การศึกษาพระคัมภีร์ที่มีขึ้นโดยการดลใจพร้อมด้วยภูมิหลัง
บทเรียนที่ 7—คัมภีร์ไบเบิลในสมัยปัจจุบัน
ประวัติของสมาคมคัมภีร์ไบเบิล; งานของสมาคมว็อชเทาเวอร์ในการจัดทำและการพิมพ์คัมภีร์ไบเบิล; การผลิตฉบับแปลโลกใหม่.
1. (ก) มีการให้ข่าวสารจากพระเจ้าเพื่อวัตถุประสงค์อะไร และเหตุใดข่าวสารบางอย่างจึงไม่มีการบันทึกไว้? (ข) พระยะโฮวาทรงให้คำสั่งอะไรโดยเฉพาะแก่ผู้พยากรณ์หลายคน และเป็นประโยชน์แก่เราอย่างไรใน “สมัยสุดท้าย”?
พระคัมภีร์บริสุทธิ์ พระธรรมทั้ง 66 เล่มที่มีขึ้นโดยการดลใจซึ่งเรารู้จักกันในทุกวันนี้ว่าเป็นคัมภีร์ไบเบิล บรรจุ “คำของพระยะโฮวา” เป็นลายลักษณ์อักษร. (ยซา. 66:5) ตลอดหลายศตวรรษ “คำ” นี้ได้หลั่งไหลอย่างสะดวกจากพระยะโฮวามายังผู้พยากรณ์และผู้รับใช้ของพระองค์บนแผ่นดินโลก. ข่าวสารเหล่านี้จากพระเจ้าสำเร็จผลตามวัตถุประสงค์ในเวลานั้นและยังให้ภาพล่วงหน้าแวบหนึ่งอย่างมีพลังเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตที่ห่างไกลจากสมัยนั้น. ผู้พยากรณ์ของพระเจ้าไม่จำเป็นต้องจด “คำของพระยะโฮวา” ที่มีการถ่ายทอดแก่พวกเขาไว้เสมอไป. ตัวอย่างเช่น ถ้อยคำบางตอนที่เอลียาและอะลีซาพูดกับคนในชั่วอายุของท่านทั้งสองไม่ได้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นลายลักษณ์อักษร อีกด้านหนึ่ง ผู้พยากรณ์โมเซ, ยะซายา, ยิระมะยา, ฮะบาฆูค และคนอื่น ๆ ได้รับคำสั่งโดยเฉพาะให้ ‘เขียนไว้’ หรือ ‘เขียนไว้ในหนังสือหรือม้วนหนังสือ’ ซึ่ง “คำของพระยะโฮวา” ที่มีการเปิดเผยแก่พวกเขา. (เอ็ก. 17:14; ยซา. 30:8; ยิระ. 30:2; ฮบา. 2:2, ล.ม.; วิ. 1:11, ล.ม.) “คำกล่าวที่พวกผู้พยากรณ์บริสุทธิ์ได้กล่าวไว้แต่ก่อน” จึงถูกรักษาไว้ด้วยวิธีนี้ พร้อมกับข้อความศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ เพื่อกระตุ้นความสามารถในการคิดอันแจ่มชัดของผู้รับใช้ของพระยะโฮวาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้การชี้นำเกี่ยวกับ “สมัยสุดท้าย.”—2 เป. 3:1-3, ล.ม.
2. เป็นที่สังเกตว่ามีการทำสำเนาและการแปลคัมภีร์ไบเบิลเพิ่มขึ้นในช่วงใดบ้างของประวัติศาสตร์?
2 การคัดสำเนาจำนวนมากของพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูที่มีขึ้นโดยการดลใจทำกันตั้งแต่สมัยของเอษราเป็นต้นมา. เริ่มในศตวรรษแรกแห่งสากลศักราช มีการคัดสำเนาคัมภีร์ไบเบิลซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยคริสเตียนรุ่นแรกและใช้ในการให้คำพยานเรื่องพระประสงค์ของพระยะโฮวาเกี่ยวกับพระคริสต์ของพระองค์ไปตลอดทั่วโลกที่รู้จักกันในสมัยนั้น. เมื่อการพิมพ์ด้วยตัวเรียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไป (ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 เป็นต้นมา) จึงมีการเร่งการเพิ่มจำนวนและการจำหน่ายจ่ายแจกคัมภีร์ไบเบิลมากขึ้น. การแปลและการพิมพ์ส่วนมากดำเนินการโดยกลุ่มเอกชนในศตวรรษที่ 16 และ 17. แค่ในปี 1800 คัมภีร์ไบเบิลครบชุดหรือบางส่วนก็มีใน 71 ภาษาแล้ว.
สมาคมคัมภีร์ไบเบิล
3. ปัจจัยอะไรมีส่วนช่วยอย่างมากให้มีการจำหน่ายจ่ายแจกคัมภีร์ไบเบิลเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ตอนต้นศตวรรษที่ 19?
3 งานนี้ถูกเร่งให้เร็วขึ้นในศตวรรษที่ 19 และ 20 เมื่อกลุ่มสมาคมคัมภีร์ไบเบิลที่ตั้งขึ้นไม่นานเริ่มมีส่วนร่วมในงานใหญ่โตเพื่อจำหน่ายจ่ายแจกคัมภีร์ไบเบิล. หนึ่งในสมาคมคัมภีร์ไบเบิลกลุ่มแรก ๆ คือ สมาคมบริติช แอนด์ ฟอเรน ไบเบิล ซึ่งก่อตั้งขึ้นในลอนดอนเมื่อปี 1804. การก่อตั้งสมาคมคัมภีร์ไบเบิลแห่งนี้กระตุ้นให้มีการตั้งสมาคมเช่นนั้นอีกหลายสมาคม.a
4. (ก) สถิติอะไรพิสูจน์ว่าคำแห่งชีวิตได้แพร่ไปทั่วโลกจริง ๆ? (ข) มีการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อะไรในแผนภูมิหน้า 406 เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลต่าง ๆ ที่ลงรายชื่อไว้? จงยกตัวอย่างโดยอ้างอิงถึงฉบับแปลคัมภีร์ไบเบิลบางฉบับโดยเฉพาะ.
4 เนื่องด้วยมีสมาคมคัมภีร์ไบเบิลมากมายหลายแห่งดำเนินงาน งานเผยแพร่คัมภีร์ไบเบิลจึงเจริญก้าวหน้า. ในปี 1900 มีคัมภีร์ไบเบิลครบชุดหรือเป็นบางส่วนใน 567 ภาษา และมาในปี 1928 ก็เพิ่มเป็น 856 ภาษา. พอถึงปี 1938 มีมากกว่า 1,000 ภาษา และปัจจุบัน คัมภีร์ไบเบิลมีให้หาอ่านได้ในมากกว่า 2,000 ภาษา. คำแห่งชีวิตอันทำให้สดชื่นของพระยะโฮวาจึงแพร่ไปทั่วแผ่นดินโลก! ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่คนจากทุกชาติจะตอบรับเสียงเรียกที่ว่า “ชาติทั้งหลาย จงสรรเสริญพระยะโฮวา และให้ชนชาติทั้งปวงสรรเสริญพระองค์.” (โรม 15:11, ล.ม.) แผนภูมิ “ฉบับแปลคัมภีร์ไบเบิลที่เด่น ๆ บางฉบับในเจ็ดภาษาหลัก” หน้า 406 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจำหน่ายจ่ายแจกคัมภีร์ไบเบิลในสมัยปัจจุบัน.
5. อะไรที่สำคัญยิ่งกว่าการจำหน่ายจ่ายแจกคัมภีร์ไบเบิล ถึงกระนั้น พยานพระยะโฮวารู้สึกขอบคุณในเรื่องใด?
5 แม้การทำให้คัมภีร์ไบเบิลมีให้หาอ่านได้สำหรับคนมากมายบนแผ่นดินโลกเป็นงานที่น่าชมเชย แต่การใช้คัมภีร์ไบเบิลเพื่อทำให้ประชาชนมีความเข้าใจเป็นงานที่สำคัญยิ่งกว่า. การถ่ายทอด “ความหมาย” ของคำเป็นเรื่องสำคัญในสมัยยิวและสมัยคริสเตียนรุ่นแรก ซึ่งเป็นเวลาที่คัมภีร์ไบเบิลมีให้หาอ่านได้ไม่มาก และเรื่องนี้ยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด. (มัด. 13:23, ล.ม.; นเฮม. 8:8) อย่างไรก็ตาม งานสอนพระคำของพระเจ้าแก่ชนชาติทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลกถูกเร่งให้เร็วขึ้นโดยการจำหน่ายจ่ายแจกคัมภีร์ไบเบิลอย่างกว้างขวาง. ขณะที่พยานพระยะโฮวาในทุกวันนี้รุดหน้าในงานให้การศึกษาคัมภีร์ไบเบิลทั่วโลก พวกเขารู้สึกขอบคุณที่เดี๋ยวนี้มีคัมภีร์ไบเบิลหลายล้านเล่มให้หาอ่านได้ในหลายดินแดนและหลายภาษา.
พยานพระยะโฮวา ในฐานะผู้จัดทำคัมภีร์ไบเบิล
6. กิจกรรมอะไรในทุกวันนี้ที่ระบุลักษณะเฉพาะของพยานพระยะโฮวาเช่นเดียวกับในสมัยโบราณ?
6 พยานของพระยะโฮวาเป็นกลุ่มคนที่จัดทำคัมภีร์ไบเบิล. ในสมัยของเอษราก็เป็นเช่นนั้น. ในสมัยสาวกรุ่นแรกของพระเยซูคริสต์ก็เป็นเช่นนั้น พวกเขาทำให้โลกในสมัยโบราณเต็มไปด้วยสำเนาคัมภีร์ไบเบิลที่เขียนด้วยมือถึงขนาดที่สิ่งตกทอดมากมายซึ่งเราได้รับจากฉบับสำเนาพระธรรมต่าง ๆ ของพวกเขามีจำนวนมากกว่าหนังสือโบราณอื่นใด. ปัจจุบันนี้ การจัดทำคัมภีร์ไบเบิลอย่างแข็งขันแบบเดียวกันเป็นลักษณะเฉพาะของพยานพระยะโฮวา.
7. พยานพระยะโฮวาได้จัดตั้งนิติบุคคลอะไร? เมื่อไร? และพวกเขาเริ่มพัฒนางานรับใช้ในเวลานั้นอย่างไร?
7 ในปี 1884 พยานพระยะโฮวาได้ก่อตั้งนิติบุคคลเพื่อดำเนินงานจัดพิมพ์คัมภีร์ไบเบิล นิติบุคคลซึ่งบัดนี้เป็นที่รู้จักกันว่า สมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์แห่งเพนซิลเวเนีย. ตอนแรกพยานฯ เหล่านี้ ซึ่งขณะนั้นกำลังพัฒนางานรับใช้ตามบ้านอันเป็นลักษณะเฉพาะของตน ได้ซื้อคัมภีร์ไบเบิลจากสมาคมคัมภีร์ไบเบิลอื่น ๆ และจำหน่ายต่ออีกทอดหนึ่ง. พวกเขาใช้ฉบับแปลคิงเจมส์ ปี 1611 ภาษาอังกฤษเป็นฉบับพื้นฐานสำหรับการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล.
8. (ก) สมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ เป็นจริงสมชื่ออย่างไร? (ข) สมาคมฯใช้คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์อย่างไร และด้วยจุดประสงค์อะไร?
8 จริงสมชื่อ สมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์มีส่วนในการจำหน่ายจ่ายแจกคัมภีร์ไบเบิล รวมทั้งการพิมพ์หนังสือ, แผ่นพับ และหนังสือคริสเตียนเล่มอื่น ๆ. การนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสอนคำสอนที่ถูกต้องแห่งพระคำของพระเจ้า. การที่สมาคมฯ ให้การศึกษาคัมภีร์ไบเบิลได้ช่วยผู้ที่รักความชอบธรรมให้ละจากประเพณีของศาสนาเท็จและปรัชญาแบบโลกแล้วหันกลับมาสู่เสรีภาพแห่งความจริงของคัมภีร์ไบเบิลตามที่ได้เปิดเผยโดยทางพระเยซูและโฆษกคนอื่น ๆ ที่อุทิศตัวแด่พระยะโฮวา. (โย. 8:31, 32) ตั้งแต่ตอนที่เริ่มมีการพิมพ์วารสารหอสังเกตการณ์ ในปี 1879 สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ของสมาคมว็อชเทาเวอร์ได้ยกข้อความจากคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลต่าง ๆ มากล่าวเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอ้างอิงและพาดพิงถึงด้วย. ดังนั้น สมาคมฯ ตระหนักถึงคุณค่าของฉบับแปลทั้งหมดนั้นและใช้ส่วนดีในฉบับแปลที่มีคุณค่าเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ในการขจัดความสับสนทางศาสนาและเสนอข่าวสารจากพระเจ้าอย่างชัดเจน.
9. สมาคมฯ ได้เข้าสู่แวดวงการพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลอย่างไร?
9 คัมภีร์ไบเบิลฉบับรอเทอร์แฮมและฮอลแมน. ในปี 1890 โดยอาศัยสมาคมว็อชเทาเวอร์ พยานพระยะโฮวาได้เข้าสู่แวดวงการเป็นผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายคัมภีร์ไบเบิลโดยตรง. ถึงตอนนั้น พวกเขาได้รับลิขสิทธิ์การพิมพ์จากโจเซฟ บี. รอเทอร์แฮม ผู้แปลคัมภีร์ไบเบิลชาวอังกฤษไว้แล้วเพื่อจะพิมพ์พันธสัญญาใหม่ ฉบับพิมพ์ครั้งที่สองของเขาในสหรัฐอเมริกา. ในหน้าแรกของฉบับพิมพ์เหล่านี้ มีชื่อสมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ แอลเลเกนี เพนซิลเวเนีย ซึ่งเวลานั้นสำนักงานกลางของสมาคมตั้งอยู่ที่นั่น. ในปี 1901 มีการจัดพิมพ์พิเศษสำหรับฮอลแมน ลีเนียร์ ไบเบิล ซึ่งมีคำอธิบายริมหน้าจากสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ของสมาคมฯ ในปี 1895 ถึง 1901. ข้อความในคัมภีร์ไบเบิลเองใช้ของพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูและภาคภาษากรีกฉบับแปลคิงเจมส์ และ ฉบับแปลรีไวสด์. ฉบับพิมพ์นี้ทั้ง 5,000 เล่มจำหน่ายหมดเมื่อถึงปี 1903.
10. พระคัมภีร์ภาคภาษากรีกฉบับแปลใดที่สมาคมฯ ได้เป็นผู้จัดพิมพ์ในปี 1902?
10 ดิ เอมฟาติก ไดอะกลอตต์. ในปี 1902 สมาคมว็อชเทาเวอร์ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์, ผู้จัดพิมพ์, และผู้จำหน่าย ดิ เอมฟาติก ไดอะกลอตต์ แต่ผู้เดียว. พระคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีกฉบับแปลนี้จัดทำโดยเบนจามิน วิลสัน ผู้แปลคัมภีร์ไบเบิลชาวอังกฤษโดยกำเนิด ที่เจนีวา มลรัฐอิลลินอยส์. ฉบับแปลนี้เสร็จในปี 1864. ฉบับแปลนี้ใช้ข้อความภาษากรีกของ เจ. เจ. กรีสบัค มีคำแปลภาษาอังกฤษตามตัวอักษรบรรทัดต่อบรรทัดและมีฉบับแปลของวิลสันเองอยู่ด้านขวาโดยใช้ลักษณะพิเศษในการเน้นของเขา.
11. สมาคมฯ ได้จัดพิมพ์ “ฉบับนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิล” เมื่อไร และฉบับนี้บรรจุอะไรไว้บ้าง?
11 ฉบับนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิล. ในปี 1907 สมาคมว็อชเทาเวอร์ได้จัดพิมพ์คัมภีร์ไบเบิล “ฉบับนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิล.” ฉบับนี้มีข้อความของฉบับแปลคิงเจมส์ที่พิมพ์ชัดเจนและมีหมายเหตุริมหน้าที่ดีเยี่ยม พร้อมกับภาคผนวกที่มีคุณค่าซึ่งจัดทำโดยพยานพระยะโฮวา. ภาคผนวกนี้ ซึ่งต่อมามีการขยายเป็นมากกว่า 550 หน้า เรียกกันว่า “คู่มือผู้สอนคัมภีร์ไบเบิลของชาวเบเรีย” และยังจัดพิมพ์เป็นเล่มหนึ่งต่างหากด้วย. คู่มือนี้มีคำอธิบายย่อ ๆ เกี่ยวกับหลายข้อในคัมภีร์ไบเบิล พร้อมกับข้ออ้างอิงถึงหอสังเกตการณ์ และหนังสืออื่น ๆ ของสมาคมฯ รวมทั้งข้อสรุปของหัวข้อหลักคำสอนโดยมีข้อคัมภีร์หลักเพื่อช่วยให้การเสนอเรื่องต่อคนอื่น ๆ ง่ายขึ้น. คู่มือนี้มีรูปแบบคล้ายกับสิ่งพิมพ์ของสมาคมฯ ในเวลาต่อมาคือ “จงทำให้แน่ใจในทุกสิ่ง” (ภาษาอังกฤษ). นอกจากนั้น ที่มีรวมอยู่ด้วยคือดัชนีหัวข้อ, คำอธิบายข้อความยาก ๆ, รายการข้อความแปลกปลอม, ดัชนีข้อพระคัมภีร์, ตารางเปรียบเทียบลำดับเวลา, และแผนที่ 12 หน้า. คัมภีร์ไบเบิลอันยอดเยี่ยมนี้ช่วยพยานพระยะโฮวาเป็นเวลาหลายสิบปีในงานประกาศแก่สาธารณชน.
สมาคมที่พิมพ์คัมภีร์ไบเบิล
12. สมาคมฯ เข้าสู่แวดวงการพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลเมื่อไร?
12 สมาคมว็อชเทาเวอร์ติดต่อบริษัทภายนอกให้พิมพ์คัมภีร์ไบเบิลของสมาคมฯ เป็นเวลา 30 ปี. แต่ในเดือนธันวาคม 1926 ดิ เอมฟาติก ไดอะกลอตต์ เป็นฉบับแปลคัมภีร์ไบเบิลฉบับแรกที่พิมพ์บนแท่นพิมพ์ของสมาคมฯ เองที่บรุกลิน นิวยอร์ก. การพิมพ์พระคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีกฉบับนี้กระตุ้นความหวังที่ว่า สักวันหนึ่งคัมภีร์ไบเบิลครบชุดจะพิมพ์บนแท่นพิมพ์ของสมาคมฯ.
13. (ก) คัมภีร์ไบเบิลครบชุดฉบับแรกฉบับใดที่สมาคมฯ จัดพิมพ์ และมีการออกเมื่อไร? (ข) คัมภีร์ไบเบิลฉบับนี้มีเครื่องช่วยอะไรบ้าง?
13 ฉบับแปลคิงเจมส์. สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เห็นความจำเป็นต้องพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลด้วยตนเอง. ขณะที่ความขัดแย้งทั่วโลกถึงขีดสุด สมาคมฯ ประสบผลสำเร็จในการซื้อแม่พิมพ์คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลคิงเจมส์ครบชุด. เมื่อวันที่ 18 กันยายน 1942 ที่การประชุมใหญ่โลกใหม่ตามระบอบของพระเจ้าของพยานพระยะโฮวา โดยมีที่ประชุมหลักอยู่ที่คลิฟแลนด์ โอไฮโอ นายกสมาคมฯได้บรรยายในหัวเรื่อง “การเสนอ ‘พระแสงแห่งพระวิญญาณ.’” ขณะที่คำบรรยายนี้ถึงจุดสุดยอด ท่านประกาศการออกคัมภีร์ไบเบิลครบชุดฉบับแรกนี้ซึ่งพิมพ์ในโรงงานของสมาคมว็อชเทาเวอร์ที่บรุกลิน. ในภาคผนวกของคัมภีร์ไบเบิลฉบับนี้มีรายการชื่อเฉพาะพร้อมทั้งความหมาย, “ศัพท์สัมพันธ์เกี่ยวกับคำและสำนวนในคัมภีร์ไบเบิล” ที่เตรียมไว้เป็นพิเศษ, รวมทั้งเครื่องช่วยอื่น ๆ. มีการใส่หัวเรื่องกำกับหน้าที่เหมาะสมในแต่ละหน้า. ตัวอย่างเช่น “คำปฏิญาณอย่างจริงใจของยิพธา” แทน “คำปฏิญาณอย่างหุนหันของยิพธา” ตามที่ใช้กันมาที่ผู้วินิจฉัยบท 11 และ “การดำรงอยู่ก่อนเป็นมนุษย์และการประสูติเป็นมนุษย์ของพระวาทะของพระเจ้า” ปรากฏที่โยฮันบท 1.
14. สมาคมฯ พิมพ์คัมภีร์ไบเบิลที่ปรับปรุงด้านการแปลแล้วฉบับใดในปี 1944 และคัมภีร์ไบเบิลเล่มนี้มีลักษณะเด่นอะไรบ้าง?
14 ฉบับแปลอเมริกัน สแตนดาร์ด. ฉบับแปลคัมภีร์ไบเบิลที่สำคัญอีกฉบับหนึ่งคือฉบับแปลอเมริกัน สแตนดาร์ด ปี 1901. ฉบับแปลนี้มีข้อเด่นที่น่าชมเชยอย่างยิ่งที่ใช้พระนามของพระเจ้าคือ “ยะโฮวา” เกือบ 7,000 ครั้งในพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรู. ในปี 1944 หลังจากเจรจาเป็นเวลานาน สมาคมว็อชเทาเวอร์จึงสามารถซื้อการใช้ แม่พิมพ์ของคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลอเมริกัน สแตนดาร์ดครบชุดเพื่อพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลฉบับนี้บนแท่นพิมพ์ของสมาคมฯ เอง. เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 1944 ที่เมืองบัฟฟาโล นิวยอร์ก เมืองหลักของการประชุมใหญ่ที่จัดพร้อมกัน 17 แห่งของพยานพระยะโฮวาซึ่งเชื่อมโยงกันโดยทางโทรศัพท์เอกชน นายกสมาคมฯ ได้ทำให้ผู้ฟังจำนวนมากปีติยินดีด้วยการออกฉบับแปลอเมริกัน สแตนดาร์ด ฉบับพิมพ์ของสมาคมว็อชเทาเวอร์. ในภาคผนวกมี “ศัพท์สัมพันธ์เกี่ยวกับคำ, ชื่อ, และสำนวนในคัมภีร์ไบเบิล” ที่มีการขยายความเพิ่มเติมซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งรวมอยู่ด้วย. คัมภีร์ไบเบิลฉบับเดียวกันนี้ในขนาดพ็อกเก็ตบุ๊กพิมพ์ในปี 1958.
15. สมาคมฯ ผลิตฉบับแปลอะไรในปี 1972?
15 คัมภีร์ไบเบิลในภาษาอังกฤษที่ใช้กัน (The Bible in Living English). ในปี 1972 สมาคมว็อชเทาเวอร์ได้ผลิตคัมภีร์ไบเบิลในภาษาอังกฤษที่ใช้กัน โดยสตีเวน ที. ไบอิงตัน ผู้ล่วงลับ. คัมภีร์ไบเบิลฉบับนี้ใช้พระนามของพระเจ้า คือ “ยะโฮวา” อย่างเสมอต้นเสมอปลาย.
16. ดังนั้น พยานพระยะโฮวาจึงทำงานสองอย่างอะไร?
16 ดังนั้น พยานพระยะโฮวาไม่เพียงประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรที่ตั้งขึ้นแล้วของพระเจ้าใน 200 กว่าประเทศและหมู่เกาะทั่วแผ่นดินโลกเท่านั้น แต่พวกเขายังกลายเป็นผู้พิมพ์เผยแพร่หนังสืออันล้ำค่าซึ่งบรรจุข่าวสารราชอาณาจักรออกไปอย่างกว้างขวางอีกด้วย คือพระคัมภีร์บริสุทธิ์ที่มีขึ้นโดยการดลใจจากพระยะโฮวาพระเจ้า.
พระคัมภีร์บริสุทธิ์ฉบับแปลโลกใหม่
17. (ก) ฉบับแปลคัมภีร์ไบเบิลหลายฉบับเป็นประโยชน์อย่างไร และถึงกระนั้น ฉบับแปลเหล่านั้นมีข้อบกพร่องอะไร? (ข) ตั้งแต่ปี 1946 นายกสมาคมว็อชเทาเวอร์เสาะหาอะไร?
17 พยานพระยะโฮวายอมรับว่าพวกเขาเป็นหนี้ฉบับแปลคัมภีร์ไบเบิลทั้งหมดหลายฉบับที่เขาใช้ศึกษาความจริงแห่งพระคำของพระเจ้า. อย่างไรก็ตาม ฉบับแปลทั้งหมดนั้น แม้แต่ฉบับหลังสุด ก็มีข้อบกพร่อง. มีการแปลที่ไม่เสมอต้นเสมอปลายหรือไม่น่าพอใจ ซึ่งเป็นผลจากประเพณีต่าง ๆ ของนิกายหรือหลักปรัชญาของโลก จึงไม่สอดคล้องอย่างครบถ้วนกับความจริงอันศักดิ์สิทธิ์ที่พระยะโฮวาทรงให้บันทึกไว้ในพระคำของพระองค์. โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ปี 1946 นายกสมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ ได้เสาะหาพระคัมภีร์ฉบับแปลที่ซื่อสัตย์จากภาษาดั้งเดิม—ฉบับแปลที่ผู้อ่านในยุคปัจจุบันจะเข้าใจได้ เหมือนกับข้อความดั้งเดิมที่สามัญชนซึ่งมีปัญญาในสมัยที่มีการเขียนคัมภีร์ไบเบิลเข้าใจได้.
18. โดยวิธีใดสมาคมฯ จึงได้มาเป็นผู้จัดทำและผู้พิมพ์ฉบับแปลโลกใหม่?
18 เมื่อวันที่ 3 กันยายน 1949 ณ สำนักงานกลางของสมาคมฯ ที่บรุกลิน นายกสมาคมฯ ได้แจ้งให้คณะกรรมการบริหารทราบถึงการมีคณะกรรมการการแปลคัมภีร์ไบเบิลฉบับโลกใหม่ และแจ้งว่าคณะกรรมการดังกล่าวได้ทำฉบับแปลภาษาสมัยใหม่ของพระคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีกเสร็จแล้ว. มีการอ่านเอกสารของคณะกรรมการการแปลนั้น ซึ่งคณะกรรมการการแปลได้มอบกรรมสิทธิ์, การควบคุม และการพิมพ์ฉบับแปลนั้นแก่สมาคมฯ โดยตระหนักถึงงานที่ไม่แบ่งแยกเป็นนิกายของสมาคมฯ ซึ่งส่งเสริมการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลตลอดทั่วแผ่นดินโลก. มีการอ่านต้นฉบับบางส่วนด้วยเพื่อเป็นตัวอย่างลักษณะและคุณภาพของการแปล. คณะกรรมการบริหารต่างเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ให้รับฉบับแปลอันเป็นของประทานนั้นไว้ และได้ดำเนินการพิมพ์ทันที. การเรียงพิมพ์เริ่มในวันที่ 29 กันยายน 1949 และเมื่อช่วงต้นฤดูร้อนปี 1950 คัมภีร์ไบเบิลแบบปกแข็งหลายหมื่นเล่มจึงพิมพ์เสร็จ.
19. (ก) ฉบับแปลโลกใหม่ ออกมาเป็นส่วน ๆ อย่างไร? (ข) มีการใช้ความพยายามอย่างไรในการตระเตรียมเล่มเหล่านี้?
19 การออกฉบับแปลโลกใหม่ เป็นส่วน ๆ. ในวันพุธที่ 2 สิงหาคม 1950 วันที่สี่ของการประชุมนานาชาติที่สนามกีฬาแยงกี นิวยอร์ก ผู้ฟังที่ประหลาดใจยิ่งซึ่งเป็นพยานพระยะโฮวาทั้งหมด 82,075 คนได้ตอบรับการออก พระคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีกฉบับแปลโลกใหม่ อย่างจริงใจ. เมื่อได้รับกำลังใจจากการตอบรับอย่างกระตือรือร้นในครั้งแรก อีกทั้งจากถ้อยคำแสดงความหยั่งรู้ค่าคุณภาพของงานแปลที่ได้รับในเวลาต่อมา คณะกรรมการการแปลจึงเริ่มดำเนินงานแปลพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูซึ่งเป็นงานใหญ่ต่อไป. พระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูออกเป็นชุด 5 เล่ม โดยออกตามลำดับตั้งแต่ปี 1953 ถึง 1960. ชุดหกเล่มนี้ประกอบเป็นห้องสมุดของคัมภีร์ไบเบิลภาษาอังกฤษสมัยใหม่ครบชุด. นอกจากนี้ แต่ละเล่มยังมีเครื่องช่วยศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่มีคุณค่าด้วย. ดังนั้น คลังความรู้เกี่ยวกับพระคัมภีร์จึงมีไว้พร้อมให้นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลสมัยปัจจุบันหาอ่านได้. มีการใช้ความพยายามอย่างขยันขันแข็งเพื่อค้นหาแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับข้อความทุกแหล่งที่ไว้ใจได้เพื่อฉบับแปลโลกใหม่ จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนและถูกต้องแม่นยำถึงข่าวสารอันทรงพลังของพระคัมภีร์ที่มีขึ้นโดยการดลใจตั้งแต่เดิม.
20. เครื่องช่วยอันมีค่าอะไรที่ฉบับแปลโลกใหม่ ฉบับพิมพ์ครั้งที่หนึ่งมีให้ใน (ก) เชิงอรรถ (ข) ข้ออ้างอิงริมหน้า และ (ค) คำนำและภาคผนวก?
20 ในบรรดาคู่มือศึกษาคัมภีร์ไบเบิลในฉบับแปลโลกใหม่ ฉบับพิมพ์ครั้งที่หนึ่งซึ่งมีหกเล่มนั้นก็มีเชิงอรรถอันล้ำค่าของข้อคัมภีร์ซึ่งให้ภูมิหลังของคำแปลต่าง ๆ. ในเชิงอรรถเหล่านั้นมีคำอธิบายที่มีน้ำหนักเพื่อปกป้องพระคัมภีร์. นอกจากนั้นยังมีระบบการอ้างอิงที่เชื่อมโยงกันซึ่งมีประโยชน์มาก. ถ้อยคำเกี่ยวกับหลักคำสอนสำคัญซึ่งเชื่อมโยงกันเหล่านี้จัดทำขึ้นเพื่อนำนักศึกษาไปยังชุดข้อพระคัมภีร์หลักที่เกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น. มีข้ออ้างอิงริมหน้าอีกเป็นจำนวนมาก. สิ่งเหล่านี้นำผู้อ่านไปยัง (ก) คำที่คล้ายกัน (ข) ความคิด, แนวคิด และเหตุการณ์ที่คล้ายกัน (ค) ข้อมูลด้านชีวประวัติ (ง) ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ (จ) ความสำเร็จของคำพยากรณ์ และ (ฉ) ข้อความที่ยกมากล่าวโดยตรงในหรือจากส่วนอื่น ๆ ของคัมภีร์ไบเบิล. นอกจากนี้ ในเล่มต่าง ๆ ยังมีคำนำที่สำคัญ, ภาพฉบับสำเนาโบราณบางฉบับ, ภาคผนวกและดัชนีที่เป็นประโยชน์ และแผนที่ดินแดนและสถานที่ต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล. ฉบับพิมพ์ครั้งที่หนึ่งของฉบับแปลโลกใหม่ เป็นเหมือนเหมืองทองสำหรับการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นส่วนตัวและสำหรับให้พยานพระยะโฮวาใช้สอนผู้มีหัวใจสุจริตอย่างที่เกิดประโยชน์. ต่อมา มีการออกฉบับพิเศษสำหรับนักศึกษาซึ่งพิมพ์เป็นเล่มเดียวจำนวน 150,000 เล่มเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 1963 ตอนเปิดการประชุมใหญ่ “ข่าวดีนิรันดร์” ของพยานพระยะโฮวาที่มิลวอกี มลรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา.
21. (ก) สภาพการณ์เป็นเช่นไรเมื่อมีการออกฉบับแปลโลกใหม่ ฉบับแก้ไข? (ข) ลักษณะเด่นบางอย่างของฉบับนี้มีอะไรบ้าง?
21 ฉบับแก้ไขที่เป็นเล่มเดียว. ในฤดูร้อนปี 1961 ณ การประชุมใหญ่หลายแห่งของพยานพระยะโฮวาที่จัดในสหรัฐและยุโรป มีการออกฉบับแก้ไขของพระคัมภีร์บริสุทธิ์ฉบับแปลโลกใหม่ ครบชุดในเล่มเดียวที่มีขนาดเหมาะมือสำหรับจำหน่ายจ่ายแจก. ผู้คนหลายแสนคนที่เข้าร่วมการประชุมเหล่านั้นตอบรับด้วยความยินดี. พระคัมภีร์ปกผ้าสีเขียวนี้มี 1,472 หน้า และมีศัพท์สัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม, มีภาคผนวกเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล, และแผนที่.
22, 23. มีการออกฉบับพิมพ์อะไรอีกบ้าง และลักษณะเด่นบางอย่างของฉบับพิมพ์เหล่านั้นมีอะไรบ้าง?
22 ฉบับพิมพ์อื่น ๆ อีก. ในปี 1969 มีการออกพระคัมภีร์ภาคภาษากรีกฉบับแปลเดอะ คิงดอม อินเตอร์ลิเนียร์ ฉบับพิมพ์ครั้งที่สองออกในปี 1985. ฉบับนี้มีคำแปลตามตัวอักษรเป็นภาษาอังกฤษจากข้อความภาษากรีกที่เรียบเรียงโดยเวสต์คอตต์และฮอร์ต รวมทั้งการแปลเป็นภาษาอังกฤษสมัยใหม่ตามฉบับแปลโลกใหม่ ฉบับพิมพ์ 1984. ดังนั้น ฉบับแปลนี้จึงเปิดโอกาสให้นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่เอาจริงเอาจังได้ทราบสิ่งที่ภาษากรีกในต้นฉบับบอกไว้จริง ๆ.
23 ฉบับแก้ไขครั้งที่สองของฉบับแปลโลกใหม่ ออกมาในปี 1970 และฉบับแก้ไขครั้งที่สามที่มีเชิงอรรถก็ออกตามมาในปี 1971. ณ การประชุมภาคของพยานพระยะโฮวา “การเพิ่มพูนแห่งราชอาณาจักร” ซึ่งจัดขึ้นในปี 1984 ฉบับแก้ไขที่มีข้ออ้างอิงได้ออกมาในภาษาอังกฤษ. ฉบับนี้มีทั้งการปรับให้ทันสมัยและการแก้ไขข้ออ้างอิงริมหน้าทั้งหมดที่ใช้ครั้งแรกในภาษาอังกฤษตั้งแต่ปี 1950 ถึง 1960. ฉบับนี้ซึ่งออกแบบเพื่อนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่เอาจริงเอาจัง มีข้ออ้างอิงริมหน้ามากกว่า 125,000 ข้อ, เชิงอรรถมากกว่า 11,000 แห่ง, ศัพท์สัมพันธ์ที่ละเอียด, แผนที่, และภาคผนวก 43 เรื่อง. นอกจากนั้น ในปี 1984 ฉบับแก้ไข 1984 ขนาดธรรมดาที่มีข้ออ้างอิงริมหน้าแต่ไม่มีเชิงอรรถก็มีออกมาให้หาอ่านได้.
24. (ก) ข้อดีกว่าบางประการของทั้งฉบับธรรมดาและฉบับที่มีข้ออ้างอิงคืออะไรบ้าง? (ข) จงแสดงวิธีใช้หัวเรื่องกำกับหน้า.
24 ข้อดีกว่าบางประการ. เพื่อช่วยผู้อ่านให้หาข้อความที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทั้งฉบับธรรมดาและฉบับที่มีข้ออ้างอิงต่างมีหัวเรื่องกำกับหน้าอยู่ในแต่ละหน้า. หัวเรื่องกำกับหน้าเหล่านั้นบอกเนื้อหาในหน้านั้น ๆ และจัดไว้เป็นพิเศษเพื่อช่วยผู้ประกาศราชอาณาจักรให้ค้นหาข้อคัมภีร์เพื่อตอบคำถามต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว. ตัวอย่างเช่น เขาอาจพยายามค้นหาคำแนะนำเกี่ยวกับการอบรมเด็ก ๆ. เมื่อมาถึงหน้า 860 (ฉบับธรรมดา) ในพระธรรมสุภาษิต เขาจะเห็นวลีสำคัญวลีสุดท้ายคือ “ชื่อเสียงดี [A good name].” เนื่องจากวลีนี้เป็นวลีสุดท้ายของหัวเรื่องกำกับหน้านั้น จึงแสดงว่าเรื่องนั้นจะปรากฏในช่วงท้ายหน้านั้น และเขาก็พบข้อนั้นที่สุภาษิต 22:1. ข้อคัมภีร์ที่มีบอกไว้ในส่วนแรกของหัวเรื่องกำกับหน้า 861 “จงฝึกฝนอบรมบุตร [Train up a boy]” เขาจะพบในช่วงต้น ๆ ของหน้านั้น คือที่ข้อ 6. ข้อความถัดมาของหัวเรื่องกำกับหน้านี้อ่านว่า “อย่างดใช้ไม้เรียว [Not spare the rod].” เรื่องนี้อยู่ใกล้ตอนล่างของคอลัมน์แรก คือในข้อ 15. หัวเรื่องกำกับหน้าเหล่านี้เป็นเครื่องช่วยที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ประกาศราชอาณาจักรซึ่งพอจะทราบตำแหน่งของข้อคัมภีร์ที่เขากำลังค้นหา. พวกเขาจึงเปิดคัมภีร์ไบเบิลใช้ได้อย่างรวดเร็ว.
25. มีการจัดให้มีศัพท์สัมพันธ์อะไร และจะใช้ได้อย่างไร?
25 ตอนท้ายของคัมภีร์ไบเบิลทั้งฉบับธรรมดาและฉบับที่มีข้ออ้างอิงมีส่วนที่เรียกว่า “ดัชนีคำศัพท์ในคัมภีร์ไบเบิล.” ส่วนนี้มีคำสำคัญ ๆ ในคัมภีร์ไบเบิลหลายพันคำพร้อมกับบริบท. ดังนั้น จึงมีศัพท์สัมพันธ์ รวมทั้งคำศัพท์ใหม่ ๆ จำนวนมากที่ใช้ในข้อความให้หาดูได้. สำหรับคนที่คุ้นเคยกับคำแปลของฉบับแปลคิงเจมส์ มีการช่วยให้เห็นการเปลี่ยนรูปคำจากภาษาอังกฤษแบบเก่ามาเป็นคำที่ทันสมัยในคัมภีร์ไบเบิล. ขอให้ดูคำ “เกรซ (grace)” ในฉบับแปลคิงเจมส์ เป็นตัวอย่าง. คำนี้มีลงไว้ในดัชนี ชี้ให้นักศึกษาเห็นคำ “พระกรุณาอันไม่พึงได้รับ [undeserved kindness]” ซึ่งเป็นคำทันสมัยที่ใช้ในฉบับแปลรุ่นใหม่. ดัชนีคำศัพท์ช่วยให้ค้นหาข้อคัมภีร์ที่เกี่ยวกับหลักข้อเชื่อสำคัญ ๆ ได้ เช่น “จิตวิญญาณ [soul]” หรือ “ค่าไถ่ [ransom]” เป็นการสนับสนุนการศึกษาค้นคว้าที่ละเอียดโดยตรงจากข้อคัมภีร์. ผู้ประกาศราชอาณาจักรซึ่งต้องสั่งสอนเกี่ยวกับเรื่องเด่น ๆ เหล่านี้อาจใช้ข้อความสั้น ๆ ของบริบทที่มีให้ไว้ในศัพท์สัมพันธ์นี้ได้. นอกจากนั้น มีการลงรายการข้ออ้างอิงสำคัญ ๆ เกี่ยวกับชื่อเฉพาะที่เด่น ๆ รวมทั้งสถานที่ทางภูมิศาสตร์และบุคคลสำคัญ ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล. ความช่วยเหลืออันล้ำค่าจึงมีไว้สำหรับนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลทุกคนที่ใช้ฉบับแปลนี้.
26. จงแสดงให้เห็นวิธีหนึ่งที่ภาคผนวกในฉบับแปลโลกใหม่ เป็นประโยชน์.
26 ภาคผนวกที่เหมาะแก่การศึกษาค้นคว้าให้ข้อมูลอันถูกต้องซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการสอน. เรื่องต่าง ๆ ในภาคผนวกจัดไว้ในแบบที่สามารถใช้เป็นเครื่องช่วยอธิบายหลักคำสอนพื้นฐานของคัมภีร์ไบเบิลและเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง. ตัวอย่างเช่น เมื่อพูดถึงเรื่อง “จิตวิญญาณ” ภาคผนวกซึ่งมีแปดหัวเรื่องให้รายการข้อพระคัมภีร์ซึ่งแสดงวิธีต่าง ๆ ที่มีการใช้คำ “จิตวิญญาณ” (ฮีบรู เนʹเฟช). นอกจากนี้ ในภาคผนวกยังมีแผนภาพและแผนที่ต่าง ๆ ด้วย. คัมภีร์ไบเบิลฉบับที่มีข้ออ้างอิง มีภาคผนวกละเอียดกว่ารวมทั้งเชิงอรรถที่เป็นประโยชน์ซึ่งให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับข้อพระคัมภีร์ในแบบที่เรียบง่าย. ดังนั้น ฉบับแปลโลกใหม่ จึงโดดเด่นในด้านการช่วยเหลือโดยจัดให้มีความรู้อันถ่องแท้ไว้เพื่อผู้อ่านจะใช้ได้อย่างรวดเร็ว.
27, 28. จงอธิบายและแสดงวิธีที่ฉบับแปลโลกใหม่ บอกการออกเสียงชื่อเฉพาะต่าง ๆ.
27 เครื่องช่วยในการออกเสียงชื่อต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล. ในข้อความภาษาอังกฤษ ทุกฉบับพิมพ์ของฉบับแปลโลกใหม่ มีเครื่องช่วยในการออกเสียงชื่อเฉพาะต่าง ๆ. ระบบนี้เหมือนกับระบบที่ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งจัดทำขึ้นสำหรับฉบับแปลรีไวสด์ สแตนดาร์ด ที่ออกในปี 1952. มีการแบ่งพยางค์ในชื่อเฉพาะโดยใช้จุดหรือเครื่องหมายออกเสียงหนัก (ʹ). เครื่องหมายออกเสียงหนักอยู่หลังพยางค์ที่เน้นเมื่อออกเสียงคำนั้น. ถ้าพยางค์ที่เน้นมีสระอยู่ท้าย สระนั้นจะออกเสียงยาว. ถ้าพยางค์นั้นมีพยัญชนะอยู่ท้าย สระในพยางค์นั้นจะออกเสียงสั้น.
28 เพื่อเป็นตัวอย่าง ให้สังเกตโยบ 4:1. ในข้อนี้ มีการกล่าวถึง “Elʹi·phaz the Teʹman·ite.” แม้ในสองคำนี้เครื่องหมายออกเสียงหนักอยู่ที่พยางค์แรกก็ตาม แต่ตัว “e” ในแต่ละคำออกเสียงไม่เหมือนกัน. ในคำ “Elʹi·phaz” เครื่องหมายออกเสียงหนักซึ่งอยู่หลังอักษร “l” ทำให้เสียงสระ “e” สั้นเหมือนในคำ “end.” ส่วนในคำ “Teʹman·ite” เครื่องหมายออกเสียงหนักซึ่งอยู่หลังตัว “e” ทำให้ออกเสียงยาวเหมือนกับอักษร “e” ตัวแรกในคำ “Eden.” เมื่อสระ “a” และ “i” อยู่ติดกัน เช่นในคำ “Morʹdecai” ที่เอศเธระ 2:5 และ “Siʹnai” ที่เอ็กโซโด 19:1 ตัว “ai” จะออกเสียงยาวเหมือนตัว “i.”
29. ฉบับแปลโลกใหม่ เป็นเพียงฉบับแก้ไขของฉบับแปลรุ่นก่อนหรือ และลักษณะเด่นอะไรบ้างสนับสนุนคำตอบของคุณ?
29 ฉบับแปลใหม่. ฉบับแปลโลกใหม่ เป็นฉบับแปลใหม่จากภาษาดั้งเดิมของคัมภีร์ไบเบิลคือ ฮีบรู, อาระเมอิก, และกรีก. ฉบับแปลนี้ไม่ใช่ฉบับแก้ไขของฉบับแปลภาษาอังกฤษฉบับอื่นใด และไม่ได้ลอกเลียนฉบับแปลอื่นใดในด้านลีลาการเขียน, คำศัพท์, หรือวิธีเรียบเรียง. สำหรับภาคภาษาฮีบรู-อาระเมอิก ได้ใช้บิบลิอา เฮไบรกา ของรูดอล์ฟ คิทเทล ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 7, 8, และ 9 (1951-1955) ซึ่งขัดเกลาอย่างดีและเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป. มีการใช้ข้อความภาษาฮีบรูฉบับพิมพ์ใหม่ซึ่งรู้จักกันว่าบิบลิอา เฮไบรกา สตุทท์การ์เทนเซีย พิมพ์ในปี 1977 เพื่อปรับปรุงข้อมูลในเชิงอรรถของฉบับแปลโลกใหม่—พร้อมด้วยข้ออ้างอิง ให้ทันสมัยขึ้น. ส่วนใหญ่ของภาคภาษากรีกแปลจากข้อความต้นฉบับในภาษากรีกของเวสต์คอตต์และฮอร์ต ซึ่งพิมพ์ในปี 1881. อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการแปลคัมภีร์ไบเบิลฉบับโลกใหม่ยังอาศัยข้อความภาษากรีกอื่น ๆ รวมทั้งข้อความของเนสต์เล (1948) ด้วย. คำอธิบายเกี่ยวกับข้อความต้นฉบับที่ดีเยี่ยมเหล่านี้มีในบทเรียนที่ 5 และ 6 ของหนังสือนี้. คณะกรรมการการแปลได้จัดทำฉบับแปลคัมภีร์ไบเบิลที่มีพลังและถูกต้อง และยังผลให้มีข้อความที่ชัดเจนและมีชีวิต เปิดทางสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น น่าพึงพอใจมากขึ้นในพระคำของพระเจ้า.
30. นักวิจารณ์คนหนึ่งประเมินค่าฉบับแปลนี้อย่างไร?
30 โปรดสังเกตการประเมินค่าฉบับแปลนี้โดยนักวิจารณ์คนหนึ่งที่ว่า “ฉบับแปลพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูจากภาษาดั้งเดิมมาเป็นภาษาอังกฤษมีน้อยเหลือเกิน. เราจึงรู้สึกยินดีมากที่ได้ต้อนรับฉบับแปลโลกใหม่ [ของพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรู] ส่วนแรก เยเนซิศถึงประวัตินางรูธ. . . . ปรากฏชัดว่าฉบับแปลนี้มีการใช้ความพยายามเป็นพิเศษเพื่อให้อ่านได้ง่ายโดยตลอด. ไม่มีใครอาจกล่าวได้ว่าฉบับแปลนี้บกพร่องในด้านการแปลใหม่และในด้านความคิดริเริ่ม. การใช้ถ้อยคำในฉบับแปลนี้ไม่ได้อาศัยฉบับแปลที่มีอยู่ก่อนเลย.”b
31. ผู้คงแก่เรียนด้านภาษาฮีบรูคนหนึ่งประเมินค่าฉบับแปลโลกใหม่ อย่างไร?
31 ในการให้สัมภาษณ์กับตัวแทนของสมาคมว็อชเทาเวอร์ ศาสตราจารย์ ดร. เบนจามิน เคดาร์ แห่งอิสราเอล ผู้คงแก่เรียนด้านภาษาฮีบรู ได้ประเมินค่าฉบับแปลโลกใหม่ ดังนี้: “ในการวิจัยด้านภาษาที่ผมทำเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลภาษาฮีบรูและฉบับแปลต่าง ๆ ผมมักอ้างอิงถึงฉบับพิมพ์ภาษาอังกฤษซึ่งรู้จักกันว่า ฉบับแปลโลกใหม่. เมื่อทำเช่นนั้น ผมพบว่าผมรู้สึกได้รับการรับรองครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ผลงานนี้สะท้อนความพยายามอย่างจริงจังเพื่อจะบรรลุความเข้าใจในข้อความอย่างถูกต้องเท่าที่เป็นไปได้. โดยให้หลักฐานในเรื่องความเชี่ยวชาญภาษาเดิมอย่างมาก ฉบับแปลโลกใหม่ ถ่ายทอดถ้อยคำดั้งเดิมเป็นภาษาที่สองอย่างที่เข้าใจได้โดยปราศจากการหันเหโดยไม่จำเป็นจากโครงสร้างเฉพาะตัวของภาษาฮีบรู. . . . ทุก ๆ ข้อความของภาษาเปิดช่องให้พอสมควรในการตีความหรือการแปล. ดังนั้น การแก้ไขปัญหาด้านภาษาในทุกกรณีที่เกิดขึ้นจะเปิดโอกาสให้ถกกัน. แต่ในฉบับแปลโลกใหม่ ผมไม่พบการบิดเบือนใด ๆ เลยที่เจตนาจะยัดเยียดเรื่องที่ไม่มีในข้อความเดิมเข้าไป.”c
32. ฉบับแปลโลกใหม่ แปลตามตัวอักษรถึงขนาดไหน และมีประโยชน์อย่างไร?
32 การแปลตามตัวอักษร. ความซื่อสัตย์ในการแปลมีการแสดงให้เห็นเช่นกันในการแปลตามตัวอักษรของฉบับแปลโลกใหม่. เรื่องนี้เรียกร้องให้มีการแปลข้อความภาษาฮีบรูและกรีกเป็นภาษาอังกฤษโดยให้มีความหมายตรงกันเกือบคำต่อคำ เมื่อสำนวนภาษาอังกฤษสมัยปัจจุบันอำนวย. ในการเสนอข้อความในภาษาที่แปลมา ควรแปลตามตัวอักษรให้ได้มากเท่าที่ภาษาของผู้แปลอำนวยให้. ยิ่งกว่านั้น การแปลตามตัวอักษรทำให้ต้องเอาใจใส่เรื่องลำดับถ้อยคำของภาษาฮีบรูหรือกรีก เพื่อรักษาการเน้นในข้อความดั้งเดิม. โดยการแปลตามตัวอักษร อรรถรส, สีสัน, และวิธีเรียบเรียงข้อความดั้งเดิมจึงจะได้รับการถ่ายทอดอย่างถูกต้อง.
33. มีการชี้ให้เห็นอย่างไรถึงความแตกต่างจากข้อความตามตัวอักษรซึ่งมีเป็นครั้งคราว?
33 มีความแตกต่างจากข้อความตามตัวอักษรบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อจุดประสงค์ในการถ่ายทอดสำนวนยาก ๆ ของภาษาฮีบรูและกรีกให้เป็นถ้อยคำที่เข้าใจได้. อย่างไรก็ตาม ในฉบับพิมพ์ที่มีข้ออ้างอิงของฉบับแปลโลกใหม่ มีการชี้ให้ผู้อ่านเอาใจใส่ข้อแตกต่างเหล่านั้นโดยใช้เชิงอรรถบอกความหมายตามตัวอักษร.
34. (ก) เกิดผลอะไรบ้างจากการละเลยการแปลตามตัวอักษร? (ข) จงอธิบาย.
34 ผู้แปลคัมภีร์ไบเบิลหลายคนหลีกเลี่ยงการแปลตามตัวอักษรเพื่อเห็นแก่สิ่งซึ่งเขาถือว่าเป็นความสละสลวยของภาษาและรูปแบบ. พวกเขาชักเหตุผลว่าการแปลตามตัวอักษรเป็นแบบแข็ง, ทื่อ และจำกัด. อย่างไรก็ตาม การที่พวกเขาละการแปลตามตัวอักษรโดยใช้การถอดความและการตีความ ทำให้มีความแตกต่างมากมายจากถ้อยคำดั้งเดิมที่ถูกต้องแห่งความจริง. ที่จริง พวกเขาทำให้แนวความคิดของพระเจ้าอ่อนลง. ตัวอย่างเช่น คณบดีกิตติมศักดิ์แห่งมหาวิทยาลัยใหญ่ของอเมริกาแห่งหนึ่งเคยกล่าวหาพยานพระยะโฮวาว่าทำลายความสละสลวยและความสง่างามของคัมภีร์ไบเบิล. เขาหมายถึงคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลคิงเจมส์ ซึ่งเคยได้รับการยกย่องมานานว่าเป็นมาตรฐานของภาษาอังกฤษที่สละสลวย. เขากล่าวว่า ‘ดูสิ่งที่พวกคุณทำกับเพลงสรรเสริญบท 23 สิ. คุณได้ทำลายจังหวะและความไพเราะโดยที่คุณแปลว่า “Je/ho/vah/ is/ my/ shep/herd.” (“พระยะโฮวาเป็นผู้บำรุงเลี้ยงข้าพเจ้า.”) เจ็ดพยางค์แทนหกพยางค์. เป็นสิ่งที่ทำให้ตกตะลึง. เป็นการไม่สมดุล. ไม่มีท่วงทำนอง. ฉบับแปลคิงเจมส์ทำถูกต้องโดยมีหกพยางค์ที่สมดุลคือ “The/ Lord/ is/ my/ shep/herd.” (“องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้บำรุงเลี้ยงข้าพเจ้า.”)’ มีการคัดค้านศาสตราจารย์ผู้นี้ว่า เป็นเรื่องสำคัญกว่าที่จะใช้ถ้อยคำตามอย่างที่ดาวิดซึ่งเป็นผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลได้ใช้. ดาวิดใช้คำทั่ว ๆ ไปว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า” หรือว่าใช้พระนามของพระเจ้า? ศาสตราจารย์ผู้นี้ยอมรับว่าดาวิดใช้พระนามของพระเจ้า แต่เขาก็ยังแย้งว่า เพื่อเห็นแก่ความไพเราะและความสง่างามของภาษา น่าจะมีเหตุผลสมควรให้ใช้คำ “องค์พระผู้เป็นเจ้า.” ช่างเป็นการแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นจริง ๆ สำหรับการตัดพระนามอันรุ่งโรจน์ของพระยะโฮวาออกจากเพลงบทนี้ที่เขียนเพื่อสรรเสริญพระองค์!
35. เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งใด และเราหวังและอธิษฐานขออะไร?
35 โดยวิธีนี้ การแปลหลายพันแห่งจึงถูกทำให้เสียไปเพราะเห็นแก่แนวคิดของมนุษย์ในเรื่องความสละสลวยของภาษา ซึ่งยังผลให้มีความไม่ถูกต้องในฉบับแปลคัมภีร์ไบเบิลหลายฉบับ. ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงโปรดประทานฉบับแปลโลกใหม่ ที่มีข้อความชัดเจนและถูกต้อง! ขอให้พระนามยะโฮวาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้รับการยกย่องในหัวใจของทุกคนที่อ่านฉบับแปลนี้!
[เชิงอรรถ]
a ในสมาคมคัมภีร์ไบเบิลหลายสมาคมที่ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1804 ก็มีสมาคมอเมริกัน ไบเบิล (1816) ซึ่งตั้งขึ้นจากสมาคมท้องถิ่นที่มีอยู่แล้ว และก็มีสมาคมเอดินบะระ ไบเบิล (1809) และสมาคมกลาสโกว์ ไบเบิล (1812) ต่อมาทั้งสองสมาคมได้รวมกัน (1861) เป็นสมาคมแนชันแนล ไบเบิล โซไซตี แห่งสกอตแลนด์. พอถึงปี 1820 ได้มีการตั้งสมาคมคัมภีร์ไบเบิลขึ้นเช่นกันในสวิตเซอร์แลนด์, ไอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, ฟินแลนด์, สวีเดน, เดนมาร์ก, นอร์เวย์, เนเธอร์แลนด์, ไอซ์แลนด์, รัสเซีย และเยอรมนี.
b อะเล็กซานเดอร์ ทอมสัน เดอะ ดิฟเฟอเรนชิเอเตอร์ มิถุนายน 1954 หน้า 131.
c 12 มิถุนายน 1989 แปลจากภาษาเยอรมัน.
[แผนภูมิหน้า 406]
ฉบับแปลคัมภีร์ไบเบิลที่เด่น ๆ บางฉบับในเจ็ดภาษาหลัก
ชื่อฉบับแปล พิมพ์ครั้งแรก ข้อความที่ใช้เป็นหลัก พระนามของพระเจ้า ข้อความที่ใช้เป็นหลัก
สำหรับพระคัมภีร์ มีการใช้ สำหรับพระคัมภีร์
ภาคภาษาฮีบรู ภาคภาษากรีก
ภาษาอังกฤษ
Rheims-Douay* 1582-1610 Vulgate Lord Vulgate
(ADONAI, twice)
King James
Version* 1611 M LORD Received
(Jehovah, few) Text
Young 1862-98 M Jehovah Received
Text
English 1881-95 M LORD Westcott
Revised* (Jehovah, and Hort
few)
Emphasised Bible 1878-1902 M Yahweh Westcott
(Ginsburg) and Hort,
Tregelles
American 1901 M Jehovah Westcott
Standard and Hort
An American 1923-39 M LORD Westcott
Translation (Yahweh, few) and Hort
(Smith-Goodspeed)*
Revised 1946-52 M LORD Westcott
Standard* and Hort,
Nestle
New English 1961-70 M (BHK) LORD New
Bible* (Jehovah, few) eclectic
text
Today’s 1966-76 M (BHK) LORD UBS
English Version
New King 1979-82 M (BHS) LORD Majority
James Bible/ (YAH, few) Text
Revised
Authorised Version
New Jerusalem 1985 M Yahweh Greek
Bible*
ภาษาสเปน
Valera 1602 M Jehová Received
Text
Moderna 1893 M Jehová Scrivener
Nácar-Colunga* 1944 M Yavé Greek
Evaristo Martín 1964 M Yavé Greek
Nieto*
Serafín de 1965 M (BHK) Yahvéh, Señor Nestle-
Ausejo* Aland
Biblia de 1967 M Yahveh Greek
Jerusalén*
Cantera- 1975 M (BHK) Yahveh Greek
Iglesias*
Nueva Biblia 1975 M Señor Greek
Española*
ภาษาโปรตุเกส
Almeida 1681, 1750 M Jehovah Received
Text
Figueiredo* 1778-90 Vulgate Senhor Vulgate
Matos Soares* 1927-30 Vulgate Senhor Vulgate
Pontifício 1967 M Javé Merk
Instituto
Bíblico*
Jerusalém* 1976, 1981 M Iahweh Greek
ภาษาเยอรมัน
Luther* 1522, 1534 M HErr Erasmus
Zürcher 1531 M Herr, Jahwe Greek
Elberfelder 1855, 1871 M Jehova Received
Text
Menge 192 M HErr Greek
Luther 1964, 1984 M HERR Greek
(revised)*
Bibel in 1967 M (BHS) Herr Nestle-
heutigem Aland,
Deutsch (Gute UBS
Nachricht)*
Einheitsübersetzung*
1972, 1974 M Herr, Jahwe Greek
Revidierte
Elberfelder 1975, 1985 M HERR, Jahwe Greek
ภาษาฝรั่งเศส
Darby 1859, 1885 M Eternel Greek
Crampon* 1894-1904 M Jéhovah Merk
Jérusalem* 1948-54 Vulgate, Yahvé Vulgate,
Hebrew Greek
TOB Ecumenical 1971-75 M (BHS) Seigneur Nestle,
Bible* UBS
Osty* 1973 M Yahvé Greek
Segond Revised 1978 M (BHS) Eternel Nestle-
Aland,
Black,
Metzger,
Wikgren
Français 1982 M (BHS) Seigneur Nestle,
courant UBS
ภาษาดัตช์ (เนร์เธอร์แลนด์)
Statenvertaling 1637 M HEERE Received
Text
Leidse 1899-1912 M Jahwe Nestle
Vertaling
Petrus-Canisiusvertaling*
1929-39 M Jahweh Nestle
NBG-vertaling 1939-51 M HERE Nestle
Willibrordvertaling*
1961-75 M Jahwe Nestle
Groot Nieuws 1972-83 M Heer Nestle
Bijbel*
ภาษาอิตาลี
Diodati 1607, 1641 M Signore Greek
Riveduta 1921-30
M Eterno Greek
(Luzzi)
Nardoni* 1960 M Signore, Jahweh Greek
Pontificio 1923-58 M Signore, Jahve Merk
Istituto
Biblico*
Garofalo* 1960 M Jahve, Signore Greek
Concordata* 1968 M (BHK) Signore, Iavè Nestle,
Merk
CEI* 1971 M Signore Greek
Parola del 1976-85 M (BHS) Signore UBS
Signore*
*เครื่องหมายดอกจันแสดงว่ารวมเอาหนังสือนอกสารบบไว้ด้วยแต่อาจไม่มีในทุกฉบับพิมพ์.
“M” หมายถึงข้อความของพวกมาโซเรต. เมื่อมีอักษรนี้ตัวเดียวแสดงว่าไม่ได้เจาะจงว่าเป็นข้อความของพวกมาโซเรตฉบับพิมพ์ใดโดยเฉพาะ.
“BHK” หมายถึงบิบลิอา เฮไบรกา ของคิทเทล.
“UBS” หมายถึงพันธสัญญาใหม่ภาษากรีก โดยสหสมาคมพระคริสตธรรม.
“BHS” หมายถึงบิบลิอา เฮไบรกา สตุทท์การ์เทนเซีย.
“Greek” แสดงว่าเป็นการแปลจากภาษากรีก แต่ไม่ได้ระบุข้อความใดโดยเฉพาะ.