ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ลช น. 17-22
  • คุณมีสิทธิ์ที่จะเลือก

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • คุณมีสิทธิ์ที่จะเลือก
  • เลือดจะช่วยชีวิตคุณได้อย่างไร?
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • สิทธิ์​ของ​คุณ​เป็น​ที่​ยอม​รับ
  • แทน​ที่​จะ​พึ่ง​ศาล
  • การ​ดู​แล​ลูก ๆ ด้วย​ความ​รัก
  • การปกป้องลูก ๆ ของคุณจากการใช้เลือดอย่างผิด ๆ
    พระราชกิจของเรา 1992
  • โรงพยาบาลเมื่อคุณเป็นคนไข้
    ตื่นเถิด! 1991
  • คุณอยู่พร้อมจะเผชิญสถานการณ์ด้านการรักษาที่ท้าทายความเชื่อไหม?
    พระราชกิจของเรา 1990
  • ทางเลือกอื่น ๆ ที่มีคุณภาพแทนการถ่ายเลือด
    เลือดจะช่วยชีวิตคุณได้อย่างไร?
ดูเพิ่มเติม
เลือดจะช่วยชีวิตคุณได้อย่างไร?
ลช น. 17-22

คุณ​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​เลือก

วิธี​ทาง​การ​แพทย์​สมัย​ใหม่ (ที่​เรียก​ว่า การ​วิเคราะห์​ความ​เสี่ยง/ผล​ดี​ที่​จะ​ได้​รับ) ทำ​ให้​ง่าย​ขึ้น​สำหรับ​แพทย์​และ​ผู้​ป่วย​ใน​การ​ร่วม​มือ​กัน​เพื่อ​หลีก​จาก​การ​รักษา​ด้วย​เลือด. แพทย์​จะ​ชั่ง​ดู​ปัจจัย​ต่าง ๆ เช่น ความ​เสี่ยง​ของ​ยา​บาง​อย่าง​หรือ​การ​ผ่าตัด กับ​ผล​ดี​ต่าง ๆ ที่​จะ​ได้​รับ. ผู้​ป่วย​จะ​มี​ส่วน​ด้วย​ใน​การ​วิเคราะห์​นี้.

ให้​เรา​ใช้​ตัว​อย่าง​ที่​ผู้​คน​หลาย​แห่ง​เข้าใจ​ได้​ง่าย—โรค​ต่อม​ทอนซิล​อักเสบ​เรื้อรัง. ถ้า​คุณ​ประสบ​กับ​ปัญหา​นี้ คุณ​คง​ไป​ปรึกษา​แพทย์. ที่​จริง คุณ​อาจ​ปรึกษา​แพทย์​สอง​คน​ก็​ได้ เนื่อง​จาก​ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​สุขภาพ​มัก​จะ​แนะ​นำ​ให้​ฟัง​ความ​เห็น​จาก​อีก​คน​หนึ่ง. แพทย์​คน​หนึ่ง​อาจ​แนะ​นำ​ให้​ทำ​การ​ผ่าตัด. เขา​อธิบาย​ให้​ฟัง​คร่าว ๆ ว่า​นั่น​หมาย​ถึง​อะไร: ระยะ​เวลา​ที่​ต้อง​อยู่​ใน​โรง​พยาบาล ความ​เจ็บ​ปวด​มาก​น้อย​อย่าง​ไร และ​ค่า​ใช้​จ่าย. สำหรับ​เรื่อง​ความ​เสี่ยง​นั้น เขา​บอก​ว่า​มี​น้อย​ราย​ที่​จะ​มี​เลือด​ออก​มาก และ​โอกาส​ที่​จะ​เสีย​ชีวิต​จาก​การ​ผ่าตัด​นี้​มี​น้อย​มาก. แต่​แพทย์​อีก​คน​หนึ่ง​ที่​คุณ​ไป​ปรึกษา​ด้วย​แนะ​ให้​คุณ​ลอง​ใช้​การ​รักษา​ด้วย​ยา​ปฏิชีวนะ. เขา​อธิบาย​ถึง​ชนิด​ของ​ยา​ที่​จะ​ใช้ โอกาส​ที่​จะ​ได้​ผล และ​ค่า​ใช้​จ่าย. ใน​เรื่อง​ความ​เสี่ยง​นั้น เขา​บอก​ว่า​มี​ผู้​ป่วย​น้อย​คน​ที่​จะ​มี​ปฏิกิริยา​อัน​อาจ​อันตราย​ถึง​แก่​ชีวิต​เนื่อง​จาก​ยา​นั้น.

แพทย์​ที่​มี​ความ​สามารถ​ทุก​คน​คง​จะ​ได้​พิจารณา​ถึง​ข้อ​ดี​และ​ข้อ​เสีย​ต่าง ๆ แต่​บัด​นี้​คุณ​เอง ต้อง​ชั่ง​ดู​ความ​เสี่ยง​และ​ผล​ดี​ที่​อาจได้​รับ รวม​ทั้ง​ปัจจัย​อื่น ๆ ซึ่ง​คุณ​จะ​รู้​ดี​ที่​สุด. (คุณ​อยู่​ใน​ฐานะ​ที่​จะ​พิจารณา​ได้​ดี​ที่​สุด​ใน​ด้าน​ต่าง ๆ เช่น ความ​เข้มแข็ง​ของ​คุณ​ทาง​อารมณ์​หรือ​ทาง​ฝ่าย​วิญญาน ฐานะ​ทาง​การ​เงิน​ของ​ครอบครัว ผล​กระทบ​ที่​มี​ต่อ​ครอบครัว และ​จริยธรรม​ส่วน​ตัว.) หลัง​จาก​นั้น​คุณ​จึง​ตัดสิน​ใจ. คุณ​อาจ​ยินยอม​โดย​ได้​รับ​การ​ชี้​แจง​ครบ​ถ้วน​ให้​ทำ​การ​รักษา​แบบ​หนึ่ง แต่​ปฏิเสธ​การ​รักษา​อีก​แบบ​หนึ่ง.

คง​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น​เช่น​กัน​เมื่อ​ลูก​ของ​คุณ​เป็น​ทอนซิล​อักเสบ​เรื้อรัง. คง​จะ​มี​การ​อธิบาย​ให้​คุณ ผู้​เป็น​บิดา​มารดา​ผู้​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก ผู้​ซึ่ง​จะ​ต้อง​ได้​รับ​ผล​กระทบ​มาก​ที่​สุด และ​จะ​ต้อง​เป็น​ผู้​รับมือ​กับ​ผล​ที่​เกิด​ต่อ​มา ให้​ทราบ​ถึง​ความ​เสี่ยง ประโยชน์​ที่​ได้ และ​วิธี​รักษา​ต่าง ๆ. หลัง​จาก​พิจารณา​ทุก​แง่​แล้ว คุณ​จะ​เลือก​ตัดสิน​ใจ​ได้​อย่าง​ที่​มี​ข้อมูล​ครบ​ถ้วน​ใน​เรื่อง​ของ​สุขภาพ​ของ​บุตร​ของ​คุณ และ​แม้​แต่​เรื่อง​ความ​เป็น​ความ​ตาย​ของ​เขา. บาง​ที​คุณ​อาจ​ยอม​ให้​ทำ​การ​ผ่าตัด โดย​เข้าใจ​ดี​ถึง​ความ​เสี่ยง​ที่​เกี่ยว​ข้อง. บิดา​มารดา​คน​อื่น​อาจ​เลือก​ที่​จะ​ใช้​การ​รักษา​ด้วย​ยา​ปฏิชีวนะ พร้อม​กับ​ความ​เสี่ยง​ของ​มัน. เช่น​เดียว​กับ​ที่​แพทย์​อาจ​มี​คำ​แนะ​นำ​ที่​แตกต่าง​กัน ผู้​ป่วย​หรือ​บิดา​มารดา​ก็​อาจ​มี​ความ​เห็น​ต่าง ๆ กัน​ใน​เรื่อง​ที่​เขา​เห็น​ว่า​ดี​ที่​สุด. นี่​คือ​หลักการ​ทั่ว ๆ ไป​ของ​การ​ตัดสิน​ใจ​เลือก (ความ​เสี่ยง/ผล​ดี​ที่​จะ​ได้​รับ) อย่าง​ที่​มี​ข้อมูล​ครบ​ถ้วน.

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​การ​ใช้​เลือด? ไม่​มี​ใคร​ที่​ได้​ตรวจ​สอบ​ข้อ​เท็จ​จริง​อย่าง​ไม่​ลำเอียง​แล้ว​จะ​ปฏิเสธ​ได้​ว่า การ​ถ่าย​เลือด​มี​อันตราย​มาก. ดร. ชารล์ส ฮักกินส์ ซึ่ง​เป็น​ผู้​อำนวย​การ​หน่วย​บริการ​ถ่าย​เลือด​ของ​โรง​พยาบาล​แมสซาชูเซ็ตส์​อัน​ใหญ่​โต ได้​ทำ​ให้​เรื่อง​นี้​ชัดเจน. เขา​กล่าว​ว่า “เลือด​ไม่​เคย​ปลอด​ภัย​กว่า​นี้​มา​ก่อน. แต่​ยัง​ต้อง​ถือ​ว่า​เลือด​ยัง​เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่​ปลอด​ภัย​อย่าง​หลีก​เลี่ยง​ไม่​ได้. เลือด​เป็น​สาร​ที่​อันตราย​ที่​สุด​ที่​เรา​ใช้​ใน​ทาง​การ​แพทย์.”—The Boston Globe Magazine, 4 กุมภาพันธ์ 1990.

ด้วย​เหตุ​ผล​ที่​ดี บุคลากร​ทาง​การ​แพทย์​จึง​ได้​รับ​คำ​แนะ​นำ​ว่า “เรา​จำเป็น​ที่​จะ​ต้อง​ทำ​การ​ประเมิน​กัน​ใหม่​ใน​ส่วน​ของ​ความ​เสี่ยง ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ความ​เสี่ยง/ผล​ดี​ที่​ได้​รับ​ของ​การ​ถ่าย​เลือด และ​ค้น​หา​วิธี​ทดแทน​อื่น ๆ.”—Perioperative Red Cell Transfusion, การ​ประชุม​สถาบัน​ทาง​การ​สาธารณสุข​แห่ง​ชาติ, 27-29 มิถุนายน 1988.

แพทย์​อาจ​ไม่​เห็น​พ้อง​ร่วม​กัน​ใน​เรื่อง​ประโยชน์​และ​โทษ​ของ​การ​ใช้​เลือด. คน​หนึ่ง​อาจ​ให้​เลือด​หลาย​ครั้ง​และ​เชื่อ​ว่า​นั้น​คุ้ม​กับ​การ​เสี่ยง. อีก​คน​หนึ่ง​อาจ​เห็น​ว่า​นั่น​เป็น​การ​เสี่ยง​ที่​ไม่​มี​เหตุ​ผล เพราะ​เขา​เคย​รักษา​ได้​ผล​ดี​โดย​ไม่​ใช้​เลือด. อย่าง​ไร​ก็​ดี ใน​ที่​สุด​คุณ​เอง ซึ่ง​เป็น​ผู้​ป่วย​หรือ​เป็น​บิดา​มารดา ต้อง​เป็น​ผู้​ทำ​การ​ตัดสิน​ใจ. เหตุ​ใด​จึง​ต้อง​เป็น​คุณ? เพราะ​เรื่อง​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ร่าง​กาย ชีวิต จริยธรรม และ​สัมพันธภาพ​ที่​มี​กับ​พระเจ้า​อัน​สำคัญ​ยิ่ง ของ​คุณ (หรือ​ลูก​ของ​คุณ).

สิทธิ์​ของ​คุณ​เป็น​ที่​ยอม​รับ

ปัจจุบัน​นี้​ใน​หลาย​ประเทศ ผู้​ป่วย​มี​สิทธิ์​อัน​ไม่​อาจ​ละเมิด​ได้ ที่​จะ​ตัดสิน​ว่า​เขา​จะ​ยอม​รับ​การ​รักษา​แบบ​ใด. “กฎหมาย​ของ​การ​ยินยอม​โดย​ที่​ได้​รับ​การ​ชี้​แจง​ครบ​ถ้วน​อาศัย​รากฐาน​สอง​ประการ: ประการ​แรก​คือ ผู้​ป่วย​มี​สิทธิ​ที่​จะ​ได้​รับ​ข้อมูล​อย่าง​เพียง​พอ​เพื่อ​ที่​จะ​ทำ​การ​ตัดสิน​ใจ​เลือก​อย่าง​ที่​มี​ข้อมูล​ครบ​ถ้วน​ใน​การ​รักษา​ตาม​ที่​แพทย์​แนะ​นำ และ​ประการ​ที่​สอง​คือ ผู้​ป่วย​อาจ​เลือก​ที่​จะ​รับ​หรือ​ปฏิเสธ​สิ่ง​ที่​แพทย์​แนะ​นำ​ได้. . . . นอก​จาก​จะ​มี​การ​ยอม​รับ​ว่า ผู้​ป่วย​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​ตอบรับ หรือ​ปฏิเสธ หรือ​แม้​แต่​ตอบรับ​โดย​มี​เงื่อนไข​ต่าง ๆ มิ​ฉะนั้น หลักการ​พื้น​ฐาน​ของ​การ​ให้​ความ​ยินยอม​โดย​ที่​มี​ข้อมูล​ครบ​ถ้วน ก็​ไม่​มี​ความหมาย​อะไร.”—Informed Consent—Legal Theory and Clinical Practice, 1987.a

ผู้​ป่วย​บาง​คน​ได้​ประสบ​การ​ต่อ​ต้าน​เมื่อ​เขา​พยายาม​จะ​ใช้​สิทธิ์​ของ​เขา. อาจ​เป็น​จาก​เพื่อน​ซึ่ง​มี​ความ​คิด​เห็น​อย่าง​แรง​กล้า​เกี่ยว​กับ​การ​ผ่าตัด​ต่อม​ทอนซิล หรือ​ไม่​ก็​เกี่ยว​กับ​ยา​ปฏิชีวนะ. หรือ​อาจ​เป็น​จาก​แพทย์​ผู้​ซึ่ง​เชื่อ​ว่า​คำ​แนะ​นำ​ของ​เขา​ดี​ที่สุด. หรือ​เจ้าหน้าที่​โรง​พยาบาล​อาจ​ไม่​เห็น​ด้วย เนื่อง​จาก​แง่​มุม​ใน​ด้าน​กฎหมาย​หรือ​ใน​ด้าน​การ​เงิน.

ดร.คาร์ล แอล. เนล​สัน กล่าว​ว่า “ศัลยแพทย์​กระดูก​หลาย​คน​เลือก​ที่​จะ​ไม่​ทำ​การ​ผ่าตัด​ผู้​ป่วย (ซึ่ง​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา). สำหรับ​พวก​เรา เรา​เชื่อ​ว่า​ผู้​ป่วย​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​ปฏิเสธ​การ​รักษา​ทาง​การ​แพทย์​แบบ​ใด​ก็​ได้. ถ้า​มี​วิธี​ที่​เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​ทำ​การ​ผ่าตัด​อย่าง​ปลอด​ภัย ขณะ​เดียว​กับ​ที่​ตัด​การ​รักษา​บาง​อย่าง​ออก​ไป เช่น​การ​ให้​เลือด ก็​ควร​ถือ​ว่า​นั่น​เป็น​ทาง​เลือก​อีก​แบบ​หนึ่ง.”—The Journal of Bone and Joint Surgery, มีนาคม 1986.

ผู้​ป่วย​ที่​เห็น​อก​เห็น​ใจ​จะ​ไม่​พยายาม​บีบ​บังคับ​ให้​แพทย์​ใช้​วิธี​การ​รักษา​ซึ่ง​เขา​ไม่​ชำนาญ. กระนั้น อย่าง​ที่ ดร. เนล​สัน​ได้​กล่าว​ไว้ แพทย์​ผู้​เสีย​สละ​หลาย​คน​สามารถ​ปรับ​เปลี่ยน​ตาม​ความ​เชื่อ​ของ​ผู้​ป่วย​ได้. เจ้าหน้าที่​ชาว​เยอรมัน​ผู้​หนึ่ง​แนะ​นำ​ว่า “แพทย์​ไม่​อาจ​ปฏิเสธ​ที่​จะ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ . . . ด้วย​การ​ชัก​เหตุ​ผล​ที่​ว่า​เขา​ไม่​อาจ​ใช้​การ​รักษา​ทุก​วิธี​ที่​เขา​มี​ใน​การ​รักษา​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เขา​ยัง​คง​มี​หน้า​ที่​ที่​จะ​ต้อง​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​แม้​หน​ทาง​จะ​ถูก​จำกัด​ลง​ก็​ตาม.” (Der Frauenarzt, พฤษภาคม–มิถุนายน 1983) ใน​ทำนอง​เดียว​กัน โรง​พยาบาล​มี​ขึ้น​มิ​ใช่​เพื่อ​ทำ​เงิน​เพียง​อย่าง​เดียว แต่​เพื่อ​บริการ​ผู้​คน​โดย​ไม่​เลือก​หน้า. ริชาร์ด เจ. เด​ไวน์ นัก​เทววิทยา​คาทอลิก​แถลง​ว่า “ถึง​แม้​ว่า​โรง​พยาบาล​จะ​ต้อง​ใช้​ความ​พยายาม​ทาง​การ​แพทย์​ทุก​วิธี​ที่​จะ​รักษา​สุขภาพ​และ​ชีวิต​ของ​คนไข้​ก็​ตาม แต่​จะ​ต้อง​แน่​ใจ​ว่า การ​รักษา​นั้น​ไม่​ละเมิด​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ (ของ​ผู้​ป่วย). นอก​จาก​นั้น จะ​ต้อง​หลีก​เลี่ยง​จาก​การ​ขู่เข็ญ​ทุก​อย่าง จาก​การ​หลอกล่อ​ผู้​ป่วย​เพื่อ​หา​คำ​สั่ง​ศาล​มา​บังคับ​ให้​รับ​การ​ถ่าย​เลือด.”—Health Progress, มิถุนายน 1989.

แทน​ที่​จะ​พึ่ง​ศาล

หลาย​คน​เห็น​พ้อง​กัน​ว่า เรื่อง​ส่วน​ตัว​ทาง​การ​แพทย์​ไม่​ใช่​ธุระ​ที่​ต้อง​ขึ้น​โรง​ขึ้น​ศาล. คุณ​จะ​รู้สึก​อย่าง​ไร​ถ้า​คุณ​เลือก​ที่​จะ​รักษา​ด้วย​ยา​ปฏิชีวนะ แต่​มี​ใคร​บาง​คน​ไป​ฟ้อง​ศาล เพื่อ​บังคับ​ให้​คุณ​ผ่าตัด​ต่อม​ทอนซิล​ออก? แพทย์​อาจ​อยาก​ให้​การ​รักษา​อย่าง​ที่​เขา​คิด​ว่า​ดี​ที่​สุด แต่​แพทย์​ไม่​มี​หน้า​ที่​ที่​จะ​ใช้​กฎหมาย​เป็น​เครื่อง​มือ เพื่อ​เหยียบ​ย่ำ​สิทธิ​อัน​ชอบธรรม​ของ​คุณ. และ​เนื่อง​จาก​พระ​คัมภีร์​ไบเบิล​ถือ​ว่า​การ​ละ​เว้น​จาก​เลือด​มี​ความ​สำคัญ​ทาง​ด้าน​ศีลธรรม​เช่น​เดียว​กับ​การ​หลีก​เว้น​จาก​การ​ล่วง​ประเวณี ดัง​นั้น การ​บังคับ​ให้​คริสเตียน​รับ​เลือด​ก็​เท่า​กับ​การ​บังคับ​ให้​ร่วม​เพศ—คือ​การ​ข่มขืน​นั่น​เอง.—กิจการ 15:28, 29.

กระนั้น วารสาร อินฟอร์มด์ คอนเซ็นต์ ฟอร์ บลัด ทรานสฟิวชัน [การ​ยินยอม​โดย​ที่​ได้​รับ​การ​ชี้​แจง​ครบ​ถ้วน​เรื่อง​การ​ถ่าย​เลือด] (1989) รายงาน​ว่า ศาล​บาง​แห่ง​ร้อน​ใจ​มาก​เมื่อ​ผู้​ป่วย​เต็ม​ใจ​ที่​จะ​รับ​ความ​เสี่ยง​บาง​ประการ​เนื่อง​จาก​ความ​เชื่อ​ทาง​ศาสนา​ของ​ตน “จน​ทำ​ให้​พวก​เขา​อ้าง​ข้อ​ยก​เว้น​ทาง​กฎหมาย​บาง​อย่าง—อาจ​เรียก​ว่า​เป็น​เรื่อง​แต่ง​ขึ้น​เอง​ทาง​กฎหมาย​ก็​ว่า​ได้—เพื่อ​จะ​อนุญาต​ให้​มี​การ​ถ่าย​เลือด.” พวก​เขา​อาจ​พยายาม​ยก​ข้อ​อ้าง​ว่า​คนไข้​ตั้ง​ครรภ์​อยู่ หรือ​ว่า​คนไข้​มี​บุตร​ที่​จะ​ต้อง​เลี้ยง​ดู. หนังสือ​เล่ม​นี้​กล่าว​ว่า “สิ่ง​เหล่า​นั้น​คือ​นวนิยาย​ทาง​กฎหมาย. ผู้​ใหญ่​ที่​มี​สติ​สัมปชัญญะ​ครบ​ถ้วน​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​ปฏิเสธ​การ​รักษา​ได้.”

บาง​คน​ที่​ยืน​ยัน​จะ​ต้อง​ให้​มี​การ​ถ่าย​เลือด​ให้​ได้ มอง​ข้าม​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ปฏิเสธ​การ​รักษา​ทุก​อย่าง. พวก​เขา​ปฏิเสธ​การ​รักษา​เพียง​อย่าง​เดียว เท่า​นั้น เป็น​การ​รักษา​ที่​แม้​แต่​ผู้​เชี่ยวชาญ​ก็​กล่าว​ว่า​เต็ม​ไป​ด้วย​อันตราย. ปกติ​แล้ว​ปัญหา​ทาง​การ​แพทย์​มี​วิธี​แก้ไข​ได้​หลาย​วิธี. วิธี​หนึ่ง​อาจ​มี​ความ​เสี่ยง​ใน​ด้าน​หนึ่ง อีก​วิธี​หนึ่ง​เสี่ยง​ใน​อีก​แง่​หนึ่ง. ศาล​เอง​หรือ​แพทย์​จะ​ทำ​ตัว​เหมือน​เป็น​พ่อ​เป็น​แม่​ใน​การ​ตัดสิน​ได้​ไหม​ว่า การ​เสี่ยง​อัน​ใด “เป็น​ประโยชน์​มาก​ที่​สุด​สำหรับ​คุณ”? คุณ​เอง​จะ​ต้อง​เป็น​ผู้​ตัดสิน​เรื่อง​นั้น. พยาน​พระ​ยะโฮวา​ยืน​มั่น​ว่า​เขา​ไม่​ต้องการ​ให้​ใคร​อื่น​มา​ตัดสิน​แทน​ตน เรื่อง​นี้​เป็น​ความ​รับผิดชอบ​ส่วน​ตัว​ของ​เขา​ต่อ​พระ​พักตร์​พระเจ้า.

ถ้า​ศาล​บังคับ​การ​รักษา​ที่​คุณ​เกลียด​กลัว นั่น​จะ​มี​ผล​กระทบ​อย่าง​ไร​ต่อ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ และ​ปัจจัย​สำคัญ​อัน​ได้​แก่​ความ​ปรารถนา​ของ​คุณ​ที่​จะ​มี​ชีวิต​อยู่? ดร. คอน​ราด เด​ร​บิ​ง​เก​อร์​เขียน​ไว้​ว่า “คง​จะ​ต้อง​เป็น​ความ​ทะเยอทะยาน​ทาง​การ​แพทย์​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​อย่าง​แน่นอน​ที​เดียว ที่​ชัก​นำ​คน​เรา​ให้​บังคับ​ผู้​ป่วย​ให้​รับ​การ​รักษา​ใด ๆ ที่​ขัด​ต่อ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เขา เพียง​เพื่อ​จะ​เยียว​ยา​ร่าง​กาย​ของ​เขา แต่​กลับ​ทำลาย​จิตใจ​ของ​เขา.”—Der Praktische Arzt, กรกฎาคม 1978.

การ​ดู​แล​ลูก ๆ ด้วย​ความ​รัก

คดี​ต่าง ๆ ที่​ฟ้องร้อง​ใน​เรื่อง​เลือด​มัก​จะ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เด็ก. บาง​ครั้ง​เมื่อ​บิดา​มารดา​ที่​รัก​ลูก​ได้​แสดง​ความ​จำนง​อย่าง​สุภาพ​ให้​ทำ​การ​รักษา​โดย​ไม่​ใช้​เลือด บุคลากร​ทาง​การ​แพทย์​บาง​คน​ได้​ขอ​อำนาจ​ศาล​เพื่อ​ทำ​การ​ให้​เลือด. แน่นอน คริสเตียน​เห็น​ด้วย​กับ​กฎหมาย​และ​การ​ปฏิบัติ​ของ​ศาล​เพื่อ​ป้องกัน​ไม่​ให้​เด็ก​ถูก​ทำ​ทารุณ​หรือ​ถูก​ทอดทิ้ง. บาง​ที​คุณ​เคย​อ่าน​เรื่อง​บิดา​มารดา​บาง​คน​ที่​ทำ​ร้าย​เด็ก​อย่าง​ทารุณ​หรือ​ทอดทิ้ง​เด็ก​โดย​ไม่​ให้​การ​รักษา​เลย. ช่าง​เป็น​เรื่อง​น่า​เศร้า​ใจ​จริง ๆ! เห็น​ได้​ชัด​ว่า รัฐ​มี​หน้า​ที่​และ​ควร​เข้า​ไป​ปก​ป้อง​เด็ก ๆ ที่​ถูก​ละเลย. แต่​คุณ​คง​เห็น​ได้​ชัด​ว่า เป็น​กรณี​ต่าง​กัน​ที​เดียว​เมื่อ​บิดา​มารดา​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​ห่วงใย​เรียก​ร้อง​ให้​ทำ​การ​รักษา​ทาง​การ​แพทย์​ที่​มี​ประสิทธิภาพ​โดย​ไม่​ใช้​เลือด.

คดี​เหล่า​นี้​มัก​จะ​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​เด็ก​อยู่​ใน​โรง​พยาบาล. เด็ก​เหล่า​นี้​เข้า​ไป​อยู่​ใน​โรง​พยาบาล​อย่าง​ไร และ​เพื่อ​จุด​ประสงค์​อะไร? ส่วน​ใหญ่​แล้ว​ก็​เพราะ​บิดา​มารดา​ที่​เป็น​ห่วง​นำ​ลูก​ของ​เขา​ไป​เพื่อ​ให้​รับ​การ​รักษา​ที่​ดี. ดัง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​สน​พระทัย​ใน​พวก​เด็ก ๆ บิดา​มารดา​ที่​เป็น​คริสเตียน​สนใจ​และ​เอา​ใจ​ใส่​ลูก ๆ ของ​ตน​เช่น​กัน. พระ​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ถึง ‘มารดา​ผู้​เลี้ยง​ดู​เอา​ใจ​ใส่​ลูก ๆ ของ​เธอ.’ พยาน​พระ​ยะโฮวา​มี​ความ​รัก​อัน​ลึกซึ้ง​เช่น​นั้น​ต่อ​บุตร​ของ​ตน.—1 เธซะโลนิเก 2:7; มัดธาย 7:11; 19:13-15.

โดย​ปกติ​แล้ว บิดา​มารดา​ทุก​คน​เป็น​ผู้​ตัดสิน​ใจ​ใน​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ชีวิต​และ​ความ​ปลอด​ภัย​ของ​ลูก ๆ: ครอบครัว​จะ​ใช้​แก๊ส​หรือ​ใช้​ถ่าน​ใน​ครัว? จะ​พา​เด็ก ๆ ไป​ด้วย​เมื่อ​ขับ​รถ​ทาง​ไกล​ไหม? จะ​ให้​เขา​ไป​ว่าย​น้ำ​ไหม? เรื่อง​เหล่า​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ความ​เสี่ยง​ต่าง ๆ บาง​ครั้ง​หมาย​ถึง​ความ​เป็น​ความ​ตาย​ที​เดียว. แต่​สังคม​ยอม​รับ​ว่า​บิดา​มารดา​มี​สิทธิ​ใน​การ​ตัดสิน​ใจ ดัง​นั้น บิดา​มารดา​จึง​รับ​หน้า​ที่​หลัก​เป็น​ผู้​ตัดสิน​ใจ​เกือบ​ทุก​เรื่อง​ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ลูก​ของ​เขา.

ใน​ปี​สากล​ศักราช 1979 ศาล​สูง​สุด​ของ​สหรัฐ​ฯ​กล่าว​อย่าง​ชัดเจน​ว่า “หลักการ​ของ​กฎหมาย​เกี่ยว​กับ​ครอบครัว​อาศัย​การ​อนุมาน​ที่​ว่า บิดา​มารดา​มี​สิ่ง​ที่​เด็ก ๆ ขาด​ใน​แง่​ของ​ความ​คิด​อ่าน ประสบการณ์ และ​ความ​สามารถ​ที่​จำเป็น​เพื่อ​ตัดสิน​ใจ​เรื่อง​ยาก​ลำบาก​ของ​ชีวิต. . . . เพียง​เพราะ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​บิดา​มารดา [ใน​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​กับ​การ​แพทย์] ซึ่ง​ดู​เสี่ยง​ภัย ไม่​หมายความ​ว่า​อำนาจ​ของ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​เขา​จะ​ต้อง​ถูก​ยก​ให้​กับ​องค์กร​หรือ​เจ้าหน้าที่​ของ​รัฐ​โดย​อัตโนมัติ.”—Parham v. J.R.

ใน​ปี​เดียว​กัน​นั้น ศาล​อุทธรณ์​แห่ง​นิวยอร์ก​ตัดสิน​ว่า “ปัจจัย​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​ที่​จะ​ตัดสิน​ว่า​เด็ก​คน​ใด​กำลัง​ถูก​กีด​กัน​จาก​การ​รับ​การ​รักษา​พยาบาล​ทาง​การ​แพทย์​หรือ​ไม่​นั้น . . . ขึ้น​อยู่​กับ​ว่า​บิดา​มารดา​ได้​ให้​บุตร​ของ​ตน​รับ​การ​รักษา​ทาง​การ​แพทย์​อัน​เป็น​ที่​ยอม​รับ​กัน​หรือ​ไม่​ตาม​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​มี​อยู่​ทั้ง​หมด. การ​ไต่สวน​นี้​ไม่​อาจ​ชี้​ว่า​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​บิดา​มารดา​นั้น​จะ “ถูก” หรือ “ผิด” เพราะ​วิธี​ปฏิบัติการ​ทาง​การ​แพทย์​ใน​ปัจจุบัน แม้​จะ​มี​ความ​ก้าว​หน้า​อย่าง​ยิ่ง​ก็​ตาม น้อย​ครั้ง​นัก​ที่​จะ​สามารถ​ตัดสิน​ได้​อย่าง​แน่นอน​ใน​เรื่อง​นั้น. ทั้ง​ศาล​ก็​ไม่​อาจ​ทำ​หน้า​ที่​แทน​บิดา​มารดา​ได้.”—In re Hofbauer.

ย้อน​กลับ​ไป​ถึง​ตัว​อย่าง​ของ​บิดา​มารดา​ที่​ต้อง​เลือก​ระหว่าง​การ​ผ่าตัด​หรือ​การ​ใช้​ยา​ปฏิชีวนะ. การ​รักษา​แต่​ละ​วิธี​ก็​มี​ความ​เสี่ยง​ของ​มัน​เอง. บิดา​มารดา​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก มี​ความ​รับผิดชอบ​ที่​จะ​ชั่ง​ดู​ความ​เสี่ยง ผล​ดี​ที่​อาจ​ได้​รับ รวม​ทั้ง​ปัจจัย​อื่น ๆ แล้ว​จึง​ตัดสิน​ใจ. เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้ ดร. จอห์น แซม​มวล​ส์ (Anesthesiology News, ตุลาคม 1989) แนะ​นำ​ให้​อ่าน​หนังสือ คำ​แนะ​นำ​สำหรับ​ผู้​พิพากษา​เรื่อง​คำ​สั่ง​เกี่ยว​กับ​เด็ก [Guides to the Judge in Medical Orders Affecting Children] ซึ่ง​มี​จุด​ยืน​ดัง​นี้:

“ความ​รู้​ทาง​การ​แพทย์​ยัง​ไม่​ก้าว​หน้า​เพียง​พอ​ที่​จะ​ให้​แพทย์​คาด​การณ์​อย่าง​มี​เหตุ​ผล​ได้​แน่นอน​ว่า ผู้​ป่วย​จะ​รอด​หรือ​เสีย​ชีวิต . . . ถ้า​มี​โอกาส​เลือก วิธี​การ​รักษา—เช่น​แพทย์​อาจ​แนะ​นำ​วิธี​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​โอกาส​สำเร็จ 80 เปอร์​เซนต์ แต่​บิดา​มารดา​ไม่​เห็น​ด้วย และ​บิดา​มารดา​ไม่​คัดค้าน​วิธี​การ​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​โอกาส​สำเร็จ​เพียง 40 เปอร์​เซนต์—แพทย์​จะ​ต้อง​ใช้​วิธี​ที่​เสี่ยง​กว่า​ใน​ทาง​การ​แพทย์ แต่​บิดา​มารดา​ไม่​คัดค้าน.”

ขณะ​ที่​มี​การ​พบ​อันตราย​ร้าย​แรง​ถึง​ชีวิต​หลาย​อย่าง​ของ​การ​ใช้​เลือด​ใน​ทาง​การ​แพทย์ และ​เพราะ​มี​วิธี​เลือก​อื่น​แทน​ซึ่ง​ได้​ผล​ดี​ใน​การ​รักษา เป็น​ไป​ได้​ไหม​ที่​การ​หลีก​เลี่ยง​จาก​เลือด​เป็น​วิธี​ที่​มี​อันตราย​น้อย​กว่า?

เป็น​ธรรมดา​ที่​คริสเตียน​จะ​ชั่ง​ดู​ปัจจัย​หลาย​อย่าง​ถ้า​ลูก​จะ​ต้อง​รับ​การ​ผ่าตัด. การ​ผ่าตัด​ทุก​อย่าง​ไม่​ว่า​จะ​ใช้​เลือด​หรือ​ไม่​ก็​มี​ความ​เสี่ยง. ศัลยแพทย์​คน​ใด​จะ​ให้​การ​รับรอง? บิดา​มารดา​อาจ​ทราบ​ว่า​ได้​เคย​มี​แพทย์​ที่​ชำนาญ​ทำ​การ​ผ่าตัด​ให้​ลูก​ของ​พยาน​ฯ​ได้​ผล​อย่าง​ดี​โดย​ไม่​ใช้​เลือด. ดัง​นั้น แม้​แพทย์​หรือ​เจ้าหน้าที่​ของ​โรง​พยาบาล​จะ​มี​ความ​เห็น​อีก​แบบ​หนึ่ง แทน​ที่​จะ​มา​ต่อ​สู้​กัน​ใน​ศาล​ซึ่ง​ทั้ง​เสีย​เวลา​และ​เครียด จะ​ไม่​มี​เหตุ​ผล​กว่า​หรือ​ที่​พวก​เขา​จะ​ร่วม​มือ​กับ​บิดา​มารดา​ที่​รัก​ลูก​เหล่า​นั้น? หรือ​บิดา​มารดา​อาจ​ย้าย​บุตร​ไป​ยัง​โรง​พยาบาล​อื่น ที่​ซึ่ง​เจ้าหน้าที่​มี​ประสบการณ์​และ​เต็ม​ใจ​ใน​การ​รักษา​ราย​เหล่า​นั้น. ที่​จริง​แล้ว การ​รักษา​โดย​ไม่​ใช้​เลือด​น่า​จะ​เป็น​วิธี​ที่​มี​คุณภาพ เนื่อง​จาก​วิธี​นี้​สามารถ​ช่วย​ให้​ครอบครัว “บรรลุ​ถึง​เป้าหมาย​ทาง​การ​แพทย์​และ​ที่​ไม่​ใช่​ทาง​การ​แพทย์​อัน​ชอบ​ด้วย​เหตุ​ผล” อย่าง​ที่​เรา​ได้​กล่าว​ไว้​ใน​ตอน​ต้น.

[เชิงอรรถ]

a โปรด​ดู​บทความ​ทาง​การ​แพทย์​ที่​มี​ชื่อ “เลือด: เป็น​การ​เลือก​ของ​ใคร และ​ตาม​สติ​รู้สึก​ผิด​และ​ชอบ​ของ​ผู้​ใด?” ใน​บาง​ส่วน​ของ​ภาค​ผนวก​ที่​หน้า 30-31.

[กรอบ​หน้า 18]

การ​ปลด​เปลื้อง​ความ​รับผิดชอบ​ทาง​กฎหมาย

คุณ​อาจ​สงสัย​ว่า ‘เหตุ​ใด​แพทย์​บาง​คน​หรือ​โรง​พยาบาล​บาง​แห่ง​จึง​ด่วน​ที่​จะ​ร้อง​ต่อ​ศาล​เพื่อ​สั่ง​ให้​มี​การ​ถ่าย​เลือด?’ ใน​บาง​ประเทศ​เหตุ​ผล​ทั่ว​ไป​คือ​กลัว​จะ​ถูก​ฟ้อง​เรียก​ค่า​เสียหาย.

ไม่​ใช่​เรื่อง​ที่​จะ​ต้อง​เป็น​ห่วง​ใน​กรณี​นี้​เมื่อ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เลือก​การ​รักษา​โดย​ไม่​ใช้​เลือด. แพทย์​ผู้​หนึ่ง​ที่​วิทยาลัย​การ​แพทย์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (สหรัฐ​ฯ) รายงาน​ดัง​นี้ “ส่วน​ใหญ่ [พวก​พยาน​ฯ] พร้อม​ที่​จะ​ลง​นาม​ใน​แบบ​ฟอร์ม​ของ​แพทยสมาคม​แห่ง​อเมริกา ปลด​เปลื้อง​แพทย์​และ​โรง​พยาบาล​จาก​ความ​รับผิดชอบ​ใน​ความ​เสียหาย และ​หลาย​คน​พก​บัตร “เอกสาร​ทาง​การ​แพทย์”. แบบ​ฟอร์ม ‘การ​ปฏิเสธ​ที่​จะ​รับ​ผลิตผล​จาก​เลือด’ ซึ่ง​มี​การ​ลง​นาม​และ​วัน​ที่​อย่าง​ถูก​ต้อง เป็น​ข้อ​ตก​ลง​ที่​เป็น​สัญญา​และ​มี​ผล​ผูก​พัน​ตาม​กฎหมาย.”—Anesthesiology News, ตุลาคม 1989.

ถูก​แล้ว พยาน​พระ​ยะโฮวา​ร่วม​มือ​ให้​ความ​มั่น​ใจ​ทาง​กฎหมาย​แก่​แพทย์​หรือ​โรง​พยาบาล​ว่า จะ​ไม่​ถูก​เรียก​ร้อง​ค่า​เสียหาย​ใด ๆ ใน​การ​จัด​รักษา​ตาม​ที่​ถูก​ร้อง​ขอ​โดย​ไม่​ใช้​เลือด. ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​ผู้​เชี่ยวชาญ​ทาง​การ​แพทย์ พยาน​พระ​ยะโฮวา​แต่​ละ​คน​จะ​พก​บัตร​เอกสาร​ทาง​การ​แพทย์​ไว้. บัตร​นี้​จะ​เปลี่ยน​ใหม่​ทุก​ปี และ​จะ​ลง​นาม​โดย​เจ้า​ของ​บัตร​และ​พยาน​ซึ่ง​มัก​จะ​เป็น​ญาติ​ใกล้​ชิด.

ใน​ปี 1990 ศาล​สูง​สุด​แห่ง​ประเทศ​แคนาดา​ได้​ตัดสิน​ยืน​ตาม​คำ​พิพากษา​เดิม​ที่​กล่าว​ไว้​อย่าง​เห็น​พ้อง​ด้วย​กับ​บัตร​ดัง​กล่าว: “บัตร​นี้​เป็น​แถลง​การ​อัน​เป็น​ลายลักษณ์​อักษร​เกี่ยว​กับ​ฐานะ ซึ่ง​ผู้​ถือ​บัตร​อาจ​ยึด​ถือ​ได้​อย่าง​ชอบ​ด้วย​กฎหมาย​เพื่อ​วาง​ข้อ​จำกัด​เป็น​ลายลักษณ์​อักษร​เกี่ยว​กับ​คำ​สัญญา​กับ​แพทย์.” ใน​หนังสือ Medicinsk Etik (1985) ศาสตราจารย์​แดเนียล แอน​เดอ​ร์​เซน เขียน​ไว้​ว่า “ถ้า​มี​เอกสาร​ที่​เขียน​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​จาก​ผู้​ป่วย​แจ้ง​ว่า​เขา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​เขา​ไม่​ต้องการ​เลือด​ไม่​ว่า​ใน​กรณี​ใด ๆ แล้ว ด้วย​ความ​นับถือ​ต่อ​ความ​เป็น​อิสระ​ของ​ผู้​ป่วย เรา​ต้อง​ทำ​ตาม​ความ​ประสงค์​นี้​เสมือน​กับ​ว่า​เขา​ได้​กล่าว​จาก​ปาก​ของ​เขา​เอง.”

พยาน​ฯ​จะ​ลง​นาม​ใน​ใบ​ยินยอม​ของ​โรง​พยาบาล​ด้วย. แบบ​หนึ่ง​ซึ่ง​ใช้​อยู่​ที่​โรง​พยาบาล​ใน​ไฟรบูร์ก เยอรมนี มี​ช่อง​ว่าง​ซึ่ง​แพทย์​ใช้​เขียน​ข้อมูล​เกี่ยว​กับ​การ​รักษา​ที่​เขา​ได้​อธิบาย​ให้​ผู้​ป่วย. และ​เหนือ​ลายเซ็นต์​ของ​แพทย์​และ​ผู้​ป่วย แบบ​ฟอร์ม​นี้​มี​ข้อ​ความ​เพิ่ม​เติม​ว่า “ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​สมาชิก​ของ​คณะ​ศาสนา​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา ข้าพเจ้า​ขอ​ปฏิเสธ​อย่าง​เด็ดขาด​ที่​จะ​ใช้​เลือด​หรือ​ส่วน​ประกอบ​ของ​เลือด​จาก​ภาย​นอก​ระหว่าง​การ​ผ่าตัด​ของ​ข้าพเจ้า. ข้าพเจ้า​ทราบ​ดี​ว่า​วิธี​การ​ที่​จำเป็น​และ​ที่​ได้​กำหนด​ไว้​จะ​มี​ความ​เสี่ยง​มาก​ขึ้น​เนื่อง​จาก​ปัญหา​เลือด​ออก. หลัง​จาก​ที่​ได้​รับ​คำ​อธิบาย​อย่าง​แจ่ม​แจ้ง​โดย​เฉพาะ​ใน​เรื่อง​นี้​แล้ว ข้าพเจ้า​เรียก​ร้อง​ให้​ทำ​การ​ผ่าตัด​ที่​จำเป็น​โดย​ไม่​ต้อง​ใช้​เลือด​หรือ​ส่วน​ประกอบ​ของ​เลือด​จาก​ภาย​นอก.”—Herz Kreislauf, สิงหาคม 1987.

ที่​จริง​แล้ว การ​รักษา​โดย​ไม่​ใช้​เลือด​อาจ​มี​ความ​เสี่ยง​น้อย​กว่า. แต่​จุด​สำคัญ ณ ที่​นี้​คือ​ผู้​ป่วย​พยาน​ฯ​ยินดี​ที่​จะ​ขจัด​ความ​กังวล​ที่​ไม่​จำเป็น​ทุก​อย่าง​เพื่อ​ที่​บุคลากร​ทาง​การ​แพทย์​จะ​ได้​จดจ่อ​กับ​สิ่ง​ที่​เขา​ตั้งใจ​จะ​ทำ นั่น​คือ​การ​ช่วย​ให้​ผู้​ป่วย​หาย​เป็น​ปกติ. ความ​ร่วม​มือ​อย่าง​นี้​เป็น​ประโยชน์​กับ​ทุก​ฝ่าย ดัง​ที่ ดร. แอน​เจ​โล​ส เอ. แคม​บู​ริ​ส รายงาน​ไว้​ใน “การ​ผ่าตัด​ใหญ่​ของ​ช่อง​ท้อง​ใน​พยาน​พระ​ยะโฮวา” ดัง​นี้:

“ศัลยแพทย์​ควร​ถือ​ว่า​ข้อ​ตก​ลง​ก่อน​การ​ผ่าตัด เป็น​ข้อ​ผูก​มัด​และ​ต้อง​ถือ​มั่น​ตลอด​ไป ไม่​ว่า​จะ​มี​เหตุ​การณ์​อะไร​เกิด​ขึ้น​ก็​ตาม ใน​ระหว่าง​การ​ผ่าตัด​หรือ​หลัง​จาก​นั้น. เรื่อง​นี้​ช่วย​ให้​ผู้​ป่วย​มี​ทัศนะ​ที่​ดี​ต่อ​การ​ผ่าตัด และ​ดึง​ความ​สนใจ​ของ​ศัลยแพทย์​จาก​เรื่อง​ทาง​กฎหมาย​และ​ปรัชญา ให้​จดจ่อ​ใน​เรื่อง​ของ​การ​ผ่าตัด​และ​เทคนิค ทั้ง​นี้​จะ​ช่วย​ให้​เขา​ทำ​ผ่าตัด​ได้​อย่าง​ดี​ที่​สุด และ​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​ผู้​ป่วย​มาก​ที่​สุด.”—The American Surgoen, มิถุนายน 1987.

[กรอบ​หน้า 19]

การ​ใช้​เทคโนโลยี​ทาง​การ​แพทย์​อย่าง​ไม่​จำเป็น​คือ​สาเหตุ​ใหญ่​ของ​การ​เพิ่ม​ขึ้น​ใน​ค่า​ใช้​จ่าย​สำหรับ​การ​รักษา​สุขภาพ​ใน​ปัจจุบัน. . . . การ​ถ่าย​เลือด​มี​ความ​สำคัญ​เป็น​พิเศษ​เพราะ​ค่า​ใช้​จ่าย​ที่​สูง​และ​มี​อันตราย​มาก. ดัง​นั้น คณะ​กรรมาธิการ​ร่วม​ของ​การ​กำหนด​มาตรฐาน​สำหรับ​โรง​พยาบาล​แห่ง​อเมริกา​จึง​จัด​ให้​การ​ถ่าย​เลือด​อยู่​ใน​พวก​ที่ ‘มี​ปริมาณ​มาก มี​ความ​เสี่ยง​สูง และ​ผิด​พลาด​ได้​มาก.’”—“Transfusion,” กรกฎาคม–สิงหาคม 1989.

[กรอบ​หน้า 20]

สหรัฐ​ฯ: รากฐาน​ของ​ความ​จำเป็น​ใน​การ​ได้​รับ​ความ​ยินยอม​จาก​ผู้​ป่วย​คือ​หลัก​จรรยา​ของ​ความ​เป็น​อิสระ​ใน​ตัว​ของ​ตัว​เอง นั่น​คือ​การ​ตัดสิน​ใน​เรื่อง​ชะตากรรม​ควร​จะ​เป็น​สิทธิ์​ของ​บุคคล​คน​นั้น. พื้น​ฐาน​ทาง​ด้าน​กฎหมาย​ของ​การ​ต้อง​ขอ​ความ​ยินยอม​เสีย​ก่อน ก็​เพราะ​การ​ดำเนิน​การ​ทาง​การ​แพทย์​ใด ๆ โดย​ไม่​ได้​รับ​ความ​ยินยอม​จาก​ผู้​ป่วย​ถือ​เป็น​การ​ทำ​ร้าย​ร่าง​กาย.”—“การ​ยินยอม​รับ​การ​ถ่าย​เลือด​โดย​ได้​รับ​การ​ชี้​แจง​ครบ​ถ้วน”, 1989.

เยอรมนี: สิทธิ์​ของ​ผู้​ป่วย​ใน​การ​ตัดสิน​ด้วย​ตน​เอง​อยู่​เหนือ​กว่า​หลักการ​ของ​การ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​และ​การ​รักษา​ไว้​ซึ่ง​ชีวิต. ผล​ก็​คือ: ไม่​มี​การ​ถ่าย​เลือด​ให้​ผู้​ป่วย​โดย​ไม่​ได้​รับ​ความ​ยินยอม.”—“Herz Kreislauf,” สิงหาคม 1987.

ญี่ปุ่น: “ไม่​มี​สิ่ง​ที่ ‘เด็ดขาด แน่นอน ไม่​ผิด​พลาด’ ใน​ทาง​การ​แพทย์. แพทย์​เชื่อ​ว่า​วิธี​การ​แพทย์​ใน​สมัย​ปัจจุบัน​เป็น​สิ่ง​ที่​ดี​ที่​สุด​และ​ดำเนิน​ตาม​นั้น แต่​พวก​เขา​ไม่​ควร​บังคับ​ผู้​ป่วย​ให้​ยอม​รับ​ทุก​อย่าง​ว่า​เป็น​สิ่ง ‘เด็ดขาด แน่นอน ไม่​ผิด​พลาด.’ ผู้​ป่วย​จะ​ต้อง​มี​อิสระ​ใน​การ​เลือก​ด้วย.”—“มินามิ นิฮอน ชิมบุน” มิถุนายน 1985.

[กรอบ​หน้า 21]

“ผม​ได้​พบ​ว่า​ครอบครัว [ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา] เป็น​ครอบครัว​ที่​ใกล้​ชิด​กัน​และ​รัก​กัน​มาก.” ดร. ลอเรนซ์ เอส. แฟรงเคิล กล่าว. “พวก​เด็ก ๆ มี​การ​ศึกษา​ดี มี​น้ำ​ใจ และ​มี​มารยาท​ดี. . . . ดู​เหมือน​ว่า​เขา​เต็ม​ใจ​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​สั่ง​ของ​แพทย์​มาก​กว่า​คน​ทั่ว​ไป ซึ่ง​อาจ​มา​ใน​รูป​ของ​ความ​พยายาม​ที่​จะ​ให้​รับ​วิธี​ทาง​การ​แพทย์​ใด ๆ ตราบ​ใด​ที่​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา​ยอม​ให้.”—แผนก​กุมารเวชศาสตร์, โรง​พยาบาล​และ​สถาบัน​มะเร็ง เอ็ม. ดี. แอนเดอร์สัน, ฮิว​ส​ตัน, สหรัฐ​ฯ, 1985.

[กรอบ​หน้า 22]

“ดร. เจมส์ แอล. เฟล็ตเชอร์ จูเนียร์ กล่าว​ว่า “ผม​คิด​ว่า​มี​ไม่​น้อย​ที​เดียว ที่​ความ​เย่อหยิ่ง​ทาง​อาชีพ​อาจ​เข้า​มา​แทน​การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​ดี​ทาง​การ​แพทย์. วิธี​การ​รักษา​ที่​คิด​กัน​ว่า ‘ดี​ที่​สุด​ใน​ทุก​วัน​นี้’ อาจ​มี​การ​ดัด​แปลง​หรือ​อาจ​เลิก​ใช้​ไป​ใน​วัน​ข้าง​หน้า​ก็​ได้. อะไร​เป็น​สิ่ง​ที่​อันตราย​กว่า​กัน​แน่ ‘บิดา​มารดา​ที่​เคร่ง​ศาสนา’ หรือ​แพทย์​ที่​หยิ่ง​ยโส​ผู้​ซึ่ง​ถือ​ว่า​การ​รักษา​แบบ​ของ​เขา​หรือ​ของ​เธอ เป็น​สิ่ง​ที่​จำเป็น​อย่าง​ไม่​มี​ข้อ​โต้​แย้ง​ได้?”—“Pediatrics,” ตุลาคม 1988.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์