ตุลาคม
วันพุธที่ 1 ตุลาคม
สติปัญญาจากเบื้องบน . . . พร้อมจะเชื่อฟัง—ยก. 3:17
คุณเคยรู้สึกยากที่จะเชื่อฟังไหม? กษัตริย์ดาวิดก็เคยรู้สึกแบบนั้น เขาเลยอธิษฐานถึงพระยะโฮวาว่า “ขอช่วยให้ผมเต็มใจเชื่อฟังพระองค์” (สด. 51:12) ถึงแม้ดาวิดรักพระยะโฮวา แต่บางครั้งเขาก็รู้สึกยากที่จะเชื่อฟัง เราเองก็อาจรู้สึกเหมือนกัน เพราะอะไร? เหตุผลแรก เรามีแนวโน้มที่จะไม่เชื่อฟังเพราะบาปที่ได้รับมา เหตุผลที่ 2 ซาตานคอยแต่จะทำให้เราขืนอำนาจเหมือนมัน (2 คร. 11:3) เหตุผลที่ 3 เราอยู่ในโลกที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากฟังใคร ซึ่ง “น้ำใจนี้ . . . กำลังมีอิทธิพลต่อคนที่ไม่เชื่อฟัง” (อฟ. 2:2) ดังนั้น เราต้องพยายามสู้กับความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง สู้กับซาตาน และสู้กับน้ำใจของโลกนี้เพื่อจะเชื่อฟังพระยะโฮวาและคนที่พระองค์ให้อำนาจ ห23.10 42:1
วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม
คุณกลับเก็บเหล้าองุ่นดี ๆ ไว้จนถึงตอนนี้—ยน. 2:10
เราได้เรียนอะไรจากการอัศจรรย์ที่พระเยซูเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่น? เราได้เรียนเรื่องความถ่อมใจ พระเยซูไม่ได้อวดว่าท่านทำการอัศจรรย์นี้ ที่จริง ท่านไม่เคยอวดความสำเร็จของตัวเองเลยสักครั้ง ตรงกันข้าม ท่านถ่อมและยกย่องสรรเสริญพระยะโฮวาเสมอ และบอกว่าพระองค์เป็นผู้ที่ช่วยให้ท่านสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ (ยน. 5:19, 30; 8:28) ถ้าเราเลียนแบบพระเยซูโดยเป็นคนถ่อมเสมอ เราก็จะไม่อวดความสำเร็จของเรา เราต้องไม่อวดตัวเราเอง แต่อวดเรื่องพระยะโฮวาพระเจ้าที่เรามีสิทธิพิเศษได้รับใช้ (ยรม. 9:23, 24) ให้เรายกย่องสรรเสริญพระยะโฮวาที่เราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ จริง ๆ แล้วเราไม่มีทางทำสิ่งดี ๆ ได้สำเร็จเลยถ้าพระองค์ไม่ช่วย (1 คร. 1:26-31) ถ้าเราถ่อม เราจะไม่ถือว่าที่คนอื่นทำอะไรได้ดีเป็นเพราะเรา แต่เรารู้ว่าพระยะโฮวาเห็นสิ่งที่เราทำและพระองค์เห็นค่า (เทียบกับมัทธิว 6:2-4; ฮบ. 13:16) ถ้าเราเลียนแบบพระเยซูในเรื่องความถ่อม พระยะโฮวาจะพอใจเรา—1 ปต. 5:6 ห23.04 15:9, 11-12
วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม
อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น ให้เห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นด้วย—ฟป. 2:4
เปาโลได้รับการดลใจให้สนับสนุนพี่น้องคริสเตียนให้เห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นด้วย แล้วเราจะเอาข้อนี้มาใช้กับการประชุมได้ยังไง? เราต้องจำไว้ว่าพี่น้องคนอื่นในประชาคมก็อยากตอบเหมือนกัน ลองคิดแบบนี้ ตอนที่คุณคุยกับเพื่อน คุณจะเอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียวจนเพื่อนแทบไม่มีโอกาสได้พูดไหม? คุณคงไม่ทำอย่างนั้นแน่ ๆ คุณอยากให้เพื่อนได้พูดด้วย ในการประชุมก็เหมือนกัน เราอยากให้คนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้มีโอกาสออกความเห็น ที่จริง วิธีที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่เราจะให้กำลังใจพี่น้องได้ก็คือ ให้โอกาสพวกเขาพูดถึงความเชื่อของตัวเอง (1 คร. 10:24) ดังนั้น ให้พยายามตอบสั้น ๆ เพื่อจะให้คนอื่นมีโอกาสได้ตอบมากขึ้น และถึงแม้ว่าคุณจะตอบสั้นก็จริง แต่พยายามอย่าตอบหลายจุดมากเกินไป ถ้าคุณตอบทุกจุดในข้อไปหมดแล้ว คนอื่น ๆ ก็คงไม่รู้จะตอบอะไร ห23.04 18:11-13
วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม
ผมทำทุกอย่างเพื่อข่าวดี เพื่อผมจะได้ประกาศข่าวดีกับคนอื่น ๆ—1 คร. 9:23
เราต้องจำไว้ว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องช่วยคนอื่นต่อไปโดยเฉพาะการทำงานประกาศ เมื่อเราทำงานรับใช้ เราต้องยืดหยุ่นและพร้อมจะปรับเปลี่ยน เราเจอกับคนที่มีความเชื่อแตกต่างกัน คิดไม่เหมือนกัน มีภูมิหลังและวัฒนธรรมแตกต่างกัน อัครสาวกเปาโลก็เป็นคนที่พร้อมจะปรับเปลี่ยน และเราก็เรียนจากตัวอย่างของเขาได้ พระเยซูแต่งตั้งให้เปาโลเป็น “อัครสาวกที่ถูกส่งไปหาคนต่างชาติ” (รม. 11:13) เขาเลยประกาศกับทั้งชาวยิว ชาวกรีก คนที่มีการศึกษา ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่รัฐ และกษัตริย์ เพื่อที่เปาโลจะประกาศอย่างที่เข้าถึงหัวใจของคนที่มีความแตกต่างหลากหลายขนาดนั้นได้ เขา “ยอมปรับตัวเป็นคนทุกชนิด” (1 คร. 9:19-22) เปาโลคิดถึงความเชื่อ ภูมิหลัง และวัฒนธรรมของผู้คนที่เขาเจอ นี่เลยช่วยให้เขาพร้อมจะปรับเปลี่ยนและหาวิธีพูดคุยกับทุกคนในแบบที่จะทำให้พวกเขาสนใจเรื่องพระยะโฮวา เราก็ต้องทำแบบนั้นเหมือนกัน เพื่อที่เราจะทำงานรับใช้ได้เก่งขึ้น เราก็ต้องพร้อมจะปรับเปลี่ยนและพยายามหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะประกาศให้เหมาะกับผู้ฟังแต่ละคน ห23.07 32:11-12
วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม
ทาสของผู้เป็นนายไม่ควรทะเลาะวิวาทกับใคร แต่ต้องสุภาพอ่อนโยนกับทุกคน—2 ทธ. 2:24
คนที่อ่อนโยนคือคนที่เข้มแข็งไม่ใช่คนอ่อนแอ เพราะเขาต้องพยายามอย่างมากที่จะใจเย็นตอนที่เจอเรื่องที่ทำให้เครียด ความอ่อนโยนเป็นส่วนหนึ่งของ “ผลที่เกิดจากพลังของพระเจ้า” (กท. 5:22, 23) คำกรีกที่แปลว่า “อ่อนโยน” อาจใช้เพื่ออธิบายลักษณะของม้าป่าที่ถูกทำให้เชื่อง แม้มันจะเชื่องแต่มันก็มีกำลังและแข็งแรงมาก เราที่เป็นมนุษย์จะมีทั้งความอ่อนโยนและเข้มแข็งในเวลาเดียวกันได้ไหม? เราทำได้แต่ไม่ใช่ด้วยกำลังของเราเอง สิ่งสำคัญที่ช่วยเราได้ก็คือการอธิษฐานขอพลังบริสุทธิ์จากพระยะโฮวาและเราต้องขอพระองค์ช่วยเราให้ปลูกฝังคุณลักษณะที่ยอดเยี่ยมนี้ เราได้เห็นตัวอย่างมากมายของคนที่ทำสำเร็จมาแล้ว พยานพระยะโฮวาหลายคนได้แสดงความอ่อนโยนแม้ผู้ต่อต้านจะยั่วโมโหพวกเขาและนั่นทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์รู้สึกดีกับพยานพระยะโฮวา—2 ทธ. 2:24, 25 ห23.09 39:3
วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม
ดิฉันอธิษฐานขอลูกคนนี้และพระยะโฮวาก็ให้ตามที่ขอ—1 ซม. 1:27
อัครสาวกยอห์นเห็นนิมิตที่น่าทึ่ง เขาเห็นผู้ปกครอง 24 คนในสวรรค์กำลังหมอบลงและนมัสการพระยะโฮวา พวกเขาสรรเสริญพระองค์และบอกว่า “พระองค์สมควรจะได้รับการยกย่องสรรเสริญ ความนับถือ และฤทธิ์อำนาจ” (วว. 4:10, 11) นอกจากนั้น ทูตสวรรค์ที่ซื่อสัตย์ก็สรรเสริญพระยะโฮวาด้วย พวกเขาอยู่ในสวรรค์กับพระองค์และรู้จักพระองค์ดี พวกเขาเห็นสิ่งที่พระยะโฮวาทำก็เลยรู้ดีว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแบบไหนและมีคุณลักษณะอะไรบ้าง และนั่นทำให้พวกเขาอยากสรรเสริญพระองค์ (โยบ 38:4-7) เราเองก็อยากสรรเสริญพระยะโฮวาในคำอธิษฐานของเรา เราอยากบอกพระองค์ว่าเรารักและนับถือพระองค์มากขนาดไหน ตอนที่คุณอ่านและศึกษาค้นคว้าคัมภีร์ไบเบิล ให้ลองสังเกตว่าคุณประทับใจคุณลักษณะอะไรของพระยะโฮวาเป็นพิเศษ (โยบ 37:23; รม. 11:33) และเมื่อคุณอธิษฐานก็ให้บอกพระองค์ว่าคุณรู้สึกยังไงกับคุณลักษณะนี้ของพระองค์ นอกจากนั้น เรายังสรรเสริญพระยะโฮวาเพราะสิ่งที่พระองค์ทำเพื่อเราและเพื่อพี่น้องของเราทั่วโลก—1 ซม. 2:1, 2 ห23.05 20:6-7
วันอังคารที่ 7 ตุลาคม
ใช้ชีวิตให้สมกับการเป็นผู้รับใช้พระยะโฮวา—คส. 1:10
ในปี 1919 คนของพระเจ้าได้เป็นอิสระจากบาบิโลนใหญ่ และในปีเดียวกันนั้นก็เริ่มมี “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” พวกเขาได้ช่วยคนที่มีหัวใจดีให้เดินใน “ทางบริสุทธิ์” ที่เพิ่งเริ่มเปิดให้ใช้ (มธ. 24:45-47; อสย. 35:8) สิ่งที่คนในสมัยก่อนหน้านั้นได้ทำเพื่อเตรียมทางเอาไว้ได้ช่วยให้คนใหม่ ๆ เหล่านี้รู้จักพระยะโฮวาและความต้องการของพระองค์มากขึ้น และยังช่วยพวกเขาให้ใช้ชีวิตอย่างที่พระองค์บอก (สภษ. 4:18) แต่พระยะโฮวาไม่ได้คาดหมายให้คนของพระองค์เปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้หมดในครั้งเดียว พระองค์ค่อย ๆ ทำให้พวกเขาสะอาดขึ้นในเรื่องการนมัสการ ลองคิดดูว่าเราจะมีความสุขมากขนาดไหนถ้าทุกอย่างที่เราทำจะทำให้พระองค์พอใจ ปกติแล้วเพื่อทางจะมีสภาพที่ดีตลอดก็ต้องมีการบำรุงรักษาเป็นประจำ ตั้งแต่ปี 1919 ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุมก็ทำอย่างนั้นด้วยกับทางบริสุทธิ์เพื่อให้ผู้คนมากขึ้นเรื่อย ๆ ออกจากบาบิโลนใหญ่ ห23.05 22:15-16
วันพุธที่ 8 ตุลาคม
เราจะไม่มีวันทิ้งเจ้า—ฮบ. 13:5
คณะกรรมการปกครองได้ฝึกผู้ช่วยคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ของคณะกรรมการปกครอง และตอนนี้ผู้ช่วยเหล่านี้ก็กำลังทำหน้าที่รับผิดชอบที่สำคัญหลายอย่าง และพวกเขาก็พร้อมที่จะสานต่อหน้าที่ในการดูแลแกะของพระคริสต์ในอนาคต การนมัสการแท้จะยังคงมีอยู่ต่อไปแน่นอนถึงแม้ผู้ถูกเจิมจะถูกรับไปสวรรค์ตอนใกล้จบความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ และเพราะเรามีพระเยซูเป็นผู้นำ เราเลยสามารถนมัสการพระยะโฮวาได้ต่อ ๆ ไปแม้ในตอนนั้นเราจะถูกโกกแห่งมาโกกซึ่งก็คือกลุ่มชาติต่าง ๆ มาโจมตี (อสค. 38:18-20) เรารู้ว่าการโจมตีนั้นก็จะล้มเหลว พวกเขาจะไม่สามารถขัดขวางคนของพระยะโฮวาไม่ให้นมัสการพระองค์ได้ พระองค์จะช่วยพวกเราอย่างแน่นอน ในนิมิตที่อัครสาวกยอห์นเห็น เขาเห็น “ชนฝูงใหญ่” ซึ่งก็คือแกะอื่นของพระคริสต์รอด “ผ่านความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่” (วว. 7:9, 14) ใช่แล้ว พระยะโฮวาจะช่วยคนของพระองค์ให้รอดอย่างปลอดภัยแน่นอน ห24.02 5:13-14
วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม
อย่าดับไฟในตัวคุณที่เกิดจากพลังของพระเจ้า—1 ธส. 5:19
เราต้องทำยังไงเพื่อจะได้พลังบริสุทธิ์? เราต้องอธิษฐานขอพลังบริสุทธิ์จากพระยะโฮวา อ่านและค้นคว้าคัมภีร์ไบเบิล และใกล้ชิดกับองค์การของพระยะโฮวาที่ได้รับการชี้นำจากพลังบริสุทธิ์ การทำแบบนี้จะช่วยให้เรามี “ผลที่เกิดจากพลังของพระเจ้า” ด้วย (กท. 5:22, 23) พระเจ้าให้พลังบริสุทธิ์ของพระองค์เฉพาะกับคนที่คิดและทำในสิ่งที่สะอาดในสายตาของพระองค์ ดังนั้น พระองค์จะไม่ให้พลังบริสุทธิ์กับเราถ้าเราคิดและทำสิ่งที่ไม่สะอาดอยู่เรื่อย ๆ (1 ธส. 4:7, 8) นอกจากนั้น เพื่อที่เราจะได้พลังบริสุทธิ์จากพระเจ้าต่อ ๆ ไป เราต้องไม่ “ดูหมิ่นคำพยากรณ์” (1 ธส. 5:20) คำว่า “คำพยากรณ์” ในข้อคัมภีร์นี้หมายถึงข่าวสารที่ได้รับการดลใจจากพลังของพระเจ้า ซึ่งรวมถึงเรื่องวันของพระยะโฮวาและเรื่องที่ว่าสมัยของเราเป็นสมัยที่เร่งด่วน ดังนั้น เราต้องไม่คิดว่าอีกนานกว่าที่วันของพระยะโฮวาจะมาถึงและอาร์มาเกดโดนคงไม่มาในช่วงชีวิตของเรา แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เราต้องคิดถึงวันของพระยะโฮวาเสมอและคิดว่าวันนั้นใกล้เข้ามามากแล้ว โดยทำสิ่งที่พระองค์ต้องการและ “ทำสิ่งที่แสดงว่า [เรา] เลื่อมใสพระเจ้า” ทุกวัน—2 ปต. 3:11, 12 ห23.06 26:13-14
วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม
ความเกรงกลัวพระยะโฮวาเป็นจุดเริ่มต้นของสติปัญญา—สภษ. 9:10
ถ้าเราใช้โทรศัพท์มือถือหรือดูคอมพิวเตอร์ แล้วจู่ ๆ ก็มีภาพลามกโผล่ขึ้นมาล่ะ เราควรทำยังไง? เราต้องไม่ดูและรีบปิดทันที ถ้าเราคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราคือสายสัมพันธ์ที่มีกับพระยะโฮวา เราก็จะทำแบบนั้นได้ไม่ยากเลย ที่จริง ภาพที่บางคนไม่ถือว่าเป็นสื่อลามกก็อาจกระตุ้นความรู้สึกทางเพศได้ แล้วทำไมเราต้องไม่ดูภาพเหล่านี้? เพราะเราไม่อยากให้อะไรก็ตามที่กระตุ้นให้ทำผิดศีลธรรมทางเพศเข้ามาในหัวใจเราแม้แต่นิดเดียว (มธ. 5:28, 29) ผู้ดูแลในประเทศไทยที่ชื่อเดวิดบอกว่า “ผมถามตัวเองว่า ‘แม้ภาพนี้อาจไม่ใช่สื่อลามก แต่พระยะโฮวาจะชอบไหมถ้าผมดูอยู่เรื่อย ๆ?’ การคิดแบบนี้ช่วยให้ผมลงมือทำอย่างฉลาด” การกลัวว่าจะทำสิ่งที่พระยะโฮวาไม่ชอบจะช่วยให้เราลงมือทำสิ่งที่ฉลาด “ความเกรงกลัวพระยะโฮวาเป็นจุดเริ่มต้นของสติปัญญา” ห23.06 28:12-13
วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม
ประชาชนของเรา เข้าไปอยู่ในห้องข้างใน—อสย. 26:20
“ห้องข้างใน” อาจหมายถึงประชาคมของเรา นี่หมายความว่าพระยะโฮวาสัญญาว่าจะปกป้องเราในช่วงนั้นถ้าเราเป็นหนึ่งเดียวกันกับพี่น้อง ดังนั้น เราต้องไม่ใช่แค่พยายามทนกับพี่น้องให้ได้ แต่เราต้องรักพวกเขาตั้งแต่ตอนนี้ เราจะรอดหรือไม่รอดก็ขึ้นอยู่กับการทำแบบนี้ “วันใหญ่ของ [พระ] ยะโฮวา” จะเป็นเวลาที่ยากลำบากมากสำหรับทุกคน (ศฟย. 1:14, 15) แม้แต่คนของพระยะโฮวาก็จะต้องเจอความลำบากด้วยเหมือนกัน แต่ถ้าเราเตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนนี้ เราก็จะมีใจสงบและช่วยคนอื่นในตอนนั้นได้ เราจะอดทนได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และถ้าพี่น้องเจอความลำบาก เราก็จะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อแสดงความเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือพวกเขา และถ้าเราฝึกที่จะรักพี่น้องตั้งแต่ตอนนี้ เราก็จะรักและสนิทกับพวกเขาในตอนนั้นด้วย แล้วพระยะโฮวาก็จะให้ชีวิตตลอดไปกับเราเป็นรางวัล และเราจะได้อยู่ในโลกที่ไม่มีภัยพิบัติหรือความทุกข์ยากลำบากอะไรอีกเลย—อสย. 65:17 ห23.07 29:16-17
วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม
[พระยะโฮวา] จะทำให้พวกคุณมั่นคง พระองค์จะทำให้พวกคุณเข้มแข็ง—1 ปต. 5:10
หลายครั้งคัมภีร์ไบเบิลบอกว่าผู้รับใช้ของพระยะโฮวามีความเข้มแข็ง แต่คนที่แข็งแรงที่สุดก็ไม่ได้รู้สึกเข้มแข็งตลอด ตัวอย่างเช่น บางครั้งกษัตริย์ดาวิดรู้สึกว่าเขา “แข็งแกร่งเหมือนภูเขา” แต่ในบางครั้งเขาก็ “หวาดกลัว” (สด. 30:7) แซมสันก็เหมือนกัน เขาแข็งแรงมากเมื่อได้รับพลังจากพระเจ้า แต่เขาก็ยอมรับด้วยว่าเมื่อไม่มีพลังนั้นเขาก็จะ “อ่อนลงเป็นเหมือนผู้ชายทั่วไป” (วนฉ. 14:5, 6; 16:17) เห็นได้ชัดเลยว่าผู้รับใช้ของพระเจ้าที่ซื่อสัตย์เหล่านี้จะเข้มแข็งได้ก็ต่อเมื่อได้รับพลังจากพระยะโฮวา เปาโลก็ยอมรับว่าเขาต้องการพลังจากพระยะโฮวา (2 คร. 12:9, 10) เขาต้องรับมือกับปัญหาสุขภาพ (กท. 4:13, 14) และบางครั้งเขาต้องพยายามมากจริง ๆ เพื่อจะทำสิ่งที่ถูกต้อง (รม. 7:18, 19) นอกจากนั้น เขายังกังวลและกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา (2 คร. 1:8, 9) แต่ถึงแม้เปาโลจะอ่อนแอ เขากลับยิ่งเข้มแข็งขึ้น เพราะอะไร? เพราะพระยะโฮวาให้พลังกับเขา และพระองค์ทำให้เขาเข้มแข็ง ห23.10 43:1-2
วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม
พระยะโฮวามองที่หัวใจ—1 ซม. 16:7
ถ้าบางครั้งเรารู้สึกไร้ค่า ให้จำไว้ว่าพระยะโฮวาเป็นผู้ชักนำเราให้เข้ามาหาพระองค์ (ยน. 6:44) พระองค์มองที่หัวใจและเห็นส่วนดีในตัวเรา แม้บางครั้งเราอาจไม่ได้คิดว่าเรามีดีอะไร (2 พศ. 6:30) ดังนั้น เราเลยมั่นใจได้จริง ๆ เมื่อพระยะโฮวาบอกว่าเรามีค่าสำหรับพระองค์ (1 ยน. 3:19, 20) ก่อนจะเรียนความจริง พวกเราบางคนอาจเคยทำไม่ดีและรู้สึกผิดมาก (1 ปต. 4:3) แม้แต่ผู้รับใช้พระเจ้าที่ซื่อสัตย์ก็ต้องสู้กับความต้องการผิด ๆ ด้วย แล้วคุณล่ะ? บางครั้งคุณรู้สึกไหมว่าพระยะโฮวาให้อภัยคุณไม่ได้? ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้นก็ไม่ต้องกังวล ผู้รับใช้พระยะโฮวาที่ซื่อสัตย์หลายคนก็เคยรู้สึกแบบนี้ เช่น อัครสาวกเปาโลรู้สึกแย่เมื่อเขาคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ (รม. 7:24) แม้เปาโลจะกลับใจและรับบัพติศมาแล้ว แต่เขาก็ยังพูดถึงตัวเองว่าเป็นคนที่ “ต่ำต้อยที่สุดในพวกอัครสาวก” และยังบอกอีกว่า “ในคนบาปพวกนั้น ผมเลวที่สุด”—1 คร. 15:9; 1 ทธ. 1:15 ห24.03 13:5-6
วันอังคารที่ 14 ตุลาคม
ประชาชนไม่เอาใจใส่วิหารของพระยะโฮวา—2 พศ. 24:18
บทเรียนหนึ่งที่เราได้จากการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดของกษัตริย์เยโฮอาชก็คือเราต้องเลือกเพื่อนที่จะช่วยให้เราทำสิ่งที่ถูกต้อง เราต้องเป็นเพื่อนกับคนที่รักพระยะโฮวาและคนที่อยากทำให้พระองค์มีความสุข เราไม่จำเป็นต้องคบแค่คนที่อายุใกล้ ๆ กันกับเรา ขอให้จำไว้ว่าเยโฮอาชสนิทกับเยโฮยาดามากทั้ง ๆ ที่เยโฮยาดาอายุมากกว่าเขาเยอะ ดังนั้น เมื่อคิดถึงคนที่คุณคบเป็นเพื่อน ให้ถามตัวเองว่า ‘พวกเขาช่วยฉันให้มีความเชื่อในพระยะโฮวามากขึ้นไหม? พวกเขาทำให้ฉันอยากใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระองค์ไหม? พวกเขาพูดถึงพระยะโฮวาและความจริงในคัมภีร์ไบเบิลไหม? พวกเขาเอาแต่ชมฉันไหมหรือพวกเขากล้าเตือนฉันตอนที่ฉันทำไม่ถูก?’ (สภษ. 27:5, 6, 17) ถ้าเพื่อนของคุณไม่รักพระยะโฮวา คุณก็ไม่ควรไปคบกับพวกเขา แต่ให้คบกับคนที่รักพระองค์เพราะพวกเขาจะเป็นเพื่อนที่ดีของคุณแน่นอน—สภษ. 13:20 ห23.09 38:6-7
วันพุธที่ 15 ตุลาคม
เราเป็นอัลฟาและโอเมกา—วว. 1:8
อัลฟาเป็นตัวอักษรแรกในภาษากรีก และโอเมกาเป็นตัวอักษรสุดท้าย ดังนั้น การที่พระยะโฮวาพูดถึงตัวเองว่า “เราเป็นอัลฟาและโอเมกา” ก็หมายความว่าเมื่อพระองค์เริ่มต้นทำอะไรแล้ว พระองค์ก็จะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ หลังจากพระยะโฮวาสร้างอาดัมกับเอวา พระองค์บอกพวกเขาว่า “ให้เกิดลูกหลานมากมายและเพิ่มจำนวนให้เต็มโลก ให้มีอำนาจเหนือแผ่นดิน” (ปฐก. 1:28) ตอนที่พระยะโฮวาบอกความประสงค์นี้แหละคือตอนที่เป็น “อัลฟา” และตอนที่ทั้งโลกกลายเป็นสวนอุทยานและมีแต่มนุษย์สมบูรณ์แบบที่เชื่อฟังบนโลก ตอนนั้นแหละที่ความประสงค์ของพระยะโฮวาเป็นจริงอย่างครบถ้วน และนั่นก็คือ “โอเมกา” หลังจากที่พระยะโฮวาสร้าง “ฟ้าและโลกรวมทั้งสิ่งต่าง ๆ บนฟ้าและโลก” พระองค์รับประกันว่าพระองค์จะทำให้ความประสงค์ที่มีต่อมนุษย์และโลกเกิดขึ้นจริงแน่นอน ซึ่งความประสงค์ของพระองค์จะเกิดขึ้นอย่างครบถ้วนตอนสิ้นสุดวันที่ 7—ปฐก. 2:1-3 ห23.11 46:13-14
วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม
ให้เตรียมทางไว้สำหรับพระยะโฮวาทำทางหลวงของพระเจ้าที่จะตัดผ่านที่กันดารนั้นให้ตรง—อสย. 40:3
ชาวยิวต้องใช้เวลาประมาณ 4 เดือนเดินทางกลับไปที่อิสราเอล และการเดินทางแบบนั้นก็ยากลำบากจริง ๆ แต่พระยะโฮวาสัญญาว่าจะขจัดทุกอย่างที่ดูเหมือนเป็นอุปสรรคให้หมดไป ชาวยิวที่ซื่อสัตย์รู้ว่าการเดินทางกลับไปที่อิสราเอลจะทำให้พวกเขาได้รับพรจากพระเจ้าซึ่งคุ้มค่ากว่าสิ่งที่พวกเขาได้เสียสละไป พรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกี่ยวข้องกับการนมัสการพระยะโฮวา แต่ในบาบิโลนไม่มีวิหารของพระยะโฮวาเลย ไม่มีแท่นบูชาไหนที่ชาวอิสราเอลสามารถเอาเครื่องบูชาไปถวายตามกฎหมายของโมเสสได้ และไม่มีการจัดระเบียบการทำหน้าที่ของปุโรหิตเพื่อจะถวายเครื่องบูชาให้พวกเขาได้ นอกจากนั้น ชาวยิวอาศัยอยู่ในบาบิโลนซึ่งเต็มไปด้วยคนที่นมัสการพระเท็จและไม่สนใจพระยะโฮวาหรือมาตรฐานของพระองค์เลย ดังนั้น ชาวยิวที่เกรงกลัวพระยะโฮวาหลายหมื่นคนก็เลยรอคอยที่จะได้กลับไปแผ่นดินที่พวกเขาสามารถฟื้นฟูการนมัสการบริสุทธิ์ได้ ห23.05 22:3-4
วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม
ขอให้ใช้ชีวิตแบบคนที่อยู่ในความสว่างต่อไป—อฟ. 5:8
เราต้องได้รับความช่วยเหลือจากพลังบริสุทธิ์เพื่อเราจะ “ใช้ชีวิตแบบคนที่อยู่ในความสว่างต่อไป” เพราะอะไร? เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะรักษาตัวให้สะอาดในโลกที่เต็มไปด้วยการทำผิดศีลธรรม (1 ธส. 4:3-5, 7, 8) พลังบริสุทธิ์สามารถช่วยเราให้ต่อสู้กับความคิดของคนในโลกนี้ได้ ซึ่งรวมถึงหลักปรัชญาและแนวคิดที่ขัดกับความคิดของพระเจ้า นอกจากนั้น พลังบริสุทธิ์ยังช่วยเราให้แสดง ‘ผลของความสว่าง คือ ความดีทุกอย่างและความถูกต้อง’ (อฟ. 5:9) วิธีหนึ่งที่เราจะได้รับพลังบริสุทธิ์ก็คือโดยการอธิษฐาน พระเยซูบอกว่า พระยะโฮวาจะ “ให้พลังบริสุทธิ์กับคนที่ขอพระองค์” (ลก. 11:13) เมื่อเราสรรเสริญพระยะโฮวาร่วมกันกับพี่น้องที่การประชุม เราก็ได้รับพลังบริสุทธิ์ด้วย (อฟ. 5:19, 20) พลังบริสุทธิ์จะช่วยให้เราใช้ชีวิตในแบบที่ทำให้พระเจ้าพอใจ ห24.03 12:13-15
วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม
ให้ขอต่อไปเรื่อย ๆ แล้วจะได้รับ หาต่อไปเรื่อย ๆ แล้วจะพบ เคาะต่อไปเรื่อย ๆ แล้วจะเปิดให้—ลก. 11:9
คุณอยากเป็นคนอดทนมากขึ้นไหม? ถ้าใช่ ให้คุณอธิษฐานถึงพระเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความอดทนเป็นส่วนหนึ่งของผลที่เกิดจากพลังของพระเจ้า (กท. 5:22, 23) ดังนั้น ถ้าเราอยากเป็นคนอดทน เราต้องอธิษฐานขอพลังจากพระองค์ และเมื่อเราเจอสถานการณ์ที่ทดสอบความอดทน “ให้ขอต่อไปเรื่อย ๆ” แล้วพระยะโฮวาจะช่วยให้เราอดทนได้ (ลก. 11:13) เรายังสามารถอธิษฐานขอให้พระยะโฮวาช่วยให้เรามองเหมือนพระองค์ด้วย นอกจากนั้น หลังจากอธิษฐาน เราก็ต้องพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเป็นคนอดทนให้ได้ในทุก ๆ วัน ยิ่งเราอธิษฐานและพยายามแสดงความอดทน พระยะโฮวาก็จะยิ่งช่วยให้เราเป็นคนอดทนมากขึ้น และนั่นจะกลายมาเป็นนิสัยของเรา การคิดใคร่ครวญตัวอย่างในคัมภีร์ไบเบิลก็ช่วยได้มาก คัมภีร์ไบเบิลมีตัวอย่างของหลายคนที่แสดงความอดทน ถ้าเราคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับตัวอย่างของพวกเขา เราก็สามารถเรียนรู้วิธีที่จะแสดงความอดทนได้ ห23.08 35:10-11
วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม
หย่อนอวนลงจับปลา—ลก. 5:4
พระเยซูช่วยอัครสาวกเปโตรให้มั่นใจว่าพระยะโฮวาจะดูแลเขา ตัวอย่างเช่น ตอนที่ท่านฟื้นขึ้นจากตายแล้ว ท่านทำการอัศจรรย์ให้เปโตรกับพวกอัครสาวกจับปลาได้มากมายอีกครั้งหนึ่ง (ยน. 21:4-6) การอัศจรรย์นี้ต้องทำให้เปโตรมั่นใจแน่ ๆ ว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับพระยะโฮวาที่จะให้สิ่งจำเป็นกับเขา ตอนนั้นเปโตรอาจคิดถึงคำพูดของพระเยซูที่บอกว่าถ้าใคร “ทำให้การปกครองของพระเจ้า . . . เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต” พระองค์ก็จะให้สิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นกับพวกเขาแน่นอน (มธ. 6:33) เราเห็นว่าเรื่องนี้มีผลดีกับเปโตรจริง ๆ เปโตรให้งานรับใช้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาไม่ใช่งานจับปลา และในวันเพ็นเทคอสต์ปี 33 เปโตรก็ประกาศอย่างกล้าหาญและทำให้หลายพันคนเข้ามาเป็นสาวก (กจ. 2:14, 37-41) หลังจากนั้น เขายังช่วยคนสะมาเรียและคนต่างชาติหลายคนให้ติดตามพระเยซู (กจ. 8:14-17; 10:44-48) พระยะโฮวาใช้เปโตรในวิธีที่พิเศษมากจริง ๆ เพื่อช่วยคนทุกชนิดให้เข้ามาเป็นคริสเตียน ห23.09 40:1, 11
วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม
บอกมาว่าเราฝันอะไรและบอกความหมายด้วยถ้าบอกไม่ได้ พวกคุณจะถูกหั่นเป็นท่อน ๆ—ดนล. 2:5
ประมาณ 2 ปีหลังจากที่บาบิโลนทำลายกรุงเยรูซาเล็ม กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนไม่สบายใจมากเพราะเขาฝันเกี่ยวกับรูปปั้นมหึมาแต่เขาจำไม่ได้เลย กษัตริย์ขู่ว่าจะฆ่าผู้รอบรู้ทุกคนรวมทั้งดาเนียลด้วยถ้าไม่มีใครบอกได้ว่าเขาฝันเรื่องอะไรและมีความหมายยังไง (ดนล. 2:3-5) ดาเนียลเลยต้องรีบทำอะไรสักอย่างทันที ไม่อย่างนั้นหลายคนจะต้องตาย เขา “จึงไปหากษัตริย์เพื่อขอโอกาสให้เขาบอกความหมายของความฝันให้กษัตริย์ฟัง” (ดนล. 2:16) การทำแบบนี้ต้องมีความกล้าและมีความเชื่อมากจริง ๆ ก่อนหน้าเหตุการณ์นี้ไม่มีที่ไหนในคัมภีร์ไบเบิลที่บอกว่าดาเนียลสามารถบอกความหมายของความฝันได้ ดาเนียลได้ขอเพื่อนของเขาให้ “ช่วยกันอธิษฐานขอพระเจ้าผู้อยู่ในสวรรค์ให้เมตตาและเปิดเผยเรื่องลึกลับนี้” (ดนล. 2:18) พระยะโฮวาตอบคำอธิษฐานของพวกเขาโดยช่วยให้ดาเนียลสามารถบอกความหมายของความฝันได้ ในที่สุดดาเนียลกับเพื่อน ๆ ก็ไม่ต้องตาย ห23.08 33:4
วันอังคารที่ 21 ตุลาคม
คนที่อดทนจนถึงที่สุดจะได้รับการช่วยให้รอด—มธ. 24:13
ให้คิดถึงประโยชน์ของการเป็นคนอดทน เมื่อเราอดทน เราก็จะมีความสุขขึ้นและใจสงบขึ้น แล้วมันก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพดีรวมทั้งมีสุขภาพจิตดีด้วย นอกจากนั้น เมื่อเราอดทนกับคนอื่น เราก็จะมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับพวกเขา ประชาคมของเราก็จะเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้นด้วย และถ้ามีบางคนมาทำให้เราโมโห การที่เราเป็นคนไม่โกรธง่ายก็จะช่วยทำให้เรื่องนั้นไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่ (สด. 37:8, เชิงอรรถ;สภษ. 14:29) ที่สำคัญที่สุด เรากำลังเลียนแบบพระยะโฮวาพ่อในสวรรค์ของเรา และนั่นทำให้เราใกล้ชิดกับพระองค์มากขึ้น ความอดทนเป็นคุณลักษณะที่ยอดเยี่ยมและเป็นประโยชน์กับเรามากจริง ๆ ถึงจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะเป็นคนอดทนได้ตลอด แต่โดยการช่วยเหลือจากพระยะโฮวา เราสามารถอดทนมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้ และขณะที่เรารอคอยให้โลกใหม่มาถึง เราก็มั่นใจได้เลยว่า “พระยะโฮวาคอยเฝ้าดูคนที่เกรงกลัวพระองค์ และคนที่รอคอยความรักที่มั่นคงของพระองค์” (สด. 33:18) ขอให้เราทุกคนตั้งใจที่จะปลูกฝังความอดทนต่อ ๆ ไป ห23.08 35:7, 16-17
วันพุธที่ 22 ตุลาคม
ถ้ามีความเชื่อ แต่ไม่มีการกระทำ ความเชื่อนั้นก็ตายแล้ว—ยก. 2:17
ยากอบชี้ให้เห็นว่าคนเราอาจจะอ้างว่ามีความเชื่อ แต่ไม่ได้แสดงออกด้วยการกระทำเลย (ยก. 2:1-5, 9) นอกจากนั้น ยากอบพูดถึงคนที่เห็นพี่น้องไม่มีเสื้อผ้าใส่และไม่มีอาหารกิน แต่เขาไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออะไรเลย ถึงแม้เขาจะอ้างว่ามีความเชื่อ ถ้าไม่มีการกระทำก็ไม่มีประโยชน์อะไร (ยก. 2:14-16) ยากอบพูดถึงราหับว่าเธอเป็นคนที่มีความเชื่อที่แสดงออกด้วยการกระทำ (ยก. 2:25, 26) ราหับเคยได้ยินเกี่ยวกับพระยะโฮวา และรู้ว่าพระองค์กำลังช่วยชาวอิสราเอลอยู่ (ยชว. 2:9-11) เธอแสดงความเชื่อในพระยะโฮวาโดยปกป้องคนสอดแนมชาวอิสราเอล 2 คนที่กำลังตกอยู่ในอันตราย นี่ก็เลยทำให้พระยะโฮวา “ถือว่าเธอเป็นที่ยอมรับของพระองค์” เหมือนกับอับราฮัม จากตัวอย่างของราหับ เราเห็นชัดเลยว่าความเชื่อต้องแสดงออกด้วยการกระทำ ห23.12 50:12-13
วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม
ขอให้พวกคุณตั้งมั่นคงและยึดอยู่กับฐานรากนั้น—อฟ. 3:17
เราไม่ควรพอใจกับการมีแค่ความรู้พื้นฐานในคัมภีร์ไบเบิลเท่านั้น แต่เราควรอยากเรียน “แม้แต่สิ่งลึกซึ้งของพระเจ้า” ซึ่งพลังบริสุทธิ์ของพระองค์จะช่วยให้เราเข้าใจได้ (1 คร. 2:9, 10) ถ้าอย่างนั้น คุณอยากศึกษาส่วนตัวเกี่ยวกับสิ่งที่จะช่วยให้คุณสนิทกับพระยะโฮวามากขึ้นไหม? เช่น คุณอาจอยากค้นคว้าว่าพระยะโฮวาแสดงความรักต่อผู้รับใช้ของพระองค์ในอดีตยังไง และนี่แสดงให้เห็นยังไงว่าพระองค์ก็รักคุณเหมือนกัน หรือคุณอาจอยากค้นคว้าเรื่องการจัดเตรียมของพระยะโฮวาเกี่ยวกับการนมัสการในสมัยอิสราเอลโบราณ และสิ่งเหล่านั้นเทียบได้กับอะไรในการนมัสการของคริสเตียนในปัจจุบัน หรือคุณอาจอยากศึกษาคำพยากรณ์เกี่ยวกับพระเยซูอย่างละเอียดว่ามันเป็นจริงยังไงตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่บนโลกคุณจะสนุกกับการศึกษาค้นคว้าเรื่องเหล่านี้โดยใช้คู่มือค้นคว้าสำหรับพยานพระยะโฮวา การศึกษาค้นคว้าอย่างลึกซึ้งจะทำให้ความเชื่อของคุณเข้มแข็งและจะทำให้คุณ “พบความรู้เกี่ยวกับพระเจ้า”—สภษ. 2:4, 5 ห23.10 44:3-5
วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม
ที่สำคัญที่สุดคือ รักกันให้มาก ๆ เพราะความรักปิดคลุมบาปไว้มากมาย—1 ปต. 4:8
คำว่า “มาก ๆ” ที่อัครสาวกเปโตรใช้ในข้อนี้มาจากคำกรีกที่แปลตรงตัวว่า “ยืดออก” และส่วนท้ายที่เปโตรพูดถึงในข้อนี้ทำให้รู้ว่าถ้าเรารักพี่น้องมาก ๆ ความรักของเราก็จะปิดคลุมบาปของพวกเขาได้ ลองนึกถึงโต๊ะตัวหนึ่งที่มีตำหนิหลายจุด ถ้าเราเอาผ้ามาผืนหนึ่ง แล้วคลี่มันออกเพื่อจะคลุมโต๊ะตัวนี้ เราก็จะสามารถปิดคลุมรอยตำหนิบนโต๊ะได้ ไม่ใช่แค่จุดหรือสองจุดเท่านั้น แต่สามารถปิดคลุมได้ทั้งหมด เหมือนกันถ้าเรารักพี่น้องมาก ๆ เราก็จะปิดคลุมบาปที่อาจมาจากข้ออ่อนแอและความไม่สมบูรณ์แบบของพี่น้องได้ไม่ใช่แค่ 1 หรือ 2 อย่างเท่านั้น แต่เราจะ “ปิดคลุมบาปไว้มากมาย” ถ้าเรารักพี่น้องมากพอ มันจะช่วยให้เราให้อภัยความไม่สมบูรณ์แบบของพวกเขาได้ แม้บางครั้งอาจจะทำได้ยากมาก (คส. 3:13) ถ้าเราให้อภัยพวกเขาก็แสดงว่าเรารักพี่น้องมากและเราอยากทำให้พระยะโฮวาพอใจ ห23.11 47:13-15
วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม
ชาฟานก็อ่านหนังสือนั้นให้กษัตริย์ฟัง—2 พศ. 34:18
ตอนอายุ 26 กษัตริย์โยสิยาห์เริ่มงานซ่อมแซมวิหาร ในช่วงนั้นมีคนไปเจอ “หนังสือกฎหมายของพระยะโฮวาที่พระองค์ให้ผ่านทางโมเสส” เมื่อกษัตริย์ได้ฟังการอ่านหนังสือกฎหมายนั้น เขาก็รีบทำตามสิ่งที่เขียนไว้ทันที (2 พศ. 34:14, 19-21) คุณอยากอ่านคัมภีร์ไบเบิลเป็นประจำไหม? ถ้าคุณกำลังพยายามทำอย่างนั้นอยู่ คุณชอบไหม? คุณจำข้อคัมภีร์ที่อาจช่วยคุณได้ไหม? ตอนที่โยสิยาห์อายุ 39 เขาทำผิดพลาดจนทำให้เขาต้องตาย เขาเชื่อมั่นในตัวเองแทนที่จะขอการชี้นำจากพระยะโฮวา (2 พศ. 35:20-25) บทเรียนก็คือ ไม่ว่าเราจะอายุมากแค่ไหนหรือเราจะเรียนคัมภีร์ไบเบิลมานานเท่าไหร่แล้ว เราต้องตั้งใจรับใช้พระยะโฮวาและพึ่งพระองค์เสมอ เราต้องอธิษฐานขอการชี้นำจากพระองค์เป็นประจำ ศึกษาคัมภีร์ไบเบิล และฟังคำแนะนำจากคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ ถ้าเราทำอย่างนั้น เราก็จะไม่ทำผิดพลาดร้ายแรงแต่ชีวิตเราจะมีความสุขมากขึ้น—ยก. 1:25 ห23.09 38:15-16
วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม
พระเจ้าต่อต้านคนหยิ่ง แต่พระองค์แสดงความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ต่อคนอ่อนน้อมถ่อมตน—ยก. 4:6
คัมภีร์ไบเบิลพูดถึงผู้หญิงหลายคนที่รักและรับใช้พระยะโฮวา พวกเธอ “รู้จักประมาณตน” และ “ซื่อสัตย์ในทุกสิ่ง” (1 ทธ. 3:11) นอกจากนั้น ยังมีตัวอย่างดี ๆ ของพี่น้องหญิงที่มีความเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเลียนแบบในประชาคมของเราด้วย พี่น้องหญิงวัยรุ่น คุณคิดถึงตัวอย่างของพี่น้องหญิงคนไหนบ้างที่คุณอยากเลียนแบบ? พวกเขามีคุณลักษณะดี ๆ อะไรบ้าง? และคุณจะเลียนแบบพวกเขาได้ยังไง? คุณลักษณะอย่างหนึ่งที่คริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่มีก็คือความถ่อม ถ้าพี่น้องหญิงเป็นคนถ่อม เธอจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระยะโฮวาและกับคนอื่น ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงที่รักพระยะโฮวาจะสนับสนุนการจัดเตรียมของพระองค์ที่ให้ผู้ชายเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะในครอบครัวหรือในประชาคม—1 คร. 11:3 ห23.12 52:3-5
วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม
สามี . . . ควรรักภรรยาเหมือนรักร่างกายตัวเอง—อฟ. 5:28
พระยะโฮวาบอกว่า สามีต้องรักภรรยาและดูแลเธอ ทั้งด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ และด้านความเชื่อ ให้พัฒนาคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น ความสุขุมรอบคอบ การให้เกียรติผู้หญิง และการเป็นคนที่ไว้ใจได้ คุณลักษณะเหล่านี้จะช่วยให้คุณเป็นคู่ที่ดี หลังจากที่คุณแต่งงาน คุณอาจได้เป็นพ่อ คุณจะเลียนแบบพระยะโฮวาเพื่อจะเป็นพ่อที่ดีได้ยังไง? (อฟ. 6:4) พระยะโฮวาพูดกับพระเยซูต่อหน้าทุกคนว่าพระองค์รักท่านและพอใจในตัวท่าน (มธ. 3:17) ดังนั้น ถ้าคุณเป็นพ่อ ขอให้บอกลูกบ่อย ๆ ว่าคุณรักเขา ชมเขาบ่อย ๆ สำหรับสิ่งดี ๆ ที่เขาทำ พ่อที่เลียนแบบตัวอย่างของพระยะโฮวาจะช่วยลูกให้ก้าวหน้าเป็นคริสเตียนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ คุณสามารถเตรียมตัวสำหรับหน้าที่นี้ได้โดยแสดงความรักกับทุกคนในครอบครัวและในประชาคม ดูแลพวกเขาให้ดี และบอกพวกเขาว่าคุณรักและเห็นค่าพวกเขามาก—ยน. 15:9 ห23.12 53:17-18
วันอังคารที่ 28 ตุลาคม
พระยะโฮวาเป็นผู้ทำให้ชีวิตคุณมั่นคง—อสย. 33:6
พวกเราที่เป็นผู้รับใช้ของพระยะโฮวาก็เจอปัญหาเหมือนกับคนทั่วไป ไม่เพียงเท่านั้น เรายังต้องอดทนการต่อต้านและการข่มเหงจากคนที่เกลียดผู้รับใช้ของพระยะโฮวาด้วย ถึงแม้พระยะโฮวาจะไม่ปกป้องเราจากปัญหาทุกอย่าง แต่พระองค์ก็สัญญาว่าจะช่วยเราให้รับมือได้ (อสย. 41:10) และถ้าพระองค์ช่วยเรา เราจะยังคงมีความสุข ตัดสินใจได้ดี และยังคงภักดีต่อพระองค์ได้แม้จะเจอเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิต พระยะโฮวาสัญญาจะให้ “สันติสุขของพระเจ้า” กับเรา (ฟป. 4:6, 7) สันติสุขนี้หมายถึงความสงบใจที่เกิดจากการที่เรารักและสนิทกับพระยะโฮวา สันติสุขนี้เป็นสิ่งที่ “เกินความเข้าใจทุกอย่าง” และมีพลังมากกว่าที่เราจะนึกออกได้ คุณเคยเป็นแบบนี้ไหม? แม้กำลังทุกข์ใจอย่างหนักแต่พออธิษฐานเสร็จ คุณก็รู้สึกสงบใจอย่างบอกไม่ถูก นี่แหละคือ “สันติสุขของพระเจ้า” ห24.01 3:2, 4
วันพุธที่ 29 ตุลาคม
ขอให้ผมสรรเสริญพระยะโฮวาเถอะขอให้ทุกสิ่งในตัวผมสรรเสริญชื่อที่บริสุทธิ์ของพระองค์—สด. 103:1
คนที่รักพระยะโฮวาอยากสรรเสริญชื่อของพระองค์สุดหัวใจ ดาวิดรู้ว่าการสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวาหมายถึงการสรรเสริญตัวของพระองค์เอง เมื่อเราได้ยินชื่อของพระยะโฮวา เราก็จะคิดว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแบบไหน คิดถึงคุณลักษณะที่ดีต่าง ๆ ของพระองค์ และคิดถึงสิ่งที่ยอดเยี่ยมทุกอย่างที่พระองค์ทำ ดาวิดอยากแสดงความนับถือชื่อที่บริสุทธิ์ของพระยะโฮวาและสรรเสริญชื่อนั้น เขาอยากให้ “ทุกสิ่งในตัวเขา” สรรเสริญพระองค์ซึ่งหมายถึงสรรเสริญพระองค์สุดหัวใจ คล้ายกัน ชาวเลวีที่นำหน้าในการสรรเสริญชื่อของพระยะโฮวายอมรับว่าชื่อที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ยิ่งใหญ่จนไม่มีคำสรรเสริญไหนจะคู่ควร (นหม. 9:5) การสรรเสริญพระยะโฮวาอย่างสุดหัวใจและถ่อมตัวแบบนี้ต้องทำให้พระองค์มีความสุขมากแน่ ๆ ห24.02 6:6
วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม
ไม่ว่าเราก้าวหน้าถึงขั้นไหนแล้ว ก็ให้เราก้าวหน้าแบบนั้นต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนที่เคยทำมา—ฟป. 3:16
พระยะโฮวาเข้าใจคุณและพระองค์จะไม่มองว่าคุณเป็นคนไม่เอาไหน (2 คร. 8:12) มองว่าการทำตามเป้าหมายไม่ได้คือบทเรียน อย่าลืมสิ่งที่คุณทำสำเร็จไปแล้ว คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “พระเจ้าไม่ทำสิ่งที่ชั่ว พระองค์จึงไม่มีวันลืมงานที่พวกคุณทำ” (ฮบ. 6:10) ดังนั้น คุณก็อย่าลืมสิ่งที่คุณทำสำเร็จไปแล้วด้วย คุณมีหลายอย่างที่ทำสำเร็จไปแล้วใช่ไหม? เช่น คุณได้สนิทกับพระยะโฮวา ได้บอกคนอื่นเกี่ยวกับพระองค์ และได้รับบัพติศมา ถ้าคุณเคยตั้งเป้าหมายคริสเตียนและทำสำเร็จไปแล้ว คุณก็สามารถก้าวหน้าต่อ ๆ ไปจนถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนนี้ได้แน่นอน และถ้าคุณให้พระยะโฮวาช่วยคุณก็ทำตามเป้าหมายได้แน่ ให้คุณพยายามสังเกตว่าพระยะโฮวากำลังช่วยคุณและอวยพรคุณยังไง ถ้าทำอย่างนั้นคุณจะมีความสุขระหว่างที่คุณพยายามไปให้ถึงเป้าหมาย (2 คร. 4:7) และถ้าคุณไม่ยอมแพ้คุณจะได้รับพรมากมายหลายเท่า—กท. 6:9 ห23.05 24:16-18
วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม
พระเจ้าผู้เป็นพ่อรักพวกคุณ เพราะพวกคุณรักผมและเชื่อว่าผมเป็นตัวแทนของพระองค์—ยน. 16:27
พระยะโฮวาชอบแสดงออกว่าพระองค์รักและพอใจในตัวผู้รับใช้ของพระองค์ ในคัมภีร์ไบเบิลมีบันทึก 2 เหตุการณ์ที่พระยะโฮวาบอกว่าพระเยซูเป็นลูกที่รักของพระองค์และพระองค์พอใจในตัวท่านมาก (มธ. 3:17; 17:5) คุณอยากได้ยินพระยะโฮวาพูดอย่างนั้นกับคุณไหม? ถึงพระองค์ไม่ได้พูดกับเราแบบนั้นโดยตรง แต่พระองค์พูดกับเราผ่านทางคัมภีร์ไบเบิล และเราจะ “ได้ยิน” เสียงพระยะโฮวาบอกว่าพอใจในตัวเราได้เมื่อเราอ่านคำพูดของพระเยซูในหนังสือข่าวดีทั้ง 4 เล่ม พระเยซูเลียนแบบพระยะโฮวาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น เมื่อเราอ่านเรื่องราวของพระเยซูตอนที่ท่านชมเชยพวกสาวกและแสดงออกว่าท่านพอใจในตัวพวกเขา เราก็นึกภาพออกเลยว่าพระยะโฮวาก็รู้สึกแบบนี้กับเราเหมือนกัน (ยน. 15:9, 15) การที่เราเจอปัญหาไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าไม่พอใจเราแล้ว ที่จริง มันเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้พิสูจน์ว่าเรารักและวางใจพระองค์จริง ๆ—ยก. 1:12 ห24.03 13:10-11