แสดง​ความ​สงสาร​อีก​ต่อ​ไป พระองค์​ก็​จะ​ทำลาย​โลก​ชั่ว​นี้ แต่​การ​ที่​พระองค์​ทำ​แบบ​นั้น​ก็​เป็น​การ​แสดง​ความ​สงสาร​ด้วย พระองค์​จะ​ทำ​ให้ “ชื่อ​ที่​บริสุทธิ์” ของ​พระองค์​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​และ​จะ​ช่วย​คน​ที่​รัก​พระองค์​ให้​รอด (เอเสเคียล 36:20-23) พระ​ยะโฮวา​จะ​กำจัด​ความ​ชั่ว​และ​จะ​ทำ​ให้​ทั้ง​โลก​มี​แต่​ความ​ชอบธรรม พระ​ยะโฮวา​บอก​กับ​คน​ชั่ว​ว่า “เรา​จะ​ไม่​เมตตา​และ​จะ​ไม่​สงสาร เรา​จะ​ตอบ​แทน​พวก​เขา​ให้​สาสม​กับ​การ​กระทำ​ของ​พวก​เขา”—เอเสเคียล 9:10

      21 จน​กว่า​จะ​ถึง​ตอน​นั้น พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​สงสาร​ผู้​คน รวม​ถึง​คน​เหล่า​นั้น​ที่​อาจ​ถูก​ทำลาย​ไป​พร้อม​กับ​โลก​ชั่ว​นี้ แต่​คน​ที่​กลับ​ใจ​จริง ๆ จะ​ได้​ประโยชน์​จาก​ความ​เมตตา​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระ​ยะโฮวา คือ​การ​ให้​อภัย ใน​บท​ถัด​ไป​เรา​จะ​ดู​บาง​ตัวอย่าง​ที่​ยอด​เยี่ยม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ทำ​ให้​เรา​เห็น​การ​ให้​อภัย​ของ​พระ​ยะโฮวา

      a น่า​สนใจ ที่​สดุดี 103:13 คำ​ภาษา​ฮีบรู ราคัม หมายความ​ว่า​ความ​เมตตา​หรือ​ความ​สงสาร​ที่​พ่อ​มี​ต่อ​ลูก

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • เยเรมีย์ 31:20 พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รู้สึก​อ่อนโยน​กับ​คน​ของ​พระองค์​ยังไง และ​เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​คุณ​รู้สึก​ยังไง​กับ​พระองค์?

      • โยเอล 2:12-14, 17-19 ประชาชน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​ความ​เมตตา​สงสาร และ​เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​เรื่อง​นี้?

      • โยนาห์ 4:1-11 พระ​ยะโฮวา​สอน​บทเรียน​อะไร​กับ​โยนาห์​ใน​การ​แสดง​ความ​เมตตา?

      • ฮีบรู 10:26-31 ทำไม​เรา​ไม่​ควร​ใช้​ความ​เมตตา​ของ​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​เป็น​ข้อ​อ้าง​ใน​การ​ทำ​ผิด?

  • พระเจ้า​ที่ “พร้อม​จะ​ให้​อภัย”
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​กำลัง​อธิษฐาน

      บท 26

      พระเจ้า​ที่ “พร้อม​จะ​ให้​อภัย”

      1-3. (ก) อะไร​เป็น​เหมือน​ของ​หนัก​สำหรับ​ดาวิด และ​อะไร​ช่วย​ให้​เขา​มี​กำลังใจ? (ข) ถ้า​เรา​ทำ​บาป อะไร​เป็น​เหมือน​ของ​หนัก​สำหรับ​เรา แต่​พระ​ยะโฮวา​รับรอง​กับ​เรา​ว่า​ยังไง?

      ดาวิด​ผู้​เขียน​หนังสือ​สดุดี​บอก​ว่า “ความ​ผิด​ท่วม​หัว​ผม​แล้ว มัน​เป็น​เหมือน​ของ​หนัก​ที่​ผม​แบก​ไม่​ไหว ผม​ไม่​มี​ความ​รู้สึก​อะไร​อีก​และ​บอบช้ำ​ไป​หมด” (สดุดี 38:4, 8) ตอน​ที่​ดาวิด​ทำ​บาป เขา​รู้สึก​ผิด​และ​รู้สึก​เหมือน​กับ​ว่า​กำลัง​แบก​ของ​หนัก​ไว้ แต่​ก็​มี​บาง​อย่าง​ที่​ให้​กำลังใจ​เขา เขา​เข้าใจ​ว่า​ถึง​แม้​พระ​ยะโฮวา​จะ​เกลียด​การ​ทำ​บาป แต่​พระองค์​ไม่​ได้​เกลียด​คน​ที่​ทำ​บาป ถ้า​เขา​กลับ​ใจ​จริง ๆ และ​เลิก​ทำ​ผิด เขา​ก็​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พร้อม​จะ​ให้​อภัย​เขา ดาวิด​บอก​ว่า “พระ​ยะโฮวา พระองค์ . . . พร้อม​จะ​ให้​อภัย”—สดุดี 86:5

      2 ถ้า​เรา​ทำ​บาป เรา​ก็​อาจ​รู้สึก​ผิด​ด้วย​เหมือน​กัน ที่​จริง​ความ​รู้สึก​นี้​เป็น​สิ่ง​ที่​ดี​เพราะ​จะ​กระตุ้น​ให้​เรา​พยายาม​แก้ไข​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ​พลาด​ไป แต่​ถ้า​เรา​จม​อยู่​กับ​ความ​รู้สึก​ผิด​ก็​อาจ​เป็น​อันตราย​ได้​เพราะ​เรา​จะ​คิด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​มี​วัน​ให้​อภัย​เรา​แม้​ว่า​เรา​จะ​กลับ​ใจ​แล้ว​ก็​ตาม ถ้า​เรา “จม​อยู่​กับ​ความ​เศร้า​มาก​เกิน​ไป” ซาตาน​อาจ​พยายาม​ทำ​ให้​เรา​เลิก​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​เพราะ​เรา​คิด​ไป​เอง​ว่า​เรา​ไม่​มี​ค่า​หรือ​ไม่​ดี​พอ​ที่​จะ​รับใช้​พระองค์—2 โครินธ์ 2:5-11

      3 แต่​พระ​ยะโฮวา​คิด​แบบ​นั้น​จริง ๆ ไหม? ไม่​เลย การ​ให้​อภัย​เป็น​วิธี​หนึ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​กับ​เรา พระองค์​รับรอง​กับ​เรา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ว่า​ถ้า​เรา​กลับ​ใจ​จริง ๆ พระองค์​ก็​เต็ม​ใจ​ให้​อภัย​เรา (สุภาษิต 28:13) เพื่อ​จะ​มั่น​ใจ​ใน​เรื่อง​นี้ ให้​เรา​มา​ดู​ว่า​ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ถึง​ให้​อภัย​และ​พระองค์​ทำ​แบบ​นั้น​ยังไง

      ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ถึง “พร้อม​จะ​ให้​อภัย” เรา?

      4. พระ​ยะโฮวา​รู้​อะไร​เกี่ยว​กับ​ตัว​เรา และ​เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​พระองค์​ปฏิบัติ​กับ​เรา​ยังไง?

      4 พระ​ยะโฮวา​รู้​ว่า​เรา​มี​ขีด​จำกัด สดุดี 103:14 บอก​ว่า “พระองค์​รู้​ดี​ว่า​พวก​เรา​ถูก​สร้าง​มา​อย่างไร และ​ไม่​ลืม​ว่า​พวก​เรา​เป็น​แค่​ดิน” พระองค์​ไม่​ลืม​ว่า​เรา​ถูก​สร้าง​มา​จาก​ดิน​และ​เรา​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ​เลย​มี​แนว​โน้ม​ที่​จะ​ทำ​ผิด คำ​พูด​ที่​ว่า​พระองค์​รู้​ว่า “พวก​เรา​ถูก​สร้าง​มา​อย่างไร” ทำ​ให้​เรา​นึก​ถึง​ตัวอย่าง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​เปรียบ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​เหมือน​ช่าง​ปั้น​หม้อ​และ​เรา​เป็น​เหมือน​ภาชนะ​ดิน​เหนียว​ที่​พระองค์​ปั้น​ขึ้น​มา (เยเรมีย์ 18:2-6) พระ​ยะโฮวา​รู้​ว่า​บาป​ทำ​ให้​เรา​อ่อนแอ และ​ถึง​แม้​บาง​ครั้ง​เรา​อาจ​ไม่​ได้​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระองค์ แต่​พระองค์​ก็​ยัง​ดี​กับ​เรา​เสมอ

      5. หนังสือ​โรม​พูด​ถึง​อำนาจ​ของ​บาป​ยังไง?

      5 พระ​ยะโฮวา​เข้าใจ​ว่า​บาป​มี​อำนาจ​มาก​ขนาด​ไหน คัมภีร์​ไบเบิล​อธิบาย​ว่า​บาป​มี​อำนาจ​ควบคุม​เรา​และ​ทำ​ให้​เรา​ตาย​ได้ ใน​หนังสือ​โรม​อัครสาวก​เปาโล​บอก​ว่า เรา​อยู่ “ใต้​อำนาจ​ของ​บาป” เหมือน​ทหาร​ที่​อยู่​ใต้​อำนาจ​ผู้​บังคับ​บัญชา (โรม 3:9) บาป “มี​อำนาจ” ปกครอง​เหมือน​กษัตริย์ (โรม 5:21) บาป “อยู่​ใน” ตัว​เรา (โรม 7:17, 20) เรา​อยู่​ใต้ “กฎ​ของ​บาป” ที่​พยายาม​ควบคุม​ทุก​อย่าง​ที่​เรา​ทำ (โรม 7:23, 25) เห็น​ชัด​ว่า​บาป​ใน​ตัว​เรา​มี​อำนาจ​มาก​จริง ๆ—โรม 7:21, 24

      6, 7. (ก) พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ยังไง​กับ​คน​ที่​กลับ​ใจ​และ​อยาก​ได้​รับ​การ​อภัย​จาก​พระองค์? (ข) ทำไม​ถึง​ผิด​ที่​จะ​คิด​เอา​เอง​ว่า​พระเจ้า​จะ​ให้​อภัย​ความ​ผิด​ของ​เรา​เสมอ?

      6 พระ​ยะโฮวา​รู้​ว่า​ถึง​แม้​เรา​จะ​พยายาม​มาก​แค่​ไหน แต่​ก็​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​เรา​จะ​เชื่อ​ฟัง​พระองค์​ร้อย​เปอร์เซ็นต์ พระองค์​รับรอง​กับ​เรา​ว่า​ถ้า​เรา​กลับ​ใจ​จริง ๆ และ​ขอ​ให้​พระองค์​ให้​อภัย พระองค์​ก็​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น สดุดี 51:17 บอก​ว่า “เครื่อง​บูชา​ที่​พระเจ้า​พอ​ใจ​คือ​หัวใจ​ที่​สำนึก​ผิด พระองค์​จะ​ไม่​ดูถูก​ใจ​ที่​แตก​สลาย​เลย” พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​มี​วัน​ปฏิเสธ​หรือ​ดูถูก​คน​ที่​หัวใจ “แตก​สลาย” เพราะ​เขา​รู้สึก​ผิด

      7 นี่​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​เรา​จะ​เอา​ความ​เมตตา​ของ​พระเจ้า​มา​เป็น​ข้อ​อ้าง​ที่​จะ​ทำ​ผิด พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​มอง​ข้าม​ความ​ผิด​ที่​เรา​ทำ ความ​เมตตา​ของ​พระองค์​มี​ขีด​จำกัด พระองค์​จะ​ไม่​มี​ทาง​ให้​อภัย​คน​ที่​ตั้งใจ​ทำ​ผิด​และ​ไม่​กลับ​ใจ (ฮีบรู 10:26) แต่​ถ้า​เขา​กลับ​ใจ พระองค์​ก็​พร้อม​จะ​ให้​อภัย ตอน​นี้​ให้​เรา​มา​ดู​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ช่วย​ให้​เรา​เข้าใจ​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระเจ้า

      พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​มาก​ขนาด​ไหน?

      8. จาก​สดุดี 32:5 พระ​ยะโฮวา​ทำ​อะไร​เมื่อ​พระองค์​ยก​โทษ​ให้​เรา และ​นี่​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​ยังไง?

      8 หลัง​จาก​ดาวิด​กลับ​ใจ​แล้ว เขา​บอก​ว่า “ใน​ที่​สุด ผม​ก็​สารภาพ​บาป​ต่อ​พระองค์ ผม​ไม่​ปก​ปิด​ความ​ผิด​ของ​ผม . . . และ​พระองค์​ก็​ยก​โทษ​ให้​ผม” (สดุดี 32:5) คำ​ภาษา​ฮีบรู​ที่​แปล​ว่า “ยก​โทษ” หมายถึง “ยก​ขึ้น” หรือ “เอา​ไป” ดังนั้น ข้อ​นี้​หมาย​ถึง​การ​เอา “ความ​ผิด​หรือ​บาป” ไป ดาวิด​รู้สึก​เหมือน​กับ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ยก​เอา​บาป​ของ​เขา​ไป เรื่อง​นี้​คง​ช่วย​ให้​เขา​รู้สึก​ดี​ขึ้น (สดุดี 32:3) เรา​ก็​มั่น​ใจ​ได้​เต็ม​ที่​ว่า​พระเจ้า​จะ​ยก​โทษ​ให้​เรา​โดย​ทาง​ค่า​ไถ่​ของ​พระ​เยซู—มัทธิว 20:28

      9. พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​ความ​ผิด​ของ​เรา​มาก​แค่​ไหน?

      9 ดาวิด​ใช้​อีก​ตัวอย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ภาพ​ชัด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​เรา​มาก​ขนาด​ไหน เขา​บอก​ว่า “ทิศ​ตะวัน​ออก​ไกล​จาก​ทิศ​ตะวัน​ตก​มาก​เท่า​ไร พระองค์​ก็​ทิ้ง​ความ​ผิด​ของ​พวก​เรา​ไป​ไกล​มาก​เท่า​นั้น” (สดุดี 103:12) แล้ว​ทิศ​ตะวัน​ออก​ไกล​จาก​ทิศ​ตะวัน​ตก​มาก​แค่​ไหน? สอง​ทิศ​นี้​อยู่​ไกล​กัน​มาก​จน​เรา​นึก​ไม่​ออก​และ​จะ​ไม่​มี​วัน​มา​บรรจบ​กัน​ได้​เลย นัก​วิชาการ​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า​ข้อ​ความ​นี้​หมาย​ถึง “ระยะ​ทาง​ที่​ไกล​กัน​มาก​จน​เรา​ไม่​มี​ทาง​นึก​ออก​ได้” พระ​ยะโฮวา​ดล​ใจ​ให้​ดาวิด​เขียน​แบบ​นี้​เพื่อ​ช่วย​ให้​เรา​เข้าใจ​ว่า เมื่อ​พระองค์​ให้​อภัย พระองค์​ก็​เอา​ความ​ผิด​ของ​เรา​ไป​ไกล​มาก​จริง ๆ

      ภูเขา​เต็ม​ไป​ด้วย​หิมะ

      “บาป​ของ​พวก​เจ้า . . . จะ​ทำ​ให้​ขาว​เหมือน​หิมะ”

      10. เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​บาป​เรา​แล้ว ทำไม​เรา​ไม่​ต้อง​รู้สึก​ผิด​ไป​ตลอด​ชีวิต?

      10 คุณ​เคย​พยายาม​ซัก​เสื้อ​ผ้า​สี​ขาว​ที่​มี​รอย​เปื้อน​ไหม? ถึง​แม้​ว่า​คุณ​จะ​พยายาม​มาก​แค่​ไหน​แต่​รอย​เปื้อน​นั้น​ก็​ยัง​อยู่ ขอ​ให้​สังเกต​ว่า​พระ​ยะโฮวา​บอก​ว่า​พระองค์​ให้​อภัย​เรา​ยังไง “ถึง​บาป​ของ​พวก​เจ้า​จะ​แดง​ก่ำ เรา​จะ​ทำ​ให้​ขาว​เหมือน​หิมะ ถึง​บาป​ของ​พวก​เจ้า​จะ​เป็น​เหมือน​ผ้า​สี​แดง​เข้ม เรา​ก็​จะ​ทำ​ให้​ขาว​เหมือน​ขน​แกะ” (อิสยาห์ 1:18) คำ​ว่า “แดง​ก่ำ” หมาย​ถึง​สี​แดง​สดa ส่วน “สี​แดง​เข้ม” เป็น​สี​ที่​มัก​จะ​ใช้​ย้อม​ผ้า (นาฮูม 2:3) เรา​ไม่​มี​วัน​ลบ​รอย​เปื้อน​ของ​บาป​ได้​ด้วย​ตัว​เอง แต่​พระ​ยะโฮวา​สามารถ​เอา​บาป​ที่​เป็น​เหมือน​สี​แดง​สด​และ​สี​แดง​เข้ม​นั้น​ออก​ไป​ได้ แล้ว​ทำ​ให้​ขาว​เหมือน​หิมะ​หรือ​ขน​แกะ ดังนั้น เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​บาป​เรา​แล้ว เรา​ก็​ไม่​ต้อง​รู้สึก​ผิด​ไป​ตลอด​ชีวิต

      11. การ​ที่​พระ​ยะโฮวา​เหวี่ยง​บาป​ของ​เรา​ไป​ข้าง​หลัง​หมาย​ถึง​อะไร?

      11 หลัง​จาก​เฮเซคียาห์​หาย​ป่วย เขา​แต่ง​เพลง​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา เขา​บอก​กับ​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พระองค์​ได้​เหวี่ยง​บาป​ทั้ง​หมด​ของ​ผม​ไป​ข้าง​หลัง​พระองค์” (อิสยาห์ 38:17) ใน​ข้อ​นี้​เฮเซคียาห์​พูด​เหมือน​กับ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เอา​บาป​ของ​เขา​เหวี่ยง​ไป​ข้าง​หลัง พระองค์​เลย​มอง​ไม่​เห็น​และ​ไม่​คิด​ถึง​บาป​นั้น​อีก​ต่อ​ไป พจนานุกรม​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​เล่ม​หนึ่ง​บอก​ว่า​ข้อ​นี้​อาจ​แปล​ได้​ว่า “พระองค์​ทำ​เหมือน​กับ​ว่า [บาป​ของ​ผม] ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น” เรื่อง​นี้​ให้​กำลังใจ​เรา​จริง ๆ

      12. ผู้​พยากรณ์​มีคาห์​ช่วย​ให้​เรา​เข้าใจ​ยังไง​ว่า​เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​แล้ว พระองค์​ก็​โยน​ความ​ผิด​ของ​เรา​ทิ้ง​ไป?

      12 ใน​คำ​สัญญา​เรื่อง​การ​ฟื้นฟู ผู้​พยากรณ์​มีคาห์​มั่น​ใจ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ให้​อภัย​ประชาชน​ของ​พระองค์​ที่​กลับ​ใจ เขา​เขียน​ว่า “ไม่​มี​พระเจ้า​องค์​ไหน​เหมือน​พระองค์ . . . มอง​ข้าม​ความ​ผิด​ของ​ประชาชน​ของ​พระองค์​ที่​ยัง​เหลือ​อยู่ . . . พระองค์​จะ​เอา​บาป​ที่​พวก​เรา​ทำ​ทั้ง​หมด​โยน​ลง​ทะเล” (มีคาห์ 7:18, 19) ลอง​คิด​ดู​ว่า​คน​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เข้าใจ​ข้อ​นี้​ยังไง เป็น​ไป​ได้​ไหม​ที่​จะ​เอา​สิ่ง​ที่​โยน “ลง​ทะเล” กลับ​ขึ้น​มา? เป็น​ไป​ไม่​ได้ ดังนั้น คำ​พูด​ของ​มีคาห์​แสดง​ว่า​เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย พระองค์​ก็​โยน​ความ​ผิด​ของ​เรา​ทิ้ง​ไป

      13. ที่​พระ​เยซู​พูด​ว่า “ขอ​พระองค์​ยก​โทษ​ให้​พวก​เรา” หมายความ​ว่า​ยังไง?

      13 พระ​เยซู​ใช้​ตัวอย่าง​เรื่อง​เจ้าหนี้​กับ​ลูกหนี้​เพื่อ​ช่วย​ให้​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​เรา​ยังไง ท่าน​สอน​เรา​ให้​อธิษฐาน​ว่า “ขอ​พระองค์​ยก​โทษ​ให้​พวก​เรา” (มัทธิว 6:12) จาก​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​เปรียบ​บาป​เหมือน​กับ​หนี้ (ลูกา 11:4) เมื่อ​เรา​ทำ​บาป เรา​ก็​เป็น “ลูกหนี้” ของ​พระ​ยะโฮวา พจนานุกรม​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​เล่ม​หนึ่ง​บอก​ว่า คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “ยก​โทษ” หมาย​ถึง “ปล่อย​ไป ยก​เลิก​หนี้​โดย​ไม่​ทวง” ดังนั้น เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย พระองค์​ก็​ยก​หนี้​ที่​เรา​ติด​พระองค์​ไว้ พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ทวง​หนี้​ที่​พระองค์​ยก​ให้​เรา นี่​เป็น​เรื่อง​ที่​ให้​กำลังใจ​จริง ๆ สำหรับ​คน​ที่​กลับ​ใจ—สดุดี 32:1, 2

      14. คำ​พูด​ที่​ว่า “เพื่อ​บาป​ของ​พวก​คุณ​จะ​ถูก​ลบ​ล้าง” ช่วย​เรา​ให้​เข้าใจ​การ​ให้​อภัย​ของ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น​ยังไง?

      14 ที่​กิจการ 3:19 ทำ​ให้​เรา​เข้าใจ​การ​ให้​อภัย​ของ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น ที่​นั่น​บอก​ว่า “ดังนั้น ให้​กลับ​ใจ​และ​เปลี่ยน​แปลง​ชีวิต​ใหม่ เพื่อ​บาป​ของ​พวก​คุณ​จะ​ถูก​ลบ​ล้าง” ใน​ภาษา​เดิม​คำ​ว่า “ลบ​ล้าง” อาจ​หมาย​ถึง ‘เช็ด​ออก ยก​เลิก​หรือ​ทำลาย’ นัก​วิชาการ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​บาง​คน​บอก​ว่า คำ​นี้​ทำ​ให้​นึก​ถึง​การ​ลบ​สิ่ง​ที่​เขียน​ด้วย​มือ หมึก​ที่​ใช้​กัน​ทั่ว​ไป​ใน​สมัย​นั้น​ทำ​จาก​ส่วน​ผสม​ที่​มี​ผง​ถ่าน กาว​ยาง​ไม้ และ​น้ำ หลัง​จาก​ที่​เขียน​ด้วย​หมึก​ชนิด​นี้​และ​ทิ้ง​ไว้​ไม่​นาน ผู้​เขียน​ก็​สามารถ​ใช้​ฟองน้ำ​เปียก​เช็ด​ข้อ​ความ​ที่​เขียน​ไว้​นั้น​ออก​ไป​ได้ นี่​เป็น​การ​เปรียบ​เทียบ​ที่​ทำ​ให้​เรา​เข้าใจ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เมตตา​จริง ๆ ถ้า​พระองค์​ให้​อภัย​บาป​ของ​เรา​แล้ว ก็​เหมือน​กับ​พระองค์​เอา​ฟองน้ำ​มา​เช็ด​บาป​ของ​เรา​ออก​ไป

      15. พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ใน​เรื่อง​อะไร?

      15 ตัวอย่าง​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ชัด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พร้อม​จะ​ให้​อภัย​บาป​ของ​เรา​และ​พระองค์​ก็​อยาก​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ใน​เรื่อง​นี้ ถ้า​พระองค์​เห็น​ว่า​เรา​กลับ​ใจ​จริง ๆ เรา​ไม่​ต้อง​กลัว​ว่า​พระองค์​จะ​ลง​โทษ​เรา​เพราะ​ความ​ผิด​ที่​เรา​เคย​ทำ​นั้น​อีก คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง​มี​แง่​มุม​อื่น​อีก​ที่​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เมตตา​พวก​เรา​มาก​จริง ๆ ถ้า​พระองค์​ให้​อภัย​เรา​แล้ว พระองค์​ก็​จะ​ลืม​บาป​ของ​พวก​เรา​ด้วย

      พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​เรา​รู้​ว่า​พระองค์ “พร้อม​จะ​ให้​อภัย”

      ‘เรา​จะ​ไม่​จด​จำ​ความ​ผิด​ของ​พวก​เขา​อีก​เลย’

      16, 17. เมื่อ​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​จด​จำ​ความ​ผิด​ของ​เรา​นั่น​หมายความ​ว่า​ยังไง? ขอ​อธิบาย

      16 พระ​ยะโฮวา​สัญญา​กับ​คน​ที่​อยู่​ใต้​สัญญา​ใหม่​ว่า “เรา​จะ​ยก​โทษ​ให้​พวก​เขา​และ​จะ​ไม่​จด​จำ​ความ​ผิด​ของ​พวก​เขา​อีก​เลย” (เยเรมีย์ 31:34) นี่​หมายความ​ว่า​เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​แล้ว​พระองค์​จะ​จำ​ความ​ผิด​ที่​เรา​เคย​ทำ​ไม่​ได้​เลย​ไหม? ไม่​ใช่​แน่ ๆ คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​ถึง​ความ​ผิด​ของ​หลาย​คน​ที่​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​รวม​ทั้ง​ดาวิด​ด้วย (2 ซามูเอล 11:1-17; 12:13) เห็น​ชัด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จำ​ได้​ว่า​พวก​เขา​ทำ​ความ​ผิด​อะไร​บ้าง ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เรา​ได้​อ่าน​ว่า​พวก​เขา​ทำ​ผิด​อะไร ได้​เห็น​ว่า​พวก​เขา​กลับ​ใจ​ยังไง และ​พระเจ้า​ให้​อภัย​พวก​เขา​ยังไง พระ​ยะโฮวา​ให้​เขียน​เรื่อง​ทั้ง​หมด​นี้​ไว้​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​เรา (โรม 15:4) ถ้า​อย่าง​นั้น ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่ “จด​จำ” ความ​ผิด​ของ​คน​ที่​พระองค์​ให้​อภัย​หมายความ​ว่า​ยังไง?

      17 พจนานุกรม​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​เล่ม​หนึ่ง​บอก​ว่า​ใน​ภาษา​ฮีบรู​คำ​ว่า “จด​จำ” มี​ความหมาย​มาก​กว่า​แค่​ไม่​ลืม​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น แต่​ยัง​หมาย​ถึง​การ​ทำ​บาง​อย่าง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นั้น​ด้วย ดังนั้น ใน​ความหมาย​นี้​คำ​ว่า “จด​จำ” ความ​ผิด​ก็​รวม​ถึง​การ​ลง​โทษ​คน​ที่​ทำ​ผิด​ด้วย (โฮเชยา 9:9) แต่​เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​บอก​ว่า ‘เรา​จะ​ไม่​จด​จำ​ความ​ผิด​ของ​พวก​เขา​อีก​เลย’ พระองค์​ก็​ทำ​ให้​มั่น​ใจ​ว่า​เมื่อ​พระองค์​ให้​อภัย​คน​ทำ​ผิด​ที่​กลับ​ใจ​แล้ว พระองค์​ก็​จะ​ไม่​เอา​เรื่อง​นั้น​มา​ลง​โทษ​เขา​อีก (เอเสเคียล 18:21, 22) เห็น​ชัด​ว่า​เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ลืม​ความ​ผิด​ของ​เรา​แล้ว พระองค์​จะ​ไม่​นึก​ถึง​ความ​ผิด​ของ​เรา​และ​จะ​ไม่​เอา​เรื่อง​นั้น​มา​ลง​โทษ​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก เรา​ได้​กำลังใจ​มาก​ที่​ได้​รู้​ว่า​ถ้า​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​เรา​แล้ว พระองค์​ก็​จะ​ลืม​เรื่อง​นั้น​แน่นอน

      พระ​ยะโฮวา​ปก​ป้อง​เรา​จาก​ผล​เสีย​ของ​บาป​ที่​เรา​ทำ​ไหม?

      18. การ​ให้​อภัย​หมายความ​ว่า​คน​ทำ​ผิด​ที่​กลับ​ใจ​จะ​ไม่​ต้อง​รับ​ผล​จาก​การ​ทำ​ผิด​ของ​เขา​ไหม?

      18 การ​ที่​พระ​ยะโฮวา​พร้อม​จะ​ให้​อภัย​หมายความ​ว่า​คน​ทำ​ผิด​ที่​กลับ​ใจ​จะ​ไม่​ต้อง​รับ​ผล​จาก​การ​ทำ​ผิด​ของ​เขา​ไหม? ไม่​ใช่​อย่าง​นั้น ถ้า​เรา​ทำ​ผิด​เรา​ก็​จะ​ได้​รับ​ผล​เสีย​แน่ ๆ เปาโล​บอก​ว่า “ใคร​หว่าน​อะไร​ไป​ก็​ต้อง​เก็บ​เกี่ยว​ผล​จาก​สิ่ง​นั้น” (กาลาเทีย 6:7) หลัง​จาก​ที่​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​เรา​แล้ว เรา​อาจ​ต้อง​เจอ​ปัญหา​หลาย​อย่าง​ที่​เกิด​จาก​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ แต่​นี่​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​พระองค์​ทำ​ให้​เรา​เจอ​กับ​ปัญหา เมื่อ​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​เจอ​ความ​ยาก​ลำบาก​ใน​ชีวิต เขา​ไม่​ควร​คิด​ว่า ‘นี่​เป็น​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ลง​โทษ​ฉัน​เพราะ​ความ​ผิด​ที่​เคย​ทำ​ใน​อดีต​แน่ ๆ’ (ยากอบ 1:13) เรา​ต้อง​ไม่​ลืม​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ปก​ป้อง​เรา​จาก​ผล​เสีย​ทุก​อย่าง​ที่​เกิด​จาก​การ​ทำ​ผิด​ของ​เรา เรา​อาจ​ต้อง​เจอ​กับ​ผล​เสีย​ที่​น่า​เศร้า เช่น การ​หย่าร้าง ตั้ง​ท้อง​โดย​ไม่​ได้​ตั้งใจ โรค​ติด​ต่อ​ทาง​เพศ​สัมพันธ์ การ​ไม่​ได้​รับ​ความ​ไว้​ใจ​หรือ​ความ​นับถือ ขอ​จำ​ไว้​ว่า​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​ดาวิด​ตอน​ที่​เขา​ทำ​ผิด​กับ​บัทเชบา​และ​ฆ่า​อุรีอาห์ แต่​พระ​ยะโฮวา​ก็​ไม่​ได้​ปก​ป้อง​ดาวิด​จาก​ผล​เสียหาย​ร้ายแรง​ที่​ตาม​มา—2 ซามูเอล 12:9-12

      19-21. (ก) กฎหมาย​ที่​เขียน​ไว้​ใน​เลวีนิติ 6:1-7 เป็น​ประโยชน์​ยังไง​กับ​ทั้ง​ผู้​เสียหาย​และ​คน​ที่​ทำ​ผิด? (ข) ถ้า​มี​คน​ได้​รับ​ผล​กระทบ​จาก​การ​ทำ​ผิด​ของ​เรา พระ​ยะโฮวา​จะ​พอ​ใจ​เมื่อ​เรา​พยายาม​ทำ​อะไร?

      19 ความ​ผิด​ที่​เรา​ทำ​อาจ​ส่ง​ผล​เสีย​กับ​คน​อื่น​ด้วย ตัวอย่าง​เช่น ใน​เลวีนิติ​บท 6 กฎหมาย​ของ​โมเสส​พูด​ถึง​คน​หนึ่ง​ที่​ขโมย​หรือ​ฉ้อ​โกง​ทรัพย์​สิน​ของ​คน​อื่น แต่​เขา​ยืน​ยัน​และ​ถึง​กับ​สาบาน​ว่า​ไม่​ได้​ทำ​ผิด เพราะ​ไม่​มี​พยาน​รู้​เห็น​การ​ทำ​ผิด​ของ​เขา เขา​เลย​ไม่​ถูก​ลง​โทษ แต่​ที​หลัง​เขา​รู้สึก​ไม่​สบาย​ใจ เขา​เลย​สารภาพ​ว่า​ทำ​ผิด​จริง เพื่อ​จะ​ได้​รับ​การ​อภัย​จาก​พระเจ้า เขา​ต้อง​ทำ 3 อย่าง​คือ คืน​สิ่ง​ที่​เขา​ขโมย​มา จ่าย​ค่า​ปรับ​ให้​ผู้​เสียหาย 20 เปอร์เซ็นต์​จาก​ของ​ที่​ขโมย​ไป และ​เอา​แกะ​ตัว​ผู้​ตัว​หนึ่ง​ถวาย​เป็น​เครื่อง​บูชา​ไถ่​ความ​ผิด ใน​กฎหมาย​นั้น​บอก​ว่า “ปุโรหิต​จะ​ไถ่​บาป​ให้​เขา​ต่อ​หน้า​พระ​ยะโฮวา แล้ว​เขา​จะ​ได้​รับ​การ​อภัย​บาป”—เลวีนิติ 6:1-7

      20 กฎหมาย​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ความ​เมตตา​ของ​พระเจ้า​และ​เป็น​ประโยชน์​กับ​ผู้​เสียหาย​และ​คน​ที่​ทำ​ผิด​ด้วย ผู้​เสียหาย​จะ​ได้​รับ​ทรัพย์​สิน​ของ​เขา​กลับ​คืน​มา ส่วน​คน​ที่​ทำ​ผิด​จะ​รู้สึก​สบาย​ใจ​ถ้า​เขา​ยอม​รับ​ความ​ผิด​และ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง เพราะ​ถ้า​เขา​ไม่​ทำ​อย่าง​นั้น พระเจ้า​ก็​จะ​ไม่​ยก​โทษ​ให้​เขา

      21 แม้​เรา​ไม่​ได้​อยู่​ใต้​กฎหมาย​ของ​โมเสส แต่​กฎหมาย​นี้​ช่วย​เรา​ให้​เข้าใจ​ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น​และ​รู้​ว่า​พระองค์​พร้อม​จะ​ให้​อภัย​คน​แบบ​ไหน (โคโลสี 2:13, 14) ถ้า​มี​คน​ได้​รับ​ผล​กระทบ​จาก​การ​ทำ​ผิด​ของ​เรา พระ​ยะโฮวา​จะ​พอ​ใจ​เมื่อ​เรา​พยายาม​ทำ​ทุก​อย่าง​เพื่อ​แก้ไข​ความ​ผิด​นั้น (มัทธิว 5:23, 24) นี่​อาจ​รวม​ถึง​การ​ยอม​รับ​ว่า​เรา​ทำ​ผิด​และ​ขอ​คน​นั้น​ยก​โทษ​ให้​เรา จาก​นั้น​เรา​สามารถ​ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​เรา​โดย​ทาง​ค่า​ไถ่​ของ​พระ​เยซู ถ้า​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น​เรา​ก็​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ให้​อภัย​เรา​แน่นอน—ฮีบรู 10:21, 22

      22. เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​เรา​แล้ว พระองค์​ก็​จะ​ทำ​อะไร​ด้วย?

      22 เหมือน​กับ​พ่อ​ที่​รัก​ลูก เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​เรา พระองค์​ก็​จะ​สั่ง​สอน​เรา​ด้วย (สุภาษิต 3:11, 12) คริสเตียน​ที่​ทำ​ผิด​แล้ว​กลับ​ใจ​อาจ​ไม่​ได้​ทำ​หน้า​ที่​ต่าง ๆ อีก​ต่อ​ไป เช่น เป็น​ผู้​ดู​แล ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้ หรือ​ผู้​รับใช้​เต็ม​เวลา เขา​อาจ​เสียใจ​ที่​ต้อง​สูญ​เสีย​สิทธิ​พิเศษ​ใน​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา แต่​การ​ตี​สอน​นี้​ก็​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ให้​อภัย​เขา ขอ​จำ​ไว้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​สั่ง​สอน​เรา​ก็​เพราะ​พระองค์​รัก​เรา เรา​จะ​ได้​รับ​ประโยชน์​แน่นอน​ถ้า​เรา​ยอม​รับ​การ​สั่ง​สอน​จาก​พระ​ยะโฮวา—ฮีบรู 12:5-11

      23. ทำไม​เรา​ไม่​ควร​คิด​เอา​เอง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​มี​วัน​ให้​อภัย​เรา และ​ทำไม​เรา​ควร​เลียน​แบบ​พระองค์​และ​ให้​อภัย​คน​อื่น?

      23 เรา​ได้​กำลังใจ​จริง ๆ ที่​รู้​ว่า​พระเจ้า “พร้อม​จะ​ให้​อภัย” ถึง​แม้​เรา​อาจ​ทำ​ผิด​พลาด เรา​ไม่​ควร​คิด​เอา​เอง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​มี​วัน​ให้​อภัย​เรา ถ้า​เรา​กลับ​ใจ​จริง ๆ พยายาม​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง และ​อธิษฐาน​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​โดย​ทาง​ค่า​ไถ่​ของ​พระ​เยซู เรา​ก็​มั่น​ใจ​ได้​เต็ม​ที่​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ให้​อภัย​เรา (1 ยอห์น 1:9) ให้​เรา​เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา​ใน​การ​ให้​อภัย​คน​อื่น​ด้วย อย่า​ลืม​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​ทำ​ผิด​พลาด พระองค์​รัก​และ​พร้อม​จะ​ให้​อภัย​เรา​เสมอ เรื่อง​นี้​ควร​กระตุ้น​เรา​ให้​พยายาม​ทำ​ดี​ที่​สุด​ที่​จะ​ให้​อภัย​คน​อื่น

      a นัก​วิชาการ​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า​สี​แดง​สด “เป็น​สี​ที่​ไม่​ตก​และ​ติด​แน่น เป็น​สี​ที่​ซัก​ไม่​ออก​และ​ถึง​จะ​ตาก​แดด​ตาก​ฝน สี​ก็​ไม่​ซีด”

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • 2 พงศาวดาร 33:1-13 ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​มนัสเสห์ และ​เรื่อง​นี้​สอน​อะไร​เรา​เกี่ยว​กับ​ความ​เมตตา​ของ​พระองค์?

      • มัทธิว 6:12, 14, 15 ทำไม​เรา​ควร​ให้​อภัย​คน​อื่น​เมื่อ​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น?

      • ลูกา 15:11-32 ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​นี้​สอน​อะไร​เรา​เรื่อง​ที่​พระ​ยะโฮวา​พร้อม​จะ​ให้​อภัย และ​เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​คุณ​รู้สึก​ยังไง?

      • 2 โครินธ์ 7:8-11 เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​พระเจ้า​จะ​ให้​อภัย​เรา?

  • ‘พระ​ยะโฮวา​ดี​จริง ๆ’
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • พวง​องุ่น​ที่​อยู่​บน​ต้น

      บท 27

      ‘พระ​ยะโฮวา​ดี​จริง ๆ’

      1, 2. ความ​ดี​ของ​พระเจ้า​มี​ประโยชน์​กับ​ใคร​บ้าง และ​คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​ถึง​เรื่อง​นี้​ยังไง?

      ลอง​นึก​ภาพ​ใน​ตอน​เย็น​ที่​ดวง​อาทิตย์​กำลัง​จะ​ตก เพื่อน​สนิท​กลุ่ม​หนึ่ง​นั่ง​กิน​ข้าว​ด้วย​กัน​ข้าง​นอก​บ้าน พวก​เขา​คุย​และ​หัวเราะ​กัน​ตอน​ที่​มอง​ดู​ท้องฟ้า​ที่​สวย​งาม ใน​อีก​ที่​หนึ่ง ชาว​นา​คน​หนึ่ง​มอง​ดู​ทุ่ง​นา​ของ​ตัว​เอง​แล้ว​ยิ้ม เขา​มี​ความ​สุข​เพราะ​เห็น​เมฆ​ดำ​รวม​ตัว​กัน​แล้ว​ฝน​ก็​ตก​ลง​มา ใน​อีก​ที่​หนึ่ง สามี​กับ​ภรรยา​ดีใจ​ที่​เห็น​ลูก​ของ​เขา​เริ่ม​เดิน​ได้​เป็น​ครั้ง​แรก

      2 พวก​เขา​มี​ความ​สุข​ใน​ชีวิต​เพราะ​ได้​รับ​ความ​ดี​จาก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า บาง​คน​ที่​เคร่ง​ศาสนา​มัก​จะ​บอก​ว่า​พระเจ้า​ของ​เขา​เป็น “พระเจ้า​ที่​แสน​ดี” แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​คำ​พูด​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​ใน​แบบ​ที่​น่า​ประทับใจ​มาก​กว่า​นั้น​อีก ที่​นั่น​บอก​ว่า “พระองค์​ดี​จริง ๆ” (เศคาริยาห์ 9:17) ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​หมาย​ถึง​อะไร และ​เรา​จะ​ได้​ประโยชน์​จาก​ความ​ดี​ของ​พระองค์​ยังไง?

      พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​ใน​วิธี​ที่​ยอด​เยี่ยม

      3, 4. ความ​ดี​หมาย​ถึง​อะไร และ​ทำไม​ความ​ดี​ถึง​เป็น​วิธี​ที่​ยอด​เยี่ยม​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา?

      3 หลาย​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​ใช้​คำ​ว่า “ดี” กับ​หลาย ๆ อย่าง แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​ความ​ดี​เป็น​คุณลักษณะ​ที่​ยอด​เยี่ยม และ​หมาย​ถึง​การ​มี​ศีลธรรม​ที่​ดี​เลิศ​ไม่​มี​ที่​ติ เรา​เลย​บอก​ได้​ว่า​ทุก​สิ่ง​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​ดี​มาก​จริง ๆ คุณลักษณะ​ทุก​อย่าง​ของ​พระองค์ เช่น พลัง​อำนาจ ความ​ยุติธรรม และ​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​ดี​พร้อม แต่​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​ความ​ดี​เป็น​วิธี​ที่​ยอด​เยี่ยม​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา ทำไม​ถึง​บอก​อย่าง​นั้น?

      4 ความ​ดี​เป็น​คุณลักษณะ​ที่​กระตุ้น​เรา​ให้​ลง​มือ​ทำ​ดี​เพื่อ​คน​อื่น อัครสาวก​เปาโล​บอก​ว่า​ความ​ดี​เป็น​สิ่ง​ที่​น่า​ประทับใจ​มาก​กว่า​ความ​ถูก​ต้อง​ชอบธรรม (โรม 5:7) คน​ที่​มี​ความ​ถูก​ต้อง​ชอบธรรม​จะ​เชื่อ​ฟัง​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ซื่อสัตย์ แต่​คน​ดี​จะ​ทำ​มาก​กว่า​นั้น​อีก เขา​จะ​มอง​หา​วิธี​ต่าง ๆ ที่​จะ​ทำ​ดี​เพื่อ​คน​อื่น ใน​บท​นี้​เรา​จะ​เรียน​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ดี​แบบ​นั้น​จริง ๆ เห็น​ชัด​ว่า​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​มา​จาก​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระองค์

      5-7. ทำไม​พระ​เยซู​ไม่​ยอม​ให้​ใคร​เรียก​ท่าน​ว่า “อาจารย์​ที่​ดี” และ​นั่น​สอน​ความ​จริง​ที่​สำคัญ​อะไร?

      5 ไม่​มี​ใคร​ดี​เหมือน​กับ​พระ​ยะโฮวา พระ​เยซู​ทำ​ให้​เห็น​ชัด​ใน​เรื่อง​นี้​ตอน​ที่​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​เข้า​มา​ถาม​คำ​ถาม​และ​เรียก​ท่าน​ว่า “ท่าน​เป็น​อาจารย์​ที่​ดี​จริง ๆ” พระ​เยซู​ตอบ​ว่า “ทำไม​ถึง​ยกย่อง​ผม​ว่า​ดี? ไม่​มี​ใคร​ดี​จริง ๆ หรอก​นอกจาก​พระเจ้า​เท่า​นั้น” (มาระโก 10:17, 18) คุณ​อาจ​สงสัย​ว่า​ทำไม​พระ​เยซู​ถึง​พูด​อย่าง​นั้น? พระ​เยซู​เป็น “อาจารย์​ที่​ดี​จริง ๆ” ไม่​ใช่​หรือ?

      6 เห็น​ชัด​ว่า​ผู้​ชาย​คน​นี้​เรียก​พระ​เยซู​ว่า “อาจารย์​ที่​ดี” เพื่อ​จะ​ยกย่อง​ท่าน แต่​พระ​เยซู​ถ่อม​มาก​และ​อยาก​ให้​ทุก​คน​ยกย่อง​พ่อ​ใน​สวรรค์​เพราะ​ไม่​มี​ใคร​ดี​จริง ๆ เหมือน​พระองค์ (สุภาษิต 11:2) พระ​เยซู​ยัง​สอน​ความ​จริง​ที่​สำคัญ​ด้วย พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​ปกครอง​สูง​สุด พระองค์​ผู้​เดียว​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​ตั้ง​มาตรฐาน​ว่า​อะไร​ดี​อะไร​ชั่ว เมื่อ​อาดัม​กับ​เอวา​ไม่​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง​ของ​พระ​ยะโฮวา​โดย​กิน​ผล​จาก​ต้น​ไม้​ที่​ให้​รู้​ดี​รู้​ชั่ว พวก​เขา​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​อยาก​ตัดสิน​เอง​ว่า​อะไร​ดี​อะไร​ชั่ว แต่​พระ​เยซู​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น ท่าน​ถ่อม​และ​เต็ม​ใจ​ยอม​รับ​ว่า​พ่อ​ใน​สวรรค์​เท่า​นั้น​ที่​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​ตั้ง​มาตรฐาน​ต่าง ๆ

      7 นอกจากนั้น พระ​เยซู​รู้​ว่า​สิ่ง​ดี​ทุก​อย่าง​มา​จาก​พระ​ยะโฮวา พระองค์​เป็น​ผู้​ให้ “ของ​ดี ๆ และ​สมบูรณ์​ทุก​อย่าง” (ยากอบ 1:17) ให้​เรา​มา​ดู​ว่า​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​ดี​โดย​ให้​อย่าง​ใจ​กว้าง​ยังไง

      หลักฐาน​ที่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ดี​จริง ๆ

      8. พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​ดี​กับ​ทุก​คน​ยังไง?

      8 เรา​ทุก​คน​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา สดุดี 145:9 บอก​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ดี​ต่อ​ทุก​ชีวิต” มี​ตัวอย่าง​อะไร​บ้าง​ที่​ช่วย​ให้​เห็น​ความ​ดี​ของ​พระองค์? คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “พระองค์​ก็​ยัง​ให้​หลักฐาน​ชัดเจน​เกี่ยว​กับ​พระองค์​เอง โดย​การ​ทำ​ดี ให้​มี​ฝน​ตก​จาก​ฟ้า ให้​มี​พืช​ผล​อย่าง​อุดม​สมบูรณ์​ตาม​ฤดู และ​ให้​มี​อาหาร​กิน​อิ่ม ทำ​ให้​พวก​คุณ​มี​ความ​สุข​ใจ” (กิจการ 14:17) คุณ​มี​ความ​สุข​ไหม​ที่​ได้​กิน​อาหาร​อร่อย ๆ? เรา​มี​ความ​สุข​แบบ​นั้น​ได้​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​สร้าง​โลก​ไว้​อย่าง​ดี​เยี่ยม พระองค์​ทำ​ให้​มี​วัฏจักร​ของ​น้ำ​ซึ่ง​ทำ​ให้​มี​ฝน​และ​มี “พืช​ผล​อย่าง​อุดม​สมบูรณ์​ตาม​ฤดู” พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​ดี​กับ​ทุก​คน​ไม่​ใช่​แค่​กับ​คน​ที่​รัก​พระองค์​เท่า​นั้น พระ​เยซู​บอก​ว่า “พระองค์​ให้​ดวง​อาทิตย์​ส่อง​แสง​แก่​ทั้ง​คน​ดี​และ​คน​ชั่ว และ​ให้​ฝน​ตก​แก่​ทั้ง​คน​ทำ​ดี​และ​คน​ทำ​ชั่ว”—มัทธิว 5:45

      9. จาก​ตัวอย่าง​ของ​แอปเปิล เรา​เห็น​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​ยังไง?

      9 หลาย​คน​ไม่​ได้​เห็น​ค่า​สิ่ง​ดี ๆ ใน​ธรรมชาติ​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ดวง​อาทิตย์ ฝน และ​ฤดู​ต่าง ๆ ที่​ทำ​ให้​เกิด​ผล​ก็​มี​อยู่​ตลอด​เวลา แต่​ลอง​คิด​ถึง​แอปเปิล​ดู​สิ ใน​หลาย​ที่​ของ​โลก แอปเปิล​เป็น​ผลไม้​ที่​มี​อยู่​ทั่ว​ไป น่า​กิน รสชาติ​อร่อย และ​เต็ม​ไป​ด้วย​สาร​อาหาร​ที่​มี​ประโยชน์ คุณ​รู้​ไหม​ว่า​ทั่ว​โลก​มี​แอปเปิล​ประมาณ 7,500 ชนิด และ​มี​หลาย​สี​ตั้งแต่​สี​แดง สี​ทอง สี​เหลือง สี​เขียว นอกจากนั้น​ก็​ยัง​มี​หลาย​ขนาด​ตั้งแต่​เล็ก​เท่า​องุ่น​ไป​จน​ถึง​ใหญ่​เท่า​ส้ม​โอ ส่วน​เมล็ด​ของ​มัน​ถึง​จะ​เล็ก​มาก​จน​ดู​เหมือน​ว่า​ไม่​พิเศษ​อะไร แต่​เมื่อ​เอา​ไป​ปลูก​ก็​จะ​โต​เป็น​ต้น​ไม้​ที่​มี​ผล​อร่อย​มาก (เพลง​โซโลมอน 2:3) ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ ต้น​แอปเปิล​จะ​ออก​ดอก​ที่​สวย​งาม และ​จะ​ออก​ผล​ใน​ช่วง​ฤดู​ใบ​ไม้​ร่วง ใน​ช่วง​เวลา​ประมาณ 75 ปี ทุก​ปี​ต้น​แอปเปิล​ต้น​หนึ่ง​จะ​ออก​ผล​ได้​มาก​ถึง 400 กิโลกรัม

      พระ​ยะโฮวา “ให้​มี​ฝน​ตก​จาก​ฟ้า ให้​มี​พืช​ผล​อย่าง​อุดม​สมบูรณ์​ตาม​ฤดู”

      สวน​แอปเปิล​ที่​มี​แอปเปิล​เต็ม​ต้น และ​ใน​กรอบ​มี​มือ​คน​ที่​หยิบ​เมล็ด​แอปเปิล

      เมล็ด​เล็ก ๆ นี้​เติบโต​เป็น​ต้น​ไม้​ที่​ให้​ประโยชน์​และ​มี​ผล​ที่​กิน​ได้​เป็น​เวลา​หลาย​สิบ​ปี

      10, 11. ประสาท​สัมผัส​ต่าง ๆ แสดง​ให้​เห็น​ถึง​ความ​ดี​ของ​พระเจ้า​ยังไง?

      10 ร่าง​กาย​ของ​เรา “ถูก​สร้าง​อย่าง​น่า​อัศจรรย์” เรา​มี​ประสาท​สัมผัส​ที่​ถูก​ออก​แบบ​มา​เพื่อ​ช่วย​เรา​ให้​เรียน​รู้​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​สร้าง​และ​มี​ความ​สุข​กับ​สิ่ง​เหล่า​นั้น นี่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ดี​จริง ๆ (สดุดี 139:14) ลอง​นึก​ถึง​ตัวอย่าง​ใน​ตอน​ต้น​ของ​บท​นี้​อีก​ครั้ง ถ้า​คุณ​อยู่​ที่​นั่น คุณ​จะ​มอง​เห็น​อะไร​บ้าง​ที่​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข? คุณ​อาจ​เห็น​เด็ก​น้อย​น่า​รัก​คน​หนึ่ง​ยิ้ม​แก้ม​ปริ ฝน​ที่​ตก​ลง​มา​กลาง​ทุ่ง​นา และ​ท้องฟ้า​เป็น​สี​แดง สี​ทอง สี​ส้ม​ตอน​ที่​ดวง​อาทิตย์​กำลัง​จะ​ตก พระ​ยะโฮวา​ออก​แบบ​ตา​ของ​เรา​ให้​มอง​เห็น​สี​ต่าง ๆ มาก​มาย​เป็น​ล้าน​ล้าน​สี นอกจากนั้น เรา​ยัง​ได้​ยิน​และ​แยกแยะ​เสียง​ต่าง ๆ ได้ เช่น เสียง​ของ​คน​ที่​เรา​รัก เสียง​ลม​พัด​ใบ​ไม้​เบา ๆ และ​เสียง​หัวเราะ​ของ​เด็ก​น้อย ทำไม​เรา​ถึง​มี​ความ​สุข​เมื่อ​ได้​เห็น​และ​ได้​ยิน​เสียง​ต่าง ๆ เหล่า​นี้? คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “หู​ที่​ได้​ยิน​และ​ตา​ที่​มอง​เห็น พระ​ยะโฮวา​สร้าง​ทั้ง​สอง​อย่าง” (สุภาษิต 20:12) แต่​พระ​ยะโฮวา​ยัง​ให้​เรา​มี​ประสาท​สัมผัส​อื่น ๆ อีก​ด้วย

      11 ความ​สามารถ​ใน​การ​ได้​กลิ่น​เป็น​หลักฐาน​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​เห็น​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา จมูก​ของ​เรา​สามารถ​แยก​กลิ่น​ต่าง ๆ ได้​เป็น​ล้าน​ล้าน​กลิ่น ลอง​นึก​ถึง​บาง​กลิ่น เช่น กลิ่น​อาหาร​ที่​คุณ​ชอบ​หรือ​กลิ่น​ดอกไม้​หอม ๆ นอกจากนั้น ประสาท​สัมผัส​ยัง​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​ได้​ตอน​ที่​มี​ลม​พัด​มาโดน​ตัว​เรา​และ​รู้สึก​อบอุ่น​ตอน​ที่​ได้​กอด​คน​ที่​เรา​รัก ตอน​ที่​เรา​กิน​ผลไม้ ลิ้น​ของ​เรา​มี​ประสาท​สัมผัส​ใน​การ​รับ​รส​ที่​ทำ​ให้​เรา​รับ​รู้​ได้​หลาย​รสชาติ ดังนั้น เรา​มี​เหตุ​ผล​มาก​มาย​ที่​จะ​พูด​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พระองค์​ดี​จริง ๆ พระองค์​รักษา​ความ​ดี​ไว้​เพื่อ​คน​ที่​เกรง​กลัว​พระองค์” (สดุดี 31:19) แต่​พระ​ยะโฮวา​รักษา​ความ​ดี​ไว้​สำหรับ​คน​ที่​เกรง​กลัว​พระองค์​ยังไง?

      พระ​ยะโฮวา​ให้​สิ่ง​ดี ๆ ที่​เป็น​ประโยชน์​กับ​เรา​ตลอด​ไป

      12. พระ​ยะโฮวา​ให้​อะไร​กับ​เรา​ซึ่ง​มี​ค่า​มาก​กว่า​อาหาร และ​ทำไม​ถึง​เป็น​อย่าง​นั้น?

      12 พระ​เยซู​พูด​ว่า “พระ​คัมภีร์​บอก​ไว้​ว่า ‘มนุษย์​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้ ไม่​ใช่​ด้วย​อาหาร​เท่า​นั้น แต่​ด้วย​คำ​พูด​ทุก​คำ​ที่​มา​จาก​พระ​ยะโฮวา’” (มัทธิว 4:4) คำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​อยู่​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​ประโยชน์​มาก​กว่า​อาหาร​ที่​เรา​กิน​เพราะ​ช่วย​ให้​เรา​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​ได้ ใน​บท 8 ของ​หนังสือ​เล่ม​นี้ เรา​ได้​เรียน​แล้ว​ว่า​ใน​สมัย​สุด​ท้าย​พระ​ยะโฮวา​ใช้​อำนาจ​เพื่อ​ช่วย​ผู้​คน​ให้​นมัสการ​พระองค์​อย่าง​ถูก​ต้อง​และ​มี​ความ​เชื่อ​เข้มแข็ง สิ่ง​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​เป็น​อย่าง​นั้น​ได้​ก็​คือ​ความ​รู้​มาก​มาย​ที่​เสริม​ความ​เชื่อ

      13, 14. (ก) ผู้​พยากรณ์​เอเสเคียล​เห็น​อะไร​ใน​นิมิต และ​นิมิต​นั้น​มี​ความหมาย​ยังไง​กับ​พวก​เรา? (ข) พระ​ยะโฮวา​ให้​อะไร​กับ​คน​ที่​เชื่อ​ฟัง​พระองค์​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป?

      13 ใน​คำ​พยากรณ์​ที่​สำคัญ​เรื่อง​การ​ฟื้นฟู ผู้​พยากรณ์​เอเสเคียล​เห็น​นิมิต​เกี่ยว​กับ​วิหาร​ที่​ได้​รับ​การ​ฟื้นฟู​และ​เต็ม​ไป​ด้วย​สง่า​ราศี เขา​เห็น​น้ำ​ไหล​ออก​มา​จาก​วิหาร​และ​ค่อย ๆ ลึก​มาก​ขึ้น​จน​กลาย​เป็น​แม่น้ำ ไม่​ว่า​น้ำ​จะ​ไหล​ไป​ที่​ไหน​ก็​จะ​เกิด​ผล​ดี​ที่​นั่น ริม​แม่น้ำ​ทั้ง​สอง​ฝั่ง​มี​ต้น​ไม้​ที่​ผล​ของ​มัน​ใช้​เป็น​อาหาร​และ​ใบ​ใช้​เป็น​ยา​รักษา​โรค​ได้ เมื่อ​แม่น้ำ​นี้​ไหล​ลง​ทะเล​ตาย​ก็​ทำ​ให้​น้ำ​ที่​นั่น​กลาย​เป็น​น้ำ​ดี​และ​เต็ม​ไป​ด้วย​ปลา​มาก​มาย (เอเสเคียล 47:1-12) แต่​ทั้ง​หมด​นี้​หมายความ​ว่า​ยังไง?

      14 นิมิต​นี้​หมายความ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ช่วย​ให้​ผู้​คน​กลับ​มา​นมัสการ​พระองค์​ใน​แบบ​ที่​ถูก​ต้อง เหมือน​กับ​น้ำ​ที่​ค่อย ๆ ลึก​มาก​ขึ้น​จน​กลาย​เป็น​แม่น้ำ สิ่ง​ดี ๆ ที่​พระ​ยะโฮวา​ให้​เพื่อ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​ก็​จะ​มี​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ เหมือน​กัน เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​จริง​ตั้งแต่​ปี 1919 ตอน​นั้น​คริสเตียน​แท้​กลับ​มา​นมัสการ​พระองค์​ใน​แบบ​ที่​ถูก​ต้อง​อีก​ครั้ง พระ​ยะโฮวา​ให้​สิ่ง​ดี ๆ หลาย​อย่าง​เพื่อ​สอน​ความ​จริง​ให้​กับ​ผู้​คน​นับ​ล้าน​โดย​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล สิ่ง​พิมพ์​ต่าง ๆ การ​ประชุม และ​การ​ประชุม​ใหญ่ นอกจากนั้น พระองค์​ยัง​สอน​ความ​จริง​สำคัญ​เรื่อง​ค่า​ไถ่​ของ​พระ​เยซู​ซึ่ง​ช่วย​ให้​คน​ที่​รัก​และ​เกรง​กลัว​พระองค์​มี​ความ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ชั่ว​ดี​ที่​สะอาด​และ​มี​ความ​หวัง​เรื่อง​ชีวิต​ตลอด​ไป​ด้วยa เห็น​ชัด​เลย​ว่า​ใน​สมัย​สุด​ท้าย​ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​ไม่​มี​ความ​สุข​เพราะ​พวก​เขา​ไม่​เชื่อ​ฟัง​คำ​ของ​พระ​ยะโฮวา แต่​คน​ของ​พระ​ยะโฮวา​มี​ความ​สุข​เพราะ​พวก​เขา​มี​ทุก​อย่าง​ที่​ช่วย​ให้​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา—อิสยาห์ 65:13

      15. ใน​ช่วง​หนึ่ง​พัน​ปี​ที่​พระ​เยซู​ปกครอง พระ​ยะโฮวา​จะ​แสดง​ความ​ดี​กับ​คน​ที่​ซื่อสัตย์​ยังไง?

      15 น้ำ​ใน​นิมิต​ของ​เอเสเคียล​จะ​ยัง​ไหล​ต่อ​ไป​หลัง​จาก​โลก​ชั่ว​นี้​ถูก​ทำลาย​และ​จะ​ไหล​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ ใน​ช่วง​หนึ่ง​พัน​ปี​ที่​พระ​เยซู​ปกครอง ใน​ตอน​นั้น พระ​ยะโฮวา​จะ​ใช้​ค่า​ไถ่​ของ​พระ​เยซู​เพื่อ​ช่วย​ให้​คน​ที่​ซื่อสัตย์​ค่อย ๆ กลาย​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์​แบบ เรา​คง​มี​ความ​สุข​มาก​แน่ ๆ เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ให้​สิ่ง​ดี ๆ มาก​มาย

      วิธี​อื่น​ที่​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​ดี​ของ​พระองค์

      16. พระ​ยะโฮวา​มี​คุณลักษณะ​ดี ๆ อะไร​อีก​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ความ​ดี​ของ​พระองค์?

      16 ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ใช่​แค่​การ​ให้​อย่าง​ใจ​กว้าง​เท่า​นั้น พระเจ้า​บอก​กับ​โมเสส​ว่า “เรา​จะ​ให้​เจ้า​เห็น​คุณ​ความ​ดี​ทั้ง​หมด​ของ​เรา และ​จะ​ประกาศ​ให้​เจ้า​รู้​เกี่ยว​กับ​ชื่อ​ยะโฮวา” แล้ว “พระ​ยะโฮวา​ได้​ผ่าน​หน้า​เขา​ไป​และ​บอก​ว่า ‘พระ​ยะโฮวา พระ​ยะโฮวา พระเจ้า​ที่​เมตตา สงสาร ไม่​โกรธ​ง่าย รัก​ใคร​ก็​รัก​มั่นคง และ​รักษา​คำ​พูด​เสมอ’” (อพยพ 33:19; 34:6, เชิงอรรถ) จาก​ข้อ​เหล่า​นี้​เรา​เห็น​ว่า​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คุณลักษณะ​ดี ๆ หลาย​อย่าง ให้​เรา​มา​ดู​สอง​อย่าง​ด้วย​กัน

      17. ความ​กรุณา​คือ​อะไร และ​พระ​ยะโฮวา​แสดง​คุณลักษณะ​นี้​กับ​มนุษย์​ยังไง?

      17 “กรุณา” คุณลักษณะ​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ “ความ​สงสาร” และ​บอก​ให้​เรา​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อ่อนโยน​และ​เข้า​หา​ได้​ง่าย คน​ที่​มี​อำนาจ​มัก​จะ​หยาบคาย​หรือ​ชอบ​กดขี่ แต่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น พระองค์​ใจ​ดี​และ​อ่อนโยน​เสมอ ตัวอย่าง​เช่น พระ​ยะโฮวา​บอก​กับ​อับราม​ว่า “จาก​ที่​ที่​เจ้า​อยู่​นี้ ขอ​ให้​เงย​หน้า​มอง​ไป​ทาง​ทิศ​เหนือ ทิศ​ใต้ ทิศ​ตะวัน​ออก และ​ทิศ​ตะวัน​ตก” (ปฐมกาล 13:14) คัมภีร์​ไบเบิล​หลาย​ฉบับ​ไม่​ใส่​คำ​ว่า “ขอ” แต่​นัก​วิชาการ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​ใน​ภาษา​ฮีบรู ข้อ​นี้​ไม่​ใช่​คำ​สั่ง​แต่​เป็น​การ​ขอ​อย่าง​สุภาพ และ​ยัง​มี​ตัวอย่าง​อื่น ๆ อีก​ใน​เรื่อง​นี้ (ปฐมกาล 31:12; เอเสเคียล 8:5) คิด​ดู​สิ พระเจ้า​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​สูง​สุด​พูด​ว่า “ขอ” กับ​มนุษย์​ที่​ต่ำต้อย ใน​โลก​ที่​มี​แต่​คน​หยาบคาย​และ​ก้าวร้าว คุณ​รู้สึก​ยังไง​ที่​ได้​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​กรุณา?

      18. พระ​ยะโฮวา “รักษา​คำ​พูด​เสมอ” ยังไง และ​ทำไม​เรื่อง​นี้​ถึง​ให้​กำลังใจ​เรา?

      18 “รักษา​คำ​พูด​เสมอ” ผู้​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​มัก​จะ​ไม่​ซื่อสัตย์ แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “พระเจ้า​ไม่​ใช่​มนุษย์​ถึง​จะ​ได้​พูด​โกหก” (กันดารวิถี 23:19) ใน​ทิตัส 1:2 ก็​บอก​ว่า “พระเจ้า​โกหก​ไม่​ได้” พระ​ยะโฮวา​มี​แต่​ความ​ดี พระองค์​ไม่​มี​ทาง​พูด​โกหก เรา​เลย​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์​จะ​เป็น​จริง​แน่นอน มี​การ​เรียก​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พระเจ้า​แห่ง​ความ​จริง” (สดุดี 31:5) พระองค์​ไม่​ได้​ปิด​บัง​เรื่อง​ของ​พระองค์ แต่​พระองค์​บอก​ความ​จริง​ทุก​อย่าง​ซึ่ง​เป็น​สติ​ปัญญา​ที่​ลึกซึ้ง​ให้​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​รู้b พระองค์​ยัง​สอน​พวก​เขา​ให้​รู้​วิธี​เอา​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​ไป​ใช้​เพื่อ​จะ “ใช้​ชีวิต​ตาม​ความ​จริง” (3 ยอห์น 3) แล้ว​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​ควร​มี​ผล​กับ​ความ​คิด ความ​รู้สึก และ​การ​กระทำ​ของ​เรา​ยังไง?

      “มี​หน้า​ตา​เบิกบาน​เพราะ​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา”

      19, 20. (ก) ซาตาน​ทำ​ยังไง​เพื่อ​ให้​เอวา​สงสัย​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา และ​ผล​เป็น​ยังไง? (ข) คุณ​รู้สึก​ยังไง​เมื่อ​คิด​ถึง​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา และ​ทำไม​คุณ​ถึง​รู้สึก​อย่าง​นั้น?

      19 ตอน​ที่​ซาตาน​หลอก​เอวา​ใน​สวน​เอเดน มัน​ทำ​ให้​เธอ​สงสัย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​ดี​จริง ๆ ไหม พระ​ยะโฮวา​เคย​บอก​อาดัม​ว่า “เจ้า​กิน​ผล​จาก​ต้น​ไม้​ทุก​ต้น​ใน​สวน​นี้​ได้​จน​พอ​ใจ” ใน​สวน​เอเดน​มี​ต้น​ไม้​มาก​มาย แต่​มี​แค่​ต้น​เดียว​เท่า​นั้น​ที่​พระ​ยะโฮวา​ห้าม​ไม่​ให้​พวก​เขา​กิน แต่​ขอ​สังเกต​คำ​ถาม​แรก​ที่​ซาตาน​พูด​กับ​เอวา​ว่า “พระเจ้า​ไม่​ให้​พวก​คุณ​กิน​ผลไม้​ทุก​ต้น​ใน​สวน​นี้​จริง ๆ หรือ?” (ปฐมกาล 2:9, 16; 3:1) ซาตาน​ได้​เปลี่ยน​คำ​พูด​ของ​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​ทำ​ให้​เอวา​คิด​ว่า​พระองค์​หวง​สิ่ง​ดี ๆ ไว้​จาก​เธอ เธอ​เลย​สงสัย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​ดี​จริง ๆ ไหม​ทั้ง ๆ ที่​พระองค์​ให้​ทุก​อย่าง​กับ​เธอ

      20 ความ​สงสัย​ของ​เอวา​ครั้ง​นั้น​ทำ​ให้​ผู้​คน​มาก​มาย​ต้อง​เจ็บ​ปวด​และ​ทน​ทุกข์ แต่​ขอ​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ใน​คำ​พูด​ที่​เยเรมีย์ 31:12 ที่​ว่า “พวก​เขา​จะ . . . มี​หน้า​ตา​เบิกบาน​เพราะ​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา” ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​จริง ๆ ดังนั้น เรา​ไม่​ควร​สงสัย​ใน​เจตนา​ของ​พระ​ยะโฮวา​เพราะ​พระองค์​เป็น​พระเจ้า​ที่​ดี​เยี่ยม เรา​ไว้​ใจ​พระองค์​ได้​อย่าง​เต็ม​ที่​เพราะ​พระองค์​อยาก​ให้​คน​ที่​รัก​พระองค์​ได้​รับ​สิ่ง​ที่​ดี​ที่​สุด​เสมอ

      21, 22. (ก) เมื่อ​ได้​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ดี​จริง ๆ คุณ​อยาก​จะ​ทำ​อะไร​เพื่อ​พระองค์​บ้าง? (ข) เรา​จะ​เรียน​คุณลักษณะ​อะไร​ใน​บท​ต่อ​ไป และ​คุณลักษณะ​นั้น​ต่าง​จาก​ความ​ดี​ยังไง?

      21 เรา​มี​ความ​สุข​มาก​ตอน​ที่​ได้​บอก​คน​อื่น​เรื่อง​ความ​ดี​ของ​พระเจ้า สดุดี 145:7 บอก​เกี่ยว​กับ​ประชาชน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พวก​เขา​จะ​คิด​ถึง​ความ​ดี​มาก​มาย​ของ​พระองค์ และ​จะ​พูด​ถึง​สิ่ง​เหล่า​นั้น​ไม่​หยุด” เรา​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทุก​วัน เรา​น่า​จะ​ขอบคุณ​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทุก​วัน​และ​พูด​เรื่อง​นั้น​อย่าง​เจาะจง การ​คิด​ถึง​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา ขอบคุณ​พระองค์​ทุก​วัน และ​บอก​คน​อื่น​เรื่อง​ความ​ดี​ของ​พระองค์​จะ​ช่วย​เรา​ให้​เลียน​แบบ​พระเจ้า​ของ​เรา และ​ถ้า​เรา​พยายาม​หา​วิธี​ที่​จะ​ทำ​ดี​เหมือน​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทำ เรา​ก็​จะ​ยิ่ง​ใกล้​ชิด​กับ​พระองค์​มาก​ขึ้น อัครสาวก​ยอห์น​บอก​ไว้​ว่า “เพื่อน​รัก ขอ​ให้​เลียน​แบบ​ตัวอย่าง​ที่​ดี อย่า​เลียน​แบบ​ตัวอย่าง​ที่​ไม่​ดี คน​ที่​ทำ​ดี​ก็​อยู่​ฝ่าย​พระเจ้า”—3 ยอห์น 11

      22 ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​ยัง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คุณลักษณะ​อื่น ๆ ด้วย เช่น พระเจ้า “รัก​ใคร​ก็​รัก​มั่นคง” (อพยพ 34:6) คุณลักษณะ​นี้​พิเศษ​มาก​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​แสดง​กับ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์​เท่า​นั้น ใน​บท​ต่อ​ไป​เรา​จะ​ได้​เรียน​ว่า​พระองค์​ทำ​แบบ​นั้น​ยังไง

      a ไม่​มี​ตัวอย่าง​ไหน​ที่​ทำ​ให้​เห็น​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​ดี​กว่า​เรื่อง​ค่า​ไถ่ พระ​ยะโฮวา​จะ​เลือก​ทูตสวรรค์​องค์​ไหน​ก็​ได้​เพื่อ​มา​ตาย​แทน​เรา แต่​พระองค์​เลือก​ลูก​ชาย​ที่​รัก​ของ​พระองค์​ให้​มา​เป็น​ค่า​ไถ่​เพื่อ​เรา

      b คัมภีร์​ไบเบิล​มัก​จะ​เชื่อม​โยง​ความ​จริง​กับ​ความ​สว่าง เช่น ใน​หนังสือ​สดุดี​บอก​ว่า “ขอ​ส่ง​แสง​สว่าง​และ​ความ​จริง​ของ​พระองค์​ออก​มา” (สดุดี 43:3) พระ​ยะโฮวา​ช่วย​คน​ที่​เต็ม​ใจ​เรียน​รู้​ให้​เข้าใจ​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​พระองค์​มาก​ขึ้น—2 โครินธ์ 4:6; 1 ยอห์น 1:5

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • 1 พงศ์กษัตริย์ 8:54-61, 66 โซโลมอน​แสดง​ว่า​เขา​ขอบคุณ​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​ยังไง และ​เรื่อง​นี้​มี​ผล​ยังไง​กับ​ชาว​อิสราเอล?

      • สดุดี 119:66, 68 ใน​คำ​อธิษฐาน​ของ​เรา เรา​จะ​แสดง​ยังไง​ว่า​เรา​อยาก​จะ​เลียน​แบบ​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา?

      • ลูกา 6:32-38 อะไร​จะ​ช่วย​กระตุ้น​เรา​ให้​เลียน​แบบ​ความ​ใจ​กว้าง​ของ​พระ​ยะโฮวา?

      • โรม 12:2, 9, 17-21 เรา​จะ​ทำ​ดี​กับ​คน​อื่น​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​ได้​ยังไง?

  • “พระองค์​ผู้​เดียว​ภักดี”
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • ดวง​จันทร์​ใน​ตอน​กลางคืน

      บท 28

      “พระองค์​ผู้​เดียว​ภักดี”

      1, 2. กษัตริย์​ดาวิด​เจอ​ความ​ไม่​ภักดี​อะไร​บ้าง?

      กษัตริย์​ดาวิด​เจอ​คน​ที่​ไม่​ภักดี​กับ​เขา​บ่อย ๆ ตัวอย่าง​เช่น ครั้ง​หนึ่ง​เขา​ถูก​คน​ชาติ​เดียว​กัน​ทรยศ​และ​พยายาม​แย่ง​ตำแหน่ง​กษัตริย์​ไป​จาก​เขา นอกจากนั้น ดาวิด​ยัง​ถูก​คน​สนิท​ทรยศ​ด้วย เช่น มีคาล​ที่ “หลง​รัก​ดาวิด” และ​เป็น​ภรรยา​คน​แรก​ของ​เขา ตอน​แรก​เธอ​สนับสนุน​ดาวิด​แต่​ที​หลัง​กลับ “นึก​ดูถูก​เขา” และ​ถึง​กับ​บอก​ว่า​ดาวิด​เป็น “คน​โง่”—1 ซามูเอล 18:20; 2 ซามูเอล 6:16, 20

      2 ใน​สมัย​นั้น​ผู้​คน​ให้​ความ​นับถือ​อาหิโธเฟล​มาก​และ​มอง​ว่า​คำ​แนะ​นำ​ของ​เขา​มา​จาก​พระ​ยะโฮวา (2 ซามูเอล 16:23) เขา​เป็น​ที่​ปรึกษา​และ​เพื่อน​สนิท​ของ​ดาวิด แต่​ภาย​หลัง​เขา​ก็​ทรยศ​และ​ไป​สมทบ​กับ​พวก​ที่​กบฏ​ต่อ​ดาวิด ซึ่ง​ผู้​นำ​ใน​การ​กบฏ​ครั้ง​นี้​ก็​คือ​อับซาโลม​ลูก​ของ​ดาวิด​เอง อับซาโลม ‘ใช้​วิธี​ที่​มี​เล่ห์​เหลี่ยม​เพื่อ​ทำ​ให้​ชาว​อิสราเอล​ชอบ​เขา’ เขา​ทำ​ตัว​เป็น​คู่​แข่ง​กษัตริย์​ดาวิด​เลย​มี​หลาย​คน​ร่วม​กบฏ​กับ​เขา​จน​ทำ​ให้​ดาวิด​ต้อง​หนี​เอา​ชีวิต​รอด—2 ซามูเอล 15:1-6, 12-17

      3. ดาวิด​มั่น​ใจ​ใน​เรื่อง​อะไร?

      3 แล้ว​มี​ใคร​ไหม​ที่​ยัง​ภักดี​กับ​ดาวิด? ดาวิด​รู้​ว่า​ยัง​มี​ผู้​หนึ่ง​ที่​ภักดี​กับ​เขา​เสมอ​ไม่​ว่า​ชีวิต​เขา​จะ​ลำบาก​แค่​ไหน ผู้​นั้น​คือ​พระ​ยะโฮวา ดาวิด​พูด​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พระองค์​ภักดี​ต่อ​คน​ที่​ภักดี” (2 ซามูเอล 22:26) ความ​ภักดี​คือ​อะไร และ​ทำไม​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​ยอด​เยี่ยม​ที่​สุด​ใน​เรื่อง​ความ​ภักดี?

      ความ​ภักดี​คือ​อะไร?

      4, 5. (ก) “ความ​ภักดี” คือ​อะไร? (ข) ความ​ภักดี​ต่าง​จาก​ความ​ซื่อสัตย์​ยังไง?

      4 “ความ​ภักดี” ตาม​ที่​ใช้​ใน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู เป็น​ความ​ซื่อสัตย์​ที่​คน​หนึ่ง​แสดง​ออก​กับ​คน​ที่​เขา​รัก เขา​จะ​คอย​ช่วยเหลือ​และ​สนับสนุน​คน​นั้น​เสมอ เขา​ทำ​อย่าง​นั้น​ไม่​ใช่​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ต้อง​ทำ แต่​ทำ​เพราะ​รัก​จริง ๆa ดังนั้น ความ​ภักดี​เป็น​มาก​กว่า​ความ​ซื่อสัตย์ นอกจากนั้น คำ​ว่า “ซื่อสัตย์” อาจ​นำ​มา​ใช้​ได้​กับ​สิ่ง​ที่​ไม่​มี​ชีวิต​ด้วย ตัวอย่าง​เช่น ผู้​เขียน​หนังสือ​สดุดี​เรียก​ดวง​จันทร์​ว่า “พยาน​ที่​ซื่อสัตย์​ใน​ท้องฟ้า” เพราะ​ดวง​จันทร์​มี​อยู่​ให้​เห็น​ทุก​คืน (สดุดี 89:37) แต่​ไม่​เคย​มี​การ​พูด​ถึง​ดวง​จันทร์​ว่า​ภักดี เพราะ​อะไร? เพราะ​ความ​ภักดี​เป็น​การ​แสดง​ออก​ถึง​ความ​รัก ซึ่ง​สิ่ง​ที่​ไม่​มี​ชีวิต​ไม่​สามารถ​แสดง​ความ​รัก​ได้

      ดวง​จันทร์​ถูก​เรียก​ว่า​พยาน​ที่​ซื่อสัตย์ แต่​เฉพาะ​สิ่ง​มี​ชีวิต​เท่า​นั้น​ที่​แสดง​ความ​ภักดี​เหมือน​พระ​ยะโฮวา​ได้

      5 เหมือน​ที่​บอก​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล ความ​ภักดี​ยัง​รวม​ถึง​ความ​รัก​อย่าง​จริง​ใจ เมื่อ​คน​หนึ่ง​ภักดี​กับ​อีก​คน​หนึ่ง นั่น​ก็​แสดง​ว่า​เขา​เป็น​ห่วง​คน​นั้น​จริง ๆ ความ​ภักดี​หรือ​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​แบบ​นั้น​จะ​ไม่​เปลี่ยน​แปลง ถึง​จะ​เจอ​กับ​ปัญหา​มาก​มาย​หลาย​อย่าง แต่​ความ​ภักดี​ก็​จะ​คง​อยู่​ตลอด​ไป

      6. (ก) เรา​เห็น​ว่า​ความ​ภักดี​มี​น้อย​ลง​ยังไง​ใน​ทุก​วัน​นี้ และ​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรื่อง​นี้​ไว้​ยังไง? (ข) อะไร​เป็น​วิธี​ที่​ดี​ที่​สุด​ที่​จะ​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​ความ​ภักดี และ​ทำไม?

      6 น่า​เศร้า​ที่​ทุก​วัน​นี้​มี​ไม่​กี่​คน​ที่​เป็น​คน​ภักดี เรา​ได้​ยิน​บ่อย ๆ เกี่ยว​กับ​เพื่อน​สนิท​ที่ “พร้อม​จะ​ทำลาย​กัน​ให้​ย่อยยับ” และ​สามี​หรือ​ภรรยา​ที่​ทิ้ง​คู่​ของ​ตัว​เอง​ไป​ก็​มี​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ (สุภาษิต 18:24; มาลาคี 2:14-16) เมื่อ​เรา​เห็น​ว่า​ผู้​คน​ใน​สมัย​ของ​เรา​ไม่​ภักดี​กับ​คน​อื่น เรา​อาจ​พูด​เหมือน​กับ​ที่​ผู้​พยากรณ์​มีคาห์​พูด​เกี่ยว​กับ​คน​ใน​สมัย​ของ​เขา​ว่า “คน​จงรักภักดี​ใน​โลก​ตาย​ไป​หมด​แล้ว” (มีคาห์ 7:2) ใน​ทาง​ตรง​กัน​ข้าม พระ​ยะโฮวา​แสดง​คุณลักษณะ​ที่​ยอด​เยี่ยม​นั้น​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ เรา​จะ​เข้าใจ​ว่า​ความ​ภักดี​หมาย​ถึง​อะไร​จริง ๆ ถ้า​ได้​เรียน​ว่า​พระ​ยะโฮวา​แสดง​คุณลักษณะ​ที่​ยอด​เยี่ยม​นี้​ยังไง​โดย​ดู​จาก​วิธี​ที่​พระองค์​แสดง​ความ​รัก

      ไม่​มี​ใคร​ภักดี​เหมือน​กับ​พระ​ยะโฮวา

      7, 8. ทำไม​ถึง​บอก​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ผู้​เดียว​ที่​ภักดี?

      7 คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พระองค์​ผู้​เดียว​ภักดี” (วิวรณ์ 15:4) แต่​ก็​มี​มนุษย์​และ​ทูตสวรรค์​ที่​ภักดี​ด้วย (โยบ 1:1; วิวรณ์ 4:8) และ​พระ​เยซู​ก็​ยัง​ถูก​เรียก​ว่า “คน​ที่​ภักดี” กับ​พระเจ้า​มาก​ที่​สุด (สดุดี 16:10) ถ้า​อย่าง​นั้น ทำไม​ถึง​บอก​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ผู้​เดียว​ที่​ภักดี?

      8 จำ​ไว้​ว่า​ความ​ภักดี​เป็น​การ​แสดง​ออก​ถึง​ความ​รัก และ “พระเจ้า​เป็น​ความ​รัก” พระองค์​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​ยอด​เยี่ยม​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก เลย​ไม่​มี​ใคร​ภักดี​ได้​เท่า​พระองค์ (1 ยอห์น 4:8) ที่​จริง ทูตสวรรค์​และ​มนุษย์​ก็​แสดง​คุณลักษณะ​ต่าง ๆ ของ​พระเจ้า​ได้ แต่​พระ​ยะโฮวา​เท่า​นั้น​ที่​ภักดี​มาก​ที่​สุด พระองค์​เป็น “ผู้​มี​ชีวิต​อยู่​ตั้งแต่​ดึกดำบรรพ์” พระองค์​เลย​แสดง​ความ​ภักดี​มา​นาน​มาก​กว่า​ทูตสวรรค์​และ​มนุษย์​ทุก​คน (ดาเนียล 7:9) ดังนั้น พระ​ยะโฮวา​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​ดี​ที่​สุด​ของ​ความ​ภักดี​และ​ไม่​มี​ใคร​แสดง​คุณลักษณะ​นี้​ได้​เหมือน​พระองค์ ให้​เรา​มา​ดู​บาง​ตัวอย่าง​ด้วย​กัน

      9. พระ​ยะโฮวา “ทำ​ทุก​สิ่ง . . . ด้วย​ความ​ภักดี” ยังไง​บ้าง?

      9 พระ​ยะโฮวา “ทำ​ทุก​สิ่ง . . . ด้วย​ความ​ภักดี” (สดุดี 145:17) พระองค์​แสดง​ความ​รัก​ภักดี​ใน​หลาย​วิธี เรา​เห็น​เรื่อง​นี้​ได้​ใน​สดุดี 136 ที่​นั่น​เรา​อ่าน​หลาย​อย่าง​ที่​น่า​ประทับใจ​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทำ​เพื่อ​ช่วย​ประชาชน​ของ​พระองค์ ตัวอย่าง​เช่น ตอน​ที่​พระองค์​ช่วย​ชาว​อิสราเอล​ให้​ข้าม​ทะเล​แดง ขอ​สังเกต​ว่า​ใน​แต่​ละ​ข้อ​ของ​สดุดี​บท​นี้​จบ​ด้วย​ข้อ​ความ​ที่​ว่า “เพราะ​พระองค์​มี​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​ตลอด​ไป” สดุดี​บท​นี้​อยู่​ใน​คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ​ใน​หน้า 289 ตอน​ที่​คุณ​อ่าน​ข้อ​เหล่า​นั้น คุณ​จะ​รู้สึก​ประทับใจ​ที่​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​ภักดี​กับ​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ใน​หลาย​วิธี พระ​ยะโฮวา​ภักดี​กับ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์​โดย​ฟัง​เสียง​ร้อง​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​ของ​พวก​เขา​และ​ช่วย​พวก​เขา​ใน​เวลา​ที่​เหมาะ​สม (สดุดี 34:6) พระ​ยะโฮวา​จะ​แสดง​ความ​รัก​ภักดี​กับ​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​เสมอ​ถ้า​พวก​เขา​ซื่อสัตย์​กับ​พระองค์​ต่อ ๆ ไป

      10. พระ​ยะโฮวา​แสดง​ว่า​พระองค์​ภักดี​กับ​มาตรฐาน​ของ​พระองค์​ยังไง?

      10 นอกจากนั้น พระ​ยะโฮวา​ยัง​แสดง​ความ​ภักดี​กับ​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​โดย​ไม่​เคย​เปลี่ยน​มาตรฐาน​ของ​พระองค์​ใน​เรื่อง​ที่​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด มนุษย์​บาง​คน​ใช้​ความ​รู้สึก​หรือ​อารมณ์​ชั่ว​วูบ​ใน​การ​ตัดสิน​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด แต่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​เป็น​อย่าง​นั้น ตัวอย่าง​เช่น พระองค์​ยัง​มอง​ว่า​ลัทธิ​ผี​ปิศาจ การ​ไหว้​รูป​เคารพ และ​การ​ฆ่า​คน​เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่​ดี พระองค์​พูด​ผ่าน​ทาง​ผู้​พยากรณ์​อิสยาห์​ว่า “จน​ถึง​ตอน​ที่​พวก​เจ้า​แก่​เฒ่า เรา​ก็​ยัง​เป็น​เหมือน​เดิม” (อิสยาห์ 46:4) ดังนั้น เรา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​เรา​จะ​ได้​รับ​ประโยชน์​แน่นอน ถ้า​เรา​เชื่อ​ฟัง​คำ​แนะ​นำ​ที่​ชัดเจน​ที่​พระ​ยะโฮวา​ให้​เรา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ที่​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด—อิสยาห์ 48:17-19

      11. เรา​รู้​ได้​ยังไง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รักษา​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์​เสมอ?

      11 พระ​ยะโฮวา​ยัง​แสดง​ความ​ภักดี​โดย​การ​รักษา​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์​เสมอ เมื่อ​พระองค์​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​จะ​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น สิ่ง​นั้น​ก็​เกิด​ขึ้น​จริง ๆ ดังนั้น พระ​ยะโฮวา​เลย​บอก​ว่า “คำ​พูด​ที่​ออก​จาก​ปาก​ของ​เรา ก็​จะ​ไม่​กลับ​มา​หา​เรา​ถ้า​ยัง​ไม่​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ให้​สำเร็จ ทุก​อย่าง​จะ​ต้อง​เกิด​ขึ้น​ตาม​ที่​เรา​ต้องการ เรา​พูด​ไว้​ยังไง​ก็​จะ​เกิด​ขึ้น​อย่าง​นั้น” (อิสยาห์ 55:11) พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​สัญญา​อะไร​แล้ว​ไม่​ทำ​ตาม​เพราะ​พระองค์​ภักดี​กับ​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​เสมอ พระองค์​พิสูจน์​ว่า​เป็น​พระเจ้า​ที่​ไว้​ใจ​ได้ โยชูวา​พูด​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ว่า “คำ​สัญญา​ดี ๆ ทั้ง​หมด​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทำ​กับ​ชาว​อิสราเอล​นั้น​ไม่​มี​คำ​สัญญา​ไหน​เลย​ที่​ไม่​เป็น​จริง ทุก​อย่าง​ที่​สัญญา​เป็น​จริง​ทั้ง​หมด” (โยชูวา 21:45) เรา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระองค์​จะ​ไม่​ทำ​ให้​เรา​ผิด​หวัง เพราะ​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำ​ตาม​ที่​พระองค์​สัญญา​เสมอ—อิสยาห์ 49:23; โรม 5:5

      12, 13. ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​มั่นคง​ตลอด​ไป​ยังไง​บ้าง?

      12 เหมือน​ที่​เรา​ได้​เรียน​ไป​แล้ว คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ว่า​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา “มั่นคง​ตลอด​ไป” (สดุดี 136:1) เป็น​อย่าง​นั้น​ได้​ยังไง? เหตุ​ผล​หนึ่ง​ก็​คือ พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​บาป​ของ​เรา เหมือน​ที่​เรา​ได้​ดู​กัน​ใน​บท 26 เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​เรา​แล้ว พระองค์​จะ​ไม่​เอา​เรื่อง​นั้น​มา​ลง​โทษ​พวก​เรา​อีก เพราะ​เรา “ทุก​คน​ทำ​บาป​และ​ไม่​ได้​แสดง​คุณลักษณะ​ที่​ยอด​เยี่ยม​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ที่​ควร​จะ​แสดง” เรา​ทุก​คน​ควร​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​พระองค์​แสดง​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​กับ​เรา​เสมอ—โรม 3:23

      13 แต่​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา​ยัง​มั่นคง​ตลอด​ไป​ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ด้วย คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า คน​ดี “จะ​เป็น​เหมือน​ต้น​ไม้​ที่​ปลูก​ไว้​ริม​น้ำ เหมือน​ต้น​ไม้​ที่​เกิด​ผล​ตาม​ฤดู ใบ​ก็​ไม่​เหี่ยว​แห้ง และ​ไม่​ว่า​เขา​ทำ​อะไร​ก็​จะ​สำเร็จ” (สดุดี 1:3) ถ้า​เรา​ชอบ​อ่าน​และ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล เรา​ก็​จะ​เป็น​เหมือน​กับ​ต้น​ไม้​ที่​สวย​งาม​และ​มี​ใบ​ที่​ไม่​เหี่ยว​แห้ง แล้ว​ชีวิต​ของ​เรา​ก็​จะ​ยืน​ยาว มี​สันติ​สุข และ​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​เรา​ทำ​ก็​จะ​สำเร็จ พระ​ยะโฮวา​จะ​ให้​พร​กับ​คน​ที่​รับใช้​พระองค์​ตลอด​ไป ใน​โลก​ใหม่​ที่​มี​ความ​ถูก​ต้อง​ชอบธรรม​ของ​พระ​ยะโฮวา มนุษย์​ทุก​คน​ที่​เชื่อ​ฟัง​จะ​ได้​รับ​ความ​รัก​จาก​พระองค์​ตลอด​ไป—วิวรณ์ 21:3, 4

      พระ​ยะโฮวา “จะ​ไม่​ทอดทิ้ง​คน​ที่​ภักดี​ต่อ​พระองค์”

      14. พระ​ยะโฮวา​แสดง​ยังไง​ว่า​เห็น​ค่า​ผู้​รับใช้​ที่​ภักดี​ของ​พระองค์?

      14 ที่​ผ่าน​มา​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​มา​ตลอด​ว่า​ภักดี เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​เปลี่ยน พระองค์​จะ​ไม่​เลิก​ภักดี​กับ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์ ผู้​เขียน​หนังสือ​สดุดี​บอก​ว่า “ตั้งแต่​ผม​เป็น​หนุ่ม​จน​เดี๋ยว​นี้​ผม​แก่​แล้ว ผม​ยัง​ไม่​เคย​เห็น​คน​ดี​ถูก​ทอดทิ้ง และ​ไม่​เคย​เห็น​ลูก ๆ ของ​เขา​ขอ​ข้าว​ใคร​กิน เพราะ​พระ​ยะโฮวา​รัก​ความ​ยุติธรรม และ​พระองค์​จะ​ไม่​ทอดทิ้ง​คน​ที่​ภักดี​ต่อ​พระองค์” (สดุดี 37:25, 28) เรา​ควร​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​เพราะ​พระองค์​เป็น​ผู้​สร้าง (วิวรณ์ 4:11) แต่​ถึงอย่างนั้น พระ​ยะโฮวา​ก็​มอง​ว่า​ความ​ซื่อสัตย์​ของ​เรา​มี​ค่า​มาก​เพราะ​พระองค์​ภักดี—มาลาคี 3:16, 17

      15. พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ภักดี​กับ​ชาว​อิสราเอล​ยังไง? ขอ​อธิบาย

      15 เพราะ​พระ​ยะโฮวา​มี​ความ​รัก​ที่​มั่นคง พระองค์​เลย​ช่วย​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​หลาย​ครั้ง​เมื่อ​พวก​เขา​เจอ​ความ​ทุกข์ ผู้​เขียน​หนังสือ​สดุดี​บอก​ว่า “พระองค์​คุ้มครอง​ชีวิต​คน​ที่​ภักดี​ต่อ​พระองค์ พระองค์​ช่วย​พวก​เขา​ให้​พ้น​จาก​เงื้อม​มือ​คน​ชั่ว” (สดุดี 97:10) ขอ​นึก​ถึง​ว่า​พระองค์​ช่วย​ชาว​อิสราเอล​ยังไง หลัง​จาก​พวก​เขา​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​รอด​ผ่าน​ทะเล​แดง​อย่าง​อัศจรรย์​แล้ว พวก​เขา​ร้อง​เพลง​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา​ว่า “ด้วย​ความ​รัก​ที่​มั่นคง พระองค์​นำ​หน้า​ประชาชน​ที่​พระองค์​ไถ่​ไว้” (อพยพ 15:13) การ​ช่วย​ให้​รอด​ของ​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​ภักดี​กับ​ชาว​อิสราเอล​จริง ๆ นี่​เลย​ทำ​ให้​โมเสส​บอก​ชาว​อิสราเอล​ว่า “ที่​พระ​ยะโฮวา​เอ็นดู​พวก​คุณ​และ​เลือก​พวก​คุณ​นั้น​ไม่​ใช่​เพราะ​พวก​คุณ​เป็น​ชาติ​ที่​ใหญ่​กว่า​ชาติ​อื่น ๆ ที่​จริง​พวก​คุณ​เป็น​ชาติ​ที่​เล็ก​ที่​สุด​ด้วย​ซ้ำ แต่​ที่​พระ​ยะโฮวา​พา​พวก​คุณ​ออก​มา​ด้วย​พลัง​อำนาจ ปลด​ปล่อย​พวก​คุณ​จาก​ดินแดน​ของ​การ​เป็น​ทาส จาก​อำนาจ​ของ​ฟาโรห์​กษัตริย์​อียิปต์​เป็น​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​รัก​พวก​คุณ​และ​ทำ​ตาม​คำ​สาบาน​ที่​ให้​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​คุณ”—เฉลย​ธรรมบัญญัติ 7:7, 8

      16, 17. (ก) ชาว​อิสราเอล​แสดง​ยังไง​ว่า​ไม่​เห็น​ค่า​ความ​ภักดี​ของ​พระ​ยะโฮวา แต่​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​เมตตา​กับ​พวก​เขา​ยังไง? (ข) ทำไม​เรา​ถึง​เห็น​ว่า​ชาว​อิสราเอล​ส่วน​ใหญ่ “ไม่​มี​หวัง​ที่​พวก​เขา​จะ​ฟื้น​ตัว​ได้​อีก” และ​เรื่อง​นี้​ให้​บทเรียน​อะไร​กับ​เรา?

      16 น่า​เศร้า​ที่​ชาว​อิสราเอล​ส่วน​ใหญ่​ไม่​เห็น​ค่า​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​ของ​พระ​ยะโฮวา เพราะ​หลัง​จาก​ที่​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​รอด​แล้ว “พวก​เขา​ก็​ยัง​ทำ​ผิด​ต่อ [พระ​ยะโฮวา] อยู่​เรื่อย ๆ และ​กบฏ​ต่อ​พระเจ้า​องค์​สูง​สุด” (สดุดี 78:17) หลาย​ร้อย​ปี​หลัง​จาก​นั้น​พวก​เขา​ก็​ยัง​กบฏ​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​อยู่​เรื่อย ๆ ทิ้ง​พระองค์​และ​หัน​ไป​นมัสการ​พระ​เท็จ นี่​เลย​ทำ​ให้​พวก​เขา​ไม่​สนิท​กับ​พระ​ยะโฮวา​อีก​ต่อ​ไป แต่​พระองค์​ก็​ไม่​ลืม​คำ​สัญญา​ที่​ให้​ไว้​กับ​พวก​เขา พระองค์​กระตุ้น​พวก​เขา​ผ่าน​ทาง​ผู้​พยากรณ์​เยเรมีย์​ว่า “อิสราเอล​ที่​ทิ้ง​เรา กลับ​มา​เถอะ . . . เรา​จะ​ไม่​มอง​เจ้า​ด้วย​ความ​โกรธ เพราะ​เรา​ภักดี​ต่อ​เจ้า” (เยเรมีย์ 3:12) เหมือน​ที่​เรา​ได้​เห็น​ใน​บท 25 ชาว​อิสราเอล​ส่วน​ใหญ่​ไม่​ยอม​กลับ​ใจ และ “พวก​เขา​กลับ​เยาะเย้ย​ผู้​ส่ง​ข่าว​ของ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้ พวก​เขา​ดูถูก​คำ​เตือน​ของ​พระองค์​และ​สบประมาท​ผู้​พยากรณ์​ของ​พระองค์” ผล​เป็น​ยังไง? ใน​ที่​สุด “พระ​ยะโฮวา​จึง​โกรธ​ประชาชน​เหล่า​นี้​จน​ไม่​มี​หวัง​ที่​พวก​เขา​จะ​ฟื้น​ตัว​ได้​อีก”—2 พงศาวดาร 36:15, 16

      17 เรา​ได้​เรียน​อะไร​จาก​เรื่อง​นี้? เรา​เรียน​ว่า​ความ​ภักดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​พระองค์​ไม่​สนใจ​สิ่ง​ชั่ว​ที่​พวก​เขา​ทำ ถึง​แม้​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่ “รัก​ใคร​ก็​รัก​มั่นคง” และ​แสดง​ความ​เมตตา​เสมอ​เมื่อ​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น แต่​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำ​ยังไง​ถ้า​คน​ที่​ทำ​ผิด​แสดง​ให้​เห็น​ชัด​ว่า​เขา​ไม่​ยอม​กลับ​ใจ? ถ้า​เป็น​อย่าง​นั้น พระองค์​จะ​ยึด​มั่น​กับ​มาตรฐาน​ที่​ถูก​ต้อง​ชอบธรรม​ของ​พระองค์ และ​ลง​โทษ​คน​ที่​ทำ​ผิด พระ​ยะโฮวา​บอก​กับ​โมเสส​ว่า พระองค์ “ไม่​ละ​เว้น​การ​ลง​โทษ”—อพยพ 34:6, 7

      18, 19. (ก) การ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ลง​โทษ​คน​ชั่ว​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​ภักดี​ยังไง? (ข) พระ​ยะโฮวา​จะ​แสดง​ความ​ภักดี​กับ​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ที่​ถูก​ข่มเหง​จน​เสีย​ชีวิต​ยังไง?

      18 การ​ที่​พระเจ้า​ลง​โทษ​คน​ชั่ว​ยัง​แสดง​ว่า​พระองค์​ภักดี​ด้วย ทำไม​ถึง​เป็น​อย่าง​นั้น? เรา​รู้​เรื่อง​นี้​ได้​จาก​คำ​สั่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​บอก​กับ​ทูตสวรรค์​เจ็ด​องค์​ใน​หนังสือ​วิวรณ์​ว่า “ไป​เท​ขัน​ที่​ใส่​ความ​โกรธ​ของ​พระเจ้า​ทั้ง 7 ใบ​ลง​บน​โลก” เมื่อ​ทูตสวรรค์​องค์​ที่​สาม​เท​ขัน “ลง​บน​แม่น้ำ​และ​น้ำพุ​ต่าง ๆ” น้ำ​เหล่า​นั้น​ก็​กลาย​เป็น​เลือด แล้ว​ทูตสวรรค์​องค์​นี้​ก็​พูด​กับ​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พระเจ้า​ของ​เรา พระองค์​มี​ชีวิต​อยู่​ตอน​นี้ มี​ชีวิต​อยู่​ใน​อดีต และ​เป็น​ผู้​ภักดี พระองค์​ทำ​ถูก​ต้อง​แล้ว​ที่​ตัดสิน​อย่าง​นี้ เพราะ​พวก​เขา​ทำ​ให้​พวก​ผู้​บริสุทธิ์​และ​ผู้​พยากรณ์​ต้อง​หลั่ง​เลือด พระองค์​จึง​ให้​พวก​เขา​ดื่ม​เลือด ซึ่ง​ก็​สม​ควร​แล้ว”—วิวรณ์ 16:1-6

      19 ตอน​ที่​บอก​ข่าว​เรื่อง​การ​พิพากษา ทำไม​ทูตสวรรค์​ถึง​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น “ผู้​ภักดี”? ผู้​รับใช้​ที่​ภักดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​หลาย​คน​ถูก​ข่มเหง​จน​เสีย​ชีวิต ดังนั้น การ​ทำลาย​คน​ชั่ว​ก็​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​ภักดี​กับ​คน​ของ​พระองค์ พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​พวก​เขา​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​พระองค์ พระองค์​คิด​ถึง​และ​อยาก​เจอ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์​อีก​ครั้ง คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระองค์​จะ​ให้​รางวัล​พวก​เขา​โดย​ปลุก​พวก​เขา​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย (โยบ 14:14, 15) แม้​พวก​เขา​จะ​ตาย​ไป​แล้ว แต่​พระ​ยะโฮวา​ก็​ไม่​ลืม​ผู้​รับใช้​ที่​ภักดี​ของ​พระองค์ พระองค์​มอง​ว่า “พวก​เขา​ทุก​คน​มี​ชีวิต​อยู่” (ลูกา 20:37, 38) ที่​พระ​ยะโฮวา​ต้องการ​ปลุก​คน​ที่​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​พระองค์​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​เป็น​หลักฐาน​ที่​ชัดเจน​ว่า​พระองค์​ภักดี

      พระ​ยะโฮวา​จะ​แสดง​ความ​ภักดี​กับ​คน​ซื่อสัตย์​ที่​ตาย​ไป​โดย​ปลุก​พวก​เขา​ให้​กลับ​มา​มี​ชีวิต​อีก

      แบร์นาร์ด เลาเมส (บน) และ​โวล์ฟกัง คุสเซโรว์ (กลาง) ถูก​พวก​นาซี​ประหาร​ชีวิต

      โมเสส ยามุสซัว ถูก​ผู้​เคลื่อน​ไหว​ทาง​การ​เมือง​กลุ่ม​หนึ่ง​เอา​หอก​แทง​จน​ตาย

      ความ​รัก​ที่​มั่นคง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​เรา​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป

      20. ใคร​คือ “ภาชนะ​ที่​พระองค์​เมตตา” และ​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​ภักดี​กับ​พวก​เขา​ยังไง?

      20 พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​ภักดี​กับ​คน​ที่​ซื่อสัตย์​ต่อ​พระองค์​เสมอ ตลอด​หลาย​พัน​ปี พระ​ยะโฮวา “ยอม​อด​กลั้น​กับ​คน​ที่​เป็น​เหมือน​ภาชนะ​ที่​พระองค์​โกรธ​ซึ่ง​สม​ควร​ถูก​ทำลาย” พระองค์​ทำ​อย่าง​นั้น “เพื่อ​แสดง​ให้​คน​ที่​เป็น​เหมือน​ภาชนะ​ที่​พระองค์​เมตตา​ได้​เห็น​อำนาจ​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระองค์ พระองค์​เตรียม​พวก​เขา​ไว้​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​เกียรติ​ที่​สูง​ส่ง” (โรม 9:22, 23) “ภาชนะ​ที่​พระองค์​เมตตา” คือ​คริสเตียน​ที่​ได้​รับ​การ​เจิม​โดย​พลัง​บริสุทธิ์​เพื่อ​จะ​ปกครอง​กับ​พระ​คริสต์​ใน​รัฐบาล​ของ​พระองค์ (มัทธิว 19:28) พระ​ยะโฮวา​ช่วย​พวก​เขา​ให้​รอด​เพราะ​พระองค์​ภักดี​กับ​อับราฮัม พระองค์​ทำ​ตาม​สัญญา​ที่​ให้​กับ​เขา​ว่า “ทุก​ชาติ​ใน​โลก​จะ​ได้​รับ​พร​เพราะ​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า และ​เพราะ​เจ้า​เชื่อ​ฟัง​เรา”—ปฐมกาล 22:18

      พี่​น้อง​ที่​อายุ​ต่าง​กัน​และ​มา​จาก​หลาย​เชื้อชาติ​มี​ความ​สุข

      ความ​ภักดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​ทุก​คน​ของ​พระองค์​มี​ความ​หวัง​ที่​มั่นคง​เกี่ยว​กับ​อนาคต

      21. (ก) พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​ภักดี​กับ “ชน​ฝูง​ใหญ่” ที่​มี​ความ​หวัง​จะ​รอด​ผ่าน “ความ​ทุกข์​ยาก​ลำบาก​ครั้ง​ใหญ่” ยังไง? (ข) ความ​ภักดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​กระตุ้น​คุณ​ให้​ทำ​อะไร?

      21 พระ​ยะโฮวา​ยัง​ภักดี​กับ “ชน​ฝูง​ใหญ่” ที่​มี​ความ​หวัง​ที่​จะ​รอด​ผ่าน “ความ​ทุกข์​ยาก​ลำบาก​ครั้ง​ใหญ่” ด้วย​และ​พวก​เขา​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​บน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน (วิวรณ์ 7:9, 10, 14) ถึง​แม้​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ แต่​พระ​ยะโฮวา​ก็​แสดง​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​โดย​ให้​พวก​เขา​มี​โอกาส​ที่​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​บน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน พระองค์​ทำ​แบบ​นั้น​โดย​ให้​มี​ค่า​ไถ่ ซึ่ง​เป็น​การ​แสดง​ความ​ภักดี​ที่​ยิ่ง​ใหญ่ (ยอห์น 3:16; โรม 5:8) ความ​ภักดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​กระตุ้น​คน​ที่​อยาก​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ให้​เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระองค์ (เยเรมีย์ 31:3) คุณ​รู้สึก​ยังไง​ที่​ได้​เรียน​รู้​มาก​ขึ้น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ภักดี​มา​ตลอด​และ​จะ​ภักดี​ตลอด​ไป? ให้​เรา​ขอบคุณ​และ​เห็น​ค่า​ความ​ภักดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​โดย​ตั้งใจ​รับใช้​พระองค์​อย่าง​ซื่อสัตย์​ต่อ ๆ ไป ถ้า​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น เรา​ก็​จะ​สนิท​กับ​พระองค์​มาก​ขึ้น

      a คำ​ที่​แปล​ว่า “ภักดี” ที่ 2 ซามูเอล 22:26 มี​การ​แปล​ด้วย​ว่า “ความ​รัก​ที่​มั่นคง”

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • 1 ซามูเอล 24:1-22 วิธี​ที่​ดาวิด​แสดง​ความ​ภักดี​กับ​ซาอูล​เป็น​แบบ​ที่​พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​มี​ค่า​ยังไง?

      • เอสเธอร์ 3:7-9; 4:6-5:1 เอสเธอร์​แสดง​ความ​ภักดี​แบบ​พระเจ้า​ยังไง​ตอน​ที่​เธอ​เสี่ยง​ชีวิต​เพื่อ​ช่วย​ชาว​อิสราเอล?

      • สดุดี 136:1-26 สดุดี​บท​นี้​สอน​อะไร​เรา​เกี่ยว​กับ​ความ​รัก​ที่​มั่นคง​ของ​พระ​ยะโฮวา?

      • โอบาดีห์ 1-4, 10-16 ความ​ภักดี​ที่​พระ​ยะโฮวา​มี​ต่อ​ประชาชน​ของ​พระองค์​กระตุ้น​พระองค์​ให้​ลง​โทษ​พวก​เอโดม​ที่​ไม่​ภักดี​ยังไง?

  • “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์”
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • พระ​เยซู​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร

      บท 29

      “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์”

      1-3. (ก) อะไร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​อยาก​เป็น​เหมือน​พ่อ​ของ​ท่าน? (ข) ใน​บท​นี้​เรา​จะ​เรียน​เรื่อง​อะไร​บ้าง?

      คุณ​เคย​เห็น​เด็ก​ผู้​ชาย​ตัว​เล็ก ๆ ที่​พยายาม​เลียน​แบบ​พ่อ​ของ​เขา​ไหม? ลูก​ชาย​อาจ​เลียน​แบบ​ท่า​เดิน วิธี​พูด หรือ​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​พ่อ​ทำ พอ​โต​ขึ้น​เขา​ก็​อาจ​มี​ความ​คิด​เหมือน​พ่อ​ใน​เรื่อง​ที่​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด​รวม​ถึง​เรื่อง​ความ​เชื่อ​ด้วย ความ​รัก​และ​ความ​นับถือ​ที่​ลูก​มี​กับ​พ่อ​ที่​รัก​เขา​มัก​จะ​ทำ​ให้​เขา​อยาก​เป็น​เหมือน​พ่อ

      2 แล้ว​พระ​เยซู​รู้สึก​ยังไง​กับ​พระ​ยะโฮวา​พ่อ​ของ​ท่าน​ที่​อยู่​ใน​สวรรค์? มี​อยู่​ครั้ง​หนึ่ง​พระ​เยซู​บอก​ว่า ‘ผม​รัก​พ่อ’ (ยอห์น 14:31) ท่าน​เคย​อยู่​กับ​พ่อ​มา​นาน​ก่อน​สร้าง​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​และ​ไม่​มี​ใคร​จะ​รัก​พระ​ยะโฮวา​มาก​เท่า​พระ​เยซู ความ​รัก​แบบ​นี้​กระตุ้น​พระ​เยซู​ลูก​ที่​ภักดี​ให้​อยาก​เป็น​เหมือน​พ่อ​ของ​ท่าน—ยอห์น 14:9

      3 ใน​บท​ต้น ๆ ของ​หนังสือ​เล่ม​นี้ เรา​ได้​เห็น​วิธี​ที่​พระ​เยซู​เลียน​แบบ​การ​แสดง​อำนาจ ความ​ยุติธรรม และ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ แต่​พระ​เยซู​เลียน​แบบ​ความ​รัก​ของ​พ่อ​ยังไง? ให้​เรา​มา​ดู​ความ​รัก​ของ​พระ​เยซู​ใน 3 แง่​มุม​คือ น้ำใจ​เสีย​สละ ความ​เมตตา​สงสาร และ​พร้อม​จะ​ให้​อภัย

      “ไม่​มี​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​นี้”

      4. พระ​เยซู​แสดง​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​ยังไง?

      4 พระ​เยซู​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​โดด​เด่น​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ การ​เสีย​สละ​ตัว​เอง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ให้​ความ​จำเป็น​และ​เรื่อง​ของ​คน​อื่น​สำคัญ​กว่า​ของ​ตัว​เอง พระ​เยซู​แสดง​ความ​รัก​แบบ​นั้น​ยังไง? ท่าน​บอก​ว่า “ไม่​มี​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​นี้ คือ​ที่​คน​หนึ่ง​ยอม​สละ​ชีวิต​เพื่อ​เพื่อน​ของ​เขา” (ยอห์น 15:13) ท่าน​เต็ม​ใจ​สละ​ชีวิต​สมบูรณ์​แบบ​ของ​ท่าน​เพื่อ​เรา นี่​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด แต่​พระ​เยซู​แสดง​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ​ใน​วิธี​อื่น​ด้วย

      5. พระ​เยซู​ต้อง​เสีย​สละ​อะไร​บ้าง​เพื่อ​จะ​มา​บน​โลก?

      5 ก่อน​ที่​ลูก​คน​เดียว​ของ​พระเจ้า​จะ​มา​บน​โลก ท่าน​มี​ตำแหน่ง​สูง​ส่ง​ใน​สวรรค์ ท่าน​สนิท​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​ทูตสวรรค์​จำนวน​มาก ถึง​ท่าน​จะ​มี​ความ​สุข​มาก​ใน​สวรรค์ แต่​ท่าน​ก็ “ยอม​สละ​ทุก​สิ่ง มา​รับ​สภาพ​ทาส และ​เกิด​เป็น​มนุษย์” (ฟีลิปปี 2:7) ท่าน​เต็ม​ใจ​มา​อยู่​กับ​มนุษย์​ผิด​บาป​บน​โลก​ที่ “อยู่​ใน​อำนาจ​ซาตาน​ตัว​ชั่ว​ร้าย” (1 ยอห์น 5:19) นี่​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ​ของ​พระ​เยซู​ลูก​ของ​พระเจ้า​จริง ๆ

      6, 7. (ก) พระ​เยซู​แสดง​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ​ยังไง​บ้าง​ช่วง​ที่​ทำ​งาน​รับใช้​บน​โลก? (ข) ตัวอย่าง​ที่​น่า​ประทับใจ​อะไร​เกี่ยว​กับ​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​มี​เขียน​ไว้​ที่​ยอห์น 19:25-27?

      6 ตลอด​เวลา​ที่​พระ​เยซู​รับใช้​บน​โลก ท่าน​แสดง​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ​ใน​หลาย​วิธี​เพื่อ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น ท่าน​ไม่​มี​ความ​เห็น​แก่​ตัว​และ​จดจ่อ​กับ​งาน​รับใช้​โดย​สละ​ความ​สะดวก​สบาย​ของ​ตัว​เอง ท่าน​บอก​ว่า “หมา​จิ้งจอก​ยัง​มี​โพรง​และ​นก​ก็​มี​รัง แต่ ‘ลูก​มนุษย์’ ไม่​มี​ที่​จะ​ซุก​หัว​นอน” (มัทธิว 8:20) พระ​เยซู​เป็น​ช่าง​ไม้​ที่​ชำนาญ ท่าน​สามารถ​ใช้​เวลา​บาง​ส่วน​เพื่อ​สร้าง​บ้าน​ที่​สะดวก​สบาย​สำหรับ​อยู่​เอง​หรือ​ทำ​เฟอร์นิเจอร์​ที่​สวย​งาม​ไว้​ขาย​เพื่อ​จะ​มี​เงิน​เพิ่ม​ขึ้น แต่​ท่าน​ก็​ไม่​ได้​ใช้​ความ​สามารถ​ที่​มี​เพื่อ​จะ​ได้​สิ่ง​ของ​มาก​มาย

      7 ตัวอย่าง​ที่​น่า​ประทับใจ​เกี่ยว​กับ​ความ​รัก​ที่​เสีย​สละ​ของ​พระ​เยซู​มี​เขียน​ไว้​ที่​ยอห์น 19:25-27 ลอง​นึก​ภาพ​ว่า​ตอน​บ่าย​ใน​วัน​ที่​พระ​เยซู​เสีย​ชีวิต ท่าน​คง​ต้อง​คิด​ถึง​หลาย​เรื่อง​แน่ ๆ ตอน​ที่​ทน​ทุกข์​อยู่​บน​เสา​ทรมาน ท่าน​เป็น​ห่วง​สาวก​ของ​ท่าน งาน​ประกาศ และ​โดย​เฉพาะ​การ​รักษา​ความ​ซื่อสัตย์​มั่นคง​และ​การ​ทำ​ให้​ชื่อ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​รับ​การ​สรรเสริญ อนาคต​ของ​ทุก​คน​ขึ้น​อยู่​กับ​ท่าน แต่​ก่อน​ที่​ท่าน​จะ​เสีย​ชีวิต ท่าน​แสดง​ความ​ห่วงใย​มารีย์​แม่​ของ​ท่าน​ซึ่ง​ดู​เหมือน​ว่า​เป็น​แม่​ม่าย​ใน​ตอน​นั้น พระ​เยซู​ขอ​ยอห์น​ให้​ดู​แล​มารีย์ และ​จาก​นั้น​ยอห์น​ก็​รับ​มารีย์​ไป​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​เขา ท่าน​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​จะ​มี​คน​ดู​แล​แม่​ของ​ท่าน​ทั้ง​ทาง​ด้าน​ร่าง​กาย​และ​ทาง​ด้าน​ความ​เชื่อ พระ​เยซู​แสดง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​จริง ๆ

      “ท่าน . . . รู้สึก​สงสาร”

      8. คำ​ภาษา​กรีก​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​เพื่อ​อธิบาย​ความ​สงสาร​ของ​พระ​เยซู​มี​ความหมาย​ยังไง?

      8 พระ​เยซู​มี​ความ​เมตตา​สงสาร​เหมือน​พ่อ​ของ​ท่าน คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​เยซู​รู้สึก​สงสาร​คน​ที่​กำลัง​ทุกข์​และ​พยายาม​หา​วิธี​ช่วย​พวก​เขา คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “รู้สึก​สงสาร” เพื่อ​อธิบาย​ความ​เมตตา​ของ​พระ​เยซู นัก​วิชาการ​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า “คำ​นี้​อธิบาย​ถึง . . . อารมณ์​ที่​ลึกซึ้ง​และ​มี​พลัง​มาก นี่​เป็น​คำ​ภาษา​กรีก​ที่​ถ่ายทอด​ความ​รู้สึก​เมตตา​สงสาร​ได้​ดี​ที่​สุด” ให้​เรา​มา​ดู​บาง​เหตุ​การณ์​ที่​ความ​สงสาร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​ช่วยเหลือ​คน​อื่น

      9, 10. (ก) ทำไม​พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก​ถึง​ออก​ไป​หา​ที่​เงียบ ๆ? (ข) พระ​เยซู​รู้สึก​ยังไง​เมื่อ​ผู้​คน​มา​หา​จน​ท่าน​ไม่​มี​เวลา​ส่วน​ตัว ทำไม​ท่าน​ถึง​รู้สึก​อย่าง​นั้น?

      9 ความ​สงสาร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​สอน​คน​อื่น​เรื่อง​พระเจ้า เรื่อง​ราว​ใน​มาระโก 6:30-34 ช่วย​ให้​เห็น​ว่า​ทำไม​พระ​เยซู​ถึง​รู้สึก​สงสาร​และ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น ลอง​นึก​ภาพ​ว่า​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​ตอน​ที่​พวก​อัครสาวก​เพิ่ง​กลับ​มา​จาก​การ​ประกาศ​และ​กำลัง​เล่า​ให้​พระ​เยซู​ฟัง​อย่าง​ตื่นเต้น​ว่า​พวก​เขา​ได้​เจอ​อะไร​มา​บ้าง ใน​ตอน​นั้น​มี​คน​มาก​มาย​มา​หา​พระ​เยซู​จน​ท่าน​กับ​พวก​อัครสาวก​ไม่​มี​เวลา​ที่​จะ​กิน​อาหาร พระ​เยซู​เป็น​คน​ช่าง​สังเกต ท่าน​เห็น​ว่า​พวก​อัครสาวก​เหนื่อย ท่าน​เลย​บอก​พวก​เขา​ว่า “ไป​หา​ที่​ส่วน​ตัว​ห่าง​ไกล​ผู้​คน​กัน​เถอะ จะ​ได้​พัก​สัก​หน่อย” พวก​เขา​ก็​ลง​เรือ​ไป​ทาง​เหนือ​สุด​ของ​ทะเล​กาลิลี​เพื่อ​ไป​หา​ที่​เงียบ​สงบ แต่​พอ​ผู้​คน​เห็น​พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก​นั่ง​เรือ​ไป​และ​หลาย​คน​ได้​ยิน​เรื่อง​นี้ พวก​เขา​ก็​เลย​พา​กัน​วิ่ง​ไป​ตาม​แนว​ชายฝั่ง​และ​ไป​ถึง​ที่​นั่น​ก่อน​ที่​เรือ​จะ​ไป​ถึง​ด้วย​ซ้ำ

      10 พระ​เยซู​รู้สึก​หงุดหงิด​ไหม​เมื่อ​เห็น​ว่า​ท่าน​กับ​พวก​อัครสาวก​จะ​ไม่​ได้​พักผ่อน? ไม่​เลย พอ​เห็น​ว่า​มี​หลาย​พัน​คน​กำลัง​รอ​อยู่​ท่าน​ก็​รู้สึก​สงสาร หนังสือ​มาระโก​บอก​ว่า “ท่าน​เห็น​ผู้​คน​มาก​มาย​มา​รอ​อยู่​ก็​รู้สึก​สงสาร เพราะ​พวก​เขา​เป็น​เหมือน​แกะ​ที่​ไม่​มี​คน​เลี้ยง พระ​เยซู​จึง​สอน​พวก​เขา​หลาย​เรื่อง” พระ​เยซู​เข้าใจ​ว่า​ผู้​คน​ต้อง​ฟัง​คำ​สอน​ที่​มา​จาก​พระเจ้า พวก​เขา​เป็น​เหมือน​แกะ​ที่​ไม่​มี​คน​เลี้ยง​หรือ​มี​คน​คอย​ปก​ป้อง พระ​เยซู​รู้​ว่า​พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ควร​จะ​ดู​แล​ฝูง​แกะ​อย่าง​ดี แต่​พวก​เขา​กลับ​ไม่​สนใจ​ประชาชน​เลย (ยอห์น 7:47-49) พระ​เยซู​สงสาร​ผู้​คน​และ​เริ่ม​สอน​พวก​เขา “เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า” (ลูกา 9:11) ท่าน​ทำ​อย่าง​นั้น​ทั้ง ๆ ที่​ยัง​ไม่​รู้​ว่า​พวก​เขา​จะ​ตอบรับ​คำ​สอน​ของ​ท่าน​ไหม เห็น​ชัด​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​ได้​เริ่ม​รู้สึก​สงสาร​ผู้​คน​หลัง​จาก​ที่​เห็น​ว่า​พวก​เขา​ตอบรับ​สิ่ง​ที่​ท่าน​สอน แต่​เพราะ​รู้สึก​สงสาร​ท่าน​เลย​ถูก​กระตุ้น​ให้​สอน​พวก​เขา

      พระ​เยซู​สงสาร​คน​โรค​เรื้อน​โดย​ยื่น​มือ​สัมผัส​ตัว​เขา ส่วน​คน​ที่​ยืน​ดู​อยู่​รู้สึก​รังเกียจ​คน​โรค​เรื้อน

      “พระ​เยซู . . . ยื่น​มือ​ออก​สัมผัส​ตัว​เขา”

      11, 12. (ก) ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล คน​โรค​เรื้อน​ถูก​มอง​ยังไง แต่​พระ​เยซู​ทำ​ยังไง​เมื่อ​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่ “เป็น​โรค​เรื้อน​ทั่ว​ทั้ง​ตัว” เข้า​มา​หา​ท่าน? (ข) ผู้​ชาย​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​อาจ​รู้สึก​ยังไง​ตอน​ที่​พระ​เยซู​แตะ​ตัว​เขา และ​ประสบการณ์​ของ​หมอ​คน​หนึ่ง​ช่วย​ให้​เรา​เห็น​เรื่อง​นี้​ยังไง?

      11 ความ​สงสาร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​ช่วย​คน​ที่​มี​ความ​ทุกข์ เมื่อ​หลาย​คน​ที่​เจ็บ​ป่วย​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​คน​ที่​เมตตา พวก​เขา​ก็​เลย​มา​ขอ​ให้​ท่าน​ช่วย เรา​เห็น​เรื่อง​นี้​ได้​ชัดเจน​ตอน​ที่​พระ​เยซู​อยู่​กับ​ผู้​คน​มาก​มาย และ​มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่ “เป็น​โรค​เรื้อน​ทั่ว​ทั้ง​ตัว” เข้า​ไป​หา​ท่าน (ลูกา 5:12) ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล กฎหมาย​ของ​พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​แยก​คน​โรค​เรื้อน​ออก​ไป​เพื่อ​ป้องกัน​ไม่​ให้​คน​อื่น​ติด​โรค​จาก​เขา (กันดารวิถี 5:1-4) แต่​ต่อ​มา พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ตั้ง​กฎ​ที่​เข้มงวด​ขึ้น​มา และ​กฎ​เหล่า​นั้น​ไม่​ได้​สอน​ผู้​คน​ให้​แสดง​ความ​เมตตา​กับ​คน​โรค​เรื้อนa แต่​พระ​เยซู​ทำ​ยังไง​กับ​คน​โรค​เรื้อน? คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “มี​คน​โรค​เรื้อน​คน​หนึ่ง​มา​หา​พระ​เยซู เขา​ถึง​กับ​คุกเข่า​ลง​อ้อน​วอน​ท่าน​ว่า ‘เพียง​แค่​ท่าน​อยาก​ช่วย ท่าน​ก็​จะ​รักษา​ผม​ได้’ พระ​เยซู​รู้สึก​สงสาร​เขา จึง​ยื่น​มือ​ออก​สัมผัส​ตัว​เขา​และ​พูด​ว่า ‘ผม​อยาก​ช่วย หาย​โรค​เถอะ’ แล้ว​เขา​ก็​หาย​จาก​โรค​เรื้อน​ทันที” (มาระโก 1:40-42) พระ​เยซู​รู้​ดี​ว่า​คน​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​ไม่​ควร​มา​อยู่​ใกล้​คน​อื่น แต่​แทน​ที่​จะ​ไล่​เขา​ไป พระ​เยซู​กลับ​สงสาร​เขา​มาก​และ​ลง​มือ​ทำ​สิ่ง​ที่​ไม่​มี​ใคร​คาด​คิด พระ​เยซู​แตะ​ตัว​เขา

      12 คุณ​พอ​จะ​นึก​ออก​ไหม​ว่า​คน​โรค​เรื้อน​จะ​รู้สึก​ยังไง​ตอน​ที่​พระ​เยซู​แตะ​ตัว​เขา? หมอ​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​โรค​เรื้อน​ชื่อ​พอล แบรนด์ เล่า​ว่า​เขา​เคย​รักษา​ผู้​ชาย​โรค​เรื้อน​คน​หนึ่ง​ใน​ประเทศ​อินเดีย ตอน​ที่​กำลัง​ตรวจ​โรค เขา​จับ​ไหล่​ของ​ผู้​ชาย​คน​นั้น​พร้อม​กับ​อธิบาย​วิธี​การ​รักษา​ผ่าน​ล่าม แล้ว​จู่ ๆ ผู้​ชาย​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​ก็​เริ่ม​ร้องไห้ เขา​เลย​ถาม​ว่า “ผม​พูด​อะไร​ผิด​ไป​รึ​เปล่า?” ล่าม​ถาม​ผู้​ชาย​คน​นั้น แล้ว​เขา​ตอบ​ว่า “เปล่า​ครับ​หมอ เขา​บอก​ว่า เขา​ร้องไห้​เพราะ​คุณ​หมอ​เอา​มือ​ไป​จับ​ไหล่​เขา ไม่​มี​ใคร​แตะ​ตัว​เขา​มา​นาน​หลาย​ปี​แล้ว” ดังนั้น เมื่อ​พระ​เยซู​แตะ​ตัว​คน​โรค​เรื้อน เขา​คง​ต้อง​รู้สึก​ดี​มาก​แน่ ๆ แต่​ไม่​ใช่​แค่​นั้น เพราะ​ด้วย​การ​แตะ​ครั้ง​เดียว พระ​เยซู​รักษา​เขา​ให้​หาย​จาก​โรค​ที่​ร้ายแรง​และ​ทำ​ให้​เขา​กลับ​ไป​อยู่​กับ​ครอบครัว​และ​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​กัน​ได้​อีก​ครั้ง

      13, 14. (ก) พระ​เยซู​เจอ​เหตุ​การณ์​อะไร​ตอน​ที่​ใกล้​จะ​ถึง​เมือง​นาอิน และ​ทำไม​เรื่อง​นี้​ถึง​น่า​เศร้า​มาก​จริง ๆ? (ข) ความ​เมตตา​สงสาร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​ลง​มือ​ทำ​อะไร​เพื่อ​แม่​ม่าย​ชาว​เมือง​นาอิน?

      13 ความ​สงสาร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​ช่วย​คน​ที่​กำลัง​เศร้า พระ​เยซู​รู้สึก​เสียใจ​มาก​ที่​เห็น​คน​อื่น​กำลัง​เศร้า​เพราะ​เสีย​คน​ที่​รัก​ไป ให้​เรา​มา​ดู​ตัวอย่าง​หนึ่ง​ที่​อยู่​ใน​ลูกา 7:11-15 ประมาณ 1 ปี​กับ 9 เดือน​หลัง​จาก​พระ​เยซู​เริ่ม​งาน​รับใช้ พระ​เยซู​เดิน​ทาง​ไป​เมือง​นาอิน แคว้น​กาลิลี พอ​ใกล้​จะ​ถึง​ประตู​เมือง ท่าน​เห็น​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​หาม​ศพ​ออก​มา เหตุ​การณ์​นี้​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​เศร้า​จริง ๆ เพราะ​ศพ​ที่​หาม​ออก​มา​เป็น​ศพ​ลูก​ชาย​คน​เดียว​ของ​แม่​ม่าย ก่อน​หน้า​นี้ เธอ​คง​ได้​จัด​งาน​ศพ​ของ​สามี​มา​แล้ว และ​ตอน​นี้​เธอ​ยัง​ต้อง​มา​เสีย​ลูก​ชาย​ไป​อีก​ซึ่ง​อาจ​เป็น​คน​เดียว​ที่​คอย​เลี้ยง​ดู​เธอ หลาย​คน​ที่​ตาม​เธอ​มา​คง​ร้อง​เพลง​และ​เล่น​ดนตรี​ไว้​อาลัย​ด้วย (เยเรมีย์ 9:17, 18; มัทธิว 9:23) แต่​พระ​เยซู​สังเกต​แม่​ม่าย​ที่​กำลัง​เศร้า​ซึ่ง​เดิน​อยู่​ใกล้ ๆ แคร่​หาม​ศพ​ของ​ลูก​ชาย

      14 พระ​เยซู “สงสาร” แม่​ม่าย​คน​นี้​มาก ท่าน​พูด​ด้วย​น้ำ​เสียง​ที่​อบอุ่น​ว่า “อย่า​ร้องไห้​เลย” แล้ว​ท่าน​ก็​เดิน​เข้า​ไป​ใกล้ ๆ และ​แตะ​แคร่​หาม​ศพ คน​ที่​หาม​แคร่​และ​คน​ที่​อยู่​รอบ ๆ ก็​หยุด พระ​เยซู​พูด​อย่าง​มี​พลัง​ว่า “หนุ่ม​น้อย ผม​ขอ​บอก​ให้​คุณ​ลุก​ขึ้น” หลัง​จาก​นั้น​เกิด​อะไร​ขึ้น? “คน​ตาย​นั้น​ก็​ลุก​ขึ้น​นั่ง​แล้ว​เริ่ม​พูด” เหมือน​กับ​คน​ที่​หลับ​สนิท​แล้ว​ถูก​ปลุก​ให้​ตื่น​ขึ้น​มา แล้ว​พระ​เยซู​ก็ “มอบ​เขา​ให้​แม่” เรื่อง​นี้​น่า​ประทับใจ​จริง ๆ

      15. (ก) ตัวอย่าง​ของ​พระ​เยซู​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​ความ​เมตตา​สงสาร​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​กระทำ​ยังไง? (ข) เรา​จะ​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​ได้​ยังไง?

      15 เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​เรื่อง​นี้? จาก​ทั้ง​สอง​เหตุ​การณ์ เรา​สังเกต​ว่า​ความ​เมตตา​สงสาร​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​กระทำ เมื่อไหร่​ที่​พระ​เยซู​เห็น​คน​อื่น​มี​ความ​ทุกข์ ท่าน​ก็​อด​สงสาร​ไม่​ได้ และ​ท่าน​ก็​ทำ​บาง​อย่าง​เพื่อ​ช่วย​พวก​เขา​เสมอ เรา​จะ​เลียน​แบบ​ท่าน​ได้​ยังไง? เรา​ที่​เป็น​คริสเตียน​มี​หน้า​ที่​ที่​จะ​ประกาศ​ข่าว​ดี​และ​ช่วย​คน​ให้​เป็น​สาวก เหตุ​ผล​สำคัญ​ที่​สุด​ที่​เรา​ทำ​แบบ​นี้​เพราะ​เรา​รัก​พระ​ยะโฮวา แต่​อีก​เหตุ​ผล​หนึ่ง​ก็​คือ​เพราะ​เรา​สงสาร​ผู้​คน​ด้วย ถ้า​เรา​สงสาร​ผู้​คน​เหมือน​พระ​เยซู เรา​ก็​จะ​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​ประกาศ​ข่าว​ดี​ให้​คน​อื่น​ฟัง (มัทธิว 22:37-39) แล้ว​เรา​จะ​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​กับ​พี่​น้อง​ที่​มี​ความ​ทุกข์​และ​เศร้า​ใจ​ได้​ยังไง? ถึง​เรา​จะ​รักษา​โรค​หรือ​ปลุก​คน​ตาย​ให้​ฟื้น​ไม่​ได้ แต่​เรา​ก็​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​ได้​โดย​หา​โอกาส​ที่​จะ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น​ที่​มี​ความ​จำเป็น หรือ​บอก​เขา​ว่า​เรา​รัก​และ​เป็น​ห่วง​เขา​มาก—เอเฟซัส 4:32

      “พ่อ​ครับ ยก​โทษ​ให้​พวก​เขา​ด้วย”

      16. พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​เต็ม​ใจ​ให้​อภัย​แม้​แต่​ตอน​ที่​ท่าน​ถูก​ตรึง​บน​เสา​ทรมาน?

      16 อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​พระ​เยซู​ช่วย​ให้​เห็น​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา​ก็​คือ​ท่าน “พร้อม​จะ​ให้​อภัย” (สดุดี 86:5) ท่าน​ทำ​อย่าง​นั้น​แม้​แต่​ตอน​ที่​ถูก​ตรึง​บน​เสา ถึง​แม้​ท่าน​กำลัง​จะ​ตาย​อย่าง​น่า​อับอาย​และ​ต้อง​เจ็บ​ปวด​ทรมาน​มาก​เพราะ​ถูก​ตอก​ตะปู​ที่​มือ​และ​เท้า ท่าน​ยัง​พูด​ว่า​อะไร? ท่าน​ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ลง​โทษ​คน​ที่​ทรมาน​ท่าน​ไหม? แทน​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น พระ​เยซู​พูด​ว่า “พ่อ​ครับ ยก​โทษ​ให้​พวก​เขา​ด้วย เพราะ​พวก​เขา​ไม่​รู้​ว่า​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่”—ลูกา 23:34b

      17-19. พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​ให้​อภัย​เปโตร​ที่​เคย​ปฏิเสธ​ท่าน​ถึง​สาม​ครั้ง?

      17 ตัวอย่าง​ที่​น่า​ประทับใจ​เกี่ยว​กับ​การ​ให้​อภัย​ของ​พระ​เยซู​เห็น​ได้​จาก​สิ่ง​ที่​ท่าน​ทำ​และ​พูด​กับ​เปโตร เรา​รู้​ว่า​เปโตร​รัก​พระ​เยซู​มาก ใน​วัน​ที่ 14 เดือน​นิสาน​ซึ่ง​เป็น​คืน​สุด​ท้าย​ที่​พระ​เยซู​มี​ชีวิต​อยู่​บน​โลก เปโตร​บอก​ท่าน​ว่า “อาจารย์​ครับ ผม​พร้อม​จะ​ติด​คุก​และ​ตาย​กับ​ท่าน” แต่​ไม่​กี่​ชั่วโมง​ต่อ​มา เปโตร​ปฏิเสธ​ว่า​ไม่​รู้​จัก​พระ​เยซู​ถึง​สาม​ครั้ง คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ให้​รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ตอน​ที่​เปโตร​ปฏิเสธ​ครั้ง​ที่​สาม ตอน​นั้น “พระ​เยซู​ก็​หัน​มา​สบ​ตา​เปโตร” เมื่อ​เปโตร​รู้​ตัว​ว่า​เขา​ได้​ทำ​ผิด​ร้ายแรง เขา​เลย “ออก​ไป​ร้องไห้​เสียใจ​อย่าง​หนัก” และ​ใน​วัน​นั้น​ตอน​ที่​พระ​เยซู​เสีย​ชีวิต​เปโตร​ก็​อาจ​สงสัย​ว่า ‘อาจารย์​จะ​ให้​อภัย​ผม​ไหม?’—ลูกา 22:33, 61, 62

      18 เปโตร​ไม่​ต้อง​รอ​นาน​ถึง​จะ​รู้​คำ​ตอบ พระ​เยซู​ถูก​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​ใน​เช้า​วัน​ที่ 16 เดือน​นิสาน และ​ดู​เหมือน​ว่า​ใน​วัน​เดียว​กัน​นั้น​เอง​ที่​พระ​เยซู​ไป​หา​เปโตร​และ​คุย​กับ​เขา​เป็น​ส่วน​ตัว (ลูกา 24:34; 1 โครินธ์ 15:4-8) ทำไม​พระ​เยซู​ถึง​อยาก​คุย​กับ​เปโตร​มาก​ทั้ง ๆ ที่​เขา​เคย​ปฏิเสธ​ท่าน​ถึง 3 ครั้ง? พระ​เยซู​อาจ​จะ​อยาก​ให้​เปโตร​ที่​กลับ​ใจ​แล้ว​มั่น​ใจ​ว่า​ท่าน​ยัง​รัก​เขา​อยู่​และ​มอง​ว่า​เขา​เป็น​คน​ที่​มี​ค่า แต่​พระ​เยซู​ทำ​มาก​กว่า​นั้น​อีก​เพื่อ​ให้​เปโตร​มั่น​ใจ​ว่า​ท่าน​ให้​อภัย​เขา​แล้ว

      19 ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​ไป​เจอ​กับ​พวก​สาวก​ที่​ทะเล​กาลิลี ตอน​นั้น พระ​เยซู​ถาม​เปโตร 3 ครั้ง​ว่า​เขา​รัก​ท่าน​ไหม หลัง​จาก​ที่​พระ​เยซู​ถาม​ครั้ง​ที่​สาม เปโตร​ก็​ตอบ​ท่าน​ว่า “นาย​ครับ ท่าน​รู้​ทุก​อย่าง​อยู่​แล้ว ท่าน​ก็​รู้​ว่า​ผม​รัก​ท่าน” ที่​จริง พระ​เยซู​รู้​ว่า​เปโตร​คิด​อะไร​ใน​ใจ​และ​รู้​ว่า​เขา​รัก​ท่าน​มาก แต่​พระ​เยซู​ให้​โอกาส​เปโตร​ที่​เคย​ปฏิเสธ​ท่าน 3 ครั้ง​ให้​ยืน​ยัน​ความ​รัก​ของ​เขา​ที่​มี​ต่อ​ท่าน​ถึง 3 ครั้ง นอกจากนั้น พระ​เยซู​ยัง​มอบหมาย​ให้​เปโตร ‘เลี้ยง​และ​ดู​แล​แกะ​ตัว​เล็ก ๆ’ ของ​ท่าน (ยอห์น 21:15-17) ก่อน​หน้า​นั้น เขา​ได้​รับ​งาน​มอบหมาย​ให้​ประกาศ (ลูกา 5:10) แต่​ตอน​นี้ พระ​เยซู​ให้​เขา​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​สำคัญ​ใน​การ​ดู​แล​คน​ที่​จะ​เข้า​มา​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​พระ​คริสต์ นั่น​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​ไว้​ใจ​เปโตร​มาก​จริง ๆ หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน พระ​เยซู​ให้​เขา​มี​บทบาท​สำคัญ​ใน​งาน​ของ​พวก​สาวก (กิจการ 2:1-41) เปโตร​คง​รู้สึก​ได้​กำลังใจ​มาก​ที่​รู้​ว่า​พระ​เยซู​ให้​อภัย​และ​ไว้​ใจ​เขา​เหมือน​เดิม

      คุณ “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์” ไหม?

      20, 21. เรา​จะ​มา “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์” อย่าง​เต็ม​ที่​ได้​ยังไง?

      20 คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​ถึง​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์​ไว้​อย่าง​ยอด​เยี่ยม แต่​ความ​รัก​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​น่า​จะ​กระตุ้น​เรา​ให้​ทำ​อะไร? คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​เรา​ต้อง “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์​ที่​เหนือ​กว่า​ความ​รู้” (เอเฟซัส 3:19) เรา​ได้​เห็น​ว่า​เรื่อง​ราว​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​สอน​เรา​หลาย​อย่าง​เกี่ยว​กับ​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์ แต่​เพื่อ​จะ “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์” จริง ๆ เรา​ต้อง​ทำ​มาก​กว่า​การ​มี​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​ท่าน

      21 คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “รู้​จัก” หมาย​ถึง​รู้​จัก “โดย​ทาง​ประสบการณ์​ของ​เรา​เอง” เมื่อ​เรา​แสดง​ความ​รัก​แบบ​พระ​เยซู คือ​การ​เสีย​สละ​ตัว​เอง​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​คน​อื่น​อย่าง​ไม่​เห็น​แก่​ตัว แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​โดย​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ที่​จำเป็น และ​ให้​อภัย​เขา​จาก​ใจ ถ้า​เรา​ทำ​แบบ​นี้​ก็​แสดง​ว่า​เรา​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​พระ​เยซู​จริง ๆ แล้ว​เรา​จะ “รู้​จัก​ความ​รัก​ของ​พระ​คริสต์​ที่​เหนือ​กว่า​ความ​รู้” จาก​ประสบการณ์​ของ​เรา​เอง และ​อย่า​ลืม​ว่า​ถ้า​เรา​พยายาม​เลียน​แบบ​พระ​คริสต์ เรา​ก็​จะ​ยิ่ง​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ที่​เรา​รัก ซึ่ง​เป็น​ผู้​ที่​พระ​เยซู​เลียน​แบบ​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ

      a พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ตั้ง​กฎ​ว่า​ต้อง​อยู่​ห่าง​จาก​คน​โรค​เรื้อน​ประมาณ 2 เมตร แต่​ถ้า​มี​ลม​พัด คน​โรค​เรื้อน​ต้อง​ออก​ไป​อยู่​ห่าง ๆ อย่าง​น้อย​ประมาณ 45 เมตร หนังสือ​มิดราช รับบาห์​เล่า​ว่า​มี​ผู้​นำ​ศาสนา​คน​หนึ่ง​ไม่​ยอม​เข้า​ใกล้​คน​โรค​เรื้อน​เลย ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​ไล่​คน​โรค​เรื้อน​โดย​เอา​หิน​ขว้าง ดังนั้น คน​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​คง​ต้อง​รู้สึก​เจ็บ​ปวด​มาก​เพราะ​มี​แต่​คน​รังเกียจ

      b สำเนา​เก่าแก่​บาง​ฉบับ มี​การ​ตัด​ส่วน​แรก​ของ​ลูกา 23:34 ที่​บอก​ว่า “พ่อ​ครับ ยก​โทษ​ให้​พวก​เขา​ด้วย เพราะ​พวก​เขา​ไม่​รู้​ว่า​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่” แต่​ข้อ​ความ​นี้​มี​อยู่​ใน​สำเนา​เก่าแก่​ที่​น่า​เชื่อถือ​หลาย​ฉบับ และ​ยัง​มี​อยู่​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่​และ​ฉบับ​แปล​อื่น ๆ ด้วย ดู​เหมือน​ว่า​พระ​เยซู​พูด​ถึง​ทหาร​โรมัน​ที่​ตรึง​ท่าน พวก​เขา​ไม่​รู้​ว่า​ตัว​เอง​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​และ​ไม่​รู้​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ใคร​จริง ๆ พระ​เยซู​อาจ​หมาย​ถึง​คน​ยิว​ที่​ต้องการ​ฆ่า​ท่าน​ด้วย แต่​ต่อ​มา​ก็​เข้า​มา​เป็น​สาวก​ของ​ท่าน (กิจการ 2:36-38) ที่​จริง​พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ที่​กระตุ้น​ทหาร​โรมัน​ให้​ฆ่า​พระ​เยซู​มี​ความ​ผิด​มาก​กว่า​เพราะ​เขา​อยาก​ให้​พระ​เยซู​ตาย​ทั้ง ๆ ที่​รู้​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า หลาย​คน​ใน​พวก​เขา​ไม่​สม​ควร​ได้​รับ​การ​ให้​อภัย—ยอห์น 11:45-53

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • มัทธิว 9:35-38 พระ​เยซู​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​อย่าง​โดด​เด่น​ยังไง และ​เรื่อง​นี้​ควร​มี​ผล​ยังไง​กับ​เรา?

      • ยอห์น 13:34, 35 ทำไม​ถึง​สำคัญ​ที่​เรา​จะ​แสดง​ความ​รัก​แบบ​พระ​คริสต์?

      • โรม 15:1-6 เรา​จะ​มี​ความ​คิด​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​แบบ​พระ​คริสต์​ได้​ยังไง?

      • 2 โครินธ์ 5:14, 15 ถ้า​เรา​เห็น​ค่า​ใน​ค่า​ไถ่​ของ​พระ​เยซู เรา​จะ​ใช้​ชีวิต​ของ​เรา​ยังไง?

  • “ใช้​ชีวิต​ด้วย​ความ​รัก​ต่อ​ไป”
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • พี่​น้อง​พูด​คุย​กัน​อย่าง​มี​ความ​สุข​ที่​การ​ประชุม

      บท 30

      “ใช้​ชีวิต​ด้วย​ความ​รัก​ต่อ​ไป”

      1-3. เรา​จะ​ได้​ประโยชน์​อะไร​ถ้า​เรา​เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก?

      “การ​ให้​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​การ​รับ” (กิจการ 20:35) คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​นี้​สอน​บาง​อย่าง​ที่​สำคัญ คือ​การ​แสดง​ความ​รัก​แบบ​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​มี​ประโยชน์​กับ​เรา ถึง​แม้​เรา​จะ​มี​ความ​สุข​มาก​เมื่อ​คน​อื่น​แสดง​ความ​รัก​กับ​เรา แต่​เรา​จะ​มี​ความ​สุข​มาก​กว่า​ถ้า​เรา​เป็น​ฝ่าย​ให้​หรือ​แสดง​ความ​รัก​กับ​คน​อื่น

      2 พ่อ​ใน​สวรรค์​ของ​เรา​รู้​เรื่อง​นี้​ดี​กว่า​ใคร ๆ เรา​ได้​เรียน​แล้ว​ใน​บท​ก่อน ๆ ของ​ตอน 4 ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​ยอด​เยี่ยม​ใน​เรื่อง​ความ​รัก พระองค์​แสดง​ความ​รัก​มาก​กว่า​ใคร​และ​ทำ​อย่าง​นั้น​มา​เป็น​เวลา​นาน​มาก ดังนั้น ไม่​แปลก​เลย​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​เรียก​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พระเจ้า​ผู้​มี​ความ​สุข”—1 ทิโมธี 1:11

      3 พระเจ้า​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​อยาก​ให้​เรา​เป็น​เหมือน​พระองค์​ใน​ทุก​ด้าน โดย​เฉพาะ​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก​กับ​คน​อื่น เอเฟซัส 5:1, 2 บอก​เรา​ให้ “เลียน​แบบ​พระเจ้า​อย่าง​ลูก​ที่​รัก​ของ​พระองค์ และ​ใช้​ชีวิต​ด้วย​ความ​รัก​ต่อ​ไป” เมื่อ​เรา​เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก เรา​จะ​มี​ความ​สุข​มาก​ขึ้น​เพราะ​เรา​เป็น​ฝ่าย​ให้ เรา​ยัง​มี​ความ​สุข​ด้วย​เพราะ​รู้​ว่า​เรา​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​พอ​ใจ พระองค์​บอก​เรา​ให้​แสดง “ความ​รัก . . . ต่อ​กัน” (โรม 13:8) แต่​ยัง​มี​เหตุ​ผล​อื่น​อีก​ที่​เรา​ต้อง “ใช้​ชีวิต​ด้วย​ความ​รัก​ต่อ​ไป”

      ทำไม​ความ​รัก​ถึง​สำคัญ?

      พี่​น้อง​ชาย​ที่​อายุ​มาก​กว่า​ยิ้ม​และ​จับ​ไหล่​พี่​น้อง​ชาย​อีก​คน​หนึ่ง

      ความ​รัก​กระตุ้น​เรา​ให้​มั่น​ใจ​ใน​ตัว​พี่​น้อง

      4, 5. ทำไม​การ​แสดง​ความ​รัก​กับ​พี่​น้อง​ถึง​เป็น​เรื่อง​สำคัญ?

      4 ทำไม​การ​แสดง​ความ​รัก​กับ​พี่​น้อง​ถึง​เป็น​เรื่อง​สำคัญ? พูด​ง่าย ๆ ก็​คือ​ความ​รัก​เป็น​คุณลักษณะ​สำคัญ​ของ​คริสเตียน​แท้ ถ้า​ไม่​มี​ความ​รัก​เรา​ก็​จะ​ไม่​มี​ความ​ผูกพัน​ใกล้​ชิด​กับ​พี่​น้อง​ได้ และ​ยิ่ง​กว่า​นั้น เรา​ก็​ไม่​มี​ค่า​อะไร​ใน​สายตา​ของ​พระ​ยะโฮวา เรา​จะ​เรียน​มาก​ขึ้น​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​ช่วย​เรา​ยังไง​ให้​เห็น​ว่า​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​ที่​เรา​ต้อง​แสดง​ความ​รัก

      5 ใน​คืน​สุด​ท้าย​ที่​พระ​เยซู​มี​ชีวิต​อยู่​บน​โลก ท่าน​บอก​พวก​สาวก​ว่า “ผม​ให้​กฎหมาย​ใหม่​กับ​พวก​คุณ คือ ให้​พวก​คุณ​รัก​กัน ผม​รัก​พวก​คุณ​ยังไง ก็​ให้​พวก​คุณ​รัก​กัน​อย่าง​นั้น​ด้วย ทุก​คน​จะ​รู้​ว่า​พวก​คุณ​เป็น​สาวก​ของ​ผม เมื่อ​พวก​คุณ​รัก​กัน” (ยอห์น 13:34, 35) ที่​ท่าน​บอก​ว่า “ผม​รัก​พวก​คุณ​ยังไง” ก็​เพราะ​อยาก​ให้​พวก​เรา​แสดง​ความ​รัก​กับ​คน​อื่น​เหมือน​ท่าน ใน​บท 29 เรา​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​ให้​ตัวอย่าง​ที่​ยอด​เยี่ยม​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก​โดย​คิด​ถึง​ผล​ประโยชน์​ของ​คน​อื่น​มาก​กว่า​ของ​ตัว​ท่าน​เอง เรา​ก็​ต้อง​แสดง​ความ​รัก​แบบ​นั้น​ด้วย ถ้า​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น​คน​ที่​ไม่​ได้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ก็​จะ​เห็น​ชัดเจน​ว่า​พวก​เรา​รัก​กัน​จริง ๆ และ​เรา​ก็​ทำ​ให้​เห็น​ด้วย​ว่า​เรา​เป็น​คริสเตียน​แท้

      6, 7. (ก) เรา​รู้​ได้​ยังไง​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เน้น​เรื่อง​การ​แสดง​ความ​รัก? (ข) เปาโล​พูด​ถึง​อะไร​ที่ 1 โครินธ์ 13:4-8?

      6 จะ​ว่า​ยังไง​ถ้า​เรา​ไม่​มี​ความ​รัก? อัครสาวก​เปาโล​บอก​ว่า “ถ้า​ผม . . . ไม่​มี​ความ​รัก ผม​ก็​เป็น​เหมือน​ฆ้อง​หรือ​ฉิ่ง​ฉาบ​ที่​ส่ง​เสียง” (1 โครินธ์ 13:1) เสียง​ของ​ฉิ่ง​หรือ​ฆ้อง​อาจ​ดัง​จน​แสบ​แก้ว​หู นี่​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​เหมาะ​มาก ๆ เพราะ​คน​ที่​ไม่​มี​ความ​รัก​ก็​เป็น​เหมือน​เครื่อง​ดนตรี​ที่​ส่ง​เสียง​ดัง​จน​ทำ​ให้​คน​อื่น​รู้สึก​รำคาญ และ​อาจ​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​คน​แบบ​นั้น​จะ​มี​เพื่อน​สนิท เปาโล​บอก​ด้วย​ว่า ‘และ​ถ้า​ผม​มี​ความ​เชื่อ​มาก​ถึง​ขนาด​ที่​ย้าย​ภูเขา​ได้ แต่​ไม่​มี​ความ​รัก ผม​ก็​ไม่​มี​ค่า​อะไร​เลย’ (1 โครินธ์ 13:2) ดังนั้น ถึง​แม้​ว่า​เรา​ทำ​อะไร​ดี ๆ ได้​หลาย​อย่าง แต่​ถ้า​ไม่​มี​ความ​รัก​พระ​ยะโฮวา​ก็​ใช้​เรา​ไม่​ได้ คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​ชัดเจน​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​เรา​แสดง​ความ​รัก

      7 แต่​เรา​จะ​แสดง​ความ​รัก​กับ​คน​อื่น​ได้​ยังไง? เพื่อ​ตอบ​คำ​ถาม​นี้ ให้​เรา​มา​ดู​คำ​พูด​ของ​เปาโล​ที่ 1 โครินธ์ 13:4-8 ข้อ​เหล่า​นี้​ไม่​ได้​พูด​ถึง​ความ​รัก​ที่​พระเจ้า​มี​ต่อ​เรา​หรือ​ความ​รัก​ที่​เรา​มี​ต่อ​พระองค์ แต่​เปาโล​เน้น​วิธี​ที่​เรา​จะ​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​กัน​และ​อธิบาย​ว่า​ความ​รัก​หมาย​ถึง​อะไร​จริง ๆ

      ความ​รัก​หมาย​ถึง​อะไร

      8. ตอน​ที่​มี​ปัญหา​กับ​คน​อื่น ความ​อดทน​จะ​ช่วย​เรา​ได้​ยังไง?

      8 “ความ​รัก​อด​กลั้น” การ​แสดง​ความ​รัก​หมายความ​ว่า​เรา​ต้อง​อดทน​กับ​คน​อื่น (โคโลสี 3:13) เรา​ต้อง​มี​ความ​อดทน​เพราะ​เรา​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ ดังนั้น ตอน​ที่​เรา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​กัน​กับ​พี่​น้อง​ก็​เป็น​ไป​ได้​ที่​เรา​อาจ​จะ​มี​เรื่อง​ขัด​แย้ง​กัน แต่​ความ​อดทน​จะ​ช่วย​เรา​ให้​มอง​ข้าม​เรื่อง​เล็ก ๆ น้อย ๆ และ​ช่วย​รักษา​สันติ​สุข​ใน​ประชาคม

      9. เรา​จะ​แสดง​ความ​กรุณา​กับ​คน​อื่น​ได้​ยังไง​บ้าง?

      9 “ความ​รัก . . . เมตตา​กรุณา” เรา​แสดง​ความ​กรุณา​โดย​การ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น​และ​พูด​อย่าง​เห็น​อก​เห็น​ใจ ความ​รัก​กระตุ้น​เรา​ให้​มอง​หา​วิธี​แสดง​ความ​กรุณา​โดย​เฉพาะ​กับ​คน​ที่​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ ตัวอย่าง​เช่น พี่​น้อง​สูง​อายุ​อาจ​รู้สึก​เหงา​และ​อยาก​ให้​มี​คน​มา​เยี่ยม​ให้​กำลังใจ พี่​น้อง​หญิง​ที่​ต้อง​เลี้ยง​ลูก​คน​เดียว หรือ​อยู่​ใน​ครอบครัว​ที่​ไม่​ได้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อาจ​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ​และ​กำลังใจ​ด้วย พี่​น้อง​ที่​เจ็บ​ป่วย​หรือ​เจอ​กับ​ความ​ยาก​ลำบาก​ก็​คง​อยาก​ได้​ยิน​คำ​พูด​ดี ๆ ที่​ให้​กำลังใจ (สุภาษิต 12:25; 17:17) ถ้า​เรา​หา​โอกาส​แสดง​ความ​กรุณา​กับ​พี่​น้อง​ของ​เรา เรา​ก็​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​เรา​รัก​เขา​จริง ๆ—2 โครินธ์ 8:8

      10. ถึง​แม้​จะ​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย​แต่​ความ​รัก​จะ​ช่วย​เรา​ยังไง​ให้​ยึด​มั่น​กับ​ความ​จริง​และ​พูด​ความ​จริง?

      10 “ความ​รัก . . . ชอบ​ความ​จริง” ฉบับ​แปล​หนึ่ง​แปล​ข้อ​นี้​ว่า “ความ​รัก . . . สนับสนุน​ความ​จริง​ด้วย​ความ​ยินดี” ความ​รัก​กระตุ้น​เรา​ให้​ยึด​มั่น​กับ​ความ​จริง​และ “พูด​ความ​จริง​ต่อ​กัน” (เศคาริยาห์ 8:16) ตัวอย่าง​เช่น ถ้า​คน​ที่​เรา​รัก​ทำ​ผิด​ร้ายแรง ความ​รัก​ที่​เรา​มี​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​กับ​คน​ที่​ทำ​ผิด​จะ​ช่วย​เรา​ให้​ทำ​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​บอก​ว่า​ถูก​ต้อง นอกจากนั้น เรา​จะ​ไม่​พยายาม​ปก​ปิด หรือ​บอก​ว่า​สิ่ง​ที่​เขา​ทำ​ไม่​ใช่​เรื่อง​ใหญ่ หรือ​ไม่​พูด​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นั้น บาง​ครั้ง​อาจ​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​ยอม​รับ​ว่า​คน​ที่​เรา​รัก​ทำ​ผิด​ร้ายแรง แต่​ถ้า​เรา​รัก​เขา​และ​อยาก​ช่วย​เขา​จริง ๆ เรา​ก็​คง​อยาก​ให้​เขา​ได้​รับ​การ​สั่ง​สอน​ด้วย​ความ​รัก​จาก​พระเจ้า​และ​ยอม​รับ​การ​แก้ไข (สุภาษิต 3:11, 12) การ​แสดง​ความ​รัก​โดย​ยึด​มั่น​กับ​ความ​จริง​ยัง​หมายความ​ว่า​เรา​ต้อง “ประพฤติ​ตัว​ซื่อสัตย์​ใน​ทุก​เรื่อง” ด้วย—ฮีบรู 13:18

      11. เรา​จะ​ทำ​ยังไง​กับ​ข้อ​ผิด​พลาด​เล็ก ๆ น้อย ๆ ของ​พี่​น้อง​เพื่อ​แสดง​ว่า​ความ​รัก “ยอม​ทน​รับ​ทุก​อย่าง”?

      11 “ความ​รัก​ยอม​ทน​รับ​ทุก​อย่าง” ใน​ภาษา​เดิม​คำ​นี้​แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ความ​รัก​ปิด​คลุม​ทุก​สิ่ง” (ฉบับ​แปล​คิงดอม อินเตอร์ลิเนียร์) ที่ 1 เปโตร 4:8 บอก​ว่า “ความ​รัก​ปิด​คลุม​บาป​ไว้​มาก​มาย” ถ้า​เรา​รัก​พี่​น้อง​ของ​เรา​จริง ๆ เรา​ก็​จะ​ไม่​พูด​ข้อ​ผิด​พลาด​เล็ก ๆ น้อย ๆ ของ​เขา​ให้​คน​อื่น​ฟัง เพราะ​หลาย​ครั้ง​ข้อ​ผิด​พลาด​นั้น​ก็​ไม่​ใช่​เรื่อง​ใหญ่ แต่​ถ้า​เรา​มอง​ข้าม​เรื่อง​นั้น​ไป​ก็​แสดง​ว่า​เรา​รัก​พี่​น้อง—สุภาษิต 10:12; 17:9

      12. อัครสาวก​เปาโล​แสดง​ยังไง​ว่า​มั่น​ใจ​ใน​ตัว​ฟีเลโมน และ​เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​ตัวอย่าง​ของ​เปาโล?

      12 “ความ​รัก . . . เชื่อ​อยู่​เสมอ” ฉบับ​แปล​หนึ่ง​บอก​ว่า​ความ​รัก “พร้อม​จะ​เชื่อ​ใน​ส่วน​ที่​ดี​ที่​สุด​เสมอ” เรา​จะ​ไม่​สงสัย​ว่า​ทำไม​พี่​น้อง​ถึง​ทำ​แบบ​นั้น​หรือ​สงสัย​ว่า​เขา​มี​เจตนา​ที่​ถูก​ต้อง​ไหม ความ​รัก​ช่วย​เรา​ให้ “เชื่อ​ใน​ส่วน​ดี” ของ​พี่​น้อง​และ​ไว้​ใจ​เขาa เรา​เห็น​ตัวอย่าง​เรื่อง​นี้​ได้​จาก​จดหมาย​ที่​เปาโล​เขียน​ถึง​ฟีเลโมน ทาส​คน​หนึ่ง​ของ​เขา​ชื่อ​โอเนสิมัส​หนี​ไป​แต่​ต่อ​มา​ได้​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน และ​เมื่อ​โอเนสิมัส​กลับ​มา เปาโล​ก็​อยาก​ให้​ฟีเลโมน​ต้อนรับ​เขา​ด้วย​ความ​รัก เปาโล​ไม่​ได้​พยายาม​บังคับ​แต่​เขา​ขอร้อง​ฟีเลโมน​ให้​ทำ​อย่าง​นั้น เปาโล​มั่น​ใจ​ว่า​ความ​รัก​จะ​กระตุ้น​ให้​ฟีเลโมน​ทำ​ดี​กับ​โอเนสิมัส เขา​บอก​ว่า “ผม​เขียน​ถึง​คุณ​เพราะ​มั่น​ใจ​ว่า​คุณ​จะ​ทำ​ตาม และ​ผม​รู้​ว่า​คุณ​จะ​ทำ​มาก​กว่า​ที่​ผม​ขอ​ด้วย​ซ้ำ” (ข้อ 21) ถ้า​เรา​รัก​พี่​น้อง​และ​มั่น​ใจ​ใน​ตัว​เขา เรา​ก็​กำลัง​กระตุ้น​ให้​เขา​แสดง​คุณลักษณะ​ที่​ดีออ​กมา

      13. เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​เรา​หวัง​ว่า​พี่​น้อง​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง?

      13 “ความ​รัก . . . หวัง​อยู่​เสมอ” นอกจาก​ความ​รัก​จะ​กระตุ้น​เรา​ให้​ไว้​ใจ​พี่​น้อง​แล้ว ความ​รัก​ก็​ยัง​ทำ​ให้​เรา​หวัง​ว่า​พี่​น้อง​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ด้วย ตัวอย่าง​เช่น ถ้า​พี่​น้อง​คน​หนึ่ง “ก้าว​ไป​ผิด​ทาง​โดย​ไม่​รู้​ตัว” เรา​หวัง​ว่า​เขา​จะ​ฟัง​คน​ที่​พยายาม​ช่วย​เขา​ให้​เปลี่ยน​แปลง​ตัว​เอง (กาลาเทีย 6:1) เรา​ยัง​หวัง​ด้วย​ว่า​พี่​น้อง​ที่​ความ​เชื่อ​อ่อนแอ​ลง​จะ​กลับ​มา​เข้มแข็ง​อีก​ครั้ง เรา​จะ​อดทน​และ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง​ต่อ​ไป (โรม 15:1; 1 เธสะโลนิกา 5:14) ถึง​แม้​คน​ที่​เรา​รัก​จะ​เลิก​รับใช้​พระ​ยะโฮวา เรา​ก็​จะ​ไม่​เลิก​หวัง​ว่า​สัก​วัน​หนึ่ง​เขา​จะ​กลับ​มา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อีก​เหมือน​กับ​ลูก​ที่​หลง​หาย​ใน​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​ของ​พระ​เยซู—ลูกา 15:17, 18

      14. บาง​ครั้ง​เรา​ต้อง​อดทน​กับ​เรื่อง​อะไร​บ้าง​ใน​ประชาคม และ​ความ​รัก​จะ​ช่วย​เรา​อดทน​ได้​ยังไง?

      14 “ความ​รัก . . . อดทน​ได้​ทุก​อย่าง” ความ​อดทน​ทำ​ให้​เรา​ซื่อสัตย์​กับ​พระ​ยะโฮวา​ได้​แม้​ต้อง​เจอ​กับ​ปัญหา​หรือ​เรื่อง​ที่​ทำ​ให้​ท้อ​ใจ หลาย​ครั้ง​เรา​ต้อง​อดทน​กับ​ปัญหา​ที่​เกิด​ขึ้น​จาก​สิ่ง​ที่​คน​อื่น​ทำ แต่​บาง​ครั้ง​ปัญหา​ก็​อาจ​มา​จาก​พี่​น้อง​เพราะ​พวก​เขา​ไม่​สมบูรณ์​แบบ เขา​อาจ​พูด​หรือ​ทำ​อะไร​โดย​ไม่​คิด​ที่​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​เจ็บ (สุภาษิต 12:18) หรือ​บาง​ครั้ง​ผู้​ดู​แล​ไม่​ได้​จัด​การ​บาง​เรื่อง​ใน​ประชาคม​แบบ​ที่​เรา​คิด​ไว้ พี่​น้อง​ที่​ได้​รับ​ความ​นับถือ​อาจ​ทำ​บาง​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​เรา​ไม่​สบาย​ใจ​และ​คิด​ว่า ‘คริสเตียน​ทำ​อย่าง​นี้​ได้​ด้วย​เหรอ?’ เมื่อ​เจอ​กับ​เรื่อง​แบบ​นี้ เรา​จะ​เลิก​ไป​ประชุม​และ​เลิก​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ไหม? ถ้า​เรา​มี​ความ​รัก เรา​จะ​ไม่​ทำ​แบบ​นั้น เรา​จะ​ไม่​มอง​แต่​ข้อ​ผิด​พลาด​จน​มอง​ไม่​เห็น​สิ่ง​ดี ๆ ใน​ตัว​เขา​หรือ​ใน​ตัว​พี่​น้อง​คน​อื่น​ใน​ประชาคม ถึง​แม้​พี่​น้อง​จะ​พูด​โดย​ไม่​คิด​หรือ​ทำ​ผิด​พลาด​ไป​เพราะ​ความ​ไม่​สมบูรณ์​แบบ แต่​ความ​รัก​จะ​ช่วย​ให้​เรา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ซื่อสัตย์​และ​สนับสนุน​ประชาคม​ต่อ​ไป—สดุดี 119:165

      ความ​รัก​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​อะไร

      15. ทำไม​เรา​ไม่​ควร​อิจฉา​คน​อื่น และ​ความ​รัก​ช่วย​เรา​ให้​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​นี้​ได้​ยังไง?

      15 “ความ​รัก​ไม่​อิจฉา​ริษยา” เรา​ไม่​ควร​อิจฉา​ใน​สิ่ง​ที่​คน​อื่น​มี เช่น เงิน​ทอง​สมบัติ​วัตถุ สิ่ง​ดี ๆ ที่​เขา​ได้​รับ​จาก​พระ​ยะโฮวา หรือ​ความ​สามารถ​ของ​เขา ถ้า​เรา​อิจฉา​ก็​แสดง​ว่า​เรา​เห็น​แก่​ตัว​และ​ทำ​ให้​ตัว​เรา​กับ​คน​อื่น​ได้​รับ​ผล​เสีย ถ้า​เรา​ไม่​ควบคุม​ความ​รู้สึก​นี้ เรา​ก็​อาจ​ทำลาย​สันติ​สุข​ใน​ประชาคม​ได้ แล้ว​อะไร​จะ​ช่วย​เรา​ให้​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​อิจฉา​ได้? (ยากอบ 4:5) ถ้า​เรา​มี​ความ​รัก เรา​จะ​มี​ความ​สุข​กับ​คน​ที่​ได้​รับ​สิ่ง​ดี ๆ (โรม 12:15) เรา​จะ​ไม่​รู้สึก​อิจฉา​เมื่อ​คน​อื่น​ได้​รับ​คำ​ชมเชย​เพราะ​เขา​มี​ความ​สามารถ​หรือ​ทำ​บาง​อย่าง​ได้​ดี

      16. ถ้า​เรา​รัก​พี่​น้อง​จริง ๆ ทำไม​เรา​ไม่​ควร​อวด​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ​ใน​งาน​รับใช้?

      16 “ความ​รัก . . . ไม่​โอ้อวด ไม่​คิด​ว่า​ตัว​เอง​เหนือ​กว่า​คน​อื่น” ถ้า​เรา​มี​ความ​รัก เรา​จะ​ไม่​อวด​ความ​สามารถ​หรือ​ความ​สำเร็จ​ของ​เรา พี่​น้อง​คง​จะ​ท้อ​ใจ​มาก​แน่ ๆ ถ้า​เรา​พูด​ตลอด​ว่า​เรา​ทำ​งาน​รับใช้​ได้​ดี​ขนาด​ไหน​หรือ​มี​สิทธิ​พิเศษ​อะไร​บ้าง​ใน​ประชาคม การ​ทำ​แบบ​นี้​อาจ​ทำ​ให้​พี่​น้อง​รู้สึก​ว่า​เขา​ไม่​มี​ค่า​สำหรับ​พระ​ยะโฮวา ถ้า​เรา​รัก​พี่​น้อง เรา​จะ​ไม่​อวด​ว่า​มี​สิทธิ​พิเศษ​อะไร​บ้าง​ใน​งาน​รับใช้ แต่​ที่​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้​ก็​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​เรา (1 โครินธ์ 3:5-9) เปาโล​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า​ความ​รัก “ไม่​คิด​ว่า​ตัว​เอง​เหนือ​กว่า​คน​อื่น” หรือ​ใน​ฉบับ​แปล​หนึ่ง​บอก​ว่า​ความ​รัก​จะ​ไม่​ทำ​ให้​ใคร​คน​หนึ่ง​คิด​ไป​เอง​ว่า​เขา​เป็น​คน​ที่​สำคัญ​มาก—โรม 12:3

      17. ถ้า​เรา​รัก​คน​อื่น​เรา​จะ​ทำ​อะไร?

      17 “ความ​รัก . . . ไม่​หยาบคาย” คน​หยาบคาย​มัก​จะ​ทำ​อะไร​ที่​ไม่​เหมาะ​สม​หรือ​ไม่​ให้​เกียรติ​คน​อื่น นิสัย​แบบ​นั้น​ไม่​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​เพราะ​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​คน​นั้น​ไม่​ได้​คิด​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น​และ​ไม่​สนใจ​ว่า​สิ่ง​ที่​เขา​ทำ​จะ​มี​ผล​กับ​คน​อื่น​ยังไง แต่​ถ้า​เรา​มี​ความ​รัก เรา​ก็​จะ​อ่อนโยน​และ​เป็น​ห่วง​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น นอกจากนั้น เรา​จะ​เป็น​คน​สุภาพ ทำ​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​พอ​ใจ และ​นับถือ​พี่​น้อง​ของ​เรา ความ​รัก​จะ​ช่วย​เรา​ไม่​ให้ “ทำ​เรื่อง​น่า​อาย” ที่​จะ​ทำ​ให้​พี่​น้อง​ไม่​สบาย​ใจ—เอเฟซัส 5:3, 4

      18. ทำไม​คน​ที่​มี​ความ​รัก​จะ​ไม่​บังคับ​ให้​คน​อื่น​ทำ​ตาม​ที่​เขา​ต้องการ?

      18 “ความ​รัก . . . ไม่​เห็น​แก่​ตัว” ฉบับ​แปล​หนึ่ง​บอก​ว่า “ความ​รัก​ไม่​ยืนกราน​ตาม​อำเภอใจ​ตน​เอง” ดังนั้น คน​ที่​แสดง​ความ​รัก​จะ​ไม่​มอง​ว่า​ความ​คิด​ของ​เขา​ดี​ที่​สุด เขา​จะ​ไม่​พยายาม​บังคับ​คน​อื่น​ให้​เห็น​ด้วย​และ​ทำ​ตาม​วิธี​ของ​เขา เพราะ​ถ้า​เขา​พยายาม​บังคับ​คน​อื่น​ก็​แสดง​ว่า​เขา​หยิ่ง​และ​คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า “ความ​หยิ่ง​ทำ​ให้​พินาศ” (สุภาษิต 16:18) แต่​ความ​รัก​จะ​ทำ​ให้​เรา​นับถือ​ความ​คิด​เห็น​ของ​พี่​น้อง​และ​ถ้า​เป็น​ไป​ได้​เรา​จะ​พยายาม​ทำ​ตาม​ที่​เขา​บอก ถ้า​เรา​พร้อม​ที่​จะ​ปรับ​เปลี่ยน เรา​ก็​กำลัง​ทำ​ตาม​ที่​เปาโล​บอก​ไว้​ว่า “อย่า​คิด​ถึง​แต่​ประโยชน์​ของ​ตัว​เอง​เท่า​นั้น แต่​ให้​คิด​ถึง​ประโยชน์​ของ​คน​อื่น​ด้วย”—1 โครินธ์ 10:24

      19. เมื่อ​มี​คน​ทำ​ให้​เรา​โกรธ ความ​รัก​จะ​ช่วย​เรา​ยังไง?

      19 “ความ​รัก . . . ไม่​โมโห​ง่าย ไม่​จด​จำ​เรื่อง​ที่​ทำ​ให้​เจ็บใจ” ความ​รัก​จะ​ทำ​ให้​เรา​ไม่​โกรธ​ง่าย ๆ ไม่​แปลก​ที่​เรา​จะ​อารมณ์​เสีย​เมื่อ​มี​คน​พูด​หรือ​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​เรา​เจ็บใจ ถึง​แม้​เรา​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​โกรธ แต่​ถ้า​เรา​มี​ความ​รัก เรา​จะ​ไม่​เก็บ​ความ​โกรธ​นั้น​ไว้ (เอเฟซัส 4:26, 27) เรา​จะ​ไม่​จำ​ว่า​ใคร​พูด​หรือ​ทำ​อะไร​ที่​ทำ​ให้​เรา​โกรธ แต่​ความ​รัก​กระตุ้น​เรา​ให้​เลียน​แบบ​พระเจ้า เหมือน​ที่​เรา​เห็น​ใน​บท 26 พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​เมื่อ​มี​เหตุ​ผล​ที่​สม​ควร เมื่อ​ให้​อภัย​เรา​แล้ว​พระองค์​ก็​จะ​ไม่​จด​จำ​หรือ​คิด​ถึง​ความ​ผิด​นั้น​เพื่อ​ลง​โทษ​เรา​ใน​อนาคต เรา​รู้สึก​ขอบคุณ​จริง ๆ ที่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​จด​จำ​ความ​ผิด​ของ​เรา

      20. เรา​ควร​มี​ท่าที​ยังไง​ถ้า​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ทำ​ผิด​และ​ได้​รับ​ผล​เสีย​จาก​การ​ทำ​ผิด​นั้น?

      20 “ความ​รัก​ไม่​ชอบ​ความ​ชั่ว” ฉบับ​แปล​อื่น​แปล​ข้อ​นี้​ว่า “ความ​รัก​ไม่​ยินดี​เมื่อ​คน​อื่น​พลาด​พลั้ง​ทำ​ผิด” ดังนั้น ถ้า​เรา​มี​ความ​รัก เรา​จะ​ไม่​ยินดี​เมื่อ​มี​การ​ทำ​ผิด และ​เรา​จะ​ไม่​มอง​ข้าม​การ​ทำ​ผิด​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​ทุก​อย่าง เรา​มี​ท่าที​ยังไง​ถ้า​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ทำ​ผิด​และ​ได้​รับ​ผล​เสีย​จาก​การ​ทำ​ผิด​นั้น? เรา​จะ​ไม่​รู้สึก​ดีใจ และ​คิด​ว่า ‘ดี​แล้ว​ล่ะ​ที่​เขา​โดน​อย่าง​นั้น’ (สุภาษิต 17:5) แต่​เรา​จะ​ยินดี​เมื่อ​พี่​น้อง​ที่​ทำ​ผิด​พยายาม​ทำ​ทุก​อย่าง​เพื่อ​จะ​กลับ​มา​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​อีก​ครั้ง

      “ทาง​ที่​ยอด​เยี่ยม”

      21-23. (ก) เปาโล​หมายความ​ว่า​ยังไง​เมื่อ​เขา​บอก​ว่า “ความ​รัก​จะ​คง​อยู่​ตลอด​ไป”? (ข) เรา​จะ​คุย​เกี่ยว​กับ​คำ​ถาม​อะไร​ใน​บท​สุด​ท้าย​ของ​หนังสือ​นี้?

      21 “ความ​รัก​จะ​คง​อยู่​ตลอด​ไป เปาโล​หมายความ​ว่า​ยังไง​เมื่อ​พูด​แบบ​นี้? ใน​ข้อ​คัมภีร์​ก่อน​หน้า​นี้ เขา​กำลัง​พูด​ถึง​ความ​สามารถ​ที่​มา​จาก​พลัง​ของ​พระเจ้า​ที่​คริสเตียน​ยุค​แรก​ได้​รับ ความ​สามารถ​ต่าง ๆ นั้น​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​กำลัง​ใช้​ประชาคม​คริสเตียน​ที่​เพิ่ง​ถูก​ตั้ง​ขึ้น แต่​ก็​ไม่​ใช่​คริสเตียน​ทุก​คน​ที่​จะ​รักษา​โรค พยากรณ์ หรือ​พูด​ภาษา​ต่าง ๆ ได้ และ​ถึง​บาง​คน​จะ​ไม่​มี​ความ​สามารถ​เหล่า​นั้น​ก็​ไม่​ใช่​เรื่อง​สำคัญ เพราะ​ความ​สามารถ​ใน​การ​ทำ​การ​อัศจรรย์​จะ​ไม่​มี​อยู่​ตลอด​ไป แต่​มี​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​คริสเตียน​ทุก​คน​ต้อง​มี​มาก​ขึ้น สิ่ง​นั้น​สำคัญ​กว่า​และ​จะ​อยู่​ตลอด​ไป เปาโล​เรียก​สิ่ง​นั้น​ว่า “ทาง​ที่​ยอด​เยี่ยม” (1 โครินธ์ 12:31) “ทาง​ที่​ยอด​เยี่ยม” นี้​คือ​อะไร? ทาง​นี้​คือ​ความ​รัก

      22 ความ​รัก​แบบ​คริสเตียน​ที่​เปาโล​พูด​ถึง​นั้น “จะ​คง​อยู่​ตลอด​ไป” และ​จะ​ไม่​มี​วัน​สิ้น​สุด​เลย จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ ผู้​คน​รู้​ว่า​ใคร​เป็น​คริสเตียน​แท้​ได้​โดย​ดู​จาก​ความ​รัก​แบบ​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​ที่​พวก​เขา​มี​ให้​กัน เรา​เห็น​ความ​รัก​แบบ​นี้​ได้​ท่ามกลาง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทั่ว​โลก ความ​รัก​แบบ​นี้​จะ​คง​อยู่​ตลอด​ไป​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​สัญญา​ว่า​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป (สดุดี 37:9-11, 29) ให้​เรา​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ “ใช้​ชีวิต​ด้วย​ความ​รัก​ต่อ​ไป” เพราะ​ถ้า​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น เรา​จะ​มี​ความ​สุข​ที่​มา​จาก​การ​ให้ และ​สำคัญ​กว่า​นั้น เรา​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป​และ​จะ​แสดง​ความ​รัก​ได้​ตลอด​ไป​เหมือน​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​แห่ง​ความ​รัก​ของ​เรา

      ความ​รัก​บอก​ให้​รู้​ว่า​พวก​เขา​เป็น​คน​ของ​พระ​ยะโฮวา

      23 ใน​หนังสือ​นี้​เรา​ได้​เรียน​หลาย​อย่าง​เกี่ยว​กับ​คุณลักษณะ​ที่​ยอด​เยี่ยม​ของ​พระ​ยะโฮวา เรา​ได้​รับ​ประโยชน์​มาก​มาย​เรื่อง​พลัง​อำนาจ ความ​ยุติธรรม สติ​ปัญญา และ​ความ​รัก​ของ​พระองค์ และ​หลัง​จาก​ที่​ได้​เรียน​รู้​ว่า​เรา​จะ​แสดง​ความ​รัก​กับ​คน​อื่น​ได้​ยังไง​บ้าง เรา​ก็​น่า​จะ​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ฉัน​จะ​แสดง​ให้​พระ​ยะโฮวา​เห็น​ยังไง​ว่า​ฉัน​รัก​พระองค์?’ เรา​จะ​คุย​เกี่ยว​กับ​คำ​ถาม​นี้​ใน​บท​สุด​ท้าย​ของ​หนังสือ

      a ที่​บอก​ว่า​ความ​รัก “เชื่อ​อยู่​เสมอ” ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​เรา​จะ​ยอม​ให้​คน​อื่น​มา​หลอก​เรา คัมภีร์​ไบเบิล​เตือน​เรา​ว่า “ให้​คอย​ระวัง​คน​ที่​สร้าง​ความ​แตก​แยก​และ​เป็น​ต้น​เหตุ​ให้​คน​อื่น​ทิ้ง​ความ​เชื่อ​ไป . . . อย่า​คบ​กับ​พวก​เขา”—โรม 16:17

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • 2 โครินธ์ 6:11-13 ที่​เปาโล​บอก​ให้​เรา​เปิด​ใจ​ให้​กว้าง​หมายความ​ว่า​อะไร? และ​เรา​จะ​เอา​คำ​แนะนำ​นี้​มา​ใช้​ยังไง?

      • 1 เปโตร 1:22 เรา​จะ​รัก​พี่​น้อง​แบบ​จริง​ใจ​และ​อบอุ่น​ได้​ยังไง?

      • 1 ยอห์น 3:16-18 เรา​จะ​แสดง​ว่า “รัก​พระเจ้า” ได้​ยังไง?

      • 1 ยอห์น 4:7-11 อะไร​จะ​กระตุ้น​เรา​ให้​แสดง​ความ​รัก​กับ​พี่​น้อง​ของ​เรา?

หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
  • ไทย
  • แชร์
  • การตั้งค่า
  • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
  • เงื่อนไขการใช้งาน
  • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  • JW.ORG
  • เข้าสู่ระบบ
แชร์