ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ผส บท 3 น. 28-44
  • อะไรคือต้นกำเนิดของชีวิต?

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • อะไรคือต้นกำเนิดของชีวิต?
  • พระผู้สร้างผู้ใฝ่พระทัยในตัวคุณมีไหม?
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • กำเนิด​ชีวิต​ใน​ห้อง​ปฏิบัติการ​หรือ?
  • ความ​คิด​เปลี่ยน—ปริศนา​ยัง​คง​อยู่
  • ทำไม​จึง​เป็น​ปริศนา?
  • ข้อมูล​และ​เชาวน์​ปัญญา
  • ชีวิตเกิดขึ้นโดยบังเอิญได้ไหม?
    ชีวิต—เกิดขึ้นมาอย่างไร? โดยวิวัฒนาการหรือมีผู้สร้าง?
  • สิ่ง​มี​ชีวิต​เกิด​ขึ้น​มา​อย่าง​ไร?
    ต้นกำเนิดชีวิต—ห้าคำถามที่น่าคิด
  • การทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อชีวิตจะดำรงอยู่ได้
    พระผู้สร้างผู้ใฝ่พระทัยในตัวคุณมีไหม?
  • มีเหตุผลไหมที่จะเชื่อว่ามีพระเจ้า?
    ความสุข—จะพบได้อย่างไร?
ดูเพิ่มเติม
พระผู้สร้างผู้ใฝ่พระทัยในตัวคุณมีไหม?
ผส บท 3 น. 28-44

บท​สาม

อะไร​คือ​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต?

โลก​ของ​เรา​อุดม​ไป​ด้วย​สิ่ง​มี​ชีวิต. ตั้ง​แต่​แถบ​อาร์กติก​ที่​ปก​คลุม​ด้วย​หิมะ​จน​ถึง​ป่า​ดิบ​แอมะซอน, ตั้ง​แต่​ทะเล​ทราย​สะฮารา​จน​ถึง​บึง​เอเวอร์เกลด, ตั้ง​แต่​พื้น​มหาสมุทร​ที่​มืด​มิด​จน​ถึง​ยอด​เขา​ที่​แสง​แดด​เจิดจ้า—คลาคล่ำ​ไป​ด้วย​สิ่ง​มี​ชีวิต. และ​ทุก​ชีวิต​แฝง​ไว้​ด้วย​ความ​น่า​ทึ่ง.

ชีวิต​มี​หลาก​หลาย​ชนิด, หลาก​หลาย​ขนาด, และ​มี​จำนวน​มาก​มาย​จน​ไม่​อาจ​นึก​ภาพ​ได้. แมลง​นับ​ล้าน​ชนิด​ขยับ​ปีก​บิน​เสียง​ดัง​หึ่ง ๆ บน​ลูก​โลก. ใน​แหล่ง​น้ำ​รอบ​ตัว​เรา​มี​ปลา​แหวก​ว่าย​ไป​มา​มาก​กว่า 20,000 ชนิด บ้าง​ก็​เล็ก​เท่า​เมล็ด​ข้าว​เปลือก, บ้าง​ก็​ยาว​พอ ๆ กับ​รถ​บรรทุก. มี​พืช​อย่าง​น้อย 350,000 ชนิด​แต้ม​แต่ง​สี​สัน​ให้​ผืน​แผ่นดิน บาง​ชนิด​รูป​ร่าง​ประหลาด แต่​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​งาม​จับตา. และ​มี​นก​มาก​กว่า 9,000 ชนิด​ฉวัดเฉวียน​อยู่​เหนือ​ศีรษะ​ของ​เรา. สิ่ง​มี​ชีวิต​เหล่า​นี้ รวม​ทั้ง​มนุษย์ ก่อ​เกิด​เป็น​ภาพ​ที่​งดงาม​และ​ประสาน​กลมกลืน​กัน​ซึ่ง​เรา​เรียก​ว่า ชีวิต.

แต่​ที่​น่า​ทึ่ง​ยิ่ง​กว่า​ความ​หลาก​หลาย​ที่​ดู​แล้ว​เบิกบาน​ใจ​รอบ ๆ ตัว​เรา​ก็​คือ ความ​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน​อย่าง​ล้ำ​ลึก​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​เหล่า​นี้. นัก​ชีวเคมี​ที่​ศึกษา​สิ่ง​มี​ชีวิต​ต่าง ๆ บน​แผ่นดิน​โลก​อย่าง​พินิจ​พิเคราะห์​อธิบาย​ว่า สรรพชีวิต​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​อะมีบา​หรือ​มนุษย์ ต่าง​ก็​พึ่ง​อาศัย​อันตรกิริยา​ที่​น่า​ครั่นคร้าม นั่น​คือ การ​ทำ​งาน​ร่วม​กัน​เป็น​ทีม​ระหว่าง​โมเลกุล​ของ​กรด​นิวคลิอิก (ดีเอ็นเอ และ อาร์เอ็นเอ) กับ​โมเลกุล​โปรตีน. กระบวนการ​อัน​ซับซ้อน​นี้​เกิด​ขึ้น​ใน​แทบ​ทุก​เซลล์​ทั่ว​ร่าง​กาย​ของ​เรา เช่น​เดียว​กับ​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​เซลล์​ของ​นก​ฮัมมิงเบิร์ด, สิงโต และ​ปลา​วาฬ. อันตรกิริยา​ที่​ทำ​งาน​เหมือน​กัน​เป็น​หนึ่ง​เดียว​นี้ ก่อ​ให้​เกิด​รูป​แบบ​ชีวิต​ที่​งดงาม​หลาก​หลาย. การ​ประสาน​คล้อง​จอง​ของ​ชีวิต​เช่น​นี้​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร? จริง ๆ แล้ว ชีวิต​มี​ต้น​กำเนิด​จาก​อะไร?

คุณ​อาจ​จะ​ยอม​รับ​ว่า​ครั้ง​หนึ่ง​โลก​ไม่​มี​สิ่ง​มี​ชีวิต. วิทยาศาสตร์​ก็​คิด​เห็น​อย่าง​เดียว​กัน รวม​ทั้ง​หนังสือ​ทาง​ศาสนา​อีก​หลาย​เล่ม​ด้วย. กระนั้น คุณ​อาจ​จะ​เห็น​ว่า​ทั้ง​สอง​แหล่ง—วิทยาศาสตร์​และ​ศาสนา—มี​คำ​อธิบาย​แตกต่าง​กัน​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​ชีวิต​เริ่ม​ต้น​บน​แผ่นดิน​โลก.

ผู้​คน​หลาย​ล้าน​จาก​ทุก​ระดับ​การ​ศึกษา​เชื่อ​ว่า พระ​ผู้​สร้าง​องค์​เปี่ยม​ด้วย​เชาวน์​ปัญญา ซึ่ง​เป็น​ผู้​ออก​แบบ​แต่​ดั้งเดิม ได้​สร้าง​ชีวิต​ไว้​บน​แผ่นดิน​โลก. ใน​ทาง​ตรง​ข้าม นัก​วิทยาศาสตร์​หลาย​คน​บอก​ว่า ชีวิต​เกิด​ขึ้น​โดย​บังเอิญ​จาก​สสาร​ที่​ไม่​มี​ชีวิต โดย​ผ่าน​ขั้น​ตอน​ทาง​เคมี​มาก​มาย. อย่าง​ไหน​ถูก อย่าง​แรก​หรือ​อย่าง​หลัง?

เรา​ไม่​ควร​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่​เกี่ยว​กับ​เรา หรือ​ไม่​เกี่ยว​กับ​การ​ค้น​หา​ชีวิต​ที่​มี​ความหมาย​มาก​ขึ้น. ดัง​ที่​ได้​กล่าว​ไป​แล้ว หนึ่ง​ใน​คำ​ถาม​พื้น​ฐาน​ที่​สุด​ที่​มนุษย์​พยายาม​หา​คำ​ตอบ​ก็​คือ เรา​ใน​ฐานะ​มนุษย์​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​นี้​มา​จาก​ไหน?

หลัก​สูตร​ทาง​วิทยาศาสตร์​ส่วน​ใหญ่​เน้น​ไป​ที่​การ​ปรับ​ตัว​และ​การ​อยู่​รอด​ของ​ชีวิต​รูป​แบบ​ต่าง ๆ แทน​ที่​จะ​ให้​ความ​สนใจ​กับ​คำ​ถาม​ที่​สำคัญ​กว่า​ที่​ว่า ชีวิต​มา​จาก​ไหน. คุณ​อาจ​เคย​สังเกต​ว่า คำ​อธิบาย​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต​มัก​จะ​เป็น​แบบ​กว้าง ๆ อย่าง​เช่น ‘หลาย​ล้าน​ปี​มา​แล้ว โมเลกุล​ต่าง ๆ มา​บรรจบ​พบ​กัน และ​โดย​วิธี​ใด​วิธี​หนึ่ง​สิ่ง​มี​ชีวิต​ก็​อุบัติ​ขึ้น.’ แต่​เป็น​คำ​ตอบ​ที่​น่า​พอ​ใจ​จริง ๆ ไหม? นั่น​หมายความ​ว่า ท่ามกลาง​พลังงาน​จาก​ดวง​อาทิตย์, ฟ้า​แลบ, หรือ​ไม่​ก็​ภูเขา​ไฟ สสาร​บาง​อย่าง​ที่​ปราศจาก​ชีวิต​เกิด​การ​เคลื่อน​ไหว, ก่อ​ตัว​เป็น​อินทรียภาพ, และ​กลาย​เป็น​สิ่ง​มี​ชีวิต​ใน​ที่​สุด—ทั้ง​หมด​เป็น​ไป​โดย​ไม่​มี​การ​ชี้​นำ​ช่วยเหลือ. เป็น​ก้าว​กระโดด​อัน​มหึมา​อะไร​เช่น​นี้! จาก​สสาร​ที่​ไม่​มี​ชีวิต​เป็น​สิ่ง​มี​ชีวิต! จะ​เกิด​ขึ้น​โดย​วิธี​นี้​ได้​ไหม?

หาก​ย้อน​กลับ​ไป​ใน​ยุค​กลาง การ​ยอม​รับ​แนว​คิด​เช่น​นี้​อาจ​ดู​เหมือน​ไม่​เป็น​ปัญหา เพราะ​หลัก​ความ​เชื่อ​เรื่อง​การ​เกิด​เอง—ความ​คิด​ที่​ว่า​ชีวิต​สามารถ​เกิด​ขึ้น​เอง​โดย​ธรรมชาติ​จาก​สสาร​ที่​ไม่​มี​ชีวิต—เป็น​ที่​นิยม​แพร่​หลาย. ใน​ที่​สุด ใน​ศตวรรษ​ที่ 17 ฟรานเชสโก เรดิ นาย​แพทย์​ชาว​อิตาลี​ก็​พิสูจน์​ให้​เห็น​ว่า​จะ​มี​หนอน​ที่​เนื้อ​เน่า​ก็​ต่อ​เมื่อ​แมลงวัน​วาง​ไข่​ไว้​เท่า​นั้น. เนื้อ​ที่​ไม่​ถูก​แมลงวัน​ไต่​ตอม​จะ​ไม่​มี​หนอน​เกิด​ขึ้น​เลย. ถ้า​สัตว์​ขนาด​เท่า​แมลงวัน​ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น​เอง จะ​ว่า​อย่าง​ไร​กับ​จุลินทรีย์​ที่​มี​ขนาด​เล็ก​กว่า​มาก​ซึ่ง​มัก​จะ​เกิด​ใน​อาหาร​เสมอ​ไม่​ว่า​จะ​ปิด​ครอบ​ไว้​หรือ​ไม่? แม้​การ​ทดลอง​ใน​เวลา​ต่อ ๆ มา​จะ​ชี้​ให้​เห็น​ว่า​จุลินทรีย์​เหล่า​นั้น​ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น​เอง แต่​เรื่อง​ดัง​กล่าว​ก็​ยัง​เป็น​ที่​ถกเถียง​กัน​อยู่. และ​แล้ว​ก็​มา​ถึง​ผล​งาน​ของ​หลุยส์ ปาสเตอร์.

หลาย​คน​จำ​ผล​งาน​ของ​ปาสเตอร์​ได้​เรื่อง​การ​แก้​ปัญหา​เกี่ยว​กับ​การ​หมัก​และ​โรค​ติด​เชื้อ. เขา​ยัง​ได้​ทำ​การ​ทดลอง​เพื่อ​จะ​ดู​ว่า​รูป​แบบ​ชีวิต​ขนาด​จิ๋ว​เกิด​เอง​ได้​หรือ​ไม่. ดัง​ที่​คุณ​อาจ​เคย​อ่าน ปาสเตอร์​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​แม้​แต่​แบคทีเรีย​ที่​เล็ก​มาก​ก็​ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น​เอง​ใน​น้ำ​ที่​ผ่าน​การ​ฆ่า​เชื้อ​และ​คอย​ระวัง​ไม่​ให้​ปน​เปื้อน​อีก. ใน​ปี 1864 เขา​ประกาศ​ว่า “คำ​สอน​เรื่อง​การ​เกิด​เอง​จะ​ไม่​มี​วัน​ฟื้น​คืน​ชีพ​อีก​เลย​เพราะ​ถูก​หมัด​เด็ด​ถึง​ตาย​โดย​การ​ทดลอง​ง่าย ๆ นี้.” คำ​กล่าว​นี้​ยัง​เป็น​ความ​จริง​อยู่​เสมอ. ไม่​เคย​มี​การ​ทดลอง​ใด​ที่​สามารถ​สร้าง​ชีวิต​จาก​สสาร​ที่​ไม่​มี​ชีวิต.

ถ้า​เช่น​นั้น ชีวิต​บน​โลก​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร? ความ​พยายาม​สมัย​ใหม่​ใน​การ​ตอบ​คำ​ถาม​ดัง​กล่าว​อาจ​เริ่ม​ที่​ผล​งาน​ของ​นัก​ชีวเคมี​ชาว​รัสเซีย​ชื่อ อะเล็กซานเดอร์ ไอ. โอ​พา​ริน ใน​ทศวรรษ 1920. นับ​ตั้ง​แต่​นั้น​มา เขา​เอง​และ​นัก​วิทยาศาสตร์​คน​อื่น ๆ ได้​เสนอ​แนว​คิด​บาง​อย่าง​คล้าย​ละคร​ที่​มี​สาม​ฉาก​โดย​พรรณนา​สิ่ง​ซึ่ง​อ้าง​กัน​ว่า​ได้​เกิด​ขึ้น​บน​เวที​แห่ง​ดาว​เคราะห์​โลก. ฉาก​แรก​เป็น​เรื่อง​ราว​ของ​ธาตุ​หรือ​วัตถุ​ดิบ​ต่าง ๆ บน​แผ่น​ดิน​โลก​ที่​เปลี่ยน​สภาพ​เป็น​กลุ่ม​โมเลกุล. ฉาก​ต่อ​มา​กระโดด​ไป​เป็น​โมเลกุล​ใหญ่. และ​ฉาก​สุด​ท้าย​ของ​ละคร​เรื่อง​นี้​คือ​การ​กระโจน​พรวด​ไป​เป็น​เซลล์​ชีวิต​เซลล์​แรก. แต่​ชีวิต​เกิด​ขึ้น​ด้วย​วิธี​นี้​จริง ๆ หรือ?

ละคร​เรื่อง​นี้​อาศัย​คำ​อธิบาย​ที่​ว่า บรรยากาศ​ของ​โลก​ใน​ตอน​แรก​เริ่ม​ต่าง​จาก​ที่​เป็น​อยู่​ใน​ปัจจุบัน​นี้​มาก. ทฤษฎี​หนึ่ง​ตั้ง​สมมุติฐาน​ว่า ออกซิเจน​อิสระ​แทบ​ไม่​มี​อยู่​เลย และ​ธาตุ​ต่าง ๆ เช่น ไนโตรเจน, ไฮโดรเจน, และ​คาร์บอน จะ​ทำ​ให้​ก๊าซ​แอมโมเนีย​และ​มีเทน​ก่อ​ตัว​ขึ้น. แนว​คิด​ก็​คือ เมื่อ​ฟ้า​แลบ​และ​รังสี​อัลตราไวโอเลต​ไป​กระทบ​กับ​บรรยากาศ​ที่​มี​ไอ​น้ำ​และ​ก๊าซ​ดัง​กล่าว น้ำตาล​และ​กรด​อะมิโน​ได้​เกิด​ขึ้น. แต่​อย่า​ลืม​ว่า​นี่​คือ​ทฤษฎี.

ตาม​เรื่อง​ราว​ของ​ละคร​เชิง​ทฤษฎี​นี้ โมเลกุล​น้ำตาล​และ​กรด​อะมิโน​ถูก​ชะ​ลง​ไป​ใน​มหาสมุทร หรือ​แหล่ง​น้ำ​อื่น ๆ. เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป น้ำตาล, กรด, และ​สาร​ประกอบ​อื่น ๆ จะ​สะสม​หนา​แน่น​จน​กลาย​เป็น “ซุปพรีไบโอติก” (สภาพ​น้ำ​ใน​มหาสมุทร​ก่อน​การ​กำเนิด​ชีวิต) ที่​ซึ่ง​กรด​ต่าง ๆ เช่น กรด​อะมิโน รวม​ตัว​กัน​เป็น​โปรตีน. ทฤษฎี​นี้​กล่าว​ต่อ​ไป​ว่า แล้ว​สาร​ประกอบ​อื่น ๆ ที่​เรียก​ว่า นิวคลีโอไทด์ ก็​จะ​ก่อ​ตัว​เป็น​สาย​โซ่ และ​กลาย​เป็น​กรด​นิวคลิอิก เช่น ดีเอ็นเอ เป็น​ต้น. ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​เรื่อง​ราว​ที่​ตั้ง​สมมุติฐาน​ว่า​ได้​เกิด​ขึ้น​ก่อน​จะ​ถึง​ฉาก​สุด​ท้าย​ของ​ละคร​โมเลกุล.

เรา​อาจ​พรรณนา​ฉาก​สุด​ท้าย ซึ่ง​ไม่​มี​หลักฐาน​ยืน​ยัน นี้​ว่า​เป็น​เหมือน​นิยาย​รัก. โมเลกุล​โปรตีน​และ​โมเลกุล​ดีเอ็นเอ​บังเอิญ​มา​พบ​กัน ถูก​ใจ​กัน และ​สวมกอด​กัน. และ​แล้ว​ก่อน​ที่​ละคร​จะ​ปิด​ฉาก​ลง เซลล์​ชีวิต​เซลล์​แรก​ก็​อุบัติ​ขึ้น. ถ้า​คุณ​กำลัง​ติด​ตาม​ละคร​เรื่อง​นี้ คุณ​อาจ​สงสัย​ว่า ‘นี่​เป็น​เรื่อง​จริง​หรือ​นิยาย​กัน​แน่? ชีวิต​บน​โลก​เริ่ม​ต้น​ด้วย​วิธี​นี้​ได้​จริง ๆ หรือ’?

กำเนิด​ชีวิต​ใน​ห้อง​ปฏิบัติการ​หรือ?

ใน​ช่วง​ต้น ๆ ทศวรรษ 1950 พวก​นัก​วิทยาศาสตร์​ได้​เริ่ม​ทำ​การ​ทดลอง​ตาม​ทฤษฎี​ของ​อะเล็กซานเดอร์ โอพาริน. แม้​เป็น​ความ​จริง​ที่​ได้​รับ​การ​ยืน​ยัน​แน่นอน​แล้ว​ว่า​ชีวิต​เกิด​จาก​สิ่ง​มี​ชีวิต​เท่า​นั้น แต่​นัก​วิทยาศาสตร์​ก็​ตั้ง​ทฤษฎี​ขึ้น​มา​ว่า ภาย​ใต้​สภาพการณ์​ใน​อดีต​ที่​ต่าง​ออก​ไป ชีวิต​อาจ​ค่อย ๆ เกิด​ขึ้น​จาก​สิ่ง​ไม่​มี​ชีวิต​ก็​ได้. ทฤษฎี​นี้​สามารถ​แสดง​ให้​เห็น​ได้​ไหม? สแตนลีย์ แอล. มิลเลอร์ นัก​วิทยาศาสตร์​ซึ่ง​ทำ​งาน​ใน​ห้อง​ปฏิบัติการ​ของ​ฮาร์โรลด์ อูเรย์ ได้​นำ​ไฮโดรเจน, แอมโมเนีย, มีเทน และ​ไอ​น้ำ (โดย​สมมุติ​ว่า​เป็น​สภาพ​บรรยากาศ​ตอน​เริ่ม​แรก) มา​ใส่​รวม​ไว้​ใน​ขวด​ทดลอง​ที่​มี​น้ำ​เดือด​ที่​ก้น​ขวด (แทน​มหาสมุทร) และ​ปล่อย​ประกาย​ไฟฟ้า (เสมือน​ฟ้า​แลบ) เข้า​ไป​ใน​ไอ​น้ำ. ภาย​ใน​หนึ่ง​สัปดาห์ มี​ร่องรอย​ของ​สาร​เหนียว​สี​ออก​แดง ซึ่ง​มิลเลอร์​ได้​ทำ​การ​วิเคราะห์​และ​พบ​ว่า​มี​กรด​อะมิโน—ส่วน​สำคัญ​ของ​โปรตีน—อยู่​เป็น​จำนวน​มาก. คุณ​อาจ​เคย​ได้​ยิน​เรื่อง​การ​ทดลอง​นี้ เพราะ​มี​การ​อ้าง​ถึง​ใน​ตำรา​วิทยาศาสตร์​และ​หลัก​สูตร​ของ​โรง​เรียน​เป็น​เวลา​หลาย​ปี เสมือน​เป็น​คำ​อธิบาย​วิธี​ที่​สิ่ง​มี​ชีวิต​บน​โลก​เริ่ม​ต้น. แต่​เป็น​อย่าง​นั้น​จริง​ไหม?

ที่​จริง ผล​การ​ทดลอง​ของ​มิลเลอร์​เป็น​ที่​สงสัย​อย่าง​มาก​ใน​ปัจจุบัน​นี้. (ดู “ผล​งาน​ลือ​ชื่อ แต่​น่า​สงสัย” หน้า 36-37.) กระนั้น สิ่ง​ที่​ดู​เหมือน​เป็น​ความ​สำเร็จ​นี้​ได้​นำ​ไป​สู่​การ​ทดลอง​อื่น ๆ จน​สามารถ​สร้าง​ส่วน​ประกอบ​ต่าง ๆ ที่​พบ​ใน​กรด​นิวคลิอิก​ด้วย​ซ้ำ (ดีเอ็นเอ​หรือ​อาร์เอ็นเอ). ผู้​ชำนัญพิเศษ​ใน​ด้าน​นี้ (บาง​ครั้ง​เรียก​กัน​ว่า นัก​วิทยาศาสตร์​สาขา​การ​กำเนิด​ชีวิต) รู้สึก​มั่น​อก​มั่น​ใจ​มาก เพราะ​ดู​เหมือน​พวก​เขา​จำลอง​ฉาก​แรก​ของ​ละคร​โมเลกุล​ได้. และ​ดู​ท่า​ว่า​ความ​สำเร็จ​ใน​การ​จำลอง​ฉาก​ที่​เหลือ​อีก​สอง​ฉาก​ก็​คง​จะ​ตาม​มา. ศาสตราจารย์​ทาง​เคมี​ผู้​หนึ่ง​อ้าง​ว่า “อีก​ไม่​นาน จะ​มี​คำ​อธิบาย​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ของ​ระบบ​ชีวิต​เมื่อ​แรก​เริ่ม​ที่​เป็น​ไป​โดย​กลไก​ทาง​วิวัฒนาการ.” และ​นัก​เขียน​เรื่อง​ทาง​วิทยาศาสตร์​คน​หนึ่ง​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “พวก​ผู้​เขียน​บท​วิจารณ์​คาด​การณ์​ว่า ไม่​นาน​นัก​เหล่า​นัก​วิทยาศาสตร์ จะ​สร้าง​สิ่ง​มี​ชีวิต​ขึ้น​มา​ใน​ห้อง​ปฏิบัติการ​ของ​พวก​เขา ดัง​ที่ ดร. แฟรงเกนสไตน์​ใน​นวนิยาย​ของ​แมรี เชลลีย์ ได้​ทำ ครั้น​แล้ว​ก็​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ละเอียด​ว่า​ชีวิต​อุบัติ​ขึ้น​มา​อย่าง​ไร.” หลาย​คน​คิด​ว่า​ความ​ลึกลับ​เรื่อง​การ​เกิด​เอง​ของ​ชีวิต​ถูก​เปิด​เผย​แล้ว.—ดู “มือ​ขวา, มือ​ซ้าย” หน้า 38.

ความ​คิด​เปลี่ยน—ปริศนา​ยัง​คง​อยู่

แต่​หลัง​จาก​นั้น​ความ​มั่น​อก​มั่น​ใจ​ก็​มลาย​สิ้น. หลาย​ทศวรรษ​ผ่าน​ไป ความ​ลับ​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต​ก็​ยัง​เป็น​ความ​ลับ​อยู่​เหมือน​เดิม. ราว ๆ 40 ปี​หลัง​จาก​การ​ทดลอง​ของ​เขา ศาสตราจารย์​มิลเลอร์​ได้​บอก​กับ​วารสาร ไซเยนติฟิก อเมริกัน ว่า “ปัญหา​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต​กลับ​กลาย​เป็น​เรื่อง​ยาก​ยิ่ง​กว่า​ที่​ผม​และ​คน​อื่น ๆ ส่วน​ใหญ่​นึก​ภาพ​เอา​ไว้​มาก.” นัก​วิทยาศาสตร์​คน​อื่น ๆ ก็​เปลี่ยน​ความ​คิด​ใน​เรื่อง​นี้​เช่น​กัน อย่าง​เช่น ดีน เอช. เคนยอน ศาสตราจารย์​ทาง​ชีววิทยา​ซึ่ง​ร่วม​แต่ง​หนังสือ พรหมลิขิต​ทาง​ชีวเคมี (ภาษา​อังกฤษ) เมื่อ​ปี 1969. แต่​ไม่​นาน​มา​นี้​เขา​ลง​ความ​เห็น​ว่า “โดย​พื้น​ฐาน​แล้ว เป็น​เรื่อง​เหลือเชื่อ​ที่​สสาร​และ​พลังงาน​จะ​ก่อ​ตัว​เป็น​สิ่ง​มี​ชีวิต​ได้​เอง​โดย​ปราศจาก​ความ​ช่วยเหลือ.”

จริง ๆ แล้ว ผล​การ​ทดลอง​จาก​ห้อง​ปฏิบัติการ​ยืน​ยัน​การ​ประเมิน​ของ​เคนยอน ที่​ว่า​มี “ข้อ​บกพร่อง​พื้น​ฐาน​ใน​ทฤษฎี​ปัจจุบัน​ทั้ง​หมด​ที่​ว่า​ด้วย​การ​กำเนิด​ชีวิต​ใน​เชิง​เคมี.” หลัง​จาก​มิลเลอร์ และ​คน​อื่น ๆ ทำ​การ​สังเคราะห์​กรด​อะมิโน บรรดา​นัก​วิทยาศาสตร์​ก็​เริ่ม​สร้าง​โปรตีน​และ​ดีเอ็นเอ ซึ่ง​ต่าง​ก็​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​สำหรับ​ชีวิต​บน​โลก. หลัง​จาก​การ​ทดลอง​นับ​พัน ๆ ครั้ง​กับ​สภาพ​ที่​เรียก​กัน​ว่า​พรีไบโอติก ผล​เป็น​เช่น​ไร? หนังสือ ความ​ลึกลับ​แห่ง​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต: การ​ประเมิน​ทฤษฎี​ต่าง ๆ ใน​ปัจจุบัน​อีก​ครั้ง (ภาษา​อังกฤษ) ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “มี​ความ​แตกต่าง​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด​ระหว่าง​ความ​สำเร็จ​อย่าง​สูง​ใน​การ​สังเคราะห์​กรด​อะมิโน​กับ​ความ​ล้มเหลว​เป็น​ประจำ​ใน​การ​สังเคราะห์​โปรตีน​และ​ดีเอ็นเอ.” ความ​พยายาม​ใน​ระยะ​หลัง ๆ นี้ “ล้มเหลว​ตลอด.”

ใน​ความ​เป็น​จริง​แล้ว ความ​ลึกลับ​นี้​ไม่​เพียง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​วิธี​ที่​โปรตีน​แรก​และ​โมเลกุล​แรก​ของ​กรด​นิวคลิอิก (ดีเอ็นเอ​หรือ​อาร์เอ็นเอ) เกิด​ขึ้น. ความ​ลึกลับ​ดัง​กล่าว​ยัง​หมาย​รวม​ถึง​วิธี​ที่​โมเลกุล​เหล่า​นั้น​ทำ​งาน​ร่วม​กัน​ด้วย. สารานุกรม เดอะ นิว เอ็นไซโคลพีเดีย บริแทนนิกา กล่าว​ว่า “เฉพาะ​แต่​การ​ทำ​งาน​ประสาน​กัน​ของ​สอง​โมเลกุล​เท่า​นั้น​ที่​ทำ​ให้​ทุก​ชีวิต​บน​โลก​เกิด​ขึ้น​ได้.” กระนั้น สารานุกรม​นี้​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า แต่​การ​ทำ​งาน​ประสาน​กัน​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร​นั้น​ยัง​คง​เป็น “ปริศนา​ลึกลับ​ที่​ไข​ไม่​ออก​ใน​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต.” เป็น​ความ​จริง​ที​เดียว.

ภาค​ผนวก ก “การ​ทำ​งาน​ร่วม​กัน​เป็น​ทีม​เพื่อ​ชีวิต” (หน้า 45-47) ให้​ราย​ละเอียด​พื้น​ฐาน​บาง​ประการ​ของ​การ​ทำ​งาน​ร่วม​กัน​เป็น​ทีม​อย่าง​น่า​ทึ่ง​ระหว่าง​โปรตีน​และ​กรด​นิวคลิอิก​ใน​เซลล์​ของ​เรา. แค่​มอง​เข้า​ไป​ใน​อาณาจักร​เซลล์​ของ​ร่าง​กาย​เรา​เพียง​แวบ​เดียว ก็​อด​ไม่​ได้​ที่​จะ​เอ่ย​ชม​ผล​งาน​ของ​นัก​วิทยาศาสตร์​ใน​ด้าน​นี้. พวก​เขา​ช่วย​ไข​ความ​ลึกลับ​ของ​กระบวนการ​อัน​ซับซ้อน​ผิด​ธรรมดา​ซึ่ง​น้อย​คน​นัก​จะ​นึก​ถึง กระนั้น กระบวนการ​ดัง​กล่าว​ก็​ดำเนิน​อยู่​ใน​ร่าง​กาย​ของ​เรา​ทุก​ชั่ว​ขณะ. แต่​ใน​อีก​แง่​หนึ่ง ความ​สลับ​ซับซ้อน​อัน​น่า​ทึ่ง​และ​ความ​แม่นยำ​ที่​จำเป็น​ยิ่ง​นี้ นำ​เรา​กลับ​มา​ยัง​คำ​ถาม​ที่​ว่า ทั้ง​หมด​นี้​เกิด​ขึ้น​มา​อย่าง​ไร?

คุณ​อาจ​จะ​ทราบ​ว่า​นัก​วิทยาศาสตร์​สาขา​การ​กำเนิด​ชีวิต​ไม่​ได้​ละ​ความ​พยายาม​ที่​จะ​ทดลอง​ฉาก​เหตุ​การณ์​ที่​ดู​เหมือน​จะ​เป็น​ไป​ได้​สำหรับ​ละคร​เรื่อง​การ​กำเนิด​ชีวิต​ครั้ง​แรก. กระนั้น บท​ละคร​ใหม่ ๆ ของ​พวก​เขา​ก็​ไม่​เป็น​ที่​น่า​เชื่อถือ. (ดู​ภาค​ผนวก ข “จาก ‘โลก​ของ​อาร์เอ็นเอ’ หรือ​จาก​นอก​โลก?” หน้า 48.) ยก​ตัว​อย่าง คลาวส์ โดเซ ประจำ​สถาบัน​ชีวเคมี​วิทยา​ใน​เมนส์ ประเทศ​เยอรมนี ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “ณ ปัจจุบัน การ​อภิปราย​ทั้ง​หมด​เกี่ยว​กับ​ทฤษฎี​และ​การ​ทดลอง​หลัก ๆ ใน​เรื่อง​นี้ ลงเอย​ที่​ทาง​ตัน​หรือ​ไม่​ก็​ยอม​รับ​ว่า​จน​ปัญญา.”

แม้​ใน​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​ปี 1996 ว่า​ด้วย​ต้น​กำเนิด​ชีวิต ก็​ไม่​ปรากฏ​ว่า​มี​คำ​อธิบาย​ใด ๆ. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น วารสาร​ไซเยนซ์ รายงาน​ว่า​นัก​วิทยาศาสตร์​เกือบ 300 คน​ที่​มา​ประชุม​กัน “ปล้ำ​อยู่​กับ​ปริศนา​ที่​ว่า ใน​ตอน​แรก​โมเลกุล [ดีเอ็นเอ​และ​อาร์เอ็นเอ] ปรากฏ​ขึ้น​มา​อย่าง​ไร และ​พัฒนา​ไป​เป็น​เซลล์​ที่​สามารถ​สร้าง​เซลล์​รุ่น​ต่อ ๆ ไป​ด้วย​ตัว​เอง​อย่าง​ไร.”

จะ​ต้อง​ใช้​เชาวน์​ปัญญา​และ​ความ​รู้​ขั้น​สูง​เพื่อ​จะ​ศึกษา​หรือ​แค่​อธิบาย​คร่าว ๆ เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น ณ ระดับ​โมเลกุล​ใน​เซลล์​ของ​เรา. มี​เหตุ​มี​ผล​ไหม​ที่​จะ​เชื่อ​ว่า​ขั้น​ตอน​อัน​สลับ​ซับซ้อน​นี้​เริ่ม​เกิด​ขึ้น​เอง​โดย​บังเอิญ​ใน “ซุปพรีไบโอติก” โดย​ปราศจาก​การ​ชี้​นำ? หรือ​มี​อะไร​เกี่ยว​ข้อง​มาก​กว่า​นี้?

ทำไม​จึง​เป็น​ปริศนา?

ผู้​คน​ใน​สมัย​นี้​อาจ​มอง​ย้อน​ไป​ใน​ช่วง​เวลา​เกือบ​ห้า​สิบ​ปี​แห่ง​การ​คาด​เดา​และ​ความ​พยายาม​นับ​พัน ๆ ครั้ง​เพื่อ​พิสูจน์​ว่า​ชีวิต​เกิด​ขึ้น​เอง. หาก​ใคร​ทำ​เช่น​นั้น ก็​คง​ไม่​ยาก​ที่​จะ​เห็น​ด้วย​กับ​ฟรานซิส คริก ผู้​ชนะ​รางวัล​โนเบล. เมื่อ​พูด​ถึง​ทฤษฎี​ต่าง ๆ ว่า​ด้วย​การ​กำเนิด​ชีวิต คริก​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า มี “การ​คาด​เดา​มาก​เกิน​ไป โดย​อาศัย​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​มี​น้อย​เหลือ​เกิน.” จึง​เป็น​ที่​เข้าใจ​ได้​ว่า​ทำไม​นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​ซึ่ง​เมื่อ​ได้​ตรวจ​สอบ​ข้อ​เท็จ​จริง​ต่าง ๆ แล้ว ลง​ความ​เห็น​ว่า​ชีวิต​ซับซ้อน​เกิน​กว่า​จะ​เกิด​เอง​ได้ แม้​ใน​ห้อง​ปฏิบัติการ​ที่​มี​การ​จัด​ระบบ​อย่าง​ดี ไม่​ต้อง​พูด​ถึง​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​ปราศจาก​การ​ควบคุม.

ใน​เมื่อ​วิทยาศาสตร์​ชั้น​สูง​ไม่​สามารถ​พิสูจน์​ได้​ว่า​ชีวิต​เกิด​เอง แล้ว​ทำไม​นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​ยัง​ยึด​อยู่​กับ​ทฤษฎี​เหล่า​นั้น? ไม่​กี่​สิบ​ปี​มา​นี้ ศาสตราจารย์ เจ. ดี. เบอร์นัล ได้​ให้​ความ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​ไว้​ใน​หนังสือ​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต (ภาษา​อังกฤษ) ว่า “โดย​ใช้​หลัก​วิธี​ทาง​วิทยาศาสตร์​กับ​เรื่อง​นี้ [การ​ที่​สิ่ง​มี​ชีวิต​เกิด​ขึ้น​เอง] อย่าง​เคร่งครัด ก็​เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​แสดง​ให้​เห็น​เด่น​ชัด​ใน​หลาย ๆ จุด​ของ​ทฤษฎี​นั้น​ว่า​ชีวิต​ไม่​อาจ​เกิด​เอง​ได้ ความ​ไม่​น่า​เป็น​ไป​ได้​มี​มาก​เหลือ​เกิน โอกาส​ที่​ชีวิต​จะ​เกิด​ขึ้น​เอง​มี​น้อย​เกิน​ไป.” เขา​กล่าว​เพิ่ม​เติม​ว่า “เมื่อ​มอง​จาก​แง่​นี้​แล้ว​ก็​น่า​เศร้า มี​ชีวิต​อยู่​บน​โลก​ด้วย​รูป​แบบ​และ​กิจกรรม​ต่าง ๆ มาก​มาย​หลาก​หลาย แต่​กลับ​ต้อง​มา​บิดเบือน​เหตุ​ผล​เพื่อ​อธิบาย​การ​ดำรง​อยู่​ของ​ชีวิต​เหล่า​นั้น.” และ​สถานการณ์​ยัง​ไม่​ดี​ขึ้น.

ลอง​พิจารณา​ความหมาย​ลึก ๆ ของ​การ​หา​เหตุ​ผล​เช่น​นั้น. จริง ๆ แล้ว​ก็​เท่า​กับ​พูด​ว่า ‘ใน​ทาง​วิทยาศาสตร์​ถือ​ว่า​ถูก​ต้อง​ที่​จะ​กล่าว​ว่า ชีวิต​ไม่​อาจ​เริ่ม​ต้น​ได้​ด้วย​ตัว​เอง. แต่​หลัก​ความ​เชื่อ​เรื่อง​การ​เกิด​เอง​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​เป็น​ความ​เป็น​ไป​ได้​อย่าง​เดียว​ที่​เรา​จะ​พิจารณา. ดัง​นั้น จึง​จำเป็น​ที่​จะ​บิดเบือน​เหตุ​ผล​เพื่อ​สนับสนุน​สมมุติฐาน​ที่​ว่า ชีวิต​เกิด​ขึ้น​เอง.’ คุณ​พอ​ใจ​กับ​การ​หา​เหตุ​ผล​แบบ​นี้​ไหม? การ​หา​เหตุ​ผล​เช่น​ว่า​จะ​ต้อง ‘บิดเบือน’ ข้อ​เท็จ​จริง​อย่าง​มาก​มิ​ใช่​หรือ?

อย่าง​ไร​ก็​ดี มี​นัก​วิทยาศาสตร์​ผู้​ทรง​ความ​รู้​และ​น่า​นับถือ​หลาย​คน​ที่​เห็น​ว่า​ไม่​จำเป็น​ต้อง​บิดเบือน​ข้อ​เท็จ​จริง​เพื่อ​ให้​เข้า​กับ​หลัก​ปรัชญา​ที่​นิยม​แพร่​หลาย​ใน​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น พวก​เขา​ยอม​ให้​ข้อ​เท็จ​จริง​นำ​ไป​สู่​การ​ลง​ความ​เห็น​ที่​มี​เหตุ​มี​ผล. ข้อ​เท็จ​จริง​อะไร และ​การ​ลง​ความ​เห็น​เช่น​ไร?

ข้อมูล​และ​เชาวน์​ปัญญา

ณ การ​ให้​สัมภาษณ์​ใน​ภาพยนตร์​สารคดี​เรื่อง​หนึ่ง ศาสตราจารย์​มาเช เกียร์ทีค ซึ่ง​เป็น​นัก​พันธุศาสตร์​ที่​มี​ชื่อเสียง​จาก​สถาบัน​รุกขวิทยา​แห่ง​ศูนย์​วิจัย​วิทยาศาสตร์​ของ​โปแลนด์ พูด​ดัง​นี้:

“เรา​ได้​มา​ตระหนัก​ถึง​ข้อมูล​มาก​มาย​มหาศาล​ที่​บรรจุ​อยู่​ใน​ยีน. วิทยาศาสตร์​ไม่​เข้าใจ​ว่า​ข้อมูล​ดัง​กล่าว​เกิด​ขึ้น​เอง​ได้​อย่าง​ไร. สิ่ง​นี้​จะ​ต้อง​อาศัย​เชาวน์​ปัญญา ไม่​มี​ทาง​เกิด​ขึ้น​ได้​ด้วย​เหตุ​บังเอิญ. แค่​เอา​ตัว​อักษร​มา​รวม​กัน ก็​ใช่​ว่า​จะ​เกิด​เป็น​คำ​ขึ้น​มา​ได้.” เขา​เสริม​ว่า “ยก​ตัว​อย่าง กลไก​การ​จำลอง​แบบ​ดีเอ็นเอ, อาร์เอ็นเอ, และ​โปรตีน​ที่​สลับ​ซับซ้อน​ซึ่ง​อยู่​ใน​เซลล์ จะ​ต้อง​สมบูรณ์​แบบ​ตั้ง​แต่​แรก​เริ่ม​ที​เดียว. มิ​ฉะนั้น ระบบ​ต่าง ๆ ของ​ชีวิต​ก็​จะ​ไม่​เกิด​ขึ้น. มี​คำ​อธิบาย​ที่​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​เหตุ​ผล​อย่าง​เดียว​เท่า​นั้น​คือ ข้อมูล​จำนวน​มาก​มาย​มหาศาล​นี้​มา​จาก​ผู้​ทรง​ไว้​ซึ่ง​เชาวน์​ปัญญา.”

ยิ่ง​คุณ​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​มหัศจรรย์​ของ​ชีวิต​มาก​เท่า​ใด ก็​ยิ่ง​มี​เหตุ​ผล​มาก​เท่า​นั้น​ที่​คุณ​จะ​เห็น​ด้วย​กับ​ข้อ​สรุป​นี้: ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต​ต้อง​มา​จาก​แหล่ง​ที่​มี​เชาวน์​ปัญญา. แหล่ง​ไหน​ล่ะ?

ดัง​ได้​กล่าว​ก่อน​หน้า​นี้ ผู้​ที่​มี​การ​ศึกษา​หลาย​ล้าน​คน​ลง​ความ​เห็น​ว่า ชีวิต​บน​โลก​จะ​ต้อง​มา​จาก​ผู้​ออก​แบบ​ที่​มี​เชาวน์​ปัญญา​สูง​ส่ง. ใช่​แล้ว หลัง​จาก​ตรวจ​สอบ​เรื่อง​ราว​ด้วย​ความ​เป็น​ธรรม แม้​จะ​อยู่​ใน​ยุค​วิทยาศาสตร์​แต่​พวก​เขา​ก็​ยอม​รับ​ว่า มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​เห็น​ด้วย​กับ​กวี​ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล ซึ่ง​กล่าว​ถึง​พระเจ้า​นาน​มา​แล้ว​ดัง​นี้: “ด้วย​ว่า​บ่อ​เกิด​แห่ง​ชีวิต​อยู่​กับ​พระองค์.”—บทเพลง​สรรเสริญ 36:9, ล.ม.

ไม่​ว่า​คุณ​ได้​ข้อ​สรุป​ที่​แน่นอน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​หรือ​ไม่​ก็​ตาม ขอ​ให้​เรา​หัน​ความ​สนใจ​ไป​ยัง​ความ​มหัศจรรย์​บาง​อย่าง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ตัว​คุณ​เอง. การ​ทำ​เช่น​นี้​ยัง​ความ​อิ่ม​ใจ​พอ​ใจ​อย่าง​ยิ่ง และ​อาจ​ให้​ความ​กระจ่าง​มาก​มาย​เกี่ยว​ด้วย​เรื่อง​ซึ่ง​กระทบ​ชีวิต​ของ​เรา​นี้.

[กรอบ​หน้า 30]

มี​โอกาส​แค่​ไหน​สำหรับ​ความ​บังเอิญ?

“ความ​บังเอิญ ความ​บังเอิญ​เท่า​นั้น ก่อ​กำเนิด​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง ตั้ง​แต่​ซุป​อินทรีย์​สาร​ยุค​ดึกดำบรรพ์​จน​ถึง​มนุษย์” คริสเตียน เดอ ดูฟ ผู้​ชนะ​รางวัล​โนเบล พูด​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต​ไว้​อย่าง​นั้น. แต่​ความ​บังเอิญ​เป็น​คำ​อธิบาย​ที่​มี​เหตุ​ผล​ไหม​สำหรับ​ที่​มา​ของ​ชีวิต?

ความ​บังเอิญ​คือ​อะไร? บาง​คน​คิด​ถึง​คำ​นี้​ใน​แง่​ของ​ความ​เป็น​ไป​ได้​ทาง​คณิตศาสตร์ เช่น โอกาส​ที่​จะ​โยน​เหรียญ​ออก​มา​เป็น​หัว​หรือ​ก้อย. แต่​นัก​วิทยาศาสตร์​หลาย​คน​ไม่​ได้​ใช้​คำ “ความ​บังเอิญ” แบบ​นี้​เมื่อ​พูด​ถึง​การ​กำเนิด​ชีวิต. คำ “ความ​บังเอิญ” ที่​คลุมเครือ​ถูก​ใช้​แทน​คำ​ที่​ชัดเจน​กว่า อย่าง​เช่น​คำ​ว่า “ต้น​เหตุ” โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​เมื่อ​ต้น​เหตุ​นั้น​ยัง​ไม่​เป็น​ที่​รู้​จัก.

นัก​ชีวฟิสิกส์ โดนัลด์ เอ็ม. แมกเคย์ ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “การ​ถือ​เอา ‘ความ​บังเอิญ’ เป็น​เสมือน​ผู้​ให้​กำเนิด ก็​เท่า​กับ​เป็น​การ​เปลี่ยน​อย่าง​ผิด​หลัก​เหตุ​ผล จาก​แนว​คิด​ทาง​วิทยาศาสตร์ ไป​เป็น​เรื่อง​ปรัมปรา กึ่ง​ศาสนา.” ใน​ทำนอง​เดียว​กัน โรเบิร์ต ซี. สปราวล์ ชี้​ว่า “โดย​การ​เรียก​ต้น​เหตุ​ที่​ไม่​รู้​จัก​ว่า ‘ความ​บังเอิญ’ มา​เป็น​เวลา​นาน ผู้​คน​ก็​เริ่ม​จะ​ลืม​เบื้อง​หลัง​ของ​คำ​นี้. . . . สำหรับ​หลาย​คน​แล้ว สมมุติฐาน​ที่​ว่า ‘ความ​บังเอิญ​คือ​ต้น​เหตุ​ที่​ไม่​รู้​จัก’ ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​การ​พูด​ว่า ‘ความ​บังเอิญ​คือ​ต้น​เหตุ.’”

เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง ชัค แอล. โมโน ผู้​ชนะ​รางวัล​โนเบล ได้​หา​เหตุ​ผล​โดย​อาศัย​แนว​คิด​เรื่อง​ความ​บังเอิญ​คือ​ต้น​เหตุ. เขา​เขียน​ว่า “ความ​บังเอิญ​ล้วน ๆ โดย​เป็น​ไป​เอง​และ​ปราศจาก​การ​ชี้​นำ​อย่าง​สิ้นเชิง [คือ] พื้น​ฐาน​แท้​จริง​แห่ง​โครง​สร้าง​อัน​น่า​พิศวง​ของ​วิวัฒนาการ. ใน​ที่​สุด มนุษย์​ก็​รู้​ว่า​ตน​อยู่​โดย​ลำพัง​ใน​เอกภพ​อัน​กว้าง​ใหญ่​ไพศาล​ปราศจาก​ความ​รู้สึก​นึก​คิด ซึ่ง​จาก​สิ่ง​นี้​แหละ​ที่​มนุษย์​อุบัติ​ขึ้น​โดย​ความ​บังเอิญ​เท่า​นั้น.” โปรด​สังเกต​ที่​เขา​พูด​ว่า ‘โดย​ความ​บังเอิญ.’ โมโน​ทำ​สิ่ง​ที่​หลาย​คน​ได้​ทำ นั่น​คือ ยก​ระดับ​ความ​บังเอิญ​เป็น​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต. ความ​บังเอิญ​จึง​ถูก​อุปโลกน์​ให้​เป็น​วิธี​ที่​ชีวิต​ถือ​กำเนิด​มา​ใน​โลก.

ที่​จริง พจนานุกรม​ให้​ความหมาย​ว่า “ความ​บังเอิญ” คือ “สิ่ง​สมมุติ​ที่​ไม่​ใช่​บุคคล ไม่​มี​จุด​มุ่ง​หมาย​ใด ๆ ซึ่ง​เป็น​ตัว​กำหนด​เหตุ​การณ์​ที่​ไม่​สามารถ​ล่วง​รู้​ได้.” ดัง​นั้น หาก​มี​ใคร​พูด​ว่า​ชีวิต​เกิด​ขึ้น​โดย​ความ​บังเอิญ เขา​ก็​กำลัง​พูด​ว่า​ชีวิต​เกิด​จาก​ต้น​เหตุ​ซึ่ง​ยัง​ไม่​เป็น​ที่​รู้​จัก. อาจ​เป็น​ได้​ไหม​ว่า​การ​ที่​บาง​คน​ถือ​ว่า “ความ​บังเอิญ” เป็น​ต้น​เหตุ​นั้น—จริง ๆ แล้ว กำลัง​พูด​ถึง​พระ​ผู้​สร้าง?

[กรอบ​หน้า 35]

“[แบคทีเรีย​ขนาด​จิ๋ว​ที่​สุด] ดู​คล้าย​มนุษย์​มาก​กว่า​เคมี​ผสม​ของ​สแตนลีย์ มิลเลอร์ เสีย​อีก เพราะ​แบคทีเรีย​ดัง​กล่าว​มี​ระบบ​ชีวเคมี​ใน​ตัว​เอง​อยู่​แล้ว. ดัง​นั้น การ​ที่​แบคทีเรีย​จะ​พัฒนา​ไป​เป็น​มนุษย์​ยัง​จะ​ดู​ง่าย​กว่า​การ​ที่​ของ​ผสม​อัน​ประกอบ​ด้วย​กรด​อะมิโน​จะ​พัฒนา​ไป​เป็น​แบคทีเรีย.”—ลินน์ มาร์กูลิส ศาสตราจารย์​ทาง​ชีววิทยา

[กรอบ/รูป​ภาพ​หน้า 36, 37]

ผล​งาน​ลือ​ชื่อ แต่​น่า​สงสัย

การ​ทดลอง​ของ​สแตนลีย์ มิลเลอร์ ใน​ปี 1953 มัก​ถูก​ยก​ขึ้น​มา​อ้าง​เป็น​หลักฐาน​ว่า​ใน​อดีต​อาจ​มี​การ​เกิด​เอง. แต่​เหตุ​ผล​ของ​คำ​อธิบาย​ของ​เขา​นั้น​อาศัย​การ​สันนิษฐาน​ว่า​บรรยากาศ​ตอน​เริ่ม​แรก​ของ​โลก​อยู่​ใน​สภาวะ “รีดักชัน” ซึ่ง​หมายความ​ว่า​บรรยากาศ​ตอน​นั้น​จะ​ต้อง​เป็น​แบบ​ที่​มี​ออกซิเจน​อิสระ (ไม่​มี​การ​รวม​ตัว​ทาง​เคมี) น้อย​ที่​สุด. เพราะ​เหตุ​ใด?

หนังสือ​ความ​ลึกลับ​แห่ง​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต: การ​ประเมิน​ทฤษฎี​ต่าง ๆ ใน​ปัจจุบัน​อีก​ครั้ง ชี้​ว่า หาก​มี​ออกซิเจน​อิสระ​จำนวน​มาก ‘กรด​อะมิโน​จะ​เกิด​ขึ้น​ไม่​ได้​เลย และ​ถ้า​เกิด​ขึ้น​โดย​บังเอิญ มัน​จะ​สลาย​ตัว​อย่าง​รวด​เร็ว.’a การ​สันนิษฐาน​ของ​มิลเลอร์​เกี่ยว​กับ​สภาพ​บรรยากาศ​ตอน​เริ่ม​แรก​ตาม​ที่​พูด​กัน​นั้น​หนักแน่น​เพียง​ไร?

มิลเลอร์​เขียน​ไว้​ใน​รายงาน​อัน​ลือ​ชื่อ​ซึ่ง​ตี​พิมพ์​หลัง​จาก​การ​ทดลอง​ของ​เขา​ผ่าน​ไป​ได้​สอง​ปี ดัง​นี้: “แน่นอน ความ​คิด​ดัง​กล่าว​เป็น​การ​คาด​เดา เพราะ​เรา​ไม่​รู้​ว่า​โลก​มี​สภาพ​บรรยากาศ​แบบ​รี​ดัก​ชัน​หรือ​ไม่​ตอน​ที่​มัน​ก่อ​ตัว​ขึ้น. . . . ยัง​ไม่​พบ​หลักฐาน​บ่ง​ชี้​แน่ชัด.”—เจอร์นัล ออฟ ดิ อเมริกัน เคมีคอล โซไซตี ฉบับ 12 พฤษภาคม 1955.

เคย​พบ​หลักฐาน​บ้าง​ไหม? ราว ๆ 25 ปี​ต่อ​มา โรเบิร์ต ซี. โค​เวน นัก​เขียน​เรื่อง​ทาง​วิทยาศาสตร์​รายงาน​ว่า “นัก​วิทยาศาสตร์​กำลัง​คิด​ทบทวน​ใหม่​เกี่ยว​กับ​การ​ตั้ง​สมมุติฐาน​ของ​ตน. . . . แทบ​ไม่​มี​หลักฐาน​อะไร​เลย​ที่​สนับสนุน​ความ​คิด​เรื่อง​สภาพ​บรรยากาศ​แบบ​รี​ดัก​ชัน​ซึ่ง​เต็ม​ไป​ด้วย​ไฮโดร-​เจน แต่​หลักฐาน​บาง​อย่าง​กลับ​บ่ง​ชี้​ใน​ทาง​ตรง​ข้าม.”—เทคโนโลยี รีวิว ฉบับ เมษายน 1981.

หลัง​จาก​นั้น​ล่ะ? จอห์น ฮอร์แกน เขียน​ไว้​ใน​ไซเยนติฟิก อเมริกัน เมื่อ​ปี 1991 ว่า “ใน​ช่วง​สิบ​ปี​ที่​ผ่าน​มา​หรือ​ราว ๆ นั้น มี​ข้อ​สงสัย​มาก​มาย​เกี่ยว​กับ​สมมุติฐาน​ของ​มิลเลอร์​และ​อู​เรย์​เรื่อง​สภาพ​บรรยากาศ. การ​ทดลอง​ใน​ห้อง​ปฏิบัติการ​และ​การ​สร้าง​สภาพ​บรรยากาศ​ขึ้น​ใหม่​ใน​คอมพิวเตอร์ . . . ชี้​ว่า​การ​แผ่​รังสี​อัลตราไวโอเลต​จาก​ดวง​อาทิตย์ ซึ่ง​ใน​ปัจจุบัน​ถูก​กั้น​ด้วย​ชั้น​โอโซน จะ​ทำลาย​โมเลกุล​ที่​มี​ไฮโดรเจน​เป็น​ส่วน​ประกอบ​หลัก​ใน​บรรยากาศ. . . . บรรยากาศ​เช่น​นี้ [คาร์บอนไดออกไซด์​และ​ไนโตรเจน] จะ​ไม่​มี​ทาง​ก่อ​ให้​เกิด​การ​สังเคราะห์​กรด​อะมิโน​หรือ​สิ่ง​ใด ๆ ที่​จะ​พัฒนา​ไป​เป็น​ชีวิต.”

แล้ว​ทำไม​หลาย​คน​ยัง​ถือ​ว่า​บรรยากาศ​ใน​ตอน​เริ่ม​แรก​ของ​โลก​เป็น​แบบ​รี​ดัก​ชัน คือ​มี​ออกซิเจน​เพียง​น้อย​นิด? ซิดนีย์ ดับเบิลยู. ฟอกซ์ และ คลาวส์ โดเซ ตอบ​ไว้​ใน​หนังสือ​วิวัฒนาการ​โมเลกุล​และ​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต (ภาษา​อังกฤษ) ดัง​นี้: บรรยากาศ​ตอน​นั้น​ต้อง​ไม่​มี​ออกซิเจน เนื่อง​จาก​เหตุ​ผล​หนึ่ง​คือ “การ​ทดลอง​ใน​ห้อง​ปฏิบัติการ​แสดง​ว่า . . . ออกซิเจน​ขัด​ขวาง​วิวัฒนาการ​ทาง​เคมี” และ​เนื่อง​จาก​สาร​ประกอบ​อย่าง​เช่น กรด​อะมิโน “ไม่​เสถียร​ตลอด​ยุค​ต่าง ๆ ทาง​ธรณี​วิทยา​ที่​มี​ออกซิเจน.”

นี่​ไม่​ใช่​การ​หา​เหตุ​ผล​แบบ​วก​วน​หรอก​หรือ? มี​การ​กล่าว​ว่า บรรยากาศ​ตอน​แรก ๆ เป็น​แบบ​รี​ดัก​ชัน เพราะ​ถ้า​ไม่​เช่น​นั้น​ชีวิต​จะ​ไม่​อาจ​เกิด​เอง​ได้. แต่​ก็​ไม่​มี​คำ​รับรอง​ใด ๆ อย่าง​แท้​จริง​ว่า​เป็น​แบบ​รี​ดัก​ชัน.

มี​ราย​ละเอียด​ที่​น่า​คิด​อีก​อย่าง​หนึ่ง: ถ้า​ก๊าซ​ที่​เอา​มา​รวม​กัน​ใช้​แทน​สภาพ​บรรยากาศ​ใน​ตอน​นั้น ประกาย​ไฟฟ้า​เปรียบ​เหมือน​สาย​ฟ้า​แลบ และ​น้ำ​เดือด​ใช้​แทน​มหาสมุทร แล้ว​นัก​วิทยาศาสตร์​ที่​จัด​เตรียม​และ​ดำเนิน​การ​ทดลอง​จะ​เปรียบ​ได้​กับ​ใคร​หรือ​อะไร?

[เชิงอรรถ]

a ออกซิเจน​เกิด​ปฏิกิริยา​ได้​ง่าย. ยก​ตัว​อย่าง ถ้า​มัน​รวม​ตัว​กับ​เหล็ก​จะ​เกิด​สนิม หรือ​ถ้า​รวม​ตัว​กับ​ไฮโดรเจน​ก็​จะ​เกิด​น้ำ. ถ้า​มี​ออกซิเจน​อิสระ​จำนวน​มาก​ใน​บรรยากาศ​ตอน​ที่​เกิด​กรด​อะมิโน มัน​จะ​เข้า​ไป​รวม​ตัว​กับ​กรด​นั้น​อย่าง​รวด​เร็ว และ​ทำลาย​โมเลกุล​อินทรียสาร​ต่าง ๆ ขณะ​ที่​มัน​ก่อ​ตัว​ขึ้น.

[กรอบ​หน้า 38]

มือ​ขวา, มือ​ซ้าย

เรา​ทราบ​ดี​ว่า​ถุง​มือ​มี​ข้าง​ขวา​และ​ข้าง​ซ้าย. โมเลกุล​ของ​กรด​อะมิโน​ก็​เช่น​เดียว​กัน. ใน​บรรดา​กรด​อะมิโน​ราว ๆ 100 ชนิด​ที่​รู้​จัก​กัน มี​เพียง 20 ชนิด​เท่า​นั้น​ที่​โปรตีน​ใช้ และ​ทั้ง​หมด​เป็น​ชนิด​มือ​ซ้าย. ตอน​ที่​นัก​วิทยาศาสตร์​สร้าง​กรด​อะมิโน​ใน​ห้อง​ปฏิบัติการ​เพื่อ​เลียน​แบบ​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​คิด​ว่า​อาจ​จะ​เกิด​ขึ้น​ใน​ซุปพรีไบโอติก เขา​พบ​ว่า​โมเลกุล​ชนิด​มือ​ขวา​และ​มือ​ซ้าย​มี​จำนวน​เท่า​กัน. หนังสือ​พิมพ์​เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงาน​ว่า “การ​เฉลี่ย​เท่า ๆ กัน​แบบ 50-50 นี้ ไม่​ใช่​ลักษณะ​ของ​ชีวิต​ซึ่ง​อาศัย​กรด​อะมิโน​ชนิด​มือ​ซ้าย​อย่าง​เดียว.” เหตุ​ผล​ที่​ว่า​ทำไม​สิ่ง​มี​ชีวิต​จึง​ประกอบ​ขึ้น​ด้วย​กรด​อะมิโน​ชนิด​มือ​ซ้าย​เท่า​นั้น ยัง​เป็น “ความ​ลึกลับ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่.” แม้​แต่​กรด​อะมิโน​ที่​พบ​ใน​อุกกาบาต​ก็ “ปรากฏ​ว่า​มี​ชนิด​มือ​ซ้าย​มาก​เหลือ​เกิน.” ดร. เจฟฟรีย์ แอล. เบดา ผู้​ศึกษา​ปัญหา​เกี่ยว​กับ​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต​กล่าว​ว่า “อิทธิพล​บาง​อย่าง​จาก​นอก​โลก​อาจ​มี​ส่วน​ใน​การ​กำหนด​ชนิด​มือ​ซ้าย​มือ​ขวา​ของ​กรด​อะมิโน​เชิง​ชีววิทยา.”

[กรอบ​หน้า 40]

“การ​ทดลอง​เหล่า​นี้ . . . อ้าง​ว่า​การ​สังเคราะห์​ที่​ไร้​ชีวิต​เป็น​ที่​มา​ของ​สิ่ง​ซึ่ง​จริง ๆ แล้ว​ถูก​สร้าง​และ​ออก​แบบ​โดย​มนุษย์​ผู้​มี​เชาวน์​ปัญญา​ระดับ​สูง​และ​มี​ชีวิต​อย่าง​แท้​จริง ซึ่ง​พยายาม​ยืน​ยัน​ความ​คิด​ที่​ตน​ปักใจ​เชื่อ​อยู่​แล้ว.”—ต้น​กำเนิด​และ​พัฒนาการ​ของ​ระบบ​ชีวิต (ภาษา​อังกฤษ).

[กรอบ/รูป​ภาพ​หน้า 41]

“การ​จงใจ​กระทำ​ด้วย​เชาวน์​ปัญญา”

เซอร์​เฟรด ฮอยล์ นัก​ดาราศาสตร์​ชาว​บริเตน ซึ่ง​ใช้​เวลา​หลาย​ทศวรรษ​ใน​การ​ศึกษา​เอกภพ​และ​สิ่ง​มี​ชีวิต ก็​ยัง​สนับสนุน​ความ​คิด​ที่​ว่า ชีวิต​ใน​โลก​มา​จาก​นอก​โลก. ระหว่าง​การ​บรรยาย ณ สถาบัน​เทคโนโลยี​แห่ง​แคลิฟอร์เนีย เขา​ได้​พูด​ถึง​การ​เรียง​ลำดับ​ของ​กรด​อะมิโน​ใน​โปรตีน.

ฮอยล์​กล่าว​ว่า “ปัญหา​ใหญ่​ทาง​ชีววิทยา ไม่​ได้​อยู่​ที่​ข้อ​เท็จ​จริง​อัน​ประจักษ์​ชัด​ที่​ว่า โปรตีน​ตัว​หนึ่ง​ประกอบ​ด้วย​กรด​อะมิโน​ที่​เชื่อม​ต่อ​กัน​เป็น​สาย​โซ่​ใน​แบบ​ที่​แน่นอน แต่​อยู่​ที่​การ​เรียง​ลำดับ​อย่าง​ชัดเจน​ของ​กรด​อะมิโน​นั้น ๆ ซึ่ง​ทำ​ให้​สาย​โซ่​ดัง​กล่าว​มี​คุณสมบัติ​น่า​ทึ่ง . . . ถ้า​กรด​อะมิโน​เชื่อม​ต่อ​กัน​แบบ​สุ่ม​แล้ว​ละ​ก็ จะ​มี​การ​เรียง​ตัว​จำนวน​มหาศาล​ที่​ไร้​ประโยชน์​ใช้สอย​สำหรับ​เซลล์​ชีวิต. เมื่อ​คำนึง​ถึง​ว่า​เอนไซม์​โดย​ทั่ว​ไป​อาจ​มี​กรด​อะมิโน 200 ตัว​เชื่อม​ต่อ​กัน​เป็น​สาย​โซ่ และ​ความ​เป็น​ไป​ได้​ใน​การ​เชื่อม​ต่อ​กัน​ของ​แต่​ละ​ตัว​นั้น​มี 20 รูป​แบบ ก็​เห็น​ได้​ไม่​ยาก​ว่า​จำนวน​การ​เรียง​ตัว​ที่​ใช้​ประโยชน์​ไม่​ได้​นั้น​มี​มาก​มาย​มหาศาล​แค่​ไหน มาก​กว่า​จำนวน​อะตอม​ใน​กาแล็กซี​ทั้ง​หมด​ที่​สามารถ​เห็น​ได้​ด้วย​กล้อง​โทรทรรศน์​ขนาด​ใหญ่​ที่​สุด. นี่​แค่​เอนไซม์​ชนิด​เดียว​ใน​จำนวน​มาก​กว่า 2,000 ชนิด ซึ่ง​ส่วน​ใหญ่​ทำ​หน้า​ที่​ต่าง​กัน​อย่าง​มาก. ดัง​นั้น ทั้ง​หมด​นี้​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร?”

ฮอยล์​เพิ่ม​เติม​ว่า “แทน​ที่​จะ​ยอม​รับ​ความ​เป็น​ไป​ได้​ซึ่ง​มี​น้อย​นิด​เหลือ​เกิน​ที่​ว่า ชีวิต​เกิด​จาก​พลัง​ธรรมชาติ​ที่​ไร้​การ​ชี้​นำ ดู​เหมือน​จะ​ดี​กว่า​หาก​สันนิษฐาน​ว่า ชีวิต​เกิด​จาก​การ​จงใจ​กระทำ​ด้วย​เชาวน์​ปัญญา.”

[กรอบ​หน้า 44]

ศาสตราจารย์​ไมเคิล เจ. บีฮี กล่าว​ว่า “สำหรับ​ผู้​ที่​ไม่​จำกัด​การ​ค้น​หา​ของ​ตน​อยู่​ที่​ต้น​เหตุ​อัน​ปราศจาก​เชาวน์​ปัญญา จะ​ลง​ความ​เห็น​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​ว่า ระบบ​ทาง​ชีวเคมี​หลาย​ชนิด​ได้​รับ​การ​ออก​แบบ. ระบบ​ดัง​กล่าว​ไม่​ได้​ถูก​ออก​แบบ​โดย​กฎ​ธรรมชาติ, โดย​ความ​บังเอิญ, หรือ​เนื่อง​จาก​สถานการณ์​บังคับ แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น ระบบ​ต่าง ๆ ถูก​กำหนด ไว้. . . . ชีวิต​บน​โลก ณ ระดับ​มูลฐาน​ที่​สุด ใน​ส่วน​ประกอบ​ที่​สำคัญ​ที่​สุด เป็น​ผลิตผล​จาก​การ​กระทำ​ที่​เปี่ยม​ด้วย​เชาวน์​ปัญญา.”

[แผนพัง/รูปภาพ​หน้า 42]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​หนังสือ)

แค่​มอง​ดู​อาณาจักร​อัน​ซับซ้อน​และ​การ​ทำ​งาน​ที่​ละเอียด​ประณีต​ของ​เซลล์​ต่าง ๆ ใน​ร่าง​กาย​เพียง​แวบ​เดียว ก็​ทำ​ให้​เกิด​คำ​ถาม​ขึ้น​ว่า​สิ่ง​เหล่า​นี้​เป็น​มา​อย่าง​ไร?

• เยื่อ​หุ้ม​เซลล์

ดู​แล​ควบคุม​สิ่ง​ที่​เข้า​ออก​เซลล์

• นิวเคลียส

ศูนย์​บัญชา​การ​ของ​เซลล์

• โครโมโซม

บรรจุ​ด้วย​ดีเอ็นเอ​ซึ่ง​เป็น​แบบ​แปลน​หลัก​ทาง​พันธุกรรม

• ไรโบโซม

ที่​ซึ่ง​โปรตีน​ถูก​สร้าง​ขึ้น

• นิวคลีโอลัส

บริเวณ​ที่​ไรโบโซม​ถูก​ประกอบ​ขึ้น

• ไมโตคอนดรีออน

ศูนย์​การ​ผลิต​โมเลกุล​ที่​ให้​พลังงาน​แก่​เซลล์

[รูปภาพ​หน้า 33]

ปัจจุบัน นัก​วิทยาศาสตร์​หลาย​คน​ยอม​รับ​ว่า​โมเลกุล​อัน​สลับ​ซับซ้อน​ซึ่ง​เป็น​หน่วย​พื้น​ฐาน​ของ​ชีวิต ไม่​อาจ​เกิด​เอง​ได้​ใน​ซุปพรีไบโอติก

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์