การเพ่งดูโลก
อาชญากรรม—ธุรกิจกำไรงาม
อาชญากรรมแบบองค์การในประเทศอิตาลีมีรายรับโดยประมาณ 2-2.4 แสนล้านดอลลาร์ (5-6 ล้านล้านบาท) ทุกปี ตามรายงานของสหพันธ์การค้า 1997 ซึ่งเป็นสมาคมนักธุรกิจชาวอิตาลี. กล่าวกันว่า อย่างน้อย 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ได้จากการค้ายาเสพย์ติด, 1.1 หมื่นล้านจากการค้าประเวณี, และ 1.5-1.8 หมื่นล้านจากการขูดรีดดอกเบี้ยสูงและการค้าขายที่ผิดกฎหมาย. “ทุกสามในสิบของวิสาหกิจเชิงพาณิชย์นั้นดำเนินการโดยปัจเจกบุคคลหรือบริษัทที่เกี่ยวโยงกับองค์การอาชญากรรม; 20 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ของการติดต่อธุรกิจกับธนาคารที่มีขึ้นในแต่ละวันมีที่มาไม่แน่ชัด” หนังสือพิมพ์ลา เรพุบบลีกากล่าว.
การอ่านหนังสือยังคงเป็นที่นิยม
เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ยังไม่ได้เปลี่ยนนิสัยการอ่านหนังสือในบริเตน ตามการสำรวจโดยสถาบันศึกษานโยบาย. ตามที่รายงานในหนังสือพิมพ์เดอะ ไทมส์ “เกือบครึ่งหนึ่งของคนเหล่านั้นที่ได้สำรวจบอกว่ากำลังอ่านหนังสือเพื่อความเพลิดเพลิน เป็นอัตราส่วนที่แทบจะไม่ได้เปลี่ยนตั้งแต่ปี 1989.” ผู้หญิงอ่านมากกว่าผู้ชาย และผู้คนที่อายุเลย 55 ปีเป็นคนที่อ่านมากที่สุด. ตำราอาหารเป็นที่นิยมที่สุด ตามด้วยเรื่องอาชญากรรมหรือเรื่องตื่นเต้น, นวนิยายรัก, และนวนิยายศตวรรษที่ 20. แม้ว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของครัวเรือนต่าง ๆ เป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์ แต่เพียง 7 เปอร์เซ็นต์มีอุปกรณ์เล่นซีดี-รอม ซึ่งเป็นคู่แข่งของหนังสือ. และไม่เหมือนกับคอมพิวเตอร์แลปทอป ตามคำกล่าวของเดอะ ไทมส์ หนังสือที่น่าสนใจไม่ได้รับความเสียหายจากเม็ดทรายที่ชายหาดขณะพักร้อนหรือจากผู้คนที่เบียดเสียดบนรถไฟใต้ดินที่พลุกพล่าน และหนังสือที่พิมพ์อย่างสวยงามอาจ “ให้ความสุนทรีย์พอ ๆ กับเนื้อหาที่บำรุงจิตใจ.”
กลับไปใช้น้ำ
“การค้นหาอันยาวนานเพื่อได้เคมีดับเพลิงซึ่งไม่ทำลายชั้นโอโซนในที่สุดจบลงที่ . . . น้ำ” วารสารนิว ไซเยนติสต์ กล่าว. “หลังจากทดลองดับเพลิงเป็นร้อย ๆ ครั้ง ห้องปฏิบัติการวิจัยเพลิงแห่งนอร์เวย์ ณ เมืองทรอนด์เฮมได้ข้อสรุปว่า การพ่นไอน้ำเป็นสิ่งที่เหมาะสมเพื่อใช้แทนฮาโลนส์ที่ทำลายโอโซนซึ่งยังคงมีการใช้อย่างแพร่หลายในเครื่องดับเพลิง.” ฮาโลนส์ สารประกอบของคาร์บอน, โบรมีน, และฟลูออรีน ทำให้ไฟดับเพราะขาดออกซิเจน. หยดน้ำก็ทำเช่นเดียวกัน กลายเป็นไอและขยายตัว 1,700 เท่าของปริมาตรเดิมเพื่อเข้าแทนที่ออกซิเจน. เพียงคราวเดียวที่พบว่าไอน้ำมีประสิทธิภาพต่ำกว่าเมื่อเทียบกับฮาโลนส์ก็คือ ในกองเพลิงเล็ก ๆ ที่คุกรุ่นอยู่ซึ่งไม่ก่ออุณหภูมิที่ร้อนเพียงพอเพื่อทำให้น้ำเป็นไอ. แต่ก็ยังคงหากันเรื่องสารเทียมที่จะใช้แทนฮาโลนส์ เนื่องจากน้ำก่อปัญหาอีกอย่างหนึ่ง คือ ขายไม่ค่อยจะได้กำไร.
บัดนี้—ตับอักเสบ จี
แพทย์ในญี่ปุ่นได้ยืนยันว่า ภายในหนึ่งเดือนหลังจากรับการถ่ายเลือด ผู้ป่วยจะติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ จี สายพันธุ์ใหม่ที่มีการระบุตัวในปี 1995 ในสหรัฐ. โดยทำการตรวจเลือดอีกครั้งของผู้ป่วยเป็นมะเร็งตับซึ่งรับการผ่าตัดระหว่างปี 1992-1994 ณ โรงพยาบาลโตราโนมอนแห่งโตเกียว แพทย์พบว่า ผู้ป่วย 2 คนใน 55 คนได้ติดเชื้อก่อนการผ่าตัด ส่วนอีก 7 คนติดเชื้อหลังจากการผ่าตัด. พวกแพทย์กล่าวว่า เลือดที่ปนเปื้อนซึ่งผู้ป่วยแต่ละคนใน 7 คนรับมานั้นโดยเฉลี่ยแล้วได้จากผู้บริจาคเลือด 71 คน ซึ่งแสดงว่า 1.4 เปอร์เซ็นต์ของเลือดที่นำมาใช้ปนเปื้อนด้วยไวรัสชนิดใหม่นี้. มีความรู้น้อยนักในเรื่องไวรัสตับอักเสบ จี หรือในเรื่องที่ว่ากี่เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เป็นพาหะนั้นจะเป็นโรคตับอักเสบหรือมะเร็งตับในวันข้างหน้า หนังสือพิมพ์อาซาฮี อีฟนิง นิวส์กล่าว.
“มิลเลนเนียม บัก”
“เป็นที่รู้จักกันว่า มิลเลนเนียม บัก, ปัญหาเกี่ยวกับปี 2000 หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ‘ปี 2 เค’” สิ่งนี้เป็น “สาเหตุหนึ่งที่มีโอกาสก่อความเสียหายมากที่สุดเท่าที่รู้ในการใช้คอมพิวเตอร์สมัยใหม่” เป็นคำกล่าวของวารสารยู.เอส.นิวส์ แอนด์ เวิลด์ รีพอร์ต. เรื่องนี้เริ่มขึ้นในทศวรรษปี 1960 เมื่อคอมพิวเตอร์แพงและความจำมีขีดจำกัด. เพื่อจะประหยัดเนื้อที่ คนเขียนโปรแกรมเขียนวันที่โดยใช้เลขท้ายของปีเพียงสองตัว. สำหรับคอมพิวเตอร์ปี 1997 ก็เป็นเพียง “97.” ปัญหาหรือ? “วันที่ 1 มกราคมปี 2000 ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของคอมพิวเตอร์ในโลกทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จะ ‘คิด’ ว่านั่นเป็นวันแรกของปี 1900.” ข้อผิดพลาดเริ่มเกิดขึ้นแล้ว. “ณ เรือนจำประจำรัฐแห่งหนึ่ง จุดอ่อนนี้ทำให้คอมพิวเตอร์คำนวณระยะเวลาการติดคุกของนักโทษหลายคนผิด พวกเขาจึงถูกปล่อย” วารสารนิวส์วีกกล่าว. “บัตรเครดิตบางอย่างถูกปฏิเสธโดยห้างร้านและภัตตาคารเมื่อวันหมดอายุ ‘00’ ของบัตรเหล่านั้นทำให้คอมพิวเตอร์สับสน. และในหลายรัฐ คนขับรถบรรทุกหลายรายพบว่า ใบอนุญาตขับขี่ระหว่างรัฐถูกยกเลิกเมื่อคอมพิวเตอร์ไม่สามารถจัดการกับการขอต่ออายุซึ่งมีวันที่เลยพันปีนี้.” บรรษัทต่าง ๆ ทั่วโลกต้องใช้เงินโดยประมาณ 15 ล้านล้านบาทเพื่อเปลี่ยนรหัสวันที่—และพวกเขาก็หวังว่าจะทำสำเร็จภายในสองปีที่ยังเหลืออยู่.
สัตว์ที่ทำลายสถิติ
ระหว่างฤดูร้อนปี 1996 นกนางนวลแกลบตัวหนึ่งได้ทำสถิติสำหรับ “การบินระยะไกลที่สุดซึ่งสัตว์ใด ๆ เคยบินขณะอพยพ” ซึ่งเรามีหลักฐานไว้ หนังสือพิมพ์อิตาลีโคร์รีเอเร เดลลา เซรากล่าว. หลังจากที่บินออกจากประเทศฟินแลนด์ที่ซึ่งมันถูกใส่ห่วงที่ขา นกนางนวลตัวนี้ถูกจับ 18 สัปดาห์ต่อมาในรัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย—หลังจากการเดินทาง 24,400 กิโลเมตร ซึ่งเดินทางโดยเฉลี่ยวันละ 200 กิโลเมตร. นกนางนวลขั้วโลกเป็นผู้ครองสถิติก่อนโดยบิน 22,530 กิโลเมตรจากรัสเซียถึงออสเตรเลียในปี 1955. สัตว์อื่น ๆ บางชนิดซึ่งอพยพหลายพันกิโลเมตรได้แก่ ปลาแซล์มอนแดง, ปลาไหล, ผีเสื้อโมนาร์ก, เต่าตนุ, และปลาวาฬหัวโหนก.
ปลาวาฬหัวโหนกปกติใช้เวลาประมาณ 102 วันที่จะอพยพจากอะแลสกาถึงฮาวาย แต่นักค้นคว้าได้พบว่า มีตัวหนึ่งซึ่งใช้เวลาเพียง 39 วันที่จะว่ายระยะทางนั้นคือ 4,465 กิโลเมตร! การเดินทางนั้นเท่ากับความเร็วโดยเฉลี่ย 4.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง. ปลาวาฬตัวเดียวกันนี้มีการพบเห็นในเม็กซิโกอีกด้วย. ปลาวาฬหัวโหนกอพยพไปยังฮาวายเพื่อออกลูก เพราะลูกของมันมีไขมันไม่พอที่จะทนน้ำเย็นยะเยือกของอะแลสกา. การอพยพของปลาเหล่านี้เป็นหนึ่งในการเดินทางที่ยาวที่สุดของสัตว์น้ำเลี้ยงลูกด้วยนม เดอะ ไทมส์แห่งลอนดอนรายงาน.
เจ้าแมลงวันที่ช่างรู้หลบหลีก!
ทำไมจึงยากที่จะตบแมลงวัน? มันหนีอย่างรวดเร็วได้อย่างไร? เคล็ดลับอยู่ที่โครงสร้างอย่างหนึ่งในสมองของมันซึ่งเรียกว่าใยยักษ์. นี่เป็นเซลล์ลักษณะคล้ายริบบิ้นซึ่งสื่อสารกับส่วนอื่นของสมองแมลงวันโดยไฟฟ้าแทนที่จะเป็นเคมี. ผลก็คือ กระแสไฟจะวิ่งอย่างเร็วไปยังส่วนนั้นของสมองที่กระตุ้นการกระโดดและการบิน ทำให้แมลงวันหนีอันตรายได้ในเวลาเพียงไม่กี่ส่วนในพันส่วนของวินาที. เพื่อเป็นตัวอย่าง สำหรับมนุษย์โดยทั่วไปต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งส่วนสี่ของวินาทีก่อนที่มือจะมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่ตามองเห็น. โดยอาศัยความรู้นี้ นักวิจัยประจำมหาวิทยาลัยซัสเซกส์แห่งบริเตนหวังที่จะพัฒนายาฆ่าแมลงซึ่งมีประสิทธิภาพในการทำให้ปฏิกิริยาของแมลงวันบกพร่อง. หนังสือพิมพ์เดอะ ไทมส์แห่งลอนดอนรายงาน.
วิกฤติการณ์เต่าทะเล
จำนวนประชากรเต่าทะเลตกถึงระดับที่เป็นอันตรายเพราะการล่ามากเกินไปในน่านน้ำเอเชีย-แปซิฟิก ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะ วีกเอนด์ ออสเตรเลียน. เรื่องนี้ทำให้ออสเตรเลียและอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพร่วมสำหรับการประชุมอภิปรายที่เกาะชวาโดยมุ่งที่จะปรับปรุงวิธีอนุรักษ์. เนื่องจากเต่าเป็นสัตว์อพยพที่ไร้พรมแดน โครงการอนุรักษ์ที่ดีที่สุดในประเทศหนึ่งแทบไม่มีประโยชน์หากอีกประเทศหนึ่งที่อยู่ในเส้นทางอพยพล่าเต่าโดยไม่คำนึงถึงฝูงเต่าในอนาคต. “กะประมาณว่าเต่า 50,000 ตัวถูกฆ่าแต่ละปีเฉพาะในเกาะบาหลีเท่านั้นเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยวและไข่เต่าหลายแสนฟองถูกเก็บเพื่อเป็นอาหาร” หนังสือพิมพ์นั้นกล่าว. ประเทศปาปัวนิวกินีก็ทำการค้าเต่าทะเลด้วยรวมทั้งเต่าลอกเกอร์เฮดที่ใกล้จะสูญพันธุ์และเต่ามะเฟืองที่อาจบาดเจ็บง่ายและเต่าตนุ. เต่าชนิดอื่นที่ตกอยู่ในอันตรายคือ เต่ากระ, เต่าหลังราบ, และเต่าทะเลริดเลย์.
รหัสมอร์สใกล้จะสิ้นชีพ เมื่ออายุ 150
กว่า 150 ปีที่แล้ว แซมมวล มอร์ส นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันได้กำหนดให้อักษรทุกตัวมีรหัสเฉพาะซึ่งเป็นจุดและขีด ทำให้สามารถเคาะส่งข้อมูลผ่านคลื่นวิทยุด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า มอร์ส คีย์. ชีวิตของคนเป็นพันได้รับการช่วยให้รอดจากทะเลเมื่อเรือที่ประสบภัยได้ใช้รหัสฉุกเฉินเอสโอเอส (SOS). กองทัพของโลกก็เคยใช้วิธีสื่อสารแบบง่าย ๆ นี้ด้วย เช่นเดียวกับพวกมือสมัครเล่นมากมายที่ส่งข่าวสารเพื่อความเพลิดเพลิน. ประโยชน์อันใหญ่หลวงของรหัสมอร์สอยู่ที่ความชัดเจนอันเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งเมื่อพนักงานวิทยุเสียงเหน่อมากหรือไม่สามารถพูดภาษาของผู้ที่คงจะฟังข่าวสารของเขา. แต่รหัสมอร์สมีการแทนที่อย่างต่อเนื่องโดยการติดต่อใช้เสียงพูดทางวิทยุและระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม. ปี 1993 ไม่มีข้อเรียกร้องให้มีระบบนี้อีกต่อไปบนเรือเดินทะเล. ประเทศฝรั่งเศสเลิกใช้ระบบมอร์สต้นปีนี้และพอถึงปี 1999 ระบบนี้เลิกใช้แล้วทั่วโลก.