พฤษภาคม
วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม
ขอให้พวกคุณสังเกตดูพระเยซูให้ดี—ฮบ. 12:3
พระยะโฮวารักเราและอยากให้เรารู้จักลูกชายของพระองค์ พระองค์เลยให้มีหนังสือข่าวดี 4 เล่มอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลซึ่งก็คือ มัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์น หนังสือเหล่านี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตและงานรับใช้ของพระเยซูซึ่งทำให้เรารู้ว่าท่านพูดอะไร ทำอะไร และรู้สึกยังไง นี่ก็เหมือนรอยเท้าของพระเยซูที่ท่านทิ้งไว้ให้เราเห็น หนังสือข่าวดีทั้ง 4 เล่มนี้ช่วยให้เรา “สังเกตดู” ตัวอย่างของพระเยซู ถ้าเราศึกษาหนังสือข่าวดีทั้ง 4 เล่ม เราก็จะรู้จักพระเยซูมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะเดินตามรอยเท้าของท่านอย่างใกล้ชิดได้ แต่เพื่อเราจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากหนังสือข่าวดี 4 เล่ม แค่อ่านเฉย ๆ ยังไม่พอ เราต้องใช้เวลาศึกษาอย่างละเอียดและคิดใคร่ครวญเรื่องที่อ่านอย่างลึกซึ้งด้วย (เทียบกับโยชูวา 1:8) ลองนึกภาพว่าถ้าคุณอยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้น คุณเห็นอะไรบ้าง ได้ยินอะไรบ้าง และคุณรู้สึกยังไง เพื่อจะทำอย่างนั้นได้ คุณอาจจะลองค้นคว้าดูหนังสือและสื่อต่าง ๆ ขององค์การ ห21.04 น. 4-5 ว. 11-13
วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม
แต่เรากลับประกาศเรื่องที่พระคริสต์ถูกประหารบนเสา—1 คร. 1:23
พระยะโฮวาได้บอกล่วงหน้าไว้หลายร้อยปีก่อนพระเยซูจะมาว่า เมสสิยาห์จะถูกทรยศด้วยเงิน 30 เชเขล (ศคย. 11:12, 13) และยังบอกด้วยว่าคนที่ทรยศจะเป็นเพื่อนสนิทของท่าน (สด. 41:9) เศคาริยาห์ก็พยากรณ์ด้วยว่า “ฆ่าคนเลี้ยงแกะ และให้ฝูงแกะกระเจิดกระเจิงไป” (ศคย. 13:7) คนที่มีหัวใจดีจะไม่ปฏิเสธพระเยซูเพราะเรื่องนี้ แต่พวกเขาจะยิ่งมีความเชื่อเข้มแข็งมากขึ้นเพราะเห็นคำพยากรณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจริงกับท่าน เราเห็นปัญหาเดียวกันในทุกวันนี้ไหม? ใช่ ในปัจจุบันมีพยานฯบางคนที่พี่น้องรู้จักดีได้ออกจากความจริงแล้วกลายเป็นคนทรยศพระเจ้า และพยายามชักชวนคนอื่นให้ตามพวกเขาไปด้วย พวกเขาแพร่เรื่องที่คนอื่นพูดเกี่ยวกับพยานฯในทางไม่ดี แพร่เรื่องโกหกและเรื่องที่จริงบ้างไม่จริงบ้างเกี่ยวกับพยานฯในสื่อต่าง ๆ และในอินเทอร์เน็ต แต่คนที่มีหัวใจดีไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ พวกเขารู้ว่าคัมภีร์ไบเบิลพยากรณ์ไว้แล้วว่าเหตุการณ์แบบนี้จะต้องเกิดขึ้น—มธ. 24:24; 2 ปต. 2:18-22 ห21.05 น. 11 ว. 12; น. 12-13 ว. 18-19
วันพุธที่ 3 พฤษภาคม
แต่ทางของคนดีเป็นเหมือนแสงสว่างยามเช้าซึ่งสว่างขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงเที่ยงวัน—สภษ. 4:18
คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าความรู้จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ (คส. 1:9, 10) พระยะโฮวาช่วยเราให้เข้าใจความจริงเป็นขั้น ๆ เราต้องอดทน ความจริงเป็นเหมือนแสงที่จะสว่างขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าคนที่นำหน้าในองค์การรู้ว่ามีอะไรต้องปรับเปลี่ยน พวกเขาก็จะปรับเปลี่ยนทันที จริง ๆ แล้วคริสเตียนหลายนิกายก็ปรับเปลี่ยนเหมือนกัน แต่ที่เขาเปลี่ยนก็เพราะเขาอยากเอาใจสมาชิกในโบสถ์หรือเปลี่ยนตามกระแสเพื่อให้คนในโลกยอมรับ แต่เมื่อพยานพระยะโฮวาปรับเปลี่ยน พวกเราทำอย่างนั้นเพราะอยากให้พระยะโฮวายอมรับและอยากให้การนมัสการของเราเป็นแบบที่พระเยซูทำ (ยก. 4:4) เราไม่ได้เปลี่ยนเพราะทำตามกระแสหรือทำตามความคิดของใครคนหนึ่ง แต่ที่เราปรับเปลี่ยนก็เพราะว่าเราเข้าใจความรู้ในคัมภีร์ไบเบิลมากขึ้น พวกเรารักความจริง—1 ธส. 2:3, 4 ห21.10 น. 22 ว. 12
วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม
ฝากความกังวลทั้งหมดไว้กับพระองค์—1 ปต. 5:7
อะไรจะช่วยให้คุณไม่รู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียว? ให้คิดว่าพระยะโฮวาดูแลและคอยช่วยคุณยังไง (สด. 55:22) การทำแบบนี้จะทำให้คุณเห็นว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ให้คิดว่าพระยะโฮวาคอยช่วยพี่น้องคนอื่นที่รู้สึกเหงายังไง (1 ปต. 5:9, 10) ฮิโรชิพี่น้องชายที่เป็นพยานฯคนเดียวในครอบครัวมานานแล้วบอกว่า “พอเห็นว่าทุกคนพยายามเต็มที่เพื่อจะรับใช้พระยะโฮวา พวกเราที่อยู่ในความจริงคนเดียวก็ได้กำลังใจมากเลยครับ” นอกจากนั้น ให้อธิษฐาน อ่านคัมภีร์ไบเบิล และไปประชุมเป็นประจำ ตอนที่คุณอธิษฐาน คุณต้องบอกพระยะโฮวาว่าคุณรู้สึกยังไงจริง ๆ ให้คุณอ่านคัมภีร์ไบเบิลทุกวันและคิดใคร่ครวญเรื่องราวที่ทำให้เห็นว่าพระยะโฮวารักคุณ พี่น้องบางคนพยายามจำข้อคัมภีร์ที่ช่วยให้พวกเขาได้กำลังใจเป็นพิเศษ เช่น สดุดี 27:10 และอิสยาห์ 41:10 ส่วนบางคนรู้สึกว่าถ้าพวกเขาฟังไฟล์เสียงตอนที่เตรียมการประชุมหรืออ่านคัมภีร์ไบเบิล พวกเขาก็จะรู้สึกเหงาน้อยลง ห21.06 น. 9-10 ว. 5-8
วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม
ลูกจะไม่กลัวภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน—สภษ. 3:25
คุณกำลังเสียใจเพราะคนที่รักตายจากไปไหม? ถ้าคุณรู้สึกอย่างนั้น ขอให้ใช้เวลาทำให้ความเชื่อของตัวเองเข้มแข็งขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องของการฟื้นขึ้นจากตายโดยการอ่านเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับคนที่ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตาย หรือคุณกำลังเสียใจเพราะคนที่รักถูกตัดสัมพันธ์ไหม? ขอให้ใช้เวลาศึกษาส่วนตัวเพื่อคุณจะมั่นใจว่าการสั่งสอนของพระเจ้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดเสมอ ไม่ว่าคุณจะเจอกับปัญหาอะไรก็ตามขอให้ใช้โอกาสนั้นเพื่อทำให้ความเชื่อเข้มแข็งขึ้น อธิษฐานระบายความในใจกับพระยะโฮวา อย่าแยกตัวอยู่คนเดียวแต่พยายามสนิทกับพี่น้องของคุณเสมอ (สภษ. 18:1) และเพื่อคุณจะไม่จมอยู่กับความเศร้ามากเกินไป ให้พยายามทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณอดทนได้ ถึงแม้ว่าคุณอาจต้องทำอย่างนั้นทั้งน้ำตา (สด. 126:5, 6) อย่าขาดการประชุมการประกาศ และให้อ่านคัมภีร์ไบเบิลทุกวัน คิดถึงสิ่งดี ๆ มากมายที่พระยะโฮวาสัญญาว่าจะให้คุณในอนาคต เมื่อคุณเห็นว่าพระยะโฮวาช่วยคุณ คุณก็จะมีความเชื่อในพระองค์มากขึ้น ห21.11 น. 23 ว. 11; น. 24 ว. 17
วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม
พ่อของผมในสวรรค์ก็เหมือนกัน พระองค์ไม่อยากให้คนที่ต่ำต้อยสักคนเดียวต้องหายสาบสูญไป—มธ. 18:14
มีเหตุผลอะไรที่ทำให้สาวกของพระเยซูดูเป็น “คนที่ต่ำต้อย”? ลองคิดดูสิว่าในมุมมองของคนทั่วไปใครเป็นคนสำคัญ คนทั่วไปมองว่าคนรวย มีชื่อเสียง และมีอำนาจเป็นคนสำคัญ ส่วนสาวกของพระเยซูไม่ได้รวย มีชื่อเสียง หรือมีอำนาจ คนทั่วไปก็เลยมองว่าพวกเขาไม่ใช่คนสำคัญ แต่เป็น “คนที่ต่ำต้อย” (1 คร. 1:26-29) แต่พระยะโฮวาไม่ได้มองพวกเขาอย่างนั้น แล้วอะไรทำให้พระเยซูพูดถึง “คนที่ต่ำต้อย”? ก่อนหน้านี้สาวกของท่านมาถามว่า “ใครจะได้เป็นใหญ่ที่สุดในรัฐบาลสวรรค์ครับ?” (มธ. 18:1) คนยิวในสมัยนั้นมองว่าตำแหน่งเป็นเรื่องสำคัญมาก นักวิชาการคนหนึ่งบอกว่า “คนเรายอมทุ่มทั้งชีวิตเพื่อจะได้ความนับถือ ชื่อเสียง เกียรติยศ และให้คนอื่นยอมรับ แม้ว่าเขาจะต้องตายก็ตาม” พระเยซูรู้ว่าชาวยิวในสมัยนั้นอยากเป็นคนสำคัญกว่าคนอื่น และความคิดแบบนี้มีอิทธิพลกับสาวกของพระเยซู พวกเขาเลยต้องพยายามมากเพื่อจะไม่คิดแบบนั้น ห21.06 น. 20 ว. 2; น. 21 ว. 6, 8; น. 22 ว. 9
วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม
เพื่อนที่ให้คำแนะนำอย่างจริงใจ เป็นเหมือนน้ำมันและเครื่องหอมที่ทำให้ชื่นใจ—สภษ. 27:9
เปาโลเป็นตัวอย่างที่ดีมากให้กับผู้ดูแล เช่น ตอนที่พี่น้องในเธสะโลนิกาจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำ เปาโลก็ไม่ลังเลที่จะเขียนจดหมายไปแนะนำพวกเขา แต่ก่อนอื่นเปาโลชมพวกเขาว่าพวกเขารับใช้อย่างซื่อสัตย์ ทำงานด้วยความรักและอดทนจริง ๆ นอกจากนั้น เปาโลยังบอกว่าเขาเข้าใจสภาพการณ์ของพี่น้องเหล่านั้นว่าไม่ง่ายเลยและรู้ด้วยว่าพวกเขาต้องอดทนการข่มเหงหนักขนาดไหน (1 ธส. 1:3; 2 ธส. 1:4) เปาโลถึงกับบอกว่าพี่น้องเหล่านั้นเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่น (1 ธส. 1:8, 9) คำชมของเปาโลต้องทำให้พวกเขาได้กำลังใจแน่นอนและเห็นเลยว่าเปาโลรักพวกเขามาก นี่เลยทำให้คำแนะนำในจดหมาย 2 ฉบับที่เปาโลเขียนถึงพี่น้องในเธสะโลนิกาเป็นคำแนะนำที่ได้ผลจริง—1 ธส. 4:1, 3-5, 11; 2 ธส. 3:11, 12 ห22.02 น. 15 ว. 6
วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม
พระเจ้าจะเช็ดน้ำตาทุกหยดจากตาของพวกเขา ความตายจะไม่มีอีกต่อไป—วว. 21:4
ซาตานใช้พวกผู้นำศาสนาเพื่อสอนว่าพระยะโฮวาโหดร้ายมากและเป็นต้นเหตุของความทุกข์ทั้งหมด เช่น พอมีเด็กตาย พวกเขาก็จะบอกว่าที่เป็นอย่างนี้เพราะพระเจ้าอยากได้ทูตสวรรค์มากขึ้น แต่นี่เป็นคำสอนที่ดูหมิ่นพระเจ้าจริง ๆ เรารู้ว่าพระยะโฮวาไม่ใช่พระเจ้าแบบนั้น ถึงเราจะป่วยหนักหรือว่าคนที่เรารักตายไป เราจะไม่มีทางโทษพระยะโฮวา เราเชื่อว่าวันหนึ่งพระองค์จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ทั้งหมด และเราจะบอกคนอื่นว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่รักเรามาก ถ้าเราทำแบบนี้ เราก็กำลังตอบคนที่เยาะเย้ยพระองค์ (สภษ. 27:11) พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่เห็นอกเห็นใจ พระองค์ไม่อยากเห็นเราต้องร้องไห้เสียน้ำตาเพราะต้องทนกับการต่อต้าน ความเจ็บป่วย หรือความไม่สมบูรณ์แบบที่ทำให้เราทำผิดพลาดบ่อย ๆ (สด. 22:23, 24) พระองค์เข้าใจว่าเราเจ็บปวดมากขนาดไหน และพระองค์ไม่อยากให้เราต้องเจอเรื่องแบบนี้ พระองค์จะจัดการกับเรื่องนี้แน่นอน—เทียบกับอพย. 3:7, 8; อสย. 63:9 ห21.07 น. 10 ว. 9-10
วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม
พระองค์ให้เขามีเกียรติยศและความสง่างาม—สด. 8:5
อีกไม่นานมนุษย์ที่เชื่อฟังจะได้รับเกียรติสูงสุดจากพระยะโฮวาคือพวกเขาจะได้รักและนมัสการพระองค์ตลอดไป พระเยซูจะกำจัดผลเสียหายที่มาจากการที่อาดัมและเอวาเลือกที่จะทิ้งครอบครัวของพระเจ้า พระยะโฮวาจะปลุกคนเป็นล้าน ๆ ให้กลับมามีชีวิตอีก พวกเขาจะมีโอกาสที่จะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและมีชีวิตตลอดไปบนโลกที่เป็นสวนอุทยาน (ลก. 23:42, 43) ในที่สุด เมื่อมนุษย์ที่รับใช้พระยะโฮวาเป็นคนที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ พวกเขาแต่ละคนก็จะ “มีเกียรติยศและความสง่างาม” อย่างที่ดาวิดพูดถึง ขอให้จำไว้ว่า ถ้าคุณเป็น “ชนฝูงใหญ่” คุณมีความหวังที่ยอดเยี่ยมมาก (วว. 7:9) พระเจ้ารักคุณและอยากให้คุณเป็นครอบครัวของพระองค์ ขอให้คุณทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อทำให้พระองค์พอใจและให้คำสัญญาของพระองค์อยู่ในใจคุณเสมอ ขอให้คุณเห็นค่าสิทธิพิเศษที่คุณได้รับใช้พ่อในสวรรค์และมีโอกาสที่จะสรรเสริญพระองค์ตลอดไป ห21.08 น. 7 ว. 18-19
วันพุธที่ 10 พฤษภาคม
เราจะเก็บเกี่ยวผลเมื่อถึงเวลา—กท. 6:9
เยเรมีย์เป็นอีกคนหนึ่งที่ประกาศเป็นเวลามากกว่า 40 ปีแต่ก็ไม่มีคนฟัง แถมยังมีคนต่อต้านเขาด้วย เขาท้อใจมากเพราะ “ถูกดูหมิ่นและถูกเยาะเย้ย” จนคิดว่าอยากจะเลิกทำงานรับใช้ไปเลย (ยรม. 20:8, 9) แต่เยเรมีย์ไม่ยอมแพ้ อะไรช่วยให้เขากลับมาคิดบวกและมีความสุขกับงานรับใช้ได้? เขาคิดถึง 2 อย่าง อย่างแรก เรื่องที่พระเจ้าบอกให้เขาประกาศจะช่วยให้ผู้คน “มีอนาคตที่ดีและมีความหวัง” (ยรม. 29:11) อย่างที่สอง เยเรมีย์ถูกเรียกตามชื่อของพระยะโฮวา พระองค์ใช้เขาให้พูดแทนพระองค์ (ยรม. 15:16) พวกเราก็เหมือนกันกับเยเรมีย์ เรื่องที่เราประกาศช่วยให้คนมีความหวังและเราก็ใช้ชื่อของพระยะโฮวาด้วย ถ้าเราสนใจที่ 2 อย่างนี้เราจะมีความสุขกับงานรับใช้ไม่ว่าคนจะฟังเราหรือไม่ก็ตาม อย่าเพิ่งท้อหรือยอมแพ้ถ้านักศึกษาของคุณไม่ก้าวหน้าเร็วอย่างที่คิด การช่วยคนให้เป็นสาวกต้องใช้เวลาและความอดทน—ยก. 5:7, 8 ห21.10 น. 27 ว. 12-13
วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม
ให้เราปลดของหนักทุกอย่างทิ้งไป รวมทั้งบาปที่รัดตัวเราได้ง่าย—ฮบ. 12:1
ไม่ว่าเราจะรับใช้พระยะโฮวามานานแค่ไหนก็ตาม เราต้องทำให้ความเชื่อมั่นคงอยู่เสมอ ทำไมล่ะ? ก็เพราะถ้าเราไม่ระวัง ความเชื่อของเราก็จะอ่อนลงได้ อย่าลืมว่าความเชื่อเกี่ยวข้องกับสิ่งที่มองไม่เห็น และสิ่งที่เรามองไม่เห็นนั่นแหละที่เราจะลืมมันได้ง่าย ๆ เปาโลบอกว่าการขาดความเชื่อเป็น “บาปที่รัดตัวเราได้ง่าย” แล้วอะไรจะช่วยเราให้มีความเชื่อมั่นคงอยู่เสมอ? (2 ธส. 1:3) อย่างแรก ให้ขอพลังบริสุทธิ์จากพระยะโฮวาและขอบ่อย ๆ ทำไม? ก็เพราะความเชื่อเป็นผลที่เกิดจากพลังของพระเจ้า (กท. 5:22, 23) เราไม่สามารถมีความเชื่อในผู้สร้างและทำให้ความเชื่อมั่นคงอยู่เสมอได้เลยถ้าพลังของพระเจ้าไม่ช่วยเรา ถ้าเราขอต่อ ๆ ไป พระองค์จะให้พลังบริสุทธิ์กับเราแน่นอน (ลก. 11:13) เราอาจจะอธิษฐานขอแบบนี้เลยก็ได้ว่า “ขอช่วยให้พวกเรามีความเชื่อมากขึ้นด้วยครับ” (ลก. 17:5) อย่างที่สอง ให้อ่านและศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นประจำ—สด. 1:2, 3 ห21.08 น. 18-19 ว. 16-18
วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม
ผมหงอกเป็นมงกุฎที่สวยงาม—สภษ. 16:31
พี่น้องสูงอายุอย่าลืมว่าพวกคุณยังทำอะไรได้หลายอย่างในองค์การของพระเจ้า ถึงพวกคุณจะไม่มีเรี่ยวมีแรงเหมือนเมื่อก่อนแต่พวกคุณก็มีประสบการณ์มานานหลายปี พระยะโฮวาใช้คนสูงอายุให้ทำงานของพระองค์หลายอย่าง ในคัมภีร์ไบเบิลมีตัวอย่างผู้รับใช้ของพระยะโฮวาหลายคนที่รับใช้พระองค์อย่างซื่อสัตย์และกระตือรือร้นแม้แต่ตอนที่พวกเขาอายุมากแล้ว อย่างเช่น โมเสสน่าจะอายุประมาณ 80 แล้วตอนที่เขาเริ่มเป็นผู้พยากรณ์ของพระยะโฮวาและเป็นผู้นำชาติอิสราเอล พระยะโฮวายังใช้ดาเนียลให้เป็นผู้พยากรณ์ทั้ง ๆ ที่เขาอายุ 90 กว่าแล้ว ส่วนอัครสาวกยอห์นก็น่าจะอายุมากกว่า 90 ตอนที่เขาได้รับการดลใจให้เขียนหนังสือวิวรณ์ นอกจากนั้น ยังมีสิเมโอนซึ่ง “เป็นคนที่เชื่อฟังและเลื่อมใสพระเจ้า” ถึงคัมภีร์ไบเบิลจะพูดถึงเขาแค่นิดเดียว แต่พระยะโฮวารู้จักเขาดี และให้สิทธิพิเศษกับเขาโดยให้เห็นพระเยซูตอนเป็นทารก และให้เขาพยากรณ์เกี่ยวกับท่านและมารีย์—ลก. 2:22, 25-35 ห21.09 น. 3-4 ว. 5-7
วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม
พระยะโฮวา ผมไม่ใช่คนหยิ่ง . . . ผมไม่คิดอยากได้อะไรที่สูงส่งเกินไป—สด. 131:1
พ่อแม่ต้องระวังที่จะไม่เปรียบเทียบลูกคนหนึ่งกับลูกอีกคนหนึ่ง และต้องไม่คาดหมายให้ลูกทำมากกว่าที่เขาจะทำได้เพราะถ้าทำอย่างนั้นลูกอาจท้อใจ (อฟ. 6:4) พี่น้องคนหนึ่งที่ชื่อซาชิโกะบอกว่า “แม่บอกให้ฉันสอบให้ได้เต็ม 100 ด้วยซ้ำ แต่ฉันรู้ว่าฉันไม่มีทางทำได้ ถึงฉันจะเรียนจบมาหลายปีแล้ว บางครั้งฉันก็ยังสงสัยว่าที่ฉันพยายามทำดีที่สุดให้พระยะโฮวามันดีพอรึยัง” กษัตริย์ดาวิดบอกว่าเขา “ไม่คิดอยากได้อะไรที่สูงส่งเกินไป” หรือไม่ได้อยากทำอะไรที่ยากเกินไปสำหรับเขา (สด. 131:2) และที่ดาวิดสงบใจได้ก็เพราะเขาถ่อมและเจียมตัว พ่อแม่เรียนอะไรได้จากคำพูดดาวิด? พ่อแม่ที่ถ่อมและเจียมตัวจะไม่คาดหมายกับตัวเองมากเกินไป และจะไม่คาดหมายมากเกินไปกับลูกด้วย และตอนที่ตั้งเป้าหมายให้ลูกเขาต้องคิดว่าลูกเก่งอะไรหรือไม่เก่งอะไร ถ้าเขาทำแบบนี้ลูกก็จะมีกำลังใจและรู้สึกว่าตัวเองมีค่า ห21.07 น. 21-22 ว. 5-6
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม
แต่ละคนจะต้องแบกความรับผิดชอบของตัวเอง—กท. 6:5
เราต้องจำไว้ว่าพระยะโฮวาให้เรามีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะเลือกรับใช้พระองค์หรือไม่ เด็กบางคนที่พ่อแม่เป็นตัวอย่างไม่ดีอาจจะโตมาแล้วเลือกรับใช้พระเจ้าก็ได้ ในทางกลับกัน เด็กที่พ่อแม่พยายามสอนเขาให้รักพระเจ้า แต่พอโตมาอาจจะไม่เอาความจริงก็ได้ ทุกคนต้องเลือกเองว่าเขาอยากจะใช้ชีวิตแบบไหน (ยชว. 24:15) ดังนั้น คุณที่เป็นพ่อแม่ ถึงคุณจะเสียใจมาก แต่ก็อย่าโทษตัวเองถ้าลูกของคุณเลือกที่จะไม่รับใช้พระยะโฮวา ส่วนบางครั้งพ่อแม่บางคนอาจทิ้งพระยะโฮวา และถึงกับทิ้งครอบครัวไปด้วย (สด. 27:10) ลูก ๆ ที่รักและภูมิใจในตัวพ่อแม่จะรู้สึกแย่มากเมื่อต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ ถ้าคุณมีพ่อหรือแม่ที่ถูกตัดสัมพันธ์ คุณคงจะเจ็บปวดมาก ขอให้คุณมั่นใจว่าพระยะโฮวารู้ว่าคุณต้องเจ็บปวดมากแค่ไหน พระยะโฮวารักคุณและภูมิใจที่คุณยังซื่อสัตย์ต่อพระองค์ ขอให้คุณจำไว้ว่าที่พ่อแม่ของคุณตัดสินใจแบบนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ ห21.09 น. 27 ว. 5-7
วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม
พระยะโฮวารักใคร พระองค์ก็สั่งสอนคนนั้น—ฮบ. 12:6
คนที่ถูกตัดสัมพันธ์เป็นเหมือนแกะที่ป่วย ความสัมพันธ์ของเขากับพระยะโฮวากำลังมีปัญหา (ยก. 5:14) เหมือนกับแกะที่ป่วยที่อาจแพร่เชื้อให้กับแกะตัวอื่น ๆ คนที่ทำบาปอาจจะแพร่ความคิดที่ไม่ดีให้กับพี่น้องในประชาคมได้ ดังนั้น ในบางครั้งการตัดสัมพันธ์จึงเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อจะปกป้องพี่น้องในประชาคม นี่เป็นวิธีที่พระยะโฮวาแสดงความรักต่อฝูงแกะของพระองค์และยังอาจทำให้คนที่ทำบาปสำนึกผิดและกลับใจก็ได้ คนที่ถูกตัดสัมพันธ์ยังสามารถไปประชุม รับหนังสือไปอ่านเอง และดูรายการโทรทัศน์ JW ได้ซึ่งนี่จะทำให้เขามีความเชื่อที่เข้มแข็งขึ้น และระหว่างที่ผู้ดูแลสังเกตความก้าวหน้าของเขา ผู้ดูแลอาจจะให้คำแนะนำกับเขาเป็นระยะ ๆ เพื่อช่วยให้เขากลับมาสนิทกับพระยะโฮวา และถูกรับกลับมาเป็นพยานพระยะโฮวาอีกครั้ง ห21.10 น. 10 ว. 9, 11
วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม
คนที่เรียกผมว่า “นายท่าน นายท่าน” ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เข้ารัฐบาลสวรรค์—มธ. 7:21
ทุกวันนี้วิธีการทำงานในองค์การของเราก็เหมือนกับคริสเตียนรุ่นแรก เช่น เรามีผู้ดูแลหมวด ผู้ดูแลในประชาคม และผู้ช่วยงานรับใช้ (ฟป. 1:1; ทต. 1:5) นอกจากนั้น เราทำตามกฎหมายของพระเจ้าเรื่องการแต่งงานและเพศสัมพันธ์ เรื่องเลือด และเรื่องการจัดการกับคนทำผิดที่ไม่กลับใจเหมือนกับที่คริสเตียนรุ่นแรกทำ (กจ. 15:28, 29; 1 คร. 5:11-13; 6:9, 10; ฮบ. 13:4) คัมภีร์ไบเบิลบอกอย่างชัดเจนว่าพระเจ้ายอมรับ “ความเชื่ออย่างเดียว” หรือศาสนาเดียวเท่านั้น (อฟ. 4:4-6) เราดีใจมากและรู้สึกเป็นสิทธิพิเศษที่ได้เป็นพยานพระยะโฮวาและได้รู้ความจริงเกี่ยวกับพระยะโฮวาและความประสงค์ของพระองค์ ขอให้เรารักษาความมั่นใจว่าสิ่งที่เราเชื่อเป็นความจริง ห21.10 น. 22-23 ว. 15-17
วันพุธที่ 17 พฤษภาคม
ให้เข้าประจำที่ ยืนเฉย ๆ แล้วดูพระยะโฮวาช่วยพวกเจ้าให้รอด—2 พศ. 20:17
กษัตริย์เยโฮชาฟัทเจอปัญหาใหญ่ มีชาวอัมโมน โมอับ และคนจากเขตเทือกเขาเสอีร์มาขู่ว่าจะมาโจมตีเขากับครอบครัว รวมทั้งประชาชนของเขาด้วย (2 พศ. 20:1, 2) เยโฮชาฟัททำยังไง? เขาอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาด้วยความถ่อม เราเห็นคำอธิษฐานของเยโฮชาฟัทได้จาก 2 พงศาวดาร 20:5-12 ที่นั่นทำให้เรารู้เลยว่าเขาวางใจพระยะโฮวามากขนาดไหน พระยะโฮวาพูดกับเยโฮชาฟัทผ่านทางคนเลวีที่ชื่อยาฮาซีเอล พระยะโฮวาบอกเยโฮชาฟัทอย่างที่บอกไว้ในข้อคัมภีร์ประจำวันนี้ เยโฮชาฟัทวางใจพระยะโฮวาแล้วก็ทำตามที่พระองค์บอกโดยไม่ได้เอานักรบเก่ง ๆ ไปนำหน้ากองทัพ แต่กลับเอาคนที่ไม่มีอาวุธอะไรเลยไปร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวาอยู่ด้านหน้า พระยะโฮวาไม่ทำให้เยโฮชาฟัทผิดหวัง พระองค์ช่วยเขาให้เอาชนะศัตรูได้—2 พศ. 20:18-23 ห21.11 น. 15 ว. 6-7
วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม
เพราะพระยะโฮวามีความรักที่มั่นคง พวกเราจึงยังไม่พบจุดจบ ความเมตตาของพระองค์ไม่มีวันหมด—พคค. 3:22
ไม่ว่าเราจะเจอปัญหาอะไร เรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะช่วยเราให้รักษาความซื่อสัตย์ต่อพระองค์ได้ (2 คร. 4:7-9) เรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะรักเราอย่างมั่นคงต่อ ๆ ไปเพราะคัมภีร์ไบเบิลบอกเราว่า “พระยะโฮวาคอยเฝ้าดูคนที่เกรงกลัวพระองค์ และคนที่รอคอยความรักที่มั่นคงของพระองค์” (สด. 33:18-22) ก่อนที่เราจะมารับใช้พระยะโฮวา เราได้รับความรักอย่างที่พระองค์แสดงกับมนุษย์ทั่วไป แต่พอเรามารับใช้พระยะโฮวาเราได้รับความรักที่มั่นคงจากพระองค์ ความรักที่มั่นคงนี้ทำให้พระยะโฮวาปกป้องเราเหมือนกับพระองค์ใช้แขนโอบกอดเราไว้ และเพราะพระองค์รักเราอย่างมั่นคง พระองค์จะอยู่กับเราเสมอและทำตามที่พระองค์สัญญากับเรา พระองค์อยากให้เราเป็นเพื่อนกับพระองค์ตลอดไป (สด. 46:1, 2, 7) ดังนั้น ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาอะไร พระยะโฮวาจะช่วยให้เรามีกำลังที่จะรักษาความซื่อสัตย์ต่อพระองค์ได้ ห21.11 น. 7 ว. 17-18
วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม
ขอให้ทนกันและกัน และให้อภัยกันอย่างใจกว้างต่อไป—คส. 3:13
เราส่วนใหญ่คงรู้จักบางคนที่โกรธเพื่อนร่วมงาน เพื่อนนักเรียน ญาติ หรือคนอื่นในครอบครัวนานเป็นปี ๆ ไม่ยอมหาย ขอให้นึกถึงพวกพี่ชาย 10 คนของโยเซฟที่โกรธและเกลียดโยเซฟจนทำให้พวกเขาทำสิ่งที่เลวร้ายกับน้องชาย (ปฐก. 37:2-8, 25-28) ต่างกันกับโยเซฟลิบลับ แม้ในตอนที่เขามีอำนาจและมีโอกาสจะเอาคืนพวกพี่ ๆ ได้ แต่เขาก็ไม่ทำ เขายังแสดงความเมตตาต่อพวกพี่ ๆ โยเซฟไม่เคยอาฆาตแค้น แต่เขาทำเหมือนที่บอกไว้ในเลวีนิติ 19:18 (ปฐก. 50:19-21) ถ้าคริสเตียนอยากทำให้พระยะโฮวาพอใจ เขาต้องเลียนแบบโยเซฟที่ไม่เก็บความโกรธไว้ ไม่แก้แค้น แต่ให้อภัยคนอื่น พระเยซูอยากให้เรายกโทษคนที่ทำผิดกับเรา (มธ. 6:9, 12) นอกจากนั้น เปาโลบอกคริสเตียนว่า “พี่น้องที่รัก อย่าแก้แค้นด้วยตัวเอง”—รม. 12:19 ห21.12 น. 11 ว. 13-14
วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม
พระองค์ให้คนที่เกรงกลัวพระองค์ได้ทุกสิ่งที่ต้องการ พระองค์ฟังพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือและช่วยพวกเขา—สด. 145:19
คืนวันที่ 14 เดือนนิสาน ปี ค.ศ. 33 เป็นคืนที่พระเยซูเครียดมาก เพราะนั่นเป็นคืนสุดท้ายที่ท่านจะมีชีวิตอยู่ ท่านไปที่สวนเกทเสมนีและระบายความรู้สึกกับพระยะโฮวา (ลก. 22:39-44) ท่าน “อธิษฐานขอและอ้อนวอนเสียงดังทั้งน้ำตา” (ฮบ. 5:7) พระเยซูอธิษฐานเรื่องอะไร? ท่านอธิษฐานเพื่อขอให้พระยะโฮวาช่วยท่านให้ซื่อสัตย์ภักดีต่อพระองค์และสามารถทำตามความประสงค์ของพระองค์ได้ พระยะโฮวาฟังคำอธิษฐานของลูกชายสุดที่รักของพระองค์ และก็ส่งทูตสวรรค์เพื่อมาให้กำลังใจท่าน พระเยซูรู้ด้วยว่าท่านมีหน้าที่รับผิดชอบสำคัญมากที่จะต้องซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าจนวันตาย และต้องทำให้ชื่อเสียงของพระยะโฮวาพ้นข้อกล่าวหา พระยะโฮวาตอบคำอธิษฐานจากใจของพระเยซู เพราะอะไร? เพราะสิ่งที่พระเยซูเป็นห่วงมากที่สุดก็คือท่านอยากซื่อสัตย์ภักดีต่อพระยะโฮวาและทำให้ชื่อเสียงของพระองค์พ้นข้อกล่าวหา ถ้านี่เป็นสิ่งที่คุณเป็นห่วงมาก พระยะโฮวาก็จะตอบคำอธิษฐานของคุณเหมือนกัน—สด. 145:18 ห22.01 น. 18 ว. 15-17
วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม
ให้พวกคุณไปสอนคนทุกชาติให้เป็นสาวก ให้พวกเขารับบัพติศมา—มธ. 28:19, 20
หลายคนไม่ชอบเราเพราะเราไม่ยุ่งเรื่องการเมือง พวกเขาคิดว่าเราควรจะลงคะแนนเลือกตั้ง แต่ถ้าเราเลือกผู้นำที่เป็นมนุษย์ก็แสดงว่าเราปฏิเสธพระยะโฮวา (1 ซม. 8:4-7) บางคนคิดว่าเราน่าจะไปสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล หรือทำงานการกุศลอย่างอื่นเพื่อช่วยสังคม พวกเขาเลยไม่ชอบเราเพราะเราสนใจแต่การประกาศแทนที่จะพยายามแก้ปัญหาของโลก (มธ. 7:21-23) เพื่อจะไม่ให้อะไรมาขัดขวางเราไม่ให้ติดตามพระเยซู เราต้องให้งานที่พระเยซูสั่งให้เราทำเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต (มธ. 28:19, 20) เราต้องไม่ยุ่งอยู่กับการแก้ปัญหาของสังคมหรือสนใจเกี่ยวกับการเมืองจนไม่ให้ความสำคัญกับงานนี้ ถึงเราจะรักผู้คนและเป็นห่วงปัญหาของพวกเขา แต่เรารู้ว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยพวกเขาก็คือสอนพวกเขาเกี่ยวกับรัฐบาลของพระเจ้า และช่วยพวกเขาให้สนิทกับพระองค์ ห21.05 น. 7 ว. 19-20
วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม
ในสมัยสุดท้ายจะเป็นช่วงเวลาวิกฤติที่มีแต่ความยุ่งยากลำบาก—2 ทธ. 3:1
ถึงผู้นำของหลายชาติในทุกวันนี้จะอ้างว่ารับใช้พระเจ้าแต่พวกเขาก็ยังอยากมีอำนาจและปกครองต่อไป พวกเขาต่อต้านรัฐบาลของพระองค์ พวกเขาทำเหมือนผู้นำในสมัยของพระเยซู พวกเขาต่อต้านคนที่พระยะโฮวาเจิมโดยโจมตีสาวกที่ซื่อสัตย์ของท่าน (กจ. 4:25-28) แล้วพระยะโฮวาทำยังไง? สดุดี 2:10-12 บอกว่า “ดังนั้น กษัตริย์ทั้งหลาย ขอให้มีความเข้าใจที่ลึกซึ้ง พวกผู้พิพากษาในโลก ขอให้ยอมรับการว่ากล่าวแก้ไข ขอให้รับใช้พระยะโฮวาด้วยความเกรงกลัว และชื่นชมยินดีด้วยความยำเกรง ให้นับถือลูกของพระเจ้า ไม่อย่างนั้นพระเจ้าจะโกรธ แล้วพวกคุณจะพินาศ เพราะพระองค์อาจจะโกรธขึ้นมาทันที แต่คนที่เข้ามาพึ่งพิงพระองค์จะมีความสุข” พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่ใจกว้าง พระองค์ยังให้โอกาสชาติต่าง ๆ ที่จะเปลี่ยนใจมายอมรับรัฐบาลของพระองค์ แต่เวลาใกล้จะหมดแล้ว ผู้คนต้องรู้ความจริงและเลือกรับใช้พระยะโฮวา ไม่มีอะไรที่เร่งด่วนมากเท่านี้อีกแล้ว—อสย. 61:2 ห21.09 น. 15-16 ว. 8-9
วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม
เมื่อเรามีอาหารกิน มีเสื้อผ้าใส่ เราก็น่าจะพอใจในสิ่งที่มีอยู่—1 ทธ. 6:8
เปาโลบอกว่าให้เราพอใจในสิ่งที่เรามี (ฟป. 4:12) สิ่งสำคัญที่สุดของเราก็คือการสนิทกับพระยะโฮวาไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ (ฮบก. 3:17, 18) ลองคิดถึงตอนที่ชาวอิสราเอลเดินทางในที่กันดารมา 40 ปีแล้ว โมเสสบอกเขาว่า “พระยะโฮวาพระเจ้าอวยพรทุกสิ่งที่เจ้าทำ . . . พระยะโฮวาพระเจ้าอยู่กับเจ้าตลอดทั้ง 40 ปี พวกเจ้าไม่ขาดอะไรเลย” (ฉธบ. 2:7) พระยะโฮวาดูแลชาวอิสราเอลจริง ๆ พระองค์ให้มานากับพวกเขา และเสื้อผ้าที่พวกเขาใส่ตั้งแต่ตอนที่ออกจากอียิปต์ก็ไม่เก่า (ฉธบ. 8:3, 4) ในทุกวันนี้ก็เหมือนกัน พระยะโฮวาจะดีใจถ้าเราพอใจกับสิ่งที่เรามี เห็นค่าสิ่งธรรมดา ๆ ที่พระองค์จัดเตรียมให้ ขอบคุณพระองค์ และมองว่าเป็นของขวัญจากพระองค์ ห22.01 น. 5 ว. 10-11
วันพุธที่ 24 พฤษภาคม
ขอให้วางใจพระยะโฮวาสุดหัวใจ และอย่าพึ่งความเข้าใจของตัวเอง—สภษ. 3:5
คนที่เป็นสามี คุณมีหน้าที่รับผิดชอบที่จะดูแลและปกป้องครอบครัวของคุณ เวลาคุณเจอปัญหาคุณอาจจะรู้สึกว่าคุณจัดการเองได้ แต่ขอคุณอย่าพึ่งตัวเอง ให้คุณอธิษฐานเป็นส่วนตัวขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวา นอกจากนั้น ให้คุณอธิษฐานด้วยกันกับภรรยาและระบายความในใจให้พระยะโฮวาฟัง หาคำแนะนำจากคัมภีร์ไบเบิลและสื่อต่าง ๆ ขององค์การ บางคนอาจจะไม่เห็นด้วยที่คุณทำตามคำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล พวกเขาอาจบอกว่าเงินเท่านั้นที่จะทำให้ครอบครัวมั่นคงปลอดภัย แต่ขอให้จำตัวอย่างของกษัตริย์เยโฮชาฟัทเอาไว้ (2 พศ. 20:1-30) เขาวางใจพระยะโฮวาและลงมือทำ พระยะโฮวาไม่ทิ้งเยโฮชาฟัท พระองค์ก็จะไม่ทิ้งคุณด้วยแน่นอน—สด. 37:28; ฮบ. 13:5 ห21.11 น. 15 ว. 6; น. 16 ว. 8
วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม
พระองค์ . . . ยุติธรรมเสมอ—ฉธบ. 32:4
พระยะโฮวาสร้างเราตามแบบของพระองค์ เราเลยอยากเห็นคนอื่นได้รับความยุติธรรม (ปฐก. 1:26) ถึงเราจะคิดว่าเรามีข้อมูลที่ครบถ้วนแล้ว แต่เราเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบเลยเป็นไปไม่ได้ที่เราจะตัดสินเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องทุกครั้ง ลองคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับโยนาห์ดูสิ เขาไม่เห็นด้วยกับพระยะโฮวาที่พระองค์เมตตาชาวเมืองนีนะเวห์ (ยนา. 3:10–4:1) แต่เพราะความเมตตาของพระยะโฮวานั่นแหละที่ทำให้ชาวเมืองนีนะเวห์มากกว่า 120,000 คนที่กลับใจรอดชีวิต เห็นแล้วไหมล่ะว่าใครถูกใครผิด? พระยะโฮวาไม่จำเป็นต้องอธิบายทุกอย่างกับเรา ก็จริงที่พระยะโฮวาให้โอกาสผู้รับใช้ของพระองค์ในอดีตได้พูดออกมาว่าพวกเขาไม่สบายใจกับการตัดสินใจของพระองค์บางเรื่อง (ปฐก. 18:25; ยนา. 4:2, 3) และบางครั้งพระยะโฮวาก็อธิบายเหตุผลด้วยว่าทำไมพระองค์ถึงตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่ง (ยนา. 4:10, 11) แต่พระองค์ไม่จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากเราก่อนที่พระองค์จะทำอะไร หรือหลังจากที่พระองค์ทำบางสิ่งบางอย่างไปแล้ว—อสย. 40:13, 14; 55:9 ห22.02 น. 3-4 ว. 5-6
วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม
ให้คนที่เป็นใหญ่ที่สุดในพวกคุณทำตัวเหมือนคนที่อายุน้อยที่สุด และให้คนที่นำหน้าทำตัวเหมือนคนรับใช้—ลก. 22:26
ถ้าเราอยาก “ทำตัวเหมือนคนที่อายุน้อยที่สุด” เราต้อง “มองว่าคนอื่นดีกว่าตัวเอง” (ฟป. 2:3) ถ้าเราพยายามทำแบบนี้ โอกาสที่เราจะทำให้คนอื่นเจ็บใจก็มีน้อยลง ที่จริงพี่น้องทุกคนต้องมีอะไรสักอย่างที่ดีกว่าเราแน่นอน ถึงจะไม่ง่ายที่เราจะคิดแบบนี้ แต่ถ้าเรามองที่ส่วนดีของพี่น้อง เรื่องนี้ก็ไม่ยากเกินไป เราควรทำตามคำแนะนำของเปาโลที่ให้กับพี่น้องในเมืองโครินธ์ที่บอกว่า “ใครบอกว่าพวกคุณวิเศษกว่าคนอื่น? จริง ๆ แล้วสิ่งที่พวกคุณมีตอนนี้ มีอะไรสักอย่างไหมที่พวกคุณไม่ได้รับมา? ในเมื่อพวกคุณได้รับมา แล้วทำไมถึงอวดเหมือนกับว่าไม่ได้รับมาล่ะ?” (1 คร. 4:7) เราต้องไม่คิดว่าเราดีกว่าคนอื่น หรือพยายามทำให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นคนสำคัญ ถ้าพี่น้องชายคนไหนบรรยายเก่ง หรือพี่น้องหญิงคนไหนมีนักศึกษาหลายคนและมีคนมาชมเขา เขาควรยกย่องให้เกียรติพระยะโฮวาเสมอ ห21.06 น. 21-22 ว. 9-10
วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม
ให้หว่านพืช . . . และอย่าหยุด—ปญจ. 11:6
พี่น้องของเราหลายคนรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้เจอคนยากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนไปประกาศตามบ้าน เช่น บางเขตมีอพาร์ตเมนต์หรือหมู่บ้านที่มียามรักษาความปลอดภัยและไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปได้ และถึงบางเขตพี่น้องของเราจะไปประกาศตามบ้านได้แต่ก็ไม่ค่อยเจอคนอยู่บ้าน ส่วนบางเขตก็อยู่ไกลมากและก็มีบ้านแค่ไม่กี่หลัง พี่น้องบางคนต้องเดินทางไกลมากเพื่อจะไปหาบ้านหนึ่งซึ่งก็ไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะอยู่หรือเปล่า ถ้าเขตของเราเป็นแบบนั้น ขออย่ายอมแพ้ ให้เราประกาศต่อ ๆ ไป ลองไปเวลาอื่น ต่อให้ผู้คนจะใช้เวลาทำอะไรอยู่นอกบ้านมากแค่ไหน ยังไงพวกเขาก็ต้องกลับบ้านอยู่ดี ถ้าเราพยายามไปหาพวกเขาตอนที่พวกเขาน่าจะอยู่บ้าน เราก็จะมีโอกาสเจอพวกเขามากกว่า พี่น้องหลายคนรู้สึกว่าถ้าไปประกาศตอนบ่ายหรือตอนเย็นจะเจอคนได้มากกว่า และเจ้าของบ้านจะรู้สึกผ่อนคลายและพร้อมที่จะคุยกับเรามากกว่าด้วย ห21.05 น. 15 ว. 5, 7
วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม
ที่พวกเขานมัสการเราก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพวกเขาชอบเอากฎเกณฑ์ของมนุษย์มาสอน—มก. 7:7
เราเห็นปัญหาเดียวกันในทุกวันนี้ไหม? ใช่ หลายคนไม่พอใจที่พยานฯไม่ไปฉลองเทศกาลด้วยกันกับพวกเขา เช่น วันเกิดหรือวันปีใหม่ ส่วนบางคนโมโหที่เราไม่ฉลองอะไรที่เกี่ยวกับการแสดงความรักชาติหรือทำตามธรรมเนียมในงานศพที่ไม่เป็นไปตามหลักการในคัมภีร์ไบเบิล พวกเขาอาจจะเชื่อจริง ๆ ว่าพวกเขานมัสการพระเจ้าในแบบที่ถูกต้อง แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่มีทางทำให้พระเจ้าพอใจได้เลยถ้าพวกเขาชอบธรรมเนียมของโลกมากกว่าคำสอนในคัมภีร์ไบเบิล (มก. 7:8-9) เพื่อจะไม่ให้อะไรมาขัดขวางเราไม่ให้ติดตามพระเยซู เราต้องรักกฎหมายของพระยะโฮวาและหลักการของพระองค์ให้มาก ๆ (สด. 119:97, 113, 163-165) ถ้าเรารักพระยะโฮวา เราก็จะไม่ไปยุ่งกับธรรมเนียมที่พระองค์ไม่ชอบ เราต้องไม่รักอย่างอื่นมากกว่ารักพระองค์ ห21.05 น. 6 ว. 15-16
วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม
ขอให้มีสติในทุกสถานการณ์ อดทนความยากลำบาก ทำหน้าที่ของผู้ประกาศข่าวดี—2 ทธ. 4:5
เราจะทำตามคำแนะนำของเปาโลได้ยังไง? เพื่อจะไม่ให้อะไรมาขัดขวางเราไม่ให้รับใช้พระยะโฮวา เราต้องรักษาความเชื่อให้เข้มแข็งอยู่เสมอโดยศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นประจำ อธิษฐานบ่อย ๆ และขยันทำงานที่พระยะโฮวามอบหมายให้เราทำ (2 ทธ. 4:4, 5) ถ้าเรามีความเชื่อ เราจะไม่กลัวหรือกังวลเวลาเราได้ยินเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับพยานพระยะโฮวา (อสย. 28:16) ถึงคนที่ทิ้งความจริงจะพยายามชักชวนเรา แต่ถ้าเรารักพระยะโฮวา รักคัมภีร์ไบเบิล และรักพี่น้อง เราก็จะไม่หลงไปกับพวกเขา ในสมัยพระเยซูมีหลายคนที่ไม่ยอมรับท่าน แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ได้ทำอย่างนั้น เช่น มี “ปุโรหิตกลุ่มใหญ่” และมีสมาชิกของศาลแซนเฮดรินอย่างน้อยหนึ่งคนเข้ามาเชื่อด้วย (กจ. 6:7; มธ. 27:57-60; มก. 15:43) ในทุกวันนี้ก็เหมือนกัน มีหลายล้านคนที่ติดตามพระเยซู เพราะพวกเขาได้รู้ความจริงในคัมภีร์ไบเบิลและรักความจริง คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “คนที่รักกฎหมายของพระองค์มีความสงบสุขมาก ไม่มีอะไรทำให้พวกเขาล้มพลาดได้เลย”—สด. 119:165 ห21.05 น. 13 ว. 20-21
วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม
เมื่อเจ้าอ่อนแอ พลังอำนาจของเราก็แสดงได้อย่างเต็มที่—2 คร. 12:9
อัครสาวกเปาโลรู้ว่าที่เขาทำทุกอย่างได้ในงานรับใช้ไม่ใช่เพราะพลังของตัวเขาเองแต่เพราะพลังที่มาจากพระยะโฮวา พลังบริสุทธิ์ช่วยเปาโลให้มีพลังที่จะทำงานรับใช้ของเขาได้สำเร็จถึงแม้จะต้องเจอกับการข่มเหง ถูกจับขังคุก และปัญหาอื่น ๆ ทิโมธีเพื่อนรุ่นน้องของเปาโลก็ต้องพึ่งพลังของพระเจ้าด้วยเหมือนกัน ทิโมธีเดินทางไปประกาศในต่างประเทศหลายครั้งกับเปาโล นอกจากนั้น เปาโลยังส่งเขาไปให้กำลังใจประชาคมต่าง ๆ ด้วย (1 คร. 4:17) ทิโมธีอาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอ นี่เลยอาจเป็นเหตุผลที่เปาโลบอกเขาว่า “อย่าให้ใครดูถูกคุณเพราะเห็นว่าคุณยังหนุ่ม” (1 ทธ. 4:12) และในช่วงเวลาเดียวกัน ทิโมธีก็มีหนามในร่างกายด้วยซึ่งก็คือ ‘ความเจ็บป่วยที่เขาเป็นบ่อย ๆ’ (1 ทธ. 5:23) แต่ทิโมธีรู้ว่าพลังบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาจะให้พลังกับเขาเพื่อประกาศข่าวดีและรับใช้พี่น้องต่อไปได้—2 ทธ. 1:7 ห21.05 น. 21 ว. 6-7
วันพุธที่ 31 พฤษภาคม
ดูแลแกะของคุณให้ดี—สภษ. 27:23
คนที่จะให้คำแนะนำคนอื่นควรทำตามยากอบ 1:19 ที่บอกว่า “ทุกคนต้องไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ” ผู้ดูแลอาจจะคิดว่าเขารู้ทุกอย่างแล้ว แต่เป็นอย่างนั้นจริงไหม? สุภาษิต 18:13 เตือนว่า “คนที่ตอบก่อนได้ยินข้อเท็จจริง ก็ทำเรื่องโง่และน่าอับอาย” ดังนั้น ดีที่สุดที่ผู้ดูแลจะเข้าไปคุยกับพี่น้องคนนั้น และขอให้เขาช่วยเล่าว่าเรื่องราวเป็นยังไง ผู้ดูแลควรตั้งใจฟังก่อนที่จะพูดอะไรออกไป ผู้ดูแลอาจถามว่า “คุณเป็นยังไงบ้าง?” หรือ “มีอะไรที่ผมจะช่วยคุณได้บ้าง?” ถ้าผู้ดูแลใช้เวลาเพื่อจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับพี่น้อง เขาจะให้กำลังใจและช่วยพี่น้องได้ดีกว่า ถ้าผู้ดูแลอยากให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องจริง ๆ เขาต้องไม่ใช่แค่อ่านข้อคัมภีร์ไม่กี่ข้อแล้วก็ให้คำแนะนำนิดหน่อย พี่น้องต้องสัมผัสได้ว่าผู้ดูแลรักและเป็นห่วงพวกเขา เข้าใจพวกเขา และอยากช่วยพวกเขาจริง ๆ ห22.02 น. 17 ว. 14-15