พระธรรมเล่มที่ 50—ฟิลิปปอย
ผู้เขียน: เปาโล
สถานที่เขียน: โรม
เขียนเสร็จ: ประมาณปี ส.ศ. 60-61
1. (ก) ชาวฟิลิปปีได้ยินข่าวดีอย่างไร? (ข) ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์อะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับเมืองฟิลิปปี?
เมื่ออัครสาวกเปาโลได้รับคำขอร้องในนิมิตให้นำข่าวดีไปยังมาซิโดเนีย (มากะโดเนีย) ท่านกับเพื่อนร่วมงานคือ ลูกา, ซีลา, และหนุ่มติโมเธียวต่างรีบทำตาม. จากเมืองโตรอาในเอเชียไมเนอร์ ทั้งสี่เดินทางโดยเรือไปยังเนอาโปลีและออกเดินทางทันทีเพื่อไปยังฟิลิปปี (ฟิลิปปอย) โดยต้องข้ามภูเขาเข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร. ลูกาพรรณนาเมืองนี้ว่าเป็น “เมืองเอกในเขตแคว้นมาซิโดเนีย.” (กิจ. 16:12, ฉบับแปลใหม่) เมืองนี้ถูกตั้งชื่อว่าฟิลิปปีตามพระนามกษัตริย์ฟีลิปที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย (ราชบิดาของอะเล็กซานเดอร์มหาราช) ซึ่งได้ยึดเมืองนี้ในปี 356 ก.ส.ศ. ต่อมาเมืองนี้ถูกพวกโรมันยึด. เมืองนี้เป็นสถานที่แห่งการรบขั้นเด็ดขาดในปี 42 ก.ส.ศ. ซึ่งช่วยเสริมความเข้มแข็งแก่ฐานะของออกตาเวียนซึ่งต่อมาได้เป็นซีซาร์ เอากุสตุส. เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ ท่านจึงตั้งฟิลิปปีเป็นอาณานิคมของโรมัน.
2. เปาโลทำความก้าวหน้าอะไรในการประกาศของท่านในฟิลิปปี และเกิดเหตุการณ์อะไรบ้างเมื่อจัดตั้งประชาคมที่นั่น?
2 เป็นสิ่งซึ่งเปาโลทำเป็นนิสัยเมื่อพอมาถึงเมืองใหม่ ๆ ที่จะประกาศกับชาวยิวก่อน. แต่เมื่อท่านมาถึงฟิลิปปีครั้งแรกประมาณปี ส.ศ. 50 ท่านพบชาวยิวไม่กี่คนและดูเหมือนไม่มีธรรมศาลา เพราะพวกเขาเคยชุมนุมกันเพื่ออธิษฐานบนฝั่งแม่น้ำนอกเมือง. การประกาศของเปาโลเกิดผลอย่างรวดเร็ว หนึ่งในคนแรก ๆ ที่เปลี่ยนศาสนาคือลุเดีย นักธุรกิจหญิงที่เพิ่งเปลี่ยนมาถือศาสนายิวซึ่งเต็มใจตอบรับความจริงเรื่องพระคริสต์และยืนยันให้ผู้เดินทางเหล่านี้พักที่บ้านของเธอ. ลูกาเขียนว่า “เขาได้วิงวอนจนเราขัดไม่ได้.” แต่ไม่นานก็เผชิญการต่อต้าน เปาโลกับซีลาถูกเฆี่ยนด้วยไม้เรียวแล้วจำคุกไว้. ขณะอยู่ในคุกได้เกิดแผ่นดินไหว ผู้คุมกับครอบครัวซึ่งได้ฟังเปาโลกับซีลาได้มาเป็นผู้เชื่อถือ. วันต่อมาเปาโลกับซีลาถูกปล่อยตัวจากคุกและท่านทั้งสองไปเยี่ยมพี่น้องที่บ้านของลุเดียและให้กำลังใจพวกเขาก่อนออกจากเมือง. เปาโลจำได้ชัดเจนถึงความยากลำบากต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับการเกิดประชาคมใหม่ในฟิลิปปี.—กิจ. 16:9-40.
3. ในเวลาต่อมาเปาโลมีการติดต่ออะไรบ้างกับประชาคมฟิลิปปี?
3 ไม่กี่ปีต่อมา ในการเดินทางเผยแพร่ในต่างประเทศรอบที่สาม เปาโลไปเยี่ยมประชาคมฟิลิปปีได้อีกครั้ง. แล้วประมาณสิบปีหลังจากการตั้งประชาคมนั้นเป็นครั้งแรก การแสดงความรักอย่างน่าประทับใจของพี่น้องในฟิลิปปีกระตุ้นเปาโลให้เขียนจดหมายโดยการดลใจซึ่งถูกเก็บรักษาไว้ในพระคัมภีร์บริสุทธิ์ภายใต้ชื่อของประชาคมซึ่งเป็นที่รักนั้น.
4. อะไรระบุตัวผู้เขียนพระธรรมฟิลิปปอย และอะไรยืนยันความเชื่อถือได้ของจดหมายนี้?
4 ที่ว่าเปาโลเป็นผู้เขียนจดหมายนี้ ดังระบุไว้ในข้อแรก เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปจากพวกนักอธิบายคัมภีร์ไบเบิล และพร้อมด้วยเหตุผลที่ดี. โพลีคาร์ป (ปี ส.ศ. 69?-155?) กล่าวในจดหมายที่เขาเองเขียนถึงชาวฟิลิปปอยว่า เปาโลได้เขียนถึงพวกเขา. มีการยกจดหมายนี้ไปกล่าวในฐานะเป็นจดหมายจากเปาโลโดยผู้ให้อรรถาธิบายคัมภีร์ไบเบิลรุ่นแรก ๆ เช่น อิกนาทิอุส, อิเรแนอุส, เทอร์ทูลเลียน, และเคลเมนต์แห่งอะเล็กซานเดรีย. มีการอ้างถึงจดหมายนี้ในชิ้นส่วนของมูราโทรีในศตวรรษที่สอง และในสารบบพระคัมภีร์ชุดอื่น ๆ ทั้งหมดในสมัยแรก ๆ และปรากฏว่ามีจดหมายนี้อยู่ร่วมกับจดหมายฉบับอื่น ๆ อีกแปดฉบับของเปาโลในเชสเตอร์ บีทตี พาไพรัส หมายเลข 2 (P46) ซึ่งเชื่อกันว่าเขียนขึ้นประมาณในปี ส.ศ. 200.
5. อะไรชี้ว่ากรุงโรมเป็นสถานที่เขียน?
5 เรื่องสถานที่และวันเวลาที่มีการเขียนสามารถกำหนดได้ค่อนข้างแน่นอน. ตอนที่เขียนนั้นเปาโลอยู่ในการควบคุมของราชองครักษ์แห่งจักรพรรดิโรมัน และท่านทำการงานคริสเตียนมากมาย. ท่านปิดท้ายจดหมายด้วยคำทักทายจากผู้ซื่อสัตย์ที่อยู่ในวังของซีซาร์. ข้อเท็จจริงเหล่านี้รวมกันชี้ว่าโรมเป็นสถานที่ที่จดหมายถูกส่งออกมา.—ฟิลิป. 1:7, 13, 14; 4:22; กิจ. 28:30, 31.
6. มีหลักฐานอะไรบ้างเกี่ยวกับเวลาที่เขียนพระธรรมฟิลิปปอย?
6 แต่จดหมายนี้เขียนเมื่อไร? ดูเหมือนว่าเปาโลอยู่ในโรมแล้วนานพอที่ข่าวและสาเหตุของการถูกคุมขังในฐานะเป็นคริสเตียนได้กระจายไปทั่วในเหล่าราชองครักษ์ของจักรพรรดิและไปถึงคนอื่น ๆ อีกมากมาย. นอกจากนั้น มีเวลาพอให้เอปาฟะโรดีโตมาจากฟิลิปปี (ระยะทางประมาณ 1,000 กม.) พร้อมกับของฝากสำหรับเปาโล, ให้ข่าวความเจ็บป่วยของเอปาฟะโรดีโตในโรมกลับไปยังฟิลิปปีอีก และให้การแสดงความเสียใจต่อเรื่องนี้มาจากฟิลิปปีถึงโรม. (ฟิลิป. 2:25-30; 4:18) เนื่องจากการถูกคุมขังครั้งแรกของเปาโลในโรมเกิดขึ้นในราวปี ส.ศ. 59-61 คงเป็นไปได้มากทีเดียวที่ท่านเขียนจดหมายนี้ประมาณปี ส.ศ. 60 หรือ 61 หนึ่งปีหรือมากกว่านั้นหลังจากมาถึงกรุงโรมครั้งแรก.
7. (ก) มีความผูกพันกันเช่นไรระหว่างเปาโลกับคริสเตียนชาวฟิลิปปี และอะไรกระตุ้นท่านให้เขียน? (ข) จดหมายของท่านเป็นแบบใด?
7 ความเจ็บปวดในการให้กำเนิดบุตรที่ฟิลิปปีโดยทางคำแห่งความจริง, ความรักใคร่และน้ำใจเอื้อเฟื้อของพี่น้องชาวฟิลิปปีที่ฝากสิ่งจำเป็นมาให้ซึ่งติดตามเปาโลไปตลอดการเดินทางและยามยากลำบากหลายครั้ง, รวมทั้งพระพรที่เห็นได้ชัดจากพระยะโฮวาในงานหนักแห่งการเดินทางเผยแพร่ในต่างประเทศรอบแรกในมาซิโดเนีย ทั้งหมดนี้ผนึกรวมกันเพื่อหล่อหลอมเป็นความผูกพันอันแน่นแฟ้นแห่งความรักซึ่งกันและกันระหว่างเปาโลกับพี่น้องชาวฟิลิปปี. บัดนี้ ของฝากด้วยความกรุณาจากพวกเขา ตามด้วยการสอบถามด้วยความกังวลถึงเอปาฟะโรดีโต รวมทั้งความก้าวหน้าของข่าวดีในโรมกระตุ้นเปาโลให้เขียนจดหมายที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความรักใคร่ถึงพวกเขาเพื่อเสริมสร้างกำลังใจ.
เนื้อเรื่องในฟิลิปปอย
8. (ก) เปาโลแสดงออกอย่างไรในเรื่องความมั่นใจและความรักใคร่ที่ท่านมีต่อพี่น้องชาวฟิลิปปี? (ข) เปาโลกล่าวอย่างไรในเรื่องที่ท่านถูกคุมขัง และท่านให้คำแนะนำอะไร?
8 การปกป้องและส่งเสริมข่าวดี (1:1-30). เปาโลและติโมเธียวส่งคำทักทายมา และเปาโลขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับการสนับสนุนที่พี่น้องชาวฟิลิปปีได้ให้แก่ข่าวดี “ตั้งแต่วันแรกจนถึงเวลานี้.” ท่านมั่นใจว่าพวกเขาจะทำงานอันดีของตนจนสำเร็จครบถ้วน เพราะพวกเขาเป็นผู้มีส่วนร่วมกับท่านในพระกรุณาอันไม่พึงได้รับ ซึ่งรวมทั้ง “การป้องกันและการทำให้ข่าวดีมีกฎหมายรองรับ.” ท่านคิดถึงพวกเขาทุกคนด้วยความรักใคร่อันอ่อนละมุนและกล่าวว่า “ข้าพเจ้าอธิษฐานอย่างนี้อยู่เรื่อยไป เพื่อว่าความรักของท่านทั้งหลายจะอุดมยิ่ง ๆ ขึ้น . . . เพื่อท่านทั้งหลายจะตรวจดูให้รู้แน่ถึงสิ่งที่สำคัญกว่า.” (1:5, 7, 9, 10, ล.ม.) เปาโลต้องการให้พวกเขาทราบว่า ‘เรื่องที่เกิดขึ้นแก่ท่านกลับปรากฏผลเป็นการส่งเสริมข่าวดี’ เนื่องจากเรื่องที่ท่านถูกคุมขังได้เป็นที่รู้กันทั่วและพี่น้องต่างได้รับการหนุนใจให้กล่าวคำของพระเจ้าอย่างไม่หวั่นกลัว. แม้ว่ามีเหตุผลดีที่เปาโลจะตายตอนนี้ แต่ท่านทราบว่าเพื่อเห็นแก่ความก้าวหน้าและความยินดีของพวกเขา จำเป็นมากกว่าที่ท่านจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไป. ท่านแนะนำพวกเขาให้ประพฤติอย่างคู่ควรกับข่าวดี เพราะไม่ว่าท่านจะมาหาพวกเขาอีกหรือไม่ ท่านก็อยากจะได้ยินว่าพวกเขากำลังต่อสู้อย่างเป็นเอกภาพและ “ไม่ถูกผู้ต่อต้านท่านทำให้กลัวในประการใดเลย.”—1:12, 28, ล.ม.
9. คริสเตียนชาวฟิลิปปีจะคงไว้ซึ่งเจตคติอย่างพระคริสต์ได้อย่างไร?
9 การคงไว้ซึ่งเจตคติอย่างพระคริสต์ (2:1-30). เปาโลสนับสนุนคริสเตียนชาวฟิลิปปีให้มีใจถ่อม “คอยดูด้วยความสนใจเป็นส่วนตัวไม่เพียงเรื่องของตนเองเท่านั้น แต่สนใจเป็นส่วนตัวในเรื่องของคนอื่น ๆ ด้วย.” พวกเขาควรมีเจตคติอย่างพระคริสต์เยซู ผู้ซึ่งถึงแม้ทรงดำรงสภาพอย่างพระเจ้า แต่ทรงสละพระองค์เองมาเป็นมนุษย์และถ่อมพระองค์ลงด้วยความเชื่อฟังจนถึงสิ้นพระชนม์ ดังนั้น พระเจ้าจึงทรงยกย่องพระองค์และประทานพระนามเหนือนามอื่นทั้งปวงแก่พระองค์. เปาโลกระตุ้นเตือนพวกเขาว่า “จงหมั่นทำให้ความรอดของท่านเองสำเร็จด้วยความเกรงกลัวตัวสั่น.” “จงทำทุกสิ่งต่อ ๆ ไปโดยปราศจากการบ่นพึมพำและการทุ่มเถียง” และ “ยึดมั่นกับพระคำแห่งชีวิต” เสมอ. (2:4, 12, 14, 16, ล.ม.) ท่านหวังจะส่งติโมเธียวมาหาพวกเขา และมั่นใจว่าในอีกไม่ช้าท่านเองก็จะมาด้วย. ส่วนในตอนนี้ ท่านกำลังส่งเอปาฟะโรดีโตซึ่งหายป่วยแล้วให้มาหาพวกเขา เพื่อพวกเขาจะชื่นชมยินดีอีกครั้ง.
10. เปาโลบากบั่นมุ่งสู่เป้าหมายอย่างไร และท่านเตือนสติคนอื่นเช่นไร?
10 “บากบั่นมุ่งสู่เป้าหมาย” (3:1–4:23). เปาโลกล่าวว่า ‘พวกเราซึ่งมีการรับสุหนัตแท้ต้องระวังเหล่าสุนัข, ระวังพวกที่ทำให้เนื้อหนังพิการ.’ ถ้าผู้ใดมีเหตุผลจะไว้วางใจในเนื้อหนัง เปาโลยิ่งมีมากกว่า และประวัติของท่านในฐานะเป็นชาวยิวที่รับสุหนัตและเป็นชาวฟาริซายพิสูจน์เรื่องนี้. ถึงกระนั้น ท่านถือว่าสิ่งทั้งปวงนั้นไร้ประโยชน์ ‘เนื่องด้วยคุณค่าอันเลิศล้ำแห่งความรู้ของพระคริสต์เยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่าน.’ โดยความชอบธรรมเนื่องด้วยความเชื่อ ท่านหวังจะ “ได้รับการปลุกให้เป็นขึ้นพวกแรกจากบรรดาคนตาย.” (3:2, 3, 8, 11, ล.ม.) ดังนั้น เปาโลจึงกล่าวว่า “โดยลืมสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่เบื้องหลังและโน้มตัวไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งสู่เป้าหมายเพื่อจะได้รางวัลซึ่งพระเจ้าทรงเรียกให้ขึ้นไปโดยทางพระคริสต์เยซู.” ให้ทุกคนที่อาวุโสมีเจตคติอย่างเดียวกันนั้น. มีบางคนที่พระเจ้าของพวกเขาคือท้องของเขาเอง ผู้ซึ่งมีความคิดจิตใจอยู่กับสิ่งของบนแผ่นดินโลก และปลายทางของพวกเขาคือความพินาศ แต่เปาโลรับรองว่า “ส่วนพวกเรามีฐานะพลเมืองในสวรรค์.”—3:13, 14, 20, ล.ม.
11. (ก) มีอะไรบ้างที่ต้องใคร่ครวญและปฏิบัติ? (ข) เปาโลแสดงออกเช่นไรเกี่ยวด้วยน้ำใจเอื้อเฟื้อของคริสเตียนชาวฟิลิปปี?
11 เปาโลกระตุ้นเตือนว่า ‘จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า. . . . และให้ความมีเหตุผลของท่านปรากฏแก่คนทั้งปวง. จงใคร่ครวญต่อ ๆ ไปในสิ่งที่จริง, สิ่งที่น่าเอาใจใส่อย่างจริงจัง, สิ่งที่ชอบธรรม, สิ่งที่บริสุทธิ์, สิ่งที่น่ารัก, สิ่งที่กล่าวถึงในทางดี, สิ่งที่มีคุณความดีและสิ่งที่น่าสรรเสริญ. จงปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านทั้งหลายได้เรียนรู้ทั้งได้รับไว้และได้ยินและได้เห็นอันเกี่ยวเนื่องกับข้าพเจ้า และพระเจ้าแห่งสันติสุขจะสถิตกับท่าน.’ (4:4-9, ล.ม.) เปาโลยินดีอย่างยิ่งที่พวกเขาคิดถึงท่านด้วยใจกรุณา แม้ว่าท่านมีกำลังสำหรับทุกสิ่ง “โดยพระองค์ผู้ทรงประทานพลังให้.” ท่านขอบคุณพวกเขาอย่างอบอุ่นสำหรับของฝาก. ตั้งแต่ตอนที่ท่านเริ่มประกาศข่าวดีในมาซิโดเนีย พวกเขาเด่นในการให้. ดังนั้น พระเจ้าจะทรงจัดให้พวกเขาอย่างครบถ้วน “ตามความจำเป็นทุกประการ . . . จนเต็มขนาดแห่งความมั่งคั่งรุ่งเรืองของพระองค์โดยพระคริสต์เยซู.” (4:13, 19, ล.ม.) ท่านส่งคำทักทายจากผู้บริสุทธิ์ทั้งปวงรวมทั้งผู้ที่อยู่ในวังของซีซาร์ด้วย.
เหตุที่เป็นประโยชน์
12. พวกเราในทุกวันนี้จะได้รับความพอพระทัยจากพระเจ้าและเป็นความยินดีแก่พี่น้องเหมือนพี่น้องที่ฟิลิปปีได้อย่างไร?
12 พระธรรมฟิลิปปอยเป็นประโยชน์แก่พวกเราจริง ๆ! แน่นอน เราปรารถนาความพอพระทัยจากพระยะโฮวาและคำชมเชยจากคริสเตียนผู้ดูแลในแบบเดียวกับที่ประชาคมฟิลิปปีได้รับจากเปาโล. เราจะได้สิ่งนี้ถ้าเราทำตามตัวอย่างอันดีของคริสเตียนชาวฟิลิปปีและคำแนะนำที่เปี่ยมด้วยความรักของเปาโล. เช่นเดียวกับพี่น้องชาวฟิลิปปี เราควรสำแดงน้ำใจเอื้อเฟื้อ, สนใจช่วยเหลือพี่น้องในยามลำบาก, และมีส่วนร่วมในการป้องกันและการทำให้ข่าวดีมีกฎหมายรองรับ. (1:3-7) เราควร “ยืนมั่นอยู่ด้วยน้ำใจเดียว ต่อสู้เคียงข้างกันอย่างเป็นจิตวิญญาณเดียวเพื่อความเชื่อในข่าวดี” ฉายแสงดุจ “ดวงสว่าง” ท่ามกลางคนชั่วอายุที่คดโกงและบิดเบือน. ขณะที่เราทำสิ่งเหล่านี้และใคร่ครวญต่อ ๆ ไปในสิ่งที่น่าเอาใจใส่อย่างจริงจัง เราจะเป็นความยินดีแก่พี่น้องของเราอย่างที่พี่น้องชาวฟิลิปปีเป็นมงกุฎแห่งความยินดีแก่อัครสาวกเปาโล.—1:27, ล.ม.; 2:15, ล.ม.; 4:1, 8, ล.ม.
13. เราจะร่วมกันเลียนแบบเปาโลในทางใดบ้าง?
13 เปาโลกล่าวว่า “จงร่วมกันเป็นผู้เลียนแบบข้าพเจ้า.” เลียนแบบท่านในทางใด? ทางหนึ่งคือ รู้จักพอในทุกสภาพการณ์. ไม่ว่าเปาโลจะมีบริบูรณ์หรือขาดแคลน ท่านเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับสภาพการณ์ต่าง ๆ โดยไม่บ่นเพื่อจะรับใช้พระเจ้าต่อ ๆ ไปด้วยใจแรงกล้าและด้วยความชื่นชมยินดี. อีกประการหนึ่ง ทุกคนควรเป็นเหมือนเปาโลในการสำแดงความรักใคร่อันอ่อนละมุนต่อพี่น้องที่ซื่อสัตย์. ท่านพูดถึงงานรับใช้ของติโมเธียวและเอปาฟะโรดีโตด้วยความยินดีรักใคร่จริง ๆ! และท่านรู้สึกสนิทสนมกับพี่น้องชาวฟิลิปปีจริง ๆ ท่านเรียกพวกเขาว่า “ผู้เป็นที่รักและคิดถึง เป็นความยินดีและมงกุฎของข้าพเจ้า”!—3:17; 4:1, 11, 12, ล.ม.; 2:19-30.
14. จดหมายถึงคริสเตียนชาวฟิลิปปีให้คำแนะนำอันดีอะไรเกี่ยวกับเป้าหมายในชีวิตและราชอาณาจักร และจดหมายนี้เขียนถึงใครโดยเฉพาะ?
14 จะเลียนแบบเปาโลอย่างไรอีก? โดย “บากบั่นมุ่งสู่เป้าหมาย”! ทุกคนที่ตั้งจิตใจไว้ที่ ‘สิ่งที่น่าเอาใจใส่อย่างจริงจัง’ สนใจอย่างแรงกล้าในการจัดเตรียมอันมหัศจรรย์ของพระยะโฮวาทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดินโลก ที่ซึ่ง “ลิ้นทุกลิ้นจะรับอย่างเปิดเผยว่าพระเยซูคริสต์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อถวายเกียรติยศแด่พระเจ้าพระบิดา.” คำแนะนำอันดีในพระธรรมฟิลิปปอยหนุนใจทุกคนที่หวังจะได้ชีวิตถาวรซึ่งเกี่ยวพันกับราชอาณาจักรของพระเจ้าให้มุ่งสู่จุดหมายนั้น. อย่างไรก็ตาม จดหมายถึงคริสเตียนชาวฟิลิปปีเขียนถึงผู้ซึ่ง ‘มีฐานะพลเมืองของตนในสวรรค์’ และผู้ซึ่งตั้งใจคอยท่าจะ “เป็นอย่างพระกายอันรุ่งโรจน์ของพระ [คริสต์]” เป็นพวกแรก. โดย “ลืมสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่เบื้องหลังและโน้มตัวไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า” ให้คนทั้งปวงนี้เลียนแบบอัครสาวกเปาโลในการ “บากบั่นมุ่งสู่เป้าหมายเพื่อจะได้รางวัลซึ่งพระเจ้าทรงเรียกให้ขึ้นไป” กล่าวคือมรดกอันรุ่งโรจน์ของพวกเขาในราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์!—4:8, ล.ม.; 2:10, 11, ล.ม.; 3:13, 14, 20, 21, ล.ม.