ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ต99 8/6 น. 10-13
  • “พวกเด็ก ๆ บอบบาง”

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • “พวกเด็ก ๆ บอบบาง”
  • ตื่นเถิด! 1999
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • หลักการ​อัน​สูง​ส่ง
  • ความ​เป็น​จริง​ใน​สมัย​นี้
  • ทาง​แก้​ที่​แท้​จริง
  • จงอบรมลูกของคุณตั้งแต่เป็นทารก
    เคล็ดลับสำหรับความสุขในครอบครัว
  • การสร้างครอบครัว ที่เข้มแข็งฝ่ายวิญญาณ
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2001
  • ช่วยลูก ๆ ของคุณให้วัฒนาขึ้น
    ตื่นเถิด! 1997
  • จงสอนบุตรให้รักพระยะโฮวา
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2007
ดูเพิ่มเติม
ตื่นเถิด! 1999
ต99 8/6 น. 10-13

“พวก​เด็ก ๆ บอบบาง”

‘พวก​เด็ก ๆ บอบบาง; ข้าพเจ้า​จะ​เดิน​ทาง​ไป​ช้า ๆ ตาม​กำลัง​ของ​พวก​เด็ก ๆ.’ —ยาโคบ บิดา​ของ​เด็ก​หลาย​คน ศตวรรษ​ที่ 18 ก.ส.ศ.

การ​ปฏิบัติ​ต่อ​เด็ก​อย่าง​โหด​ร้าย​ไม่​ใช่​เรื่อง​ใหม่. อารยธรรม​โบราณ อย่าง​เช่น​ของ​ชาว​แอซเทก, ชาว​คะนาอัน, ชาว​อินคา, และ​ชาว​ฟีนิเซีย มี​ชื่อเสียง​ที่​ไม่​ดี​ใน​เรื่อง​การ​บูชายัญ​เด็ก. การ​ขุด​ค้น​เมือง​ของ​ชาว​ฟีนิเซีย​ที่​ชื่อ คาร์เทจ (ปัจจุบัน​อยู่​แถบ​ชาน​เมือง​ตูนิส แอฟริกา​เหนือ) เปิด​เผย​ว่า ระหว่าง​ศตวรรษ​ที่​ห้า​ถึง​ศตวรรษ​ที่​สาม​ก่อน​สากล​ศักราช มี​เด็ก​มาก​ถึง 20,000 คน​ถูก​ถวาย​บูชา​แก่​พระ​บาละ​และ​เทพ​ธิดา​ทานิต! ตัว​เลข​นี้​ยิ่ง​น่า​ตกใจ​เมื่อ​คำนึง​ถึง​ว่า​ใน​สมัย​ที่​เมือง​คาร์เทจ​กำลัง​เจริญ​รุ่งเรือง​นั้น กล่าว​กัน​ว่า​เมือง​นี้​มี​ประชากร​เพียง​แค่ 250,000 คน.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม มี​สังคม​หนึ่ง​ใน​สมัย​โบราณ​ที่​แตกต่าง​ออก​ไป. ทั้ง ๆ ที่​อยู่​ท่ามกลาง​ประเทศ​เพื่อน​บ้าน​ที่​ทารุณ​เด็ก ชาติ​ยิศราเอล​แตกต่าง​ออก​ไป​ใน​การ​ปฏิบัติ​ต่อ​เด็ก. ยาโคบ​บุรุษ​ต้น​ตระกูล บิดา​ของ​ชาติ​นั้น​ได้​วาง​ตัว​อย่าง​ไว้. ตาม​ที่​กล่าว​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ ขณะ​เดิน​ทาง​กลับ​สู่​มาตุภูมิ​ของ​ท่าน ยาโคบ​ให้​พวก​ผู้​ติด​ตาม​ท่าน​ทั้ง​คณะ​เดิน​ทาง​ช้า​ลง​เพื่อ​จะ​ไม่​ลำบาก​เกิน​ไป​สำหรับ​เด็ก. ท่าน​กล่าว​ว่า “พวก​เด็ก ๆ บอบบาง.” ใน​ตอน​นั้น บุตร​ของ​ท่าน​มี​อายุ​อยู่​ระหว่าง 5 ถึง 14 ปี. (เยเนซิศ 33:13, 14, ล.ม.) เชื้อ​สาย​ของ​ท่าน คือ​ชาติ​ยิศราเอล ได้​แสดง​ความ​นับถือ​แบบ​เดียว​กัน​ต่อ​ความ​จำเป็น​และ​ศักดิ์ศรี​ของ​เด็ก ๆ.

แน่นอน เด็ก​ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​งาน​หลาย​อย่าง. ขณะ​ที่​เด็ก​ผู้​ชาย​เติบโต​ขึ้น บิดา​ได้​สอน​พวก​เขา​ให้​หัด​ทำ​การ​เกษตร​หรือ​ทำ​งาน​อาชีพ เช่น งาน​ช่าง​ไม้. (เยเนซิศ 37:2; 1 ซามูเอล 16:11) ขณะ​ที่​เด็ก​ผู้​หญิง​อยู่​บ้าน มารดา​สอน​พวก​เธอ​ถึง​ทักษะ​ภาย​ใน​บ้าน​ซึ่ง​จะ​มี​คุณค่า​ใน​ชีวิต​วัย​ผู้​ใหญ่. นาง​ราเฮ็ล ซึ่ง​เป็น​ภรรยา​ของ​ยาโคบ เป็น​ผู้​เลี้ยง​แกะ​ตอน​ที่​เธอ​เป็น​สาว. (เยเนซิศ 29:6-9) หญิง​สาว​ทำ​งาน​ใน​ทุ่ง​นา​ใน​ช่วง​เกี่ยว​ข้าว​และ​ใน​สวน​องุ่น. (ประวัตินางรูธ 2:5-9; เพลง​ไพเราะ 1:6)a งาน​เช่น​นั้น​โดย​ทั่ว​ไป​ทำ​ภาย​ใต้​การ​ดู​แล​ด้วย​ความ​รัก​จาก​บิดา​มารดา​และ​ควบ​คู่​ไป​กับ​การ​เรียน​หนังสือ.

ใน​เวลา​เดียว​กัน เด็ก​เล็ก ๆ ใน​ยิศราเอล​รู้​ถึง​ความ​ชื่นชม​ยินดี​ของ​การ​พักผ่อน​หย่อนใจ​และ​การ​สนุกสนาน. ผู้​พยากรณ์​ซะคาระยา​พูด​ถึง ‘ถนน​ทั้ง​หลาย​แห่ง​เมือง​เต็ม​ด้วย​เด็ก​ชาย​แล​เด็ก​หญิง​เล่น​อยู่.’ (ซะคาระยา 8:5) และ​พระ​เยซู​คริสต์​ตรัส​ถึง​เด็ก​ที่​นั่ง​อยู่​กลาง​ตลาด​ซึ่ง​เป่า​ปี่​และ​เต้น​รำ. (มัดธาย 11:16, 17) อะไร​ทำ​ให้​มี​การ​ปฏิบัติ​ต่อ​เด็ก​ด้วย​การ​คำนึง​ถึง​ศักดิ์ศรี​เช่น​นั้น?

หลักการ​อัน​สูง​ส่ง

ตราบ​ใด​ที่​ชาว​ยิศราเอล​ปฏิบัติ​ตาม​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า พวก​เขา​ไม่​เคย​ทำ​ร้าย​หรือ​แสวง​ประโยชน์​จาก​บุตร​ของ​ตน. (เทียบ​พระ​บัญญัติ 18:10 กับ​ยิระมะยา 7:31.) พวก​เขา​ถือ​ว่า​บุตร​ชาย​หญิง​เป็น “มรดก​จาก​พระ​ยะโฮวา” “เป็น​รางวัล.” (บทเพลง​สรรเสริญ 127:3-5, ล.ม.) บิดา​ถือ​ว่า​บุตร​เป็น ‘ต้น​มะกอก​เทศ​รุ่น ๆ ล้อม​รอบ​โต๊ะ​ของ​เขา’ และ​ต้น​มะกอก​เทศ​เป็น​สิ่ง​ที่​มี​ค่า​มาก​ใน​สังคม​เกษตรกรรม​แบบ​นั้น! (บทเพลง​สรรเสริญ 128:3-6) อัลเฟรด เอเดอร์สไฮม นัก​ประวัติศาสตร์​กล่าว​ว่า นอก​จาก​มี​คำ​สำหรับ​บุตร​ชาย​และ​บุตร​หญิง​แล้ว ภาษา​ฮีบรู​โบราณ​มี​เก้า​คำ​ที่​ใช้​เรียก​เด็ก ๆ แต่​ละ​คำ​สำหรับ​แต่​ละ​ช่วง​อายุ. เขา​ลง​ความ​เห็น​ดัง​นี้: “แน่นอน​ว่า คน​ที่​ตั้งใจ​สังเกต​ชีวิต​ของ​เด็ก​เพื่อ​ที่​จะ​กำหนด​คำ​ที่​ให้​ภาพ​แต่​ละ​ช่วง​ของ​ชีวิต​ขณะ​ที่​เติบ​ใหญ่​ขึ้น คง​จะ​ต้อง​ผูก​พัน​กับ​เด็ก​ของ​ตน​ด้วย​ความ​รักใคร่.”

ใน​สมัย​คริสเตียน บิดา​มารดา​มี​หน้า​ที่​ต้อง​ปฏิบัติ​ต่อ​บุตร​ของ​ตน​โดย​คำนึง​ถึง​ศักดิ์ศรี​และ​ความ​นับถือ. พระ​เยซู​ทรง​วาง​ตัว​อย่าง​อัน​ยอด​เยี่ยม​ใน​การ​ปฏิบัติ​ต่อ​บุตร​ของ​ผู้​อื่น. ใน​โอกาส​หนึ่ง​ตอน​ใกล้​ช่วง​สุด​ท้าย​ของ​งาน​รับใช้​ทางแผ่นดิน​โลก​ของ​พระองค์ หลาย​คน​เริ่ม​พา​บุตร​เล็ก ๆ ของ​ตน​มา​หา​พระองค์. ดู​เหมือน​พวก​สาวก​คิด​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​ยุ่ง​เกิน​กว่า​ที่​จะ​ถูก​รบกวน​ได้ พวก​เขา​จึง​พยายาม​ห้าม​คน​เหล่า​นั้น. แต่​พระ​เยซู​ทรง​ว่า​กล่าว​สาวก​ของ​พระองค์​ดัง​นี้ “จง​ยอม​ให้​เด็ก​เล็ก ๆ เข้า​มา​หา​เรา, อย่า​ห้าม​เขา​เลย.” พระ​เยซู​ถึง​กับ “อุ้ม​เด็ก​เล็ก ๆ เหล่า​นั้น.” ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ว่า​พระองค์​ทรง​ถือ​ว่า​เด็ก ๆ มี​ค่า​และ​คู่​ควร​กับ​การ​ปฏิบัติ​อย่าง​กรุณา.—มาระโก 10:14, 16; ลูกา 18:15-17.

ต่อ​มา อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​แก่​ผู้​ที่​เป็น​บิดา​ว่า “อย่า​ยั่ว​บุตร​ของ​ตน​ให้​ขัด​เคือง​ใจ, เกรง​ว่า​เขา​จะ​ท้อ​ใจ.” (โกโลซาย 3:21) สอดคล้อง​กับ​คำ​สั่ง​นี้ บิดา​มารดา​ที่​เป็น​คริสเตียน​ใน​สมัย​นั้น​และ​ใน​สมัย​นี้​จะ​ไม่​มี​วัน​ยอม​ให้​บุตร​ของ​ตน​ตก​เป็น​เหยื่อ​ของ​สภาพ​การ​ทำ​งาน​ที่​กดขี่. พวก​เขา​ตระหนัก​ว่า เพื่อ​เด็ก ๆ จะ​เติบโต​ทาง​ร่าง​กาย, ทาง​อารมณ์, และ​ทาง​ความ​คิด จำเป็น​ต้อง​มี​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก, การ​เอา​ใจ​ใส่, และ​ความ​ปลอด​ภัย. ความ​รัก​แท้​ของ​บิดา​มารดา​ควร​ปรากฏ​ชัด. นี่​รวม​ถึง​การ​ปก​ป้อง​บุตร​ของ​ตน​จาก​สภาพ​การ​ทำ​งาน​ที่​บั่น​ทอน​สุขภาพ.

ความ​เป็น​จริง​ใน​สมัย​นี้

แน่นอน เรา​กำลัง​อยู่​ใน “วิกฤตกาล​ซึ่ง​ยาก​ที่​จะ​รับมือ​ได้.” (2 ติโมเธียว 3:1-5, ล.ม.) เนื่อง​จาก​ความ​เป็น​จริง​ที่​เลว​ร้าย​ทาง​เศรษฐกิจ ใน​หลาย​ประเทศ​แม้​แต่​ครอบครัว​ที่​เป็น​คริสเตียน​อาจ​ตระหนัก​ว่า​จำเป็น​ต้อง​ให้​เด็ก​เข้า​สู่​ตลาด​แรงงาน. ดัง​ที่​ได้​กล่าว​ไป​แล้ว การ​ทำ​งาน​ที่​มี​ประโยชน์​และ​ให้​ความ​รู้​ต่อ​เด็ก​นั้น​ไม่​ผิด. งาน​เช่น​นั้น​จะ​ช่วย​ให้​เด็ก​มี​การ​พัฒนา​ทาง​ด้าน​ร่าง​กาย, จิตใจ, ความ​คิด, ศีลธรรม, หรือ​สังคม​โดย​ไม่​เป็น​อุปสรรค​ต่อ​การ​ศึกษา​ที่​จำเป็น, การ​เล่น​สนุกสนาน​ที่​สมดุล, และ​การ​พักผ่อน​ที่​จำเป็น.

ไม่​ต้อง​สงสัย บิดา​มารดา​คริสเตียน​คง​อยาก​ให้​บุตร​ทำ​งาน​ภาย​ใต้​การ​ดู​แล​เอา​ใจ​ใส่​ของ​พวก​เขา ไม่​ใช่​เป็น​เหมือน​ทาส​ของ​นาย​จ้าง​ที่​ทารุณ, ไร้​ความ​รู้สึก, หรือ​ไร้​คุณธรรม. บิดา​มารดา​เหล่า​นั้น​ต้องการ​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​งาน​ชนิด​ใด​ก็​ตาม​ที่​บุตร​ของ​ตน​ทำ​จะ​ไม่​ทำ​ให้​บุตร​ถูก​ทำ​ร้าย​ทาง​ร่าง​กาย, ทาง​เพศ, หรือ​ทาง​อารมณ์. นอก​จาก​นั้น พวก​เขา​ต้องการ​ให้​บุตร​อยู่​ใกล้​ตน. โดย​วิธี​นี้ พวก​เขา​จึง​สามารถ​บรรลุ​บทบาท​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​ของ​ผู้​ที่​ให้​การ​ศึกษา​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​ว่า “เจ้า​ต้อง​พร่ำ​สอน [พระ​คำ​ของ​พระเจ้า] แก่​บุตร​ของ​เจ้า​และ​พูด​ถึง​ถ้อย​คำ​เหล่า​นั้น​เมื่อ​เจ้า​นั่ง​อยู่​ใน​เรือน​และ​เมื่อ​เจ้า​เดิน​ใน​หน​ทาง​และ​เมื่อ​เจ้า​นอน​ลง​และ​เมื่อ​เจ้า​ลุก​ขึ้น.”—พระ​บัญญัติ 6:6, 7, ล.ม.

ยิ่ง​กว่า​นั้น คริสเตียน​ได้​รับ​การ​กำชับ​ให้​แสดง​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ, มี​ความ​รักใคร่, และ​มี​ความ​เมตตา​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน. (1 เปโตร 3:8, ล.ม.) เขา​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​ให้ “กระทำ​การ​ดี​แก่​คน​ทั้ง​ปวง.” (ฆะลาเตีย 6:10) ถ้า​คุณลักษณะ​อย่าง​พระเจ้า​เช่น​นั้น​จะ​ต้อง​สำแดง​ออก​ต่อ​ทุก​คน​โดย​ทั่ว​ไป ก็​ยิ่ง​จะ​ต้อง​สำแดง​ต่อ​บุตร​ของ​ตน​มาก​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด! สอดคล้อง​กับ​กฎ​ทอง ซึ่ง​บอก​ว่า “สิ่ง​สารพัตร​ซึ่ง​ท่าน​ปรารถนา​ให้​มนุษย์​ทำ​แก่​ท่าน, จง​กระทำ​อย่าง​นั้น​แก่​เขา​เหมือน​กัน” คริสเตียน​จะ​ไม่​มี​วัน​ปล่อย​ให้​ตัว​เอง​หา​ประโยชน์​จาก​บุตร​ของ​คน​อื่น ไม่​ว่า​จะ​เป็น​เพื่อน​คริสเตียน​หรือ​ไม่. (มัดธาย 7:12) นอก​จาก​นั้น เนื่อง​จาก​คริสเตียน​เป็น​พลเมือง​ที่​เชื่อ​ฟัง​กฎหมาย พวก​เขา​ต้องการ​ที่​จะ​ระวัง​ไม่​ฝ่าฝืน​กฎหมาย​บ้าน​เมือง​เมื่อ​คำนึง​ถึง​อายุ​ขั้น​ต่ำ​ของ​คน​ที่​ทำ​งาน​ให้​พวก​เขา.—โรม 13:1.

ทาง​แก้​ที่​แท้​จริง

อนาคต​จะ​เป็น​อย่าง​ไร? สมัย​ที่​ดี​กว่า​รอ​อยู่​ข้าง​หน้า​สำหรับ​ทั้ง​เด็ก​และ​ผู้​ใหญ่. คริสเตียน​แท้​มั่น​ใจ​ว่า​วิธี​แก้​ที่​ถาวร​สำหรับ​ปัญหา​แรงงาน​เด็ก​คือ​รัฐบาล​โลก​ที่​กำลัง​จะ​มี​มา​ซึ่ง​คัมภีร์​ไบเบิล​เรียก​ว่า “ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์.” (มัดธาย 3:2, ล.ม.) ผู้​คน​ที่​เกรง​กลัว​พระเจ้า​ได้​อธิษฐาน​ขอ​ราชอาณาจักร​นี้​มา​หลาย​ศตวรรษ​แล้ว​เมื่อ​พวก​เขา​กล่าว​ว่า “พระ​บิดา​แห่ง​ข้าพเจ้า​ทั้ง​หลาย​ใน​สวรรค์ ขอ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระองค์​เป็น​ที่​นับถือ​อัน​บริสุทธิ์. ขอ​ให้​ราชอาณาจักร​ของ​พระองค์​มา​เถิด. พระทัย​ประสงค์​ของ​พระองค์​สำเร็จ​แล้ว​ใน​สวรรค์​อย่าง​ไร ก็​ขอ​ให้​สำเร็จ​บน​แผ่นดิน​โลก​อย่าง​นั้น.”—มัดธาย 6:9, 10, ล.ม.

นอก​เหนือ​จาก​สิ่ง​อื่น​แล้ว ราชอาณาจักร​นี้​จะ​ขจัด​สภาพการณ์​ต่าง ๆ ที่​นำ​ไป​สู่​แรงงาน​เด็ก. ราชอาณาจักร​นี้​จะ​ถอน​ราก​ถอน​โคน​ความ​ยาก​จน. “แผ่นดิน​ให้​พืชพันธุ์​งอก​ผล​ทวี​ขึ้น​แล้ว: พระเจ้า​ของ​พวก​ข้าพเจ้า​เอง​จะ​ทรง​อวย​พระ​พร​ให้​พวก​ข้าพเจ้า.” (บทเพลง​สรรเสริญ 67:6) ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​จะ​รับประกัน​ว่า​ทุก​คน​จะ​ได้​รับ​การ​ศึกษา​ที่​เหมาะ​สม​ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​บน​พื้น​ฐาน​ของ​คุณลักษณะ​แบบ​พระเจ้า. “เมื่อ​การ​พิพากษา​ของ [พระเจ้า] ปรากฏ​ขึ้น​ใน​โลก​แล้ว, พลโลก​ก็​จะ​เรียน​รู้​ถึง​ความ​ชอบธรรม.”—ยะซายา 26:9.

รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​จะ​กำจัด​ระบบ​เศรษฐกิจ​ที่​ส่ง​เสริม​ความ​ไม่​เท่า​เทียม​กัน. การ​แบ่ง​แยก​ทาง​เชื้อชาติ, สังคม, อายุ, หรือ​เพศ จะ​ไม่​มี​ใน​ตอน​นั้น เนื่อง​จาก​กฎหมาย​ที่​ใช้​บังคับ​ของ​รัฐบาล​นั้น​จะ​เป็น​กฎหมาย​แห่ง​ความ​รัก รวม​ถึง​พระ​บัญชา​ที่​ว่า “เจ้า​ต้อง​รัก​เพื่อน​บ้าน​ของ​เจ้า​เหมือน​ตัว​เจ้า​เอง.” (มัดธาย 22:39, ล.ม.) ภาย​ใต้​รัฐบาล​โลก​ที่​ชอบธรรม​เช่น​นั้น ปัญหา​แรงงาน​เด็ก​จะ​ถูก​ขจัด​ออก​ไป​จน​หมด​สิ้น!

[เชิงอรรถ]

a นี่​ไม่​ได้​ลด​ฐานะ​ผู้​หญิง​ลง​มา​เป็น​สมาชิก​ครอบครัว​ชั้น​สอง​ซึ่ง​เหมาะ​กับ​การ​ทำ​งาน​ใน​บ้าน​หรือ​ใน​ทุ่ง​นา​เท่า​นั้น. คำ​พรรณนา​ถึง “ภรรยา​ที่​มี​ความ​สามารถ” ใน​พระ​ธรรม​สุภาษิต​เผย​ว่า​ผู้​หญิง​ที่​สมรส​แล้ว​ไม่​เพียง​สามารถ​จัด​การ​เรื่อง​ราว​ภาย​ใน​บ้าน​แต่​ยัง​จัด​การ​เรื่อง​การ​ซื้อ​ขาย​ที่​ดิน, การ​ทำ​ไร่​ทำ​สวน​อย่าง​บังเกิด​ผล, และ​การ​ดำเนิน​ธุรกิจ​ขนาด​เล็ก.—สุภาษิต 31:10, 16, 18, 24, ล.ม.

[กรอบ​หน้า 12]

แม่​เล้า​คน​หนึ่ง​ปล่อย​พวก​เด็ก​สาว​ไป

เป็น​เวลา 15 ปี เซซิเลียbเปิด​ซ่อง​โสเภณี​บน​เกาะ​แห่ง​หนึ่ง​ใน​แถบ​ทะเล​แคริบเบียน. เธอ​ซื้อ​เด็ก​สาว​ครั้ง​ละ 12 ถึง 15 คน ส่วน​ใหญ่​อายุ​ต่ำ​กว่า 18 ปี. เด็ก​สาว​เหล่า​นั้น​ถูก​กัก​ตัว​ไว้​ใน​สภาพ​จำ​ยอม​เนื่อง​จาก​หนี้​ที่​ครอบครัว​ของ​ตน​ก่อ​ขึ้น. เซซิเลีย​ใช้​หนี้​ให้​และ​นำ​เด็ก​สาว​มา​ทำ​งาน​ให้​เธอ. เธอ​ใช้​เงิน​ที่​พวก​เด็ก​สาว​หา​มา​ได้​จ่าย​เป็น​ค่า​อาหาร​และ​ค่า​เลี้ยง​ดู​พวก​เธอ และ​หัก​ไว้​เล็ก​น้อย​สำหรับ​ค่า​ตัว​ที่​ซื้อ​พวก​เธอ​มา​แต่​แรก. ฉะนั้น กว่า​พวก​เธอ​จะ​ได้​อิสรภาพ​อีก​ก็​ต้อง​ใช้​เวลา​หลาย​ปี. เด็ก​สาว​เหล่า​นั้น​ไม่​เคย​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​ออก​จาก​บ้าน​นอก​จาก​มี​คน​คุม​ตาม​ไป​ด้วย.

มี​อยู่​กรณี​หนึ่ง​ที่​เซซิเลีย​จำ​ได้​เป็น​อย่าง​ดี. แม่​ของ​เด็ก​สาว​โสเภณี​คน​หนึ่ง​มา​ทุก​สัปดาห์​เพื่อ​เอา​อาหาร​ที่​ใส่​กล่อง​ไว้ ซึ่ง​เป็น​อาหาร​ที่​ได้​มา​จาก “งาน” ที่​ลูก​สาว​ทำ. เด็ก​สาว​คน​นั้น​มี​ลูก​ชาย​ที่​ต้อง​เลี้ยง​ดู. เธอ​ใช้​หนี้​ไป​ได้​ไม่​เท่า​ไร​และ​ไม่​มี​ความ​หวัง​ที่​จะ​ได้​มี​ชีวิต​ที่​มี​อิสรภาพ​อีก. วัน​หนึ่ง​เธอ​ฆ่า​ตัว​ตาย ทิ้ง​จดหมาย​ไว้​ยก​ลูก​ชาย​ให้​อยู่​ใน​ความ​ดู​แล​ของ​แม่​เล้า. เซซิเลีย​เลี้ยง​เด็ก​ชาย​คน​นั้น​พร้อม​กับ​ลูก​ของ​เธอ​เอง​สี่​คน.

ลูก​สาว​คน​หนึ่ง​ของ​เซซิเลีย​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​มิชชันนารี​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เซซิเลีย​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​ให้​เข้า​ร่วม​ศึกษา​ด้วย แต่​ตอน​แรก​เธอ​ปฏิเสธ​เนื่อง​จาก​เธอ​ไม่​เคย​เรียน​หนังสือ. กระนั้น ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย​โดย​การ​แอบ​ฟัง​การ​พิจารณา​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล เธอ​ได้​เห็น​ถึง​ความ​รัก​และ​ความ​อด​ทน​ของ​พระเจ้า​และ​ได้​มา​หยั่ง​รู้​ค่า​การ​ให้​อภัย​ของ​พระองค์. (ยะซายา 43:25) ด้วย​ความ​ปรารถนา​จะ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล ไม่​นาน​เธอ​จึง​เริ่ม​เรียน​อ่าน​และ​เขียน. ขณะ​ที่​เธอ​ก้าว​หน้า​ใน​ความ​รู้​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล เธอ​เห็น​ความ​จำเป็น​ต้อง​ทำ​ตาม​มาตรฐาน​ที่​สูง​ส่ง​ทาง​ศีลธรรม​ของ​พระเจ้า.

วัน​หนึ่ง ด้วย​ความ​ประหลาด​ใจ​ของ​เด็ก​สาว​เหล่า​นั้น เธอ​บอก​พวก​เขา​ว่า พวก​เขา​เป็น​อิสระ​แล้ว! เธอ​อธิบาย​ว่า​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​กำลัง​ทำ​อยู่​เป็น​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​พอ​พระทัย​เป็น​อย่าง​มาก. เด็ก​สาว​เหล่า​นั้น​ไม่​มี​สัก​คน​ที่​ใช้​หนี้​คืน​ให้​เธอ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เด็ก​สาว​สอง​คน​มา​อยู่​กับ​เธอ. อีก​คน​หนึ่ง​ใน​ที่​สุด​มา​เป็น​พยาน​ฯ​ที่​รับ​บัพติสมา​แล้ว. เซซิเลีย​ได้​เป็น​ผู้​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​เต็ม​เวลา​มา 11 ปี​แล้ว ช่วย​คน​อื่น​ให้​หลุด​พ้น​จาก​กิจ​ปฏิบัติ​ที่​พระเจ้า​ไม่​พอ​พระทัย.

[เชิงอรรถ]

b ไม่​ใช่​ชื่อ​จริง​ของ​เธอ.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์