-
การประชุมภาคของพยานพระยะโฮวาปี 2000 “ผู้ปฏิบัติตามพระคำของพระเจ้า”พระราชกิจ 1999 | ธันวาคม
-
-
การประชุมภาคของพยานพระยะโฮวาปี 2000 “ผู้ปฏิบัติตามพระคำของพระเจ้า”
1 “ข้าพเจ้าจะขอบพระเดชพระคุณพระองค์ในมหาสันนิบาต: จะถวายความสรรเสริญแก่พระองค์ท่ามกลางมหาชน.” (เพลง. 35:18) นึกภาพดูสิว่าดาวิดคงจะตื่นเต้นแค่ไหนในทุกวันนี้ที่เห็นคนหลายพันหลายหมื่นประชุมร่วมกันด้วยความสงบสุขเพื่อรับเอาคำสั่งสอนจากพระเจ้า ณ การประชุมภาคของเรา! คุณได้อยู่ท่ามกลางผู้คนที่เข้าร่วมการประชุมภาค “พระคำเชิงพยากรณ์ของพระเจ้า” ไหม? ในเดือนตุลาคม 1999 มีการจัดประชุมภาคทั้งหมด 4 แห่งในประเทศไทย. การประชุมภาคของเราในปี 2000 จะทำให้เรามีโอกาสชุมนุมร่วมกันอีกกับเพื่อนผู้สรรเสริญพระยะโฮวาผู้ซึ่ง “รู้สำนึกถึงความจำเป็นฝ่ายวิญญาณของตน” และมีความยินดีอีกทั้งกระหายจะ “ฟังสิ่งซึ่งพระวิญญาณตรัสแก่ประชาคมทั้งหลาย.”—มัด. 5:3, ล.ม.; วิ. 2:29, ล.ม.
2 จงเตรียมการเพื่อจะเข้าร่วมประชุมทั้งสามวัน: ซาตานพยายามทำให้คุณเขวจากการเอาใจใส่สิ่งฝ่ายวิญญาณไหม? น่าเศร้าที่มีพี่น้องหลายคนกับครอบครัวเขาพลาดโอกาสได้รับอาหารฝ่ายวิญญาณอันสำคัญยิ่ง. โดยวิธีใด? โดยไม่เข้าร่วมการประชุมภาคในวันศุกร์. ในหลายกรณี เคยมีการสังเกตเห็นว่าพี่น้องของเราหลายเปอร์เซ็นต์ทีเดียวที่ไม่ได้รับคำสั่งสอนและการคบหาฝ่ายวิญญาณซึ่งส่วนการประชุมในวันศุกร์จัดให้.
3 เป็นไปได้ที่พี่น้องบางคนไม่อยากเข้าไปขอลาหยุดงานกับนายจ้างเพื่อเข้าร่วมการประชุมภาค. สภาพการณ์ของคุณเป็นอย่างนี้ไหม? คุณน่าจะทูลเรื่องนี้กับพระยะโฮวาในการอธิษฐานและปลุกเร้าความกล้าเพื่อชี้แจงสภาพการณ์ของคุณกับนายจ้างมิใช่หรือ? จงระลึกถึงผลดีที่เกิดแก่นะเฮมยาซึ่งอยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน. (นเฮม. 2:1-6) จงมีความเชื่อว่าพระบิดาของเราในสวรรค์เต็มพระทัยจะช่วยคุณ โดยรู้อยู่ว่าถ้าคุณจัดให้ผลประโยชน์ราชอาณาจักรอยู่ในอันดับแรกละก็ พระองค์จะทรงจัดหาสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ในชีวิตให้.—มัด. 6:32ข, 33.
4 การประชุมภาคของเราส่งผลกระทบอย่างไรต่อคุณ? พี่น้องหญิงคนหนึ่งจากภาคตะวันออกของสหรัฐเขียนมาว่า “ขอบคุณมากสำหรับการประชุมภาค 1999. การคบหากับพี่น้องซึ่งดิฉันได้พบแค่ปีละครั้งทำให้ดิฉันยินดีมาก. ดิฉันได้พบความจริงตอนเป็นวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ และด้วยความรักใคร่มากมาย ดิฉันยังระลึกถึงตอนที่ผู้นำการศึกษาพระคัมภีร์ของดิฉันพาดิฉันไปยังการประชุมภาคเป็นครั้งแรก. ดิฉันมองดูเมฆที่อยู่เหนือศีรษะดิฉันในสนามกีฬากลางแจ้งขณะที่เราร้องเพลงราชอาณาจักร ‘พี่น้องมากมายมหาศาล’ และดิฉันร้องไห้. ดิฉันถามตัวเองว่า ‘ในเมื่อมีผู้คนที่น่ารักเหล่านี้รอบข้างฉัน พระยะโฮวาทรงต้องการฉันอีกหรือ? วันนั้นดิฉันตัดสินใจจะรับใช้พระยะโฮวาอย่างเต็มที่.” ช่างน่าอบอุ่นใจจริง ๆ! แน่นอน เป็นเรื่องที่ทำให้ยินดีมิใช่หรือที่ได้คบหากับประชาชนที่สะอาดของพระยะโฮวา?
5 ในช่วงปลายของสมัยสุดท้าย จำเป็นยิ่งกว่าก่อนที่เราต้องมีการประชุมภาคประจำปี. นี่เป็นการจัดเตรียมจากพระยะโฮวาเพื่อธำรงสุขภาพและความสมดุลฝ่ายวิญญาณของเรา. ฉะนั้น จงตั้งใจแน่วแน่จะเข้าร่วมการประชุมภาค “ผู้ปฏิบัติตามพระคำของพระเจ้า” ในปีนี้ทั้งสามวัน. คุณจะทำตามความตั้งใจแน่วแน่ของคุณได้อย่างไร? จงขอลาหยุดงานล่วงหน้ากับนายจ้างของคุณเพื่อเข้าร่วมการประชุมภาคโดยตลอด. ถ้าคุณมีโภคทรัพย์จำกัด จงเริ่มกันเงินทุนที่จำเป็นสำหรับการเข้าร่วมประชุมไว้ต่างหากเสียแต่เดี๋ยวนี้. จงทูลขอพระยะโฮวาให้ช่วยคุณเอาชนะอุปสรรคไม่ว่าในเรื่องใด. ขณะที่คุณทำเช่นนั้น คุณสามารถคอยท่าการได้รับมิตรภาพอันอบอุ่นจากพี่น้องและได้ฟังพระคำแห่งชีวิตนิรันดร์จากพระยะโฮวาพระบิดาที่รักของเราผู้สถิตในสวรรค์.—เทียบกับโยฮัน 6:68.
-
-
การหาเหตุผลจากพระคัมภีร์ หน้า 64-67พระราชกิจ 1999 | ธันวาคม
-
-
การหาเหตุผลจากพระคัมภีร์ หน้า 64-67
ถ้ามีคนพูดว่า—‘ผมไม่เชื่อคัมภีร์ไบเบิล’
คุณอาจตอบว่า: ‘แต่คุณก็เชื่อว่ามีพระเจ้าใช่ไหมครับ? . . . ขอผมถามหน่อยนะครับว่า มีอะไรในคัมภีร์ไบเบิลที่คุณคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ?’
หรือคุณอาจพูดว่า: ‘คุณคิดอย่างนี้ตลอดมาเลยหรือเปล่าครับ? . . . ผมเคยได้ยินคนอื่นพูดอย่างนั้น แม้ว่าเขาไม่เคยศึกษาคัมภีร์ไบเบิลโดยตลอด. แต่เนื่องจากคัมภีร์ไบเบิลบอกไว้ชัดว่าคัมภีร์ไบเบิลเป็นข่าวสารจากพระเจ้าและพระองค์เสนอชีวิตนิรันดร์แก่เราถ้าเราเชื่อและดำเนินชีวิตตามที่คัมภีร์ไบเบิลบอก คุณเห็นด้วยไหมครับว่า อย่างน้อยก็คงจะคุ้มค่าถ้าจะตรวจสอบว่า ที่คัมภีร์ไบเบิลอ้างอย่างนั้นจะจริงหรือเปล่า? (ใช้เนื้อหาในหน้า 60-63.)’
‘คัมภีร์ไบเบิลขัดแย้งในตัวเอง’
คุณอาจตอบว่า: ‘เคยมีคนอื่นบอกผมอย่างนี้เหมือนกันครับ แต่ไม่มีใครเคยแสดงให้ผมเห็นได้เลยว่าที่ขัดแย้งจริง ๆ น่ะเป็นตรงไหน. และตามที่ผมอ่านคัมภีร์ไบเบิลเอง ผมไม่เคยเห็นสักแห่งที่ขัดแย้งกัน. คุณจะช่วยยกตัวอย่างให้ผมดูสักแห่งได้ไหมครับ? แล้วอาจเสริมว่า: ‘ที่ผมเคยพบคือ หลายคนเพียงแต่ไม่เคยพบคำตอบสำหรับคำถามที่คัมภีร์ไบเบิลทำให้เขาคิด. ตัวอย่างเช่น คายินได้ภรรยามาจากไหน? (ใช้เนื้อหาในหน้า 301, 302.)’
‘มนุษย์เป็นผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิล’
คุณอาจตอบว่า: ‘ใช่ครับ. มีประมาณ 40 คนที่มีส่วนในการเขียนคัมภีร์ไบเบิล. แต่การเขียนนั้นมีขึ้นโดยการดลใจ จากพระเจ้า.’ แล้วอาจเสริมว่า: (1) ‘นั่นหมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าพระเจ้าทรงชี้นำการเขียน เหมือนที่นักธุรกิจใช้เลขานุการให้เขียนจดหมายให้เขา.’ (2) ‘แนวคิดเรื่องการได้รับข่าวสารจากใครสักคนที่อยู่ไกลออกไปในอวกาศคงไม่ทำให้เราประหลาดใจนะครับ. แม้แต่มนุษย์ก็เคยส่งข่าวสารและภาพจากดวงจันทร์. พวกเขาทำได้อย่างไร? ก็โดยใช้กฎต่าง ๆ ที่พระผู้สร้างเองได้เริ่มตั้งขึ้นนานมาแล้ว.’ (3) ‘แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่มีอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลมาจากพระผู้สร้างจริง ๆ? คัมภีร์ไบเบิลบรรจุความรู้ซึ่งไม่อาจมาจากแหล่งของมนุษย์ได้เลย. อย่างเช่น รายละเอียดเกี่ยวกับอนาคต; และรายละเอียดเหล่านั้นปรากฏว่าถูกต้องแม่นยำทั้งหมด. (ยกตัวอย่าง ดูหน้า 60-62, แล้วก็หน้า 234-239, ใต้หัวเรื่อง “สมัยสุดท้าย.”)’
‘แต่ละคนตีความคัมภีร์ไบเบิลกันเอง’
คุณอาจตอบว่า: ‘และเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ทุกคนตีความถูก.’ แล้วอาจเสริมว่า: (1) ‘การบิดเบือนพระคัมภีร์ให้เข้ากับแนวคิดของตัวเราเองทำให้เกิดความเสียหายยาวนาน. (2 เป. 3:15, 16)’ (2) ‘มีสองสิ่งที่ช่วยเราให้เข้าใจคัมภีร์ไบเบิลได้อย่างถูกต้อง. สิ่งแรกคือ พิจารณาบริบท (ข้อที่อยู่ก่อนและหลัง) ของข้อความนั้น. จากนั้น เทียบข้อนั้นกับข้อความอื่นในคัมภีร์ไบเบิลซึ่งกล่าวถึงเรื่องเดียวกัน. ด้วยวิธีนี้เรากำลังให้พระคำของพระเจ้าชี้นำความคิดเรา และพระเจ้าเป็นผู้ตีความไม่ใช่เรา. นั่นแหละคือวิธีการที่ใช้ในหนังสือต่าง ๆ ของสมาคมว็อชเทาเวอร์.’ (ดูหน้า 204, 205, ภายใต้หัวเรื่อง “พยานพระยะโฮวา.”)
‘คัมภีร์ไบเบิล ใช้ไม่ได้กับสมัยของเรา’
คุณอาจตอบว่า: ‘และเราสนใจสิ่งที่ใช้ได้ผลกับพวกเราในสมัยนี้ใช่ไหมครับ?’ แล้วอาจเสริมว่า: (1) ‘คุณคงเห็นด้วยนะครับว่าการทำให้สงครามยุติลงเป็นเรื่องมีประโยชน์? . . . คุณเห็นด้วยใช่ไหมว่าถ้าผู้คนเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันอย่างสันติกับคนชาติอื่น ๆ ย่อมเป็นการเริ่มต้นที่ดี? . . . คัมภีร์ไบเบิลบอกล่วงหน้าไว้อย่างนั้นแหละ. (ยซา. 2:2, 3) เนื่องจากการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นท่ามกลางพยานพระยะโฮวาในทุกวันนี้.’ (2) ‘ยังต้องมีมากกว่านั้นอีก นั่นคือการขจัดมนุษย์และชาติทั้งหลายที่ทำให้เกิดสงคราม. เรื่องนี้จะมีวันเกิดขึ้นไหม? ใช่ และคัมภีร์ไบเบิลก็อธิบายว่าจะเกิดขึ้นอย่างไร. (ดานิ. 2:44; เพลง. 37:10, 11)’
หรือคุณอาจพูดว่า: ‘ผมขอบคุณที่เป็นห่วง. ถ้าคู่มือเล่มไหนใช้ไม่ได้ผล เราคงไม่ฉลาดใช่ไหมครับถ้าเราใช้คู่มือนั้น?’ แล้วอาจเสริมว่า: ‘คุณคงเห็นด้วยนะครับว่า หนังสือที่ให้คำแนะนำที่ดีซึ่งทำให้เราสามารถมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขย่อมใช้ได้ผลจริง? . . . ทฤษฎีและวิธีปฏิบัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตครอบครัวมีการเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกหลายครั้งหลายหน และผลที่เราเห็นอยู่ในทุกวันนี้ก็มีแต่ผลเสีย. แต่ผู้ที่รู้จักและทำตามสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลบอกต่างก็มีครอบครัวที่มั่นคงและมีความสุข. (โกโล. 3:12-14, 18-21)’
‘คัมภีร์ไบเบิล เป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่ง แต่ก็ไม่มีหนังสือใดที่เป็นความจริงไปเสียทั้งหมด’
คุณอาจตอบว่า: ‘ก็จริงนะครับที่แต่ละคนมีความเห็นต่าง ๆ กันไป. และถึงแม้มีคนคิดว่าเขาเข้าใจเรื่องหนึ่งแล้ว แต่เขาก็มักพบว่าอย่างน้อยก็มีปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่เขาไม่ได้พิจารณา. แต่มีผู้หนึ่งซึ่งไม่มีข้อจำกัดอย่างนั้น. เป็นใครล่ะ? . . . ก็คือพระผู้สร้างเอกภพ.’ แล้วอาจเสริมว่า: (1) ‘นั่นแหละคือเหตุผลที่พระเยซูคริสต์ตรัสถึงพระองค์ว่า “พระคำของพระองค์เป็นความจริง.” (โย. 17:17) ความจริงนั้นอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล. (2 ติโม. 3:16, 17)’ (2) ‘พระเจ้าไม่ทรงประสงค์ให้เราคลำหาด้วยความไม่รู้อะไรเลย พระองค์ตรัสไว้ว่าพระองค์มีพระทัยประสงค์ให้เราบรรลุความรู้ถ่องแท้เรื่องความจริง. (1 ติโม. 2:3, 4) คัมภีร์ไบเบิลให้คำตอบที่ละเอียดน่าพอใจสำหรับคำถามอย่างเช่น . . . ’ (เพื่อช่วยบางคน คุณอาจต้องพิจารณากับเขาก่อนในเรื่องหลักฐานสำหรับความเชื่อในเรื่องการดำรงอยู่ของพระเจ้า. ดูที่หน้า 145-151 ภายใต้หัวเรื่อง “พระเจ้า.”)
‘คัมภีร์ไบเบิลเป็นหนังสือของพวกฝรั่ง’
คุณอาจตอบว่า: ‘จริงครับที่ว่าพวกเขาพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลจำนวนมาก. แต่คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอกว่าชาติพันธุ์ไหนดีกว่าชาติพันธุ์อื่น.’ แล้วคุณอาจเสริมว่า: (1) ‘คัมภีร์ไบเบิลมาจากพระผู้สร้างของเรา และพระองค์ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง. (กิจ. 10:34, 35)’ (2) ‘พระคำของพระเจ้าเสนอโอกาสให้ผู้คนทุกชาติทุกเผ่าพันธุ์จะได้มีชีวิตอยู่ตลอดไปบนแผ่นดินโลกนี้ภายใต้ราชอาณาจักรของพระองค์. (วิ. 7:9, 10, 17)’
หรือคุณอาจพูดว่า: ‘เปล่าเลยครับ! พระผู้สร้างมนุษยชาติทรงเป็นผู้เลือกคนที่พระองค์จะทรงดลใจเขาให้เขียนพระธรรม 66 เล่มในคัมภีร์ไบเบิล. และถ้าพระองค์ทรงเลือกใช้คนผิวขาว นั่นก็เป็นสิทธิ์ของพระองค์. แต่ข่าวสารในคัมภีร์ไบเบิลไม่ได้ถูกจำกัดไว้สำหรับคนขาวเท่านั้น.’ แล้วคุณอาจเสริมว่า: (1) ‘ขอให้สังเกตที่พระเยซูตรัสสิครับ . . . (โย. 3:16) “ทุกคน” นั้นรวมถึงผู้คนไม่ว่าผิวสีอะไร. นอกจากนั้น ก่อนเสด็จขึ้นสวรรค์ พระเยซูตรัสถ้อยคำเหล่านี้โดยเฉพาะแก่เหล่าสาวกของพระองค์ . . . (มัด. 28:19)’ (2) ‘น่าสนใจ ที่กิจ. 13:1 บอกถึงคนหนึ่งที่ชื่อนิเกร์ ซึ่งชื่อนี้หมายความว่า “ดำ.” เขาเป็นผู้พยากรณ์และผู้สอนคนหนึ่งในประชาคมในเมืองอันติโอเกียที่ซีเรีย.’
-
-
การทบทวนโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้าพระราชกิจ 1999 | ธันวาคม
-
-
การทบทวนโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า
การทบทวนโดยไม่ดูจากหนังสือเกี่ยวกับเนื้อหาในส่วนมอบหมายต่าง ๆ ในโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้าสำหรับสัปดาห์เริ่มวันที่ 6 กันยายน 1999 ถึง 20 ธันวาคม 1999. จงใช้กระดาษต่างหากเพื่อเขียนคำตอบสำหรับคำถามต่าง ๆ ให้มากเท่าที่คุณจะทำได้ในเวลาที่กำหนดให้.
[หมายเหตุ: ระหว่างการทบทวนเขียนตอบ จะใช้พระคัมภีร์เท่านั้นเพื่อหาคำตอบใด ๆ ก็ได้. ข้ออ้างอิงท้ายคำถามนั้นสำหรับให้คุณค้นคว้าเป็นส่วนตัว. ข้ออ้างอิงถึง เดอะ ว็อชเทาเวอร์ อาจไม่มีเลขหน้าและวรรคกำกับไว้ทุกข้อ.
จงตอบว่าข้อความต่อไปนี้จริงหรือไม่จริง:
1. พระยะโฮวาทรงยอมให้มีการปกครองโดยเอกเทศของมนุษย์เพื่อพิสูจน์ว่าวิธีการปกครองของพระองค์ถูกต้องและเที่ยงธรรมเสมอ. (บัญ. 32:4; โยบ 34:10-12; ยิระ. 10:23) [หอฯ 15/2/97 หน้า 5 ว. 3.]
2. คัมภีร์ไบเบิลบ่งชี้ว่าพระเจ้าทรงตำหนิการบ่นทุกอย่าง. [หอฯ 1/12/97 หน้า 30 ว. 3-4]
3. บิดามารดารักษาสายสัมพันธ์กับบุตรของคนที่แต่งงานไปแล้วด้วยทัศนคติที่เหมาะสมโดยการยอมรับหลักการของพระเจ้าในเรื่องตำแหน่งประมุขและระเบียบที่ดี. (เย. 2:24; 1 โก. 11:3; 14:33, 40) [ครอบครัว หน้า 164 ว. 6]
4. มาระโก 6: 31-34 แสดงว่าพระเยซูทรงรู้สึกสงสารฝูงชนเพียงเพราะความเจ็บป่วยและยากจนของพวกเขา. [หอฯ 15/12/97 หน้า 29 ว. 1]
5. ถ้าคริสเตียนในจำพวกแกะอีกฝูงหนึ่งไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์ เขาควรฉลองอนุสรณ์ในเดือนถัดไป โดยประสานกับหลักการในอาฤธโม 9:10, 11. (โย. 10:16) [การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดูหอฯ 1/2/93 หน้า 31 ว. 9.]
6. ขณะที่คริสเตียนที่เป็นปู่ยาตายายไม่ทำหน้าที่รับผิดชอบแทนพ่อแม่ในการพร่ำสอนความจริงในคัมภีร์ไบเบิลแก่ลูก ๆ แต่ปู่ยาตายายก็อาจมีบทบาทในการช่วยเสริมพัฒนาการฝ่ายวิญญาณของหลานได้. (บัญ. 6:7; 2 ติโม. 1:5; 3:14, 15) [ครอบครัว หน้า 168 ว. 15]
7. สุภาษิต 6:30 แสดงว่าการขโมยอาจมีข้อแก้ตัวหรือข้อแก้ต่างได้ภายใต้สภาพการณ์บางอย่าง. [ตื่นเถิด! 8/11/97 หน้า 19 ว. 2]
8. ในปี 1530 วิลเลียม ทินเดลเป็นคนแรกที่ใช้พระนามของพระเจ้า คือยะโฮวา ในฉบับแปลภาษาอังกฤษของพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรู. [หอฯ 15/9/97 หน้า 28 ว. 3]
9. ทุกวันนี้ เมืองคุ้มภัยตัวจริงคือการจัดเตรียมของพระเจ้าเพื่อปกป้องเราจากความตายเนื่องจากการละเมิดพระบัญญัติของพระองค์ที่ว่าด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของเลือด. (อาฤ. 35:11) [การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดูหอฯ 15/11/95 หน้า 17 ว. 8.]
10. ชื่อพระบัญญัติซึ่งหมายความว่า “พระบัญญัติที่สอง” นับว่าเหมาะสมเพราะพระธรรมนี้เป็นเพียงการกล่าวซ้ำพระบัญญัติ. [การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดู ทุกตอน หน้า 55 ว. 4.]
จงตอบคำถามต่อไปนี้:
11. ขนมปังใส่เชื้อสองก้อนที่มหาปุโรหิตถวายในเทศกาลเพนเตคอสเตนั้นเป็นภาพเล็งถึงอะไร? (เลวี. 23:15-17) [การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดูหอฯ 1/3/98 หน้า 13 ว. 21.]
12. จูบิลีของคริสเตียนเริ่มเมื่อไร และในเวลานั้นจูบิลีนี้นำอิสรภาพแบบใดมา? (เลวี. 25:10) [การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดูหอฯ 15/5/95 หน้า 24 ว. 14.]
13. ตามบันทึกในพระธรรมอาฤธโม การรอดชีวิตขึ้นอยู่กับสามสิ่งอะไรบ้าง? [ทุกตอน หน้า 45 ว. 1]
14. โดยวิธีใดที่โมเซเป็นตัวอย่างดีเยี่ยมในการสำแดงว่าท่านไม่มีน้ำใจริษยา? (อาฤ. 11:29) [การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดูหอฯ 15/9/95 หน้า 18 ว. 11.]
15. กรณีของโครา, ดาธาน, และอะบีรามแสดงให้เห็นอย่างไรว่า การเห็นไม่ได้นำไปสู่การเชื่อเสมอไป? [หอฯ 15/3/97 หน้า 4 ว. 2]
16. มีการเน้นการให้เกียรติบิดามารดาสูงอายุในสองด้านอะไรที่มัดธาย 15:3-6 และ 1 ติโมเธียว 5:4? [ครอบครัว บท 15 ว. 2-5]
17. มีการเน้นบทเรียนสำคัญอะไรที่อาฤธโม 26:64, 65? [การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดูตื่นเถิด! 8/8/95 หน้า 10-11 ว. 5-8.]
18. ตัวอย่างของฟีนะฮาศช่วยเราอย่างไรให้เข้าใจว่า การอุทิศตัวแด่พระยะโฮวาหมายความเช่นไร? (อาฤ. 25:11)
[การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดูหอฯ 1/3/95 หน้า 16 ว. 12-13.]
19. ผู้ที่อยู่ในเมืองลี้ภัยตัวจริงอาจ ‘ออกนอกเขต’ เมืองนั้นอย่างไร? (อาฤ. 35:26) [การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดูหอฯ 15/11/95 หน้า 20 ว. 20.]
20. โดยวิธีใดที่โคเดกซ์ไซนายติคุสก่อประโยชน์อย่างที่เหมาะกับเวลาแก่การแปลคัมภีร์ไบเบิล? [หอฯ 15/10/97 หน้า 11 ว. 2]
จงเติมคำในช่องว่างของข้อความต่อไปนี้ให้ครบถ้วน:
21. พระยะโฮวาทรงปล่อยให้ความชั่วมีอยู่เพื่อพิสูจน์ความจริงพื้นฐานครั้งเดียวและตลอดไปที่ว่า พระองค์ผู้เดียวทรงเป็น________________________และ________________________กฎหมายของพระองค์สำคัญยิ่งเพื่อสันติภาพและความสุขเรื่อยไปของสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง. (เพลง. 1:1-3; สุภา. 3:5, 6; ผู้ป. 8:9) [หอฯ 15/2/97 หน้า 5 ว. 4]
22. พระธรรมเลวีติโกโดดเด่นที่เน้นเรื่อง ________________________ ของเลือด โดยแสดงว่า การอนุญาตให้ใช้เลือดอย่างเดียวเท่านั้นคือใช้เป็น _________________________. [ทุกตอน หน้า 43 ว. 33]
23. ประสานกับบทเพลงสรรเสริญ 144:15ข ความสุขแท้เป็นสภาพของหัวใจ ซึ่งอาศัย _________________________ แท้ และ _________________________ ที่ดีกับพระยะโฮวา. [หอฯ 15/3/97 หน้า 23 ว. 7]
24. คัมภีร์ไบเบิลซึ่งเป็นผลจากการแปลพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูมาเป็นภาษากรีกสามัญ ซึ่งเสร็จประมาณปี 150 ก.ส.ศ. ได้มาเป็นที่รู้จักว่า _________________________; คัมภีร์ไบเบิลฉบับที่เจโรมแปลเป็นภาษาลาตินได้มาเป็นที่รู้จักว่า _________________________ แปลเสร็จประมาณปี ส.ศ. 400. [หอฯ 15/8/97 หน้า 9 ว. 1; หน้า 10 ว. 4]
25. โดยอ้างถึงเรื่องราวเกี่ยวกับบีละอามกับโคราที่มีบันทึกไว้ในพระธรรมอาฤธโม ยูดาเตือนคริสเตียนให้ระวังหลุมพรางแห่ง _____________________________ และ _____________________________. [ทุกตอน หน้า 53 ว. 35]
จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องในข้อต่อไปนี้:
26. ปีละครั้ง ใน (เทศกาลตั้งทับอาศัย; วันไถ่โทษ; วันปัศคา) ชาวยิศราเอลทั้งชาติ รวมทั้งคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ด้วยซึ่งนมัสการพระยะโฮวา ต้อง (หยุดการงานทุกอย่าง; จ่ายสิบชักหนึ่ง) และถือศีลอดอาหาร. (เลวี. 16:29-31) [การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดูหอฯ 1/7/96 หน้า 10 ว. 12.]
27. เป้าหมายประการหนึ่งของคณะกรรมการการแปลคัมภีร์ไบเบิลฉบับโลกใหม่คือ เพื่อผลิตฉบับแปลที่ (เป็นไปตามตัวอักษรเท่าที่เป็นไปได้; ถอดความจากภาษาเดิม; เป็นไปตามความเข้าใจหลักคำสอนเฉพาะอย่าง) เพื่อให้ผู้อ่านเข้าถึงอรรถรสของภาษาเดิมและกระบวนการคิดซึ่งรวมอยู่ด้วยให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น. [หอฯ 15/10/97 หน้า 11 ว. 5]
28. ตามเฮ็บราย 13:19 การอธิษฐานไม่ละลดของเพื่อนร่วมความเชื่ออาจก่อผลแตกต่างกันเกี่ยวกับ (สิ่งที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้, เวลาที่พระเจ้าทรงปฏิบัติการ; วิธีที่พระเจ้าจะพลิกผันเรื่องราว.) [หอฯ 15/4/97 หน้า 6 ว. 1]
29. ชาวยิศราเอลถูกเรียกร้องให้ปัก “ด้ายสีฟ้าเหนือพู่รอบชายเสื้อ” ของตนเพื่อเป็น (สิ่งประดับอันศักดิ์สิทธิ์; สัญลักษณ์แห่งความเจียมตน; สิ่งเตือนใจที่มองเห็นซึ่งให้แยกตัวต่างหากจากโลกในฐานะไพร่พลของพระยะโฮวา) (อาฤ. 15:38, 39) [การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดูหอฯ 1/5/84 หน้า 23 ว. 16.]
30. ระยะเวลาที่พระธรรมพระบัญญัติครอบคลุมคือ (สองเดือน; หนึ่งปี; สองปี) และพระธรรมนี้เขียนเสร็จตอนต้นปี (1513; 1473; 1467) ก.ส.ศ. [ทุกตอน หน้า 56 ว. 6]
จงจับคู่ข้อคัมภีร์ต่อไปนี้กับข้อความข้างล่าง:
อาฤ. 16:41, 49; มัด. 19:9; ลูกา 2:36-38; โกโล. 2:8; 3:14
31. ลัทธิถือสันโดษไม่ได้นำไปสู่ความบริสุทธิ์เป็นพิเศษหรือความสว่างที่แท้จริง. [g 8/10/97 หน้า 21 ว. 3]
32. การผิดประเวณีเป็นสาเหตุเดียวตามหลักพระคัมภีร์สำหรับการหย่าร้างแล้วแต่งงานใหม่ได้. [ครอบครัว หน้า 158 ว. 15]
33. การเป็นคนที่ขันแข็งมาก ๆ ในกิจกรรมตามระบอบของพระเจ้าแม้แต่ในบั้นปลายชีวิตสามารถช่วยคนเราให้รับมือกับการสูญเสียคู่ชีวิตได้. [ครอบครัว หน้า 170 ว. 21]
34. การจับผิดวิธีที่พระยะโฮวาทรงดำเนินการตามความยุติธรรมโดยทางผู้รับใช้ที่พระองค์ทรงตั้งไว้อาจก่อผลหายนะได้. [การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์; ดูหอฯ 15/6/96 หน้า 21 ว. 13.]
35. ความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวผูกพันคู่สมรสเข้าด้วยกันและทำให้ทั้งสองอยากทำดีที่สุดเพื่อกันและกันและเพื่อลูก. [ครอบครัว หน้า 187 ว. 11]
S-98SI #299 12⁄99
-