หนุ่มสาวถามว่า . . .
จะว่าอย่างไรเกี่ยวกับไนท์คลับ?
“เราต้องมีนันทนาการบ้าง.” “เราไปเต้นรำเท่านั้น.” “ใคร ๆ ก็ไปกันทั้งนั้น.” “เราแค่อยากจะสนุกบ้างเท่านั้น.” หนุ่มสาวหลายคนอธิบายแก่ผู้สื่อข่าวตื่นเถิด ถึงสาเหตุที่พวกเขาเที่ยวไนท์คลับกันบ่อย ๆ. สถานที่ยามราตรีเช่นนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากท่ามกลางเยาวชนทั้งหลาย และถ้าสถานที่เช่นนั้นมีอยู่ในชุมชนของคุณ อาจเป็นได้ว่าคุณเคยแม้แต่คิดจะเข้าไปเองด้วยซ้ำ.
ปัจจุบัน หนุ่มสาวหลายคนกรูกันเข้าไปในคลับชนิดต่าง ๆ ดังมีพรรณนาในวารสารไฟร์เดย์ ว่า “งานเลี้ยงคือเวลาไหนก็ได้และเวลานั้นก็คือคืนนี้. สำหรับคนที่ขาดการยับยั้งชั่งใจ งานเลี้ยงจะไม่มีวันเลิกรา. ความคลั่งไคล้ในการเต้นรำกำลังระบาดไปทั่วเมืองที่เต็มล้นด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ ไฟนีออนแวบวับและดนตรีจังหวะเร่าร้อนซึ่งทำให้คุณไม่อยากนั่งลงเลย. ‘ปัจจุบันคลับมีอะไร ๆ ที่สนองรสนิยมของคนทุกระดับ. . . . มีคลับสำหรับชายหนุ่มที่มีอาชีพหลัก นักศึกษาวิทยาลัย พวกเกย์และกลุ่มผู้สูงอายุ.’”
สำหรับคนที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน มีคลับที่เรียกร้องค่าธรรมเนียมล่วงหน้าเป็นเงินก้อนใหญ่ เสื้อผ้าราคาแพง และแม้แต่รูปแบบการประพฤติที่เหมาะสมเพื่อจะมีสิทธิที่จะเข้าได้. ส่วนคนที่ไม่ค่อยมั่งมี มีคลับที่หรูหราน้อยกว่าซึ่งเสนอบรรยากาศงานรื่นเริงในราคาที่ย่อมเยากว่า. และสำหรับหนุ่มสาวที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ (หรือมีเล่ห์เหลี่ยมไม่มาก) พอที่จะเข้าในคลับของผู้ใหญ่ ก็มี “คลับน้ำผลไม้” และ “บาร์โซดา” ซึ่งอ้างว่าปลอดสุรา.
ไม่ยากที่จะเข้าใจถึงสาเหตุที่ไนท์คลับมีแรงดึงดูดใจหนุ่มสาวจำนวนมาก. เมื่อคุณยังเป็นเด็ก เป็นสิ่งธรรมดาอยู่เองที่อยากจะสนุกสนาน. (เทียบท่านผู้ประกาศ 11:9) คืนเต้นรำอาจดูเหมือนเป็นคืนมีประโยชน์ต่อสุขภาพในทางผ่อนคลายความตึงเครียดจากโรงเรียนและการทำงาน. แต่ไนท์คลับมีประโยชน์ทางเสริมสร้างแค่ไหน?
ซอนญา หญิงสาวคนหนึ่งเคยเที่ยวไนท์คลับเป็นประจำ ยอมรับว่า “ความคิดนั้นดูแล้วไม่น่าจะเป็นพิษเป็นภัย. คุณไปเพื่อเต้นรำและหาความสุขใส่ตัว. แต่บ่อยครั้งมันกลายเป็นอะไรมากกว่านั้น. คุณมักจะไปในคืนที่ดนตรีและผู้คนคึกคักที่สุด. ไม่ช้าคุณก็รู้จักคนที่ไปประจำ และตัวเองก็ไปประจำด้วย. ความคิดคือเต้นรำ—และพบใครสักคนหนึ่ง. และแม้ว่านั้นจะเป็นเป้าหมายของคุณหรือไม่ก็ตาม สิ่งนั้นก็เป็นความมุ่งหมายของเขาเสมอ.” ซอนญาพูดเกินความจริงไหม?
ไนท์คลับปัจจุบัน
บรรยากาศดิสโกเมื่อสิบปีที่ผ่านมากลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ในฐานะเป็นที่ที่เพาะการประพฤติผิดศีลธรรมทางเพศ การใช้ยาเสพย์ติดและแม้แต่การรักร่วมเพศ.a และไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลังจากนั้น. ถึงแม้ว่าดนตรี (ในสหรัฐมักจะเรียกว่าเฮ้าส์มิวสิคหรือด๊านซ์มิวสิค) และจังหวะเต้นรำได้เปลี่ยนไป บรรยากาศในไนท์คลับหลายแห่งชวนให้รำลึกถึงบรรยากาศดิสโกที่ผิดศีลธรรมอย่างน่าเป็นห่วง.
ในบทความของวารสารไลฟ์เกี่ยวกับดนตรีในสถานเริงรมย์ (เฮ้าส์มิวสิค) มีผู้คลั่งไนท์คลับคนหนึ่งกล่าวว่า “โดยพื้นฐานของดนตรีเต้นรำมักสร้างความรู้สึกว่าเป็นดนตรีประจำเผ่า—เสียงกลองและจังหวะที่เร้ากามารมณ์ดึงดูดใจกระทั่งชนในกลุ่มนั้นเกิดความเคลิบเคลิ้ม. มีอะไรที่ขาดไปในป่าคอนกรีต และดนตรีที่เล่นในสถานเริงรมย์ก็เข้ามาแทนที่ว่างนั้น.” เดวิด พิชิโอนิ ดีเจ ในนครนิวยอร์กกล่าวว่า “เป้าหมายคือเพื่อจะให้คุณหลงระเริงตลอดคืน.”
เมื่อคำนึงถึงการเต้นรำที่กำลังคลั่งไคล้คือการเต้นแลมบาดาที่ผิดศีลธรรม นิตยสารมัดมัวเซล แจ้งว่า “เรื่องเพศได้ออกมาจากห้องน้ำและกลับไปในที่ของมัน—บนฟลอร์เต้นรำ. ในอดีต (ทศวรรษปี 1970) ฟลอร์เต้นรำเป็นที่ที่สำหรับเกี้ยวพาราสีและห้องน้ำสำหรับร่วมเพศและยาเสพย์ติด. ปัจจุบันทุกคนเป็นห่วงเกี่ยวกับโรคเอดส์ ห้องน้ำเป็นที่สำหรับเสริมสวย และฟลอร์เต้นรำเป็นที่ที่คุณดูคนอื่นมีเพศสัมพันธ์. หรือทำท่าว่าจะมีเพศสัมพันธ์.” ใช่แล้ว ดนตรีสามารถใช้เพื่อก่อให้เกิดอารมณ์ที่สกัดกั้นความยับยั้งทางศีลธรรมและปลุกเร้ากามารมณ์.
พบปะกับใคร?
บางคลับเป็นที่รู้จักกันในฐานะเป็นสถานที่นัดพบกับเพศตรงข้าม. แต่คุณอาจจะพบคนชนิดไหน? เด็กสาวคนหนึ่งซึ่งแต่ก่อนเที่ยวไนท์คลับจนทั่วยอมรับว่า “ผู้คนจำนวนมากดำเนินชีวิตที่ผิดศีลธรรมทางเพศ และสนใจจะมีเพศสัมพันธ์กับใครสักคน. ถ้าคนนั้นสนใจคุณ เขาจะซื้อเครื่องดื่มให้คุณดื่ม ดื่ม ดื่ม และล้อมหน้าล้อมหลังคุณทั้งคืนด้วยคำพูดที่อ่อนโยนจับใจโดยหวังว่าคุณจะยอมตามที่เขาปรารถนา.”
สถานที่บางแห่งถึงกับเจตนาจัดหาห้องสนองกิจปฏิบัติที่ผิดศีลธรรมเหล่านี้. ดอรีส หญิงสาวคนหนึ่งผู้ซึ่งเคยไปไนท์คลับเป็นประจำกล่าวว่า “มีคลับที่มีบริเวณที่นั่งซึ่งเอนนอนได้และเก้าอี้สำหรับนั่งพลอดรัก ซึ่งหลายคนใช้เพื่อกอดจูบเล้าโลม. ชายที่สมรสแล้วหลายคนอยู่ที่นั่นโดยไม่พาภรรยาไปด้วย. บางคนหวังจะพบใครสักคนที่จะนอนด้วยกันสักคืน หรือเป็นคู่นอนชั่วคราว และคนอื่น ๆ มองหาคู่.” ดอริสสรุปว่า “บรรยากาศที่ไนท์คลับชวนให้มีการผิดศีลธรรม. มีการบริโภคแอลกอฮอล์ในปริมาณมากยันรุ่งสาง และปล่อยตัวกันเต็มที่.”
บรรยากาศในไนท์คลับ เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพย์ติดปริมาณมากด้วย. ตามรายงาน เจ้าของคลับแห่งหนึ่งกล่าวว่า “วงการนี้ . . . ผูกโยงกับยาเสพย์ติดทั้งนั้น.” บ่อยครั้ง ยาเสพย์ติดและแอลกอฮอล์มักพบได้แม้แต่ที่บาร์น้ำผลไม้ที่อ้างว่าปลอดสุรา. เจสซี อีกคนหนึ่งที่แต่ก่อนเที่ยวไนท์คลับเป็นประจำ เสริมว่า “บ่อยครั้งควันกัญชา และควันบุหรี่คลุ้งเต็มห้อง. ผู้คนส่วนมากแต่งตัวกระตุ้นความรู้สึกทางเนื้อหนัง: เสื้อผ้าคับตึงและเผยส่วนสัด, แบบยั่วยุราคะ, ใส่เครื่องประดับกันสุดขีด.”
ใช้ความระมัดระวัง
จากสมัยโบราณดนตรีและการเต้นรำเคยใช้ล่อผู้คนสู่การประพฤติผิด. ยกตัวอย่าง เราอ่านว่าครั้งหนึ่งพวกยิศราเอล “นั่งลงกินและดื่ม แล้วก็ลุกขึ้นมีการรื่นเริง.” การทำเช่นนั้นเกี่ยวข้องกับดนตรีที่เร้าอารมณ์ และการเต้นรำที่ขาดการยับยั้งใจ. อย่างไรก็ตาม “การรื่นเริง” นี้เป็นขั้นตอนที่นำไปสู่การไหว้รูปเคารพอันน่ารังเกียจ และการประพฤติหละหลวมที่ขาดการยับยั้งตน.—เอ็กโซโด 32:6,17–19, 28.
หนุ่มสาวคริสเตียนควรจะหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจกลายเป็น “การฝังใจอยู่กับกิเลศตัณหา” หรือ “การเสพสุรายาเมา” อย่างรวดเร็ว. (ฆะลาเตีย 5:19, 21, ฉบับอมตธรรมเพื่อชีวิต) โกรินโธฉบับแรก 15:33 (ล.ม.) เตือนเราว่า “อย่าถูกลวง การคบค้าสมาคมที่ไม่ดีย่อมทำให้นิสัยดีเสียไป.” คนเราสามารถทำให้ตัวเองถลำลึกในบรรยากาศงานเลี้ยงกับบุคคลผู้ซึ่ง “อยู่ในความมืดทางจิตใจ และเหินห่างไปจากชีวิตซึ่งมาจากพระเจ้า” และจะไม่ได้รับผลกระทบในทางเสื่อมเสียหรือ? (เอเฟโซ 4:18, ล.ม.) และดังที่หญิงสาวคนหนึ่งยอมรับว่า “การคบค้าสมาคมและการเป็นเพื่อนใกล้ชิดอาจพัฒนาขึ้นได้ [กับคนอื่น ๆ ที่เที่ยวไนท์คลับเป็นประจำ] และหลายครั้งเป็นอย่างนั้นจริง.” สิ่งนี้อาจกระทบคุณเพียงไรทางฝ่ายวิญญาณ?
กระนั้น บางคนอาจหาเหตุผลว่าทางแก้คือ นำกลุ่มเพื่อนคริสเตียนไปด้วย. แต่ความชอบธรรมสามารถเจริญงอกงามเฉพาะในบรรยากาศคริสเตียน. (ยาโกโบ 3:18) และบรรยากาศที่ไนท์คลับหลายแห่งออกแบบเพื่อปลุกเร้าความรู้สึก “ตามอย่างแผ่นดินโลก อย่างเดียรัจฉาน อย่างผีปิศาจ” ไม่ใช่ทางฝ่ายวิญญาณ.—ยาโกโบ 3:15, ล.ม.
จริงอยู่ ไม่ใช่ไนท์คลับทุกแห่งที่ทำจนสุดโต่งดังที่ได้พรรณนาที่นี้ แล้วก็ไม่มีเหตุผลที่จะประณามภัตตาคารทั้งหมดซึ่งมีการเต้นรำหรือการบันเทิง. แต่เปาโลให้คำเตือนเราว่า “จงทำให้แน่ใจต่อ ๆ ไปว่า อะไรเป็นสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้ายอมรับ.” (เอเฟโซ 5:10, ล.ม.) และถ้าคุณถูกเชิญให้ไปสถานที่ที่ไม่รู้จัก หรือมีกิตติศัพท์ที่น่าสงสัย คุณควรจะใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากพร้อมกับพิจารณาว่าควรจะไปตามคำเชิญไหม.—สุภาษิต 14:15.
คุณอาจจะถามตัวเองด้วยคำถามแบบนี้: ใครจะไป และพวกเขามีชื่อเสียงทางด้านไหน? พ่อแม่ของคุณ หรือผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้รู้อะไรบ้างเกี่ยวกับสถานที่นั้น? สถานที่นั้นมีบรรยากาศแบบไหน? ผู้คนชนิดไหนมักไปที่นั่น? ที่นั่นจัดเฉพาะสำหรับหนุ่มสาวไหม? ถ้าเช่นนั้น มีทางเป็นไปได้อย่างไรที่ที่นั่นจะมีบรรยากาศที่เสริมสร้าง? ถ้ามีการบันเทิงมันรวมถึงอะไรบ้าง? มีการเล่นดนตรีชนิดไหน? เป็นสถานที่ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าอยู่ส่วนตัว หรือเป็นสภาพสังคมที่คุณอาจต้องคลุกคลีกับคนอื่น ๆ?
ดอริส ที่กล่าวถึงในตอนต้น ยอมรับว่า “ซาตานทำให้ไนท์คลับดูเหมือนน่าหลงใหล ตื่นเต้นเร้าใจ มีเสน่ห์ สนุกเพลิดเพลิน—ไม่ว่าอะไรที่จำเป็นเพื่อดึงดูดเรา.” แต่อย่าหลงระเริงกับแสงสีของไนท์คลับ! สถานที่เหล่านี้กลายเป็นกับดักถึงตายแก่หนุ่มสาวหลายคน. จงหาความบันเทิงซึ่งเป็นที่ยอมรับในแนวทางที่เป็นประโยชน์แก่ตัวคุณ.b
[เชิงอรรถ]
a คุณจะค้นดูคำแนะนำในทำนองนี้ได้ในบทที่ 37 ของหนังสือคำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ใช้การได้ (ภาษาอังกฤษ) พิมพ์โดยสมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทรคท์ อ็อฟ นิวยอร์ก.
b ดูตื่นเถิดฉบับวันที่ 8 กันยายน 1979.
[รูปภาพหน้า 16]
ผู้คนจำนวนมากที่เที่ยวไนท์คลับเป็นประจำสนใจเพศสัมพันธ์อันผิดศีลธรรมมากกว่าการบันเทิง