ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ต98 8/6 น. 4-9
  • ลมฟ้าอากาศที่ปั่นป่วน

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • ลมฟ้าอากาศที่ปั่นป่วน
  • ตื่นเถิด! 1998
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • ความ​ไม่​แน่นอน​นำ​มา​ซึ่ง​การ​ถกเถียง
  • กำลัง​ทำ​อะไร​กัน​บ้าง?
  • ความ​เสียหาย​จาก​การ​เปลี่ยน
  • การประชุมสุดยอดว่าด้วยภูมิอากาศ—จะช่วยได้ไหม?
    ตื่นเถิด! 2011
  • โลกป่วยเป็น “ไข้”—มีทางรักษาไหม?
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2008
  • โลกตกอยู่ในอันตรายหรือ?
    ตื่นเถิด! 2008
  • บรรยากาศอันมีค่ายิ่งของโลกเรา
    ตื่นเถิด! 1995
ดูเพิ่มเติม
ตื่นเถิด! 1998
ต98 8/6 น. 4-9

ลม​ฟ้า​อากาศ​ที่​ปั่นป่วน

ใน​หลาก​หลาย​วิธี พวก​เรา​ส่วน​ใหญ่​พึ่ง​เชื้อเพลิง​ที่​มี​คาร์บอน​เป็น​ส่วน​ประกอบ​หลัก. เรา​ขับ​รถยนต์​และ​ยาน​พาหนะ​อื่น ๆ ที่​ได้​พลัง​งาน​จาก​น้ำมัน​เบนซิน​หรือ​ไม่​ก็​ดีเซล. เรา​ใช้​ไฟฟ้า​ซึ่ง​ก็​ผลิต​โดย​โรง​งาน​ไฟฟ้า​ที่​หล่อ​เลี้ยง​ด้วย​ถ่าน​หิน, ก๊าซ​ธรรมชาติ, หรือ​น้ำมัน. เรา​จุด​ฟืน, ถ่าน, ก๊าซ​ธรรมชาติ, และ​ถ่าน​หิน​เพื่อ​หุง​หา​อาหาร​หรือ​ไม่​ก็​เพื่อ​ให้​ความ​อบอุ่น. สิ่ง​ที่​ทำ​ไป​ทั้ง​หมด​นี้​เพิ่ม​คาร์บอนไดออกไซด์​เข้า​ไป​ใน​บรรยากาศ. ก๊าซ​ชนิด​นี้​กัก​เก็บ​ความ​ร้อน​จาก​ดวง​อาทิตย์.

เรา​ยัง​ปล่อย​ก๊าซ​ชนิด​อื่น ๆ อัน​เป็น​ก๊าซ​เรือน​กระจก​ที่​กัก​เก็บ​ความ​ร้อน​เพิ่ม​เข้า​ไป​ใน​บรรยากาศ​อีก​ด้วย. ปุ๋ย​ไนโตรเจน​ที่​ใช้​ใน​การ​เกษตร​ปล่อย​ไนตรัสออกไซด์. นา​ข้าว​และ​บริเวณ​เลี้ยง​ปศุสัตว์​ปล่อย​ก๊าซ​มีเทน. คลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC) เป็น​ผล​จาก​การ​ผลิต​โฟม​พลาสติก​และ​จาก​กระบวนการ​อื่น ๆ ทาง​อุตสาหกรรม. คลอโรฟลูออโรคาร์บอน​ไม่​เพียง​กัก​เก็บ​ความ​ร้อน​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ทำลาย​โอโซน​ใน​ชั้น​บรรยากาศ​สเตรโตสเฟียร์​ของ​โลก​อีก​ด้วย.

ก๊าซ​ที่​กัก​เก็บ​ความ​ร้อน​เหล่า​นี้​ถูก​ปล่อย​สู่​บรรยากาศ​ใน​อัตรา​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ ยก​เว้น​คลอโรฟลูออโรคาร์บอน​ซึ่ง​บัด​นี้​มี​การ​ออก​กฎ​ควบคุม. ที่​เป็น​เช่น​นี้​ส่วน​หนึ่ง​ก็​เพราะ​ประชากร​โลก​มี​มาก​ขึ้น ควบ​คู่​กับ​การ​เพิ่ม​ขึ้น​ด้าน​การ​ใช้​พลัง​งาน, อุตสาหกรรม, และ​เกษตรกรรม. ตาม​คำ​กล่าว​ของ​สำนักงาน​พิทักษ์​สิ่ง​แวด​ล้อม​ซึ่ง​มี​ฐาน​ปฏิบัติการ​อยู่​ใน​กรุง​วอชิงตัน ปัจจุบัน​มนุษย์​พ่น​ปล่อย​คาร์บอนไดออกไซด์ และ​ก๊าซ​เรือน​กระจก​อื่น ๆ เข้า​ไป​ใน​บรรยากาศ​ถึง​หก​พัน​ล้าน​ตัน​ใน​แต่​ละ​ปี. ก๊าซ​เรือน​กระจก​เหล่า​นี้​ไม่​อันตรธาน​ไป​ง่าย ๆ; มัน​อาจ​ลอย​ละ​ล่อง​อยู่​ใน​ชั้น​บรรยากาศ​นาน​นับ​สิบ ๆ ปี.

โดย​ทั่ว​ไป​มี​อยู่​สอง​สิ่ง​ที่​นัก​วิทยาศาสตร์​แน่​ใจ​ที​เดียว. ประการ​แรก ใน​ช่วง​หลาย​สิบ​หลาย​ร้อย​ปี​ที่​ผ่าน​มา ปริมาณ​คาร์บอนไดออกไซด์​และ​ก๊าซ​เรือน​กระจก​อื่น ๆ ใน​บรรยากาศ​เพิ่ม​ทวี​ขึ้น. ประการ​ที่​สอง ใน​ช่วง​หนึ่ง​ร้อย​ปี​ที่​แล้ว อุณหภูมิ​โดย​เฉลี่ย ณ พื้น​ผิว​แผ่นดิน​โลก​ได้​เพิ่ม​ขึ้น​ระหว่าง 0.3 ถึง 0.6 องศา​เซลเซียส.

จึง​เกิด​คำ​ถาม​ขึ้น​ว่า มี​ความ​เกี่ยว​พัน​กัน​ไหม​ระหว่าง​ความ​ร้อน​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​ทั่ว​โลก​กับ​การ​ก่อ​ตัว​ของ​ก๊าซ​เรือน​กระจก​ที่​เกิด​จาก​มนุษย์? นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​บอก​ว่า​อาจ​จะ​ไม่​เกี่ยว​กัน โดย​ชี้​ว่า อุณหภูมิ​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​นั้น​อยู่​ภาย​ใน​พิสัย​ของ​การ​ผันแปร​ตาม​ธรรมชาติ และ​ดวง​อาทิตย์​อาจ​เป็น​สาเหตุ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​ภูมิอากาศ​หลาย​คน​เห็น​ด้วย​กับ​ถ้อย​คำ​ใน​รายงาน​ของ​คณะ​กรรมการ​ประสาน​งาน​ระหว่าง​รัฐบาล​ว่า​ด้วย​การ​เปลี่ยน​แปลง​ด้าน​ภูมิอากาศ. รายงาน​นั้น​กล่าว​ว่า อุณหภูมิ​ที่​เพิ่ม​ขึ้น “ไม่​น่า​จะ​มี​ต้นตอ​มา​จาก​ธรรมชาติ​เพียง​อย่าง​เดียว” และ “น้ำหนัก​ของ​หลักฐาน​ชี้​ว่า มี​อิทธิพล​ของ​มนุษย์​ที่​พอ​จะ​เห็น​ได้​เข้า​มา​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ภูมิอากาศ​ทั่ว​โลก.” กระนั้น ยัง​ไม่​เป็น​ที่​แน่นอน​ว่า​กิจกรรม​ของ​มนุษย์​ทำ​ให้​ดาว​เคราะห์​ดวง​นี้​ร้อน​ขึ้น​หรือ​ไม่—โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​เรื่อง​ที่​ว่า โลก​อาจ​จะ​ร้อน​ขึ้น​อย่าง​รวด​เร็ว​แค่​ไหน​ใน​ศตวรรษ​ที่ 21 และ​ผล​พวง​จริง ๆ นั้น​คือ​อะไร​กัน​แน่.

ความ​ไม่​แน่นอน​นำ​มา​ซึ่ง​การ​ถกเถียง

เมื่อ​นัก​ภูมิอากาศ​วิทยา​ทำนาย​เรื่อง​ภาวะ​เรือน​กระจก​ใน​อนาคต พวก​เขา​พึ่ง​แบบ​จำลอง​สภาพ​ภูมิอากาศ​ซึ่ง​ทำ​งาน​บน​คอมพิวเตอร์​ที่​เร็ว​ที่​สุด​และ​ทรง​พลัง​ที่​สุด​ของ​โลก. แต่​ภูมิอากาศ​ของ​แผ่นดิน​โลก​ถูก​กำหนด​โดย​อันตรกิริยา (การ​ทำ​ปฏิกิริยา​ร่วม​กัน) ที่​ซับซ้อน​อย่าง​ยิ่ง​ของ​การ​หมุน​ของ​โลก, ชั้น​บรรยากาศ, มหาสมุทร, น้ำ​แข็ง, ลักษณะ​เฉพาะ​ของ​ผืน​แผ่นดิน, และ​ดวง​อาทิตย์. เนื่อง​จาก​มี​ปัจจัย​หลาย​อย่าง​จริง ๆ เข้า​มา​เกี่ยว​ข้อง​ใน​ขอบข่าย​กว้าง​ใหญ่​ไพศาล​เช่น​นี้ จึง​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​คอมพิวเตอร์​ใด ๆ จะ​ทำนาย​อย่าง​แม่นยำ​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน 50 หรือ 100 ปี​ต่อ​จาก​นี้. วารสาร​ไซเยนซ์ ให้​ข้อ​สังเกต​เมื่อ​เร็ว ๆ นี้​ว่า “ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​ภูมิอากาศ​หลาย​คน​เตือน​ว่า ยัง​ไม่​เป็น​ที่​แน่ชัด​เลย​ว่า กิจกรรม​ของ​มนุษย์​ได้​เริ่ม​ทำ​ให้​ดาว​เคราะห์​ดวง​นี้​ร้อน​ขึ้น—หรือ​ความ​ร้อน​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​จาก​ภาวะ​เรือน​กระจก​จะ​เลว​ร้าย​เพียง​ไร​เมื่อ​มัน​มา​ถึง.”

ความ​ไม่​แน่นอน​ทำ​ให้​ง่าย​ที่​จะ​ปฏิเสธ​ว่า​มี​การ​คุกคาม​ใด ๆ. พวก​นัก​วิทยาศาสตร์​ซึ่ง​แคลง​ใจ​เรื่อง​ความ​ร้อน​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​ทั่ว​โลก พร้อม​ด้วย​บริษัท​อุตสาหกรรม​ใหญ่ ๆ ที่​อาศัย​ผล​ประโยชน์​ทาง​เศรษฐกิจ​ใน​การ​รักษา​สถานภาพ​ปัจจุบัน​เอา​ไว้​แย้ง​ว่า ความ​รู้​ที่​มี​ใน​ปัจจุบัน​ไม่​ได้​ให้​เหตุ​ผล​เพียง​พอ​สำหรับ​ปฏิบัติการ​แก้ไข​ซึ่ง​อาจ​เสีย​ค่า​ใช้​จ่าย​สูง. ถ้า​จะ​ว่า​ไป พวก​เขา​พูด​ว่า อนาคต​อาจ​จะ​ไม่​เลว​ร้าย​อย่าง​ที่​บาง​คน​คิด.

พวก​อนุรักษ์​สิ่ง​แวด​ล้อม​ตอบ​โต้​โดย​บอก​ว่า ความ​ไม่​แน่นอน​ทาง​วิทยาศาสตร์​ไม่​ควร​ลวง​ให้​ผู้​กำหนด​นโยบาย​ลำพอง​ใจ. แม้​จะ​เป็น​ความ​จริง​ที่​ว่า ภูมิอากาศ​ใน​อนาคต​อาจ​จะ​ไม่​เลว​ร้าย​อย่าง​ที่​บาง​คน​กลัว แต่​ก็​เป็น​ไป​ได้​เช่น​กัน​ว่า สถานการณ์​อาจ​เลว​ร้าย​ยิ่ง​ขึ้น​อีก! ยิ่ง​กว่า​นั้น พวก​เขา​ให้​เหตุ​ผล​ว่า การ​ไม่​รู้​แน่​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน​อนาคต ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​ไม่​ควร​ทำ​อะไร​เลย​เพื่อ​ลด​ความ​เสี่ยง. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง คน​ที่​เลิก​สูบ​บุหรี่​ไม่​ได้​เรียก​ร้อง​ให้​มี​ข้อ​พิสูจน์​ทาง​วิทยาศาสตร์​ก่อน​ว่า ถ้า​พวก​เขา​สูบ​ต่อ​ไป เขา​จะ​หนี​ไม่​พ้น​การ​เป็น​มะเร็ง​ปอด​ใน 30 หรือ 40 ปี​ข้าง​หน้า. พวก​เขา​หยุด​สูบ​เพราะ​ตระหนัก​ถึง​ความ​เสี่ยง​ต่อ​อันตราย และ​ต้องการ​ลด​หรือ​ไม่​ก็​ขจัด​ความ​เสี่ยง​นั้น​ไป.

กำลัง​ทำ​อะไร​กัน​บ้าง?

เนื่อง​จาก​มี​การ​ถกเถียง​กัน​มาก​เกี่ยว​กับ​ขอบ​เขต​ของ​ปัญหา​ความ​ร้อน​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​ทั่ว​โลก—และ​กระทั่ง​เรื่อง​ที่​ว่า​มี​ปัญหา​นี้​จริง ๆ หรือ​ไม่—จึง​ไม่​แปลก​ที่​มี​ทัศนะ​แตกต่าง​กัน​ไป​ว่า​จะ​ทำ​อะไร​ใน​เรื่อง​นี้. เป็น​เวลา​หลาย​ปี กลุ่ม​ผู้​อนุรักษ์​สิ่ง​แวด​ล้อม​ได้​ส่ง​เสริม​อย่าง​กว้างขวาง​ให้​ใช้​แหล่ง​พลัง​งาน​ที่​ปลอด​มลพิษ. พลัง​งาน​อาจ​ได้​จาก​ดวง​อาทิตย์, ลม, แม่น้ำ, และ​แหล่ง​กัก​ไอ​น้ำ​และ​น้ำ​ร้อน​ใต้​ดิน.

พวก​นัก​อนุรักษ์​สิ่ง​แวด​ล้อม​ยัง​กระตุ้น​ให้​รัฐบาล​ออก​กฎหมาย​เพื่อ​ลด​การ​ปล่อย​ก๊าซ​ที่​กัก​เก็บ​ความ​ร้อน. หลาย​รัฐบาล​ได้​ตอบรับ​โดย​ลง​นาม​ใน​สนธิสัญญา​ต่าง ๆ. ยก​ตัว​อย่าง ใน​ปี 1992 ณ การ​ประชุม​สุด​ยอด​สิ่ง​แวด​ล้อม​โลก​ใน​ริโอเดอจาเนโร บราซิล บรรดา​ตัว​แทน​จาก​ราว ๆ 150 ประเทศ​ได้​ลง​นาม​ใน​สนธิสัญญา​ฉบับ​หนึ่ง​เพื่อ​ยืน​ยัน​พันธกรณี​ของ​พวก​เขา​ว่า​จะ​ลด​การ​ปล่อย​ก๊าซ​เรือน​กระจก โดย​เฉพาะ​คาร์บอนไดออกไซด์. เป้าหมาย​คือ พอ​ถึง​ปี 2000 การ​ปล่อย​ก๊าซ​เรือน​กระจก​จาก​ประเทศ​อุตสาหกรรม​จะ​ลด​ลง​ถึง​ระดับ​ของ​ปี 1990. กระนั้น มี​ไม่​กี่​ประเทศ​ที่​คืบ​หน้า​ใน​การ​ปฏิบัติ​ตาม​แนว​ทาง​นี้ สำหรับ​ประเทศ​มั่งคั่ง​ส่วน​ใหญ่ คำ​ปฏิญาณ​นิด ๆ หน่อย ๆ กลับ​ไม่​รักษา​แม้​แต่​น้อย. แทน​ที่​จะ​ลด​ลง ประเทศ​ส่วน​ใหญ่​กำลัง​ผลิต​ก๊าซ​เรือน​กระจก​มาก​กว่า​ที่​แล้ว ๆ มา! ตัว​อย่าง​เช่น ใน​สหรัฐ มี​การ​คิด​กัน​ว่า​พอ​ถึง​ปี 2000 การ​ปล่อย​คาร์บอนไดออกไซด์​อาจ​จะ​สูง​กว่า​ที่​ปล่อย​ใน​ปี 1990 ถึง 11 เปอร์เซ็นต์.

ไม่​นาน​มา​นี้ มี​การ​เคลื่อน​ไหว​เพื่อ​บีบ​ให้​ปฏิบัติ​ตาม​ข้อ​ตก​ลง​ระหว่าง​ประเทศ. แทน​ที่​จะ​ทำ​การ​ลด​โดย​สมัคร​ใจ​ดัง​ข้อ​ตก​ลง​ใน​ปี 1992 แต่​มี​การ​เรียก​ร้อง​ให้​ตั้ง​เป้า​ลด​การ​ปล่อย​ก๊าซ​เรือน​กระจก​ใน​ลักษณะ​บังคับ.

ความ​เสียหาย​จาก​การ​เปลี่ยน

พวก​ผู้​นำ​ทาง​การ​เมือง​ใคร่​จะ​ให้​คน​อื่น​มอง​ว่า​ตน​เป็น​มิตร​กับ​แผ่นดิน​โลก. แต่​พวก​เขา​ก็​จด​จ้อง​เช่น​กัน​ที่​ผล​สืบ​เนื่อง​ซึ่ง​การ​เปลี่ยน​แปลง​อาจ​นำ​มา​สู่​เศรษฐกิจ. วารสาร​ดิ อิโคโนมิสต์ (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า เนื่อง​จาก 90 เปอร์เซ็นต์​ของ​โลก​พึ่ง​เชื้อเพลิง​ที่​มี​คาร์บอน​เป็น​ส่วน​ประกอบ​หลัก​เพื่อ​ได้​พลัง​งาน การ​เลิก​ใช้​คง​นำ​มา​ซึ่ง​การ​เปลี่ยน​แปลง​ขนาน​ใหญ่; และ​ความ​เสียหาย​จาก​การ​เปลี่ยน​ก็​เป็น​ที่​ถกเถียง​กัน​อย่าง​ดุเดือด.

จะ​เสียหาย​เท่า​ไร​เมื่อ​ถึง​ปี 2010 ถ้า​ลด​การ​ปล่อย​ก๊าซ​เรือน​กระจก​ให้​น้อย​ลง 10 เปอร์เซ็นต์​จาก​ที่​เคย​ปล่อย​ใน​ปี 1990? คำ​ตอบ​ขึ้น​อยู่​กับ​ว่า​คุณ​ถาม​ใคร. ลอง​พิจารณา​ความ​คิด​เห็น​ต่าง ๆ ใน​สหรัฐ ประเทศ​ซึ่ง​ปล่อย​ก๊าซ​เรือน​กระจก​สู่​บรรยากาศ​มาก​กว่า​เพื่อน. กลุ่ม​มัน​สมอง​ที่​ทำ​งาน​ให้​กับ​บริษัท​อุตสาหกรรม เตือน​ว่า การ​ลด​ใน​อัตรา​เช่น​ว่า​นั้น​จะ​ทำ​ให้​เศรษฐกิจ​ของ​สหรัฐ​เสียหาย​หลาย​พัน​ล้าน​ดอลลาร์​ใน​แต่​ละ​ปี และ​ทำ​ให้ 600,000 คน​ตก​งาน. ใน​ทาง​กลับ​กัน พวก​นัก​อนุรักษ์​สิ่ง​แวด​ล้อม​บอก​ว่า การ​บรรลุ​เป้าหมาย​เดียว​กัน​นี้​อาจ​ประหยัด​เงิน ได้​หลาย​พัน​ล้าน​ดอลลาร์​ใน​แต่​ละ​ปี และ​สร้าง​งาน​ใหม่​ให้​ผู้​คน​ถึง 773,000 คน.

ทั้ง ๆ ที่​กลุ่ม​อนุรักษ์​สิ่ง​แวด​ล้อม​เรียก​ร้อง​ให้​ปฏิบัติการ​ทันที แต่​ก็​มี​บริษัท​อุตสาหกรรม​ใหญ่ ๆ—บริษัท​ผลิต​รถยนต์, บริษัท​น้ำมัน, และ​พวก​ผู้​ผลิต​ถ่าน​หิน ที่​เอ่ย​มา​เป็นเพียง​ส่วน​น้อย—ที่​ใช้​ทุน​และ​อิทธิพล​ของ​ตน​ซึ่ง​มี​มาก​ที​เดียว​เพื่อ​ลด​ความ​สำคัญ​เรื่อง​การ​คุกคาม​ของ​ความ​ร้อน​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​ทั่ว​โลก และ​เพื่อ​สร้าง​เรื่อง​ให้​ใหญ่​โต​เกิน​จริง​เกี่ยว​กับ​ผล​กระทบ​ทาง​เศรษฐกิจ​จาก​การ​เลิก​ใช้​เชื้อเพลิง​จาก​ฟอสซิล.

การ​ถกเถียง​ยัง​ดำเนิน​ต่อ​ไป. อย่าง​ไร​ก็​ตาม หาก​มนุษย์​กำลัง​เปลี่ยน​ภูมิอากาศ และ​เอา​แต่​พูด​แล้ว​ไม่​ทำ​อะไร​เลย คำ​กล่าว​ที่​ว่า ทุก​คน​พูด​คุย​เรื่อง​ลม​ฟ้า​อากาศ​แต่​ไม่​มี​ใคร​ทำ​อะไร​เกี่ยว​กับ​มัน​นั้น จะ​มี​ความ​หมาย​ใหม่​ที่​ส่อ​ลาง​ร้าย.

[กรอบ​หน้า 5]

พิธี​สาร​เกียวโต

ใน​เดือน​ธันวาคม​ปี 1997 ตัว​แทน​มาก​กว่า 2,200 คน​จาก 161 ประเทศ มา​ประชุม​กัน​ใน​เกียวโต ญี่ปุ่น เพื่อ​คิด​หา​ข้อ​ตก​ลง​หรือ​พิธี​สาร​ที่​จะ​ทำ​อะไร​สัก​อย่าง​เกี่ยว​กับ​การ​คุกคาม​เรื่อง​ความ​ร้อน​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​ทั่ว​โลก. หลัง​จาก​อภิปราย​กัน​กว่า​หนึ่ง​สัปดาห์ ตัว​แทน​ต่าง ๆ ลง​มติ​ว่า พอ​ถึง​ปี 2012 การ​ปล่อย​ก๊าซ​เรือน​กระจก​ของ​ประเทศ​อุตสาหกรรม​ควร​จะ​ลด​ให้​เหลือ​ต่ำ​กว่า​ระดับ​ของ​ปี 1990 5.2 เปอร์เซ็นต์​โดย​เฉลี่ย. บทลงโทษ​สำหรับ​ประเทศ​ที่​ละเมิด​ข้อ​ตก​ลง​จะ​กำหนด​ใน​ภาย​หลัง. สมมุติ​ว่า​ทุก​ประเทศ​ปฏิบัติ​ตาม​สนธิสัญญา​นี้ การ​ลด​ลง 5.2 เปอร์เซ็นต์​จะ​ก่อ​ผล​แตกต่าง​มาก​เท่า​ใด? เห็น​ได้​ชัด​ว่า​น้อย​มาก. วารสาร​ไทม์ รายงาน​ว่า “จะ​ต้อง​ลด​ลง​ถึง 60 เปอร์เซ็นต์​จึง​จะ​ถือ​เป็น​การ​ลด​ที่​เห็น​ผล​แตกต่าง​เกี่ยว​ด้วย​ก๊าซ​เรือน​กระจก​ที่​ได้​สะสม​ใน​ชั้น​บรรยากาศ​นับ​ตั้ง​แต่​เริ่ม​ยุค​ปฏิวัติ​อุตสาหกรรม.”

[กรอบ/แผนภูมิ​หน้า 7]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

ภาพ​แสดง​ภาวะ​เรือน​กระจก

ภาวะ​เรือน​กระจก: บรรยากาศ​ของ​ลูก​โลก​เป็น​เหมือน​แผ่น​กระจก​ใน​เรือน​กระจก ซึ่ง​กัก​เก็บ​ความ​ร้อน​จาก​ดวง​อาทิตย์. แสง​อาทิตย์​ให้​ความ​ร้อน​แก่​แผ่นดิน​โลก แต่​ความ​ร้อน​ที่​เกิด​ขึ้น ซึ่ง​มา​กับ​รังสี​อินฟราเรด ไม่​อาจ​จาง​หาย​ไป​ง่าย ๆ จาก​ชั้น​บรรยากาศ. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น ก๊าซ​เรือน​กระจก​สกัด​กั้น​รังสี​นั้น​ไว้ และ​สะท้อน​บาง​ส่วน​กลับ​มา​ยัง​โลก ด้วย​เหตุ​นี้ จึง​เพิ่ม​ความ​ร้อน​ให้​กับ​พื้น​ผิว​โลก.

1. ดวง​อาทิตย์

2. รังสี​อินฟราเรด​ที่​ถูก​ดัก​เก็บ​ไว้

3. ก๊าซ​เรือน​กระจก

4. รังสี​ที่​กระจาย​พ้น​ออก​ไป

[กรอบ/แผนภูมิ​หน้า 8, 9]

(ดู​ราย​ละเอียด​จาก​วารสาร)

พลัง​ต่าง ๆ ที่​มี​อิทธิพล​ต่อ​ภูมิอากาศ

ถ้า​เรา​อยาก​จะ​เข้าใจ​การ​ถกเถียง​ใน​ปัจจุบัน​เรื่อง​ความ​ร้อน​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​ทั่ว​โลก เรา​จำเป็น​ต้อง​เข้าใจ​พลัง​บาง​อย่าง​ที่​น่า​เกรง​ขาม ซึ่ง​ทำ​ให้​ภูมิอากาศ​ของ​เรา​เป็น​อยู่​อย่าง​ที่​เห็น​นี้. ให้​เรา​พิจารณา​พลัง​หลัก ๆ บาง​อย่าง.

1. ดวง​อาทิตย์—แหล่ง​แห่ง​ความ​ร้อน​และ​แสง​สว่าง

ชีวิต​บน​แผ่นดิน​โลก​พึ่ง​อาศัย​เตา​นิวเคลียร์​มหึมา​ที่​เรา​เรียก​ว่า ดวง​อาทิตย์. ดวง​อาทิตย์​ซึ่ง​ใหญ่​กว่า​โลก​หนึ่ง​ล้าน​เท่า เป็น​แหล่ง​ที่​ให้​ความ​ร้อน​และ​แสง​สว่าง​ที่​วางใจ​ได้​เสมอ. หาก​การ​ปล่อย​พลัง​งาน​ของ​ดวง​อาทิตย์​ลด​น้อย​ลง จะ​ทำ​ให้​ดาว​เคราะห์​ของ​เรา​ถูก​ห่อ​หุ้ม​ด้วย​น้ำ​แข็ง; ถ้า​เพิ่ม​ขึ้น​ก็​จะ​ทำ​ให้​ลูก​โลก​เป็น​เหมือน​กะทะ​ที่​ร้อน​ฉี่. เนื่อง​จาก​โลก​โคจร​อยู่​ห่าง​จาก​ดวง​อาทิตย์ 93 ล้าน​ไมล์ จึง​ทำ​ให้​โลก​รับ​พลัง​งาน​แค่​ครึ่ง​หนึ่ง​ของ​หนึ่ง​ใน​พัน​ล้าน​ส่วน​ที่​ดวง​อาทิตย์​เปล่ง​ออก​มา. ถึง​กระนั้น ปริมาณ​นี้​ก็​เหมาะเจาะ​ใน​การ​สร้าง​สภาพ​ภูมิอากาศ​ที่​ชีวิต​สามารถ​เจริญ​เติบโต​ได้.

2. ชั้น​บรรยากาศ—ผ้า​ห่ม​ที่​ให้​ความ​อบอุ่น​แก่​ลูก​โลก

ไม่​ใช่​แค่​ดวง​อาทิตย์​เท่า​นั้น​ที่​กำหนด​อุณหภูมิ​ให้​กับ​แผ่นดิน​โลก; ชั้น​บรรยากาศ​ของ​เรา​ก็​มี​บทบาท​สำคัญ​เช่น​กัน. โลก​และ​ดวง​จันทร์​อยู่​ห่าง​จาก​ดวง​อาทิตย์​พอ ๆ กัน ดัง​นั้น ตาม​สัดส่วน​แล้ว​ทั้ง​สอง​จึง​ได้​รับ​ความ​ร้อน​จาก​ดวง​อาทิตย์​ใน​ปริมาณ​เท่า ๆ กัน. กระนั้น ขณะ​ที่​อุณหภูมิ​โดย​เฉลี่ย​ของ​โลก​อยู่​ที่ 15 องศา​เซลเซียส แต่​ดวง​จันทร์​มี​อุณหภูมิ​โดย​เฉลี่ย –18 องศา​เซลเซียส​ซึ่ง​เย็น​ยะเยือก. ทำไม​จึง​แตกต่าง​กัน? ลูก​โลก​มี​ชั้น​บรรยากาศ; ดวง​จันทร์​ไม่​มี.

ชั้น​บรรยากาศ​ของ​เรา—ผ้า​หุ้ม​ห่อ​ลูก​โลก​อัน​ประกอบ​ด้วย​ออกซิเจน, ไนโตรเจน, และ​ก๊าซ​อื่น ๆ—เก็บ​ความ​ร้อน​บาง​ส่วน​จาก​ดวง​อาทิตย์ และ​ปล่อย​ส่วน​ที่​เหลือ​ให้​กระจาย​พ้น​ออก​ไป. กระบวนการ​นี้​มัก​จะ​นำ​ไป​เปรียบ​เทียบ​กับ​เรือน​กระจก. ตาม​ที่​คุณ​อาจ​ทราบ​แล้ว เรือน​กระจก​เป็น​โครง​สร้าง​ที่​มี​ผนัง​และ​หลังคา​ทำ​ด้วย​กระจก​หรือ​ไม่​ก็​พลาสติก. แสง​อาทิตย์​ส่อง​ทะลุ​เข้า​ไป​อย่าง​ง่าย​ดาย และ​ให้​ความ​ร้อน​แก่​ส่วน​ภาย​ใน. ขณะ​เดียว​กัน หลังคา​และ​ผนัง​ทำ​ให้​ความ​ร้อน​จาง​หาย​ไป​อย่าง​ช้า ๆ.

ทำนอง​คล้าย​กัน ชั้น​บรรยากาศ​ของ​เรา​ปล่อย​ให้​แสง​อาทิตย์​ทะลุ​ผ่าน​เข้า​ไป​เพื่อ​ให้​ความ​ร้อน​แก่​พื้น​ผิว​โลก. จาก​นั้น แผ่นดิน​โลก​จะ​ส่ง​พลัง​งาน​ความ​ร้อน​กลับ​สู่​ชั้น​บรรยากาศ​ใน​รูป​ของ​รังสี​อินฟราเรด. รังสี​นี้​ส่วน​ใหญ่​ไม่​มุ่ง​ตรง​สู่​อวกาศ​เพราะ​ก๊าซ​บาง​ชนิด​ใน​ชั้น​บรรยากาศ​ดูด​ซับ​เอา​ไว้ และ​สะท้อน​กลับ​มา​ยัง​แผ่นดิน​โลก เพิ่ม​ความ​ร้อน​ให้​กับ​โลก. กระบวนการ​ก่อ​ความ​ร้อน​เพิ่ม​ขึ้น​นี้​เรียก​ว่า ภาวะ​เรือน​กระจก. ถ้า​ชั้น​บรรยากาศ​ของ​เรา​ไม่​กัก​เก็บ​ความ​ร้อน​ของ​ดวง​อาทิตย์​ไว้​ด้วย​วิธี​นี้ แผ่นดิน​โลก​ก็​จะ​ปราศจาก​ชีวิต​ไม่​ต่าง​ไป​จาก​ดวง​จันทร์.

3. ไอ​น้ำ—ก๊าซ​เรือน​กระจก​ที่​สำคัญ​ที่​สุด

เก้า​สิบ​เก้า​เปอร์เซ็นต์​ของ​ชั้น​บรรยากาศ​ของ​เรา​ประกอบ​ด้วย​ก๊าซ​สอง​ชนิด​คือ ไนโตรเจน​และ​ออกซิเจน. แม้​ว่า​ก๊าซ​ทั้ง​สอง​มี​บทบาท​สำคัญ​ยิ่ง​ใน​วัฏจักร​อัน​ซับซ้อน​ที่​ค้ำจุน​ชีวิต​บน​โลก แต่​มัน​ก็​แทบ​จะ​ไม่​มี​บทบาท​โดย​ตรง​ใน​การ​ควบคุม​ภูมิอากาศ. หน้า​ที่​ควบคุม​ภูมิอากาศ​ตก​อยู่​กับ​ส่วน​ที่​เหลือ 1 เปอร์เซ็นต์​ใน​ชั้น​บรรยากาศ ซึ่ง​เป็น​ก๊าซ​เรือน​กระจก​ที่​กัก​เก็บ​ความ​ร้อน​อัน​ประกอบ​ด้วย​ไอ​น้ำ, คาร์บอนไดออกไซด์, ไนตรัสออกไซด์, มีเทน, คลอโรฟลูออโรคาร์บอน, และ​โอโซน.

ก๊าซ​เรือน​กระจก​ที่​สำคัญ​ที่​สุด ซึ่ง​ก็​คือ​ไอ​น้ำ ปกติ​แล้ว​ไม่​คิด​กัน​เลย​ว่า​เป็น​ก๊าซ เพราะ​เรา​เคย​ชิน​กับ​การ​คิด​ถึง​น้ำ​ใน​รูป​ของ​เหลว. กระนั้น แต่​ละ​โมเลกุล​ของ​ไอ​น้ำ​ใน​บรรยากาศ​อัด​แน่น​ด้วย​พลัง​งาน​ความ​ร้อน. ยก​ตัว​อย่าง เมื่อ​ไอ​น้ำ​ใน​ก้อน​เมฆ​เย็น​ตัว​และ​ควบ​แน่น ความ​ร้อน​จะ​ถูก​ปล่อย​ออก​มา ก่อ​ให้​เกิด​กระแส​การ​พา​ความ​ร้อน​อัน​ทรง​พลัง. ขบวนการ​พลศาสตร์​ของ​ไอ​น้ำ​ใน​ชั้น​บรรยากาศ​ของ​เรา​นี้​มี​บทบาท​สำคัญ​และ​ซับซ้อน​ใน​การ​กำหนด​ทั้ง​สภาพ​ลม​ฟ้า​อากาศ​และ​ภูมิอากาศ.

4. คาร์บอนไดออกไซด์—สำคัญ​ยิ่ง​ต่อ​ชีวิต

ก๊าซ​ที่​พูด​ถึง​บ่อย​ที่​สุด​ใน​การ​พิจารณา​เรื่อง​ความ​ร้อน​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​ทั่ว​โลก​ก็​คือ คาร์บอนไดออกไซด์. การ​โทษ​คาร์บอนไดออกไซด์​ว่า​เป็น​แต่​เพียง​สาร​ก่อ​มลพิษ​ทำ​ให้​เกิด​การ​เข้าใจ​ผิด. คาร์บอนไดออกไซด์​เป็น​ส่วน​ประกอบ​สำคัญ​ยิ่ง​อย่าง​หนึ่ง​ใน​กระบวนการ​สังเคราะห์​แสง ซึ่ง​เป็น​กระบวนการ​ที่​พืช​สี​เขียว​สร้าง​อาหาร​ให้​กับ​ตัว​เอง. มนุษย์​และ​สัตว์​หายใจ​เอา​ออกซิเจน​เข้า​ไป​และ​ปล่อย​คาร์บอนไดออกไซด์​ออก​มา. ส่วน​พืช รับ​คาร์บอนไดออกไซด์​เข้า​ไป​และ​ปล่อย​ออกซิเจน​ออก​มา. ที่​จริง​แล้ว นี่​คือ​การ​จัด​เตรียม​อย่าง​หนึ่ง​ของ​พระ​ผู้​สร้าง​เพื่อ​ทำ​ให้​ชีวิต​ดำรง​อยู่​ได้​บน​แผ่นดิน​โลก.a อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​มี​คาร์บอนไดออกไซด์​ใน​บรรยากาศ​มาก​เกิน​ไป​คง​ดู​คล้าย ๆ กับ​การ​ห่ม​ผ้า​ห่ม​เพิ่ม​อีก​ผืน​หนึ่ง ซึ่ง​ทำ​ให้​ร้อน​ยิ่ง​ขึ้น.

พลัง​ต่าง ๆ อัน​ซับซ้อน

ไม่​ใช่​แค่​ดวง​อาทิตย์​และ​ชั้น​บรรยากาศ​เท่า​นั้น​ที่​กำหนด​สภาพ​ภูมิอากาศ. ยัง​มี​สิ่ง​อื่น ๆ เข้า​มา​เกี่ยว​ข้อง​ด้วย นั่น​คือ มหาสมุทร​และ​พืด​น้ำ​แข็ง, แร่​ธาตุ​ตาม​พื้น​ผิว​โลก​และ​พืช​พรรณ​ต่าง ๆ, ระบบ​นิเวศ​ของ​แผ่นดิน​โลก, กระบวนการ​ต่าง ๆ ทาง​ชีวภูมิเคมี, และ​กลศาสตร์​การ​โคจร​ของ​ลูก​โลก. การ​ศึกษา​เรื่อง​ภูมิอากาศ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​วิทยาศาสตร์​ของ​แผ่นดิน​โลก​เกือบ​จะ​ทุก​แขนง.

ดวง​อาทิตย์

ชั้น​บรรยากาศ

ไอ​น้ำ (H2O)

คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)

[เชิงอรรถ]

a เกือบ​ทุก​ชีวิต​บน​โลก​ได้​พลัง​งาน​จาก​แหล่ง​อินทรีย์ ด้วย​เหตุ​นี้​จึง​เป็น​การ​พึ่ง​อาศัย​แสง​อาทิตย์​ไม่​ทาง​ตรง​ก็​ทาง​อ้อม. อย่าง​ไร​ก็​ดี มี​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​เจริญ​เติบโต​ใน​ความ​มืด ณ ก้น​มหาสมุทร​โดย​ได้​พลัง​งาน​จาก​สาร​เคมี​อนินทรีย์. แทน​ที่​จะ​ใช้​วิธี​สังเคราะห์​แสง สิ่ง​มี​ชีวิต​เหล่า​นั้น​ใช้​กรรมวิธี​ที่​เรียก​ว่า การ​สังเคราะห์​ทาง​เคมี.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์